แชร์

บทที่ 2 ไม่ต้องทอน - 60% -

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-30 12:30:02

“ความดันต่ำนั่นแหละ พักผ่อนไม่เพียงพอก็เลยทำให้หน้ามืดวูบไป หมอให้น้ำเกลือกับยาที่ช่วยให้หลับพักผ่อนได้นานหน่อย รอดูอาการถึงพรุ่งนี้ ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้”

หญิงสาวพยักหน้าขณะเดินไปยืนข้างเตียง มารดาของเธอเป็นคนผอมบางอยู่แล้ว ยิ่งมาสวมชุดผู้ป่วยก็ยิ่งทำให้ดูอ่อนแอลงไปอีก ทั้งที่ความจริงแล้วท่านเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง

บิดาของภัทรมัยเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุตั้งแต่หญิงสาวอายุสิบห้าปี ท่านเลี้ยงดูสองพี่น้องมาเพียงลำพังด้วยการเป็นแม่ค้าขายขนมจีนน้ำยา ตอนนั้นยังเป็นเพียงแผงเล็ก ๆ ในตลาด และค่อย ๆ ขยับขยายเป็นการเช่าอาคารพาณิชย์พร้อมกับจ้างคนงานเพิ่มขึ้น ใช้ชื่อร้านว่า “เด็กเส้น” จนในที่สุดก็สามารถเก็บเงินซื้ออาคารพาณิชย์ย่านชุมชนได้สองคูหา รวมทั้งพื้นที่ว่างด้านข้างอาคารเพื่อใช้เป็นลานจอดรถอีกด้วย

ท่านเป็นผู้หญิงเก่ง เธอมีมารดาเป็นไอดอล

ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งสร้างเนื้อสร้างตัวมาได้ขนาดนี้ ทั้งยังส่งเสียลูกสองคนให้ได้ร่ำเรียนจนจบปริญญากันทุกคน โดยเฉพาะกันตพล พี่ชายของเธอ เขาเรียนจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้ทำงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เงินเดือนเป็นแสน ทุกคนภูมิใจกับเขามาก เสียดายก็แต่ชีวิตครอบครัวของพี่ชายไม่ค่อยราบรื่นเท่าไรนัก

“แก้มไม่คิดลาออกจากงานมาช่วยแม่ที่ร้านบ้างหรือ” จู่ ๆ กันตพลก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้ภัทรมัยไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร เพราะเรื่องนี้มารดาเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่าอยากให้เธอมาช่วยท่านที่ร้านมากกว่า

“แก้มยังสนุกกับงานอยู่เลยพี่กันต์ ยังไม่อยากลาออก”

ตั้งแต่เรียนจบ เธอเปลี่ยนงานมาแล้วสามที่ และบริษัทโฆษณาที่ทำอยู่ปัจจุบันก็ยังทำไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ เธอเพิ่งอายุยี่สิบเจ็ด ยังอยากสนุกกับการใช้ชีวิตเป็นสาวออฟฟิศอยู่เลย

กันตพลพยักหน้าช้า ๆ “พี่เข้าใจ แต่พี่ก็สงสารแม่ ไม่อยากให้ท่านเหนื่อยเกินไป”

จะให้ทิ้งร้านเพื่อให้มารดาได้พักผ่อนคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ท่านคงไม่ยอมแน่ ท่านรักร้านเด็กเส้นมากเพราะปั้นมากับมือ และคนที่ต้องสืบทอดกิจการต่อไปก็คือเธอ เพราะพี่ชายคงไม่ทำแน่นอน

เอาไงดี ลาออกงั้นหรือ

วริศยืนอยู่หน้าห้องของภัทรมัย ในมือของเขามีก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องหนึ่งชุดที่ซื้อมาฝากหญิงสาว เขาเคาะประตูนานแล้วแต่เจ้าของห้องยังไม่มาเปิด หญิงสาวน่าจะออกไปทำธุระตั้งแต่เช้า เพราะเบียร์แค่สองกระป๋องภัทรมัยไม่มีทางเมาแน่ ชายหนุ่มจึงห้อยถุงอาหารที่ซื้อมาไว้กับลูกบิดประตูห้อง ก่อนเดินเข้าห้องของตัวเอง

เมื่อคืนเขาพูดกับเธอเรื่องแฟนเก่าเสียยืดยาว ได้แต่หวังว่าสองคนนี้จะหาทางลงเอยกันได้ด้วยดี เพราะเขาเองก็ช่วยได้แค่นี้ในฐานะเพื่อน และในฐานะของจิตแพทย์

ที่เขาบอกเธอว่าไม่เคยเจอชยาวุธนั้นเขาโกหก ความจริงเขาเคยเจอผู้ชายคนนั้นแล้ว และได้พูดคุยกันพอสมควร เพียงแต่ไม่ใช่ในฐานะเพื่อน หากแต่เป็นในฐานะของจิตแพทย์และคนไข้

ชยาวุธเป็นคนไข้ของเขา

ชายหนุ่มผู้กำลังสับสนกับความรู้สึกของตนเอง กับแฟนใหม่ก็รัก กับแฟนเก่าก็มีแต่ความสงสาร เห็นใจ และปรารถนาดีอยากให้อีกฝ่ายพบเจอแต่ความสุข แต่เพราะมีตัวแปรเป็นบุคคลที่สามซึ่งคอยพูดกรอกหูเขาอยู่เสมอ จึงทำให้ชยาวุธเริ่มลังเลว่าหัวใจของตนเอนเอียงไปทางไหนกันแน่

เฟิร์นเขาเป็นแฟนคนแรก เป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตของผม สิบกว่าปีมานี้เขาเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ตอนที่ตัดสินใจว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ผมก็รู้สึกเฉย ๆ นะไม่ได้เสียใจอะไร รู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำที่เราจบกันด้วยดี เพราะเราสองคนยอมรับว่าไม่ได้รักกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่พอผมรู้ว่าเขากำลังแย่ กำลังทุกข์ใจ ผมกลับไม่สามารถทิ้งเขาไว้คนเดียวได้

แล้วตอนที่คุณเริ่มคบกับแฟนใหม่ ตอนนั้นคุณเลิกกับคนเก่ารึยังครับเขาถามชยาวุธ

เลิกแล้วครับ เลิกกันได้สองเดือนแล้วถึงคบคนใหม่ แฟนใหม่ของผม เราทำงานที่เดียวกันน่ะ น้องเขาเพิ่งมาทำงานที่บริษัท ผมเป็นฝ่ายชอบเขาก่อนก็เลยตามจีบเขา

นั่นคือส่วนหนึ่งที่ชยาวุธระบายให้จิตแพทย์อย่างเขาฟัง เขาเข้าใจผู้ชายคนนี้ว่ารู้สึกอย่างไรกับแฟนเก่า เพราะระยะเวลาสิบกว่าปีสำหรับคนคนหนึ่ง ความผูกพันมันหยั่งรากฝังลึกลงในชีวิตไปแล้ว

บางที การที่ภัทรมัยพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์อึดอัดแบบนี้ก็เป็นผลดีไม่น้อย เพราะชยาวุธจะได้รู้ใจตนเองสักทีว่า แท้จริงแล้วความรู้สึกที่ตนมีให้แฟนเก่านั้นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความสงสารและเห็นใจแค่นั้นเอง

ภัทรมัยนั่งเฝ้ามารดาเพียงลำพัง เพราะกันตพลพาบุตรสาวกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน แล้วช่วงบ่ายจะกลับมาใหม่ หญิงสาวนั่งคิดเรื่องที่พี่ชายพูดทิ้งเอาไว้ก่อนกลับไป ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจอย่างบอกไม่ถูก

เธอยังอยากทำงานที่นั่นอยู่ การได้ทำงานในบริษัทโฆษณาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ เธอเคยมาสมัครงานที่นี่สองครั้งแต่ไม่ผ่าน ครั้งที่สามเธอบอกกับตัวเองไว้ว่าหากยังไม่ผ่านอีกก็จะล้มเลิกความตั้งใจแล้ว แต่ปรากฏว่าคำอธิษฐานของเธอเป็นจริง ในที่สุดก็ได้ทำงานที่นี่สมใจ

“ยังทำไม่ถึงปีเลย” หญิงสาวพึมพำเบา ๆ ด้วยความเสียดายพร้อมกับที่ใบหน้าคมเข้มของชยาวุธลอยเข้ามาในห้วงความคิดคำนึง

แม้เขาจะใจร้ายที่คบกับเธอทั้งที่ยังรักแฟนเก่าอยู่ แต่ก็ยอมรับว่าเขาทำให้เธอมีความสุขมากจริง ๆ เขาสอนงานเธอหลายอย่าง สอนวิธีรับมือกับลูกค้าบางรายอย่างได้ผล เธอรู้ดีว่า แม้ตนจะพร่ำบอกใครต่อใครว่าจะไม่ยุ่งกับเขาอีกแล้ว แต่ความจริงนั้นเธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ

แต่เธอก็ต้องยอมรับ หกเดือนหรือจะสู้สิบกว่าปีได้ หากเปรียบเทียบความผูกพันตามที่วริศบอก เธอย่อมแพ้แฟนเก่าของเขาอย่างไม่เห็นฝุ่น

“แก้ม เอาน้ำให้แม่หน่อย” เสียงแหบพร่าดังมาจากคนที่นอนอยู่บนเตียง ภัทรมัยรีบลุกขึ้น เทน้ำใส่แก้วให้มารดาทันทีเมื่อเห็นว่าท่านตื่นแล้ว

“แม่เป็นไงบ้างคะ รู้สึกเวียนหัวไม่มีแรงอะไรแบบนี้บ้างรึเปล่า”

ผู้เป็นมารดาดื่มน้ำจนหมดแก้ว ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า

“มึนหัว แล้วนี่ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง ใครดูอยู่ ยายแววรึเปล่า”

“น้าแววดูแลให้อยู่ แม่ไม่ต้องห่วงหรอก แก้มบอกแม่หลายทีแล้วว่าไม่ต้องตื่นเช้ามากนัก แล้วก็นอนให้ไวหน่อย พักผ่อนเยอะ ๆ แม่จะโหมงานหนักไปทำไมเนี่ย อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ”

“แม่ไม่ดูแล้วใครจะดู แล้วนี่ได้เอาโทรศัพท์ของแม่มาด้วยรึเปล่า” ท่านหันไปมองโต๊ะข้างเตียง

“พี่กันต์ไม่ได้เอามาหรอก ยังจะอุตส่าห์ห่วงร้านอีกนะแม่เนี่ย”

“ไม่ห่วงได้ยังไง เผื่อยายพวกนั้นมันทำผิดสูตร ร้านเราก็เสียชื่อแย่สิ”

“แต่พวกน้าแววเขาก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือแม่ ว่าน้ำยาแบบไหนใส่เครื่องปรุงอะไรเท่าไรบ้าง แก้มว่าแม่ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกลูกน้องบ้างเถอะ แม่ไม่ต้องคอยกำกับทุกขั้นตอนหรอก”

“แก้มเอ๊ย สูตรน้ำยาพวกนี้มันมีราคาทั้งนั้น แม่ไม่อยากไว้ใจใครมากเกินไป ถ้าแม่จะไว้ใจใคร คนคนนั้นก็ควรจะเป็นแกนั่นแหละ เมื่อไรจะมาช่วยแม่ทำร้านสักที หืม...แม่จะได้พักบ้าง”

ภัทรมัยนิ่งไปครู่ใหญ่ สายตามองเหม่อออกไปข้างนอกพลางพูดอย่างแผ่วเบาว่า

“ขอเวลาแก้มอีกสักเดือนสองเดือนนะแม่ แก้มยังมีงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่น่ะ แล้วถ้าจะลาออกก็ต้องบอกบริษัทล่วงหน้าหนึ่งเดือนด้วย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 100% -

    “แล้วน้องเขารู้รึยังว่ามึงชอบเขา” ทิวากรถามยิ้ม ๆ“จะรู้ได้ไง ก็กูไม่ได้บอก”ทิวากรกลอกตาพลางเอ่ยว่า “เหรอออ ไอ้คุณเวฟครับ กูว่าน้องเขาน่าจะรู้แล้วละครับ เพราะมึงน่ะมองเขาตาเชื่อมขนาดนั้น แหม...ไม่แสดงออกเลยสักนิด แค่คนเขารู้เขาเห็นกันทั้งบริษัทแค่นั้นเอง”“เฮ้ยถามจริง น้องเขารู้หรือวะ” คนอื่นเขาไม่สนใจ ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ภัทรมัยนั้นเขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเธอยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาโสด ถ้าเขาเผลอมองเธอตาเชื่อมจริง เธอจะต้องคิดแน่ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจ“ไม่ได้การแล้วไอ้ทิว มึงรีบไปป่าวประกาศให้กูด่วนเลยว่ากูโสดแล้ว”และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะเริ่มจีบภัทรมัยอย่างจริงจังสักทีชยาวุธกับทีมงานคนอื่น ๆ นั่งฟังบรีฟงานจากภัทรมัยในห้องประชุมเล็ก ตลอดเวลาที่นั่งประชุม ชายหนุ่มแทบไม่ละสายตาไปจากเออีคนสวยเลย และเขาไม่ใช่แค่มองอย่างเดียว แต่ยังยิ้มนิด ๆ ตลอดเวลาด้วยภัทรมัยรู้ตัวว่าถูกชยาวุธจ้องเอา ๆ ก็อดประหม่าไม่ได้ หญิงสาวต้องตั้งสติและใช้สมาธิอย่างมา

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 70% -

    “เฮ้อ...” ภัทรมัยถอนหายใจอีกครั้งทั้งยังเผลอมองเขาไม่วางตา จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หัวคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีตาคนนี้ปล่อยให้คนอื่นเขาแซงคิวอีกแล้ว...นังแก้มจะไม่ทน!หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาชยาวุธด้วยสีหน้าเอาเรื่อง แต่ไม่ได้พูดกับเขา เธอพูดกับผู้หญิงคนนั้น“ขอโทษนะคะ ท้ายแถวอยู่ตรงนั้นค่ะ กรุณาไปต่อคิวด้วย”“อะไรกัน ก็คุณคนนี้...” ผู้หญิงคนนั้นยังพูดไม่จบ ภัทรมัยก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก“ถึงพี่ฉันจะยอมให้คุณแซงคิว แต่ฉันไม่ให้ และฉันจะเข้าคิวแทนพี่เขาเอง เพราะฉะนั้นกรุณาไปต่อท้ายแถวค่ะ” หญิงสาวชี้ไปทางท้ายแถว จากนั้นหันไปพูดกับชายหนุ่มว่า“พี่เวฟไปนั่งรอก่อนเลย แก้มจะแลกการ์ดเอง” พูดจบก็หันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นต่อ เจ้าหล่อนเห็นคนเริ่มมองมาหลายคน อีกทั้งคนที่ต่อแถวบางคนก็ทำหน้าไม่พอใจ จึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากแถวทันทีเมื่อแลกการ์ดเรียบร้อยแล้ว ภัทรมัยจึงเดินไปหาชยาวุธที่นั่งรออยู่ จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้เขา&

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   ตอนพิเศษ - 35% -

    เออีน้องใหม่ภัทรมัยเดินออกจากลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ วันนี้เธอเริ่มงานวันแรกกับบริษัทโฆษณาที่จัดว่าเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เธอใฝ่ฝันอยากทำบริษัทนี้มานานแล้ว เคยมาสัมภาษณ์สองครั้ง แต่ไม่ถูกเรียกให้เข้าทำงาน หญิงสาวจึงต้องไปสมัครบริษัทอื่น ทำอยู่หลายปีจนกระทั่งทราบข่าวว่าบริษัทนี้เปิดรับ Account Executive เธอจึงลองยื่นใบสมัครดูอีกครั้ง หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็กลับบ้านไปรอฟังผล ผ่านไปสองวันจึงได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลว่าเธอได้รับการพิจารณาให้เป็นพนักงานของบริษัทแล้วภัทรมัยจำได้ว่าวันนั้นตนกรี๊ดลั่นห้องจนเพื่อนชายที่อยู่ห้องติดกันรีบมาเคาะประตูถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนึกว่าเธอเกิดอันตรายขณะที่หญิงสาวกำลังจะผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มจากด้านหลังพลันดังขึ้นจนทำให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อธุระอะไรรึเปล่าครับ”ภัทรมัยลดมือลงจากที่จับประตูแล้วหันไปมองคนถาม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนนี้หน้าตาใช้ได้ อายุน่าจะประมาณยี่สิบปลายถึงสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ ดูท่าทางเป

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 100% -

    โลกใบแรกที่เป็นทนายปราบต์ได้ตายไปแล้ว แต่ยังเหลือโลกใบที่สองคือนวัช เจ้าของบ่อปลาน้ำจืดขนาดใหญ่เขาเหลือชีวิตเดียวแล้ว คงต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้สมกับที่มารดาของเขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาเติบโต...เมี้ยว...เสียงร้องแผ่วเบาของแมวตัวหนึ่งทำให้ความคิดของชายหนุ่มหยุดชะงักลงทันที เขามองหาที่มาของเสียงจึงเห็นลูกแมวตัวเล็กยืนห่างเขาออกไปประมาณสามก้าว“แมวบ้านไหนเนี่ย” เขาไม่เคยได้ยินว่าคนแถวนี้เลี้ยงแมวสักคน จึงคิดจะจับตัวมันมาดูว่าสวมปลอกคอเอาไว้หรือไม่ แต่เจ้าตัวเล็กก็กระโดดหนีไปเสียก่อน และเพราะความมืดเขาจึงไม่แน่ใจว่ามันมีสีอะไร แต่ในเมื่อมันไปแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจอีกทว่าพอเขาเดินเข้าบ้าน กลับเห็นลูกแมวตัวน้อยนั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนโซฟาราวกับเป็นบ้านของมัน“จะมาอยู่ด้วยกันรึไงเจ้าเหมียวน้อย” เขาก้มตัวลงมองมันชัด ๆ เป็นแมวไทยทั่วไปสีส้มท้องขาว มีปลอกคอสวมอยู่แสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ“กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าของหาแย่แล้วมั้ง”มันเงยหน้ามองเขาเหมือนจะฟังรู้เรื่อง แต่พอเห็นมันเอนตัวลงนอนฟุบบนโซฟาเหมื

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 75% -

    “น่ารักจังเลย กี่เดือนแล้วคะ” ภัทรมัยมองเด็กน้อยลูกครึ่งด้วยความเอ็นดู สีผมของทั้งคู่เป็นสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเช่นกัน พวงแก้มแดงระเรื่อทั้งสองข้าง แขนขาจ้ำม่ำดูน่ากอดทั้งคู่“แปดเดือนแล้ว กำลังคลานเลย เวฟกับแก้มล่ะ เมื่อไรจะมีตัวเล็กบ้าง” เฟิร์นถามยิ้ม ๆ“คงอีกสักพักค่ะ” ภัทรมัยยิ้มแหย“โห นี่แปลว่าไปอยู่ที่โน่นได้ไม่นานก็แต่งงานเลยสิเนี่ย แฟนเป็นคนอเมริกันใช่ไหม แล้วรู้จักกันได้ยังไง” ชยาวุธยิ้มกว้างเช่นกัน ดีใจที่เห็นอดีตคนรักมีชีวิตที่ดี“ใช่ ตอนมาถึงที่นี่เฟิร์นก็ช่วยน้าทำงานในคลินิกสัตว์ และเพ็ทชอปน่ะ เขาเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ เพราะพาแมวมาถ่ายพยาธิและหยอดยากันเห็บหมัดทุกเดือน มาซื้ออาหารแมว ทรายแมวบ่อย ๆ ก็เลยได้รู้จักกัน บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากคลินิกด้วย เขาจะออกมาวิ่งทุกเช้าเลยได้คุยกันทุกวัน”“ดีใจด้วยนะเฟิร์น ลูก ๆ น่ารักมาก แก้มแดงน่าหยิกมากเลย ไฮ...”ชายหนุ่มโบกมือทักทายเด็กน้อยที่มองตนตาแป๋วผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปยิ้มกับภรรยาอย่างถูกใจเมื่อเห

  • แฟนเก่าที่(ไม่)รัก   บทส่งท้าย - 50% -

    “ไอ้เสี่ยกวงมันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก เชื่อพี่ น่าจะตายอยู่ในคุกนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาเห็นโลกภายนอกอีกหรอก”“แล้วคุณทนายล่ะ แก้มว่าเขาก็ทำบาปกับคนอื่นไว้ไม่น้อยเลยนะนั่น อยากรู้จริงว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”แม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ภัทรมัยยังคงเชื่อว่าทนายปราบต์ยังไม่ตาย และคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้แน่นอน“จะไปคิดถึงมันทำไม มันทำให้พี่เกือบตายเชียวนะ” เขาตัดพ้อเสียงขุ่น ภัทรมัยจึงรีบกอดเขาไว้อย่างเอาใจ“แหม ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าเขาทำยังไงถึงรอด หมายถึงว่าเขาทำยังไงถึงทำให้ตัวเองกลายเป็นคนตายไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร ยังอยู่ในประเทศไทยรึเปล่าแค่นั้นเอง”“เขาอยู่กับเสี่ยกวงมานาน ยังไงก็ต้องมีทางออกให้ตัวเองเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วละ แต่ไอ้เรื่องชุบตัวเป็นคนใหม่หรือสวมรอยเป็นคนอื่นรึเปล่าเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก พี่ว่าเรื่องแบบนี้มันน่าจะรู้กันเฉพาะกลุ่มว่ามีขบวนการทำให้ ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่พวกนั้นอาจจัดการให้เขาเองก็ได้ ช่างมันเถอะ แค่อย่ามาให้เจอหน้าก็แล้วกัน บอกตามตรงเลยนะ พี่ไม่ถูกชะตา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status