Share

บทที่ 16 กัดไม่ปล่อย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 20:29:08

จากเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน ๆ เต็ม ๆ ที่เมษาต้องอยู่อย่างหวาดระแวง จะขยับตัวหรือทำอะไรก็เหมือนถูกจับจ้องตลอดเวลา 

และเธอยังถูกชายหนุ่มรังแก พูดจาเหยียดหยามทุกครั้งที่มีโอกาส บอกตามตรงว่าเธอไม่มีความสุขเอาเสียเลย ขนาดจะไปหาแม่กับน้องสาวก็ยังไม่ได้ไปเพราะกลัวความลับแตกทำได้แค่โทรถามข่าวคราว

เธอตั้งใจว่าจะคุยกับสาริกาอีกครั้งเพราะนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เจ้านายกับส้มเลิกกัน และไม่มีทีท่าว่าทั้งสองจะหวนกลับมาคบกันอีก ซึ่งมันน่าจะมั่นใจได้แล้ว

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสลัดความคิดอันหนักอึ้งออก แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่เดินลงไปยังชั้นล่าง

"คุณลียาจะไปไหนครับ" ลุงดินที่ยืนสำรวจรถอยู่หน้าบ้านเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กสาวเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก "ให้ลุงไปส่งไหมครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะลุงดิน หนูไปเองดีกว่า" เมษาระบายยิ้มให้ลุงดินบาง ๆ แล้วเดินออกไปยืนรอรถที่โทรเรียกหน้ารั้วบ้าน

รอไม่นานรถก็มาถึง ที่ที่เธอจะไปก็คือห้างนั่นเองเพื่อซื้อของขวัญให้สาริกาสำหรับวันเกิดของท่านในวันพรุ่งนี้ 

ความจริงเธอไม่ได้อยากจะซื้อให้สักนิด แต่ติดที่เธออยู่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้หากไม่มีอะไรมอบให้ว่าที่แม่ยายเลยคงจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย

เธอเดินเลือกซื้อของอยู่ในห้างนานเกือบสองชั่วโมงก็ได้เป็นน้ำหอมแบรนด์ดังที่เธอเห็นสาริกาชอบใช้อยู่บ่อย ๆ ราคาแรงไม่เบาจนแอบเสียดายเงินเหมือนกันถึงแม้เงินที่ใช้ไปจะเป็นเงินสาริกาก็ตาม

"ถ้าเอาไปใช้ เอาไปใช้ซื้ออย่างอื่นได้ตั้งเยอะ" เธอพึมพำพลางมองถุงน้ำหอมแบรนด์ดังอย่างนึกเสียดาย ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ 

"คุณเจ้านาย!"

วินาทีที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากช็อปเมษาก็ต้องใจหล่นวูบ หน้าถอดสีเพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นเจ้านายที่กำลังเดินอยู่ไม่ไกลจากที่เธอยืนมากนัก และดูเหมือนว่าชายหนุ่มก็หันมาเห็นเธอเข้าพอดี

"ลียา.." เจ้านายหน้านิ่วคิ้วขมวดทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว จากอารมณ์ดี ๆ ก็ขุ่นมัว ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาทุกข์ใจมีหน้ามาเดินช้อปปิ้งอย่างมีความสุขมันน่าโกรธยิ่งนักแล้วคิดหรือว่าเขาจะยอม

คนที่ทำลายชีวิตคนอื่นพังไม่มีสิทธิ์จะมีความสุขสักนิดเดียวด้วยซ้ำ

เขาก้าวตรงไปที่หญิงสาวด้วยความเร็วไม่สนใจผู้ช่วยคนสนิทที่มากับตัวเองสักนิด ในขณะที่เมษารีบสับเท้าเดินหนีด้วยความเร็วเช่นกันใครจะอยู่รอให้เขามาหยุมหัวกันล่ะ 

สายตาหันมองร่างสูงที่เดินทำหน้ายักษ์เป็นระยะ พลางพยายามเดินไปที่กลุ่มผู้คนพลุกพล่านหวังว่าจะบดบังการมองเห็นของอีกคนได้บ้าง 

'แต่ให้ตายสิ' เธอสบถในใจอีกคนตามไม่ยอมลดละเลยสักนิดแม้เธอพยายามหลบหลีกเพียงใดก็ไม่พ้นสายตาแหลมคมที่จ้องเธอไม่คาดสายตานั่นเลย

เธอเดินหนีเขาเดินตามอยู่แบบนั้นหากเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ ๆ ดวงตากลมสอดส่องมองหาทางหนีทีไล่อย่างร้อนรน

มองเห็นด้านหน้าเป็นชั้นวางของซับซ้อนเริ่มมีความหวังขึ้นมา สองเท้าน้อย ๆ รีบเดินหลบเข้าไปด้วยความเร็ว เดินย่อตัวลัดเลาะไปตามช่องทางเล็กกระทั่งมาโผล่ที่ประตูเหล็กบานไม่ใหญ่มากนัก มีป้ายเขียนไว้เฉพาะพนักงานเท่านั้น

รอยยิ้มแห่งความดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าเรียวเธอหนีรอดแล้ว ไม่รอช้ารีบเปิดประตูออกไปทันที

"เฮ้อ..เกือบไปแล้วไหมล่ะ" พอก้าวพ้นประตูก็พ่นลมหายใจหนัก ๆ พลางยกมือขึ้นลูบอกที่กระหน่ำเต้นด้วยความโล่งใจ แล้วรีบก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนั้น

ระหว่างเดินก็หันมองหลังเป็นระยะ ๆ ด้วยกลัวว่าอีกคนจะตามมาอีก และจังหวะนั้นเองทำให้เธอชนเข้ากับอะไรบางอย่างจัง ๆ 

ปึก!

"โอ๊ะ..!" 

แรงชนทำให้ตัวเธอเซถอยหลังเล็กน้อย ทว่าเมื่อหันกลับมามองดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้าง หัวใจดวงน้อยหล่นวูบสู่ตาตุ่มเพราะคนที่เธอวิ่งหนีแทบตายยืนจ้องเขม็งอยู่

"คะ..คุณ" เขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไงแล้วมาตั้งแต่เมื่อไรความสงสัยผุดในสมองพร้อมความหวั่นใจ สองเท้าเล็กขยับหมายจะวิ่งหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่ทัน

เจ้านายตวัดมือจับท่อนแขนคนที่กำลังตั้งท่าวิ่งหนีด้วยความเร็ว แล้วกระชากตัวเธอเข้าหา แววตาแข็งกร้าวจับจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง

"เธอหนีฉันไม่พ้นรอดลียา อย่าพยายามให้เหนื่อยเปล่าเพราะไม่ว่าเธอจะหนียังไงฉันก็จะตาม ตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรเธอ อย่าหวังจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเลย"

"ปล่อยนะ ปล่อยสิ" นาทีนี้เมษาไม่ได้ฟังที่ชายหนุ่มพูดใส่หน้าสักนิดพยายามคิดหาวิธีเอาตัวมากกว่า มือทั้งสองยกขึ้นดันร่างสูงพัลวัน สร้างความรำคาญให้อีกคนไม่น้อยจนเขาต้องจับมือทั้งสองของเธอไว้ ออกแรงบีบจนใบหน้าเรียวเหยเก

เมษาทั้งเจ็บและกลัว แต่ก็ทำใจดีสู้เสือแหงนหน้าขึ้นมองสบแววตาแข็งกร้าว ขณะพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการจับกุม

"ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วย" ปากอิ่มพูดขู่ฟ่อทั้งที่ในใจโคตรหวั่น และไม่มั่นใจสักนิดว่ามันจะใช้ได้ผลไหมเพราะบริเวณที่ยืนอยู่เป็นลานจอดรถที่ค่อนข้างอับแสง และไร้ผู้คน

"เธอก็ลองแหกปากดูสิลียา" เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟัน ดวงตาแข็งกร้าวจ้องใบหน้าเรียวราวกับจะเฉือนเนื้อแล้หนังเธอออกเป็นชิ้น ๆ 

คนถูกข่มขู่ด้วยสายตาหัวใจสั่นไหวอย่างหนัก แต่พยายามเก็บอาการไว้ หากไม่สู้ก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะทำยังไงกับเธอ

แววตาหวาดหวั่นมองสบนัยน์ตาแข็งกร้าวเสี้ยวนาที ก่อนเสมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นคนก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือพลางพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุม

"ช่วยด้วยค่ะ ผะ.." 

ตะโกนได้ไม่ทันไรเสียงก็ถูกกลืนหายไปในลำคอด้วยฝีมือของชายหนุ่มที่กระชากท้ายทอยเธอเข้าไปประกบจูบปิดปาก มือข้างหนึ่งของเขากดท้ายทอยแน่นจนไม่สามารถพาหน้าหนีได้ ขณะที่มืออีกข้างเปลี่ยนเป็นกอดรัดเอวคอดไว้

"อื้อ.." เธอพยายามดีดดิ้นสุดแรงพลางรัวกำปั้นทุบตีผลักไสอกแกร่ง แต่นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วกลับยิ่งถูกเขากดจูบแรงขึ้นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ 

ความรู้สึกเจ็บแปลบแผ่ซ่านไปทั่วริมฝีปากในตอนที่ฟันคมขบกัด กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ลอยคลุ้งแตะจมูก เธอเจ็บน้ำตาคลอเบ้ายิ่งออกแรงผลักไสอกแกร่งมากกว่าเดิม

เจ้านายไม่ได้สะทกสะท้านกับแรงผลักไสจากร่างบางสักนิด ยิ่งระบายอารมณ์ด้วยการขบกัดกลีบปากอิ่มแรงขึ้น ก่อนจะผละออกมองใบหน้าเรียวเขม็งพลางคลายมือจากท้ายทอยเล็กทุยมาปาดเลือดจากริมฝีปากอีกคนที่เลอะติดปากเขาอยู่

เลื่อนสายตาลงมองรอยเลือดที่ติดปลายนิ้วเสี้ยวนาที แล้วช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าเรียวต่อ

"โกรธมากเหรอ?" มุมปากหยักเหยียดยิ้มเย้ยหยันเมื่อได้เห็นแววตาไหวระริกที่จับจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธ แต่กลับทำอะไรไม่ได้

"ฉันผิดก็จริง แต่คุณไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนี้" เมษามองสบแววตาเย้ยหยันแล้วเอ่ยออกไป ขณะที่มือข้างหนึ่งออกแรงดันอกแกร่งหวังผลักร่างสูงให้ออกห่าง อีกมือเช็ดปากไปมาแรง ๆ 

"แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำลียาเมื่อเทียบกับความผิดที่เธอทำ หากไม่ใช่เพราะเธอป่านนี้ฉันกับคนรักคงจะได้แต่งงาน และใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขไปแล้ว"

"ฉัน..."

เมษาถึงกับพูดไม่ออก แววตาที่มองใบหน้าคมคายด้วยความโกรธเปลี่ยนเป็นไหวเอนด้วยความรู้สึกผิด แม้ที่ผ่านมาภายนอกเธอจะดูเหมือนไม่ได้สึกอะไรกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ใครจะรู้เลยว่าความรู้สึกผิดบาปมันกัดกินใจเธอตลอดเวลา

ไม่เคยสบายใจ หรือมีความสุขเลยสักวัน

"ไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งตีหน้าเหมือนรู้สึกผิดลียา มันไม่ได้ช่วยทำให้ฉันใจอ่อน ยังไงเธอก็ต้องชดใช้สิ่งที่ทำไว้" 

ว่าจบเจ้านายก็ฉุดกระชากร่างบางบังคับให้เดินตามไปที่รถ 

"ปล่อยนะ คุณจะพาฉันไปไหน" คนถูกลากพยายามดิ้นรนหนีสุดแรง ทั้งสะบัดมือหวังให้หลุดพ้นการจับกุมทั้งขืนตัวไม่เดินตาม กลับไร้ผลแรงของชายหนุ่มมันเยอะจนเธอต่อต้านไม่ไหวตัวลอยไปตามแรงลากอย่างง่ายดาย

มาถึงรถหรูที่จอดอยู่เจ้านายก็เปิดประตูหมายจะยัดร่างบางเข้าไปในรถ แต่อีกคนกลับขัดขืนก้มกัดมือหนาที่จับกุมอยู่อย่างแรง พร้อมทั้งยกเท้าแตะเข้ากลางหว่างขาเขา

"อึก.."

โดนกัดที่มือไม่เท่าไรแต่โดนแตะเฉียดกลางเป้าเล่นเอาเจ้านายจุกจนตัวงอ ต้องใช้มือข้างหนึ่งจับขอบประตูรถที่อ้าออกพยุงตัวไว้ อีกมือกอบกุมเจ้าลูกชายสุดห่วงแน่น 

สายตาตวัดมองไปยังร่างบางที่วิ่งหนีไปยืนไกล ๆ ด้วยความโมโหสุดขีด

"ลียา!"

นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่หญิงสาวทำให้เขาเจ็บตัว และคราวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปเหมือนครั้งก่อนแน่ ๆ 

เมษารู้เต็มอกว่าทำแบบนี้ยิ่งจะทำให้ชายหนุ่มโกรธแค้นเธอเพิ่มขึ้นไปอีก แต่หากเธอไม่สู้เอาตัวรอดก็ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้จะถูกเขาลากไปทำอะไรมิดีมิร้ายหรือเปล่าเพราะเคยมีตัวอย่างมาแล้ว

เธอต้องทำเพื่อป้องกันตัว..

"ฉันขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำคุณเจ็บนะ แต่ฉันต้องป้องกันตัวเอง" เธอเปล่งเสียงขอโทษไปแม้รู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย ก่อนจะรีบหันหลังเดินกึ่งวิ่งออกจากลานจอดรถไปด้วยความเร็ว

เจ้านายมองตามร่างบางที่วิ่งหนีไปด้วยแววตาหมายมาดแรงกล้าพร้อมทุบหลังคารถหรูอย่างแรงระบายอารมณ์ไม่สนในว่ารถจะบุบสลายหรือไม่ จากนั้นก็เดินดุ่ม ๆ ไปขึ้นฝั่งคนขับ

สตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งขับออกจากลานจอดด้วยความเร็วเพื่อตามอีกคนไป ยังไงวันนี้เขาต้องจัดการเธอให้ได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status