สองหนุ่มสาวใช้เวลาอยู่ที่สระว่ายน้ำตามลำพัง นานเกือบสองชั่วโมง อิงวราดื่มไวน์เข้าไป จนจำไม่ได้แล้วว่า นี่เป็นแก้วที่เท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่า เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเมาอย่างที่ควรจะเป็นเอเบลคอยเหลือบมองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา เพราะเขารู้ดีว่า เธอนั้นคอไม่แข็งเท่ากับเขา ทว่าวันนี้เธอกลับดื่มเก่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก“อิงค์...ถ้าคุณเมาแล้ว กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องก่อนก็ได้นะครับ” มือหนาคว้าข้อมือบางที่กำลังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเอาไว้ แก้วไวน์แก้วนั้น จึงทำได้เพียงแค่จ่ออยู่ที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ“อิงค์ยังไม่เมาค่ะ ใครบอกว่าอิงค์เมา” อิงวราดื้อดึง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา ยกไวน์แก้วนั้นขึ้นมาดื่มจนหมดเดิมทีที่เธอตัดสินใจดื่ม ก็เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย และความกระอักกระอ่วน ที่ต้องมองเขาเปลือยท่อนบน เปิดเผยเรือนร่างน่ามองอยู่ในสายตาของเธอ ทว่าดื่มไปดื่มมาก็ชักจะติดลม การดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะทำให้คนเรารู้สึกมึนเมา แต่ก็สามารถทำให้คนเราหลงลืมความเขินอายไปได้เช่นกัน“แต่หน้าคุณแดงมากเลยนะ” เอเบลลุกขึ้นจากเตียงไม้ตัวยาวที่เขานั่งอยู่ ไปนั่งลงบนเตียงไม้ตัวเดียวกับหญิงสาวแทน“กะ...ก็อากาศร้อนนี่คะ” เธอ
เอเบลเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนที่จะอุ้มหญิงสาว พาเธอเดินมุ่งหน้าไปยังเตียงนอน วางเธอลงแล้วโถมกายหนาตามไป มือทั้งสองข้างจับเรียวขาทั้งสองข้าง ให้แยกออกจากกันจากนั้นเขาจึงซุกใบหน้าหล่อเหลาลงไปตรงจุดกลางกายสาว มือทั้งสองข้างย้ายมาสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวของเธอ ช่วยเปิดทางให้ลิ้นของเขาเข้าไปได้อย่างง่ายดายอิงวราเงยหน้าขึ้น พยายามขบเม้มริมฝีปาก ทว่าเธอก็ยังคงส่งเสียงครางหวานออกมาอยู่ดี เอเบลปรนเปรอเธอทั้งลิ้นและนิ้วเรียวยาว เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ริมสระว่ายน้ำร่างบางเกร็งกระตุก ปลดปล่อยน้ำรักออกมา จนน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนที่นอน ร่างเพรียวระหง อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเอเบลเอื้อมมือไปหยิบกล่องถุงยางอนามัย ที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงหยิบออกมาหนึ่งชิ้น ฉีกซองออก สวมใส่ลงไปบนแก่นกายแข็งขึงของตนอย่างรวดเร็วมือหนาจับเรียวขาของหญิงสาว ที่กำลังนอนตาปรืออยู่บนเตียงให้แยกออก จากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเปิดทางถ้ำงาม ซึ่งตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายธารแห่งความสุข ที่เธอเพิ่งจะปลดปล่อยออกมาก่อนหน้า“เจ็บหน่อยนะที่รัก”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆ กดแก่นกาย ให้แทรกผ่านเข้าไป
ภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู ใจกลางเมืองชิคาโก้ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลากหลายวงการ พากันตบเท้าเข้ามาร่วมงานฉลองมงคลสมรส ของมิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ ทายาทลำดับที่สาม รุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของสามทวีปอเมริกา กับฮาน่า อลินา อารอน สาวสวยลูกครึ่งไทยอเมริกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะถือว่าเป็นทายาทคนแรกของตระกูลวินเทอร์ ที่สละโสดก่อนพี่ชายทั้งสอง“เอเบลคะ แล้วคุณไม่อยากแต่งบ้างเหรอคะ” ซูเปอร์โมเดลสาวของเมืองชิคาโกเอ่ยถามพี่ชายของเจ้าบ่าวออกมา“พอดีว่าผมยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะครับลูน่า” เขาบอกเธอยิ้มๆ ก่อนที่จะยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่ม“คืนนี้... ลูน่าว่างนะคะ ถ้าคุณอยาก...ก็เชิญแวะมาได้ คุณรู้ใช่ไหม...ว่าลูน่ารอคุณอยู่เสมอ”คำพูดของซูเปอร์โมเดลสาว ไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้เขาเอาแต่จดจ้องมองไปยังกลุ่มอดีตเพื่อนร่วมงานของฝ่ายเจ้าสาวซูเปอร์โมเดลสาวชาวอเมริกันมองตามสายตาของมาเฟียหนุ่มไป ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ เพราะใครๆ ต่างก็รู้ดี ว่าเอเบลคนนี้นั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ใครอยากจะครอบครองเขาได้ง่ายๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จัก
พิธีฉลองมงคลดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงช่วงเวลาที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าว ควงคู่พากันเดินพบปะขอบคุณแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพวกตนในวันนี้ งานนี้เจ้าบ่าวของงานจัดเต็มให้ลูกน้องจากประเทศไทย เพราะเขาได้จัดเครื่องบินส่วนตัวไปรับพนักงานจากบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ให้เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ด้วย“วันนี้น้องฮาน่าสวยมากเลยเนอะ ออร่าจับมากเลยอ่า”เจ๊ลูซี่เอ่ยออกมาขณะที่กำลังมองไปยังเจ้าสาว ที่ตอนนี้กำลังเดินเคียงข้างเจ้าบ่าวสุดหล่อกล่าวทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างรู้สึกเห็นด้วยกับเจ๊ลูซี่ เพราะวันนี้ฮาน่าสวยสมกับที่เป็นเจ้าสาวของงานจริงๆเจ๊ลูซี่เหลียวมองไปรอบๆ งาน เธอก็ได้เห็นว่ามีผู้ชายอเมริกันงานดีหลายคนอยู่ภายในงานนี้ เพราะพวกคนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงต่างก็ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝ่ายเจ้าบ่าวมีหน้ามีตาขนาดไหน เธอกำลังคิดถึงอิงวรา นางแบบสาวในสังกัด ที่ตอนนี้ยังคงครองความโสดอยู่“อิงค์...ปีนี้หนูยี่สิบห้าแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะเจ๊ลูซี่ ปลายปีนี้ก็ย่างเข้ายี่สิบหกแล้วค่ะ” อิงวราตอบเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“ยังไม่เจอหนุ่มๆ ที่ถูกใจอีกเหรอ” คนถูกถามส่
หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา กลุ่มของนางแบบสาวชาวไทย ยกเว้นเมริสาและท่านประธานหนุ่มอย่างฮิวโก้ ที่ขอตัวพากันกลับโรงแรมไปก่อน ที่เหลือก็ได้ตัดสินใจพากันออกไปท่องราตรีกันต่อ เพื่อเปิดหูเปิดตาไปกับแสงสีในยามค่ำคืนของเมืองชิคาโก โดยมีสองหนุ่มเอวานและเอเบล พี่ชายของเจ้าบ่าวที่เสนอตัวเป็นเจ้าบ้าน พาทุกคนไปท่องราตรีในค่ำคืนนี้ และถึงแม้อิงวราจะไม่อยากไป แต่สุดท้ายก็ขัดใจเจ๊ลูซี่ไม่ได้อยู่ดี เธอจึงจำใจต้องติดตามทุกคนมาด้วย“ขอบคุณ คุณเอวานกับคุณเอเบลมากเลยนะคะ ที่สละเวลาพาพวกเรามาเที่ยว”เจ๊ลูซี่พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงสองตามจริตของตน หลังจากที่เจ้าบ้านทั้งสองพาพวกเธอเที่ยวชมเมืองชิคาโก้ในยามค่ำคืนมาเกือบสองชั่วโมง และตอนนี้ก็ยังพามานั่งดื่มที่ไนต์คลับสุดหรูใจกลางเมืองแห่งนี้อีก“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเราเลยครับ พวกเราสองคนพี่น้องต่างก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติ ที่ได้มีโอกาสพาเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ เที่ยวชมเมืองชิคาโก้ในค่ำคืนที่แสนพิเศษเช่นนี้”เอวานเป็นฝ่ายตอบ รอยยิ้มที่เป็นมิตรและจริงใจของเขา ดึงดูดสายตาของทุกคนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี จากที่หลายคนรู้สึกอึดอัดก็เริ่มที่จะผ่อนคลายความเครียดเกร็
“ทำไมนายไม่เข้าไปทำความรู้จักเธอเลยวะ เล่นจ้องเธอซะขนาดนั้น ถ้าเธอไม่รู้ตัวว่านายสนใจ เธอก็คงเป็นคนตาบอดที่มองไม่เห็นแล้ว” เอวานกระซิบที่ข้างหูของเอเบลพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะหันไปสนทนากับกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ต่อ“พวกคุณจะดื่มอะไรกันดีครับ จะรับเครื่องดื่มชนิดหนักๆ หรือชนิดเบาๆ กันก่อนดี”“เริ่มจากเบาๆ ก่อนดีกว่าค่ะคุณเอวาน ถ้าเริ่มจากหนักๆ ฉันกลัวว่าสาวๆ จะไม่ไหว แล้วพากันเมาหลับไปซะก่อน ได้หมดสนุกกันพอดี”เจ๊ลูซี่หันไปมองหน้าสองสาว ส่วนนายแบบหนุ่มและผู้จัดการส่วนตัวของเขาที่เป็นชายไม่จริงหญิงไม่แท้นั้น เจ๊ลูซี่ไม่นึกกังวลเพราะรู้ดีว่าสองคนนั้นคอแข็งกว่าพวกสาวๆ เป็นของแน่นอนอยู่แล้ว“รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะลุกไปสั่งให้”เอวานบอกเจ๊ลูซี่ยิ้มๆ จากนั้นจึงลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินไปสั่งให้บาร์เทนเดอร์จัดเหล้าเบาๆ มาเสิร์ฟให้กับสาวๆ ในกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องสะใภ้ ส่วนของตัวเขาและน้องชายนั้นเป็นพวกดื่มเก่ง จึงเริ่มจากเหล้าแรงๆ อย่างเช่นเคยหลังจากสั่งบาร์เทนเดอร์เสร็จ เอวานจึงเดินเข้าไปทักทายสาวๆ อีกกลุ่ม ซึ่งเป็นเขาเองที่อนุญาตให้พวกเธอมาร่วมสังสรรค์ในค่ำคืนนี้ด้วย มาเฟียหนุ่มอัธยาศั
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบตีสาม เสียงเพลงในไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ จึงเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วขึ้น บรรดานางแบบสาวชาวอเมริกันต่างพากันลุกจากเก้าอี้ แล้วโยกกายไปมาตามจังหวะของเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ส่วนทางด้านกลุ่มของนางแบบสาวชาวไทยเองก็ไม่แพ้กัน แน่นอนว่าถ้าเจ๊ลูซี่เป็นผู้นำทีมแล้วล่ะก็ มีหรือที่บรรยากาศฝั่งนี้จะไม่ครื้นเครงส่วนคนที่ดูจะไม่สนุกสนานไปกับคนอื่น ก็คงหนีไม่พ้นอิงวรา เธอเอาแต่นั่งจิบพันซ์สีสวยแก้วแล้วแก้วเล่าอย่างเบื่อหน่าย จนเธอตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางด้านซ้ายของไนต์คลับ เอเบลที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์มองตามนางแบบสาวชาวไทยไปจนร่างระหงลับสายตา“เอเบล... คุณต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่าคะ”คู่ขาของพี่ชายเดินเข้ามาสนทนากับเขา มาเฟียหนุ่มปรายตาไปมองหญิงสาวที่เพิ่งเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะถามเธอออกมาอย่างสนใจ“แล้วคุณจะช่วยผมยังไงครับ...รีน่า”“ผู้หญิงน่ะ มักจะไว้ใจผู้หญิงด้วยกัน...จริงไหมคะ” รีน่าเห็นน้องชายของคู่ขาสนใจในสิ่งที่เธอเสนอ จึงได้เอ่ยออกมา เอเบลเลิกคิ้วหนาขึ้นสูงพลางพยักหน้าขึ้นลง“ถ้าอย่างนั้นผมขอดูความสามารถของผู้หญิงที่ได้ใช้เ
“พี่ธัญญ่าไปสนุกเถอะค่ะ อืม...อิงค์รู้สึกร้อนๆ อิงค์ว่าจะขอตัวกลับโรงแรมก่อน” อิงค์วราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ร่างกายเธอร้อนวูบวาบแปลกๆ“หืม.. ให้พี่ไปส่งไหม” ธัญญ่าแม้ว่าเธอจะรู้สึกสนุกสนานกับค่ำคืนนี้ แต่ทว่าเธอก็ยังคงไม่ละเลยหน้าที่ดูแลนางแบบสาว“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอิงค์กลับเองดีกว่า นานๆ ทีพี่ธัญญ่าจะได้ปลดปล่อยสักที กลับไปสนุกกับทุกคนเถอะค่ะ” อิงวราปฏิเสธ เธอไม่อยากทำให้ธัญญ่าหมดสนุก เพราะนานๆ ทีผู้จัดการส่วนตัวของเธอคนนี้จะมีโอกาสดีๆ แบบนี้สักที“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ กลับไปถึงอาบน้ำแล้วพักผ่อนเลยนะ” อิงวราพยักหน้าก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วคว้ากระเป๋าถือของเธอมาถือเอาไว้“ฝากบอกเจ๊ลูซี่กับทุกคนด้วยนะคะ ว่าอิงค์ขอตัวกลับก่อน” อิงวราเริ่มรู้สึกถึงอาการแปลกๆ เธอเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ธัญญ่าไม่ได้สังเกตอาการที่แปลกไปของหญิงสาว เธอรับปากก่อนที่จะรีบเดินกลับไปเข้ากลุ่ม โดยไม่หันกลับมามองอิงวราอีก นางแบบสาวชาวไทยจึงรีบเดินออกจากไนต์คลับสุดหรูแห่งนี้ไป“ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้วนะคะเอเบล”รีน่าเดินเข้ามาบอกคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม พร้อมส่งยิ้มให้มาเฟียหนุ่ม เขาพยักหน้ายกแก้
เอเบลเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนที่จะอุ้มหญิงสาว พาเธอเดินมุ่งหน้าไปยังเตียงนอน วางเธอลงแล้วโถมกายหนาตามไป มือทั้งสองข้างจับเรียวขาทั้งสองข้าง ให้แยกออกจากกันจากนั้นเขาจึงซุกใบหน้าหล่อเหลาลงไปตรงจุดกลางกายสาว มือทั้งสองข้างย้ายมาสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวของเธอ ช่วยเปิดทางให้ลิ้นของเขาเข้าไปได้อย่างง่ายดายอิงวราเงยหน้าขึ้น พยายามขบเม้มริมฝีปาก ทว่าเธอก็ยังคงส่งเสียงครางหวานออกมาอยู่ดี เอเบลปรนเปรอเธอทั้งลิ้นและนิ้วเรียวยาว เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ริมสระว่ายน้ำร่างบางเกร็งกระตุก ปลดปล่อยน้ำรักออกมา จนน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนที่นอน ร่างเพรียวระหง อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเอเบลเอื้อมมือไปหยิบกล่องถุงยางอนามัย ที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงหยิบออกมาหนึ่งชิ้น ฉีกซองออก สวมใส่ลงไปบนแก่นกายแข็งขึงของตนอย่างรวดเร็วมือหนาจับเรียวขาของหญิงสาว ที่กำลังนอนตาปรืออยู่บนเตียงให้แยกออก จากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเปิดทางถ้ำงาม ซึ่งตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายธารแห่งความสุข ที่เธอเพิ่งจะปลดปล่อยออกมาก่อนหน้า“เจ็บหน่อยนะที่รัก”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆ กดแก่นกาย ให้แทรกผ่านเข้าไป
สองหนุ่มสาวใช้เวลาอยู่ที่สระว่ายน้ำตามลำพัง นานเกือบสองชั่วโมง อิงวราดื่มไวน์เข้าไป จนจำไม่ได้แล้วว่า นี่เป็นแก้วที่เท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่า เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเมาอย่างที่ควรจะเป็นเอเบลคอยเหลือบมองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา เพราะเขารู้ดีว่า เธอนั้นคอไม่แข็งเท่ากับเขา ทว่าวันนี้เธอกลับดื่มเก่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก“อิงค์...ถ้าคุณเมาแล้ว กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องก่อนก็ได้นะครับ” มือหนาคว้าข้อมือบางที่กำลังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเอาไว้ แก้วไวน์แก้วนั้น จึงทำได้เพียงแค่จ่ออยู่ที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ“อิงค์ยังไม่เมาค่ะ ใครบอกว่าอิงค์เมา” อิงวราดื้อดึง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา ยกไวน์แก้วนั้นขึ้นมาดื่มจนหมดเดิมทีที่เธอตัดสินใจดื่ม ก็เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย และความกระอักกระอ่วน ที่ต้องมองเขาเปลือยท่อนบน เปิดเผยเรือนร่างน่ามองอยู่ในสายตาของเธอ ทว่าดื่มไปดื่มมาก็ชักจะติดลม การดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะทำให้คนเรารู้สึกมึนเมา แต่ก็สามารถทำให้คนเราหลงลืมความเขินอายไปได้เช่นกัน“แต่หน้าคุณแดงมากเลยนะ” เอเบลลุกขึ้นจากเตียงไม้ตัวยาวที่เขานั่งอยู่ ไปนั่งลงบนเตียงไม้ตัวเดียวกับหญิงสาวแทน“กะ...ก็อากาศร้อนนี่คะ” เธอ
อิงวราเห็นเขาเลิกสนใจเธอแล้ว เธอจึงเดินออกไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงระเบียงห้อง ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศในเวลานี้ มีแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมากระทบผิวน้ำ ประกายระยิบระยับให้ความสวยงาม อิงวราสูดลมหายใจเข้าออกอย่างรู้สึกผ่อนคลายจวบจนมื้อเที่ยง แอนนิก้าจึงได้มาตามเจ้านายและหญิงสาว ให้ไปรับประทานมื้อเที่ยง ที่พวกเธอจัดเตรียมเอาไว้ให้ที่ห้องอาหาร เอเบลเผลอหลับไปเช่นเดียวกับอิงวรา ที่กลับเข้าห้องมาก็ล้มตัวนอนบนเตียง แล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว“หลังจากมื้อเที่ยงแล้ว เราจะไปไหนกันดีคะ” อิงวราถามออกมาในขณะที่กำลังเดินตามเขาไปยังห้องอาหารที่อยู่คนละฝั่งกับห้องนอน“คุณอยากนอนพักอีกสักนิดหรือเปล่า ถ้าไม่อยากผมจะพาคุณไปว่ายน้ำย่อยอาหารกันสักนิด”อิงวรามองออกไปข้างนอกผ่านกำแพงกระจกใส แสงแดดไม่แรงมากเหมือนประเทศไทย คงจะไม่ร้อนเท่าไหร่ ออกไปว่ายน้ำเล่นก็ยังดีกว่าอยู่ในห้องกับเขาตามลำพัง บอกตามตรงว่าเธอค่อนข้างรู้สึกอึดอัด เพราะรู้สึกเหมือนกับว่า เธอถูกสายตาของเขาจับจ้องอยู่ตลอดเวลา“กินมื้อกลางวันเสร็จ พวกเราไปว่ายน้ำกันก็ได้ค่ะ”เธอดึงสายตากลับมาจากด้านนอก
อิงวราถูกมาเฟียหนุ่ม กึ่งลากกึ่งจูงเข้าไปในห้อง ก็รู้สึกตื่นตระหนก แม้ว่าคืนนั้นเธอกับเขา จะเกินเลยกันไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะยอมปล่อยให้เรื่องผิดพลาดแบบคืนนั้น เกิดขึ้นซ้ำอีกหน อีกทั้งเธอก็ยังรู้จักเขาไม่มากพอ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเธอไม่อยากเป็นเพียงแค่ของเล่นของใคร“ดะ...เดี๋ยวค่ะ ที่คุณบอกว่า คืนนี้ ‘เรา’ จะพักที่นี่ด้วยกัน อย่างนั้นเหรอคะ” อิงวราเอ่ยถามพลางชะงักเท้า และพยายามชักแขนของตนเองกลับ“ก็ใช่น่ะสิครับ”ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงใหญ่หันกลับมาอุ้มเธอขึ้นจากพื้น แล้วพาไปยังเตียงนอน อิงวรายิ่งรู้สึกตกใจในการกระทำของมาเฟียหนุ่มตอนแรกเอเบลเพียงแค่อยากจะแกล้งหญิงสาวเท่านั้น ทว่ากลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอ กลับชวนให้เขาหลงใหล เกิดความอยากที่จะแนบชิดกับเธอจริงๆ ขึ้นมาร่างเพรียวระหง ถูกวางลงบนเตียงนุ่มอย่างช้าๆ ก่อนที่คนตัวโต จะโน้มกายลงไปใกล้ชิด ริมฝีปากหนามีจุดมุ่งหมายคือริมฝีปากอิ่มของหญิงสาว ทว่ายังไม่ทันจะได้แนบชิดกัน อิงวราก็ใช้มือขวางกั้นเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัว“ยะ...อย่าค่ะ” อิงวราห้ามเขา นัยน์ตากลมโตจ้องมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่หลบหลีก เอเบลฉีกยิ้มทรงเสน่ห์“ทำไมล่ะครับ คน
หลังจากที่เครื่องบินลอยอยู่เหนือท้องฟ้านานเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็นักบินก็ประกาศลงจอดเสียที อิงวราถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เอเบลที่จิบไวน์อยู่ แอบปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาขบขัน ทว่าเขากลับเลือกที่จะไม่เปิดโปงให้เธอได้อาย“ถึงแล้วครับ ผมรับรองว่าคุณต้องชอบ” เอเบลลุกขึ้นยืนพลางยื่นมือไปให้หญิงสาวจับอิงวรารู้สึกว่าตนเองวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย จากการนั่งเครื่องบินเล็กที่ไม่คุ้นชิน จึงยอมวางมือลงไปบนมือหนาของเขาแต่โดยดีสองหนุ่มสาวเดินกุมมือกัน ลงจากเครื่องบินส่วนตัวไป ทว่าบรรยากาศด้านนอก นอกจากที่อิงวราจะได้เห็นวิวของท้องทะเลสีฟ้าครามแล้ว ยังมองเห็นว่ามีบรรดาชายชุดดำ ยืนเรียงแถวกันอยู่ยาวเหยียดสองฝั่งซ้ายขวา ราวกับว่ากำลังรอต้อนรับพวกเขาอยู่และก็เป็นไปอย่างที่อิงวราคิด พอเอเบลพาเธอก้าวเท้า ลงมาจากบันไดเครื่องบินเล็กส่วนตัว ชายชุดดำทั้งหมดก็ส่งเสียง กล่าวทักทายมาเฟียหนุ่มขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน อิงวราถึงกับสะดุ้ง เอเบลหันกลับไปมองคนข้างๆ ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้อง แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน จากนั้นจึงเดินกุมมืออิงวรา มุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัว“เกาะนี้เจ้านายยังไม่เคยพาผู้หญิงคนไ
อิงวรากลับมาถึงห้องพัก ก็พบว่าพี่ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ไม่ได้อยู่ที่ห้องพักอย่างที่เธอคาดเดา นางแบบสาวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะเธอยังไม่พร้อม ที่จะตอบคำถามของผู้จัดการส่วนตัวในตอนนี้ ร่างระหงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำก่อนเข้านอนระหว่างที่เธอกำลังใช้ไดร์เป่าผม ที่ยังคงเปียกชื้นอยู่นั้น เสียงของสมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่ถูกวางเอาไว้บนเตียงก็ดังขึ้น หญิงสาวจึงวางไดร์เป่าผมลง แล้วเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนที่กำลังส่งเสียงร้องอยู่ ขึ้นมาดูรายชื่อ ของผู้ที่ติดต่อเข้ามามุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะสัมผัสหน้าจอ เพื่อเป็นการรับสาย สงสัยเขาคงจะกลับถึงเพ้นท์เฮ้าส์ท์แล้ว ถึงได้โทรมาหาเธอในตอนนี้“ฮัลโหล...” เสียงหวานส่งไปยังปลายสาย“คุณนอนหรือยัง ผมถึงเพ้นท์เฮ้าส์ครับ” มาเฟียหนุ่มรายงานออกมา เขาไม่เคยปฏิบัติกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน นอกจากมารดาคนเดียวเท่านั้น“ยังค่ะ...ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เอ่อ...เรื่องนี้ คุณไม่เห็นจะต้องโทรมารายงานฉันเลยค่ะ” อิงวราตอบปลายสายกลับไปยิ้มๆ ระหว่างที่เธอเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง“ผมกลัวว่าคุณจะเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ หรือว่าคุณไม่ได้สนใจอะไร”
“ผมชื่อเอเบล วินเทอร์ ชื่อเล่นว่า เดฟ อายุสามสิบสองปี อาชีพนักธุรกิจ เกิดที่เมืองชิคาโก้ แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ ครอบครัวของผมก็อย่างที่คุณรู้ มีพี่ชายหนึ่งคนและน้องชายหนึ่งคน”เอเบลแนะนำตนเองออกมาให้หญิงสาวฟังบ้าง นี่ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ของมาเฟียหนุ่ม เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน“เดฟ...”อิงวราเรียกชื่อเล่นของเขาออกมาพลางยิ้มหวานให้ มาเฟียหนุ่มใจเต้นแรงตอนที่มองเห็นรอยยิ้มนี้อีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน“นี่ก็ดึกแล้ว อิงค์ว่าเรากลับกันเถอะค่ะ”เพราะเธอเอ่ยปากชวนเขากลับนั่นเอง เขายังรู้สึกว่าเวลาที่เขาได้ใช้กับเธอ เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย“กลัวผู้จัดการลงโทษเหรอครับ กลับดึกนิดหน่อยเธอคงไม่ว่าหรอก อีกอย่างคุณก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำงานเสียหน่อย” เอเบลเย้าแหย่หญิงสาวตรงหน้า“การนอนดึกมันไม่ดีต่อสุขภาพน่ะค่ะ”อิงวราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้เวลากับเขาให้มากจนเกินไป เพราะถ้าถึงวันที่เธอต้องกลับประเทศไทย เธอกลัวว่าความรู้สึกที่เธอมีให้เขาจะเปลี่ยนไป“วันนี้เดตวันแรก ผมจะไม่ขัดใจคุณก็แล้วกัน แต่ถ้าวันต่อๆ ไป ต้องแล้วแต่ผ
ณ ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองชิคาโก้ วันนี้ทางร้านได้มีโอกาสต้อนรับทายาทมาเฟียตระกูลดังอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้พนักงานทุกคนต่างพากันตัวเกร็ง ไม่กล้ากระทำการใดๆ ให้มาเฟียหนุ่มหน้าตาดี ที่ควงสาวสวยชาวเอเชีย มาดินเนอร์ที่นี่ต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจวันนี้เอเบลลงทุนปิดร้านอาหารชื่อดังร้านนี้ ก็เพื่อมาเดตกับอิงวราโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนมากเท่าเธอมาก่อน และดูเหมือนว่าพวกพนักงานที่เคยได้ยินข่าวมาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ว่าหญิงสาวที่มาเฟียหนุ่มควงมาในวันนี้ ดูเป็นคนสำคัญของเขามากกว่าคู่ขาหรือคู่ควงทั่วไป“นี่คุณปิดร้านนี้เหรอคะ” อิงวราถามเขาออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีลูกค้าที่อยู่ในร้านเลยสักคน“ก็คุณบอกผมว่าไม่อยากเป็นข่าว ผมทำแบบนี้คงไม่ผิดหรอกใช่ไหม”อิงวราหมดคำจะเอ่ย บริกรของร้านเข้ามารับรายการอาหารอย่างกล้าๆ กลัวๆ อิงวรามองอาการของพนักงานแล้วก็รู้สึกเห็นใจ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้านั้นเป็นคนโหดร้ายถึงขนาดไหน ถึงได้ทำให้คนอื่นรู้สึกเกรงกลัวเขาได้ขนาดนี้สองหนุ่มสาวนั่งดินเนอร์กันใต้แสงเทียน เสียงดนตรีดังขึ้นให้บรรยากาศโรแมนติก อิงวรา
“ไม่ยากจริงๆ นั่นแหละ เห้ย!! รีบออกรถสิ ฉันง่วงนอนแล้ว”เอเบลพึมพำออกมา ก่อนที่เขาจะส่งเสียงดังสั่งลูกน้อง เขาง่วงนอนจริงๆ เพราะเมื่อคืน เขาต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ล่วงเกินหญิงสาว จนเขาต้องลุกไปช่วยเหลือตัวเองอยู่หลายครั้ง ชีวิตเขาไม่เคยต้องมาอดทนอดกลั้นเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงได้ขนาดนี้ หากนี่ไม่ใช่การที่เขาตกหลุมรักเธอคนนี้แล้วจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมันจะเรียกว่าอาการอะไรไปได้อีกบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองสะดุ้ง ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถรีบออกรถทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเจ้านาย นี่สิถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้านายที่พวกเขารู้จัก ถึงแม้เจ้านายจะเป็นคนที่ขี้เล่น และทำตัวสบายๆ มากกว่าพี่น้องคนอื่น แต่ก็มีนิสัยจริงจังและโหดเหี้ยมอยู่ในสายเลือดไม่แพ้กัน ถ้าไม่อย่างนั้นจะดูแลลูกน้องทั้งทวีปได้อย่างไรอิงวรากลับถึงห้องพักของโรงแรมหลังจากที่เดินขึ้นลิฟต์มาได้เพียงห้านาที ผู้จัดการส่วนตัวนั่งรอเธออยู่อย่างกระวนกระวายใจ เพราะได้ข่าวแค่ว่าเธอเกิดเรื่อง แล้วถูกเอเบลช่วยเหลือเอาไว้จากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอได้แต่โทษตัวเองที่ปล่อยให้นางแบบสาวที่เธอดูแล กลับโรงแรมตามลำพัง“พี่ธัญญ่า อย่