ชีวาพรได้ยินเสียงหัวเราะของธีทัตมากที่สุดก็คือตอนที่เขาเล่นกับลูก อย่างเช่นเวลานี้ ไม่ว่าน้องพร้อมทำอะไร เขาก็จะหัวเราะตามมา แต่เธอจับสังเกตได้ว่าเขาแปลกไป...ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมและครุ่นคิด
“แอ๊...แมะ...แมะ...”น้องพร้อมหันมาเห็นเธอจึงร้องหา ลูกยิ้มแป้นและส่งสายตาออดอ้อนจนเธอใจอ่อนเหลว ชีวาพรเดินไปรับลูกมาอุ้มและหอมอย่างแสนรัก“วันนี้หนูไปทำงานกับคุณพ่อ หนูสนุกไหมคะ”“หม่ำๆ หม่ำๆๆๆ”เจ้าตัวน้อยไม่ตอบ แต่กลับรัวเสียงให้แม่รู้ว่าตนหิว แม่จึงถามย้ำ“หนูหิวหรือคะ”เจ้าตัวกลมพยักหน้าหงึกๆ จนพ่อต้องก้มลงขยี้ใบหน้ากับพุงกลมๆ เป็นการทำโทษ“หิวอะไรกัน ดูท้องสิ กลมดิกเชียว นมที่เตรียมไปก็กินหมดขวด พอกลับมาถึงบ้าน หนูก็กินข้าวไปสองมื้อแล้ว พ่อว่าวันนี้หนูต้องหยุดกินได้แล้ว”เมื่อถูกแฉอย่างไม่ไว้หน้า แถมยังมีหลักฐานเป็นพุงป่องคาตา น้องพร้อมจึงหันไปมองแม่ แล้วทำตาบ้องแบ๊วใส่แม่เสียเลยธีทัตและชีวาพรหัวเราะขันลูก ลูกเป็นศูนย์รวมความสุขของพวกเขา พี่เลี้ยงคนสนิทยืนมองภาพครอบครัวเล็กๆ จากหลังจากคุยกับชีวาพรแล้ว ธีทัตก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะให้คำตอบคุณนพอย่างไร เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเสนอนั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขาและคุณนพ“คุณอาครับ ผมมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกคุณอา ตอนนี้ผมกับ...ครอบครัวของผมพักอยู่ที่บ้านหลังเก่าของคุณอา”เมื่อต้องพูดถึงลูกกับเมีย ธีทัตก็เกิดความระมัดระวังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ“อ้าว! ผมเข้าใจว่าคุณทิ้งร้างบ้านเอาไว้ ผมเลยรับปากยายแพมว่าจะขอบ้านจากคุณให้ยายแพมไปอยู่ แต่ถ้าคุณพักเองแล้ว ผมคงไม่รบกวนคุณ”“ไม่เป็นครับ ผมอยากพาครอบครัวไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน คุณอาเข้าใจใช่ไหมครับ ตอนนี้ลูกเมียของผมอยู่ที่นี่ ผมจึงต้องตามมาอยู่กับพวกเขา แต่ถ้าผมยกบ้านหลังนี้ให้คุณอาอยู่ ลูกเมียของผมก็จะได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของผม”“ลูกเมียของคุณ? คุณหมายถึงใคร...คุณยังไม่ได้หย่ากับยายกวางไม่ใช่เหรอ”คุณนพถาม น้ำเสียงคาดเดา ธีทัตนิ่งไปหลายวินาที ก่อนจะตอบอย่างมั่นคง“คุณอามีหลานชายแล้วนะครับ...ผมขอโทษที่บอกคุณอาช้าไป”“คุณกับยายกวางยังอยู่ด้วยกันและผมก็มีหลานชาย&rd
นาตาลีรอคำตอบมาหลายวันว่าธีทัตจะไล่เมียเก็บออกจากบ้านหรือเปล่า ซึ่งวันนี้เธอก็ได้คำตอบจากพ่อ“พ่อเพิ่งรู้ว่าคุณธีร์ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้างบ้านเดิมของเรา แต่เขาพักอยู่ที่นั่นต่างหาก”พ่อบอกเหมือนเป็นเรื่องสำคัญ หากคนที่รู้เรื่องนี้มาก่อนได้แต่รอคำพูดถัดไปอย่างใจจดใจจ่อ...เมื่อพ่อยังเงียบ เธอจึงถามอย่างคนใจร้อน“คุณธีร์พักเองหรือเขาให้ใครพักคะ”“คุณธีร์มีครอบครัวแล้ว เขากับครอบครัวพักอยู่ที่นั่น ตอนแรกพ่อตกใจ เพราะเรารบกวนเขามากเกินไป บ้านก็ขายให้เขาแล้ว แต่เรายังวอแวเขา แต่คุณธีร์กลับเสนอให้พ่อกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นเอง”“หมายความว่ายังไงคะ? เขาจะไล่คนอื่นออกจากบ้าน แล้วบอกให้พ่อไปอยู่แทนอย่างนั้นเหรอ”นาตาลีถามเสียงหลง คนที่ต้องการไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นเป็นเธอต่างหาก ไม่ใช่พ่อ! แต่ทำไมพ่อถึงพูดว่าธีทัตอนุญาตให้พ่อเข้าไปอยู่...แล้วเธอล่ะ?“แพมพูดอะไร ไล่คนอื่นที่ไหน นั่นเป็นครอบครัวของคุณธีร์ แพมพูดว่าคุณธีร์ไล่ลูกเมียออกไปแล้วจะให้พ่อหรือแพมเข้าไปอยู่แทนไม่ได้ มันไม่น่ารักเลยลูก”คุณนพติง ส
‘พี่ธีร์ไม่เคยรักกวางเลยหรือคะ แล้วพี่ธีร์แต่งงานกับกวางทำไม’‘กวางถามทำไม ทั้งที่รู้แก่ใจดีทุกอย่างอยู่แล้ว...หรือกวางอยากให้พี่รู้สึกผิด’‘แต่พี่เลือกแต่งงานกับกวาง ทั้งที่พี่ชอบ...’เธอพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็พูดสวนขึ้นมา น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกว่าเขาเริ่มหงุดหงิดแล้ว‘กวางต้องยอมรับก่อนว่าตอนนั้นกวางเต็มใจแต่งงานกับพี่ พี่ถามความสมัครใจของกวางแล้ว พี่บอกเงื่อนไขการแต่งงานของเราทุกอย่าง กวางยืนยันว่าเข้าใจและรับได้ ดังนั้นการแต่งงานของเราจึงเกิดขึ้น...ส่วนเรื่องที่ทำไมพี่เสนอเงื่อนไขแต่งงานให้กับกวางแทนที่จะเป็นพี่สาวของกวาง เพราะพี่เห็นว่ากวางเป็นคนมีเหตุมีผล กวางดูเป็นผู้ใหญ่ พี่เลยเลือกกวาง เมื่อเรามาจับมือกัน พ่อของกวางก็ขายหุ้นของธุรกิจครอบครัวให้กับราชเวคิน กรุ๊ปได้โดยไม่ขัดกับพินัยกรรมที่บอกให้ขายและถ่ายโอนหุ้นให้คนในครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวของกวางได้เงินไปใช้หนี้ พ่อของกวางได้เกษียณงานและได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสบายๆ ส่วนพี่สาวและพี่ชายของกวางก็ได้เงินไปตั้งตัว มันวินวินกันทุกฝ่าย’ ‘พี่ธีร์พูดถึงแต่เรื่องเงินและผลประโยชน์’‘แล้วจะให้พี่พูดถึงเรื่องอะไร? ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยห
เข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศเริ่มหนาวเย็น หากปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าอุณหภูมิอบอุ่นกว่าปีก่อน กระนั้นมันยังเย็นสบายกว่าอากาศในกรุงเทพฯ ชีวาพรมาอยู่ที่นี่ได้ปีกว่าแล้ว แม้เป็นเวลาไม่นาน แต่เธอกลับชอบและคิดว่าเธออยู่ที่นี่ได้ตลอดไปมันไม่ใช่แค่ความต้องการของเธอ หากมาจากคนตัวกลมที่กำลังนอนแกว่งขาอยู่บนรถเข็นเด็กเป็นหลัก อากาศเย็นสบายเช่นนี้ถูกใจลูกชายวัยสิบเดือนของเธอนักเชียวชีวาพรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เพิ่งเจ็ดนาฬิกาเศษ ถึงยังไม่ถึงเวลาเปิดร้านร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่อยู่ตรงหัวมุมถนน เธอยังมีเวลาพาลูกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ...เช้าๆ อย่างนี้จะมีคนเข้ามาวิ่งออกกำลังกาย ลูกชายของเธอก็มักผงกศีรษะขึ้นมาดูคนที่วิ่งผ่านเจ้าตัวเป็นพักๆน้องพร้อมอยู่ในวัยเริ่มสังเกตและอยากรู้จักผู้คน นอกจากจะเป็นเด็กอารมณ์ดี เจ้าตัวยังมีมนุษย์สัมพันธ์ดีอีกด้วย...ขอให้จำได้เถอะว่าใครเป็นใคร รายไหนก็รายนั้นจะต้องได้รับรอยยิ้มทักทายจากน้องพร้อมมาแต่ไกลเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ลุงหมอที่เพิ่งใช้เข็มฉีดยาจิ้มท่อนขาอวบๆ ของเจ้าตัวไปเมื่อต้นเดือน “สวัสดีครับน้องพร้อม ไปทำงานกับแม่ตั้งแต่เช้าเลยนะเรา”นายแพทย์หน
สถานะแม่ม่ายลูกติดไม่อาจลดทอนความภูมิใจของเธอลงได้ เพราะมันหมายถึงเธอมีแก้วตาดวงใจเข้ามาให้รักหนึ่งคนชีวาพรช้อนร่างป้อมของลูกชายขึ้นมาจากรถเข็น หลังจากพาเจ้าตัวกลมกลับมาถึงบ้านเช่าที่อยู่ห่างจากร้านกาแฟประมาณสี่ร้อยเมตร เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน เธอนั่งเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยไม่รู้จุดหมายปลายทางที่จะไปต่อ เมื่อคิดว่านอกจากบ้านที่กรุงเทพฯ แล้ว เธอนึกถึงที่ไหนอีก...ก็คงเป็นที่แห่งนี้ เพราะเธอเคยมาเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ถึงสี่ปี ความเคยชินพาเธอกลับมา เมื่อนั่งอยู่ในสนามบินได้สักพัก เธอจึงโทร.ไปหานิสา เพื่อนร่วมคณะที่ยังปักหลักอยู่ที่เชียงราย ทั้งที่เจ้าตัวไม่ใช่คนในพื้นที่นี้เลยเมื่อนิสามาถึง ชีวาพรยังจำสีหน้าตกใจของเพื่อนได้...เรียวปากสวยแย้มเป็นเชิงหยัน เธอกำลังหยันตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น ‘กวาง! เธอท้องใช่ไหม? ไหนเมื่อ 2-3 เดือนก่อนเธอบอกว่าหย่ากับคุณธีร์แล้วไง’‘อืม...’นั่นคือคำตอบของเธอ แม้เธอพยายามทำหน้าตาให้สดชื่น แต่สภาพของคนที่นอนไม่หลับมานานนับเดือน มันคงไม่ดีไปกว่าซอมบี้สักเท่าไร‘ไปที่ร้านของฉันก่อน’‘ร้านอะไร? เธอเปิดร้านขายของเหรอ’
ลิ้นชักตู้เก็บเอกสารในห้องทำงานถูกเปิด ข้างในนั้นมีซองสีน้ำตาลถูกเก็บไว้อย่างดี มือหนาดึงเอกสารสัญญาออกมาดู แค่เห็นตัวหนังสือบนหัวกระดาษ หัวใจของเขาก็กระตุก เพราะใบหน้าของเธอคนนั้นลอยเด่นเข้ามาในมโนสำนึกชีวาพร...ลูกสาวคนเล็กของคุณนพ นักธุรกิจใหญ่ที่รู้จักกันดีตั้งแต่สมัยพ่อของเขา หากเมื่อถึงจุดหนึ่งที่กิจการของคุณนพซบเซาจนไปต่อไม่ได้ นอกจากมันจะไม่ถูกแก้ไขแล้ว แต่คุณนพกลับไม่บอกความจริงกับลูกสาวคนโตและลูกชายคนรองที่อยู่ต่างประเทศให้รับรู้ ทั้งสองคนจึงใช้ชีวิตเยี่ยงลูกเศรษฐี ธีทัตรู้เห็นทุกอย่าง แต่เขาถือว่ามันเป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่น ตนไม่ควรเข้าไปยุ่มย่ามกระทั่งวันหนึ่งคุณนพมาปรึกษาพ่อของเขาเรื่องต้องการขายหุ้นบริษัท พ่อสนใจ เพราะธุรกิจนั้นสามารถรวบเข้ากับธุรกิจในเครือของราชเวคินได้ มันจะกลายเป็นกิจการที่เอื้อประโยชน์กัน แต่ติดตรงที่ผู้ก่อตั้งบริษัทซึ่งก็คือพ่อของคุณนพได้ตั้งเงื่อนไขไว้ว่าห้ามขายหุ้นให้กับคนนอก เพราะต้องการให้บริษัทเป็นที่ทำมาหากินของลูกหลานในตระกูลเท่านั้น‘ธุรกิจน่าสนใจ แต่ถ้าเราไปซื้อมา มันก็ขัดเจตนาของผู้ก่อตั้งบริษัท ถึงแม้เขาไม่อยู่แล้ว แต่ผมก็จะไม่ยุ่ง...
อากาศในตอนกลางคืนเย็นลงกว่าตอนกลางวัน อุณหภูมิลดต่ำลงถึงสิบห้าองศาเซลเซียส ชีวาพรพอคุ้นเคยกับมัน เพราะเธอเคยสัมผัสหน้าหนาวของจังหวัดเชียงรายมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นเธอกับนิสานอนกอดกันกลมอยู่ในหอพักตามประสานักศึกษาต่างถิ่นที่ไม่คุ้นกับอากาศหนาว แต่ตอนนี้มีคนตัวกลมหนึ่งคนที่สัมผัสหน้าหนาวเป็นครั้งแรก แต่เจ้าตัวกลับกระดี๊กระด๊าชอบใจเสียเหลือเกิน จนเวลาสามทุ่มแล้วก็ยังไม่ยอมเข้านอน“น้องพร้อมมาให้แม่กอดหน่อยค่ะ แม่หนาวมาก แม่อยากกอดหนู”น้องพร้อมฟังรู้ความแล้ว รู้ว่าแม่เรียกให้ไปหาเจ้าตัวน้อยจึงผละจากโต๊ะตัวเตี้ยที่ยืนเกาะเล่นอยู่ตั้งนาน แล้วคลานตุ้บตั้บไปหาแม่ชีวาพรรั้งร่างเล็กกลมเข้าสู่อ้อมกอด ลูกน้อยเงยหน้าขึ้นไปมองแม่ แววตาของลูกเปี่ยมด้วยความรักและไว้วางใจ มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์เหลือเกิน ชีวาพรไม่เคยรู้จักความรักแบบนี้ เพราะไม่เคยมีใครมองเธอด้วยสายตาเหมือนที่ลูกกำลังมอง...“อุ่นจังเลย แม่กอดหนูแน่นๆ เลยนะคะ”เมื่อแม่แกล้งกอดแน่นมากขึ้น แทนที่น้องพร้อมจะดิ้นหนี แต่เจ้าตัวกลมกลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ ยกลำแขนเล็กอวบขึ้นไปกอดคอแม่ จนแม่ต้องหอมแก้มกลมๆ อย่างเต็มรัก“ช
“ตูม! ปลาติดเบ็ด”คนที่นั่งซดเบียร์ตรงเก้าอี้ริมสระพูดขึ้นมาพร้อมกับเสียงน้ำแตกกระจายเมื่อใครสักคนพุ่งตัวลงไปในสระว่ายน้ำ คนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ จึงต้องลดหนังสือลงมามอง แล้วถามอย่างงุนงง “มีอะไร? ปลาที่ไหนติดเบ็ด?”แถวนี้มีแต่พี่ชายของตนทั้งสองคน คนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยกัน ส่วนอีกคนนั้นกำลังจ้วงแขนว่ายน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย“ปลาฉลามในสระ”“ปลาไหลไฟฟ้าต่างหาก” ถามเองแย้งเอง...อันที่จริงภพธรไม่มั่นใจหรอกว่าคนในสระว่ายน้ำเป็นปลาไหลไฟฟ้าได้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ...พี่ชายใหญ่ไม่เหมาะกับปลาฉลามนักล่าอย่างแน่นอน เพราะเขาไม่ได้ออกล่าเหยื่อ แต่เขาอาศัยชั้นเชิงที่เหนือกว่าวางกับดักแล้วรอให้เหยื่อหลงมาติดกับเอง“อ้าว! มึงด่าเฮียธีร์ว่ากะล่อนตอแหลแหรอ”ชนกันต์ทำเสียงโวยวาย ฟังก็รู้ว่าตั้งใจจะให้คนในสระได้ยิน ซึ่งภพธรได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา รู้ว่าตนถูกใช้เป็นเครื่องมือให้พี่ชายคนที่สามหลอกด่าพี่ชายใหญ่เสียแล้ว เขาคิดจะจบเรื่อง...แต่ต่อมอยากรู้รั้งไว้เสียก่อน“ช่วงนี้เฮียธีร์เครียดเรื่องอะไร”“เรื่องเมียไง”“เมียเก่า?”“ก็นั่นแหละ...คนนั้นคนเดียว”“บ้าหรือเปล่า เรื่องผ่านมาสองปีแล้ว ป่านนี้น้องกวา
นาตาลีรอคำตอบมาหลายวันว่าธีทัตจะไล่เมียเก็บออกจากบ้านหรือเปล่า ซึ่งวันนี้เธอก็ได้คำตอบจากพ่อ“พ่อเพิ่งรู้ว่าคุณธีร์ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้างบ้านเดิมของเรา แต่เขาพักอยู่ที่นั่นต่างหาก”พ่อบอกเหมือนเป็นเรื่องสำคัญ หากคนที่รู้เรื่องนี้มาก่อนได้แต่รอคำพูดถัดไปอย่างใจจดใจจ่อ...เมื่อพ่อยังเงียบ เธอจึงถามอย่างคนใจร้อน“คุณธีร์พักเองหรือเขาให้ใครพักคะ”“คุณธีร์มีครอบครัวแล้ว เขากับครอบครัวพักอยู่ที่นั่น ตอนแรกพ่อตกใจ เพราะเรารบกวนเขามากเกินไป บ้านก็ขายให้เขาแล้ว แต่เรายังวอแวเขา แต่คุณธีร์กลับเสนอให้พ่อกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นเอง”“หมายความว่ายังไงคะ? เขาจะไล่คนอื่นออกจากบ้าน แล้วบอกให้พ่อไปอยู่แทนอย่างนั้นเหรอ”นาตาลีถามเสียงหลง คนที่ต้องการไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นเป็นเธอต่างหาก ไม่ใช่พ่อ! แต่ทำไมพ่อถึงพูดว่าธีทัตอนุญาตให้พ่อเข้าไปอยู่...แล้วเธอล่ะ?“แพมพูดอะไร ไล่คนอื่นที่ไหน นั่นเป็นครอบครัวของคุณธีร์ แพมพูดว่าคุณธีร์ไล่ลูกเมียออกไปแล้วจะให้พ่อหรือแพมเข้าไปอยู่แทนไม่ได้ มันไม่น่ารักเลยลูก”คุณนพติง ส
หลังจากคุยกับชีวาพรแล้ว ธีทัตก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะให้คำตอบคุณนพอย่างไร เขาเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเสนอนั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเขาและคุณนพ“คุณอาครับ ผมมีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกคุณอา ตอนนี้ผมกับ...ครอบครัวของผมพักอยู่ที่บ้านหลังเก่าของคุณอา”เมื่อต้องพูดถึงลูกกับเมีย ธีทัตก็เกิดความระมัดระวังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ“อ้าว! ผมเข้าใจว่าคุณทิ้งร้างบ้านเอาไว้ ผมเลยรับปากยายแพมว่าจะขอบ้านจากคุณให้ยายแพมไปอยู่ แต่ถ้าคุณพักเองแล้ว ผมคงไม่รบกวนคุณ”“ไม่เป็นครับ ผมอยากพาครอบครัวไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน คุณอาเข้าใจใช่ไหมครับ ตอนนี้ลูกเมียของผมอยู่ที่นี่ ผมจึงต้องตามมาอยู่กับพวกเขา แต่ถ้าผมยกบ้านหลังนี้ให้คุณอาอยู่ ลูกเมียของผมก็จะได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของผม”“ลูกเมียของคุณ? คุณหมายถึงใคร...คุณยังไม่ได้หย่ากับยายกวางไม่ใช่เหรอ”คุณนพถาม น้ำเสียงคาดเดา ธีทัตนิ่งไปหลายวินาที ก่อนจะตอบอย่างมั่นคง“คุณอามีหลานชายแล้วนะครับ...ผมขอโทษที่บอกคุณอาช้าไป”“คุณกับยายกวางยังอยู่ด้วยกันและผมก็มีหลานชาย&rd
ชีวาพรได้ยินเสียงหัวเราะของธีทัตมากที่สุดก็คือตอนที่เขาเล่นกับลูก อย่างเช่นเวลานี้ ไม่ว่าน้องพร้อมทำอะไร เขาก็จะหัวเราะตามมา แต่เธอจับสังเกตได้ว่าเขาแปลกไป...ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมและครุ่นคิด“แอ๊...แมะ...แมะ...”น้องพร้อมหันมาเห็นเธอจึงร้องหา ลูกยิ้มแป้นและส่งสายตาออดอ้อนจนเธอใจอ่อนเหลว ชีวาพรเดินไปรับลูกมาอุ้มและหอมอย่างแสนรัก“วันนี้หนูไปทำงานกับคุณพ่อ หนูสนุกไหมคะ”“หม่ำๆ หม่ำๆๆๆ”เจ้าตัวน้อยไม่ตอบ แต่กลับรัวเสียงให้แม่รู้ว่าตนหิว แม่จึงถามย้ำ“หนูหิวหรือคะ”เจ้าตัวกลมพยักหน้าหงึกๆ จนพ่อต้องก้มลงขยี้ใบหน้ากับพุงกลมๆ เป็นการทำโทษ“หิวอะไรกัน ดูท้องสิ กลมดิกเชียว นมที่เตรียมไปก็กินหมดขวด พอกลับมาถึงบ้าน หนูก็กินข้าวไปสองมื้อแล้ว พ่อว่าวันนี้หนูต้องหยุดกินได้แล้ว”เมื่อถูกแฉอย่างไม่ไว้หน้า แถมยังมีหลักฐานเป็นพุงป่องคาตา น้องพร้อมจึงหันไปมองแม่ แล้วทำตาบ้องแบ๊วใส่แม่เสียเลยธีทัตและชีวาพรหัวเราะขันลูก ลูกเป็นศูนย์รวมความสุขของพวกเขา พี่เลี้ยงคนสนิทยืนมองภาพครอบครัวเล็กๆ จาก
ผู้บริหารพ่อลูกอ่อนก้าวออกจากลิฟต์ ด้านหน้ามีเด็กชายหน้าตาน่ารักอยู่ในเป้อุ้มเด็ก ส่วนด้านหลังนั้นมีเป้ใบย่อมที่ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าห่มผืนนุ่ม และเสื้อผ้าสำรองอีกหนึ่งชุด อีกทั้งยังมีขวดนมพร้อมกับขวดน้ำดื่มสำหรับเด็กเสียบไว้รปภ.ประจำตึกลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นเจ้านายใหญ่ เมื่อเขาก้มศีรษะทักทาย เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของพ่อจึงยิ้มให้เขา แถมยังยกมือป้อมขึ้นมาโบกลา เรียกได้ว่าได้ใจของลุงรปภ.ไปมากโข“กลับบ้านกันนะครับ หนูหิวหรือยัง เดี๋ยวกลับไปกินข้าวที่บ้านนะ”ธีทัตบอกลูก ในขณะที่จัดที่นั่งให้ลูกบนคาร์ซีต ส่วนเจ้าตัวน้อยแค่ได้ยินพ่อบอกว่าจะพากลับบ้านไปกินข้าวก็ส่งเสียงรัวออกมาเหมือนกับว่าหิวนักหนาทั้งที่เพิ่งกินนมจนหมดขวด“หม่ำๆๆๆ”ชายหนุ่มยิ้มให้กับความอารมณ์ดีของลูก เขาก้มลงจูบกระหม่อมบาง ก่อนจะปิดประตูรถทางตอนหลังให้ลูกอย่างนิ่มนวล แล้วเดินอ้อมมานั่งประจำที่นั่งคนขับรถท่าทางอ่อนโยนของชายหนุ่มที่มีต่อลูกชายนั้นอยู่ในสายตาของพนักงาน เพราะตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง วันนี้ธีทัตเข้ามาเคลียร์งานเพื่อให้เลขาฯ นำงานส่งต่อไปตามขั
“อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อของแท้เลย”“ทำไม เขาก็เลี้ยงลูกดี”“เพราะพ่อจะปั้นลูกให้เป็นซุปต้าร์น่ะสิ ไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้ธีร์เข้าชมรมคนเห่อลูกเรียบร้อยแล้ว”แพทริเซียพูดกับสามีในขณะนั่งดูคลิปผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คลิปนี้ปรากฏขึ้นบนไอจีของธีทัต ส่วนรูปถ่ายจำนวนมากนั้นอยู่ในเพจของราชเวคิน กรุ๊ป“พวกเขาน่าจะกลับมาคืนดีกันแล้ว”“แพทรู้มาว่าพวกเขาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว ก็บ้านเดิมของคุณกวางนั่นแหละ เห็นผู้จัดการบอกว่าคุณธีร์ไปส่งคุณกวางที่โรงแรมอยู่บ่อยๆ”“ดีนะ โรงแรมของเราได้ยกระดับไปในตัว เพราะลูกสะใภ้ของราชเวคินมาทำงานด้วย”“นั่นสิ ตอนแรกแพทไม่ได้คิดอะไร มองแค่ว่าคุณป๊อบช่วยคุณกวางให้มีงานทำ เพราะคุณกวางต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่พอรู้ว่าคุณกวางมีความสามารถด้านภาษาในระดับดี ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน แถมภาษาสเปนอีกนิดหน่อย แพทก็คิดว่าถ้าหลุดไปคงจะเสียดายมาก เพราะโรงแรมสาขานี้ไม่มีพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านภาษาเลย ตอนนี้กลายเป็นเราได้โบนัสเพราะรับพนักงานที่ชื่อชีวาพรเข้า
น้องพร้อมอายุครบหนึ่งขวบ เด็กชายได้ตัดเค้กวันเกิดอีกรอบไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเดินได้คล่องมากขึ้น แถมยังขยันทำท่าทางตลกให้คนทั้งบ้านได้หัวเราะถึงแม้ธีทัตยังมองไม่เห็นจุดบรรจบของความสัมพันธ์แบบผัวเมียกับชีวาพร แต่ในฐานะพ่อของลูก...เขาทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุ่มเทสุดตัว“วันนี้พ่อต้องไปทำงาน น้องพร้อมจะไปกับพ่อไหมครับ”“คุณพาลูกไปได้หรือคะ”“หนูตอบคุณแม่ไปสิครับว่าได้แน่นอน ตอนนี้หนูโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็กทารกแล้วนะ ดูสิ หนูมีฟันขึ้นตั้งหลายซี่ แถมยังเดินได้คล่องอีกด้วย ไหน! น้องพร้อมเดินโชว์ให้คุณแม่ดูหน่อยสิครับ”เมื่อคุณพ่อทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับตัวเอง น้องพร้อมก็ยิ้มร่าเริงเป็นเชิงตอบรับ สองมือป้อมยันพื้นเอาไว้ แล้วยกก้นโด่งขึ้น กระทั่งท่อนขาสั้นป้อมยืนได้อย่างมั่นคง เจ้าตัวน้อยก็ออกเดินหัวซุนไปหาแม่ชีวาพรยิ้มกับความน่ารักของลูก เธอยกเจ้าร่างป้อมขึ้นมาอุ้มและหอมแก้มนุ่มๆ นั้นอย่างแสนรัก“เป็นไงครับ ผมโตพอที่จะไปทำงานกับคุณพ่อได้หรือยัง”น้องพร้อมออกอากา
“เมื่อไรกวางจะกลับไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน”คนที่ตามเข้ามาป้วนเปี้ยนถึงในห้องครัวถามขึ้นมา วันนี้เขาไปรับเธอกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่เมื่อเช้าเขาเซ้าซี้เพื่อไปส่งเธอรอบหนึ่งแล้ว...“อยู่บ้านหลังนี้ก็สบายอยู่แล้วนี่คะ หรือว่าคุณธีร์อึดอัด คุณกลับไปบ้านโน้นบ้างก็ได้ คุณมานอนค้างคืนอยู่ที่นี่บ่อยเกินไป”“ใครสอนให้พูดอย่างนี้”ธีทัตเคาะหน้าผากเมียเป็นการทำโทษ หญิงสาวปัดมือหนาออก เธอทำหน้ามุ่ยได้อย่างน่ารัก จนเขารู้สึกมันเขี้ยว...นึกอยากจับเมียมาทำโทษด้วยการจูบปากเสียให้เข็ดคนตัวโตมองหญิงสาวที่ง่วนอยู่หน้าเตาตาปรอย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เขาไม่อาจแตะแม้กระทั่งปลายนิ้วของเธอ ทั้งที่ข้างในกายรุ่มร้อน โหยหาเมียเหลือเกิน...ชะรอยดวงตาของเขาคงสื่อความรู้สึกให้เธอรู้ ตะหลิวในมือจึงถูกเงื้อขึ้นมาขู่ จนเขาต้องกระแอมในลำคอ แล้วบอกเธอเสียงอ่อน“พี่ไม่ได้อึดอัดที่จะอยู่ที่นี่หรอก พี่อยู่ที่ไหนก็ได้ที่กวางกับน้องพร้อมอยู่ พี่แค่อยากให้กวางได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่มากกว่านี้”“บ้านหลังนี้ไม่ควรอยู่หรือคะ?
ในช่วงเวลาบ่ายใกล้เย็นของวันนั้น รถคันสีครีมคุ้นตาแล่นเข้ามาในบ้าน ชีวาพรยืนมองด้วยความสงสัยว่ามันเป็นรถของใครกัน กระทั่งได้เห็นรถคันนั้นอย่างชัดตา เธอจึงหันไปมองธีทัตด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม“รถของกวาง...พี่ให้คนขับรถที่บ้านโน้นเอามาคืนให้ รถคันนี้พี่ซื้อให้กวาง ในช่วงที่กวางไม่อยู่ คนขับรถดูแลรถเป็นอย่างดี เช็กสภาพรถไว้ตลอด และไม่ได้ให้ใครใช้รถคันนี้ด้วย ตอนนี้รถติดคาร์ซีตแล้ว กวางจะได้ขับรถพาน้องพร้อมออกไปข้างนอกได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้ว คุณทำอะไรของคุณ”“นั่นสิ พี่ทำอะไรของพี่”ธีทัตยิ้มขื่น เมื่อย้อนนึกถึงพฤติกรรมของตัวเอง เขาคงเป็นบ้าตามที่ชีวาพรพูดจริงๆ เขาทำเหมือนชีวาพรยังอยู่กับเขา ทั้งที่เป็นตัวเขาเองที่บอกให้เธอไปหลังจากครบกำหนดที่ทั้งสองคนเคยตกลงว่าจะหย่าจากกันตลอดหนึ่งปีกว่าที่ชีวาพรไม่อยู่กับเขา เขาไม่ได้ออกตามหาเธอ แต่ทุกขณะจิตเขายังคิดว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว แม้ภายนอกใครจะมองว่าเขากลับมาเป็นโสดก็ตาม เขาใช้ชีวิตแบบคนโง่ไปวันๆ คนโง่ที่รู้ใจตัวเองแต่แบกอีโก้ไว้สูงเกินไป เขาทำให้เรื่องมันแย่ไปเสียหมด สุดท้ายเขาถ
“จะเป็นไรไปล่ะ”แค่เพียงวางน้องพร้อมลงบนโต๊ะ เจ้าตัวก็โผนไปหาเค้กแฟนซีที่เป็นตุ๊กตาหมีอยู่บนหน้าเค้กในทันที สองมือน้อยๆ คว้าหมับไปที่หน้าเค้ก ซึ่งแน่นอน...มันเละคามือป้อมๆน้องพร้อมออกอาการงุนงง ทำไมลูกหมีที่ประดับอยู่บนเค้กถึงได้เละคามือ เจ้าตัวน้อยยกมือที่เลอะครีมขึ้นมาดู ฉับพลันดวงหน้ากลมก็บิดเบ้“ไม่เป็นไรนะครับ มันเป็นเค้กวันเกิดของหนู หนูจะทำอะไรกับมันก็ได้”คนเป็นพ่อกล่อม แถมยังช่วยลูกเล่นเค้กด้วยการจิ้มครีมแล้วป้ายบนแก้มกลมๆ ชีวาพรรู้ว่าลูกกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกเสียดายเค้ก ซึ่งพี่เลี้ยงของลูกก็อ่านความคิดของเธอได้“น้องพร้อมได้สัมผัสและได้ขยำเค้ก ถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กไปในตัวค่ะ”“แต่มันเป็นของกิน เฮ้อ! กวางต้องทำใจสินะคะ”“ทำไมต้องทำใจ ลูกกำลังตัดเค้กให้เรากินอยู่นี่ไงล่ะ”ธีทัตแย้ง ส่วนพี่เลี้ยงของน้องพร้อมก็ลอบยิ้ม...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพ่อกับลูกได้เจอกันแค่เพียงไม่กี่วัน แต่ลูกก็ติดพ่อหนึบแล้วน้องพร้อมจะตัดเค้กยังไง? ...ชีวาพรยังรู้