공유

บทที่ 12 สนอง

last update 최신 업데이트: 2025-02-13 09:40:34

ตุ้บ!!

ร่างของเมษาถูกเจ้านายเหวี่ยงขึ้นเตียงอย่างแรง แรงกระแทกกับที่นอนส่งผลให้เธอจุกจนร้องไม่ออก หน้าคะมำจูบที่นอนนุ่มเต็ม ๆ 

ทว่าแม้จะรู้สึกจุก และเจ็บเพียงใดเธอก็พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งโดยเร็วที่สุดด้วยความกลัวที่มีมากกว่า 

"อ๊ะ.."

ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ถูกร่างสูงผลักให้นอนราบกับที่นอนอีกครั้งโดยมีเขาตามมาคร่อมเอาไว้ มือเล็กทั้งสองยกขึ้นผลักไสคนด้านบนพัลวันพลางพยายามดีดดิ้นสุดแรง ปากร้องถามไปด้วยความตื่นตระหนก 

"คะ..คุณจะทำอะไร อะ..ออกไปนะ"

"อย่ามาทำไขสือลียา เธออยากได้ฉันมากไม่ใช่เหรอฉันก็กำลังสนองให้อยู่นี่ไง" 

เจ้านายกดเสียงเอ่ยอย่างเย็นเยือก แววตาแข็งกร้าวจดจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง มือทั้งสองจับมือเล็กที่เอาแต่ผลักไสไปกดตรึงกับที่นอนข้างศีรษะเล็ก

"ไม่ ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้" ใบหน้าเรียวส่ายปฏิเสธระรัวจนเส้นผมสีน้ำตาลสลวยยุ่งเหยิง ร่างบอบบางยังคงออกแรงดีดดิ้นไม่หยุดหย่อน สองเท้าเล็กถีบยันที่นอนไปมาจนยับยู่ยี่หวังดันตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการคนด้านบน

"กรี๊ดด!" 

ริมฝีปากอิ่มพลันหลุดเสียงกรีดในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงซุกไซ้ลำคอ ใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัวพยายามสั่นส่ายพาคอหนีการรุกรานสุดกำลังพลางพยายามขืนมืออกจากการกดตรึง 

แต่มีหรือแรงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะสู้กำลังคนตัวโตกว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังซุกไซ้คลอเคลียซอกคอรุนแรงขึ้น

แคว่ก!

มือหนาข้างขวาคลายพันธการจากมือเล็กเลื่อนลงดึงทึ้งคอเสื้อยืดที่ร่างบางสวมใส่อย่างแรงจนแหกเป็นทางยาวเกือบถึงสะดือ การกระทำแสนห่ามของคนตัวโตยิ่งสร้างความกลัวให้เมษาจับใจ

"ยะ..อย่า" เธอดิ้นพล่านด้วยความหวาดกลัวสุดขีด มือข้างที่ได้รับอิสระรัวทุบตีบ่ากว้างพัลวัน "ปล่อยฉัน ปล่อย"

ในใจร่ำร้องขอให้สาริกากลับมาช่วยเธอได้ทันก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป ขณะที่อีกคนโกรธจนขาดสติเดินหน้าระบายความโกรธทั้งหมดที่มีใส่ร่างบาง ใช้ขบกัดผิวอ่อนนุ่มไม่อ้อมแรงจนเกิดเป็นรอยแดงสร้างความเจ็บให้เจ้าของเป็นอย่างมาก

"อึก..ฉะ..ฉันเจ็บ" ริมฝีปากอิ่มที่สั่นระริกร้องบอกน้ำเสียงขาดหว้ง หยาดน้ำใสค่อย ๆ เออคลอดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่ 

เธอเจ็บจนปากคอสั่นทุกครั้งที่ฟันคมขบกัดบนผิวอ่อนนุ่มไม่ว่าเธอจะพยายามขัดขืนเท่าไรก็มิอาจสู้กำลังของเขาได้อยู่ดี 

แม้จะรู้สึกหวาดกลัวแค่ไหน แต่เธอจะยอมให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้พยายามรวบรวมเรี่ยวแรงอีกเฮือก งอเข่าแล้วกระทุ้งเข้ากลางเป้าของร่างสูงด้านบนสุดแรง

"โอ้ย!..อึก" 

เจ้านายที่ไม่ทันได้ระวังตัว และคิดไม่ถึงว่าคนใต้ร่างจะทำแบบนี้ถึงกับจุกจนหน้าแดง พลิกตัวลงนอนขดตัวบนที่นอนด้วยความทรมาน 

เมษาจึงใช้โอกาสนั้นวิ่งหนีลงจากเตียงตรงไปยังประตู มือทั้งสองรวบเสื้อที่ขาดออกจากกันจนเผยให้เห็นบราเซียมาปกปิดมันเอาไว้ ระหว่างที่วิ่งหนีก็หันมองด้านหลังเป็นระยะด้วยกลัวว่าอีกคนจะตามมา

และเขาวิ่งตามมาจริง ๆ...

"หยุดเดี๋ยวนี้นะลียา ฉันบอกให้เธอหยุด" เจ้านายรีบวิ่งตามหญิงสาวออกมาจากห้องแม้จะยังรู้สึกจุกอยู่ก็ตาม ทว่าความโกรธกลับมีมากกว่ายังไงวันนี้เขาจะต้องจับเธอมาจัดการให้ได้ 

เขาจะขย้ำเธอให้แหลกคามือเลยคอยดู..

มีหรือเมษาจะยอมหยุดตามคำสั่งที่ดังตามหลังมาเธออุตส่าห์หนีจากอุ้งมือมารได้แล้ว เมื่อเห็นว่าเขาตามมาก็ยิ่งเร่งฝีเท้าวิ่งให้เร็วขึ้น และเหมือนสวรรค์จะเข้าข้างขณะกำลังวิ่งลงบันไดก็เห็นสาริกาเดินเข้ามาพอดี

"ช่วยด้วยค่ะ คุณเจ้านายจะทำร้ายฉัน" รีบตะเบ็งเสียงขอความช่วยเหลืออย่างไม่รอช้า

ทำให้สาริกาที่กำลังเดินเข้าบ้านพลันหยุดชะงัก ก่อนหันมองทางต้นเสียง คิ้วทั้งสองของเธอถึงกับขมวดชนกันเมื่อเมื่อเห็นสภาพเสื้อที่ขาดวิ่น และผมเผ้ากระเส่อกระเซิงของเมษาที่วิ่งลงมาจากบันไดราวกับไปฟัดกับหมาที่ไหนมา 

"เกิดอะไรขึ้น"

ก่อนความสงสัยของเธอจะกระจ่างในวินาทีต่อมาเมื่อเห็นบุตรชายวิ่งตามเด็กสาวลงมาจากชั้นสองของบ้าน ให้ตายเถอะหากเธอกลับมาไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้นกัน

"แม่.." 

เจ้านายที่กำลังก้าวลงบันไดพลันหยุดชะงักเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ยืนมองอยู่ที่ปลายบันได เขาถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินลงบันไดไปช้า ๆ ไม่ได้วิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ 

ส่วนเมษาก็รีบวิ่งไปยืนหลบหลังสาริกาด้วยเนื้อตัวสั่นเทา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้เธอกลัวไม่หายแม้ตอนนี้จะมีสาริกาเป็นเกราะป้องกันแล้วก็ตาม

ใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกกลัวก้มงุดเมื่อร่างสูงเดินมาหยุดยืนตรงหน้าสาริกา เธอกลัวจนไม่กล้าสบสายตาหรือมองหน้าเขา

"ทำไมทำแบบนี้เจ้านาย เห็นไหมน้องกลัวหมดแล้ว" สาริกาต่อว่าบุตรชายไปทันที สายตาจ้องมองอย่างตำหนิ

"แม่อยากได้ลียาเป็นสะใภ้มากไม่ใช่เหรอครับ ผมก็กำลังสนองความต้องการของแม่อยู่นี่ไงไม่ดีเหรอครับ" เจ้านายตอบแดกดันผู้เป็นแม่ ใบหน้าไร้ความรู้สึกสำนึกใด ๆ ขณะที่สายตามองผ่านหน้าท่านไปหยุดที่คนด้านหลัง 

หากไม่ติดว่าท่านยืนขวางอยู่เขาอยากจะเข้าไปกระชากเธอมาบีบบี้ให้แหลกคามือเหลือเกิน

"ฉันหมายถึงให้แกแต่งงานกับน้องให้ถูกต้องตามประเพณี ไม่ใช่ให้แกมาทำร้ายน้องแบบนี้" 

"หึ" 

สิ้นคำผู้เป็นแม่เจ้านายก็เค้นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันราวกับว่ามันตลกทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย เขากำลังรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนรัก และผิดหวังเสียใจในตัวผู้เป็นแม่ต่างหาก 

ถ้าเป็นคนอื่นที่ทำให้ความรักของเขาต้องพังลงเขาคงไม่รู้สึกผิดหวังเสียใจมากมายขนาดนี้ แต่นี่หนึ่งในคนที่ทำให้ความรักเขาจบลงเป็นแม่บังเกิดเกล้า

"เพราะแบบนี้ใช่ไหมครับแม่ถึงรวมหัวกับเธอกำจัดคนรักของผมออกไปให้พ้นทาง ดีใจด้วยแม่ทำสำเร็จแล้ว ส้มเขาบอกเลิกผมแล้ว" 

เขาตะเบ็งเสียงบอกกล่าวผู้เป็นแม่ด้วยความเสียใจระคนโกรธเคือง เน้นย้ำผ่านทางน้ำเสียงหม่นหมองให้ท่านรู้ว่าเขาเจ็บปวดกับการกระทำของท่านมากแค่ไหน 

"ได้ยินไหมว่าผมเลิกกับส้มแล้วตามที่แม่ต้องการ"

ว่าจบก็เดินผ่านทั้งสองคนไปด้วยความเร็วเพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นว่านัยน์ตาของเขาแดงก่ำเหมือนคนกำลังจะร้องไห้

"ลูกชายฉันได้ทำอะไรเธอรึเปล่า" ทันทีที่บุตรชายเดินพ้นประตูบ้านไปสาริกาก็หันกลับมายิงคำถามใส่คนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้องการถามให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ 

"ยังไม่ทันได้ทำอะไรค่ะ ฉันหนีออกมาได้เสียก่อน" เมษาพยายามเค้นเสียงที่ติดในลำคอบอกกล่าวไป 

"ค่อยโล่งใจหน่อย หลังจากนี้เธอก็อยู่ให้ห่างลูกชายฉันไว้แล้วกัน ห้ามให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองเธอก็รู้ใช่ไหมว่าทำไม" สาริกาเน้นย้ำ 

"ค่ะ" เมษาพยักหน้ารับด้วยเข้าใจดีว่าเพราะอะไร เธอมันเป็นผู้หญิงต่ำต้อยไม่ควรไปเกลือกกลั้วกับลูกชายของสาริกายังไงล่ะ มันเป็นประโยคที่สาริกาย้ำเตือนกับเธอบ่อย ๆ จนจำได้ขึ้นใจแล้ว

"ดีมาก งั้นเธอก็ขึ้นไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเถอะ สภาพดูไม่ได้เลย" สาริกายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับความว่าง่ายของเด็กสาว ก่อนจะไล่ให้ไปจัดการกับตัวเองเพราะเธอทนดูสภาพไม่ไหวจริง ๆ 

สิ้นเสียงสาริกาเมษาก็ลุกเดินขึ้นไปยังห้องนอนตัวเอง ทันทีที่ปิดประตูลงเธอก็ทรุดลงนั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้ออกมาจนตัวโยนเผยความอ่อนแอออกมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกท้อแท้กับชีวิตมากเหลือเกิน ทำไมเธอต้องมาพบเจอคนใจร้ายอย่างสาริกากับเจ้านายด้วยก็ไม่รู้ นี่มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอกัน

เธอนั่งกอดเข่าสะอื้นไห้อยู่อย่างนั้นระบายความอ่อนแอ กระทั่งรู้สึกดีขึ้นจึงพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ จัดการถอดเสื้อที่ถูกชายหนุ่มทำลายจนขาดวางบนเคาวน์เตอร์อ่างล้างหน้า 

ไล่สายตาสำรวจรอยฟันที่อีกคนฝากไว้บนลำคอครั้นเอามือไปแตะเธอก็ต้องเบ้หน้าออกมาเพราะรู้สึกเจ็บพานนึกเกลียดเจ้าของการกระทำหยาบช้ายิ่งนัก

เธอผิดก็จริง แต่เขาไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้..

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status