ภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู ใจกลางเมืองชิคาโก้ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลากหลายวงการ พากันตบเท้าเข้ามาร่วมงานฉลองมงคลสมรส ของมิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ ทายาทลำดับที่สาม รุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของสามทวีปอเมริกา กับฮาน่า อลินา อารอน สาวสวยลูกครึ่งไทยอเมริกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะถือว่าเป็นทายาทคนแรกของตระกูลวินเทอร์ ที่สละโสดก่อนพี่ชายทั้งสอง“เอเบลคะ แล้วคุณไม่อยากแต่งบ้างเหรอคะ” ซูเปอร์โมเดลสาวของเมืองชิคาโกเอ่ยถามพี่ชายของเจ้าบ่าวออกมา“พอดีว่าผมยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะครับลูน่า” เขาบอกเธอยิ้มๆ ก่อนที่จะยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่ม“คืนนี้... ลูน่าว่างนะคะ ถ้าคุณอยาก...ก็เชิญแวะมาได้ คุณรู้ใช่ไหม...ว่าลูน่ารอคุณอยู่เสมอ”คำพูดของซูเปอร์โมเดลสาว ไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้เขาเอาแต่จดจ้องมองไปยังกลุ่มอดีตเพื่อนร่วมงานของฝ่ายเจ้าสาวซูเปอร์โมเดลสาวชาวอเมริกันมองตามสายตาของมาเฟียหนุ่มไป ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ เพราะใครๆ ต่างก็รู้ดี ว่าเอเบลคนนี้นั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ใครอยากจะครอบครองเขาได้ง่ายๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จัก
พิธีฉลองมงคลดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงช่วงเวลาที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าว ควงคู่พากันเดินพบปะขอบคุณแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกตนในวันนี้ งานนี้เจ้าบ่าวของงานจัดเต็มให้ลูกน้องจากประเทศไทย เพราะเขาได้จัดเครื่องบินส่วนตัวไปรับพนักงานจากบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ให้เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย“วันนี้น้องฮาน่าสวยมากเลยเนอะ ออร่าจับมากเลยอ่า”เจ๊ลูซี่เอ่ยออกมาขณะที่กำลังมองไปยังเจ้าสาว ที่ตอนนี้กำลังเดินเคียงข้างเจ้าบ่าวสุดหล่อกล่าวทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างรู้สึกเห็นด้วยกับเจ๊ลูซี่ เพราะวันนี้ฮาน่าสวยสมกับที่เป็นเจ้าสาวของงานจริงๆเจ๊ลูซี่เหลียวมองไปรอบๆ งาน เธอก็ได้เห็นว่ามีผู้ชายอเมริกันงานดีหลายคนอยู่ภายในงานนี้ เพราะพวกคนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงต่างก็ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝ่ายเจ้าบ่าวมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอกำลังคิดถึงอิงวรา นางแบบสาวในสังกัด ที่ตอนนี้ยังคงครองความโสดอยู่“อิงค์...ปีนี้หนูยี่สิบห้าแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะเจ๊ลูซี่ ปลายปีนี้ก็ย่างเข้ายี่สิบหกแล้วค่ะ” อิงวราตอบเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“ยังไม่เจอหนุ่มๆ ที่ถูกใจอีกเหรอ” คนถูกถามส่
หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา กลุ่มของนางแบบสาวชาวไทย ยกเว้นเมริสาและท่านประธานหนุ่มอย่างฮิวโก้ ที่ขอตัวพากันกลับโรงแรมไปก่อน ที่เหลือก็ได้ตัดสินใจพากันออกไปท่องราตรีกันต่อ เพื่อเปิดหูเปิดตาไปกับแสงสีในยามค่ำคืนของเมืองชิคาโก โดยมีสองหนุ่มเอวานและเอเบล พี่ชายของเจ้าบ่าวที่เสนอตัวเป็นเจ้าบ้าน พาทุกคนไปท่องราตรีในค่ำคืนนี้ และถึงแม้อิงวราจะไม่อยากไป แต่สุดท้ายก็ขัดใจเจ๊ลูซี่ไม่ได้อยู่ดี เธอจึงจำใจต้องติดตามทุกคนมาด้วย“ขอบคุณ คุณเอวานกับคุณเอเบลมากเลยนะคะ ที่สละเวลาพาพวกเรามาเที่ยว”เจ๊ลูซี่พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงสองตามจริตของตน หลังจากที่เจ้าบ้านทั้งสองพาพวกเธอเที่ยวชมเมืองชิคาโก้ในยามค่ำคืนมาเกือบสองชั่วโมง และตอนนี้ก็ยังพามานั่งดื่มที่ไนต์คลับสุดหรูใจกลางเมืองแห่งนี้อีก“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเราเลยครับ พวกเราสองคนพี่น้องต่างก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติ ที่ได้มีโอกาสพาเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ เที่ยวชมเมืองชิคาโก้ในค่ำคืนที่แสนพิเศษเช่นนี้”เอวานเป็นฝ่ายตอบ รอยยิ้มที่เป็นมิตรและจริงใจของเขา ดึงดูดสายตาของทุกคนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี จากที่หลายคนรู้สึกอึดอัดก็เริ่มที่จะผ่อนคลายความเครียดเกร็
“ทำไมนายไม่เข้าไปทำความรู้จักเธอเลยวะ เล่นจ้องเธอซะขนาดนั้น ถ้าเธอไม่รู้ตัวว่านายสนใจ เธอก็คงเป็นคนตาบอดที่มองไม่เห็นแล้ว” เอวานกระซิบที่ข้างหูของเอเบลพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะหันไปสนทนากับกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ต่อ“พวกคุณจะดื่มอะไรกันดีครับ จะรับเครื่องดื่มชนิดหนักๆ หรือชนิดเบาๆ กันก่อนดี”“เริ่มจากเบาๆ ก่อนดีกว่าค่ะคุณเอวาน ถ้าเริ่มจากหนักๆ ฉันกลัวว่าสาวๆ จะไม่ไหว แล้วพากันเมาหลับไปซะก่อน ได้หมดสนุกกันพอดี”เจ๊ลูซี่หันไปมองหน้าสองสาว ส่วนนายแบบหนุ่มและผู้จัดการส่วนตัวของเขาที่เป็นชายไม่จริงหญิงไม่แท้นั้น เจ๊ลูซี่ไม่นึกกังวลเพราะรู้ดีว่าสองคนนั้นคอแข็งกว่าพวกสาวๆ เป็นของแน่นอนอยู่แล้ว“รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะลุกไปสั่งให้”เอวานบอกเจ๊ลูซี่ยิ้มๆ จากนั้นจึงลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินไปสั่งให้บาร์เทนเดอร์จัดเหล้าเบาๆ มาเสิร์ฟให้กับสาวๆ ในกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ ส่วนของตัวเขาและน้องชายนั้นเป็นพวกดื่มเก่ง จึงเริ่มจากเหล้าแรงๆ อย่างเช่นเคยหลังจากสั่งบาร์เทนเดอร์เสร็จ เอวานจึงเดินเข้าไปทักทายสาวๆ อีกกลุ่ม ซึ่งเป็นเขาเองที่อนุญาตให้พวกเธอมาร่วมสังสรรค์ในค่ำคืนนี้ด้วย มาเฟียหนุ่มอัธยาศั
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบตีสาม เสียงเพลงในไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ จึงเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น บรรดานางแบบสาวชาวอเมริกันต่างพากันลุกจากเก้าอี้ แล้วโยกกายไปมาตามจังหวะของเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ส่วนทางด้านกลุ่มของนางแบบสาวชาวไทยเองก็ไม่แพ้กัน แน่นอนว่าถ้าเจ๊ลูซี่เป็นผู้นำทีมแล้วล่ะก็ มีหรือที่บรรยากาศฝั่งนี้จะไม่ครื้นเครงส่วนคนที่ดูจะไม่สนุกสนานไปกับคนอื่น ก็คงหนีไม่พ้นอิงวรา เธอเอาแต่นั่งจิบพันซ์สีสวยแก้วแล้วแก้วเล่าอย่างเบื่อหน่าย จนเธอตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางด้านซ้ายของไนต์คลับ เอเบลที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์มองตามนางแบบสาวชาวไทยไปจนร่างระหงลับสายตา“เอเบล... คุณต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่าคะ”คู่ขาของพี่ชายเดินเข้ามาสนทนากับเขา มาเฟียหนุ่มปรายตาไปมองหญิงสาวที่เพิ่งเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะถามเธอออกมาอย่างสนใจ“แล้วคุณจะช่วยผมยังไงครับ...รีน่า”“ผู้หญิงน่ะ มักจะไว้ใจผู้หญิงด้วยกัน...จริงไหมคะ” รีน่าเห็นน้องชายของคู่ขาสนใจในสิ่งที่เธอเสนอ จึงได้เอ่ยออกมา เอเบลเลิกคิ้วหนาขึ้นสูงพลางพยักหน้าขึ้นลง“ถ้าอย่างนั้นผมขอดูความสามารถของผู้หญิงที่ได้ใช้เ
“พี่ธัญญ่าไปสนุกเถอะค่ะ อืม...อิงค์รู้สึกร้อนๆ อิงค์ว่าจะขอตัวกลับโรงแรมก่อน” อิงค์วราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ร่างกายเธอร้อนวูบวาบแปลกๆ“หืม.. ให้พี่ไปส่งไหม” ธัญญ่าแม้ว่าเธอจะรู้สึกสนุกสนานกับค่ำคืนนี้ แต่ทว่าเธอก็ยังคงไม่ละเลยหน้าที่ดูแลนางแบบสาว“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอิงค์กลับเองดีกว่า นานๆ ทีพี่ธัญญ่าจะได้ปลดปล่อยสักที กลับไปสนุกกับทุกคนเถอะค่ะ” อิงวราปฏิเสธ เธอไม่อยากทำให้ธัญญ่าหมดสนุก เพราะนานๆ ทีผู้จัดการส่วนตัวของเธอคนนี้จะมีโอกาสดีๆ แบบนี้สักที“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ กลับไปถึงอาบน้ำแล้วพักผ่อนเลยนะ” อิงวราพยักหน้าก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วคว้ากระเป๋าถือของเธอมาถือเอาไว้“ฝากบอกเจ๊ลูซี่กับทุกคนด้วยนะคะ ว่าอิงค์ขอตัวกลับก่อน” อิงวราเริ่มรู้สึกถึงอาการแปลกๆ เธอเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ธัญญ่าไม่ได้สังเกตอาการที่แปลกไปของหญิงสาว เธอรับปากก่อนที่จะรีบเดินกลับไปเข้ากลุ่ม โดยไม่หันกลับมามองอิงวราอีก นางแบบสาวชาวไทยจึงรีบเดินออกจากไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ไป“ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้วนะคะเอเบล”รีน่าเดินเข้ามาบอกคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม พร้อมส่งยิ้มให้มาเฟียหนุ่ม เขาพยักหน้ายกแก้
ร่างสูงอุ้มผู้หญิงที่น่าจะมีน้ำหนักไม่ถึงห้าสิบกิโลกรัม เดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวของเขาอย่างไม่ลังเล แม้คนในอ้อมแขนจะพยายามดิ้นรนอย่างอ่อนแรงก็ตามที อิงวรารู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป ทันทีที่ร่างกายของเธอหลุดพ้นจากวงแขนแข็งแรง หญิงสาวจึงพยายามดึงทิ้งเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก่อนหน้าออก อย่างไม่สนใจสายตาของคนตัวโต ที่กำลังจ้องมองมาอย่างไม่วางตาเอเบลกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ทันทีที่ได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าที่สมบูรณ์แบบสมวัยของหญิงสาวตรงหน้า จุดกลางกายหนุ่มที่เคยหลับใหลอยู่ กลับตื่นขึ้นมาจนเขาต้องห้ามใจตนเอง ไม่ให้รังแกคนที่ไร้หนทางสู้ เพราะไม่รู้ว่ารีน่าใส่สิ่งนั้นลงในพันซ์ให้หญิงสาวดื่มไปมากขนาดไหน อาการของเธอที่แสดงออกมาถึงได้รุนแรงขนาดนี้“คุณ!! ตามผมมา”พูดจบเอเบลก็รีบลากแขนหญิงสาวชาวไทยที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ให้เดินตามเขาเข้าไปภายในห้องน้ำ ก่อนที่จะเปิดน้ำจากฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ให้เธอ สายน้ำที่ไหลออกมาไม่ได้ดับความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นจากภายในให้อิงวราเลยแม้แต่นิดเอเบลที่เป็นคนพาเธอเข้ามาก็ตัวเปียกไม่ต่างกัน เขารีบผละกายออกจากห้องน้ำเพื่อไปหยิบสมาร์ทโฟน แล้วรีบต่อสายหาแพทย์ประจำ
“เธอเป็นว่าที่ภรรยาฉันเอง”เอเบลพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วยังไม่ได้ทำความรู้จักกันกับหญิงสาวจริงๆ จังๆ เลยด้วยซ้ำ ทว่าเขากลับขี้ตู่เอาว่าอีกฝ่ายคือว่าที่ภรรยาของตัวเองซะแล้ว“อย่ามาโกหกน่า...ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินนายท่านลูเซียโน่ กับมาดามเอวาน่าพูดถึงว่าที่คู่หมั้นของนายเลยสักที” โทนี่ไม่เชื่อเพื่อนสนิท เพราะเขาเองเป็นหมอประจำตระกูลวินเทอร์ มีหรือที่จะไม่รู้เรื่องราวภายในของคนในตระกูล“อีกไม่นานก็ใช่แล้วไง... อืม...อาการของเธอยังมีอะไรที่น่าเป็นห่วงอีกไหม ต้องพาเธอไปโรงพยาบาลหรือเปล่า” โทนี่อ้าปากค้าง เพราะทันทีที่เขาได้ฟังคำตอบของเอเบล เขาก็เข้าใจได้ในทันที ว่าเพื่อนสนิทคงจะชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ ถึงขั้นหมายตาเธอเอาไว้ให้เป็นว่าที่ภรรยาในอนาคต“อะ...แฮ่ม อืม...ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงแล้ว ให้เธอพักผ่อน แล้วถ้าเธอตื่นก็ให้ดื่มน้ำมากๆ แค่นั้นแหละ”นายแพทย์หนุ่มกระแอมไอก่อนที่จะตอบคำถามของเพื่อนสนิทออกมา ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของผู้หญิงคนนี้กันแน่ ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นว่าที่ภรรยาของมาเฟียลำดับที่สองของตระกูลวินเทอร์โดยไม่รู้ตัว“ถ้าอย่างนั้น นายก็กลับไปได้แล้ว”เอเ
หลังจากพักสายตาไปนานเกือบสองชั่วโมง อิงวราก็ตื่นขึ้นมา ทว่าเธอกลับต้องตกใจ เพราะภายในห้องตอนนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่พี่ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวกับเธอเท่านั้น กลับมีเจ้ลูซี่ที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน“ตื่นได้สักทีนะคะ น้องสาวสุดที่เลิฟ” เจ้ลูซี่เอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะส่งน้ำดื่มให้ อิงวรามองไปยังผู้จัดการส่วนตัวของเธอ อีกฝ่ายเพียงแค่ยักไหล่ให้“ไม่ต้องหันมองยัยธัญญ่าเลย รีบเล่ามาให้เจ้ฟังให้หมด ว่าที่ออกไปเดต กับพี่ชายของบอสมาหลายวัน มีความคืบหน้าไปถึงขั้นไหนแล้ว” เจ้ลูซี่อยากรู้ ถึงแม้ว่าเธอ จะเป็นคนยุอิงวรา ให้ออกไปเดต แต่เธอก็ไม่อยากให้นางแบบสาวในสังกัด เผลอมอบใจให้กับมาเฟียหนุ่ม อย่างพี่ชายของเจ้านาย ที่ได้รับฉายามาเฟียคาสโนว่าแห่งปี“ไม่มีอะไรเลยค่ะ พวกเราแค่นั่งเครื่องบินเล็กส่วนตัว ไปดูพระอาทิตย์ตกดินกันที่เกาะส่วนตัว ของตระกูลวินเทอร์มาก็เท่านั้นเอง” อิงวราวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนที่จะตอบคำถามของเจ้ลูซี่ออกมา“พี่ถามจริง คุณเอเบลเขาโหดไหม เขาบังคับอะไรหนูหรือเปล่า” เจ้ลูซี่คงยังไม่ยอมปล่อยผ่าน ยังคงถามนางแบบสาวในสังกัดออกมาด้วยความห่วงใย“ไม่โหดเลยค่ะ เวลาที่เขาอยู่กับอิงค์
ช่วงสายของวันนี้ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย สองหนุ่มสาวก็ตัดสินใจ ขึ้นเครื่องบินเล็กส่วนตัว เดินทางกลับไปยังเมืองชิคาโก้ทันทีเอเบลรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับช่วงเวลา ที่เขาได้อยู่บนเกาะส่วนตัวกับหญิงสาวไม่น้อย แต่การที่เขาตัดสินใจพาอิงวราไปเยือนที่เกาะส่วนตัว ถือว่าไม่เสียเที่ยวเลยเพราะการไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และตกดินในครั้งนี้ กลับทำให้เขาและหญิงสาว ได้มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น“ขอบคุณนะคะที่พาอิงค์ไปชมความสวยงามบนเกาะแห่งนั้นมา ที่นั่นเป็นสถานที่ที่สวยมากงามและน่าจดจำมากเลยค่ะ” อิงวรากล่าวออกมาหลังจากที่เขามาส่งเธอที่โรงแรมแม้จะเป็นเวลาเพียงแค่สองวันหนึ่งคืน แต่การไปครั้งนี้ ก็ทำให้เธอได้รู้จักนิสัยใจคอของมาเฟียหนุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะที่เขามีมุมอบอุ่นอ่อนโยน ต่างจากพวกมาเฟียใจร้าย อย่างพวกมาเฟียในภาพยนตร์ที่เธอเคยดู“ดีใจที่คุณชอบนะครับ หวังว่าโอกาสหน้าจะมีโอกาสได้เชิญคุณไปเยือนอีกครั้ง” เอเบลยิ้มออกมา“ค่ะ...ถ้าอย่างนั้น อิงค์ขอตัวเข้าไปข้างในก่อนนะคะ” อิงวราตอบรับส่งๆ แล้วจึงเอ่ยลามาเฟียหนุ่มไม่ได้เอ่ยรั้งเธอ ทว่าก่อนที่เธอจะเดินจากไป เขากลับดึงร่างระหงของเธอ ให้เข้ามาใ
“อิงค์ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ ค่ะ ขอบคุณที่คอยดูแลอิงค์นะคะ” อิงวราสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป ก่อนที่จะตอบเขาออกมา“เพราะผม....คุณถึงได้ป่วย ขอโทษนะครับ” เอเบลเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด จับมือข้างหนึ่งของอิงวราเอาไว้“เพราะแบบนี้ เวลาที่อิงค์ขอร้องให้คุณหยุด คุณถึงต้องหยุดยังไงล่ะคะ”อิงวราหน้าแดง ตอนที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่บ่ายของเมื่อวาน จนถึงตอนกลางคืน ทำให้เธอรู้สึกเขินอายปกติแล้วเธอเป็นคนที่ป่วยยาก เพราะดูแลรักษาสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทว่าเมื่อเจอกับเหตุการณ์อย่างเมื่อคืน ถึงจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ไม่ได้พักผ่อนให้ดี ก็คงจะทนไม่ไหวเหมือนกัน“ต่อไปผมจะฟังคำพูดของคุณ...”“พรุ่งนี้...เรากลับชิคาโก้กันเถอะนะคะ” อิงวราบอกก่อนที่จะเหลือบมองไปยังกระปุกน้ำเกลือที่อิงวราอยากกลับไปที่ชิคาโก้ ไม่ใช่เป็นเพราะเธอรู้สึกไม่ดี กับการกระทำของมาเฟียหนุ่ม แต่เป็นเพราะว่า เธอกลัวหัวใจตัวเองต่างหากการที่เธอได้รับการดูแล เอาใจใส่จากเขา ตลอดสองวันมานี้ ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว เธอไม่อยากผูกมัดใจตัวเอง เอาไว้กับความสัมพันธ์แค่ชั่วคราว“ครับ...ผมตามใจคุณ แต่วันนี้เราสองคนไ
เช้าวันนี้สองหนุ่มสาว ไม่สามารถพากันตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะบทรักอันเร่าร้อน ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในค่ำคืนที่ผ่านมา อิงวรารู้สึกว่าร่างกายของเธอเมื่อยล้าไปหมด แม้แต่เปลือกตาก็ยากที่จะเปิดออก อีกทั้งอุณหภูมิร่างกายของคนข้างกาย ก็ยังช่วยให้เธอหลับสบายยิ่งกว่าเดิม“ดูสิ...ใครกันบอกว่าไม่ชอบนอนเตียงเดียวกับคนอื่น ที่แท้ก็ปากไม่ตรงกับใจนี่เอง”เอเบลที่ตื่นขึ้นมาก่อน พึมพำออกมา เมื่อได้เห็นคนตัวเล็ก นอนซุกอยู่ในอ้อมกอดของตนเขามือหนายกขึ้นมา ก่อนที่จะใช้นิ้วเรียวยาวของตน เขี่ยเส้นผมที่ปกปิดความสวยงามบนใบหน้าของเธออย่างเบามือการที่เธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันเมื่อวานที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งพบเจอกันได้ไม่นาน กลับไม่ได้ทำให้เขาคิดว่า เธอเหมือนกับผู้หญิงที่เขาพบเจอได้ทั่วไปเธอมีทั้งความอ่อนหวาน ความแข็งแกร่ง และมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจ ยิ่งเขาได้ใช้เวลาร่วมกันกับเธอ ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกแรกตอนที่ได้เห็นหน้าเธอ ชัดเจนขึ้นมาเขาค่อยๆ ขยับกายออกจากอ้อมแขนของหญิงสาว แล้วตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนที่จะไปออกกำลังกายที่ยิมส่วนตัว และไปว่ายน้ำที่สระว
หลังจากที่อิงวรากินอาหารมื้อดึก ที่เอเบลเป็นผู้ลงมือทำมาให้เธอจนหมดจาน เธอก็ขอตัวเข้าไปอาบน้ำก่อน เอเบลไม่ว่าอะไร เขาหยิบจาน และแก้วที่ใส่น้ำส้มมาให้เธอก่อนหน้า วางลงบนถาด แล้วนำออกไปเก็บที่ห้องครัว เขามองหาไวน์ขวดใหม่ ก่อนที่จะถือมันกลับมายังห้องนอน“คุณไม่นอนต่อเหรอคะ” อิงวราที่ออกมาจากห้องน้ำพอดี เอ่ยถามเขาขึ้นมา เมื่อเห็นเขาว่าถือขวดไวน์ติดมือมาจากข้างนอกด้วย“พอตื่นแล้ว ก็นอนไม่ค่อยหลับครับ คุณอยากจะดื่มเป็นเพื่อนผม สักแก้วสองแก้วไหม” มาเฟียหนุ่ม เดินนำหน้าอิงวราไปยังโซฟาตัวยาว เธอจึงเดินตามเขาไป แล้วนั่งลงข้างๆ กันมือหนาเปิดฝาขวดไวน์ออก แล้วจึงเทใส่แก้วทั้งสองใบ ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ อิงวรามองการกระทำของเขา ที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เธอนึกแปลกใจว่าเขาปฏิบัติกับผู้หญิงทุกคนที่เขานอนด้วยแบบนี้ไหม“มองผมขนาดนี้ อยากดื่มไวน์หรืออยากกินผมครับ” คนถูกทักถึงกับใบหน้าร้อนผ่าวทันที ทั้งโกรธทั้งอาย เอเบลยิ้มออกมาอย่างน่าหมั่นไส้“กินคุณไม่เห็นจะอร่อยเลย”อิงวราแค่อยากทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจ จนลืมไปว่า เขาก็คือเสือหิวตัวหนึ่ง ที่เพิ่งกินกระต่ายน้อยอย่างเธอ จนสิ้นไร้เรี่ยวแรงไม่กี่ชั่วโมง
แสงจันทร์สาดส่องผ่านผนังกระจกเข้ามาภายในห้อง บนเตียงมีสองหนุ่มสาว ที่นอนกอดก่ายกันหลับไป ทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าจนตกดึกที่ท้องของอิงวราเริ่มร้องขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เธอจึงฝืนทนต่อความเหน็ดเหนื่อย และความเจ็บปวด ตรงจุดกลางกายสาวตื่นขึ้นมาจากห้วงฝัน ทว่าเธอกลับไม่อาจที่จะขยับกาย ให้หลุดพ้นออกจากอ้อมแขนแข็งแรงของมาเฟียหนุ่มได้“อืม...อิงค์...คุณยังอยากทำต่ออีกเหรอครับ” เสียงทุ้มถามออกมา หลังจากที่ถูกหญิงสาวในอ้อมแขนสะกิดอิงวรายกมือตีลงไปบนไหล่ของเขาอย่างแรง จนมาเฟียหนุ่มสะดุ้งตื่น ยอมผละอ้อมแขน ออกจากร่างนุ่มนิ่มของเธอ เขาหรี่ตามองเธอผ่านแสงจากโคมไฟ ใบหน้าที่ถูกแสงไฟสีนวลอาบไล้นั้น ยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูน่ามอง“ทำอะไรกันคะ อิงค์หิวแล้ว” อิงวราส่งเสียงดุเขา ก่อนที่จะพยายามขยับกายลงจากเตียงแต่แล้วเธอกลับต้องพบ กับความรู้สึกที่เจ็บแสบตรงหว่างขา ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเขากับเธอร่วมบรรเลงบทเพลงรัก ไปทั้งหมดกี่รอบ เธอรู้เพียงแต่ว่า ร่างกายของเธอตอนที่ตื่นขึ้นมานั้น ขาทั้งสองข้าง สั่นจนแทบจะยกไม่ขึ้น“คุณไม่ต้องลุก เดี๋ยวผมลุกไปทำมาให้คุณกินเอง” เอเบลลุกขึ้น ผลักร่างบางให้นอนลงบนเตียงเหมือนเ
เอเบลเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนที่จะอุ้มหญิงสาว พาเธอเดินมุ่งหน้าไปยังเตียงนอน วางเธอลงแล้วโถมกายหนาตามไป มือทั้งสองข้างจับเรียวขาทั้งสองข้าง ให้แยกออกจากกันจากนั้นเขาจึงซุกใบหน้าหล่อเหลาลงไปตรงจุดกลางกายสาว มือทั้งสองข้างย้ายมาสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวของเธอ ช่วยเปิดทางให้ลิ้นของเขาเข้าไปได้อย่างง่ายดายอิงวราเงยหน้าขึ้น พยายามขบเม้มริมฝีปาก ทว่าเธอก็ยังคงส่งเสียงครางหวานออกมาอยู่ดี เอเบลปรนเปรอเธอทั้งลิ้นและนิ้วเรียวยาว เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ริมสระว่ายน้ำร่างบางเกร็งกระตุก ปลดปล่อยน้ำรักออกมา จนน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนที่นอน ร่างเพรียวระหง อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเอเบลเอื้อมมือไปหยิบกล่องถุงยางอนามัย ที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงหยิบออกมาหนึ่งชิ้น ฉีกซองออก สวมใส่ลงไปบนแก่นกายแข็งขึงของตนอย่างรวดเร็วมือหนาจับเรียวขาของหญิงสาว ที่กำลังนอนตาปรืออยู่บนเตียงให้แยกออก จากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเปิดทางถ้ำงาม ซึ่งตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายธารแห่งความสุข ที่เธอเพิ่งจะปลดปล่อยออกมาก่อนหน้า“เจ็บหน่อยนะที่รัก”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆ กดแก่นกาย ให้แทรกผ่านเข้าไป
สองหนุ่มสาวใช้เวลาอยู่ที่สระว่ายน้ำตามลำพัง นานเกือบสองชั่วโมง อิงวราดื่มไวน์เข้าไป จนจำไม่ได้แล้วว่า นี่เป็นแก้วที่เท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่า เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเมาอย่างที่ควรจะเป็นเอเบลคอยเหลือบมองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา เพราะเขารู้ดีว่า เธอนั้นคอไม่แข็งเท่ากับเขา ทว่าวันนี้เธอกลับดื่มเก่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก“อิงค์...ถ้าคุณเมาแล้ว กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องก่อนก็ได้นะครับ” มือหนาคว้าข้อมือบางที่กำลังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเอาไว้ แก้วไวน์แก้วนั้น จึงทำได้เพียงแค่จ่ออยู่ที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ“อิงค์ยังไม่เมาค่ะ ใครบอกว่าอิงค์เมา” อิงวราดื้อดึง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา ยกไวน์แก้วนั้นขึ้นมาดื่มจนหมดเดิมทีที่เธอตัดสินใจดื่ม ก็เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย และความกระอักกระอ่วน ที่ต้องมองเขาเปลือยท่อนบน เปิดเผยเรือนร่างน่ามองอยู่ในสายตาของเธอ ทว่าดื่มไปดื่มมาก็ชักจะติดลม การดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะทำให้คนเรารู้สึกมึนเมา แต่ก็สามารถทำให้คนเราหลงลืมความเขินอายไปได้เช่นกัน“แต่หน้าคุณแดงมากเลยนะ” เอเบลลุกขึ้นจากเตียงไม้ตัวยาวที่เขานั่งอยู่ ไปนั่งลงบนเตียงไม้ตัวเดียวกับหญิงสาวแทน“กะ...ก็อากาศร้อนนี่คะ” เธอ
อิงวราเห็นเขาเลิกสนใจเธอแล้ว เธอจึงเดินออกไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงระเบียงห้อง ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศในเวลานี้ มีแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมากระทบผิวน้ำ ประกายระยิบระยับให้ความสวยงาม อิงวราสูดลมหายใจเข้าออกอย่างรู้สึกผ่อนคลายจวบจนมื้อเที่ยง แอนนิก้าจึงได้มาตามเจ้านายและหญิงสาว ให้ไปรับประทานมื้อเที่ยง ที่พวกเธอจัดเตรียมเอาไว้ให้ที่ห้องอาหาร เอเบลเผลอหลับไปเช่นเดียวกับอิงวรา ที่กลับเข้าห้องมาก็ล้มตัวนอนบนเตียง แล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว“หลังจากมื้อเที่ยงแล้ว เราจะไปไหนกันดีคะ” อิงวราถามออกมาในขณะที่กำลังเดินตามเขาไปยังห้องอาหารที่อยู่คนละฝั่งกับห้องนอน“คุณอยากนอนพักอีกสักนิดหรือเปล่า ถ้าไม่อยากผมจะพาคุณไปว่ายน้ำย่อยอาหารกันสักนิด”อิงวรามองออกไปข้างนอกผ่านกำแพงกระจกใส แสงแดดไม่แรงมากเหมือนประเทศไทย คงจะไม่ร้อนเท่าไหร่ ออกไปว่ายน้ำเล่นก็ยังดีกว่าอยู่ในห้องกับเขาตามลำพัง บอกตามตรงว่าเธอค่อนข้างรู้สึกอึดอัด เพราะรู้สึกเหมือนกับว่า เธอถูกสายตาของเขาจับจ้องอยู่ตลอดเวลา“กินมื้อกลางวันเสร็จ พวกเราไปว่ายน้ำกันก็ได้ค่ะ”เธอดึงสายตากลับมาจากด้านนอก