Share

บทที่ 15 เลือดคนร่าน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 09:46:28

วันทั้งวันเมษาคลุกตัวอยู่แต่ในห้อง มื้อเที่ยงเธอก็ไม่ลงไปทานโดยอ้างว่าไม่หิวทั้งที่ความจริงคือเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนตอนเช้ามากกว่า

ก็อก! ก็อก!

เธอพลันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจครั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น หัวใจดวงน้อยอดเต้นแรงไม่ได้ด้วยระแวงว่าจะเป็นชายหนุ่ม ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเธอรู้สึกระแวงไปหมดจริง ๆ

"คุณลียาคะ คุณสาริกาให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ"

ลมหายใจถูกพ่นออกจากจมูกโด่งด้วยความรู้สึกโล่งอกพอได้ยินเสียงแม่บ้านที่ดังเล็ดลอดเข้ามา เมื่อรู้ว่าไม่ใช่ชายหนุ่มเธอก็ลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูทันที 

"ค่ะ" 

ส่งยิ้มให้แม่บ้านเล็กน้อย จากนั้นก็เดินลงไปยังชั้นล่างด้วยหัวใจตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ลุ้นว่าเย็นนี้เธอจะโดนชายหนุ่มหาเรื่องอะไรอีก เอาจริง ๆ หากไม่เกรงใจสาริกาที่เป็นเจ้าของบ้าน และรู้สึกหิวเธอไม่อยากจะลงไปเลยด้วยซ้ำ

เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึกสองมือน้อย ๆ ขย้ำกระโปรงชุดเดรสแน่นในตอนที่เดินมาถึงห้องอาหารแล้วเห็นชายหนุ่มนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ สายตาจ้องมองเธอราวกับจะกินหัวกัน

เธอไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ก็ทำได้แค่ข่มอารมณ์ และจิตใจให้สงบนิ่งเอาไว้ ก้าวเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้ข้างสาริกา

"อยู่บ้านคนอื่นไม่พอ ยังต้องให้เจ้าของบ้านอันเชิญลงมากินข้าวอีก..ดีเนาะ" เจ้านายที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพูดแซะพลางจ้องมองด้วยแววตาดุดัน

ทำเอาคนถูกแซะอย่างเมษาถึงกับหน้าเจื่อนต้องรีบหลบแววตาดุดันที่จ้องมองมาด้วยความรู้สึกหวั่น รับรู้ได้ถึงรังสีอันตรายที่แผ่กระจายรอบ ๆ ตัว

"ลูกจะอะไรกับน้องนักหนาเจ้านาย" สาริกาที่นั่งทานข้าวเงียบ ๆ อดเงยหน้าขึ้นดุบุตรชายไม่ได้ เธอล่ะเหนื่อยใจจริง ๆ 

หากไม่คิดว่าต้องให้เด็กสาวอยู่เป็นไม้กันหมาต่อจนกว่าจะแน่ใจว่าบุตรชายไม่หวนกลับไปหาผู้หญิงมีตำหนิแบบส้มแล้ว เธออยากจะให้เด็กสาวออกจากบ้านไปตอนนี้เลยด้วยซ้ำเพื่อตัดความรำคาญ

"แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะครับ" เจ้านายเองก็อดค้อนขอดผู้เป็นแม่ไม่ได้เช่นกันด้วยคิดว่าท่านหวงหญิงสาวจนเกินเหตุ 

ส่วนตัวต้นเหตุก็เสแสร้งแกล้งเป็นผู้หญิงอ่อนแอเก่งเหลือเกินทั้งที่ความจริงคงจะเจนจัดใช่ย่อยไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเรื่องต่ำ ๆ และผิดศีลธรรม

"พอ ๆ นี่มันเวลากินข้าว อย่าทำให้เสียบรรยากาศ" สาริกาได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะเอ่ยตัดบท แล้วก้มหน้าทานข้าวเพราะไม่อย่างนั้นบุตรชายคงพูดจาจิกกัดเด็กสาวไม่เลิก

เมษาเองก็รีบก้มหน้าทานข้าวในทันทีทำเป็นไม่สนใจร่างสูงตรงข้ามที่เอาแต่นั่งจ้องเธอด้วยแววตาดุดันสวนทางกับในใจที่โคตรอึดอัด

เมื่อทุกคนหมางเมินทำเป็นไม่สนใจเจ้านายจึงทำได้แค่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ วางช้อนในมือกระแทกลงบนจานข้าวจนเสียงดังเคร้งทำเอาสาริกากับเมษาถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนเขาจะลุกพรวดออกจากโต๊ะอาหารไปทั้งที่ยังไม่ได้ทานข้าวเลยสักนิด

เขารู้สึกโกรธจนทานอะไรไม่ลงจริง ๆ

สาริกามองตามหลังบุตรชายจนลับสายตา ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเด็กสาวอย่างอ่อนใจ "อย่าไปสนใจเลย"

"ค่ะ" 

เมษาทำได้แค่ขานรับในลำคอ สวนทางกลับในใจที่แย้งว่าจะไม่ให้เธอสนใจได้ยังไงกันในเมื่อชายหนุ่มจ้องเช่นงานเธอตลอดเวลา 

หลังจากทานข้าวเสร็จเธอก็รีบขึ้นห้องนอนทันทีพร้อมล็อคกลอนอย่างแน่นหนา และพอตกกลางคืนเธอก็ให้รสแม่บ้านมานอนเป็นเพื่อนด้วยกลัวว่าชายหนุ่มจะบุกเข้ามาเหมือนเมื่อคืนอีก 

มีแม่บ้านนอนเป็นเพื่อนอย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องนอนอย่างหวาดระแวง..

"ลียารบกวนพี่รสแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ" เธอบอกกล่าวรสที่เดินถือหมอนกับผ้าห่มเข้ามาในห้องด้วยความเกรงใจ

"ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณลียา" รสแม่บ้านวัยสามสิบต้น ๆ ระบายยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยนเป็นเพราะลียานิสัยดีมาก ๆ ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจพวกแม่บ้านอย่างเธอเลยแม้แต่น้อย 

หนำซ้ำเมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะมาช่วยงานครัวตลอดมีความเป็นกันเองไม่ถือตัวเลยสักนิดจึงทำให้แม่บ้านทุกคนเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ

"พี่รสขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันเถอะค่ะ นอนบนพื้นปวดหลังแย่เลย" เธอบอกกล่าวรสด้วยน้ำเสียงนุ่มพร้อมทั้งใช้มือตบที่นอนข้าง ๆ เชิงเรียกให้ขึ้นมานอนด้วยกัน

"ไม่ดีกว่าค่ะคุณลียา รสนอนบนพื้นได้ค่ะ" รสส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความเกรงใจยังไงหญิงสาวก็มีศักดิ์สูงกว่าเธอ 

ทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลยเมษาพึ่งระลึกอยู่เสมอว่าเธอเองก็มีฐานะไม่ต่างจากแม่บ้านของที่นี่เลยเพียงแต่ไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้

"งั้นตามใจพี่รสแล้วกันค่ะ" เธอไม่อยากทำให้รสอึดอัดใจจึงไม่ได้คะยั้นคะยอ ต่างคนต่างล้มตัวลงนอนเงียบ ๆ

ทว่าเมษาไม่สามารถข่มตาหลับได้เลยในสมองของเธอมีเรื่องให้คิดเต็มไปหมด เธอนอนพลิกตัวไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนรู้สึกหิวน้ำขึ้นมาจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง 

หันมองรสที่นอนหลับชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูแง้มดูว่าภายนอกมีบุคคลอันตรายอยู่หรือเปล่า ครั้นเห็นว่าโล่งจึงรีบเดินออกจากห้องลงไปดื่มน้ำในครัวทันที

"ว้าย!" 

"ผี ๆๆ!!"

จังหวะที่เธอกำลังเก็บน้ำที่เอาออกมาดื่มใส่ไว้ในตู้เย็นดั่งเดิมแล้วเตรียมจะหันหลังกลับก็ต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจกับเงาตะคุ่ม ๆ ที่ยืนประชิดอยู่ด้านหน้า สองเท้าเล็กขยับถอยหลังเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ

"ไง! แม่ตัวดี"

ความตกใจยังไม่ทันหายไปความกลัวก็เข้ามาแทนที่เมื่อเสียงแข็งกระด้างอันคุ้นเคยดังขึ้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร

"คะ..คุณเจ้านายมะ..มาได้ยังไงคะ" 

เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึกสองมือขย้ำชายกระโปรงชุดนอนผ้าซาตินแน่น สายตาก็กลอกกลิ้งไปมาเพื่อหาทางหนีทีไล่

"นี่บ้านฉันฉันจะเดินตรงไหนก็ได้" เจ้านายตอกกลับเสียงแข็งพร้อมเดินเข้าหาคนตัวเล็กช้า ๆ 

"งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ" เมษาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายไม่ดีจึงเลี่ยงการปะทะด้วยการขอแยกตัวออกไป แต่ทว่าเหมือนอีกคนจะไม่ยอมจบ

"จะรีบไปไหน"

"อ๊ะ!"

เจ้านายคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กในขณะที่เธอกำลังจะเดินผ่านไป แล้วกระตุกจนร่างน้อยเซถลาเข้าสู่อ้อมกอด โอบรัดเอวคอดแนบแน่นจนอีกคนไม่สามารถขยับตัวได้เลย

หัวใจดวงน้อย ๆ ของเมษาตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ความกลัวเข้าครอบงำอย่างหนัก ในเวลานี้จะหาใครมาช่วยก็คงยากเพราะคงพากันหลับไปหมดแล้ว

มีเพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น เธอพยายามดีดดิ้นใช้มือผลักไสอกแกร่งสุดแรงหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ก็ไร้ผล 

"ปล่อยนะ คุณจะทำอะไรปล่อยนะ"

"การเข้ามาหาฉันเป็นสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ จะมาเล่นตัวทำไมลียาฉันอุตส่าห์ลดตัวลงมาสนองผู้หญิงร่านอย่างเธอให้แล้วไง" 

ยิ่งร่างบางออกแรงดีดดิ้นมากขึ้นเจ้านายก็ยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้นเช่นกันราวกับจะกดให้เธอจมลงกับอก 

สองร่างแนบชิดแม้อากาศก็ไม่สามารถลอดผ่านได้

"ตอนนั้นฉันอาจจะหลงผิดไป แต่ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้วว่าตัวเองต้องการอะไร ฉันจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับคุณและคุณส้มแล้ว ปล่อยฉันเถอะ" 

เมษาพยายามยกเหตุผลต่าง ๆ มาอ้างสุดฤทธิ์หวังให้ความโกรธของเขาทุเลาลงบ้างเพราะตอนนี้เธออยู่ในสถาการณ์ที่เสียเปรียบ

"ลิ้นที่ไม่มีกระดูกพูดอะไรไปก็เชื่อไม่ได้หรอกโดยเฉพาะคนตลบแตลงเก่งอย่างเธอลียา"

"แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ"

"อื้อ..."

เจ้านายไม่ตอบอะไรกลับกระชากท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาประกบจูบริมฝีปากอย่างไร้สัญญาณเตือนใด ๆ แรงกระทบรุนแรงทำเอากลีบปากอิ่มเป็นแผลจนได้กลิ่นคลาวเลือดลอยคละคลุ้งตีขึ้นจมูก

"อื้อ.." เมษาเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้ารู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนออกมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะถูกอีกคนกดจูบปิดปากไว้แม้พยายามส่ายหน้าหนี รัวกำปั้นทุบตีอกแกร่งเท่าไรก็ไร้ผล

เจ้านายถอนจูบออกก็ตอนที่เขาพอใจไม่คิดสนใจความเจ็บปวดของอีกคนสักนิด 

เขาผละจูบออกจับจ้องนัยน์ตาไหวระริกราวกับแม่กว้างน้อยอย่างเย้ยหยัน มือหนายกขึ้นแตะมุมปากอิ่มที่มีเลือดซึมออกมา ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียราวกับคนโรคจิต

"เลือดคนร่านแบบเธอมันรสชาติดีเหมือนกันนะ"

คำพูดและการกระทำของชายหนุ่มทำเมษาเบี่ยงหน้าหนีอย่างนึกรังเกียจและขยะแขยง เธอเคยมองว่าเขาเยือกเย็น สุขุมมีความเป็นผู้ใหญ่ และดูเป็นคนใจดีวันนี้เธอขอถอนคำพูดทั้งหมด

เขาตรงข้ามกับที่เธอคิดทุกข้อ..

"ปล่อยฉันนะ" เธอออกแรงผลักไสคนตัวโตมากกว่าเดิมเมื่อเห็นแววตามาดหมายที่จ้องมองริมฝีปากอยู่พลันรีบเม้มปากเข้าหากันแน่นด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรพิเรนทร์อีก

และเธอคิดไม่ผิด..

"อ๊ะ!"

ริมฝีปากอิ่มเผยอหลุดร้องออกเบา ๆ ใบหน้าเรียวเหยเกด้วยความเจ็บเมื่อถูกมือหนาจิกทิ้งกลุ่มผมด้านหลังจนใบหน้าเธอเชิดขึ้นสบประสานสายตากับคนใจร้าย 

"ฉันเจ็บ!"

"เจ็บแค่นี้มันเทียบไม่ได้กับที่ฉัน และคนรักของฉันต้องเจ็บหรอก จำไว้ว่าหลังจากนี้ไปชีวิตของเธอก็ไม่ต่างอะไรจากอยู่ในนรก ในเมื่อฉันไม่มีความสุขตัวต้นเหตุอย่างเธอก็ไม่ควรมีความสุข"

สิ้นคำประกาศกร้าวใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มลงขบกัดลำคอระหงระบายอารมณ์ที่กำลังปะทุในกาย

"ปล่อยนะ ปล่อย" เมษาพยายามดีดดิ้นต่อต้านสุดกำลังทั้งพาตัวหนีใช้มือทุบตีปัดปายมั่วไปหมด 

นาทีนี้เธอคิดเพียงว่าต้องเอาตัวให้รอด ทว่าแรงเพียงน้อยนิดของเธอไม่สามารถต่อกรกับคนตัวโตกว่าได้เลย

"ช่วยดะ.." 

ครั้นทำท่าจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือกลับถูกเขาล็อคคอแล้วประกบจูบปิดปากอย่างแนบแน่นไร้เสียงใด ๆ หลุดรอดออกมาได้ 

"อื้อ ๆ"

ทุกการกระทำของชายหนุ่มสร้างความเจ็บปวดให้เมษาไม่น้อยเขาดันตัวเธอจนติดผนังเย็นเฉียบ ขณะที่ปากยังคงขบกับดูงดึงกลีบปากเธอไม่หยุดหย่อน มือทั้งสองก็พยายามดึงทึ้งเสื้อคลุมผ้าซาตินออกจนมันหลุดรุ่ยลงตามลาดไหล่เผยให้เห็นผิวขาวเรียบเนียนที่มันลอยเด่นท่ามกลางความมืดสลัว

เขาไม่มีท่าทีจะยอมหยุดการกระทำใด ๆ กลับกลายเป็นเธอเองที่เริ่มตัวอ่อนปวกเปียกหมดแรงต่อต้าน ตอนนี้เหมือนเธอจะเอามือไปแตะ ๆ ที่ตัวเขามากกว่าการผลักด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นท่าทางสงบนิ่งของหญิงสาวเจ้านายก็พลันชะงักตามไปด้วยเพราะผิดจากที่เขาคิดไว้เยอะ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความอคิต และเกลียดชังที่มีต่อเธอหมดไป ยังพูดจาด้วยคำพูดจิกกัดอีก

"แค่นี้ก็หมดแรงแล้วเหรอ ฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะไม่สมกับเป็นลียาผู้หญิงหน้าด้านเลยสักนิด"

เมษาได้แต่เก็บความโกรธเอาไว้ไม่อยากจะทำให้ความโกรธเขาปะทุขึ้นมาอีกระลอก แต่เหมือนการเมินเฉยของเธอจะกระตุ้นอารมณ์อีกคนเสียอย่างนั้น

มือหนาจับหมับเข้าที่ปลายคางมนแน่นก่อนจะกระแทกจูบลงบดเรียวปากอิ่มอย่างป่าเถื่อนจนแผลมุมปากก่อนหน้านี้มีเลือดซิบออกมาอีกครั้ง

เมษาทั้งเจ็บและโกรธจนไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเช่นกัน เธอพยายามคว้าของที่วางอยู่ใกล้มือหวังช่วยเป็นเครื่องป้องกันตัว แต่ด้วยความไม่ทันระวังเลยทำให้มือปัดไปโดนกะละมังทำให้หล่นบนพื้นเสียงดัง

วินาทีต่อมาแสงไฟในห้องครัวก็สว่างวาบขึ้นตามด้วยเสียงเดินกึ่งวิ่งลงมาของใครบางคน และเหมือนกับสวรรค์มาโปรดเมษาเพราะคนที่วิ่งมาในครัวคือรสนั่นเอง

เธอรีบใช้โอกาสนั้นผลักชายหนุ่มออกแล้ววิ่งไปแอบหลังรสด้วยเนื้อตัวที่สั่นน้อย ๆ รสเองก็พอจะเดาออกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของเจ้านายหนุ่มที่จ้องมาจนเธอทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

"จุ้น! ไม่เข้าเรื่อง" เจ้านายกดเสียงเอ่ยใส่แม่บ้านอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะก้าวดุ่ม ๆ เดินผ่านทั้งสองคนออกไปจากห้องครัว

หลังจากชายหนุ่มหายหลังไปเมษากับรสถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งออก แต่รสก็มิวายตกใจไม่ได้พอเห็นแผลบนมุมปากหญิงสาว และรอยแดงจากการโดนบีบเต็มแขนไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ซอกคอ เนินอกที่มีรอยขบกัด

"รสไม่คิดเลยว่าเจ้านายตัวเองที่ดูอ่อนโยนขนาดนั้นจะมีมุมแบบนี้ด้วย" 

รสบ่นเปรย ๆ ในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอก็นึกเห็นใจไม่น้อยจนเมษาต้องรีบรวบเสื้อคลุมมาปกปิดร่องเอาไว้ 

แค่นี้เธอก็อับอายจะแย่อยู่แล้ว

"ไม่เป็นไรนะคุณลียา" รสพยายามปลอบใจหญิงสาวสุดฤทธิ์พลางพากันเดินขึ้นห้องนอนไปเพื่อพักผ่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   The end

    “อ๊ะ!” เมษาหลับตาพริ้มเมื่อแก่นกายหนาค่อย ๆ สอดใส่ผ่านปากทางรัก ฝากฝังความเป็นชายของเขาเข้ามาถึงครึ่งลำอย่างรวดเร็วจากหยาดน้ำหวานเปียกชื้นที่ทำหน้าที่แทนสารหล่อลื่นลำกายหนาชำแรกผ่านม่านความเจ็บปวดที่ตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง เพียงไม่กี่วินาทีขนาดอันใหญ่โตก็ถูกโอบอุ้มด้วยความอบอุ่นจากร่างกายของหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวสั่นเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่“ฮึก..” เมษากัดริมฝีปาก ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูงเมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักลงจนร่างกายเบียดแนบกันไร้ช่องว่าง“เจ็บไหมคะ?” เจ้านายกระซิบถามเสียงต่ำขณะโน้มตัวลงจูบซับไปตามใบหน้าเรียว“เจ็บนิดหน่อยค่ะ..แต่ทนไหว” หญิงสาวตอบเสียงอ้อนอาจเป็นเพราะห่างหายมานาน และขนาดที่ใหญ่โตของชายหนุ่มเลยทำให้รู้สึกเจ็บน้อย ๆ ทว่าแม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาแยกจากเลยแม้แต่วินาทีเดียว สองมือเรียวจิกผ้าปูที่นอนระบายความเจ็บที่เคล้าระคนไปกับความเสียวซ่านจนแทบจะแยกไม่ออก เสียงลมหายใจหนัก ๆ ที่ข้างใบหูทำให้เลือดในกายของเธอสูบฉีด ในที่สุดเธอก็ปรับตัวได้ “พี่จะขยับแล้วนะ” เจ้านายกระซิบ สอดผสานฝ่ามือของเขาและเธอเข้าด้วยกัน กดลงที่เหนือศีรษะเล็กแล้วเริ่มขยับ ในจังหวะแรกเนิบนาบและมั่นคง

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 90 รักนะ

    @โรงแรมภายในห้องทรงสี่เหลี่ยมที่ถูกเปิดไฟดาวน์ไลท์หน้าห้องน้ำเอาไว้ ให้ความสว่างเพียงสลัว ๆ เท่านั้น กลิ่นอโรม่าลอยจาง ๆ ในอากาศทำให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย เดินมาถึงห้องนอนเมษาก็อดหัวใจเต้นแรงไม่ได้เมื่อเห็นบนเตียงนอนสีขาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจตรงกลางถูกโรยเป็นตัวอักษรคำว่า 'พี่นายรักน้องเมย์'ตรงปลายเตียงมีผ้าขนหนูที่ถูกทำเป็นรูปหงส์สองตัวหันหน้าเข้าหากันมันเหมือนเตียงสำหรับคู่บ่าวสาวชัด ๆ สมองพานก่อเกิดภาพแสนลามกขึ้นมา"ชอบไหมครับ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวโตสอดแขนเข้ามาโอบกอดเอวคอดจากด้านหลังพร้อมกับน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ดังชิดกกหูตามมาด้วยลมหายใจร้อนผะผ่าวทำขนกายเธอลุกซู่ ในท้องรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ"ชอบค่ะ เหมือนเตียงในเรือนหอบ่าวสาวเลย" ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มแสนหวานเอียงขึ้นมองสบสายตาร่างสูงด้านหลัง"งั้นเรามาเข้าหอกันไหมครับ" ได้ทีเจ้านายก็ชวนทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่สัญญาดิบดีว่าแค่นอนกอดเฉย ๆ เอาจริง ๆ ที่พูดแบบนั้นเขาก็แค่หลอล่อคนตัวเล็กเขาของขาดมาตั้งไม่รู้กี่เดือนจะให้ทนไหวได้อย่างไรกัน แน่นอนว่าเมษาเองรู้ทันคนตัวโตอย่างที่รู้ ๆ กันดีทั้งเธอแล

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 89 คืนดี

    หลังจากคืนดีกันสิ่งแรกที่เจ้านายทำคือพาหญิงสาวไปเดท เขาเลือกร้านอาหารที่เป็นร้านโปรดของเธอ เขาอยากให้เธอประทับใจที่สุดกับการกลับมาเริ่มต้นใหม่เพราะที่ผ่านมาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดีเท่าไรนัก ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าไม่ดีมาก ๆ..แต่นี่สินะที่คนโบร่ำโบราณกล่าวไว้ว่าเกลียดสิ่งไหนมักได้สิ่งนั้นวันนี้เขากล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ารักผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสุดหัวใจ รักแบบไม่คิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้"อย่ามองแบบนี้สิคะ เมย์เขินนะ" เมษาที่ถูกชายหนุ่มจ้องมองแทบจะกลืนกินถึงกับหน้าแดงระเรื่อออกอาการเขินจนเก็บไม่อยู่ บ่อยครั้งที่ถูกเขามองด้วยสายตาแบบนี้แต่อย่างที่บอกว่าเธอก็ไม่เคยต้านทานมันได้สักทียิ่งหลังจากกลับมาคืนดีกันเขาก็ใช้สายตาแบบนี้แทบทุกวันแทบทุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน แค่นั้นไม่พอเขายังติดสกินชิพเธอชนิดที่ว่าเหมือนกาวตราช้างก็ไม่ปราน วันแรกที่ตกลงคืนดีกันเขาก็ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเธอที่มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบเธอกะว่าจะไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยสิ แต่บอกตามตรงว่าแทนที่จะไม่พอใจเธอกับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่เขาแสดงความหึงหวงออกมา และกล้าจะเป

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 88 ให้โอกาส

    วันต่อมา.."อรุณสวัสดิ์ครับน้องเมย์"เสียงทักทายดังขึ้นเหนือศีรษะทำเมษาที่กำลังลืมตาตื่นถึงกับตาเบิกโพลงอาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เธอดีดตัวลุกขี้นนั่งอัตโนมัติเมื่อเงยขึ้นเห็นคนตัวโตนั่งพิงหัวเตียง และกำลังจับจ้องมาที่เธอ สองคิ้วสวยขมวดมุ่นจำได้ว่าเมื่อคืนเธอนั่งทำรายงานจนดึกจึงเข้านอน โดยตอนที่เธอเข้านอนชายหนุ่มยังฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะ แต่ไหง่เช้านี้ตื่นมาเขาถึงอยู่บนเตียงได้ แล้วเขาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร"คุณขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร" ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยเปล่งเสียงถามตรง ๆ "ราวตีสองได้แล้วครับ นอนตรงนั้นแล้วปวดเมื่อยไปทั้งตัวพี่เลยมานอนบนเตียง" เจ้านายเอ่ยเสียงอ่อนพลางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้หญิงสาวด้วยกลัวว่าเธอจะโกรธ ที่เขาพูดไปไม่ใช่คำแก้ตัว แต่รู้สึกปวดหลังปวดขาจริง ๆ จึงมานอนที่เตียงกับเธออย่างถือวิสาสะใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวเธอโกรธ ทว่าเมษากลับแอบอมยิ้ม ในสายตาเขาเธอดุมากเลยหรือถึงให้ออกอาการขนาดนี้ เจ้านายคนใจร้ายหายไปไหนเสียแล้ว เธออยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้"ฉันเข้าใจ คนแก่ก็แบบนี้แหละปวดหลังปวดนู่นปวดนี่ป็นธรรมดาจะไม่ถือโทษแล้วกัน" เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 87 ส่วนลึกในใจ

    "ซี๊ดด.."เจ้านายซูดปากออกมาเบา ๆ ในตอนที่กำลังหยัดกายลุกขึ้นยืน มือกอบกุมหน้าท้องแกร่งเอาไว้ ใบหน้าเหยเกคล้ายคนกำลังเจ็บปวด เมษาเห็นก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณเป็นอะไร""พี่รู้สึกปวดท้องนิดหน่อยครับ"พอฟังคำตอบเธอก็เดาได้ทันทีว่าที่ชายหนุ่มปวดท้องน่าจะเพราะทานอาหารที่เธอทำมากเกินไป สิ่งที่แอบกังวลก็เป็นจริงถึงเธอจะตั้งใจแกล้ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาถึงขั้นเจ็บตัว"ไปหาหมอไหม" ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ทว่าคนตัวโตกลับส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับเดินกอบกุมท้องออกไปยังห้องโถงเดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาโดยมีเมษาเดินตามมาติด ๆ ด้วยรู้สึกเป็นห่วงต่อให้เขาบอกว่าปวดท้องนิดหน่อยก็ตาม"แน่ใจจริง ๆ นะว่าจะไม่ไปหาหมอ" เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้าง ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า"ใบหน้าเรียวและดวงตากลมแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิดเจ้านายเห็นก็แอบหัวใจพองโตถือว่าที่เขาทนทานอาหารรสชาติแย่จนเกลี้ยงไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าหญิงสาวยังมีความรู้สึกต่อเขาไม่มากก็น้อยไม่อย่างนั้นคงไม่มีท่าทีเป็นห่วงแบบนี้"แน่ใจครับ ไม่ได้เจ็บมากเดี๋ยวก็คงหายไปเอง" เขาระบายยิ้มออกมาบาง ๆ สายตาจ้องมองใ

  • แพ้รักคู่หมั้นสวมรอย   บทที่ 86 ค่าดอกไม้2

    เจ้านายเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาในห้องโถง ขณะที่เมษาเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อเอาของไว้ แล้วลงมายังชั้นล่างอีกครั้ง"ฉันจะไปทำกับข้าว คุณนั่งรอก่อน" บอกกล่าวกับร่างสูงที่นั่งบนโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว แต่เมื่อมาถึงเธอกลับบอกให้แม่บ้านทำเมนูต่างให้ สวนปรุงรสเธอจะเป็นคนปรุงเองสั่งเสร็จก็นั่งบนเก้าอี้แถวนั้นรอแม่บ้านทำอาหาร แม่บ้านห้าคนเร่งทำเมนูอาหารที่หญิงสาวสั่งพัลวัน ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีก็เสร็จเหลือเพียงให้คนเป็นเจ้านายมาปรุงรส"มาปรุงรสได้เลยค่ะคุณหนู" แม่บ้านคนหนึ่งบอกกล่าว เมษาจึงลุกเดินไปยื่นหน้าเตาที่วางเรียงกันสี่อัน ก่อนจะยื่นมือไปหยิบขวดน้ำส้มสายชูมาบีบใส่ผัดผักรวมในกระทะ ตามด้วยหม้อแกงอีกสามหม้อ จากนั้นก็หยิบขวดเกลือมาเปิดฝาเหยาะใส่ต่อสร้างความงุนงงให้เหล่าแม่บ้านที่ยืนมองอยู่ด้านหลังไม่น้อย ต่างพากันมองหน้าไปมาเพราะจะทักท้วงก็ไม่กล้าเมษยกยิ้มร้ายมุมปากพลางไล่สายตามองกับข้าวบนเตา เธอใช้แค่น้ำส้มสายชูกับเกลือปรุงรสด้วยนึกหมั่นไส้คนตัวโตจึงอยากแกล้งเขา ดูสิยังจะบอกว่าได้ทานข้าวกับคนที่รักอร่อยอยู่ไหม"เสร็จแล้วจัดโต๊ะได้เลยนะคะ แล้วก็ทอดไข่เจียวให้เมย์สักสองฟองด้วยนะคะ" เธอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status