Home / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 40% -

Share

บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 40% -

last update Last Updated: 2025-08-29 19:00:15

ภัทรมัยนิ่งไป เธอเคยได้ยินมาว่าชยาวุธคบกับแฟนเก่ามาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา หากนับรวมเวลาแล้วก็สิบกว่าปีเช่นกัน แต่เธอไม่รู้ว่าเขาจบกันด้วยดีหรือไม่เพราะไม่เคยถาม

“พี่เวฟก็คบกับแฟนเก่าเขามาสิบกว่าปีเหมือนกัน เห็นว่าคบมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยเลยละ”

วริศพยักหน้าช้า ๆ “คบมาสิบกว่าปี แสดงว่าพวกเขาก็ผูกพันกันมากแหละ เรียนด้วยกัน จบด้วยกัน ต่างคนต่างหางานทำและให้กำลังใจกันเอง และผมคิดว่าพวกเขาก็น่าจะรู้จักญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายกันแล้วด้วย น่าจะเคยคิดกันไปถึงเรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องยากเลยนะถ้าจะให้เขาลืมแฟนเก่าที่คบกันมานานขนาดนั้นได้ แก้มคิดดูว่าความทรงจำระหว่างเขาสองคนจะมีมากขนาดไหน อาจจะเยอะเสียจนเราจินตนาการไม่ถูกหรอก”

“แต่ถ้าเขาลืมไม่ได้ เขาก็ไม่ควรมาจีบฉันสิ ไม่ควรมาคบกับฉันสิ จู่ ๆ ก็มาบอกว่าขอห่างกันสักพักเพราะยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ เขาทำแบบนี้เหมือนหลอกฉันเลยนะกาย”

วริศถอนหายใจแผ่ว รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังปลอบเด็กน้อย

“ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเขาคิดยังไงกันแน่ เพราะยังไม่เคยคุยกันสักครั้ง แต่ถ้าให้วิเคราะห์ตามความเข้าใจของผม ผมคิดว่าเขาน่าจะกำลังสับสนน่ะ เขาอาจจะรักแก้มจริงอย่างที่เขาเคยบอก แต่ขณะเดียวกันถ้ามันมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เขากับแฟนเก่าต้องมาติดต่อหรือเจอกันบ่อย ๆ อีกครั้ง มันก็อาจทำให้เขาเริ่มสับสนว่าตกลงแล้วเขาลืมแฟนเก่าได้หมดใจรึยัง ไม่รู้สิ ผมว่าผมเข้าใจแฟนของแก้มนะว่าเขาคิดยังไง ทางหนึ่งก็แฟนเก่าที่ผูกพันกันมานาน ทางหนึ่งก็แฟนใหม่ที่กำลังคบอยู่ ผมจะบอกให้ว่า ความผูกพันและความสงสารเนี่ย มันทำให้คนเราเข้าใจผิดคิดว่าเป็นความรักมานักต่อนักแล้ว เสียดายก็แต่ผมกับเขาไม่เคยคุยกัน ไม่อย่างนั้นผมคงวิเคราะห์ได้ดีกว่านี้”

“เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องติดต่อกันบ่อย ๆ หรือ” หญิงสาวทวนคำพูดของจิตแพทย์หนุ่ม จึงทำให้เธอพอนึกออกว่าพักหลังนี้ชยาวุธขอตัวไปโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง เขาบอกว่าไปเยี่ยมญาติสนิทที่กำลังป่วย ทั้งยังบอกเธอด้วยว่าเขาเคารพคนคนนั้นไม่ต่างจากมารดาแท้ ๆ ของตนเอง

“เขาบอกว่าเขาไม่อยากเลิกกับฉัน เขาขอเวลาไปทบทวนใจตัวเอง แต่ฉันไม่อยากรอ เพราะถ้าเขาทบทวนแล้วแน่ใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอยู่ ก็เท่ากับว่าฉันโง่ที่รอเขาน่ะสิ”

“นั่นก็เพราะเขายังชอบแก้มอยู่มาก เอางี้ละกัน ผมอยากให้แก้มลองสมมติตัวเองเป็นแฟนแก้มดูบ้าง” วริศหยิบแก้วของเธอไปเติมเครื่องดื่มให้แล้ววางไว้ตรงหน้าพลางพูดต่อ

“สมมติว่าแก้มเคยมีเพื่อนชายคนหนึ่งแล้วเปลี่ยนสถานะมาเป็นแฟน และคบกันมานานมากตั้งแต่สมัยเรียน แต่พอเรียนจบต่างคนก็ต่างไปทำงานไม่ค่อยได้เจอกันทุกวันเหมือนเมื่อก่อน” เขาหยิบแก้วของตนเองมาเติมเครื่องดื่มบ้าง แล้วพูดต่ออย่างใจเย็น

“ความที่คบกันมานาน และเคยเป็นเพื่อนกันมา ถึงแม้จะห่างกันไปแก้มก็ไม่ได้รู้สึกว่าคิดถึงเขาเหมือนตอนคบกันใหม่ ๆ เพราะสังคมการทำงานทำให้แก้มได้เจอคนอีกมากมาย แก้มรู้สึกตื่นเต้นกับงาน มีความสุขกับเพื่อนใหม่จนทำให้หลงลืมเขาคนนั้นไปบ้าง แต่เวลาที่แก้มไม่สบายใจ ทุกข์ใจ แก้มอาจจะนึกถึงเขาเป็นคนแรก เพราะแก้มรู้สึกไว้ใจเขาที่สุด ความทรงจำที่แก้มมีกับเขาเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด นี่แหละที่เรียกว่าความผูกพัน แก้มพอจะนึกออกใช่ไหม”

หญิงสาวพยักหน้า วริศยิ้มพลางเอ่ยต่ออีกว่า

“เวลาสิบกว่าปีนี่ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะแก้ม” ชายหนุ่มยื่นมือมาเคาะหน้าผากเธอเบา ๆ พลางพูดยิ้ม ๆ

“คนเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา หัวเราะร้องไห้มาด้วยกัน ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันไปแล้ว แม้ว่าจะเลิกกันไปด้วยดี ต่างคนต่างมีแฟนใหม่ ผมเชื่อว่าลึก ๆ แล้วแก้มก็ยังนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ เหล่านั้นอยู่ เพียงแต่มันก็แค่ความระลึกถึงเท่านั้น และจู่ ๆ ถ้าแฟนเก่าของแก้มมาหาหรือขอร้องให้ช่วยอะไรบางอย่าง ผมเชื่อว่าแก้มต้องยินดีช่วยเขาอย่างเต็มที่ เพราะเขาเปรียบเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดและรู้จักแก้มดีที่สุดคนหนึ่ง แก้มปฏิเสธเขาไม่ลงเพราะไม่อยากเห็นเขาเสียใจ แก้มพอจะเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ไหม”

ภัทรมัยมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าช้า ๆ วริศคลี่ยิ้มกว้างพลางเอ่ยว่า

“คนใหม่กับคนเก่ามันคนละเคสกัน เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก จิตใจของคนเราน่ะ มันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะ และผมเชื่อว่าแฟนของแก้มน่าจะกำลังเผชิญปัญหาบางอย่างอยู่ และปัญหานั้นทำให้เขายังแยกไม่ออกระหว่างความผูกพันกับความรัก”

หญิงสาวคว้าแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ เธอนั่งนิ่งอยู่นานโดยไม่เอ่ยอะไร วริศเองก็ไม่พูดเช่นกันราวกับต้องการให้เวลาเธอได้คิดไตร่ตรอง

“ขอบคุณมากนะกาย นายนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจจริง ๆ”

“ก็ผมเป็นจิตแพทย์นี่นา” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาอีก

ขณะรอ โทรศัพท์มือถือของภัทรมัยก็มีข้อความเข้า เมื่อหยิบขึ้นมาจึงเห็นว่าเป็นข้อความจากทิวากร ครีเอทีฟในบริษัท หญิงสาวจำได้ว่าเขากำลังนั่งดื่มกับชยาวุธไม่ใช่หรือ เธอจึงรีบเปิดอ่านทันที เพราะไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรหรือไม่ ทว่าข้อความที่ส่งเข้ามากลับทำให้เธอได้แต่เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

คุณผู้หญิงใจดีจัง ให้ผมตั้งสามร้อย ในฐานะที่คุณผู้หญิงเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ ผมจะลดให้ครึ่งราคาครับ ส่วนค่าบริการอีกครึ่งนั้น วันหน้าผมจะไปบริการคุณผู้หญิงให้ถึงที่เลย รับประกันความพึงพอใจ...พี่เวฟ

เป็นเพราะเธอบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของชยาวุธไว้ เขาจึงยืมโทรศัพท์ของทิวากรพิมพ์ข้อความส่งมาหาเธอแทน

เช้าตรู่วันถัดมา ขณะที่ภัทรมัยกำลังนอนหลับสนิท โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงพลันส่งเสียงขึ้นจนคนที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่น หญิงสาวรีบลุกขึ้นมาหยิบดูชื่อผู้ที่ โทร.เข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายจึงรีบกดรับสายทันที

“ค่ะพี่กันต์”

“แก้ม แม่เข้าโรงพยาบาลนะ เห็นว่าเป็นลมเมื่อตอนเช้ามืด”

ภัทรมัยเด้งตัวลุกจากเตียงทันทีที่ฟังจบ “แม่เป็นอะไรมากไหมพี่กันต์ แล้วทำไมถึงเป็นลมได้ล่ะ”

หญิงสาวถามพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ

“ก็หักโหมพักผ่อนไม่พออย่างเคยนั่นแหละ ตอนนี้พี่ให้พวกน้าแววดูแลร้านไปก่อน”

“โอเคค่ะพี่ แก้มจะรีบไป แค่นี้ก่อนนะคะ” เธอกดวางสายแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็วิ่งออกจากห้องเพื่อขับรถไปโรงพยาบาล

มารดาของภัทรมัยเป็นเจ้าของร้านขนมจีนชื่อดังย่านชานเมือง ที่ร้านมีน้ำยาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำยาใต้ แกงเขียวหวาน น้ำพริก น้ำเงี้ยว ทั้งยังเคยออกรายการโทรทัศน์หลายรายการจนมีชื่อเสียง จึงทำให้มีลูกค้าจากทั่วสารทิศทั้งขาประจำและขาจรต่างพากันแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย ยิ่งมีการจัดส่งถึงบ้านและโรงงานในละแวกนั้นก็ยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทว่ายิ่งขายดี มารดาของเธอก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น

แม้จะมีลูกน้องและลูกมือคอยช่วยหลายคน แต่ทุกเช้ามืด ท่านก็ต้องลุกมาคอยกำกับการปรุงน้ำยาแต่ละรสชาติด้วยตนเอง

ภัทรมัยมาถึงโรงพยาบาลในเวลาแปดนาฬิกา เห็นมารดานอนหลับสนิทบนเตียงผู้ป่วย และมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางก็พานใจหายวูบ กันตพล พี่ชายของเธอนั่งอยู่บนเบาะสำหรับให้ญาติมานอนเฝ้า โดยมีหลานสาวตัวน้อยวัยสี่ขวบนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ

“หมอว่าไงบ้างพี่” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 100% -

    “แล้วน้องเขารู้รึยังว่ามึงชอบเขา” ทิวากรถามยิ้ม ๆ“จะรู้ได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”ทิวากรกลอกตาพลางเอ่ยว่า “เหรอออ ไอ้คุณเวฟครับ กูว่าน้องเขาน่าจะรู้แล้วละครับ เพราะมึงน่ะมองเขาตาเชื่อมขนาดนั้น แหม...ไม่แสดงออกเลยสักนิด แค่คนเขารู้เขาเห็นกันทั้งบริษัทแค่นั้นเอง”“เฮ้ยถามจริง น้องเขารู้หรือวะ” คนอื่นเขาไม่สนใจ ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ภัทรมัยนั้นเขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโสด ถ้าเขาเผลอมองเธอตาเชื่อมจริง เธอจะต้องคิดแน่ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ“ไม่ได้การแล้วไอ้ทิว มึงรีบไปป่าวประกาศให้กูด่วนเลยว่ากูโสดแล้ว”และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะเริ่มจีบภัทรมัยอย่างจริงจังสักทีชยาวุธกับทีมงานคนอื่น ๆ นั่งฟังบรีฟงานจากภัทรมัยในห้องประชุมเล็ก ตลอดเวลาที่นั่งประชุม ชายหนุ่มแทบไม่ละสายตาไปจากเออีคนสวยเลย และเขาไม่ใช่แค่มองอย่างเดียว แต่ยังยิ้มนิด ๆ ตลอดเวลาด้วยภัทรมัยรู้ตัวว่าถูกชยาวุธจ้องเอา ๆ ก็อดประหม่าไม่ได้ หญิงสาวต้องตั้งสติและใช้สมาธิอย่างมา

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 70% -

    “เฮ้อ...” ภัทรมัยถอนหายใจอีกครั้งทั้งยังเผลอมองเขาไม่วางตา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หัวคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีตาคนนี้ปล่อยให้คนอื่นเขาแซงคิวอีกแล้ว...นังแก้มจะไม่ทน!หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาชยาวุธด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่ไม่ได้พูดกับเขา เธอพูดกับผู้หญิงคนนั้น“ขอโทษนะคะ ท้ายแถวอยู่ตรงนั้นค่ะ กรุณาไปต่อคิวด้วย”“อะไรกัน ก็คุณคนนี้...” ผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่จบ ภัทรมัยก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก“ถึงพี่ฉันจะยอมให้คุณแซงคิว แต่ฉันไม่ให้ และฉันจะเข้าคิวแทนพี่เขาเอง เพราะฉะนั้นกรุณาไปต่อท้ายแถวค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางท้ายแถว จากนั้นหันไปพูดกับชายหนุ่มว่า“พี่เวฟไปนั่งรอก่อนเลย แก้มจะแลกการ์ดเอง” พูดจบก็หันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นต่อ เจ้าหล่อนเห็นคนเริ่มมองมาหลายคน อีกทั้งคนที่ต่อแถวบางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ จึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากแถวทันทีเมื่อแลกการ์ดเรียบร้อยแล้ว ภัทรมัยจึงเดินไปหาชยาวุธที่นั่งรออยู่ จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้เขา&

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 35% -

    เออีน้องใหม่ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ วันนี้เธอเริ่มงานวันแรกกับบริษัทโฆษณาที่จัดว่าเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เธอใฝ่ฝันอยากทำบริษัทนี้มานานแล้ว เคยมาสัมภาษณ์สองครั้ง แต่ไม่ถูกเรียกให้เข้าทำงาน หญิงสาวจึงต้องไปสมัครบริษัทอื่น ทำอยู่หลายปีจนกระทั่งทราบข่าวว่าบริษัทนี้เปิดรับ Account Executive เธอจึงลองยื่นใบสมัครดูอีกครั้ง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านไปรอฟังผล ผ่านไปสองวันจึงได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าเธอได้รับการพิจารณาให้เป็นพนักงานของบริษัทแล้วภัทรมัยจำได้ว่าวันนั้นตนกรี๊ดลั่นห้องจนเพื่อนชายที่อยู่ห้องติดกันรีบมาเคาะประตูถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกว่าเธอเกิดอันตรายขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มจากด้านหลังพลันดังขึ้นจนทำให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อธุระอะไรรึเปล่าครับ”ภัทรมัยลดมือลงจากที่จับประตูแล้วหันไปมองคนถาม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้หน้าตาใช้ได้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลายถึงสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ ดูท่าทางเป

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 100% -

    โลกใบแรกที่เป็นทนายปราบต์ได้ตายไปแล้ว แต่ยังเหลือโลกใบที่สองคือนวัช เจ้าของบ่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่เขาเหลือชีวิตเดียวแล้ว คงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้สมกับที่มารดาของเขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาเติบโต...เมี้ยว...เสียงร้องแผ่วเบาของแมวตัวหนึ่งทำให้ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงทันที เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นลูกแมวตัวเล็กยืนห่างเขาออกไปประมาณสามก้าว“แมวบ้านไหนเนี่ย” เขาไม่เคยได้ยินว่าคนแถวนี้เลี้ยงแมวสักคน จึงคิดจะจับตัวมันมาดูว่าสวมปลอกคอเอาไว้หรือไม่ แต่เจ้าตัวเล็กก็กระโดดหนีไปเสียก่อน และเพราะความมืดเขาจึงไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไร แต่ในเมื่อมันไปแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจอีกทว่าพอเขาเดินเข้าบ้าน กลับเห็นลูกแมวตัวน้อยนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนโซฟาราวกับเป็นบ้านของมัน“จะมาอยู่ด้วยกันรึไงเจ้าเหมียวน้อย” เขาก้มตัวลงมองมันชัด ๆ เป็นแมวไทยทั่วไปสีส้มท้องขาว มีปลอกคอสวมอยู่แสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ“กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าของหาแย่แล้วมั้ง”มันเงยหน้ามองเขาเหมือนจะฟังรู้เรื่อง แต่พอเห็นมันเอนตัวลงนอนฟุบบนโซฟาเหมื

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 75% -

    “น่ารักจังเลย กี่เดือนแล้วคะ” ภัทรมัยมองเด็กน้อยลูกครึ่งด้วยความเอ็นดู สีผมของทั้งคู่เป็นสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเช่นกัน พวงแก้มแดงระเรื่อทั้งสองข้าง แขนขาจ้ำม่ำดูน่ากอดทั้งคู่“แปดเดือนแล้ว กำลังคลานเลย เวฟกับแก้มล่ะ เมื่อไรจะมีตัวเล็กบ้าง” เฟิร์นถามยิ้ม ๆ“คงอีกสักพักค่ะ” ภัทรมัยยิ้มแหย“โห นี่แปลว่าไปอยู่ที่โน่นได้ไม่นานก็แต่งงานเลยสิเนี่ย แฟนเป็นคนอเมริกันใช่ไหม แล้วรู้จักกันได้ยังไง” ชยาวุธยิ้มกว้างเช่นกัน ดีใจที่เห็นอดีตคนรักมีชีวิตที่ดี“ใช่ ตอนมาถึงที่นี่เฟิร์นก็ช่วยน้าทำงานในคลินิกสัตว์ และเพ็ทชอปน่ะ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เพราะพาแมวมาถ่ายพยาธิและหยอดยากันเห็บหมัดทุกเดือน มาซื้ออาหารแมว ทรายแมวบ่อย ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากคลินิกด้วย เขาจะออกมาวิ่งทุกเช้าเลยได้คุยกันทุกวัน”“ดีใจด้วยนะเฟิร์น ลูก ๆ น่ารักมาก แก้มแดงน่าหยิกมากเลย ไฮ...”ชายหนุ่มโบกมือทักทายเด็กน้อยที่มองตนตาแป๋วผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างถูกใจเมื่อเห

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 50% -

    “ไอ้เสี่ยกวงมันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก เชื่อพี่ น่าจะตายอยู่ในคุกนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาเห็นโลกภายนอกอีกหรอก”“แล้วคุณทนายล่ะ แก้มว่าเขาก็ทำบาปกับคนอื่นไว้ไม่น้อยเลยนะนั่น อยากรู้จริงว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”แม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ภัทรมัยยังคงเชื่อว่าทนายปราบต์ยังไม่ตาย และคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน“จะไปคิดถึงมันทำไม มันทำให้พี่เกือบตายเชียวนะ” เขาตัดพ้อเสียงขุ่น ภัทรมัยจึงรีบกอดเขาไว้อย่างเอาใจ“แหม ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าเขาทำยังไงถึงรอด หมายถึงว่าเขาทำยังไงถึงทำให้ตัวเองกลายเป็นคนตายไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร ยังอยู่ในประเทศไทยรึเปล่าแค่นั้นเอง”“เขาอยู่กับเสี่ยกวงมานาน ยังไงก็ต้องมีทางออกให้ตัวเองเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วละ แต่ไอ้เรื่องชุบตัวเป็นคนใหม่หรือสวมรอยเป็นคนอื่นรึเปล่าเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะรู้กันเฉพาะกลุ่มว่ามีขบวนการทำให้ ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่พวกนั้นอาจจัดการให้เขาเองก็ได้ ช่างมันเถอะ แค่อย่ามาให้เจอหน้าก็แล้วกัน บอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่ถูกชะตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status