ธวัฒน์เอาสำรับ สำหรับมื้อเย็นของเจ้านายมาให้ แล้วกลับออกไปทันที ไม่ได้อยู่นาน เพราะไม่เห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ที่ด้านล่าง คงจะทำงานอยู่ด้านบนเหมือนเช่นเคย แถมเวลาที่เขาทำงาน ทุกคนจะไม่กล้าเข้าไปเรียกเป็นอันขาด เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังในการทำงาน
ส่วนด้านเจ้าของบ้านเองนั่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่บนที่นอน นานสองนานเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มือหนาเอื้อมขึ้นไปตรงที่หน้าอกของหญิงสาว แค่เปิดเสื้อดูก็รู้แล้วนี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากมายตามคำแนะนำของธวัฒน์ด้วย
“คุณ! จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบมือของร่างสูงอยู่ตรงหน้าอกของเธอ
“เอ่อ...คือ?” อคิราห์รีบชักมือกลับมาอย่างไว และได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร
“ถอยออกไปเลยน่ะ คิดจะฉวยโอกาสฉันเหรอ ไหนว่าฉันไม่ใช่สเปคของคุณยังไงล่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้น แล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกทันที
“คือ ฉันเพียงแค่ต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่างเพื่อความแน่ใจ ไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอก” อคิราห์พูดบอกตามตรง
“พิสูจน์อะไร ถึงจะมาจับที่หน้าอกฉันด้วย ไอ้ลามก!” หญิงสาวไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา แถมพ่นคำด่าออกมาอีก
“นี่! ฉันก็ไม่ได้พิศวาสเธอหรอกน่ะ มันมีแค่วิธีนี้ที่ฉันจะพิสูจน์ว่าเธอบริสุทธิ์ เหมือนที่ปากบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไร” อคิราห์เริ่มที่จะอดทนไม่ไหว เมื่อเจอวาจาที่หญิงสาวสาดใส่เข้า
“ฉันก็บริสุทธิ์อยู่แล้ว คุณออกไปเลยน่ะ ถ้าคิดจะทำอะไรฉัน หากว่าฉันหลุดออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่ ฉันเอาคุณเข้าคุกแน่ไอ้แก่” หญิงสาวไม่ได้ฟังคำที่เขาบอก แต่กลับยังคงไล่ให้เขาออกห่างแถมยังขู่เขาไว้อีก
“มันจะมากเกินไปแล้วน่ะ” อคิราห์หูตาร้อนขึ้นมาทันที จับหญิงสาวกดลงแนบกับที่นอน แล้วทาบทับตัวเธอไว้อีกที โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“โอ้ยยย” หญิงสาวร้องเสียงหลงออกมา แถมข้อมือทั้งสองข้างยังถูกเขากดล็อคแน่นขึ้นเหนือศีรษะ
“ฉันอุตส่าห์พูดดีกับเธอ แต่เธอกล้าด่าฉันเหรอ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นตรงหน้าของเธอ พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของเธออย่างต้องการลงโทษ
“คะ คุณ ฉันผิดไปแล้วคุณลุกขึ้นจากตัวฉันเถอะน่ะ อย่าทำอะไรฉันเลย” หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เมื่อร่างสูงคร่อมเธอไว้จนขยับหนีไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้น ตอบคำถามมา ฉันจะไม่พิสูจน์หรือทำอะไรเธอ แล้วฉันก็จะปล่อยเธอออกไปจากที่นี่ด้วย หากว่าเธอยอมบอกความจริงมั้งหมด” ร่างสูงพยายามใจเย็น แล้วบอกให้เธอยอมบอกเขามา
“ถามมาสิ”
“เธอเป็นใครกันแน่? เอาความจริง” เสียงเข้มถามขึ้น พร้อมกับจ้องมองหน้าเธอไม่ยอมละสายตา
“ฉันชื่อแพรวะอื้อ...”
ร่างสูงก้มลงประกบปากเธอทันที ก่อนที่เธอจะเอ่ยจบประโยค ปากหยักขบเม้มปากอวบอิ่มเบา ๆ ให้เธอเผยอปากรับจูบของเขา ลิ้นร้อนละเลงกวาดต้อนทั่วปากนุ่ม ฉกชิมน้ำหวานจากโพลงปากเธอจนหมดสิ้น จนหญิงสาวปล่อยอารมณ์เผลอไผลไปตามการชักจูงของเขา แค่จูบที่ไม่ประสีประสาก็พอจะรู้แล้วว่าความจริงคืออะไร
แต่มีหรือคนตีมึนอย่างเขาจะพอแค่จูบ มือปลาหมึกเลื่อนไปถลกเสื้อของเธอออกอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้พิสูจน์อะไรบางอย่างที่ต้องการความแน่ใจอีกที และเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของเธอ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวพันธ์กับพ่อของเขา
“ว้ายยย” หญิงสาวร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงดึงเสื้อเธอลงมา
“แพรวา!” เสียงเรียกขื่อขึ้นมาเป็นครั้งแรก หลังจากที่สายตามองมาที่เนินอก กลับไม่พบร่องรอยอะไรตามที่พ่อเคยบอก มีเพียงแค่ยอดปทุมถันสีหวานนี้เท่านั้น ที่ตั้งชูชันตรงหน้า
“ปล่อย...” เสียงสั่นเอ่ยบอก พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้า
“แพร” เสียงเรียกชื่อของหญิงสาว ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มละมุน
“ฮึก...พอใจหรือยัง ฮึก” เสียงต่อว่าที่สั่นสะอื้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาทันทีต่อหน้าเขา
“ยัง จ๊วบ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับก้มลงประกบปากเธออีกครั้งอย่างห้ามใจไม่ได้
เดิมทีเขาตั้งใจแค่จะดูเพียงแค่ปานตรงที่หน้าอกเพื่ออยากทราบความจริง แต่เมื่อได้เห็นเนินอกขาว ๆ นี้ กลับห้ามใจไม่อยู่ความอดทนที่มีขาดลงอย่างง่ายดาย คำพูดที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า จะไม่ทำอะไรเธอ เขากลับกลืนน้ำลายตัวเองเสียอย่างนั้น
มือหนาบีบนวดไปที่อกตูมที่เด้งสู้อย่างเมามันส์ ที่ดูจะใหญ่เกินตัว เรือนร่างที่อวบขาวอวบนี้ช่างน่าฟัดเสียเหลือเกิน
เมื่อหญิงสาวคล้อยตาม ปากหยักไถลมาตามซอกคอขาว ขบเม้มเพื่อให้เกิดรอยแสดงความเป็นเจ้าของทันที คุกอะไรตอนนี้ไม่สนแล้ว ขอแค่ได้เชยชมร่างกายหญิงสาวตรงหน้านี้ก็พอ แล้วหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเลือกเองทั้งนั้น
ปากหยักเลื่อนลงมาที่เนินอกขาว ดูดเม้มทำรอยไว้ทุกที่ที่ปากไปถึง มืออีกข้างที่ล็อคข้อมือเธออยู่ก็ปล่อยให้เป็นอิสระ จับแขนเธอขึ้นมาพาดที่ต้อคอของเขาไว้
“อ๊ะ...ซีด” เสียงร้องซีดปากของเธอ เมื่อร่างสูงดูดดึงที่เต้าอวบคู่งามอย่างโหยหิว อาการวูบหวามเหมือนผีเสื้อนับพันกำลังบินวนอยู่ทั่วท้อง
ร่างสูงถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างง่ายดาย และตามด้วยเสื้อผ้าของเขา จนตอนนี้ร่างกายทั้งสองเปลือยเปล่าเท่ากัน
ร่างกายอวบอิ่มเพียงเล็กน้อย สีผิวขาวผ่องช่างดึงดูดเขาเสียเหลือเกิน สวยเธอสวยมากจริง ๆ แถมเนื้ออวบนูนที่มีขนขึ้นปกคลุมเพียงเล็กน้อยนี้ กลีบกุกลาบสีหวานที่ยังคงปิดสนิทเหมือนยังไม่เคยมีใครได้ลุกล้ำ เขาคงต้องเป็นคนพิสูจน์เองแล้วสิ
หญิงสาวนอนหายใจรวยรินบนที่นอน มองดูร่างสูงตรงหน้าที่ร่างกายเปลือยเปล่า กับตัวตนอันใหญ่โตที่อยู่ตรงหน้า ตาลุกวาวขึ้นมาทันที อยากจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่อาจห้ามใจที่ต้องการได้ เพราะวัยที่อยากรู้อยากลอง
มือหนาจับตัวตนที่เขม็งชัดสาวสองสามครั้ง แล้วเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักบนหัวเตียง หยิบห่อฟอยล์ออกมา กัดฉีกซองแล้วสวมทับตัวตนของเขาทันที
มือหนาจับแยกขาเธอออกกว้าง แล้วตัวแทรกนั่งอยู่ตรงหว่างขา มือจับตัวตนที่สวมเกราะป้องกันถูไถไปมาตรงกลีบกุหลาบที่รูยังคงปิดสนิท แต่มีน้ำมันวาวออกมาเคลือบอยู่บ้าง
กึก
มือหนากดตัวตนเข้าแทรกตรงปากทางรักของหญิงสาว แต่กลับไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ จึงจับขาเธอแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นอีก แล้วจึงกดแทรกตัวตนเข้าไปใหม่
กึก กึก
แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงขยับตัวถอยออกเพียงเล็กน้อย แล้วดึงเกราะป้องกันออกโยนทิ้งไปทันที แล้วจับตัวตนที่ไร้เกราะป้องกันกดแรกเข้าไปใหม่อีกครั้งอย่างเชื่องช้า
กึก กึก สวบ
“อ่าห์...” เสียงครางสุขสมเปล่งออกมาทันที ที่ตัวตนสามารถเข้าไปได้ถึงแม้จะพึ่งเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้น
แต่หญิงสาวใต้ร่างใบหน้าบิดเบี้ยว น้ำตากลับไหลออกมา พร้อมกับจิกเล็บลงที่แขนของเขาอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บ
“เจ็บ...”
บทพิสูจน์ NC“แพร...” ร่างสูงก้มลงมาจูบปากของเธออีกครั้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจกึก กึก สวบ“กรี๊ดดด...เจ็บ ฮือ เอามันออกไป แพรไม่เอาแล้ว”เขาดันตัวตนลงไปที่เดียวจนมิดด้าม ด้วยความอยากลำบาก และรับรู้ถึงเยื้อผนังกั้นบาง ๆ ที่เขาทำลายลง ทำให้เขาทราบได้ทันที ว่าเธอไม่ใช่คนที่พ่อเขามีสัมพันธ์ด้วย เขาจึงแช่ตัวตนไว้เพื่อให้เธอได้ปรับตัว“แพร...” เสียงกระเส่าเอ่ยเรียกชื่อของเธอใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เมื่อได้รู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอ ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ตอนนี้ไม่สนแล้ว ขอกอบโกยความสุขตรงนี้เอาไว้ให้หนำใจเสียก่อน“เจ็บ...ฮือ” เสียงสั่นสะอื้นเอ่ยขึ้นบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาดั่งสายธาร“แพร! พี่ถอยไม่ได้แล้ว” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองกับเธอทันที พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับเธอขึ้นมา แล้วมือก็ช้อนคางเธอขึ้นมาให้สบตากับเขา“...” หญิงสาวไม่โต้ตอบอะไรเข้ากลับ เอาแต่หลบสายตา พร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด“ขอโทษที่ไม่สืบให้ดีกว่านี้ก่อน ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายของแพร และขอโทษที่จับตัวแพรมา แต่ขอบคุณน่ะ ที่ให้พี่ได้เป็นคนแรกของแพร มีความสุข
พิสูจน์หาความจริง NCธวัฒน์เอาสำรับ สำหรับมื้อเย็นของเจ้านายมาให้ แล้วกลับออกไปทันที ไม่ได้อยู่นาน เพราะไม่เห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ที่ด้านล่าง คงจะทำงานอยู่ด้านบนเหมือนเช่นเคย แถมเวลาที่เขาทำงาน ทุกคนจะไม่กล้าเข้าไปเรียกเป็นอันขาด เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังในการทำงานส่วนด้านเจ้าของบ้านเองนั่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่บนที่นอน นานสองนานเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มือหนาเอื้อมขึ้นไปตรงที่หน้าอกของหญิงสาว แค่เปิดเสื้อดูก็รู้แล้วนี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากมายตามคำแนะนำของธวัฒน์ด้วย“คุณ! จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบมือของร่างสูงอยู่ตรงหน้าอกของเธอ“เอ่อ...คือ?” อคิราห์รีบชักมือกลับมาอย่างไว และได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร“ถอยออกไปเลยน่ะ คิดจะฉวยโอกาสฉันเหรอ ไหนว่าฉันไม่ใช่สเปคของคุณยังไงล่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้น แล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกทันที“คือ ฉันเพียงแค่ต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่างเพื่อความแน่ใจ ไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอก” อคิราห์พูดบอกตามตรง“พิสูจน์อะไร ถึงจะมาจับที่หน้าอกฉันด้วย ไอ้ลามก!” หญิงสาวไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา แถม
อยากพิสูจน์ทางด้านของพงษ์พิพัฒน์เมื่อลูกสาวคนเล็กที่เกิดจากภรรยาอีกคน หายตัวไปหลายวันแล้ว แถมติดต่อก็ไม่ได้ ก็มีความกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย จึงจ้างให้คนคอยตามสืบไปทุกที่ ที่หญิงสาวเคยไป หรือเพื่อนที่หญิงสาวรู้จัก แต่ก็ยังไร้วี่แววข่าวคราวของเธอ เพราะกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือถูกตัดระบบหมด แถมหญิงสาวยังใช้เพียงโทรศัพท์เครื่องธรรมดาอีกด้วย จึงตามตัวได้ยาก“หนูหายไปไหนแพรวา” เสียงทุ้มพูดคนเดียวอย่างเหนื่อยใจและหมดหวัง เมื่อคนที่จ้างวานสืบข่าวของลูกสาวคนเล็ก แจ้งมาว่ายังไม่มีข่าวคราวอะไรเขาจ้างให้คนตามสืบข่าวอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้ภรรยาที่บ้านรับรู้ ถ้าจะไม่ตามหาเลยก็ตัดขาดไม่ลง เพราะหญิงสาวคือลูกในไส้ ที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองแท้ ๆเขารักเธอเท่ากับลูกสาวอีกคน แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเกรงใจภรรยาที่จดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะหมดรักกันไปนานแล้วก็ตาม และเขาก็ทำผิดต่อภรรยาด้วยที่เผลอตัวเผลอใจไปรักกันกับหญิงสาวที่เป็นเพียงสาวใช้ภายในบ้านและอีกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของลูกคนนี้ด้วย จึงทำได้เพียงแต่คอยดูการเติบโตของเธออยู่ห่าง ๆ และอีกไม่นานเธอก็จะ
เริ่มสงสัย“รถใครมาเหรอจิตรี” นิตยาถามแม่บ้านที่อยู่บริเวณนอกบ้านขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามา“คุณคินกับเพื่อน ๆ คะคุณหญิง” จิตรี ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสของที่นี่ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่พวกเขามาตั้งรกรากกันเลย แถมยังเป็นแม่แท้ ๆ ของ ธวัฒน์อีกด้วย“สวัสดีครับ อานิตเป็นยังไงบ้างครับ” ธีรเมธเป็นฝ่ายทักทายก่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านตามอคิราห์ พร้อมกับของฝากจากไร่ของเขาด้วย“สวัสดีลูกดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ยังต้องนั่งรถเข็นอยู่ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนบ่อย ๆ” นิตยาตอบไปพร้อมกับติดตลก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุนั้น เขาจะชอบเดินไปสอดแนมที่บ้านลูกชายบ่อย ๆ กลัวลูกชายจะเอาผู้หญิงสาวสำราญมาค้างด้วย“เดี๋ยวอานิตก็กลับมาเดินได้ครับ” เธียรวัฒน์พูดอย่างให้กำลังใจแม่ของเพื่อนที่พึ่งออกมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสมา“ว่าไงพ่อตัวดี ถ้าเพื่อนไม่มา ก็ไม่มาหาแม่ที่บ้านเลยนะ ไม่รู้ว่ามีอะไรยุ่งนักหนาขลุกอยู่แต่ที่นั่น” นิตยาหันมาพูดเหน็บแนมทางลูกชายทันที“ผมงานยุ่งนี้ครับแม่” อคิราห์เอาแต่ตอบทีเล่นที และยกเอางานที่ไร่มาอ้าง
เก็บความสงสัยกรุงเทพมหานครบนพื้นห้องนอนในคอนโดฯสุดหรู ที่เต็มไปด้วยเศษซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สองร่างเปลือยเปล่ายังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแน่นแฟ้นอยู่ที่นอนกว้างนั้น ในคอนโดฯหรูของพระเอกหนุ่มอย่างเทวินทร์ ที่เป็นคู่ขาคนใหม่ของพัชร์สิตา“วินพอแล้วนี่มันสายมากแล้วน่ะ พราวต้องกลับแล้ว” หญิงสาวเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มยังคงคลอเคลียไม่หยุด“ขออีกรอบได้ไหม?” เสียงกระเส่าเอ่ยขอขึ้นมา แต่ยังปากก็ยังคงทำหน้าที่จูบซับไปตามซอกคอขาวของเธอ“แต่เมื่อคืนพราวก็ให้ทั้งคืนแล้ว จนแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยบอก เพราะคืนเร้าร้อนที่ผ่านมา ก็แทบจะไม่ได้พักเลย ไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ นับจากสภาพเศษซากถุงยางอนามัยแล้ว แทบจะไม่เชื่อสายตาด้วยเองด้วยซ้ำ ว่าทำลงไปได้ยังไง ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้น่ะ แต่เพราะเธอมีงานต่อ “ก็พราวเด็ดนี่ อีกรอบนะครับ เดี๋ยววินจะรีบเร่งให้ แล้วจะรีบไปส่งพราวที่บ้านนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยประโยคที่หว่านล้อมหญิงสาว“...แต่ อย่าทำรอยน่ะ เย็นนี้พะราวมีงาน” หญิงสาวรีบเอ่ยห้าม เมื่อชายหนุ่มขบเม้มที่ซอกคอของเธอ“ครับ” เสียงครางกระเส่ารับคำ แล้วซุกไซร้ซอกคอข
ไม่สบอารมณ์สิตาพัชร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ กลับต้องพบเพียงความเงียบ เพราะเจ้าของบ้านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ยังไม่กลับมา และไม่มีใครอื่นใดที่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะเจ้าของสั่งห้ามเอาไว้ หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเลยเธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง จึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งสวมพอแก้ขัดไปก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรใส่เลย แล้วจึงเดินลงมาที่ด้านล่างกลับต้องพบถุงมากมาย วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องรับแขก เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปเปิดออกดู พบเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นแต่ของผู้หญิง แม้กระทั่งชุดชั้นในในนั้นอีกด้วยแถมเสื้อผ้าแต่ละตัวยังเป็นขนาดไซส์เดียวกันกับที่เธอใส่อีก และชุดชั้นในนี้ก็ด้วย แต่หญิงสาวกลับเก็บเข้าไว้ที่เดิมคืน และกำลังจะหันหลังเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“ทำอะไร” เสียงเข้มดังขึ้นมาตามหลังของเธอเสียก่อน“...” หญิงสาวไม่หันหลังมามอง เพราะเธอสวมเพียงเสื้อตัวเดียว แถมไม่มีชั้นใส่อีกด้วย จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แต่แต่จะกล้าขยับเดิน“ของเธอ รับไปสิ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นบอก โดยลดน้ำเสียงอ่อนลงมา“ไม่เป็นไร...” เธอรีบปฏิเสธทันควันโ