Masuk“ขออีกนิดนะคะ ขอมือเรียวใหญ่ยาว ขาวอมชมพู”
เธอเริ่มไม่แน่ใจสิ่งที่ตัวเองขอว่ามันมากไปหรือเปล่า แต่ก็เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ขอไปแล้ว
“สาธุค่ะ เอ้อ ขอภายในหนึ่งเดือนนะคะ”
กลับมาคิดถึงทริปที่ตัวเองจัดการ เลือกทะเลหน้าฝน คนมีคู่ก็ดีสิ ได้กกกอดกันทั้งคืน ฟังเสียงฝนตกปรอย ๆ
คิดตามแล้วอีโรติกสุด ๆ
แต่คนที่ไปคนเดียวนี่สิ เธอลืมคิดถึงตรงนี้ได้อย่างไร ไปคนเดียว ทะเลหน้าฝนโคตรเหงา
ไม่รู้ว่าเธอจะต้องนอนจมกองน้ำตาทั้งสามวันหรือเปล่า
กลับมาคิดถึงอดีตแฟนแล้วก็ต้องโมโห กดยกเลิกการติดตามในไอจีพร้อมทั้งบล็อกช่องทางติดต่อทุกช่องทาง
ไอ้หรXมเล็ก เล็กแล้วยังไม่เจียม
จะหาคนสวย ๆ รวย ๆ แบบเธอได้ที่ไหนอีก
เป็นถึงอาจารย์แต่ไม่รู้จัก ค-ว-ย (คิด-วิเคราะห์แยกแยะ)
โง่!!!
ดีนะที่เธอไม่ตัดสินใจแต่งงานกับคนอย่างสรรวิชญ์ คนที่คอยจ้องจะกดคนอื่นให้อยู่ต่ำกว่าตัวเอง ไม่รู้โตมาแบบไหนถึงได้มีนิสัยเช่นนั้น
นี่สินะ เขาถึงว่าเรียนสูงใช่ว่าจิตใจจะสูงตาม
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
สนามบินที่สวยที่สุดในประเทศไทยสำหรับเธอคงไม่พ้นที่นี่ ภูเก็ต บุญนำพามองภาพทะเลที่ปกติควรเป็นสีฟ้าน้ำทะเลสดใส แต่เวลานี้สีของน้ำทะเลคล้ายกำลังหม่นเศร้า เหมือนกับจิตใจของเธอเวลานี้
ถึงจะไม่เสียใจที่เลิกรากับสรรวิชญ์ แต่ก็เสียดายเวลาที่ศึกษาดูใจกัน เธอเป็นคนเลือกคบคน โดยเฉพาะคนที่คิดจะมาเป็นคู่ครอง
ต้องเหมาะสมกับฐานะ
ฐานะ...คำนี้
เครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัย เธอยืนรอไม่นานกระเป๋าก็ถูกส่งถึงมือคนขับรถ เห็นความวุ่นวายเล็กน้อยในสนามบิน มีการยกเลิกเที่ยวบินขากลับเพราะพายุเข้า
ดวงตากลมโตภายใต้แว่นสีดำสนิท เสื้อแขนยาวพร้อมฮู้ดสีดำสนิทเข้ากับกางเกงยีนทรงบอยทำให้ลุคการแต่งกายวันนี้อยู่ในลุคสบาย ๆ
สายตาพลันสะดุดกับคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาตามไปดูเธอกับธีริศราไลฟ์ที่บ้าน ขากลับธีริศราทะเลาะกับไธม์
วันนี้เขามาทำอะไรที่นี่ ทำให้คนเขาทะเลาะกัน ยังลอยหน้าลอยตามาเที่ยวได้
บุญนำพารีบขยับเดิน ไม่อยากทักทาย เธอไม่ชอบคนที่เข้าไปก้าวก่ายความสัมพันธ์ของคนอื่น
“คุณบุญ!”
ไม่ทัน! บุญนำพาแอบถอนหายใจเล็กน้อย ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะจำเธอได้
บุญนำพาต้องฝืนยิ้มกับคนที่ตัวเองไม่ชอบเลยสักนิด และไม่คิดว่าจะต้องมาทักทายเขาในเวลานี้
ที่ไม่ชอบเพราะเขาสนิทสนมกับธีริศรา
เธออยู่ข้างญาติผู้พี่ของตัวเอง ไม่ชอบที่ผู้ชายตรงหน้าทำให้ความสัมพันธ์ของญาติผู้พี่เธอมีปัญหา
“สวัสดีค่ะ คุณหมอ” เธอกล่าวทักทายอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณบุญเพิ่งมาใช่ไหมครับ”
“เอ่อ...ใช่ค่ะ”
“ผมขอติดรถไปโรงแรมหน่อยได้ไหมครับ”
บุญนำพาขมวดคิ้วกับคำขอของเขา
ไม่มีความเกรงใจเลย
“คือผมเรียกรถหลายรอบแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ จริง ๆ แล้วผมต้องกลับวันนี้ แต่ว่าวันนี้พายุเข้า สายการบินก็เลยเลื่อนไฟลต์เป็นพรุ่งนี้เย็นแทนน่ะครับ”
ปทัฏฐานไม่อยากจะรบกวนหญิงสาวตรงหน้าเลยสักนิด แต่เขารอรถมานานเกือบสองชั่วโมงแล้วยังไม่มีรถเข้าเมือง วันนี้มันวันซวยอะไรของเขากันนะ
“ได้ค่ะ” บุญนำพาเอ่ยออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก มันวันซวยอะไรของเธอกันนะ
“ขอบคุณมากครับ”
คุณหมอหนุ่มกระชับกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมเดินตามบุญนำพากับคนดูแลไปยังรถตู้วีไอพีสี่ที่นั่ง ข้างในห้องโดยสารโอ่อ่าหรูหราสมฐานะดาวสามแฉกที่เป็นสัญลักษณ์ของยี่ห้อรถ
“ง่วงจัง” เพราะไม่อยากคุยกับเขา เธอจึงเลือกที่จะหลับแทนการต้องต่อบทสนทนากับเขา
คุณหมอหนุ่มผู้อาศัยรถ ดูจากท่าทางของซีอีโอสาว เธอคงไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไรนัก แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อตอนนี้ขึ้นรถมาด้วยกันแล้ว เขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าไปถึงโรงแรมเดี๋ยวค่อยขอเลี้ยงข้าวเธอสักมื้อเป็นการตอบแทนก็แล้วกัน
เมื่อไม่มีการพูดคุยเกิดขึ้น ทำให้ห้องโดยสารของรถตู้วีไอพีมีเพียงเสียงเพลงบรรเลงอย่างที่บุญนำพาชอบฟัง เพียงไม่นานปทัฏฐานก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน
“เชิญค่ะคุณผู้หญิง”
บุญนำพาตื่นขึ้นเมื่อรถตู้วีไอพีจอดตรงหน้าบ้านพักแบบพูลวิลล่าบนเนินเขา คงเพราะเธอใส่แว่นตาที่มีลำโพงในตัว เธอจึงไม่ได้ยินสิ่งที่พนักงานสาวพูด คิดว่าฝ่ายนั้นคงอธิบายเกี่ยวกับห้องพัก
ทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย
เธออยากอาบน้ำแช่ตัวในอ่างอาบน้ำอุ่น ๆ ฟองครีมนุ่ม ๆ มองสายฝนข้างนอก แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
“น้องบิวกิ้นกับน้องมิกิชอบเล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยนี้จะชอบคิดว่าเป็นแฟน อย่าคิดมากเลยนะคะ ความรักของเด็ก ๆ น่ะค่ะ” คุณครูฝ่ายปกครองพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในตอนดึกของคืนวันนั้น สองผัวเมียนอนกอดกันและคิดถึงเรื่องราวของลูกสาวและลูกชายในวัยอนุบาล จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “กว่าลูกจะโตเราต้องไปห้องปกครองกี่ครั้งกันเนี่ย” ปทัฏฐานผู้เป็นเด็กเรียนและเด็กดี ไม่เคยเข้าห้องฝ่ายปกครองเลยสักครั้ง พ่อแม่ไปโรงเรียนส่วนมากก็ไปรับใบประกาศเรียนดี “เรื่องปกติค่ะ” “แสดงว่าที่รักแสบมากใช่ไหมตอนเรียน นี่ลูกสาวเราคงเหมือนแม่” ปทัฏฐานแอบแซวทั้งยังกระชับอ้อมกอดให้เมียรักขึ้นมานอนเกยบนอก “แสบอยู่นะคะ พ่อเคยแอบไปหลายครั้งไม่บอกแม่ แม่เป็นดาราไงเดี๋ยวคนเอาไปเขียนข่าว” บุญนำพาหัวเราะคิกคัก “พี่ไม่ชินเลย” “พี่เบย์อย่าซีเรียสเรื่องปกติ เรื่องวันนี้พรุ่งนี้ก็เป็นอดีตแล้ว อะไรไม่ดีเราก็แก้ไข การเลี้ยงลูกก็เหมือนกันค่ะ บางทีเราต้องให้ลูกได้เรียนรู้โลกกว้างบ้าง เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป”
ปทัฏฐานต้องขมวดคิ้วทันที เมื่อที่โรงเรียนของลูกโทรมาแจ้งว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาตีเพื่อน ลูกสาวสุดน่ารักของเขาเนี่ยนะตีเพื่อนเป็นไปไม่ได้ ต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่นอน น้องบูลผู้อ่อนหวานสุดน่ารักจะตีเพื่อนได้อย่างไร “ที่รัก ครูโทรมาบอกว่าให้ไปที่โรงเรียนคือลูกเราตีเพื่อน” เสียงของผู้เป็นสามีทำให้บุญนำพาเบนสายตาจากจอทีวีมองหน้าสามีที่คิ้วกำลังผูกโบ “ไปค่ะ” “ที่รักเชื่อเหรอว่าลูกเราตีเพื่อน” ปทัฏฐานถามเมื่อเห็นว่าภรรยาดูท่าทีไม่ตกใจ “อืม ก็อาจเป็นไปได้นะคะ” บุญนำพาทำท่าทางคิด “ตอนเด็กบุญก็ตีเพื่อน” คำพูดของเมียรักทำคนฟังอึ้งไปสักพัก เมียเขาตีเพื่อน “เดี๋ยวนะ การตีเพื่อนมันคือการใช้ความรุนแรงนะบุญ” สามีผู้เป็นหมออ่อนโยนไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันป่าเถื่อนที่ใช้กำลังแบบนี้ “อ้าว! ก็มันมาเปิดกระโปรงบุญ ไม่ให้ตีเหรอ” “เปิดกระโปรง!” ปทัฏฐานรู้สึกร้อนไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำว่ามาเปิดกระโปรงเมียรัก “ถ้าเกิดมีคนมาเปิดกระโปรงน้องบูล พี่เบย์จะไม่ให้ลูกตีเพื่อนเหรอ” “พี่จะเอามือจิ้มตามัน” เมื่อนึกถึงว่
ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห ปทัฏฐานรู้สึกถึงความกรุ่นโกรธจากคนนอนข้างกาย ปกติทั้งเขาและเธอต้องมีกิจกรรมกระชับรักหลังจากที่พาลูกเข้านอน “บุญจ๋า” เขาสอดแขนใต้ร่างบางดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด “อย่าค่ะ” เธอร้องห้ามเมื่อเขากำลังจะเลิกชุดนอนเธอขึ้น รู้ว่าเขาอยากจะทำอะไรหลังจากนี้ “ทำไมคะ” “ใครจะดูดนมบุญ ต้องเรียกบุญว่าแม่ก่อน” เธอทำตาดุใส่เขา ปทัฏฐานหัวเราะชอบใจ “แม่บุญครับ” เขาทำเสียงออดอ้อน “เชอะ” “เดี๋ยวต่อไปพี่จะสอนลูกเรียกแม่นะครับ บุญจ๋า” “เชื่อได้หรือเปล่า” เธอพูดอย่างกระเง้ากระงอด “ทำไมขี้งอนจัง เหมือนคนท้องเลย” คำพูดของเขาทำให้ทั้งสองมองหน้ากัน “เอ้ย!” เป็นบุญนำพาที่เด้งตัวจากที่นอนทันที ควานหาที่ตรวจสอบการตั้งครรภ์ที่ซื้อไว้ จากนั้นทั้งสองก็พุ่งเข้าห้องน้ำพร้อมกัน คนหนึ่งทำหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ตรวจ อีกคนพยายามให้ของเหลวในกายไหลออกมา “เป็นไงท้องไหมคะ” บุญนำพาซุกหน้ากับอกกว้างไม่อยากดูผลตรวจ “เดี๋ยว ๆ รอแป๊บ” ปทัฏฐานกอดเมียรักแน่นตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงห
ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ลำพูน ประสิทธิ์ยกที่ดินผืนหนึ่งให้ทั้งคู่เป็นที่ดินที่อยู่ระหว่างเชียงใหม่กับลำพูน หน้าบ้านเปิดเป็นคลินิกเล็ก ๆ รักษาคนทั่วไป บ้านและคลินิกปทัฏฐานได้สร้างไว้แล้วเมื่อปีก่อน เขามีความฝันอยากลาออกมาเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปนานแล้ว มีความตั้งใจในคราแรกว่าจะย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐแถวลำพูนแล้วก็เปิดคลินิกคิดค่ารักษาถูก ๆ ถือว่าเป็นการทำบุญ แต่ที่ยังรอเวลาเพราะทำใจห่างจากดวงใจเขาอย่างบุญนำพาไม่ได้ ความฝันของเขามีเธออยู่ในนั้น เขาอยากให้เธอเดินทางไปกับเขาด้วยเช่นกัน เพียงไม่นานก่อนที่บุญนำพาจะคลอดได้แค่เดือนเดียว เธอก็ได้ซีอีโอที่เก่งกาจมาบริหารแทน พิมมี่และพอลย้ายตามเจ้านายไปทำหน้าที่กันถึงลำพูน เพราะที่บ้านค่อนข้างกว้างเกือบสิบไร่ ปทัฏฐานจึงแบ่งที่ดินให้พิมมี่กับพอลคนละหนึ่งไร่ บุญนำพาสร้างบ้านให้พวกเขาคนละหลังถือว่าเป็นโบนัสที่ทำให้เป็นทีมงานซัปพอร์ตความรักของทั้งคู่ น้องบูล หรือ บูรณิมา แปลว่าผู้มีบุญ คลอดด้วยน้ำหนักสามพันห้าร้อยกรัม แข็งแรง ตัวแดงและร้องดังมาก ผู้เป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายต่างดีใจ
“เรื่องนี้แหละที่พี่อยากคุยกับบุญ พี่อยากกลับไปเปิดคลินิกที่บ้าน คลินิกรักษาโรคทั่วไป คิดราคาไม่แพง ไม่ทิ้งอาชีพหมอแต่ก็มีเวลาเลี้ยงลูก พี่อยากให้บุญไปอยู่ด้วยกันได้ไหม ใช้ชีวิตง่าย ๆ มีเรามีลูก พี่ไม่อยากให้บุญเหนื่อย พี่เลี้ยงบุญกับลูกได้นะครับ” เธอรู้ว่าเขาพูดจริง เงินเก็บตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ใช้อะไรฟุ่มเฟือยนอกจากลงทุนเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต “จริง ๆ บุญทำงานที่บ้านก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็จ้างซีอีโอมาบริหาร ก็ดีเหมือนกันนะคะ อยากใช้เงินที่หามาบ้าง ต่อไปต้องเกาะพี่เบย์กินแล้วนะคะ” บุญนำพายิ้มหวานกอดเอวเขาไว้แน่น เธอต้องขอบคุณชื่อตัวเองหรือวาสนาตัวเองนะ ที่มีบุญได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต “พี่เลี้ยงบุญได้จริง ๆ นะครับ” “บุญรู้ สามปีที่ผ่านมาใครหาข้าวให้บุญกินทุกมื้อ ถ้าไม่เรียกว่าเลี้ยงได้จะเรียกว่าอะไรคะ” บุญนำพาออดอ้อน ปทัฏฐานนั่งลงกับพื้นทราย ดึงร่างของเมียรักให้หย่อนกายนั่งบนตักเขา กอดเธอไว้แน่น เกยคางบนไหล่เล็ก “ครั้งแรกที่พี่เจอบุญ พี่กลัวมาก” “กลัวทำไม บุญน่ากลัวตรงไหน” เธอขยับกายนั่งพิงเขาอย่างอารมณ์ดี มอ
“ไปเดินเล่นกันเถอะ” เสียงทุ้มของคนเป็นสามีเอ่ยชวนคนท้องที่นอนเพิ่งตื่น แดดยามบ่ายใกล้เย็นทำให้อากาศร้อนลดลงไปมากแล้ว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสยิ่งให้ความรู้สึกดี กลิ่นทะเลที่เธอชื่นชอบ ทะเลที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน หาดทราย น้ำทะเลและท้องฟ้า “พี่ถ่ายรูปนะ บุญยืนตรงนี้ พี่จะเอาไว้ให้ลูกดู” ลูกจะอยากดูหรือเปล่าปทัฏฐานไม่รู้ แต่เขานี่แหละอยากเก็บภาพเธอกับชุดคลุมท้องสีโอรสนี้ไว้เป็นความทรงจำ ชุดคลุมท้องทุกชุดเขาเป็นคนซื้อให้เธอ เขาตั้งใจเลือกทุกชุดและเธอก็ชื่นชอบชุดที่เขาเลือกให้ทุกชุดเช่นกัน “ถ่ายสวย ๆ นะคะพี่หมอ อย่าให้อ้วน” เธอเอ่ยแซวซึ่งได้ยินเสียงเขาหัวเราะออกมา “นั่นสิ เดี๋ยวพี่จะพยายามถ่ายไม่ให้เห็นพุง” “ฮ่า ฮ่า บุญต้องเอียงด้านไหนเนี่ย” เธอว่าพลางหันซ้ายหันขวาให้เขา พยายามหลบซ่อนพุงยื่น ๆ ของตัวเอง “พี่ล้อเล่น เอาพุงยื่น ๆ แบบนั้นแหละ เมียพี่สวยอยู่แล้วต่อให้พุงใหญ่กว่านี้ก็ยังสวยมาก” คนปากหวานเอ่ยชม “ปากหวานตลอด” บุญนำพานึกถึงช่วงเวลาที่เธอกับเขาพบกันครั้งสองอย่างไม่ตั้งใจ เวลานั้นเธอ







