ใบบัว....
"ไปไหนมาแค่เอาชุดคุณฟิวไปเก็บที่ห้องเล่นไปซะนานเลย" ฉันเดินกลับมาถึงตึกคนใช้ก็เจอป้าศรีแม่บ้านที่ยังไม่นอนเพราะมัวแต่ดูละครหลังข่าวเรื่องโปรดของแก แกถามฉันเพราะเห็นฉันไปนานผิดปกติ
"คือพอดีคุณเฟื่องเรียกให้บัวไปคุยด้วยน่ะจ๊ะป้าบัวก็เลยมาช้า"
"คุณเฟื่องยังไม่นอนเรอะ"
"ยังจ๊ะ ท่านรอคุณฟิวกลับมาจากมหาลัยน่ะ"
"แล้วตอนนี้คุณฟิวกลับมาหรือยัง"
"กลับมาแล้วจ๊ะเพิ่งกลับมา"
"อืมงั้นก็ไม่มีอะไรละเอ็งไปนอนเถอะเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำงานแต่เช้ามืด"
"จ๊ะ" ฉันตอบป้าศรีจากนั้นก็เดินกลับห้องนอนของตัวเอง หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จฉันก็เดินมาล้มตัวลงนอนที่ฟูกนอนแล้วพยายามข่มตาหลับแต่ฉันไม่สามารถหลับตาลงได้เพราะเอาแต่คิดเรื่องคุณฟิวที่คุณเฟื่องพูดให้ฟังฉันก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเปิดหน้าจอเพื่อดูภาพหน้าจอโทรศัพท์ของฉันมันเป็นรูปของใครไปไม่ได้เลยนอกจากรูปของคุณฟิวที่อยู่ในชุดนักกีฬาที่ฉันแอบไปเซฟรูปมาจากไอจีของเขาฉันตั้งให้มันเป็นภาพพักหน้าจอคือตั้งแต่ฉันมีมือถือใช้ฉันก็ใช้รูปของเขาเป็นภาพพักหน้าจอมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน ทุกครั้งเวลาที่ฉันเหนื่อยฉันท้อแท้พอได้เห็นรูปเขามันก็ทำให้ฉันยิ้มออกมาได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ครั้งนี้ฉันมองรูปคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้รู้ว่าตอนนี้ในหัวใจของคุณฟิวมีใครอีกคนซ่อนอยู่ข้างในนั้น
"ถึงยังไงบัวก็จะรักคุณฟิวนะคะต่อให้คุณฟิวจะไม่เคยรู้สึกอะไรกับบัวเลยแต่บัวของสัญญาว่าบัวจะรักคุณฟิวแบบนี้ตลอดไปและจะคอยปกป้องคุณฟิวด้วยชีวิตของบัว" ฉันใช้นิ้วแตะไปที่หน้าจอเพื่อส่งผ่านความรู้สึกเหล่านี้ไปให้เขาแม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรับรู้แต่ฉันก็ทำได้เพียงเท่านี้ทำได้แค่แอบรักเขาไปแบบนี้ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือฉันจะไม่มีวันทำร้ายเขาต่อให้ฉันต้องตายฉันก็จะปกป้องเขาด้วยชีวิตของฉันชีวิตที่ไร้ค่าและไม่เคยมีใครต้องการ
"บัวรักคุณฟิวสุดหัวใจรู้มั้ยคะ" ฉันพูดและยิ้มทั้งน้ำตาให้กับคนในภาพคนที่ฉันรักแม้ว่าเขาไม่เคยรักฉันเลยก็ตาม
หลายอาทิตย์ต่อมา
"คุณเฟื่องคะ บัวทำงานเสร็จแล้วขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ"
"จ๊ะ ระวังตัวด้วยนะบัวถ้าเลิกเรียนดึกมากก็โทรมาจะได้ให้เดี่ยวขับรถไปรับ"
"ขอบคุณค่ะแต่บัวคงกลับไม่ดึกเท่าไหร่ งั้นบัวขอตัวก่อนนะคะ"
ฉันเดินออกมาจากบ้านแล้วเดินมาขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยเพื่อไปเรียน ฉันเพิ่งกลับมาเรียนต่อได้ไม่นานหลังจากจบมอหกซึ่งตอนแรกฉันคิดว่าจะไม่เรียนต่อแล้วเพราะเกรงใจคุณเฟื่องกับคุณท่านที่ส่งเสียฉันเรียนจนจบมอหกแล้วยังจะส่งฉันเรียนมหาลัยต่ออีกซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าฉันจะเรียนฉันก็เลยต้องโกหกคุณท่านกับคุณเฟื่องว่าฉันไม่อยากเรียนต่อแล้วฉันไม่ชอบเรียนฉันขี้เกียจเรียนทั้งแต่เหตุผลจริงๆ ก็คือค่าเทอมมหาลัยที่ท่านจะให้ฉันไปเรียนมันแพงมากฉันไม่อยากรบกวนคุณท่านทั้งสองไปมากกว่านี้เพราะแค่ท่านให้ที่อยู่ที่กินให้เงินเดือนฉันก็ทดแทนบุญคุณท่านไม่หมดแล้วแต่ในที่สุดฉันคุณท่านก็บังคับให้ฉันเรียนต่อจนได้แต่ฉันก็ขอท่านเรียนภาคพิเศษเอาเพราะมันเรียนเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นและที่สำคัญฉันก็กู้ก.ย.ศเรียนเพราะฉันไม่อยากรบกวนเงินของคุณท่านทั้งสองแม้ว่าท่านจะบอกว่าท่านเต็มใจที่จะส่งเสียให้ฉันเรียนก็ตาม และที่ฉันเลือกเรียนแบบนี้ก็เพื่อที่ว่าวันธรรมดาฉันยังสามารถทำงานบ้านได้ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าฉันมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ ทั้งที่เป็นแค่คนรับใช้แม้ว่าจะยังไม่มีใครว่าก็ตาม
เวลาต่อมา...
ตี๊ดดดดดด ตี๊ดดดดดดด เสียงมือถือของฉันดังขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถเมล์เพื่อกลับบ้านพอเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอฉันก็รีบรับทันทีแม้จะไม่อยากรับก็ตาม
"สะ..." ฉันพูดสวัสดียังไม่ทันจบประโยคคนในสายก็พูดสวนขึ้นมาทันทีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจซึ่งฉันได้ยินแบบนี้จนชิน
"แกอยู่ไหนนังบัว"
"เอ่อ..บัวกำลังจะกลับบ้านค่ะคุณผกา"
"แกมาหาฉันที่บ้านเดี๋ยวนี้!!! "
"ค่ะ" ฉันต้องลงจากรถเมล์แล้วโบกรถแท็กซี่ไปยังบ้านหลังนึงที่ตั้งอยู่ไกลผู้ไกลคน
"มาแล้วเหรอนังตัวดี" พอเปิดประตูเข้ามาก็เจอกับคุณผกานั่งทำหน้าไปสบอารมณ์อยู่
"คุณ ผกาเรียกบัวมามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
"ทำไม เดี๋ยวนี้ถ้าฉันจะเรียกแกมาต้องมีธุระก่อนงั้นเหรอฮะนังขี้ข้า"
".........."
"เรื่องที่ฉันให้แกไปทำเมื่อไหร่มันจะสำเร็จฮะ"
"เอ่อ..คือบัว"
"ชั้นให้แกเข้าไปอยู่ที่นั่นเพื่อให้ไอ้ฟิวมันหลงรักแกแล้วก็ยอมแต่งงานกับแกแต่จนป่านนี้แกก็ยังทำมันไม่สำเร็จมันผ่านมากี่ปีแล้วห๊ะนังบัว!!! "
"คุณฟิวเค้ามีคนรักอยู่แล้วค่ะเค้าไม่มาสนใจบัวหรอกค่ะ" ฉันพยายามหาข้ออ้างซึ่งครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันสรรหาคำแก้ตัวมาพูดกับคนตรงหน้าเพื่อยื้อเวลา
"แล้วไง...ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่แกจะต้องจัดการด้วยตัวแกเองและต้องทำมันให้สำเร็จด้วยแกต้องให้มันรักแกหลงแกรักแกและแต่งงานจดทะเบียนกับแกให้ได้"
"แต่...."
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นเพราะถ้าแกทำไม่สำเร็จฉันก็จะทำให้ไอ้แก่ปกรณ์พ่อของไอ้ฟิวมันตายอย่างช้าๆ ตายทรมาน"
"อย่านะคะบัวขอร้องอย่าทำคุณท่านเลยนะคะ บัวกราบล่ะค่ะ" ฉันกราบแทบเท้าคุณผกาเพราะกลัวว่าคุณผกาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ
"ภายในสามเดือนนี้ถ้าแกทำไม่สำเร็จ แกคงจะรู้นะว่าตาแก่นั่นจะเจอกับอะไร"
"แต่คุณท่านก็เป็นพี่ชายของคุณผกานะคะคุณผกาไม่สงสารท่านเหรอคะ"
"หึทำไมฉันต้องสงสารตาแก่นั่น มันเคยเห็นฉันเป็นน้องไหมมันยกทุกอย่างเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ไอ้ฟิวแล้วฉันล่ะฉันได้อะไรบ้าง!!! "
"............"
"ฉันจะไม่ถือโทษโกรธแกที่กล้าพูดแบบนี้กับฉันเพราะถึงยังไงแกก็ต้องทำตามคำสั่งของฉันเพราะฉันคือเจ้าของชีวิตแกฉันสั่งให้แกทำอะไรแกก็ต้องทำฉันสั่งให้แกไปตายแกก็ต้องตายเข้าใจไหม"
"ค่ะ...ถ้าอย่างงั้นบัวขอเข้าไปดูอาการคุณท่านหน่อยได้ไหมคะ"
"อยากจะดูก็ดู ดูแล้วก็รีบๆ ทำตามแผนให้สำเร็จถ้าแกทำสำเร็จฉันจะปล่อยตาแก่นี่กลับไปหาลูกชายมัน"
ห้าเดือนต่อมา...."อุ๊บ อุ๊บ อ๊วกกกกกกกก อ๊วกกกกกก" คุณฟิวลุกออกจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีที่ตื่นนอนขณะที่ฉันกำลังเปิดประตูห้องนอนเข้ามาหลังจากไปดูเด็กๆทานอาหารเช้าที่บ้านใหญ่ พอเห็นคุณฟิววิ่งเข้าห้องน้ำฉันก็รีบเดินตามเข้าไปช่วยลูบหลังให้" ทำไมมันทรมานแบบนี้ ฮือออ ฮืออออ ลูกแกล้งพ่อทำไมครับลูก ฮือออ อ๊วกกกก" คุณฟิวอาเจียนไปร้องไห้ไปบ่นไปอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีจนฉันแดสงสารเขาไม่ได้ ฉันค่อยๆประคองคุณฟิวออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เขาอาเจียนเสร็จแล้วพาเขามานั่งพักที่เตียงก่อนจะยื่นน้ำส้มคั้นสดรสเปรี้ยวที่ฉันเพิ่งคั้นมาให้เขาดื่มเพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้องที่เป็นมาตลอดห้าเดือนเต็มเนื่องจากเขาจะเป็นแบบนี้ทุกเช้าตั้งแต่รู้ว่าฉันท้อง"อึก อึก อึก" คุณฟิวรับน้ำส้มคั้นที่ผสมน้ำมะนาวไปดื่มจนหมดแก้วฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ใช่เพราะอยากทานหรอกนะแต่ฉันไม่รู้ว่าเขาทานมันไปได้ยังไงเพราะมันเปรี้ยวมากแม้ว่าฉันจะเคยแพ้ท้องมาก่อนถึงสองครั้งก็ตามแต่ฉันก็ไม่เคยแพ้ท้องหนักขนาดนี้อย่างมากก็แค่อยากทานผลไม้รสเปรี้ยวแค่นั้นแต่คุณฟิวทานทุกอย่างทั้งผลไม้สดทั้งน้ำผลไม้ที่ต้องมีรสเปรี้ยวเท่านั้นถ้าหวานเขาไม่แตะเลย บนหั
ใบบัว...หนึ่งเดือนต่อมา...ตอนนี้เรามาพักผ่อนกันที่หัวหินหลังจากที่ไม่ได้มานานตั้งแต่ฉันท้องสองแฝดแล้วอีกอย่างคุณฟิวก็ไม่ค่อยว่างพามาด้วยแต่ตอนนี้คุณฟิวตัดสินใจว่าจะทำที่บ้านแทนการเข้าบริษัทเขาบอกจะเข้าไปเฉพาะมีเรื่องเร่งด่วนเท่านั้นซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นคุณปกรณ์คุณท่านคุณเฟื่องก็เห็นดีด้วยเพราะที่ผ่านมาเขาเอาแต่ทำงานหนักทั้งที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้นก็ได้เพราะพนักงานที่ไว้ใจได้ก็มีแต่เขาให้เหตุผลว่าเขาอยากหาเงินเอาไว้เยอะให้ฉันกับลูกได้มีกินมีใช้จะได้ไม่ลำบาก ฉันรู้ว่าเขารักฉันกับลูกมากเขายอมทำงานหนักเพื่อพวกเราเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่เคยขัดใจเขาเลยไม่ว่าเขาจะขอให้ฉันทำอะไรฉันกำลังนั่งดูเด็กๆเล่นทรายกันอย่างสนุกสนานที่ริมหาดหน้าบ้านพัก ก่อนที่สายตาจะหันไปเจอคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงที่ดูเหมือนกำลังวุ่นวายฉันไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรแต่ลักษณะเหมือนจัดงานอะไรสักอย่างมีซุ้มดอกไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามถ้าให้ลองเดาดูเหมือนพวกเขากำลังจัดงานแต่งงานริมชายหาดแต่ฉันก็ไม่ได้เดินเข้าไปดูเพราะต้องดูแลสองสาวซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สองสาวได้มาเที่ยวทะเลส่วนฟ้าครามรายนั้นกำลังช่วยคุณพ่อทำ
ฟิว..."ขอบัวอาบน้ำด้วยคนนะคะ" อ้อมกอดที่ได้สัมผัสมาพร้อมกับความนุ่มหยุ่นตรงกลางแผ่นหลังของผมทำเอาผมต้องยิ้มออกมาด้วยความพอใจ"มาแล้วเหรอครับ ผัวรอตั้งนาน" พอผมหันหลังกลับมาก็พบว่าตอนนี้เมียรักของผมยืนเปลือยเปล่าหมดทั้งร่างไม่มีอะไรมาปกปิด ผมมองเธออย่างหลงใหลไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่เธอก็ยังสวยงามสำหรับผมอยู่เสมอ"ก็สองสาวของปะป๊านะสิคะไม่ยอมให้บัวมาง่ายๆ" "เหนื่อยมั้ยครับ" ผมถามเธอพร้อมกับดึงเธอมากอดอย่างแสนรัก"เหนื่อยเรื่องอะไรล่ะคะ""ก็เหนื่อยที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกคนเดียวแบบนี้ไง พี่ไปทำงานแทบทุกวันไม่มีเวลาช่วยบัวดูแลเด็กๆเลย" คือตั้งแต่คลอดสองแฝดมาเธอก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากไปโรงพยาบาลเพื่อพาเด็กๆไปหาหมอไปฉีดวัคซีนตามที่หมอนัดยิ่งช่วงที่เด็กๆยังเป็นเบบี๋ตัวน้อยๆนี่ยิ่งเหนื่อยมากเพราะเด็กๆจะร้องไห้บ่อยผมกับบัวแทบจะไม่ได้นอนต้องคอยลุกมาดูลูกแทบทั้งคืนแต่ช่วงนี้เด็กๆโตขึ้นมากแล้วไม่เหนื่อยเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ยังต้องดูแลพวกแกอย่างใกล้ชิดแม้จะมีบางวันที่ผมจะพาเด็กๆไปที่ทำงานด้วยเพราะที่ทำงานของผมผมให้สถาปนิกสร้างห้องเด็กเล่นไว้ให้ลูกซึ่งอยู่ภายในห้องทำงานของผมแต่ใบบัวไม่คอยอย
สามปีผ่านไปฟิว....ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ "ปะป๊าาาาาามาแย้ววว""ปะป๊าาาาาาขาาาาาา"เสียงฝีเท้าวิ่งบนพื้นไม้ที่ดังมาพร้อมกับเสียงเรียกปะป๊าดังลั่นบ้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำเวลาผมเลิกงานกลับมาบ้านในตอนเย็นไม่ต้องแปลกใจว่าเป็นเสียงของใครที่เรียกปะป๊า เสียงของลูกสาวฝาแฝดจอมซนสุดแสบของผมเองครับน้องโฟกัสกับน้องเฟย่าคือชื่อของลูกสาวฝาแฝดที่ผมเป็นคนตั้งให้เพราะอยากให้ลูกทุกคนมีอักษร ฟ.คล้องจองกับชื่อของผม พ่อชื่อฟิว ลูกๆชื่อฟ้าคราม โฟกัส เฟย่า อยากจะบอกว่าผมเคยชวนใบบัวไปเปลี่ยนชื่อด้วยอีกคนครอบครัวของเราจะได้เป็นครอบครัวตัว ฟ. แต่ผมก็โดนเธอดุว่าผมไร้สาระไม่เข้าเรื่องตอนนี้น้องโฟกัสกับน้องเฟย่าอายุได้สองขวบแล้วครับกำลังซนเลยทั้งซนทั้งแสบและขี้อ้อนสุดๆเวลาที่ผมอยู่ที่ทำงานพวกแกก็จะรบเร้าให้ใบบัวโทรหาผมทุกวันและเมื่อผมรับสายเด็กๆก็จะแย่งกันพูดบอกคิดถึงปะป๊าอยากคุยกับปะป๊าเมื่อไหร่ปะป๊าจะกลับบ้านทั้งที่ผมเพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วแบบนี้ผมจะไปไหนรอดลูกอ้อนเก่งขนาดนี้แต่ก็น่ารักดีครับผมชอบนะเวลาพวกแกอ้อนแบบนี้มีแต่ลูกเท่านั้นแล่ะครับที่อ้อนส่วนเมียน่ะเหรอฝันไปเถอะครับว่า
ใบบัว...ตอนนี้ฉันท้องได้แปดเดือนแล้วค่ะอีกไม่ถึงเดือนก็ถึงกำหนดผ่าคลอดแล้ว บอกเลยว่าฉันทั้งกลัวทั้งกังวลเพราะครั้งนี้ฉันต้องคลอดลูกฝาแฝดแถมยังต้องผ่าคลอดอีกซึ่งตอนคราวฟ้าครามฉันคลอดธรรมชาติ แต่ที่ฉันไม่ต้องกังวลก็คือเด็กๆสมบูรณ์แข็งแรงดีมากทั้งสองสาว ค่ะฉันได้ลูกสาวสองคนเลยนางฟ้าน้อยของฉันแกกลับมาแล้วแต่ไม่ได้กลับมาแค่คนเดียวแกมาพร้อมกันถึงสองคนและคนที่ดีใจที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณฟิวที่นับวันรอว่าเมื่อไหร่สองสาวจะคลอด เขาเห่อลูกมากถึงกับสร้างบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านเดิมเพราะคุณเฟื่องกับคุณท่านไม่ยอมให้ย้ายออก เขาก็เลยตัดสินใจสร้างบ้านอีกหลังเพื่อที่ครอบครัวของเราจะได้อยู่กันที่นั่น และตอนนี้เขาก็ได้สั่งให้สถาปนิกออกแบบห้องนอนให้ลูกสาวทั้งสองคนรวมถึงห้องนอนใหม่ของฟ้าครามแกอยากได้ธีมซุปเปอร์ฮีโร่ที่แกชอบซึ่งคุณฟิวก็ไม่ขัดลูกอยากได้อะไรเขาประเคนให้หมดทุกอย่างจนฉันกลัวว่าฟ้าครามจะกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจแต่เปล่าเลยแกก็ยังเป็นฟ้าครามที่น่ารักของฉันเหมือนเดิม ทุกเย็นหลังเลิกเรียนแกจะคอยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันจนกว่าคุณฟิวจะเลิกงานซึ่งช่วงนี้เขาเปิดบริษัทใหม่ก็เลยต้องทำงานหนักกว่าเดิมสอ
ฟิว....ผมพาฟ้าครามมาเที่ยวสวนสนุกแกชวนผมเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างที่ผู้ปกครองสามารถขึ้นไปเล่นกับลูกได้แม้ว่าผมจะไม่ชอบอะไรพวกนี้เพราะมันเลยวัยของผมมาแล้วแต่ในเมื่อลูกอยากเล่นเพื่อลูกผมก็ต้องตามใจเพราะจะให้แกเล่นคนเดียวแกก็กลัว เสียงหัวเราะของลูกทำให้คนเป็นพ่ออย่างผมต้องยิ้มตาม"คุณลุงค๊าบผมหิวน้ำ" ฟ้าครามเงยหน้าถามผมหลังจากที่เราลงมาจากเครื่องเล่น"ป่ะเดี๋ยวลุงอุ้มไปนะ""ค๊าบบบ^^" พูดจบแกก็อ้าแขนออกทันทีเพื่อให้ผมอุ้ม ผมก้มลงอุ้มลูกแล้วพาเดินไปยังโซนที่ขายอาหารเครื่องดื่ม"อยากทานน้ำอะไรสั่งเลยครับ" ผมถามลูกเมื่อเดินมาถึงร้านขายเครื่องดื่ม"เอาน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นค๊าบ" ลูกชี้ไปที่โซนขายผลไม้ปั่นซึ่งเด็กน้อยคนนักที่จะเลือกทานน้ำผลไม้ปั่นเพราะส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเด็กๆจะชอบทานน้ำอัดลมมากกว่า หลังจากได้เครื่องดื่มแล้วผมก็พาลูกมานั่งทานที่ซุ้ม"คุณลุงทานมั้ยค๊าบอร่อยนะ" แกยื่นแก้วน้ำสตรอเบอร์รี่มาให้ผมแต่ผมส่วยหน้าเพราะผมซื้อน้ำเปล่ามาดื่มแล้ว"ฟ้าครามทานเถอะครับลูก" ผมตอบลูกพร้อมกับยิ้มแล้วนั่งมองดูลูกดูดน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าของแกเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะไปเล่นเครื่องเล่นม