LOGIN“อย่างอื่น?”
“หึ หมายถึงพวกวอดก้าน่ะ หรือว่าคุณคิดเป็นอีกแบบ?” เขาพูดพรางทำหน้ายียวนเหมือนตั้งใจกวนประสาทกัน ไม่พอยังโน้มหน้าลงมาจนลมหายร้อนรดเข้าไปพวงแก้มนุ่ม ชวนเอาเธอร้อนรุ่มไปด้วย ไม่ได้นะยัยฟ้า จะมารู้สึกเพียงเพราะความใกล้ชิดแค่นี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน “ไม่แล้วค่ะ ฉันจะกลับเข้าไปหาเพื่อนแล้ว ป่านนี้เพื่อนคงจะตามหาฉันแล้ว” ข้ออ้างเฉยๆนั่นแหละ พอเธอพูดเสร็จก็ทำท่าจะปรีดตัวออกจากเขาที่แทบจะต้อนเธอจนมุมกับเสาด้านหลัง แต่ร่างเล็กยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขา ก็ถูกมือหนาทาบทับลงคํ้ายันกับเสาด้านหลังเพื่อล็อคร่างเธอเอาไว้ไม่ปล่อยให้เธอได้หนีไปไหน อะไรของเขาเนี่ย… “แน่ใจเหรอว่าเพื่อนตามหาน่ะ เท่าที่ผมเห็น เหมือนว่าเพื่อนคุณจะไม่อยากให้คุณกลับไปที่โต๊ะมากกว่านะ” มุมปากหยักเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ยังคงนิสัยเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนสินะ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหกนั่นแหละ เพราะเธอเองก็รู้จักยัยเพียงดาวดี ยัยเพื่อนตัวดีป่านนี้คงจะกำลังมีความสุขอยู่กับหนุ่มหล่ออย่างคุณฟาบิโอหรือไม่ก็คงไปควบหนุ่มที่ไหนสักคน “ผมอยากชวนคุณไปลองวอดก้าด้วยกันจริงๆนะครับ” เขายังคงเชิญชวนเธอไม่หยุด ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาจนเราสองคนสบตากันในระยะประชิด พอได้มองเขาไกล้ๆแบบนี้อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันสามปี เขาก็ยังคงหล่อดูดีไม่เปลี่ยนเลยสักนิด… เธอไม่เคยนึกสงสัยตัวเองในอดีตเลยว่าตกหลุมรักเขาไปได้ยังไง ถ้าตัดเรื่องนิสัยเลวทรามนั่นออกไปน่ะนะ พอคิดถึงเรื่องน่าเจ็บใจนั่น จากที่ยืนนิ่งอยู่ในพันธนาการของเขา มือเล็กก็เริ่มดันอกแกร่งออกจากตัวเอง แต่ดูเหมือนนั่นจะกลายเป็นการทำให้เขาลวนลามเธอได้มากกว่าเดิมเสียอย่างนั้น เมื่อมือหนาทาบทับลงบนแผ่นหลังมือของเธอพลันกดแรงไม่ให้เธอได้ผละมือออกจากแผงอกลํ่าๆของเขา ก็ยังคงร้ายกาจไม่เปลี่ยน! “ปล่อยค่ะ” เธอเริ่มแยกเขี้ยวใส่เขาอย่างไม่พอใจ แต่ใครจะรู้ว่าแทนที่จะน่ากลัว กลับกลายเป็นว่าน่ารักในสายตาเขาเสียอย่างนั้น เขาหัวเราะขำหึๆในลำคออย่างชอบใจ ก่อนจะยิ่งโน้มหน้าเข้าใกล้จนปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับพวงแก้มนวลเชิญให้ขนลุกซู่ไปหมด “น…นี่คุณ” “ไม่สนจริงเหรอ ห้องผมมีครบนะ ขอแค่คุณต้องการ” เขาพึมพำอยู่ตรงพวงแก้มนุ่มของเธอเสียงพร่า จะเอาแต่ชักชวนกันไม่หยุดจริงๆหรือยังไงกัน นี่เขาต้องหน้าด้านขนาดไหน ถึงได้มาทำตัวแบบนี้กับแฟนเก่าที่ตัวเองเป็นคนทรยศหักหลังน่ะ… น่ารังเกียจที่สุด! “ฉันไม่สนใจค่ะ ปล่อยด้วย” เธอตอบเขาเสียงแข็ง แม้จะรู้ว่ามันไม่เป็นผลก็เถอะ เธอรู้จักเขาดี คนอย่างฟรานเชสโก้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ นั่นคือนิสัยเอาแต่ใจของเขา แต่ฝันไปเถอะว่าคราวนี้เขาจะได้ดั่งใจน่ะ อย่างน้อยมันต้องไม่ใช่กับเธอ “ว้า แย่จังเลยนะครับ เพราะถ้าหากผมต้องการแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าผมไม่เคยปล่อยให้เหยื่อหลุดมือ” เขาเอ่ยอย่างหน้าตาย แววตาคมกริบจ้องเธอราวกับจะจับเธอกินให้ได้ เหยื่ออย่างนั้นหรอ? ท้ายที่สุดยังไงเธอก็เป็นได้แค่นั้นในสายตาเขาสินะ เกลียดที่สุด… “หึ งั้นก็ต้องโทษทีค่ะ เพราะฉันจะไม่ตกเป็นเหยื่อของใคร โดยเฉพาะคนอย่างคุณ!” เธอช้อนสายตามองเขาอย่างขุ่นเคือง แล้วดูเหมือนคำพูดเธอจะเข้าไปขยี้ต่อมความอดทนของเขาได้ดีเลยทีเดียว “คนอย่างผม? คนอย่างผมนี่มันยังไง” ก็คนชาติชั่ว สารเลวไงล่ะ! เธออยากจะตะโกนดังๆใส่หน้าเขาไปให้มันจบๆ แต่ปากทรยศนี่กลับหนักอึ้งพูดไม่ออกนี่สิ ได้แต่ขืนมือตัวเองพยายามจะดึงออกจากพันธนาการที่กอบกุมมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย “นี่คุณแกล้งโง่อยู่หรือยังไงกัน หรือว่าสมองเสื่อม?” ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเผลอสถบใส่อารมณ์ด่าเขาไปเต็มๆ จนคนฟังขบกรามแน่น มือหนาที่กอบกุมมือเธออยู่ เปลี่ยนมารวบท้ายทอยเธอเข้าแนบริมฝีปากตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว “อื้มม!!” เขาฉกริมฝีปากยัดเยียดจูบให้เธอหนักๆไม่ปล่อยให้เธอได้มีแม้แต่โอกาสขัดขืน มือหนาของเขาล็อคท้ายทอยเธอไว้แน่น แม้ฝ่ามือเล็กจะพยายามดันอกแกร่งออกห่าง ทว่าแรงน้อยนิดที่เธอมีมันกลับต่อต้านเขาไม่ได้เลยด้วยซํ้า เรียวปากเล็กถูกเขาบดขยี้ลงมาแรงๆราวกับโหยหากันมานาน ทั้งที่เขาเองเป็นคนทรยศเธอแท้ๆ แต่วันนี้กลับมาโขมยจูบจากเธอหน้าด้านๆเนี่ยนะ “อื้มมม!” เสียงเล็กประท้วงอู้อี้ในลำคอ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะยิ่งเธอขัดขืน เขาก็ยิ่งกดจูบเธอรุนแรงราวกับจะกลืนกินเธอลงไปด้วยทั้งตัว ไม่พอแค่นั้น เขายังตั้งใจกัดกริบปากล่างเธอเบาๆเป็นการบังคับให้เธอเผยปากออก แล้วเขาก็ทำมันสำเร็จ ลิ้นสากดันเข้ารุกลํ้าทั่วโพรงปากนุ่มจนเกิดเสียงแลกนํ้าลายกัน รสชาตินํ้าสีอำพันที่ต่างกระดกดื่มเข้าไปเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ปลายลิ้น ยิ่งเพิ่มความร้อนรุ่มดุเดือดให้กับรสจูบเป็นเท่าตัว เขาครอบครองจูบเธออยู่แบบนั้นนานนับนาทีจนเธอเองเผลอไผลไปกับรสชาติแสนเร่าร้อนที่เขามอบให้ ไม่สิ เธอควรจะเกลียด… ควรจะขัดขืนเขาให้ถึงที่สุดสิ! เกร๊ก… เสียงกระบอกปืนที่ถูกยกขึ้นมาจี้กลางอกแกร่งดังเกร๊ก พร้อมกับนิ้วเรียวที่พร้อมลั่นไกลปืน เขาดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย แต่มันก็แค่เล็กน้อยจนเธอแทบไม่ทันได้สัมผัส ก่อนมือหนาที่ทาบทับอยู่บนเสาด้านหลังจะเปลี่ยนมาจับกุมมือเธอที่จับปืนไว้แน่น แล้วที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นคือ เขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด กลับกันยังกดจูบเธออยู่อย่างนั้นราวกับว่าจะต้องแลกกับกระสุนนัดนี้เพื่อได้จูบเธอก็ยอม จ๊วบ! เสียงถอดถอนจูบดังออกมาเมื่อเขายอมผละริมฝีปากหนาออกจากกริบปากนุ่มของเธอ ตามมากับเสียงหอบหายใจเบาๆจากเธอ ใบหน้านวลแดงปรั่ง ไม่รู้เพราะความร้อนรุ่มที่กำลังลุกแล่นอยู่ทั่วร่างกาย หรือเพราะความโมโหโกรธเขากันแน่ “จับปืนต้องจับให้มั่นสิ มือสั่นแบบนี้จะไปขู่ศัตรูที่ไหนได้หืม”“อย่างอื่น?” “หึ หมายถึงพวกวอดก้าน่ะ หรือว่าคุณคิดเป็นอีกแบบ?” เขาพูดพรางทำหน้ายียวนเหมือนตั้งใจกวนประสาทกัน ไม่พอยังโน้มหน้าลงมาจนลมหายร้อนรดเข้าไปพวงแก้มนุ่ม ชวนเอาเธอร้อนรุ่มไปด้วย ไม่ได้นะยัยฟ้า จะมารู้สึกเพียงเพราะความใกล้ชิดแค่นี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน “ไม่แล้วค่ะ ฉันจะกลับเข้าไปหาเพื่อนแล้ว ป่านนี้เพื่อนคงจะตามหาฉันแล้ว” ข้ออ้างเฉยๆนั่นแหละ พอเธอพูดเสร็จก็ทำท่าจะปรีดตัวออกจากเขาที่แทบจะต้อนเธอจนมุมกับเสาด้านหลัง แต่ร่างเล็กยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขา ก็ถูกมือหนาทาบทับลงคํ้ายันกับเสาด้านหลังเพื่อล็อคร่างเธอเอาไว้ไม่ปล่อยให้เธอได้หนีไปไหน อะไรของเขาเนี่ย… “แน่ใจเหรอว่าเพื่อนตามหาน่ะ เท่าที่ผมเห็น เหมือนว่าเพื่อนคุณจะไม่อยากให้คุณกลับไปที่โต๊ะมากกว่านะ” มุมปากหยักเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ยังคงนิสัยเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนสินะ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหกนั่นแหละ เพราะเธอเองก็รู้จักยัยเพียงดาวดี ยัยเพื่อนตัวดีป่านนี้คงจะกำลังมีความสุขอยู่กับหนุ่มหล่ออย่างคุณฟาบิโอหรือไม่ก็คงไปควบหนุ่มที่ไหนสักคน “ผมอยากชวนคุณไปลองวอดก้าด้วยกันจริงๆนะครับ” เขายังคงเชิญชวนเธอไ
ทั้งสองคนนั่งดื่มกันจนได้ที่จนพวงแก้มแดงปลั่ง เนื่องจากผิวที่ขาวผ่องจนเห็นเส้นเลือดชัดเจน ก่อนเสียงทุ้มของใครอีกคนที่เดินเข้ามาทักทายจะดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีดังกระหึ่ม “แฮ่ม… ขอร่วมวงด้วยคนได้มั้ยครับคนสวย” ร่างเพรียวสองคนบนโต๊ะเงยหน้ามอง ก็ปรากฏว่าเป็นฟาบิโอ หนุ่มหล่อที่เธอเพิ่งยืนคุยด้วยในงาน “อ้าว คุณฟามาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ที่ไหนมีเหล้า ที่นั่นก็ย่อมมีผมนั่นแหละครับ” ฟาบิโอกล่าวขำๆ พรางถือวิสาสะนั่งลงข้างๆเธอโดยที่ไม่รอคำตอบ “มาเที่ยวกันสองคนในที่แบบนี้ ไม่กลัวจะเป็นอันตรายหรือไงกันครับ ยิ่งสวยๆอยู่ด้วย” เขาเอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนัก สายตาเจ้าชู้นั่นก็เล่นหูเล่นตาใส่เธอไม่พักเช่นกัน จะอันตรายก็เพราะมีเขามานั่งด้วยนี่แหละ “หึ ขอบุหรี่สักม้วนสิคะ” เธอไม่ตอบคำถามเขา แต่เหลือบตาไปมองกล่องบุหรี่ที่โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของอีกคนแทน ทำเอาทั้งยัยเพียงกับคนที่ถูกขออย่างเขาถึงกับเลิ่กคิ้วมองเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนเสียงหัวเราะชอบใจจากฟาบิโอจะเปร่งขึ้น “หึๆ คุณฟ้าสูบมันด้วยเหรอครับ” เขาถามก็พรางหยิบมันออกมาให้เธอ ไม่พอยังส่งไฟแช็กมาพร้
@คอนโดหรูใจกลางเมืองอิตาลี “จะบอกว่าวันนี้มึงปังมากกกก ปังสุดๆเลยยัยฟ้า นี่กูเห็นนะว่านางแบบนับสิบบนเวที คนเดียวที่คุณฟรานมองคือมึงค่ะ!” เสียงของยัยเพียงดาวดังแว่วเข้ามาถึงในหูเธอ ตั้งแต่ปลายเตียงยันโต๊ะเครื่องสำอางที่เธอนั่งอยู่ พอเธอเหลือบมองหน้าเพื่อนผ่านกระจกใสตรงหน้า ก็เห็นว่ามันกำลังทำตาปริบๆมองเธออยู่ บ่งบอกว่ากำลังปลื้มอกปลื้มใจมากแค่ไหน “เหอะ มองคู่หมั้นเค้าน่ะสิไม่ว่า จำได้ว่ายัยนั่นเดินตามหลังกูนี่นา” เธอเบ้ปากตอบเพื่อนไปอย่างไม่จริงจังนัก ขนาดเจอหน้ากันเขายังทำเป็นจำเธอไม่ได้ด้วยซํ้า จะให้มามองอะไรกันล่ะ ก็จำได้ว่าเธอเผลอหันไปสบตากับเขาแว็บนึงอยู่นะ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าเขาจะตั้งใจมองน่ะ คงจะเพราะเผลอจ้องแค่แว็บเดียวเท่านั้นแหละมั้งที่เห็นแฟนเก่าอย่างเธอมาเดินอยู่ตรงหน้า “บอกเลยว่ามึงคิดผิด!! เพราะกูนั่งอยู่อีกฟากซึ่งเห็นชัดมากก บอกเลยว่า All his eyes on you เลยจ้า” ยัยเพียงยังคงยืนยันเสียงดัง แววตานั่นจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น เหอะ อยากมองก็มองไปสิ ผู้ชายที่ทำกับเธอไว้เลวระยำขนาดนั้นฝันไปเถอะว่าจะได้อะไรจากเธออีก ก็ได้แค่มองนั่นแหละ แตะต้องไ
“นายจะกลับเลยรึเปล่าครับ“ ไม่นานงานแฟชั่นโชร์สุดหรูหราก็จบสิ้น มาร์โก้รีบปริดตัวเดินเข้ามาถามเจ้านาย เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ชอบสุงสิงอยู่ในที่แออัดแบบนี้ มันน่ารำคาญจะตายไป ทว่าวันนี้กลับแปลกไป เมื่อเจ้านายหนุ่มเอ่ยปากปฏิเสธสะงั้น “ไม่ กูจะอยู่ต่ออีกนิดหน่อย มึงมีอะไรก็ไปทำก่อนเลย” ไม่รู้อะไรดนใจเขาให้ตอบลูกน้องออกไปแบบนั้นเหมือนกัน ทว่าพอกล่าวเสร็จ แววตาคมก็เหลือบมองรอบๆโดยไม่สนสายตางุนงงจากลูกน้อง ที่ขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้หัวใจเขามันบอกว่ายังไม่อยากกลับ ซึ่งเขาก็เลือกที่จะเชื่อฟังมัน ไม่นานแววตาคู่คมก็เหลือบไปสะดุดกับร่าเพรียวระหง ที่เอาแต่ติดอยู่ในความคิดของเขาตั้งแต่เมื่อครู่ เธอกำลังยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยกันเป็นมิตรอยู่กับสปอนเซอร์คนอื่นๆ อะไรกัน เขาเป็นถึงสปอนเซอร์ใหญ่ในวันนี้ ทว่ากลับถูกเธอมองข้ามแล้วไปคุยกับสปอนเซอร์เล็กๆพวกนั้นเนี่ยนะ อยู่ๆความไม่พอใจก็บังเกิด ไม่รู้ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยวะ ทั้งที่นิสัยเขาไม่ใช่แบบนี้ ปกติเขาจะชอบอกชอบใจด้วยซํ้าที่ได้อยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครมายุ่ง ทว่าตอนนี้กลับตรงกันข้ามสะงั้น นึกแล้วเท้
“คุณฟรานคะ วันนี้คุณจะไปดูฟิโอน่าเดินแบบใช่มั้ยคะ” ฟิโอน่า หญิงสาวรูปร่างเพรียวหุ่นนางแบบ เมื่อเห็นฟรานเชสโก้ผู้เป็นคู่หมั้นเดินลงบันไดบ้านมาในชุดสูทหล่ออลังการ ก็รีบดันตัวเองเดินเข้าไปถามเขาด้วยสีหน้าปลื้มปลิ่ม “ก็ต้องไปสิครับ ในเมื่องานนี้นายเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ จะไม่ให้ไปได้ยังไงครับคุณฟิโอน่า” เป็นมาร์โก้ บอดี้การ์ดน่ารำคาญนั่นที่เอ่ยปากตอบเธอแทนคนถูกถามซึ่งเอาแต่ทำหน้าขรึมแล้วเงียบเสมือนรำคาญเธอเต็มที ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย “งั้นฟิโอน่าขอติดรถไปด้วยได้มั้ยคะ ไหนๆเราก็จะไปที่เดียวกัน” เธอยังคงแบกหน้าถาม แม้สายตาคมคู่นั้นจะไม่หันมาเหลียวแลตัวเองเลยสักนิดก็ตาม แล้วมันยังไงล่ะ ในเมื่อเธอเป็นคู่หมั้นของเขานี่ อย่าลืมสิ ความจริงเรื่องแค่นี้เธอไม่จำเป็นต้องถามเลยด้วยซํ้า เพียงแต่ว่าฟรานเชสโก้นั้นไม่ใช่คนที่ใครก็ได้จะไปเล่นต่อปากต่อคำด้วย เพราะถ้าหากเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมา จุดจบคนนั้นคงไม่มีทางสวย รวมถึงเธอเองที่มีศักดิ์เป็นถึงคู่หมั้นเขาก็ตาม อยู่กับเสือต้องอยู่เป็น… นั่นคือตัวตนของฟรานเชสโก้ “จะไปก็ตามมาเร็วๆ ผมไม่ชอบรอใคร” นั่นคือประโยคแรกจากเขา หลังจากที่เอ
*สามปีต่อมา* “รักฟรานนะคะ… ฟ้ารักฟรานที่สุด” อย่าไป… ฮึกก อย่าไปจากผม… เดี๋ยว ฮึกก เฮือก!!! ร่างโปร่งที่หลับไหลสดุ้งเฮือกตื่นมาท่ามกลางความมืด ในห้องนอนกว้างขวางตอนนี้กลับปกคลุมไปด้วยเสียงหอบหายใจของเขา ร่างกำยำบนเตียงดีดตัวลุกขึ้นนั่งพรางถอดถอนหายใจ เขามักจะฝันแบบนี้แทบทุกคืนตลอดสามปีจนเบื่อหน่าย หญิงสาวร่างเพรียวระหงคนนั้นที่ตามไล่ล่าเขาทุกครั้งที่หลับตาลง พอตื่นขึ้นมาเขาก็มักจะจำหน้าหรือชื่อเธอไม่ได้ จะมีแต่คำพูดแปลกๆพวกนั้นที่วนเวียนอยู่ในโพรงประสาทและตามหลอกหลอนเขาตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับ แม่งเอ้ย… เธอเป็นใครกันวะ พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก ทั้งที่จิตใต้สำนึกมันบอกเขาว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ… ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาจากฝัน เขามักจะหงุดหงิดตัวเองอยู่เสมอ และทุกครั้งที่นึกใบหน้าเธอไม่ออก หัวใจดวงโตก็จะปวดหนึบแปลกๆ ดั่งกับว่าอะไรบางสิ่งที่สำคัญมากๆได้ขาดหายไปจากชีวิตเขา ฟึ่บ! มือหนาสางผมตัวเองแรงๆด้วยความสับสน ก่อนจะปรีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยันโซฟา แล้วรินไวน์ขึ้นกระดก มันมักจะเป็นแบบนี้ทุกคืน จิบไวน์ไปสมองก็พรางคิดเรื่องราวต่างๆ ใบหน้าหล่อเสมองไป







