Home / โรแมนติก / แฟนเก่าที่(ไม่)รัก / บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 40% -

Share

บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 40% -

last update Last Updated: 2025-08-29 19:00:15

ภัทรมัยนิ่งไป เธอเคยได้ยินมาว่าชยาวุธคบกับแฟนเก่ามาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา หากนับรวมเวลาแล้วก็สิบกว่าปีเช่นกัน แต่เธอไม่รู้ว่าเขาจบกันด้วยดีหรือไม่เพราะไม่เคยถาม

“พี่เวฟก็คบกับแฟนเก่าเขามาสิบกว่าปีเหมือนกัน เห็นว่าคบมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยเลยละ”

วริศพยักหน้าช้า ๆ “คบมาสิบกว่าปี แสดงว่าพวกเขาก็ผูกพันกันมากแหละ เรียนด้วยกัน จบด้วยกัน ต่างคนต่างหางานทำและให้กำลังใจกันเอง และผมคิดว่าพวกเขาก็น่าจะรู้จักญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายกันแล้วด้วย น่าจะเคยคิดกันไปถึงเรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องยากเลยนะถ้าจะให้เขาลืมแฟนเก่าที่คบกันมานานขนาดนั้นได้ แก้มคิดดูว่าความทรงจำระหว่างเขาสองคนจะมีมากขนาดไหน อาจจะเยอะเสียจนเราจินตนาการไม่ถูกหรอก”

“แต่ถ้าเขาลืมไม่ได้ เขาก็ไม่ควรมาจีบฉันสิ ไม่ควรมาคบกับฉันสิ จู่ ๆ ก็มาบอกว่าขอห่างกันสักพักเพราะยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ เขาทำแบบนี้เหมือนหลอกฉันเลยนะกาย”

วริศถอนหายใจแผ่ว รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังปลอบเด็กน้อย

“ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าเขาคิดยังไงกันแน่ เพราะยังไม่เคยคุยกันสักครั้ง แต่ถ้าให้วิเคราะห์ตามความเข้าใจของผม ผมคิดว่าเขาน่าจะกำลังสับสนน่ะ เขาอาจจะรักแก้มจริงอย่างที่เขาเคยบอก แต่ขณะเดียวกันถ้ามันมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เขากับแฟนเก่าต้องมาติดต่อหรือเจอกันบ่อย ๆ อีกครั้ง มันก็อาจทำให้เขาเริ่มสับสนว่าตกลงแล้วเขาลืมแฟนเก่าได้หมดใจรึยัง ไม่รู้สิ ผมว่าผมเข้าใจแฟนของแก้มนะว่าเขาคิดยังไง ทางหนึ่งก็แฟนเก่าที่ผูกพันกันมานาน ทางหนึ่งก็แฟนใหม่ที่กำลังคบอยู่ ผมจะบอกให้ว่า ความผูกพันและความสงสารเนี่ย มันทำให้คนเราเข้าใจผิดคิดว่าเป็นความรักมานักต่อนักแล้ว เสียดายก็แต่ผมกับเขาไม่เคยคุยกัน ไม่อย่างนั้นผมคงวิเคราะห์ได้ดีกว่านี้”

“เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องติดต่อกันบ่อย ๆ หรือ” หญิงสาวทวนคำพูดของจิตแพทย์หนุ่ม จึงทำให้เธอพอนึกออกว่าพักหลังนี้ชยาวุธขอตัวไปโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง เขาบอกว่าไปเยี่ยมญาติสนิทที่กำลังป่วย ทั้งยังบอกเธอด้วยว่าเขาเคารพคนคนนั้นไม่ต่างจากมารดาแท้ ๆ ของตนเอง

“เขาบอกว่าเขาไม่อยากเลิกกับฉัน เขาขอเวลาไปทบทวนใจตัวเอง แต่ฉันไม่อยากรอ เพราะถ้าเขาทบทวนแล้วแน่ใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอยู่ ก็เท่ากับว่าฉันโง่ที่รอเขาน่ะสิ”

“นั่นก็เพราะเขายังชอบแก้มอยู่มาก เอางี้ละกัน ผมอยากให้แก้มลองสมมติตัวเองเป็นแฟนแก้มดูบ้าง” วริศหยิบแก้วของเธอไปเติมเครื่องดื่มให้แล้ววางไว้ตรงหน้าพลางพูดต่อ

“สมมติว่าแก้มเคยมีเพื่อนชายคนหนึ่งแล้วเปลี่ยนสถานะมาเป็นแฟน และคบกันมานานมากตั้งแต่สมัยเรียน แต่พอเรียนจบต่างคนก็ต่างไปทำงานไม่ค่อยได้เจอกันทุกวันเหมือนเมื่อก่อน” เขาหยิบแก้วของตนเองมาเติมเครื่องดื่มบ้าง แล้วพูดต่ออย่างใจเย็น

“ความที่คบกันมานาน และเคยเป็นเพื่อนกันมา ถึงแม้จะห่างกันไปแก้มก็ไม่ได้รู้สึกว่าคิดถึงเขาเหมือนตอนคบกันใหม่ ๆ เพราะสังคมการทำงานทำให้แก้มได้เจอคนอีกมากมาย แก้มรู้สึกตื่นเต้นกับงาน มีความสุขกับเพื่อนใหม่จนทำให้หลงลืมเขาคนนั้นไปบ้าง แต่เวลาที่แก้มไม่สบายใจ ทุกข์ใจ แก้มอาจจะนึกถึงเขาเป็นคนแรก เพราะแก้มรู้สึกไว้ใจเขาที่สุด ความทรงจำที่แก้มมีกับเขาเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด นี่แหละที่เรียกว่าความผูกพัน แก้มพอจะนึกออกใช่ไหม”

หญิงสาวพยักหน้า วริศยิ้มพลางเอ่ยต่ออีกว่า

“เวลาสิบกว่าปีนี่ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะแก้ม” ชายหนุ่มยื่นมือมาเคาะหน้าผากเธอเบา ๆ พลางพูดยิ้ม ๆ

“คนเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา หัวเราะร้องไห้มาด้วยกัน ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายจนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันไปแล้ว แม้ว่าจะเลิกกันไปด้วยดี ต่างคนต่างมีแฟนใหม่ ผมเชื่อว่าลึก ๆ แล้วแก้มก็ยังนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ เหล่านั้นอยู่ เพียงแต่มันก็แค่ความระลึกถึงเท่านั้น และจู่ ๆ ถ้าแฟนเก่าของแก้มมาหาหรือขอร้องให้ช่วยอะไรบางอย่าง ผมเชื่อว่าแก้มต้องยินดีช่วยเขาอย่างเต็มที่ เพราะเขาเปรียบเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดและรู้จักแก้มดีที่สุดคนหนึ่ง แก้มปฏิเสธเขาไม่ลงเพราะไม่อยากเห็นเขาเสียใจ แก้มพอจะเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ไหม”

ภัทรมัยมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าช้า ๆ วริศคลี่ยิ้มกว้างพลางเอ่ยว่า

“คนใหม่กับคนเก่ามันคนละเคสกัน เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก จิตใจของคนเราน่ะ มันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะ และผมเชื่อว่าแฟนของแก้มน่าจะกำลังเผชิญปัญหาบางอย่างอยู่ และปัญหานั้นทำให้เขายังแยกไม่ออกระหว่างความผูกพันกับความรัก”

หญิงสาวคว้าแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ เธอนั่งนิ่งอยู่นานโดยไม่เอ่ยอะไร วริศเองก็ไม่พูดเช่นกันราวกับต้องการให้เวลาเธอได้คิดไตร่ตรอง

“ขอบคุณมากนะกาย นายนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจจริง ๆ”

“ก็ผมเป็นจิตแพทย์นี่นา” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาอีก

ขณะรอ โทรศัพท์มือถือของภัทรมัยก็มีข้อความเข้า เมื่อหยิบขึ้นมาจึงเห็นว่าเป็นข้อความจากทิวากร ครีเอทีฟในบริษัท หญิงสาวจำได้ว่าเขากำลังนั่งดื่มกับชยาวุธไม่ใช่หรือ เธอจึงรีบเปิดอ่านทันที เพราะไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรหรือไม่ ทว่าข้อความที่ส่งเข้ามากลับทำให้เธอได้แต่เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

คุณผู้หญิงใจดีจัง ให้ผมตั้งสามร้อย ในฐานะที่คุณผู้หญิงเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ ผมจะลดให้ครึ่งราคาครับ ส่วนค่าบริการอีกครึ่งนั้น วันหน้าผมจะไปบริการคุณผู้หญิงให้ถึงที่เลย รับประกันความพึงพอใจ...พี่เวฟ

เป็นเพราะเธอบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของชยาวุธไว้ เขาจึงยืมโทรศัพท์ของทิวากรพิมพ์ข้อความส่งมาหาเธอแทน

เช้าตรู่วันถัดมา ขณะที่ภัทรมัยกำลังนอนหลับสนิท โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงพลันส่งเสียงขึ้นจนคนที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่น หญิงสาวรีบลุกขึ้นมาหยิบดูชื่อผู้ที่ โทร.เข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายจึงรีบกดรับสายทันที

“ค่ะพี่กันต์”

“แก้ม แม่เข้าโรงพยาบาลนะ เห็นว่าเป็นลมเมื่อตอนเช้ามืด”

ภัทรมัยเด้งตัวลุกจากเตียงทันทีที่ฟังจบ “แม่เป็นอะไรมากไหมพี่กันต์ แล้วทำไมถึงเป็นลมได้ล่ะ”

หญิงสาวถามพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ

“ก็หักโหมพักผ่อนไม่พออย่างเคยนั่นแหละ ตอนนี้พี่ให้พวกน้าแววดูแลร้านไปก่อน”

“โอเคค่ะพี่ แก้มจะรีบไป แค่นี้ก่อนนะคะ” เธอกดวางสายแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็วิ่งออกจากห้องเพื่อขับรถไปโรงพยาบาล

มารดาของภัทรมัยเป็นเจ้าของร้านขนมจีนชื่อดังย่านชานเมือง ที่ร้านมีน้ำยาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำยาใต้ แกงเขียวหวาน น้ำพริก น้ำเงี้ยว ทั้งยังเคยออกรายการโทรทัศน์หลายรายการจนมีชื่อเสียง จึงทำให้มีลูกค้าจากทั่วสารทิศทั้งขาประจำและขาจรต่างพากันแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย ยิ่งมีการจัดส่งถึงบ้านและโรงงานในละแวกนั้นก็ยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทว่ายิ่งขายดี มารดาของเธอก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น

แม้จะมีลูกน้องและลูกมือคอยช่วยหลายคน แต่ทุกเช้ามืด ท่านก็ต้องลุกมาคอยกำกับการปรุงน้ำยาแต่ละรสชาติด้วยตนเอง

ภัทรมัยมาถึงโรงพยาบาลในเวลาแปดนาฬิกา เห็นมารดานอนหลับสนิทบนเตียงผู้ป่วย และมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางก็พานใจหายวูบ กันตพล พี่ชายของเธอนั่งอยู่บนเบาะสำหรับให้ญาติมานอนเฝ้า โดยมีหลานสาวตัวน้อยวัยสี่ขวบนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ

“หมอว่าไงบ้างพี่” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 80% -

    ชยาวุธมองสบสายตาคู่นั้นอย่างหลงใหลขณะค่อย ๆ เคลื่อนริมฝีปากพรมจูบต่ำลงไปเรื่อย ๆ สองมือแยกขาเรียวสวยออกกว้าง ข้างหนึ่งพาดไว้กับบ่าตน อีกข้างวางไว้กับพื้นเสียงครวญครางดังระงมเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าปัดป่ายจุดอ่อนไหวอย่างเร่งเร้าสลับเชื่องช้า สะโพกกลมกลึงบิดส่ายรับการปรนเปรออันแสนร้อนเร่า ปากครางเรียกชื่อเขาไม่หยุด เขาจึงยิ่งเร่งระรัวเพื่อส่งเธอถึงปลายทางโดยไว เพราะเขาเองก็ปวดหนึบจนแทบระเบิดแล้วเมื่อร่างเย้ายวนเกร็งกระตุกพร้อมเสียงครางดังขึ้นกว่าเดิม อันเป็นภาษากายบ่งบอกว่าหญิงสาวถึงปลายทางแล้ว หากแต่ชายหนุ่มกลับยังคงก้มหน้าปรนเปรอไม่หยุด สองมือคลึงเคล้นทรวงสล้าง ปลายนิ้วสะกิดยอดอกอย่างหยอกเย้า ขณะที่ร่างอรชรได้แต่นอนหอบหายใจถี่จากความสุขสมที่ถาโถมเมื่อครู่ชายหนุ่มบรรจงจูบต้นขาด้านในทั้งสองข้างก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับหญิงสาว เขายิ้มมุมปาก แววตารุ่มร้อนจนคนมองใจสั่นระรัว“ตรงนี้หรือในห้อง” เขาถามเสียงพร่า ขณะที่ท่อนล่างเริ่มบดเบียดสอดแทรกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้น“เอาเข้ามาแล้วยังจะถามอีกทำไม” เธอตอ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 60% -

    เฟิร์นต้องโทษเขาแน่ ๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้มารดาของตนเองต้องตาย เขาควรยอมรับความผิดกับเธอตามตรงว่า ที่มารดาของเธออาการทรุดลงเป็นเพราะเขาทำให้มันเกิดขึ้นชยาวุธลืมตาขึ้นพลางกด โทร.ออกไปหาอดีตคนรัก รอสายอยู่นานกว่าปลายสายจะกดรับ ยิ่งได้ยินเสียงเจือสะอื้นของอีกฝ่าย เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดจนท่วมท้นไปทั้งใจ“ฮัลโหล เฟิร์น...เราขอโทษ”ภัทรมัยอดมองไปทางโต๊ะทำงานของชยาวุธไม่ได้ เขาลางานไปสองวันแล้วโดยแจ้งกับฝ่ายบุคคลว่าลากิจ ต้องไปงานศพญาติ นอกนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้ว เพราะไม่กล้าเปิดปากถามคนอื่นหญิงสาวเข้าเฟซบุ๊กแล้วเปิดกล่องข้อความที่เพิ่งแชตคุยกับเขาเมื่อคืนวันเสาร์ ตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ไม่ได้แชตมาหาเธออีกราวกับหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไรอย่างนั้น...และจู่ ๆ นิ้วมือของเธอก็พิมพ์ข้อความลงไปโดยไม่รู้ตัว...พี่เวฟเป็นไงบ้าง...ภัทรมัยเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าตนทำอะไรลงไปจึงรีบลบข้อความนั้นออกไปทันที เพราะกลัวว่านิ้วมือจะกดส่งไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็นั่งถอนหายใจอย่างโล่งอก“เฮ้อ...ดีนะที่ยังไม่ได้กดส่งไ

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 40% -

    “Chaya Wave งั้นหรือ อะไรกัน อีพี่เวฟมีกี่ไอดีกันเนี่ย มีหลายไอดีไว้จีบสาวรึไง อีตาบ้า!” หญิงสาวกดไอคอน “โกรธ” ให้กับคอมเมนต์นั้น แต่เขากลับกด “หัวใจ” ให้กับสเตตัสของเธอชยาวุธร่างสตอรีบอร์ดเสร็จไปหนึ่งแบบจึงลุกขึ้นยืนยืดเส้นสาย เขามองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าหนึ่งทุ่มแล้วจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ในห้องนอนเพื่อดูว่ามีใคร โทร.มาหรือไม่ แต่ปรากฏว่าแบตหมดจึงเสียบสายชาร์จแล้ววางไว้ที่เดิม จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของคอนโดมิเนียมชายหนุ่มขึ้นห้องอีกครั้งตอนสองทุ่มกว่า เขารีบอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคล เสร็จเรียบร้อยจึงมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าเฟซบุ๊กที่เขาสมัครไว้อีกชื่อหนึ่งเขายิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าภัทรมัยยังไม่บล็อกบัญชีชื่อนี้ของเขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงลองทักเธอทางกล่องข้อความChaya Wave : ทำไรอยู่แก้มเขาทักไปแล้วก็รอว่าเธอจะอ่านเลยหรือไม่ รอประมาณห้านาทีหญิงสาวก็ตอบกลับมาGam Phattramai : ถามทำไมChaya Wave : ก็อยากรู้Chaya Wave : เค้ก

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 3 ตราบาปติดตัว - 20% -

    มารดาของเฟิร์นยังคงโทรศัพท์หาชยาวุธอย่างไม่ลดละความพยายาม ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดรำคาญด้วยการรับสาย“ครับ คุณแม่”“ตาเวฟ วันนี้ไม่มาหรือลูก”“ผมติดธุระสำคัญครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่ง” ธุระสำคัญที่เขาพูดถึงคือการตามง้อภัทรมัย“แหม ยุ่งแค่ไหนก็น่าจะแวะมาหาแม่บ้าง หรือไม่ก็แวะมากินข้าวกับยายเฟิร์นสักมื้อก็ยังดี เป็นแฟนกันมันต้องใส่ใจกันนะลูกนะ ไปทำตัวห่างเหินกันเหมือนตอนนั้นมันไม่ดีหรอก แม่นี่ใจไม่ดีเลย”ชยาวุธลอบถอนหายใจ เขาคิดว่าเรื่องนี้อดีตคนรักน่าจะคุยกับมารดาของตนบ้างแล้ว แต่ท่านคงไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นเขาคงต้องเอ่ยปากออกไปด้วยตนเองเสียแล้ว“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้คบกับเฟิร์นแล้ว ความจริงเราเลิกกันตั้งแต่ปีที่แล้วครับคุณแม่”ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจจนเขาคิดว่าสายหลุดไปแล้ว กำลังคิดจะเรียกอีกฝ่าย แต่ทางนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน“อะไรกันพวกเธอนี่ หมายความว่ายังไงที่ว่าเลิกกัน แล้วยายเฟิร์นลูกสาวแม่ล่ะจะทำยังไง”“ผมคุยและตกลงกับเฟิร์นเรี

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 100% -

    “เมื่อกี้แก โทร.ไปหาตาเวฟหรือยายเฟิร์น” เสียงของมารดาถามขึ้นทันทีที่หญิงสาวเปิดประตูกระจกเข้าไปในห้อง“เปล่าสักหน่อย เฟิร์นคุยกับเพื่อนที่ทำงาน” เธอเดินไปนั่งบนโซฟายาวสำหรับให้แขกนอนเฝ้าคนป่วย“วันนี้ตาเวฟจะมาเยี่ยมแม่รึเปล่า”“ไม่มามั้ง เห็นบอกว่าติดงานนี่นา ทำไมแม่ต้องให้เวฟมาทุกวันด้วยเนี่ย ไม่เกรงใจเขาหรือไง วันหยุดทั้งทีเขาก็อยากพักผ่อนอยู่ห้องบ้าง”“อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นลูกเขยแม่อยู่แล้ว เขาก็ต้องมาคอยดูแลแม่สิ”เฟิร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ต้องให้เฟิร์นพูดอีกกี่ครั้งแม่ถึงจะเข้าใจเนี่ย เราเลิกกันแล้ว เฟิร์นไม่ได้เป็นแฟนกับเวฟแล้ว ทุกวันนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม่หยุดทำให้เขาลำบากใจได้ไหม แม่ไม่เห็นหน้าเวฟเวลาแม่พูดเรื่องเก่า ๆ บ้างหรือ ทุกอย่างมันจบไปแล้วแม่ และเวฟก็มีแฟนใหม่ไปแล้วด้วย”“แล้วแกจะยอมหรือยายเฟิร์น ตาเวฟน่ะดีจะตาย คบกับแกมาตั้งสิบกว่าปีไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจแกสักครั้ง แกจะยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน แม

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 80% -

    ผู้เป็นมารดามองหน้าบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าภัทรมัยชอบแต่งตัวสวย ๆ ชอบการพบปะผู้คนตามประสาหญิงสาวที่ชอบเข้าสังคมและมีเพื่อนเยอะ จึงบอกกับอีกฝ่ายว่า“ไม่ต้องรีบหรอก แกก็ทำงานของแกไปให้เต็มที่นั่นแหละ อยากลาออกเมื่อไรก็ค่อยว่ากัน แม่ไม่ได้บังคับว่าแกต้องลาออกมาช่วยแม่ทันทีสักหน่อย งานที่ร้านแม่ก็ยังทำไหว”“แม่ก็ไหวตลอด แต่เข้าโรงพยาบาลกี่รอบแล้วแก้มก็ขี้เกียจนับ” ภัทรมัยทำหน้ามุ่ยใส่มารดา“แค่หน้ามืดไปนิดเดียว ทำเป็นเรื่องใหญ่โตกันไปได้ แล้วนี่แม่จะออกจากโรงพยาบาลได้รึยัง”“หมอให้นอนดูอาการก่อนนะแม่ พรุ่งนี้ค่อยออก” เธอรีบบอกท่าน และเป็นตามคาด ท่านแย้งขึ้นทันที“พรุ่งนี้! ได้ยังไงกัน แล้วที่ร้านใครจะดู”“น้าแววไง ให้น้าแววดูให้ก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ปิดร้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แก้มว่าแม่น่าจะนอนพักผ่อนให้เต็มที่ไปเลยนะ เปิดร้านแล้วค่อยลุยใหม่...เถอะนะแม่ พักผ่อนเถอะ”“ปรับเตียงขึ้นมาให้แม่หน่อย” ได้ยินอย่างนั้น ภัทรมัยจึงกดปุ่มปรับเตียงเพื่อให้ท่านน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status