Masukแต่งงานหลอกๆ เพื่อควบธุรกิจ จบภารกิจเธอยอมเลิกตามสัญญา หากผิดหรือที่เธอตัดใจจากเขาไม่ได้ ผิดหรือที่เธอยังตอแยเขา... ผิดด้วยหรือที่สุดท้ายเธอยอมแพ้และจากไปโดยไม่บอกลา -------- "คุณธีร์อย่า! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ" แค่ฝ่ามือบางสัมผัสกับแผงอกกว้าง ชีวาพรก็ถึงกับตัวสั่น ทว่าวินาทีนั้นเองที่ทุกอย่างก็หยุดลง... "โอ๊ย!" "อ้า!" เสียงแรกเป็นเสียงร้องเหมือนคนกำลังเจ็บหนักจากคนตัวโต ส่วนเสียงเล็กๆ ที่ตามมานั้นเป็นเสียงของคนตัวกลมที่โผล่มาจากข้างหลังของเขา...มือน้อยๆ กำลังขยุ้มผมของพ่อ ชีวาพรตกใจ สัญชาตญาณปกป้องของคนเป็นแม่ทำให้เธอตะครุบไหล่กำยำของธีทัตไว้ เพราะเธอกลัวเขาจะเหวี่ยงมือหรือเบี่ยงตัวหนี แล้วอาจทำให้ลูกของเธอเจ็บ "น้องพร้อมปล่อยก่อนค่ะ หนูจิกผมคนอื่นอย่างนี้ไม่ได้นะคะ" "พี่เป็นพ่อ ไม่ใช่คนอื่น" คนตัวโตที่ถูกเธอกดไหล่เอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนและยังมีมือป้อมจิกผมจนหน้าหงายยังมีหน้ามาค้าน "ฮือ! อือ!"
Lihat lebih banyak‘พี่ธีร์ไม่เคยรักกวางเลยหรือคะ แล้วพี่ธีร์แต่งงานกับกวางทำไม’
‘กวางถามทำไม ทั้งที่รู้แก่ใจดีทุกอย่างอยู่แล้ว...หรือกวางอยากให้พี่รู้สึกผิด’ ‘แต่พี่เลือกแต่งงานกับกวาง ทั้งที่พี่ชอบ...’ เธอพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็พูดสวนขึ้นมา น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกว่าเขาเริ่มหงุดหงิดแล้ว ‘กวางต้องยอมรับก่อนว่าตอนนั้นกวางเต็มใจแต่งงานกับพี่ พี่ถามความสมัครใจของกวางแล้ว พี่บอกเงื่อนไขการแต่งงานของเราทุกอย่าง กวางยืนยันว่าเข้าใจและรับได้ ดังนั้นการแต่งงานของเราจึงเกิดขึ้น...ส่วนเรื่องที่ทำไมพี่เสนอเงื่อนไขแต่งงานให้กับกวางแทนที่จะเป็นพี่สาวของกวาง เพราะพี่เห็นว่ากวางเป็นคนมีเหตุมีผล กวางดูเป็นผู้ใหญ่ พี่เลยเลือกกวาง เมื่อเรามาจับมือกัน พ่อของกวางก็ขายหุ้นของธุรกิจครอบครัวให้กับราชเวคิน กรุ๊ปได้โดยไม่ขัดกับพินัยกรรมที่บอกให้ขายและถ่ายโอนหุ้นให้คนในครอบครัวเท่านั้น ครอบครัวของกวางได้เงินไปใช้หนี้ พ่อของกวางได้เกษียณงานและได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสบายๆ ส่วนพี่สาวและพี่ชายของกวางก็ได้เงินไปตั้งตัว มันวินวินกันทุกฝ่าย’ ‘พี่ธีร์พูดถึงแต่เรื่องเงินและผลประโยชน์’ ‘แล้วจะให้พี่พูดถึงเรื่องอะไร? ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยหลอกกวาง พี่พูดชัดเจนทุกอย่าง ครอบครัวของกวางเคลียร์กับเรื่องนี้ เมื่อธุรกิจบรรลุผล ทุกอย่างก็ควรจบ!’ จบ...เขาพูดง่ายเหลือเกิน แต่สำหรับเธอนั้นมันยากแสนยาก เธอแต่งงานกับเขาหกเดือน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เขาพาเธอไปเที่ยวทั้งต่างจังหวัดทั้งต่างประเทศ เขาเทกแคร์เธอ เขาสร้างช่วงเวลาแห่งของความสุขให้เธอจดจำ... เธอยอมเป็นของเขาหลังจากแต่งงานกันได้เพียงหนึ่งเดือน เธอยินดีที่จะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและตามพฤตินัย เขาไม่ได้บังคับ...ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเธอเอง ‘พี่รู้ว่าเรื่องนี้สุ่มเสี่ยงกับความรู้สึก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรกับใคร คนคนนั้นต้องรับผิดชอบตัวเอง จัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ เพราะเราต้องยอมรับว่ามันเป็นเพียงเรื่องงานและผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน’ ชีวาพรหายใจขาดห้วง ยกสองมือขึ้นมากำแนบหัวใจ หัวใจของเธอกำลังแหลกสลาย...เธอถอยมาตั้งหลักห่างจากเขาและครอบครัวของเธอตั้งไกล เธอไม่ได้ติดต่อใคร เธอทำตัวสูญหายไปจากโลกใบนี้ ทว่าความรู้สึกของเธอกลับไม่ได้ก้าวไปไหนเลย มันยังวนเวียนอยู่ที่เดิม เธอยังย้ำคิดย้ำทำอยู่กับเรื่องเดิมๆ... ชีวาพรยังมองไม่เห็นทางเลยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เธอถึงก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้“ทำไม? ใครบอกมัน?” “พี่แพทไง พี่แพทเพื่อนสนิทของพี่ก่อ...เมื่อก่อนผมไม่รู้ว่าสองคนนี้ซี้กันได้ยังไง ไม่เห็นมีอะไรเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจแล้ว” “กูไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของใครนักหรอก แต่มันดันรู้เองทุกที ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” ก่อฤกษ์ออกตัวได้อย่างน่าขัน “เรียกว่าพรสวรรค์ครับเฮีย อย่างผมเนี่ยอยู่ใกล้นายกันต์ เห็นหน้ามันที่บริษัทเกือบทุกวัน พยายามจะถามมันว่ามีปัญหาอะไร พอมันไม่บอก ผมก็หมดปัญญาที่จะรู้เรื่องของมันแล้ว สรุปว่าตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ภพธรพูดเสียงจริงจัง ธีทัตเหล่มองแล้วเปรยทีเล่นทีจริง “มึงน่าสงสารจริงๆ นั่นแหละ” “ไอ้กันต์มีปัญหากับผู้หญิงที่กำลังคุยๆ กัน เห็นว่าพวกเขากำลังตกลงบางอย่างกัน” ก่อฤกษ์เล่าให้พี่ชายและน้องฟัง ซึ่งเขาก็รู้มาจากแพทริเซียอีกที “ปัญหาอะไร?” “แม่ของผู้หญิงบอกไอ้กันต์ว่าผู้หญิงท้อง แต่ผู้หญิงยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ท้อง ผู้หญิงขอเลิกกับไอ้กันต์ไปแล้ว” “งั้นปัญหาอยู่ตรงไหน ถ้าผู้หญิงบอกว่าไม่ท้องก็ไม่ท้องสิ เรื่องของคนสองคน คนอื่นจะไปยุ่งกับพวกเขาทำไม” ภพธรตัดจบอย่างไว
ชีวาพรพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนหรูนานถึงสองสัปดาห์ มันเป็นความต้องการของธีทัตที่จะให้พยาบาลช่วยดูแลลูกน้อยจนกว่าเขาจะมั่นใจ อีกทั้งเขายังต้องการให้พยาบาลช่วยสอนวิธีเลี้ยงลูกอ่อนให้เขาด้วยถึงแม้ลูกคนนี้จะเป็นลูกคนที่สอง...แต่สำหรับลูกคนแรกนั้นธีทัตกลับพลาดโอกาสในการเลี้ยงดูตั้งแต่ลูกยังแบเบาะ เขาจึงไม่มีทักษะในการดูแลเด็กอ่อน ดังนั้นตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่อยู่โรงพยาบาล คนที่ฝึกดูแลลูกจึงเป็นฝ่ายคุณพ่อแทบร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อครบกำหนดพักฟื้นหลังคลอดของชีวาพร ธีทัตจึงพาเธอและลูกคนใหม่กลับไปยังบ้านราชเวคิน งานนี้พี่ชายตัวป้อมมารับน้องกลับบ้านด้วยตัวเอง น้องพร้อมเดินนำหน้าแม่ที่กำลังอุ้มน้องชายเข้าไปในห้องเด็กอ่อนธีทัตปล่อยให้ลูกชายคนโตแสดงบทบาทของพี่ชายอย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กน้อยไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกละเลยความสนใจและถูกลดความสำคัญลง ซึ่งนับว่าเขากับชีวาพรทำได้สำเร็จ เพราะในเวลานี้น้องพร้อมกลายเป็นหัวเรือใหญ่การจัดการเรื่องของน้องชายไปแล้วอย่างเช่นในตอนนี้...พี่ชายกำลังนอนเฝ้าน้องชายอยู่ข้างเปล เมื่อพ่อเข้ามาในห้อง น้องพร้อมจึงผงกศีรษะแล้วยกนิ้วชี้ป้
น้องพร้อมตื่นเต้นหนักมากเมื่อได้เห็นน้องชายตัวเล็กจิ๋วที่นอนอยู่ในกระบะที่พยาบาลเข็นเข้ามาในห้องพักฟื้นของแม่ เด็กชายห่อปากกลมพลางเบิกตาโต จากนั้นก็ร้องทักทายน้องเสียงดังเพราะไม่อาจระงับความรู้สึกไว้ได้ มิวายที่คุณย่าต้องดึงน้องพร้อมเข้าไปกอดไว้ทั้งตัว เพราะเกรงน้องจะตกใจเสียงของพี่ชาย“น้อง...น้องของพ้อม”น้องพร้อมเงยหน้าขึ้นไปบอกคุณย่าซ้ำๆ เด็กชายวัยสองขวบครึ่งพูดจาชัดถ้อยชัดคำมากขึ้น มีเพียงบางคำที่ยังออกเสียงได้ไม่ชัด แต่ผู้ใหญ่ก็ฟังเจ้าตัวพูดเข้าใจทุกคำธีทัตเดินไปหาลูก เขาดึงลูกชายมากอดไว้เอง แล้วบอกลูกเสียงอ่อนโยน“ใช่ครับ น้องเป็นน้องชายของหนู พ่อจะอุ้มหนูพาไปดูน้องใกล้ๆ นะครับ”ชายหนุ่มยกร่างกลมป้อมเข้าสู่อ้อมแขน เด็กชายโผกอดคอของพ่อเอาไว้ เมื่อชะโงกหน้าไปมองน้องอย่างเต็มตา เด็กชายก็ไม่สามารถหยุดรอยยิ้มได้เลย“พ่อลูกอาการพอกัน”คุณอมลรดาพูดแซวลูกชายและหลานชาย ชีวาพรมองผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนอย่างซาบซึ้งใจ กระทั่งนางพยาบาลปรับเตียงนอนให้เธอได้ลุกขึ้นมานั่งเอนกาย แล้วนำทารกน้อยมาวางในอ้อมแขนของเธอ สองพ่อลูก
น้องพร้อมมาถึงบ้านคุณตา แค่เพียงพ่อปลดเข็มขัดคาร์ซีตให้ เด็กชายก็ปีนลงมาจากรถ แล้ววิ่งตรงไปยังริมกำแพงรั้วที่มีต้นไม้ใหญ่“อีกสิบนาทีพี่จะพาน้องพร้อมตามเข้าไป”ธีทัตบอกภรรยา ก่อนจะรีบเดินตามไปดูแลลูกชายชีวาพรมองลูกชายอย่างเอ็นดู สงสัยลูกหมีจะคิดถึงต้นไม้ใหญ่ที่บ้านคุณตา ดูสิ พยายามปีนต้นไม้ใหญ่ทั้งที่ตัวเองยังปีนต้นไม้ไม่เป็น หญิงสาวยืนมองลูกอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะหิ้วตะกร้าผลไม้เข้าไปหาคุณนพในบ้านคุณนพกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขกกับไข่มุก ซึ่งเมื่อแม่บ้านของพ่อเห็นเธอเข้า หล่อนก็ขอตัวเข้าไปทำกับข้าวในครัว หากเหตุผลแท้จริงเพียงเพื่อให้สองพ่อลูกได้พูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัว“แพมอยากมาเมืองไทย เห็นว่าจะพาแฟนมาให้พ่อรู้จัก”คุณนพบอกทันทีเมื่อเห็นลูกสาว เหมือนเรื่องนี้กำลังติดอยู่ในใจของเขา ซึ่งชีวาพรก็ถามพ่ออย่างตื่นเต้นและดีใจ“พี่แพมมีแฟนหรือคะ”“พวกเขาคงตกลงปลงใจกันแล้ว ไม่อย่างนั้นแพมคงไม่พาแฟนมาหาพ่อ”“ดีจังเลยค่ะ กวางอยากให้พี่แพมมีครอบครัว พี่แพมอยู่ที่อเมริก





