LOGIN“คุณฉลามส่งนิลตรงนี้ก็ได้ค่ะ” ใช้เวลาจากไร่ภูตะวันเข้ากรุงเทพราวหนึ่งชั่วโมง เธอยืมโทรศัพท์ฉลามต่อสายหาบอดี้การ์ดสาวคนสนิทให้มารอรับ และ ภูตะวันไปพบพ่อเธออย่างที่คาดเดาไม่มีผิด “แน่ใจเหรอครับ กว่าจะถึงผับคุณเนนิลก็ไกลอยู่นะครับ” “นิลให้คนมารอรับแล้วค่ะ คุณฉลามไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “อ๋อ โอเคครับ ถ้าได้ข่าวเจ้านายยังไงโทรมาบอกผมด้วยนะครับ” “ค่ะ” นิวารินตอบรับเพียงเท่านั้นด้วยรอยยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็รีบเปิดประตูลงจากรถไปอย่างเร่งรีบ โดยมีสายตาของฉลามมองตามไปจนกระทั่งรถสปอร์ตหรูสีขาวขับเข้ามารับเธอ “หน้าผากไปโดนอะไรมาคะคุณหนู หรือ ผู้ชายคนนั้นทำร้ายคุณหนู” เคทขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นแผลเล็ก ๆ บริเวณหน้าผากของคุณหนู เชื่อว่าแผลไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ต้องมีคนทำให้เกิด และ มีอยู่คนเดียวที่จงเกลียดจงชังคุณหนูของเธอเข้าไส้ ไอ้หมาบ้าตัวนั่นแน่ ๆ “อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เลยค่ะ รีบไปที่ผับกันก่อนเถอะค่ะ นิลไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะนิลเป็นต้นเหตุอีก” “ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นทำร้ายคุณหนูให้เจ็บช้ำน้ำใจสารพัดน่ะเหรอคะ” เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมคุณหนูถึงคอยเป็นห่วงเป็นใยช่วยเหลือผู้ชายที่คิดทำร้า
#หลายชั่วโมงต่อมา ภูตะวันนั่งบนเก้าอี้เหล็กตรงไร่องุ่นที่ถูกวางเพลิงเหลือแค่ซากกิ่งไม้และโค้งเหล็กไว้ให้ดูต่างหน้า ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความเครียดขึงก้มลง มือทั้งสองข้างประสานกันกลางหว่างขา ปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายรินไหลออกจากหัวตาหยดลงดินแล้วหยดเล่า ทั้งคืนไม่ได้นอน เช่นเดียวกันกับคนงานในไร่ ทุกคนต่างเสียขวัญเสียกำลังใจ ใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าไฟจะสงบก็รุ่งสาง ไฟไหม้แค่ไร่องุ่นท้ายไร่ ซึ่งเป็นองุ่นสายพันธุ์ที่ใช้สำหรับผลิตไวน์เกือบทั้งหมด ดีที่ไม่ลุกลามไปพื้นที่อื่น ๆ สร้างความเสียหายให้กับไร่เป็นอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับเงินก็หลายล้าน เสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาทำให้ภูตะวันรีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นจากด้านหลัง “นาย”ฉลามที่เห็นเจ้านายเอาแต่นั่งอยู่ที่เดิมนานนับชั่วโมง จึงทำใจกล้าเดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่รู้ว่าผู้เป็นนายกำลังรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ต้องการอยู่เงียบ ๆ คนเดียว “มึงไสหัวไปให้พ้นกู!” “นายไปพักผ่อนก่อนดีไหมครับ” รู้ทั้งรู้ว่าต้องทำให้ผู้เป็นนายไม่พอใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความห่วยใย “มึงหูหนวกเหรอวะไอ้ฉลาม!” ภูตะ
ไร่องุ่นภูตะวัน ภูตะวันใช้เวลาขับรถมาที่ไร่ราวสี่สิบนาทีอย่างร้อนใจ อารมณ์ที่เต็มไปด้วยความโกรธจัด จึงเหยียบคันเร่งจนมิด ความเร็วเกินกว่ามาตรฐานกำหนดไปมาก ทำให้คนที่นั่งมาด้วยหวาดผวาอยู่ทุกนาที “เอ้า! เร็ว ๆ ช่วยกันดับไฟ” เสียงของหัวหน้าคนงานตะโกน ขณะที่คนงานวิ่งวุ่นช่วยกันหาน้ำมาดับไฟที่โหมกระหน่ำออกเป็นวงกว้าง ช่วยรถดับเพลิงอีกแรง แม้ว่าจะช่วยได้ไม่มาก แต่ก็ดีกว่ายืนอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร วินาทีที่ภูตะวันเห็นไร่องุ่นหลายสิบไร่ที่ลงทุนสร้างด้วยตัวเองกำลังถูกไฟแผดเผาไหม้ด้วยน้ำมือของคนเลว หัวใจแกร่งก็พลันสลาย ดวงตาดำมืดแดงก่ำเบิกกว้าง มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นขย้ำผมตัวเองแน่นด้วยความเจ็บปวดและเสียใจ จนกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อไม่สามารถปกป้องสิ่งที่ตัวเองรักได้อีกเป็นครั้งที่สอง นิวารินเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ก็ถึงกับอึ้งงันเสียใจไม่ต่างจากทุกคน แต่คนที่เจ็บปวดมากที่สุดตอนนี้เห็นจะไม่ใช่เธอ แต่เป็นเขา…เขาที่ต้องเจอแต่เรื่องร้าย ๆ เพราะเธอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด หมับ! “อ๊ะ!” ใบหน้าสวยเปื้อนน้ำตาบิดเบ้ด้วยความเจ็บ เมื่อร่างสูงหันกลับมาบีบต้นแรงแน่นรา
“...ตอนนี้ฉันมีหลักฐานมากพอ ที่จะเอาเธอเข้าคุกได้ในทันที เพราะฉะนั้น…ถ้าเธอรู้สึกผิดจริงล่ะก็ ไปมอบตัวกับตำรวจกับฉันวันพรุ่งนี้ สารภาพความผิดทุกอย่าง..” “...” ภูตะวันหม่นคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เมื่อนิวารินยืนนิ่งสบตาไม่พูดอะไรหลังจากได้ฟังสิ่งที่เขาบอกกับเธอ เธอไม่มีท่าทีเป็นกังวลหรือตกใจเลยสักนิด อีกทั้งแววตาคู่สวยยังฉายชัดถึงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว ทำให้เขาไม่สามารถคาดเดาความคิดเธอได้ หรือบางทีเธออาจกำลังกลบเกลื่อนความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเองอยู่ก็ได้“ว่ายังไง” เป็นเขาที่ต้องตั้งคำถามกับเธออีกครั้ง “...ได้” เงียบอยู่นานเธอถึงได้เอ่ยตอบตกลง แล้วถามหาหลักฐานอย่างเป็นการลองเชิงในประโยคต่อมา เธอยังไม่ปักใจเชื่อว่าเขามีหลักฐานอย่างที่กล่าวอ้างจริง ๆ “แต่ก่อนที่ฉันจะไปมอบตัวกับตำรวจ ฉันต้องได้เห็นหลักฐานที่คุณพูดถึงทุกอย่าง รวมถึงหลักฐานของพ่อฉัน” “หึ หัวหมอเป็นเหมือนกันหนิ” ภูตะวันเค้นเสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน “หลักฐานที่จะใช้มัดตัวเธอน่ะ…มีแน่อยู่แล้ว ส่วนหลักฐานพ่อเธอที่ฉันเคยพูดถึง ไม่มีจริง ๆ หลอก แต่ข้อมูลสำคัญที่ฉันมี สามารถทำให้พ่อเธอสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ในชั่วข้าม
@ผับ M ชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างกำยำอยู่ในชุดเรียบง่าย เสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีดำสวมทับเสื้อยืดสีขาวด้านใน ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนขายาวสีดำไซซ์พอดีตัว ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ ผมเผ้าถูกเซตอย่างดูดีเป็นที่สะดุดตาของสาว ๆ ที่กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกตามเสียงเพลงที่เปิดภายในผับหรู พวกเธอเหล่านั้นต่างอยากครอบครองชายหนุ่มที่เดินผ่าน แต่ก็ทำได้แค่มอง... ภูตะวันพาตัวเองเดินขึ้นมาชั้นสองของผับ โดยทำเมินเฉยต่อสายตาของสาวสวยที่มองมา “มาช้ากว่าเพื่อนเลยนะพ่อพระเอก” ทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะริมระเบียงที่มองลงไปเห็นชั้นล่างของผับอย่างชัดเจน ก็ถูกเพื่อนรักอย่างองศาพูดจาไม่เข้าหู ภูตะวันไม่ได้ตอบกลับ กระแทกตัวนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามกับปริญลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังด้วยใบหน้าราบเรียบ “แผลที่หน้าหายดีแล้วหนิ” สองวันก่อนบาดแผลบนใบหน้าของไอ้เพื่อนรักยังชัดเจน แต่วันนี้ดูจางลงจนแทบไม่เหลือร่องรอย “อือ” ภูตะวันส่งเสียงในลำคอตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางยื่นมือรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแพงในแก้วที่องศายื่นมาให้ “ขอบใจ” “แล้วส่วนอื่น ๆ ในร่างกายมึงล่ะ” “มึงมาดื่มหรือมาตรวจร่างกายได้ภูวะ ถามซะละเอียดเลยไอ้สัส” องศา
หิรัญ ทันเวศกุล หนุ่มหล่อ ตัวสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร อายุยี่สิบแปด เรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจจากอเมริกา ดีกรีเป็นถึงทายาทหมื่นล้านแห่งบริษัท AC กรุป ส่งออกและนำเข้าอะไหล่รถยนต์หรูใหญ่ที่สุดในประเทศ มีโชว์รูมรถหรูหลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกเหนือจากนั้นยังมีธุรกิจสีเทาที่ทำอยู่เบื้องหลัง ทั้งค้าขายอาวุธเถื่อน เปิดบ่อนคาสิโนผิดกฎหมายหลายแห่งในประเทศฮ่องกง แม้อายุจะยังถือว่าน้อยในแวดวงมาเฟีย แต่กลับสามารถสร้างตัวตนขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งบารมีของผู้เป็นพ่อที่วางมือจากวงการมาเฟียไปแล้ว ถือว่าเป็นมาเฟียหนุ่มไฟแรงที่มีทั้งเงินทองทั้งอำนาจ ไม่เป็นสองรองจากมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในแถบเอเชียร์“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” นิวารินยิ้มด้วยความดีใจที่พี่ชายคนสนิท ซึ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กกลับมาในรอบสิบปี หลังจากต้องไปรับช่วงต่อบริหารงานบริษัทที่ฮ่องกงต่อจากผู้เป็นพ่อ“กลับมาเมื่อวานครับ” นิวารินพยักหน้ารับรู้ แต่ระหว่างนั้นน้ำเสียงใจดีของผู้หญิงที่อ่อนโยนและจิตใจดีที่สุดของบ้านก็เอ่ยขึ้นกับลูกสาว “น้องนิลมานั่งข้าง ๆ แม่นี่มาลูก” “ค่ะแม่” นิวารินตอบรับผู้เป็นแม่ด้วยรอยย







