บทที่3.ลอกคราบ
“ดอกปีบก็รู้ว่าคุณเปรมของดอกปีบนะชอบผู้หญิงสวยๆ วิธีล่อผู้ชายเจ้าชู้ก็ต้องทำให้สะดุดตาเขา เดี๋ยวแก้วกับมะลิจะเป็นธุระจัดการให้เอง” แก้วกุดั่นกับเพรีเห็นพ้องตรงกัน สองสาววางแผน ‘ล่อเสือเข้าถ้ำ’
“แกสองคนรวมหัวกันทีไร เดือดร้อนดอกปีบทุกที ไม่เอาล่ะ”
“น่านะ เขาไม่รู้หรอก ลอกคราบจากดักแด้เป็นผีเสื้อสวยๆ ไปล่อผู้ชายกัน คืนนี้มีปาร์ตี้ไฮโซ ลองไปวัดดวงดู เผลอๆ แกอาจจะลากคุณเปรมกลับบ้านก็ได้ ผู้ปกครองแกจะได้ดีใจ”
“เอ่อ...”
“เอาน่าลองดู” สองสาวคะยั้นคะยอ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองกาสะลองด้วยสายตาระยิบระยับ รอยยิ้มกรุ่มกริ่มจนกาสะลองขนลุกซู่ รีบร้องห้ามเสียงสั่นๆ
“ไม่นะ...”
“อิๆ...” เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนรักทำให้กาสะลองจำต้องก้มหน้ารับอย่างจำใจ
กระบวนการลอกคราบเปลี่ยนดักแด้ขี้เหร่ ให้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวยเริ่มต้นขึ้น ด้วยสองสาวผู้นำแฟชั่น แก้วกุดั่นเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าหรูในห้างสรรพสินค้าไฮโซ เธอมีความชำนาญเรื่องการแต่งตัวเป็นพิเศษ เพรีเป็นสถาปนิกมีชื่อเสียง ทางบ้านมีฐานะร่ำรวยและไม่ถือตัว เธอจึงมีเส้นสายพาสามสาวเข้าไปในงานปาร์ตี้ไฮโซได้สบายๆ แผนการล่อพญาเสือออกจากถ้ำด้วยการเอากวางสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง แสนสะดุดตาเข้าไปล่อ รายการแต่งองค์ทรงเครื่องเปลี่ยนสาวน้อยหน้าตาธรรมดา เป็นสาวโสภาก๋ากั่นจึงเริ่มขึ้น ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำ ภาพหญิงสาวสวยที่สะท้อนผ่านกระจก กาสะลองแทบไม่อยากเชื่อสายตา มันคุ้มกับความทรมานมาตลอดทั้งวัน ผมดำสนิทยาวเคลียไหล่ถูกม้วนเป็นลอนใหญ่ๆ แผ่เต็มเผ่นหลัง ดวงตากลมโตถูกแต่งแต้มด้วยสีสันดูโดดเด่นสะดุดตา ริมฝีปากอิ่มเต็มทาสีส้มแก้มทองแลดูเย้ายวน ชุดเดรสสีขาวสั้นเสมอเข่า ประดับด้วยคริสตัลตลอดช่วงอกส่องแสงสะท้อนวับวาวยามต้องแสงไฟ
“ว้าว!...นางซินฯ เปลี่ยนไป กลายเป็นเจ้าหญิงสวยมากๆ...ไม่เสียแรงนั่งหลังขดหลังแข็งกันทั้งวัน” แก้วกุดั่นชมเสียงเล็กเสียงน้อย เธอเอียงคอมองผลงานของตัวเองด้วยความชื่นชม
“ดอกปีบนะโครงหน้าสวยอยู่แล้ว รู้จักแต่งตัวก็จะสวยจับใจแบบนี้ล่ะ” เพรีชมพลางมองเพื่อนสาวอย่างพินิจ
“แหมชมกันเองเสียแล้ว เดี๋ยวดอกปีบก็ตัวลอยติดเพดานหรอก” หญิงสาวอมยิ้มขัดเขิน
“มะลิพูดจริงๆ นะดอกปีบ ถ้าแต่งตัวแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียน ดาวคณะนะเทียบดอกปีบไม่ได้สักกะผีกเดียว”
“ไม่ถึงขนาดนั่นหรอกน่า ลิซ่าเขาสวยจะตาย”
“พูดถึงยัยนั่น...คืนนี้จะมาไหมเหอะมะลิ?” แก้วกุดั่นถามถึงคู่ปรับคนสำคัญ ลลิตาหรือลิซ่า
“จะพลาดได้ไง แกก็รู้แก้วยัยนั่นเป็นเหาคุณเปรม”
“แหมๆ เปรียบซะแก้วเห็นภาพเลยนะมะลิ ปลิงน่าจะเหมาะกับยัยนั่นมากกว่า เกาะติดหนึบไม่ยอมปล่อยห่างแบบทุกวันนี้”
“อิๆ...”
“ไปว่าเขา รีบไปแต่งตัวเลยจ้ะ มัวแต่งตัวให้ดอกปีบคนเดียว เดี๋ยวสวยสู้ดอกปีบไม่ได้นะ”
“วันนี้พวกเราอนุญาตให้ดอกปีบสวยเด่นคนเดียวเลยจ้ะ แก้วกับมะลิจะเป็นฝ่ายสนับสนุน คอยดูอยู่ห่างๆ คอยช่วยดอกปีบตอนเข้าตาจนไง”
“เข้าตาจน... ทำไมล่ะ”
“คุณเปรมของดอกปีบน่ะเสือผู้หญิงตัวพ่อ เพราะฉะนั้นดอกปีบต้องมีตัวช่วย” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ครั้งที่สองในรอบวัน กาสะลองขนลุกซู่รีบกระถดตัวเตรียมตั้งรับเพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนทั้งสองคนดี
“ไม่เอาความคิดพิเรนทร์ๆ นะดอกปีบไม่เล่นด้วยหรอก”
“นิดหน่อยเองเนอะมะลิ แค่เรียกสายตาเจ้าชู้ เพราะฉะนั้นต้องเปิดตัวแบบอลังการ”
“ไม่เอาอะ ดอกปีบขอถอนตัว ขอกลับบ้านดีกว่า”
“มาถึงขั้นนี้แล้วแกจะถอนตัวง่ายๆ หรือไงหะ ลงทุนมาขนาดนี้แล้วนะ ถ้าสำเร็จแกก็จะได้คุณเปรมกลับไปบ้านด้วยเลยนะ”
“แต่...”
“ไม่แต่สิ ดอกปีบใจกล้าๆ หน่อยท่องเอาไว้ ทำเพื่อคุณหญิงท่าน”
“อืมก็ได้! ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว แค่ต้องเสี่ยง”
“ใช่...มีอะไรบ้างที่กาสะลองทำไม่ได้ ดอกปีบเก่งจะตายแค่นี้จิ๊บจ้อย”
สองสาวสนับสนุนเสียงแข็ง มองเพื่อนรักที่แปลงโฉมออกมาแล้วสวยจนคาดไม่ถึงเป็นตาเดียว กาสะลองสวยสะดุดตาใบหน้าคมคาย ดวงตากลมโตเป็นประกายมีชีวิตชีวา คาดว่าเมื่อชายหนุ่มมองเห็นรูปลักษณ์ใหม่ของเธอ คงจะต้องเข้ามาเกาะเกะตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ และยิ่งมีแผนล่อไว้คงจะทำให้ชายหนุ่มตกหลุมพรางได้แน่ๆ เมื่อสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปนี้ สามารถสะกดสายตาเขาได้แบบจังงัง
“งานนี้ต้องสำเร็จ แถมยังได้แก้เผ็ดยัยลิซ่าด้วย”
“เกี่ยวอะไรกับลลิตาอะแก้ว มะลิ!” กาสะลองงง มันเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามได้ยังไง
“อ้าว! เกี่ยวมากเลยดอกปีบ คู่ควงคนล่าสุดของคุณเปรมตอนนี้ก็คือยัยนั่น เราทั้งหมดจะได้หักหน้าแม่ลิซ่าคนสวย หากคุณเปรมหันมาสนใจแกแทน”
“จะดีเหรอ? ผู้หญิงแบบดอกปีบจะมีคนสนใจจริงเหรอแก้ว” หญิงสาวถามแบบไม่ค่อยเชื่อ เพราะเมื่อก่อนหากยืนเทียบกับหญิงสาวนามลลิตา สิทธิปรีดานันท์ กาสะลองจะเหมือนเด็กรับใช้ในบ้านแต่งตัวโทรมๆ กับลูกสาวเจ้านายแสนสวยแบบลลิตา
“โอ้ย! เพื่อนฉันมั่นใจหน่อย ดูตัวเองในกระจกซิดอกปีบ ตอนนี้แกเป็นรองยัยนั่นตรงไหน สวยกว่าด้วยซ้ำถ้าให้แก้วเป็นคนตัดสิน มะลิเห็นด้วยไหมอะ”
“ชัวร์! มะลิเห็นด้วยกับแก้วนะ ดอกปีบสวยกว่าแม่พลาสติกสังเคราะห์นั่นเป็นไหนๆ”
“ชมกันเอง อวยกันเอง เอาเป็นว่าดอกปีบเชื่อแก้วกับมะลิก็แล้วกัน ลองดูซักตั้งเพื่อคุณท่าน”
“มันต้องอย่างนั้นสิ ไปแก้วเราไปแต่งตัวกัน คืนนี้คงสนุกจนลืมไม่ลงเลยนะแก” เพรีพูดเสียงกระหึ่ม ดวงตาแพรวพราวเมื่อใกล้เวลาได้หักหน้าคู่แค้นในอดีต
สองสาวหายลับไปหลังห้องน้ำ ต่างเร่งรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกายออกมาแต่งตัวไปวาดลวดลายกลางงานปาร์ตี้ไฮโซ ยอมลงทุนเที่ยวกลางคืนทั้งๆ ที่ไม่ชอบเพื่อช่วยเหลือกาสะลองโดยเฉพาะ แผนการที่ถูกวางไว้ คือการหลอกล่อเปรมกลับไปที่คฤหาสน์พงษ์ไพศาลกิจ
เสียงเพลงดังกระหึ่ม...เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาภายในงาน ผู้คนหลากหลายล้วนแล้วแต่แต่งตัวสวยงาม พวกเขากำลังสนุกอยู่กับการดื่มกิน มีเสียงดนตรีและเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ไว้บริการ เสียงพูดคุยดังแผ่วๆ เมื่อเสียงพูดไม่อาจดังแข่งกับเสียงดนตรีเร้าใจที่นักดนตรีกำลังบรรเลงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย กลุ่มสาวสวยหลายสิบนางกำลังวาดลวดลายอยู่กลางฟลอร์และกำลังสนุกโดยไม่ต้องแคร์สายตาใครๆ
“ไปหาที่นั่งก่อนเถอะ รอพระเอกมาเราค่อยเริ่มแผน ตอนนี้ก็ดูชะนีพวกนี้เต้นแร้งเต้นกากันไปก่อนนะ” แก้วกุดั่นเดินนำเพื่อนๆ ตรงไปยังชั้นVIPที่หญิงสาวใช้ความสามารถได้ไว้ในครอบครอง ถึงจะไม่ชอบเที่ยวแบบนี้ แต่เส้นสายก็มีไม่เคยขาด เพราะร้านเสื้อผ้าของแก้วกุดั่นอยู่กลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่เหล่าไฮซ้อไฮโซแวะไปจับจ่ายซื้อหาเสมอมา
“แหมแก้ว เปรียบซะเห็นภาพเลยแก พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่ชะนีอย่างนั้นแหละ”“แก้วไม่ใช่ชะนีนะมะลิ แก้วไม่ได้ร้องหาผัวๆ” แก้วกุดั่นลอยหน้าตอบจนเพรีและกาสะลองหัวเราะคิกคัก“ใครจะไปกล้ากับแกแก้ว ปากแกอย่างกับกรรไกร” เพรีต่อว่าเพื่อนรักเสียงใส“ผู้ชายมันไม่น่าปลื้มนี่ แต่ละคนเห็นแล้วอ่อนใจ แก้วยอมนอนบนคานดีกว่าจะมาปวดหัวเพราะนิสัยเน่าๆ ของผู้ชายพวกนั้น” แก้วกุดั่นไหวไหล่อย่างไม่แคร์ถ้าหาคนดีไม่ได้ ก็จะขออยู่เป็นโสดแบบนี้ให้สบายใจ ดีกว่าปวดหัวเพราะวีรกรรมของคู่ครอง“มะลิก็คงเหมือนแก้วล่ะ เหนื่อยใจกับนิสัยเจ้าชู้เห็นแก่ตัวของผู้ชาย คงไม่มีเจ้าชายในฝันเหมาะสำหรับเราสองคนเนอะแก้ว”“ดอกปีบล่ะคิดจะมีไหมแฟนอะ”“ไม่ล่ะจ้ะ ดอกปีบจะอยู่ดูแลคุณท่าน คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”“ผู้ชายรู้ความคิดของพวกเราคงจะแปลกใจนะ ดูแม่พวกนั้นสิ ระริกระรี้อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่พวกเราขอบาย”“สวย เริ่ด เชิดโสด ไม่ง้อค่ะฉันรวย” แก้วกุดั่นแอ่นอกคุยโอ่ เมื่อหาคนที่ดีพร้อมไม่ได้ ก็จะขอเก็บพรหมจรรย์ไว้กับตัวเองให้มันหายไปกับกาลเวลา“มาแล้วๆ” เพรีสะกิดแก้วกุดั่นยิกๆ เมื่อพระเอกของงานปรากฏตัวขึ้น เขาสวมสูทสีน้ำตาลไหม้ผ่าหน้า มองเห็นเส
บทที่3.ลอกคราบ“ดอกปีบก็รู้ว่าคุณเปรมของดอกปีบนะชอบผู้หญิงสวยๆ วิธีล่อผู้ชายเจ้าชู้ก็ต้องทำให้สะดุดตาเขา เดี๋ยวแก้วกับมะลิจะเป็นธุระจัดการให้เอง” แก้วกุดั่นกับเพรีเห็นพ้องตรงกัน สองสาววางแผน ‘ล่อเสือเข้าถ้ำ’“แกสองคนรวมหัวกันทีไร เดือดร้อนดอกปีบทุกที ไม่เอาล่ะ”“น่านะ เขาไม่รู้หรอก ลอกคราบจากดักแด้เป็นผีเสื้อสวยๆ ไปล่อผู้ชายกัน คืนนี้มีปาร์ตี้ไฮโซ ลองไปวัดดวงดู เผลอๆ แกอาจจะลากคุณเปรมกลับบ้านก็ได้ ผู้ปกครองแกจะได้ดีใจ”“เอ่อ...”“เอาน่าลองดู” สองสาวคะยั้นคะยอ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองกาสะลองด้วยสายตาระยิบระยับ รอยยิ้มกรุ่มกริ่มจนกาสะลองขนลุกซู่ รีบร้องห้ามเสียงสั่นๆ“ไม่นะ...”“อิๆ...” เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนรักทำให้กาสะลองจำต้องก้มหน้ารับอย่างจำใจกระบวนการลอกคราบเปลี่ยนดักแด้ขี้เหร่ ให้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวยเริ่มต้นขึ้น ด้วยสองสาวผู้นำแฟชั่น แก้วกุดั่นเป็นเจ้าของร้านเสื้อผ้าหรูในห้างสรรพสินค้าไฮโซ เธอมีความชำนาญเรื่องการแต่งตัวเป็นพิเศษ เพรีเป็นสถาปนิกมีชื่อเสียง ทางบ้านมีฐานะร่ำรวยและไม่ถือตัว เธอจึงมีเส้นสายพาสามสาวเข้าไปในงานปาร์ตี้ไฮโซได้สบายๆ แผนการล่อพญาเสือออกจากถ้ำด้วยการเอากว
กาสะลองเดินคอตกกลับไป หญิงสาวชำเลืองประตูหน้าห้องทำงานของชายหนุ่มผู้กุมชะตาชีวิตของคุณหญิงประกาย เธอรู้สึกความผิดหวังและแอบเศร้าใจแทนประมุขของพงษ์ไพศาลกิจ ที่จะต้องอดทนรอความปราณีจากหลานชายต่อไป“คนใจดำ คนใจร้าย” เรียวปากอิ่มขยับต่อว่า รู้สึกเจ็บปวดแทนคุณหญิงประกายเมื่อต้องรับความผิดหวังทั้งๆ ที่กำลังตั้งตารอบ้านพงษ์ไพศาลกิจ...รั้วกำแพงสีน้ำตาลไหม้เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แต่กาสะลองละล้าละลังไม่กล้าแม้จะผ่านประตูรั้วบ้านเข้าไป เธอไม่อยากแจ้งข่าวร้ายให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้ และรู้สึกความผิดหวังปี๊น!เสียงแตรรถยนต์กดถี่ๆ ด้านหลัง หญิงสาวจึงหมุนตัวกลับไปมอง“คุณผู้ชาย!”“มาทำอะไรตรงนี้ดอกปีบ ทำไมไม่รีบเข้าไปในบ้าน ยืนตากแดดอยู่ตรงนี้ทำไมหะ” กระจกรถยนต์ถูกลดลง เมื่อผู้สูงวัยต้องการตำหนิหญิงสาวที่ยืนขวางทางเข้าออก“ดอกปีบกำลังจะเข้าไปพอดีค่ะ” หญิงสาวรีบแก้ตัว แล้วจึงเดินออกไปจากหน้าประตูใหญ่ เปิดโอกาสให้รถยนต์คันโตได้เลี้ยวผ่านเข้าไปด้านใน“มากวนใจคุณท่านอีกสินะ คุณผู้ชายมาแต่ละที คุณท่านสุขภาพทรุดลงตลอด” หญิงสาวบ่นอุบ เร่งฝีเท้าเดินตามท้ายรถยนต์เข้าไปด้านใน เธอเป็นห่วงคุณหญิงประกาย
บทที่2.เปรม เจนาส พงษ์ไพศาลกิจ... ชายหนุ่มหน้าคม คิ้วดกดำพาดเฉียงๆ กับสันจมูก ริมฝีปากหนาหยักสีเข้ม กับปลายคางเหลี่ยมได้รูป นัยน์ตาคมดุเปล่งแสงวับวาว ตอนที่สบนัยน์ตากลมโตของเลขานุการทรวดทรงอะร้าอร่าม สาวร่างอวบเบียดกายกระแซะเรือนกายตึงแน่นของเจ้านายหนุ่ม ขณะชี้ชวนให้ดูผลการประชุมที่เพิ่งจบลง แววตาพราวระยับรู้ความนัยของกันและกันเป็นอย่างดี เสียงหวานฉอเลาะแบบไม่มีความเหนียมอาย เมื่อสิ่งที่ผู้เป็นเจ้านายตอบแทนให้ ทั้งความอิ่มเอมในรสเสน่หา หรือจะเป็นเม็ดเงินมหาศาล เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย“บอสคะ ลีลี่ว่าตรงนี้น่าจะมีอะไรเพิ่มมาซักหน่อยนะคะ”“เธอคิดว่าสมควรมีอะไรเพิ่มขึ้นมาหรือลีลี่ ผมว่าเท่าที่มีก็น่าจะพอแล้วนะ งานเปิดตัวใหญ่เกินไปผมไม่ชอบ เราน่าจะเน้นที่ผลงานมากกว่าการโฆษณา” เปรมแย้งเสียงทุ้ม เขาเอนกายพิงพนักโซฟาโดยรั้งเอวบางของเลขานุการแสนสวยขึ้นมาก่ายเกยอยู่บนหน้าตัก มือหนาลูบไล้สะโพกงามงอนเล่นเพลินๆ“อ้าย! บอสคะ บอสจะทำอะไรลีลี่กันคะนี่” เสียงหวานฉะอ้อนถาม แต่กลับเบียดกายกระแซะมากขึ้นกว่าเดิม“ไม่น่าถาม” เปรมตอบเสียงแผ่ว เขาแนบเรียวปากหนาประทับจูบริมฝีปากอิ่มที่เผยอรอท่าอยู่ การแลกลิ้น
บทที่1.คุณหญิงประกาย พงษ์ไพศาสกิจ“ดอกปีบ...ไปตามพ่อหลานชายตัวดีของฉัน ให้มาพบฉันสักหน่อยซิ! ใจคอจะปล่อยให้ย่าแก่ๆ รออยู่อย่างเดียวดายโดยไม่คิดจะเหลียวแลเลยรึยังไงหะ” เสียงแหบเครือของหญิงสูงวัยบอกกาสะลอง เด็กรับใช้ใกล้ชิดที่คุณหญิงประกายรับเลี้ยงมาแต่เยาว์วัย“ค่ะ...คุณท่าน” เธอรับเสียงหวาน กระถดตัวถอยหลัง ออกไปจากห้องนอนโอ่อ่า เธอหยัดกายลุกขึ้นยืน ถอนหายใจเฮือกๆ ด้วยความหนักใจ เมื่อคิดถึงเขา... เปรม เจนาส พงษ์ไพศาสกิจ หลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงประกาย เขาเข้มแข็งองอาจ รูปงามประหนึ่งเทพบุตรในนิทาน และเพราะความสามารถ เขาประสบความสำเร็จในถนนนักธุรกิจได้อย่างงดงาม โดยไม่ได้อาศัยชื่อเสียงของพงษ์ไพศาสกิจเป็นฐานมันเป็นเรื่องราวแต่หนหลัง ที่กาสะลองเกิดไม่ทัน...ประชัน พงษ์ไพศาสกิจบุตรชายคุณหญิงประกายได้ภรรยาตอนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้รับการเห็นชอบจากครอบครัว เขาปกปิดเรื่องภรรยาเป็นความลับ มารดาของเปรมถูกรังเกียจ และไม่ยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย เธอจำใจหอบลูกน้อยกลับบ้านเกิด หลังถูกขับไล่และไม่ได้รับการเหลียวแล พิทีเซียจากไปพร้อมเด็กชายแรกเกิดที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เธอหายไป...จากช