"เป็นเป็นไรเจ้าค่ะข้าเองก็ไม่อาจทนเห็นเด็กเล็กๆคนหนึ่งต้องมาตายต่อหน้าจากไอ้คนที่เห็นแก่ตัวนี้" ตัวมันคิดว่าถนนนี้เป็นของคนเดียวหรืออย่างไรนางคิดในใจด้วยความโกรธเช่นเดียวกัน
"ท่านน้าพาลูกของท่านไปที่โรงหมอเพื่อดูอาการก่อนเถอะเจ้าค่ะ เพราะข้าพานางกลิ้งออกมาคงจะเจ็บไม่น้อยเหมือนกันแต่ยังดีกว่าโดนม้าเหยียบนะเจ้าคะ" ว่านลี่ถิงบอกมารดาของเด็กด้วยความเป็นห่วงในตัวเด็กหญิงเช่นเดียวกัน "ข้าหวังซูซินขอบคุณคุณหนูมากเจ้าค่ะข้าเป็นสะใภ้ใหญ่ของจวนเสนาบดีฝ่ายขวามีอะไรไปหาข้าได้นะเจ้าคะข้าขอตัวพาบุตรสาวไปโรงหมอก่อนเจ้าค่ะแม่นางน้อย" "ข้าว่านลี่ถิงบุตรสาวของท่านแม่ทัพว่านลี่หลงเจ้าค่ะถ้ามีโอกาสข้าจะไปเยี่ยมบุตรสาวของท่านท่านเสนาบดีที่จวนนะเจ้าคะ" จากนั้นสาวใช้ที่มาด้วยกับฮูหยินก็พากันประคองเจ้านายรีบไปที่โรงหมออย่างเร่งรีบเพราะคุณหนูน้อยยังไม่หยุดร้องให้เพราะตกใจมากๆนั้นเอง "คุณหนูเจ้าคะเป็นเยี่ยงไรบ้าง" สาวใช้วิ่งมาประคองคุณหนูของตัวเองให้ยืนขึ้นจากที่ล้มเพราะกลิ้งหลบรถม้าพร้อมเด็กน้อย "น้องสาวว่านลี่ถิงเจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้างพี่สาวตกใจหมดเลยที่เจ้าใจกล้ากระโดนไปกลางถนนเพื่อช่วยเด็กคนนั้นอย่างไม่กลัวตายเลยสักนิด" ซูเมิ่งหลันจับตัวว่านลี่ถิงหมุนด้วยกลัวว่านางจะมีเลือดไหลตรงไหนบ้าง "ข้าไม่เป็นอะไรมากเจ้าค่ะพี่สาวซูเมิ่งเพียงแต่ตอนที่กลิ้งมาชนขอบถนนจึงเจ็บที่แขนนี้เจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงตอบพี่สาวซูเมิ่งให้คลายความกังวลใจ ก่อนที่นางจะได้ยินเสียงคนที่กระเด็นตกจากรถม้าที่ตอนนี้กำลังลุกขึ้นมาด่าให้นางเพราะลูกน้องช่วยกันประคองขึ้นยืนได้แล้ว "เจ้าบังอาจมากนะที่กลัาขวางทางรถม้าของข้าเจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคือใครวอนหาที่ตายเสียแล้วนังนี้" หลี่เจ๋อฉางพูดขึ้นมาด้วยความโกรธที่โดนคนขวางทางการเดินทางไปเรียนที่สถานศึกษาของตัวเองเป็นเหตุให้รถม้าของเขาพังเสียหาย เพราะม้าสะบัดรถม้าอย่างแรงตัวเขาเองก็หัวกระแทกขอบถนนหัวแตกเช่นเดียวกัน "เจ้าต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น" หลี่เจ๋อฉางตะโกนด่าว่านลี่ถิงด้วยความโกรธ "ขนาดตัวเจ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วยังกล้ามาถามกับคนอื่นอีกหรือช่างน่าขันเสียจริง ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็กลับไปถามบิดามารดาของเจ้าดูสิเจ้าเจ้าเป็นใครชื่ออะไรจะได้ไม่ต้องมาถามหาชื่อตัวเองกับคนอื่นมันน่าสมเพชทุเรศมากในสายตาข้า" ว่านลี่ถิงถิงดึงที่ช็อตไฟฟ้าแรงสูงออกมาถือเอาไว้ป้องกันตัวเองเพื่อเกิดอะไรขึ้นกระทันหันกับการแสดงออกของคู่กรณีตรงหน้า "เจ้า!บังอาจมากที่กล้ามีเรื่องกับข้าหลานชายของเสนาบดีฝ่ายซ้ายข้าจะให้ท่านตาสั่งสอนครอบครัวของเจ้าให้หนักเลยคอยดูสิ" "อ้อรู้จักตัวเองขึ้นมาแล้วหรือนึกว่าโง่จนไม่รู้อะไรที่แท้ทำตัวสูงเทียมฟ้าเพราะว่าอ้างตัวว่าเป็นหลานชายคนโปรดของท่านเสนาบดีนี้เอง แต่เอ๋ท่านตาของเจ้าจะรู้ไหมนะว่าหลานชายนั้นทำตัวใหญ่คับฟ้าจนเกือบทำให้เด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งเกือบโดนรถม้าเหยียบตาย เพราะคิดว่าถนนในเมืองหลวงแห่งนี้เป็นของจวนของครอบครัวของเจ้าล่ะคุณชายบัดซบ บิดามารดาของเจ้าออกตำลึงคนเดียวสร้างถนนเอาไว้ให้บุตรชายอย่างเจ้าขี่ได้คนเดียวในเมืองนี้ละไม่แหกตาดูกระมังว่าตลาดคนเยอะเพียงใดถึงได้บังคับม้าเร็วเยี่ยงนี้!" ว่านลี่ถิงด่าด้วยน้ำเสียงที่ดังไปให้ได้ยินไปจนถึงเหลาอาหาร ในห้องพิเศษตอนมีแม่ทัพเผิงเย่ห่าวกับองค์รัชทายาทกำลังคุยกันเรื่องที่ให้แม่ทัพเผิงไปสืบข่าวพึ่งกลับมานัดพูดคุยกันบนชั้นสองของเหลาอาหารแห่งนี้ ซึ่งทั้งสองคนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ท่านแม่ทัพเผิงเกือบจะกระโดดลงไปช่วยเด็กคนนั้นเหมือนกันแต่เห็นสตรีน้อยนั้นเร็วกว่ากระโดดลงไปก่อนเพราะนางอยู่ใกล้ "นั้นมันคุณหนูว่านลี่ถิงคู่หมั้นของเจ้านี้นาเย่ห่าว" องค์รัชมายาทพูดขึ้นมาเบาๆให้ได้ยินกันสองคนเพราะตอนนี้ทั้งหนุ่มนั้นยืนดูที่หน้าต่าง และได้ยินทุกถ้อยคำเพราะเปิดหน้าต่างเอาไว้ตอนได้ยินเสียงคนตะโกนหนีตายด้านล่าง "พะย่ะค่ะเป็นนางจริงๆด้วยตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสิบวันก่อนที่งานเลี้ยงกระหม่อมยังไม่ได้พบเจอนางอีกเพราะพึ่งกลับมาวันนี้ที่นัดพระองค์นี้ละพะย่ะค่ะ" เผิงเย่ห่าวตอบคำถามขององค์รัชทารยาทไปตามตรง "ข้าไม่เห็นว่านางจะเป็นเหมือนข่าวลือเลยนี้ข้าเห็นนางยุติธรรมดีออกนั้นไงด่าหลายชายเสนาบดีฝ่ายซ้ายซะไม่มีเหลือหึนางน่าสนใจไม่น้อย" เผิงเย่ห่าวมองหน้าเจ้านายกึ่งเพื่อนด้วยสายตาเขม่นทันที "ข้าล้อเล่นไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเสียหน่อยข้ารู้หรอกนะว่าเป็นคู่หมั้นของท่านแม่ทัพใหญ่" องค์รัชทายาทรีบแก้ตัวทันทีที่เห็นสายตาของแม่ทัพคู่กายมองมาด้วยความไม่พอใจ เผิงเย่ห่าวเองยืนคิดในใจนางเปลี่ยนไปมากตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องที่งานเลี้ยงน้ำชา ผ่านมาสิบกว่าวันเขายังจำแววตาของนางที่มองเขาด้วยความเฉยชาอีกทั้งบอกให้เขาเข้าไปที่จวนยกเลิกงานหมั้นจากนางได้เลย นางจะไม่ตามตอแยเขาอีกต่อไปนี้ก็สิบกว่าวันแล้ว พบนางที่ไหนต้องมีเรื่องก่อนตลอดแต่พึ่งจะมีที่เห็นด้านล่างนี้ละที่นางทำเรื่องที่ดีไม่ใช่ตบดีกับคุณหนูฟางเจี้ยนผิงให้เขาเห็น "รอดูไปก่อนถ้านางจัดการไม่ได้ค่อยลงไปช่วยนาง" องค์รัชทายาทบอกแม่ทัพคู่กายที่ยืนมองคู่หมั้นด้านล่างอย่างไม่คาดสายตาไหน บอกไม่สนใจนางแต่ที่เห็นวันนี้มันไม่ใช่แล้วเขายกยิ้มมุมปากเรื่องของแม่ทัพเผิงช่างน่าสนใจเสียแล้วสิ "เจ้านี้วอนหาเรื่องตายเสียแล้วจับตัวนางเอาไว้ข้าจะตบปากสั่งสอนนางให้คนพวกนี้ได้ดูว่ากล้ามีเรื่องกับข้าแล้วจุดจบมันเป็นเยี่ยงไร!" หลี่เจ๋อฉางสั่งคนขับรถม้ากับคนสนิทที่ตามมาด้วยกันจับว่านลี่ถิง ไอ้นี้วอนตายเสียแล้วทำให้คนอื่นเดือนร้อนยังไม่สำนึกยังคิดจะตบตีผู้หญิง นี้เขาเลี้ยงลูกมาเยี่ยงไรไม่เห็นหัวคนอื่นนางคิดในใจในเมื่อมันสั่งให้คนจับตัวนางไว้ใครจะโง่ให้มันทำร้ายก่อนวันนี้ข้าจะสั่งสอนคนให้มันกลับจวนไปไม่ถูกเลยคอยดู จบคำสั่งของนายน้อยลูกน้องคนสนิทก็เดินเข้ามาจะจับตัวหญิงสาว เผิงเย่ห่าวเตรียมตัวจะกระโดดลงมาช่วยคู่หมั้นเขาต้องตกใจกับการเผชิญหน้าที่นางเข่าใส่ชายสองคนด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว ว่านลี่ถิงไม่เคยให้คนทำร้ายตัวเองก่อนนางใช้ที่ช็อตไปฟ้าจิ้มเข้าใส่จุดอ่อนของคนสนิทของคุณชายน้อยหลี่ด้วยความรวดเร็ว ส่วนคนขับรถม้านางถีบกระเด็นไปก่อนหน้าแล้ว ชายคนนั้นชักกระตุกแล้วสลบไปทันทีอย่างทันไม่ตั้งตัวว่านลี่ถิงเลือกชนิดที่รุนแรงที่สุดพอซ็อตถูกตัวและตรงจุดคนนั้นจะหมดสติทันทีมีของดีไม่ใช้เสียดายแย่เลยนางคิดในใจ"อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะหย่าเจ้าหรือถิงเอ๋อร์ เจ้าจงเข้าใจเสียใหม่นะ ฮูหยินของข้าคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น"แม่ทัพตอบคำถามนางก่อนที่จะรวบตัวนางมากอดแนบตัวเพราะเขาเห็นนางจะกระโดดหนีไปอีกทาง ว่านลี่ถิงตกใจอ้าปากจะต่อว่าสามีหมาดๆของนางจึงเป็นว่านางอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดลิ้นปิดปากพัวพันกันจนเกิดเสียงหยาบโลน"อื้อ" ว่านลี่ถิงทุบอกชายหนุ่มเพราะนางใจจะขาดเพราะจูบที่เอาแต่ใจจากเขา แม่ทัพหนุ่มผละออกให้นางหายใจก่อนจะก้มลงปิดปากของนางใหม่ สติของว่านลี่ถิงกระเจิดกระเจิงเพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของนาง เขาจุดติดอย่างง่ายดายแม่ทัพคิดในใจว่าวันนี้ต้องเข้าหอกับนางให้ได้ นางจะได้หายฟุ้งซานว่าเขาจะหย่าให้นาง เช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าจะปั้นก้อนแป้งให้นางเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าถึงเวลาสร้างครอบครัวแล้วนั้นเองว่านลี่ถิงทั้งเสียวทั้งร้อนวูบวาบไปหมดกับการเร้าโรมของคนเป็นสามีที่พึ่งแต่งในวันนี้หมาดๆรุกนางหนักจนนางแทบเหลว เพราะเขาลูบคลำบีบเค้นทั่วร่างของนาง นางก็ตอบสนองเขากลับไปแบบเงอะๆงะๆด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ที่สร้างมาให้ชายหญิงคู่สามีภรรยา ร่างซ่อนรูปได้เปลือยเปล่าต่อหน้าของสามีที่ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเรื่
หลังจากจัดการเรื่องอดีตบ้านปู่ย่าของพี่สาวซูเมิ่งหลันให้คนในตระกูลไม่กล้ากลับมายุ่งกับครอบครัวของพี่สาวเมิ่งหลันได้อีก ด้วยความช่วยเหลือของท่านพ่อกับพี่ชายของนางทำให้ผู้นำตระกูลเว่ยสั่งฮูหยินของตนเองกับลูกสะใภ้ไม่ให้ไปหาเรื่องสองแม่ลูกซูเมิ่งหลิงกับซูเมิ่งหลันได้ อีกทั้งลงนามต่อหน้าหัวศาลถ้าคนตระกูลเว่ยไปหาเรื่องสองแม่ลูกอีกจะต้องถูกปรับหนึ่งพันตำลึงทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับเว่ยอี้หรานที่ไม่สามารถให้มารดากับท่านย่ายึดเอาร้านขายผ้าของสองแม่ลูกนั้นมาได้ แถมนางยังสนใจแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยที่ออกหน้าให้กับสองแม่ลูกซูนั้นอีกแล้วยังโดนท่านปู่กับท่านพ่อสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะส่งไปแต่งงานที่หัวเมืองอื่นนางจึงหยุดเอาไว้ก่อนแต่จะต้องหาโอกาสเข้าหาแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยให้ได้เพราะนางอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของซูเมิ่งหลันมาเป็นของตัวเองให้ได้จบเรื่องของพี่สาวซูไปนางก็ถึงวันแต่งให้ไอ้แม่ทัพขี้เก๊กนั้น นางถูกมารดาจับลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืดแต่หน้านางขอแต่งเองไม่อยากให้แต่งหน้ขาววอกของคนยุคนี้ซึ่งมารดาเองก็ยอมเพราะลูกสาวแต่งให้นางทุกวัน ถ้าอยู่ด้วยกันแถมนางจะนำเอาเครื่องสำอางค์ในมิติออกมาให้
พอสองแม่ลูกออกมาจากในห้องรับรองแขกก็เจอกับอดีตแม่สามียืนด่านางเสียงดังยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดสด เมื่อก่อนนางเคยดูถูกอาชีพของสองแม่ลูกอีกทั้งบังคับบุตรชายหย่ากับท่านแม่แต่ท่านพ่อไม่ยอม ถึงกับตัดท่านพ่อออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้าไม่สามารถหนุนตำแหน่งให้บุตรชายได้ "อ้อข้าคิดว่าคนบ้าที่ไหนมาร้องส่งเสียงดังในร้านของข้าไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอะไรกับพวกข้าหรือ ถึงมาก่อกวนในร้านขายผ้าของพวกข้าใครก็ได้ไปตามทหารมาคุมตัวคนบ้าออกไปจากในร้านของข้าสิหลงจู๊" ฮูหยินเมิ่งซูหลิงร้องสั่งหลงจู๊ในร้านออกไปเสียงดังพอประชันหน้ากันกับอดีตแม่สามี ที่ผ่านมานางยอมเพราะรักสามี แม้บุตรสาวนางยังเล็กโดนโขกสับในจวนมานานหลายปี จนตอนนี้นางกับบุตรสาวพากันบุกเบิกร้านขายผ้าตามมารดาของนางเองนับสิบปีตอนออกจากจวนมาพวกนางไม่ได้รับสมบัติจากบ้านของปู่ย่ามาด้วยเลยสักนิด มีเพียงตำลึงรายเดือนของท่านพ่อเพียงเท่านั้นที่ช่วยเหลือครอบครัวได้ พากันมาอาศัยที่จวนเก่าของท่านยายท่านตาจนถึงทุกวันนี้ ร้านค้านี้สมบัติของท่านยายที่ยกให้บุตรสาวหลังจากเสียชีวิตไปสองแม่ลูกชอบตัดเย็บเสื้อผ้าจึงพากันเย็บชุดขายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกื
ว่านลี่ถิงได้ขอบิดาของนางออกไปร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันในช่วงเช้ากับท่านแม่และพี่ชายว่าจะไปไม่นานนางขอให้ท่านพ่อไปด้วยนางสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเพราะนางต้องเตรียมตัวแต่งให้ท่านแม่ทัพนางถูกพี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยจับขัดตัวจนนางคิดว่าตัวนางถลอกหมดแล้ว ทั้งขัดทั้งอบน้ำหอมจนนางหมดแรงวันนี้ท่านพ่อจึงอนุญาตให้ไปได้ท่านจะไปด้วยเหมือนกันเห็นบุตรสาวขอร้องขนาดนั้นแม่ทัพใหญ่จึงใจอ่อนให้นาง อีกไม่กี่วันนางจะแต่งให้แม่ทัพเผิงแล้วเดินทางลงไปยังชายแดนใต้ไปช่วยงานองค์รัชทายาทอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ วันนี้ทุกคนจึงเดินทางออกจากจวนตั้งแต่ยามเฉิน หลังจากทานมื้อเช้าร่วมกันนางกับมารดานั้นนั่นในรถม้าบิดากับพี่ชายขี่ม้าประกบ มีคนสนิททั้งของบิดามารดาที่เดินทางไปด้วยกันร่วมสิบคน ขาดไม่ได้ก็พี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยที่นางส่งให้ออกเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อช่วยพี่สาวซูเมิ่งหลันตั้งแต่เช้ามืด"ท่านแม่คิดว่าคนจะเยอไหมเจ้าคะข้านั้นได้ให้พี่สาวทำตามแผนงานที่ลูกวางเอาไว้ให้ ลูกได้จ้างคนไปแจกใบปลิววันนี้ฮูหยินหวังซูซินบอกว่าจะมาร่วมงานพร้อมกับบุตรสาวที่ลูกช่วยในวันนั้นด้วยนะเจ้าคะ นางไปสั่งตัดชุดที่ร้านพี่สาวเมิ่งห
ว่านลี่ถิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ไม่สามารถขัดราชโองการของฝ่าบาทได้ เกือบจะได้ถอนหมั้นอยู่แล้วเชียวแต่ดันมีมารมาขัดขวางเสียก่อน เอาวะเขาคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางมาจากชาติที่แล้วชดใช้ให้มันหมดเวรต่อกันในชาตินี้เลยก็แล้วกัน อีกอย่างถ้าเกิดนางได้เดินทางไปชายแดนใต้ร่วมขบวนขององค์รัชทายาท ถ้านางได้ช่วยเหลืองานของพระองค์แล้วค่อยทูลขอใบหย่าก็ไม่น่าจะอยากแต่ต้องทำสัญญากับไอ้แม่ทัพหื่นนั้นเสียก่อน ว่าห้ามเข้าหอกับนาง นางยินดีจะหย่าให้เขาแต่งเมียเข้าจวนแต่งห้ามล้ำเส้นนางก็พอไม่เช่นนั้นนางจะฟาดกลับให้จวนร้อนเป็นไฟเลยสิคอยดู ว่านลี่ถิงคิดในใจ"ถิงเอ๋อร์เหลืออีกเพียงสิบวันจะตัดชุดแต่งงานของลูกทันหรือเปล่านี้ มาพาแม่ไปร้านของเมิ่งซูหลันกันเถอะลูกจะได้เลือกชุดแต่งงานที่ตัดสำเร็จไว้ที่ร้านของแม่นางเมิ่งซูหลันคงจะมีนะแม่ว่า" มารดาของนางรีบชวนบุตรสาวไปหาชุดแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันที่จะถึง"เจ้าค่ะท่านแม่แต่ลูกว่ามีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละเจ้าค่ะลูกไม่คิดมาก ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงบอกกับมารดา"ฮูหยินเจ้าคะมีคนจากจวนขององค์รัชทายาทนำชุดแต่งงานมามอบให้คุณหนูว่านลี่
เสียงเคาะประตูที่หน้าหองทำให้สองร่างผละออกจากกันแม่ทัพคลายอ้อมกอดออย่างเสียดายเพราะพึ่งจะได้จูบนางไปสองรอบเอง เขากำลังจะลองอีกในครั้งที่สามแต่โดนขัดจังหวะเสียก่อน "คุณหนูเจ้าคะนายท่านบอกให้มาเชิญท่านแม่ทัพกับคุณหนูไปที่หน้าจวนเจ้าค่ะมีขันทีของฝ่าบาทนำราชโองการมาถึงคุณหนู ให้คุณหนูกับท่านแม่ทัพรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" เสียงพี่สาวซิงซิงร้องบอกด้วยความร้อนใจว่านลี่ถิงเองดิ้นออกจากแม่ทัพได้พอนางได้ยินเสียงของสาวใช้เรียกที่หน้าห้องไม่เช่นนั้นนางจะต้องโดนไอ้แม่ทัพบ้านี้เอาเปรียบต่ออย่างแน่นอน นางจึงรีบเดินออกจากในห้องรับแขกด้วยความเร็วจนแม่ทัพหนุ่มหัวเราะตามหลังอย่างชอบใจที่นางวิ่งหนีเขาแถมก่อนจากนางยังตะคอกให้เขา"ไหนบอกว่ารังเกียจข้านักหนาแล้วมาแตะต้องตัวข้าทำไมไม่ทราบไอ้บ้ากามเอ๊ย" ว่านลี่ถิงด่าให้คู่หมั้นอย่างไม่เกรงกลัวอย่าเผลอเชียวละนางจะทุบให้กระอักเลือดตายเลย ทั้งเดินทั้งบ่นรวมถึงจัดเสื้อผ้าหน้าผมไปด้วยในตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากเรือนไปเลยแม่ทัพหนุ่มรีบเดินตามคู่หมั้นไปด้วยรอยยิ้มตามหลังนางไปติดๆ พอไปถึงนางเห็นท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายยืนรออยู่ที่หน้าเรือนคุยกับขันทีของฝ่าบาทรออ