ซูหนิงเซียวเห็นทุกคนต่างมองมาที่เธอก็ได้แต่ทำจิตใจให้สงบ เธอเดินเข้าไปสอบถามทีมงานว่าจะเริ่มต้นแสดงจากตรงไหนก่อน เพราะบทที่ให้เธอมาเริ่มแสดงตามบทเพลงตั้งแต่ท่อนแรก แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะมีการสลับฉากก่อนหรือไม่จึงได้สอบถามออกมา นี่เป็นเรื่องที่รุ่นพี่ในชมรมการแสดงเคยเล่าให้เธอฟังว่าบางเรื่องก็ถ่ายทำไปตามใจผู้กำกับ บางเรื่องก็ถ่ายตามบท เราเป็นนักแสดง จึงต้องสอบถามให้ดีเพื่อจะได้เข้าถึงบทบาทได้ถูกต้อง
“ผมจะเริ่มถ่ายฉากที่คุณกับพระเอกพบกันและรักกันก่อนครับ ตามเนื้อหาเพลงไปเลยนะครับ ส่วนคุณก็ร้องคลอไปด้วยนะครับ เราจะสลับถ่ายสองกล้องพร้อมกันแล้วค่อยตัดต่อกันทีหลัง ถ้ามีตรงไหนที่ต้องแก้ไข ผมจะสั่งคัทเอง”
นักร้อง พระเอกและซูหนิงเซียวต่างรับคำของผู้กำกับอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้านพระเอกมิวสิคที่เห็นว่าซูหนิงเซียวสวยมากจริง ๆ ก็คิดที่จะเอาเปรียบเธอสักเล็กน้อยเวลาเล่นมิวสิค เขาส่งยิ้มให้ซูหนิงเซียวแล้วแนะนำตัวอย่างคิดว่าตัวเองหล่อมาก
“สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อหวงเต๋อนะครับ ยินดีที่ไ
ผู้กำกับกับทีมงานหลายคนปรบมือให้กับการแสดงของซูหนิงเซียว เธอที่ได้ยินเสียงคัทก็ปาดน้ำตาออกแล้วลุกขึ้นยืนคำนับให้กับคนที่ปรบมือให้เธอ หลังหมดฉากนี้ไปจะเป็นซีนอารมณ์ของเธอคนเดียวยาวไปจนจบเพลง“คุณซูแสดงได้ดีมากครับ รบกวนคุณไปปรับอารมณ์อีกครั้งก่อนที่ผมจะเซ็ตฉากใหม่นะครับ เพราะหลังจากนี้จะเป็นซีนอารมณ์ในห้องพักของคุณแล้ว”“ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่ชมนะคะผู้กำกับ”ซูหนิงเซียวไปยืนทบทวนบทบาทอีกครั้งอย่างสงบ ด้านซูหนิงจิงกับกู่ซิงก็ไม่ไปรบกวนซูหนิงเซียวที่กำลังทำสมาธิอยู่ พวกเธอสองคนไม่คิดว่าซูหนิงเซียวจะสามารถแสดงได้ดีถึงขนาดนี้ในครั้งแรกที่ถ่ายมิวสิควิดีโอ นับว่าการที่ซูหนิงเซียวไปเรียนที่เปี่ยวเซียนนั้นไม่เสียหลายจริง ๆด้านจ้านเกาที่ได้รับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก็คิดอยู่นาน กระทั่งเขาสั่งเค่อหานให้ตรวจสอบนักแสดงชื่อหวงเต๋อที่กล้ามายุ่งกับผู้หญิงที่เขาดูแลอยู่ และให้เค่อหานทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้หลุดออกจากวงการไปเสีย
[อืม ป้าว่างวันมะรืนนี้ค่ะ วันนี้กับพรุ่งนี้หนิงเซียวยังมีงานถ่ายแบบอีกสองงานน่ะ][ถ้าอย่างนั้นผมนัดวันมะรืนเลยนะครับ เอาเป็นที่ห้องอาหารโรงแรม J ของผมก็แล้วกันนะครับ ผมจะได้ให้คนเปิดห้องอาหารส่วนตัวเอาไว้ก่อน][ตกลงจ๊ะ กี่โมงดีล่ะ ป้าจะได้เตรียมตัวเผื่อรถติดด้วย][สักหกโมงเย็นก็แล้วกันครับ เดี๋ยววันมะรืนผมกับป้าเจิ้งจะรอที่ฟร้อนหน้าโรงแรม][โอเคจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นป้าขอตัวไปดูหนิงเซียวก่อนนะ เพราะกำลังจะออกไปทำงานกันแล้วน่ะจ๊ะ][ครับคุณป้า ไว้พบกันวันมะรืนนะครับ สวัสดีครับ]หลังวางสายแล้ว จ้านเกาก็โทรหาเจิ้งเหลียงฮวาเรื่องนัดทานข้าวทันที ซึ่งเธอเองก็รับปากหลานชายว่าจะไปตามเวลานัดพร้อมสามีแน่นอน ช่วงนี้เธอยังไม่ได้คุยกับเพื่อนรักอย่างซูหนิงจิงเรื่องโครงการใหม่เลย ถ้ามีโอกาสเธอก็อยากให้สามีได้งานนี้มากกว่า ถึงแม้สามีจะบอกไม่ให้เธอขอร้องเพื่อนก็เถอะ เธอแค่อยากช่วยงานเขาบ้างเท่านั้นเอง
ผู้จัดการโรงแรมที่รออยู่หน้าห้องของท่านประธานที่ให้เขาจองไว้ก่อน เดินเข้าไปทักทายท่านประธานและเชิญทุกคนเข้าไปในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ทันที“อีกสักครู่ ผมจะให้คนนำอาหารมาส่งนะครับท่านประธาน”“ขอบคุณมากครับผู้จัดการฮวง ทุกคนนั่งกันก่อนครับ อีกเดี๋ยวค่อยทานอาหารกัน”ซูหนิงจิงกับเจิ้งเหลียงฮวานั่งติดกันเช่นเคย ส่วนกู่ซิงก็นั่งติดกับซูหนิงจิง ทำให้ซูหนิงเซียวต้องนั่งติดกับจ้านเกาอีกแล้ว สามีของเจิ้งเหลียงฮวาก็นั่งระหว่างเธอกับจ้านเกาเช่นกัน ซูหนิงเซียวได้แต่หันไปมองแม่อย่างไม่อยากห่างจากกันจ้านเกาเห็นซูหนิงเซียวเป็นแบบนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจกับอาการติดแม่ของคนสวยของเขา จ้านเกาจึงกระแอมไอก่อนจะชวนซูหนิงเซียวคุยไปพลาง ๆ“น้องหนิงเซียวเรียนเป็นยังไงบ้างครับ สนุกไหม”“สนุกค่ะ ตอนนี้เพิ่งเทอมแรก การเรียนยังไม่ถือว่ายากมากค่ะ ส่วนใหญ่มีแต่วิชาพื้นฐานเท่านั้น”
[ จริงเหรอคะน้องหนิงเซียว ][ จริงค่ะ วันนี้หนูว่าง คุยกันได้นะคะพี่ ๆ ][ พี่อยากรู้ว่าน้องทำยังไงถึงรูปร่างดีและสวยขนาดนี้คะ ][ ขอบคุณที่ชมนะคะ หนูไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะพี่ อาหารก็ทานปกตินะคะ ][ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะที่มีคนแบบน้องซึ่งสวยกว่าดาราบางคนเสียอีกค่ะ ][ พี่ชมหนูเกินไปแล้วมั้งคะ พี่ ๆ ดาราสวยกว่าหนูหลายคนเลยค่ะ ][ น้องไม่คิดรับงานอื่นนอกจากถ่ายแบบเหรอ ][ หนูเพิ่งถ่ายมิวสิควิดีโอไปไม่นานค่ะ น่าจะตัดต่อเสร็จเร็วๆ นี้ ฝากพี่ๆ ชมผลงานแสดงมิวสิคครั้งแรกของหนูด้วยนะคะ ][ เพลงของนักร้องคนไหนคะ พวกพี่จะได้ติดตามอัพเดทของนักร้องด้วยค่ะ ][ นักร้องคือพี่เจี้ยงอี้หลิวค่ะ ขอบคุณแทนพี่อี้หลิวด้วยนะคะที่พวกพี่ ๆ จะเข้าไปติดตามผลงานของเธอ ][ โอ้ย พวกพี่อยากเห็นว่าน้องใช้ชีวิตประจำวันยังไงจังเ
เมื่อไปถึงตลาดหุ้นแล้ว ทั้งสามคนก็เดินไปที่ออฟฟิศบริษัทของไป่เฉิงทันที หลังแจ้งประชาสัมพันธ์ไม่นาน พวกเธอก็เดินตามหลังประชาสัมพันธ์ไปยังห้องของไป่เฉิง“เชิญค่ะ”“ขอบคุณที่เดินมาส่งพวกเรานะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้วค่ะ”หลังประชาสัมพันธ์จากไปและปิดประตูห้องให้พวกเธอแล้ว ทั้งสามคนต่างทักทายไป่เฉิงพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงได้นั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งไป่เฉิงเตรียมต้อนรับพวกเธอเอาไว้ก่อนหน้านี้“วันนี้มีอะไรให้ผมรับใช้ครับคุณซู”“ฮ่า ฮ่า ไม่ถึงกับต้องมารับใช้ดิฉันหรอกนะคะคุณไป่ แค่หนิงเซียวอยากเพิ่มเงินในหุ้นที่เธอซื้อเอาไว้คราวก่อนเท่านั้นค่ะ ส่วนดิฉันกับพี่กู่อยากรู้ว่าหุ้นที่ถืออยู่ได้กำไรบ้างหรือยังค่ะ”“อ้อ ไม่มีปัญหาครับ คุณหนูซูต้องการเพิ่มเงินอีกหุ้นละเท่าไหร่ครับ”
เกือบ 20 นาที อาหารที่สั่งจึงมาวางที่โต๊ะของซูหนิงจิง ซูหนิงเซียวกับกู่ซิงที่เพิ่งได้สติตอนที่พนักงานวางอาหารก็รีบถามซูหนิงจิงเรื่องบอดี้การ์ดกันใหญ่“บอดี้การ์ดเป็นคนของจ้านเกาส่งมาดูแลเราน่ะลูก ตอนนี้แม่เริ่มธุรกิจในเมืองหลวงแล้ว ย่อมมีศัตรูในที่มืดอยากได้ประโยชน์จากโครงการของแม่ไม่น้อย ลูกก็เหมือนกัน ในวงการบันเทิงมีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น แม่ไว้ใจให้คนของจ้านเกาดูแลลูกเพิ่มนอกจากพี่กู่ซิงจะสบายใจกว่า เพราะหลังจากเริ่มโครงการแล้ว แม่จะไม่มีเวลาดูแลลูกกับพี่กู่อีก ลูกกับพี่กู่จะต้องขับรถไปทำงานเอง แต่ถ้ามีคนของจ้านเกาอยู่ด้วย แม่ค่อยทำงานของตัวเองได้อย่างสบายใจ”“อ่า แล้วแม่รู้เรื่องนี้มานานแล้วเหรอคะ?”“นานแล้วลูก เพียงแต่พวกพี่เขาจะไม่ลงมือถ้าเราไม่ถูกคุกคามเหมือนอย่างเมื่อกี้ไง”“เฮ้อ หนูกลัวจริง ๆ นะคะแม่เมื่อกี้นี้ ป้าคนนั้นน่ากลัวมากเลย หนูจำได้ว่าก่อนเราออกจากบ้านพ่อ เธอยังดูสวยอยู่เลย แต่ตอนนี้กล
ซูหนิงเซียวที่แต่งตัวเสร็จก็ออกมาพร้อมกับกู่ซิงพอดี เธอได้ยินน้ำเสียงดูถูกจากนักแสดงไอดอลที่เธอต้องร่วมงานด้วยพอดี ซูหนิงเซียวขมวดคิ้วกับความหยิ่งของพวกเขา แต่ในเมื่อเธอเป็นมือใหม่ ซูหนิงเซียวจึงไม่อยากมีเรื่อง เธอแค่ต้องถ่ายงานออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น“อ้าว คุณซูแต่งตัวเสร็จพอดี ทุกคนประจำตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้ได้เลยครับ เดี๋ยวพอเพลงขึ้นมาก็ทำตามบทที่ให้ไปได้เลยนะครับ”ซูหนิงเซียวพยักหน้ารับคำของผู้กำกับโดยไม่สนใจที่จะทักทายดาราอีกสามคนที่ต่างมองเธอเป็นตาเดียวกัน ที่พวกเขามองก็เพราะว่าซูหนิงเซียวสวยสดใสมากจนพวกเขาที่เป็นดาราไอดอลถึงกับอับอายไม่น้อย อีกทั้งซูหนิงเซียวยังสูงมากเหมือนนางแบบมากกว่าดาราเสียอีกไอดอลทั้งสามพอได้ยินเสียงผู้กำกับบอกให้ประจำที่ พวกเขาจึงรีบเดินไปยังตำแหน่งที่ทีมงานชี้บอกเอาไว้ทันที แน่นอนว่าแถวหลังเป็นซูหนิงเซียวกับชายหนุ่มที่เป็นดาราไอดอลร่างสูงพอ ๆ กับซูหนิงเซียว ส่วนแถวหน้าเป็นไอดอลสาวสองคนผู้กำกับพอเห็นว่าทั้งสี
ผู้จัดการห้างเชิญท่านประธานกับแขกเข้าไปในห้องอาหารพร้อมกับรอรับคำสั่งว่าวันนี้ท่านประธานกับแขกจะกินอะไร เขาให้เด็กเสิร์ฟเตรียมเมนูอาหารเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วจ้านเกาชวนซูหนิงเซียวกับซูหนิงจิงที่นั่งข้างกันให้เลือกสั่งอาหารตามสบาย เขาเองก็สั่งอาหารหลายอย่างที่เคยกินแล้วอร่อยมาเพิ่มด้วย กระทั่งทั้งสามคนรู้สึกว่าสั่งอาหารเยอะพอแล้วจึงได้หยุดสั่งผู้จัดการห้างรับออเดอร์เสร็จก็ขอตัวออกไปสั่งผู้จัดการร้านอาหารให้เร่งทำอาหารออกมาให้กับห้องของท่านประธานทันที จ้านเกาพยักหน้ารับคำผู้จัดการก่อนที่จะชวนซูหนิงจิงกับซูหนิงเซียวคุยฆ่าเวลารออาหารและรอกู่ซิงกับเค่อหานที่ยังไม่มาถึงห้องอาหารไปพลาง ๆ“น้องหนิงเซียวยังมีงานอีกหลังจากวันนี้หรือเปล่าครับ เท่าที่พี่รู้ อีกไม่ถึงสัปดาห์น้องก็จะเปิดเรียนแล้วใช่ไหมครับ”“ไม่มีงานแล้วค่ะพี่ ป้ากู่หยุดรับงานให้หนูพักผ่อนรอเปิดเรียนค่ะ”“แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ ทำงานมากเกิ
ระหว่างอาหารค่ำวันหนึ่ง ซูหนิงเซียวที่กำลังจะกินทอดมันกลับรู้สึกเหม็นกลิ่นอาหารยังไงพิกลจนเธอต้องลุกขึ้นวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำ ทำเอาทุกคนแตกตื่นตกใจกันไปหมดเพราะคิดว่าเธอพักผ่อนไม่เพียงพอจากการไลฟ์สดต่อเนื่องกันมานานหลายวัน จ้านเการีบสั่งคนให้เตรียมรถไปโรงพยาบาลทันที เมื่อเห็นซูหนิงเซียวเดินหน้าซีดออกมาจากห้องน้ำ เขาก็รีบเข้าไปอุ้มเธอและเดินดุ่ม ๆ ออกไปหน้าบ้านโดยไม่รอใครสักคน ทำเอาคนอื่น ๆ ต้องรีบเดินตามเขาไปแทบไม่ทัน บอดี้การ์ดพาทุกคนไปถึงโรงพยาบาลใกล้ ๆ ในเวลาเพียง 20 นาที ซูหนิงเซียวเห็นจ้านเกาจะอุ้มเธอลงไปอีกก็เกิดอายคนในบ้านขึ้นมา เธอจึงขอเดินเองจนจ้านเกาต้องยอมแพ้ภรรยาตัวน้อยและประคองเธอลงจากรถตู้เอง หลังส่งซูหนิงเซียวเข้าไปในห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจอาการแล้ว บรรดาผู้อาวุโสที่คาดเดาว่าครั้งนี้น่าจะเป็นข่าวดีต่างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส แต่จ้านเกาที่เป็นห่วงภรรยากลับไม่รู้เรื่องอะไร เขาเอาแต่เดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินเพราะกลัวว่าภรรยาจะเจ็บป่วยร้ายแรง
ในห้องหอที่เป็นห้องของจ้านเกา ซูหนิงเซียวนั่งอยู่ที่เตียงอย่างเขินอาย ก่อนที่จ้านเกาจะจูบหน้าผากภรรยาตัวน้อยของเขาอย่างอ่อนโยน“น้องหนิงเซียวไม่ต้องเครียดมากนะครับ พี่ไม่ทำอะไรน้องก่อนจะเรียนจบแน่นอนครับ เราไปกินข้าวมงคลกันดีกว่า” จ้านเกาจับมือเล็กของซูหนิงเซียวแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะนั่งลงข้างเธอและเริ่มตักอาหารใส่ถ้วยข้าวให้เธอกินไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมกับครอบครัว ซูหนิงเซียวอดคิดไม่ได้ว่าทำไมสามีเธอไม่อยากมีอะไรกับเธอ หรือว่าเธอจะไม่สวยพอที่เขาจะหลงใหล จ้านเกาเห็นภรรยาหน้านิ่วคิ้วขมวดก็อดจะถามไม่ได้“น้องหนิงเซียวคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมทำหน้าตาแบบนี้ล่ะ”“เอ่อ… หนูแค่คิดว่าวันนี้หนูไม่สวยพอที่สามีอย่างพี่จ้านจะทำหน้าที่สามีหรือเปล่าน่ะสิคะ เพื่อนหนูบอกว่าเจ้าบ่าวส่วนใหญ่ต้องอดใจไม่ไหวแน่ถ้าเห็นเจ้าสาวนั่งบนเตียง” ซูหนิงเซียวก้มหน้าตอบอย่างอาย ๆ“ฮ่า ฮ่า น้องหนิงเซียวคิดมากเกินไปแล้ว พี่แค่กลัวว่าน้องจะยังไม่พร้อมเท่านั้นเองครับ ถ้าน้องหนิงเซียวอนุญาต พี่ก็จะทำห
ก่อนเวลาตามฤกษ์งามยามดี 10 นาที พิธีกรขึ้นมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจำนวนนับร้อยคนที่มาในครั้งนี้ จากนั้นเขาจึงเชิญผู้อาวุโสของตระกูลจ้านทั้งสองขึ้นไปนั่งรอบนเวที ไม่นานนักซูหนิงจิงก็เดินมาพร้อมลูกสาวโดยมีกู่ซิงเดินตามหลังพร้อมรอยยิ้มเข้ามาในงาน จ้านเการีบไปยืนรอเจ้าสาวของเขาที่หน้าเวทีก่อนจะรับเธอมาจากซูหนิงจิง เขายังรับปากซูหนิงจิงว่าจะดูแลซูหนิงเซียวเป็นอย่างดี หลังฟังจ้านเกาพูดแล้ว ซูหนิงจิง กู่ซิงก็เดินนำสองเจ้าบ่าว เจ้าสาวขึ้นไปบนเวทีเพื่อเริ่มทำพิธีการในลำดับต่อไป พิธีกรประกาศของรับขวัญเจ้าสาวที่ตระกูลจ้านมอบให้ ทำเอาแขกในงานฮือฮากันไม่น้อย เนื่องจากของขวัญมากมายทั้ง 28 รายการล้วนแต่เป็นของโบราณและมีค่าควรเมือง ไม่รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเมืองต่าง ๆ ที่ผู้อาวุโสทั้งสองมอบให้อีกหลายแห่ง ซูหนิงเซียวถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาที่คุณตา คุณยายของจ้านเกาเอ็นดูเธอถึงเพียงนี้ หลังจบรายการของขวัญฝ่ายเจ้าบ่าวแล้ว พิธีกรก็ประกาศของรับขวัญเจ้าบ่าวที่ซูหนิงจิงมอบให้เช่นกัน คราวนี้แขกในงานยิ่งส่งเสียงฮือฮาหนักกว่าเมื่อกี้เสียอีก เพราะซูหนิงจิงมอบหุ้นทั้งหมดข
ก่อนถึงงานแต่งสามวัน วันนี้มีข่าวใหญ่ที่สื่อทุกสำนักนำเสนอ จากหลักฐานที่ตำรวจได้รับมาก่อนหน้านี้ หลังจากตรวจสอบที่มาที่ไปและพบว่าหลักฐานทั้งหมดเป็นของจริง ตำรวจได้นำส่งหลักฐานให้ศาลพิจารณาออกหมายจับนักการเมืองหลายสิบคนที่มีส่วนร่วมในการทุจริตและคอรัปชั่นมาตลอดหลายสิบปี เจียวจิ้งเหอที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่เหงื่อตกหลังจากดูข่าวที่กำลังฉายในทีวี เขาไม่รู้ว่าหลักฐานที่เขาเก็บเอาไว้ทำไมถึงไปอยู่กับตำรวจได้ วันที่ทนายมาทำพินัยกรรมให้กับเขา ทนายก็ไม่ได้บอกว่าหลักฐานหายไป เจียวจิ้งเหอยิ่งดูข่าวก็ยิ่งเครียดจนความดันขึ้นสูงและเครื่องวัดความดันดังเตือนไปยังพยาบาลด้านนอก พวกเธอรีบเข้ามาดูคนไข้ที่กำลังช็อคทันที แต่เสียดายที่ตอนนี้เจียวจิ้งเหอเส้นเลือดในสมองแตกไปจากความเครียดที่เกิดขึ้น หมอรีบเข้ามาดูอาการแล้วก็ได้แต่ต้องรีบพาเขาไปห้องผ่าตัดเพื่อดูดลิ่มเลือดในสมองออกก่อนที่อาการจะหนักมากไปกว่านี้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้รับข่าวจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา พวกเขารีบไปที่โรงพยาบาลกันอย
สามวันต่อมา จ้านหย่งเหอ จ้านเซียงชิง จ้านเกา ซูหนิงจิง ซูหนิงเซียวและกู่ซิงเดินทางไปลองชุดที่ร้านตามที่จ้านเซียงชิงจองเอาไว้ก่อนหน้านี้ ร้านนี้มีแต่ชุดสวย ๆ และดูหรูหราเหมาะสมกับงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคน ส่วนผู้ใหญ่ต่างก็ดูชุดราตรีแบบต่าง ๆ ที่ร้านนำมาให้ก่อนจะลองชุดกันอย่างสนุกสนาน สองผู้อาวุโสเองก็เลือกชุดแบบโบราณที่ดูเหมาะสมกับวัย กว่าที่ทุกคนจะลองชุดเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงบ่ายกว่าแล้ว พวกเขาเห็นว่าเลยเวลาอาหารเที่ยงมาสักพักใหญ่จึงให้คนขับรถหาร้านใกล้ ๆ เพื่อทานอาหารก่อนจะกลับไปที่บ้านตระกูลจ้าน ระหว่างทานอาหาร จ้านหย่งเหอก็ถามถึงเรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอกับหลานชาย“คดียังต้องเลื่อนการสอบพยานนัดแรกออกไปอยู่ครับคุณตา เพราะเจียวจิ้งเหอต้องรักษาตัวมากกว่าสามเดือนครับ”“ฮึ หวังว่าคราวนี้คงไม่มีใครมาช่วยเขาอีกนะ”ซูหนิงจิงไม่อยากให้จ้านหย่งเหอกังวลมากนัก เธอจึงคิดจะบอกถึงเรื่องที่คนของเติ้งโหย่วได้หลักฐานส่งตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่อย่างนั้นจ้านหย่งเหอคงไม่สบายใจ
เจียวจิ้งเหอฟื้นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันต่อมาหลังจากผ่าตัด หมอตรวจอาการของเขาพบว่าร่างกายช่วงล่างของเขาไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป เนื่องจากกระดูกสันหลังและเส้นเลือดเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ เจียวจูกับหลงฮ่าวพอได้ข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาล เมื่อพวกเขารู้ว่าเจียวจิ้งเหอไม่สามารถใช้ร่างกายช่วงล่างได้อีกก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย เรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอก็ยังไม่ได้รับการตัดสิน หากเจียวจิ้งเหอต้องไปอยู่ในคุกข้อหาจ้างวานฆ่าจริง ๆ พวกเขาคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากหมั่นไปเยี่ยมเท่านั้น หลังจากรู้เรื่องว่าต่อไปตัวเองต้องเป็นคนพิการ เจียวจิ้งเหอก็ได้แต่หลับตาลงอย่างปลดปลง เขาไม่สนใจว่าเป็นฝีมือใครแล้วในตอนนี้ ถึงเขาจะแก้แค้นกลับก็ไม่ช่วยให้เขาสามารถใช้งานร่างกายที่พิการไปแล้วได้อยู่ดี เจียวจูเห็นพ่อของตัวเองเงียบลงไปแบบนี้ก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้นไปอีกจนหลงฮ่าวต้องคอยกอดปลอบเธอเอาไว้ ไม่นานนักเจียวจิ้งเหอก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อคุยกับลูกสาวและลูกเขยถึงเรื่องสำคัญ“หลงฮ่าว อาจู พรุ่งนี้เรียกทนายมาหาพ่อที่นี่ด้วยนะ พ่อจะทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกกับหลาน ส่วนเรื่องคดีของพ่อคงอีก
หลงฮ่าวกับเจียวจูรออยู่หน้าห้องผ่าตัดเกือบ 8 ชั่วโมง กว่าที่หมอจะออกมาบอกว่าเจียวจิ้งเหอพ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่ต้องรอดูว่าหลังจากฟื้นขึ้นมา อวัยวะต่าง ๆ ของเจียวจิ้งเหอจะสามารถใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่เท่านั้น หมอแจ้งอาการกับญาติเสร็จก็ให้พยาบาลเข็นเตียงของเจียวจิ้งเหอไปยังห้องพิเศษเพื่อรอดูอาการหลังผ่าตัดจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง จึงจะมั่นใจว่าเขาสามารถพักฟื้นต่อได้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้แต่ต้องกลับไปก่อนและให้คนของเขาคอยเฝ้าดูอาการของเจียวจิ้งเหอแทน พวกเขาจึงจะมาเยี่ยมเจียวจิ้งเหออีกครั้ง เพราะหลงฮ่าวกำลังหาคนในของบริษัทจ้านเกาเพื่อสร้างความเสียหายแต่ก็ยังหาไม่ได้เสียที จ้าวไห่ถังที่รู้ข่าวความวุ่นวายของหกตระกูลก็คิดอยากถอนหมั้นลูกสาว เขาไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนติดคุกติดตะรางอย่างหลงเอ้อหลางอีกต่อไป หลิวอ้ายโหรวที่ยุ่งอยู่กับการพาลูกชายไปทำงานก็ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของสามี เธอในตอนนี้ไม่อยากให้ลูกชายเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องนี้เช่นกัน หลังอาหารเย็นวันหนึ่ง จ้าวไห่ถังจึงเรียกลูกสาวมาคุยเรื่องนี้“พ่อคิดว่าตระกูลหลงจะให้เราถอนหมั้น
วันนี้เจียวจิ้งเหอมีนัดขึ้นให้การในชั้นศาลนัดแรก เขาให้คนของตนเองเตรียมตัวเดินทางหลังอาหารเช้า ส่วนคนของเติ้งโหย่วก็เตรียมการแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขาหาที่กั้นทางเพื่อทำทีเป็นปรับปรุงถนนอยู่ให้เลี่ยงเส้นทางไปยังทางเปลี่ยว ทำให้ขบวนรถสามคันของเจียวจิ้งเหอต้องอ้อมทางไป คนของเติ้งโหย่วที่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า พอเห็นขบวนรถของเจียวจิ้งเหอมาถึงก็เตรียมตัวกดระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้พื้นถนนเพื่อทำให้รถเกิดอุบัติเหตุแทนที่จะใช้ปืนกระหน่ำยิงเหมือนตอนที่เจียวจิ้งเหอสั่งลูกน้องไปจัดการจ้านเกา เมื่อรถคันแรกมาถึงบริเวณที่อานุภาพการทำลายล้างของระเบิดสามารถทำได้ หัวหน้ากลุ่มกะจังหวะกดระเบิดตอนที่รถของเจียวจิ้งเหอมาถึงจุดที่ระเบิดถูกวางเอาไว้พอดีบึ้ม!!! เอี๊ยด!!! โครม! รถของเจียวจิ้งเหอพลิกคว่ำในทันที ส่วนรถอีกสองคันที่โดนแรงระเบิดก็กระเด็นไถลไปคนละทิศละทาง คนที่อยู่ในรถต่างมึนงงและหูดับไปเพราะแรงระเบิดชั่วขณะ คนของเติ้งโหย่วอาศัยจังหวะนั้นหลบออกไปจากที่เกิดเหตุโดยหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดอย่างรู้งาน พวกเข
หลังทานอาหารค่ำ ทุกคนก็มานั่งคุยรายละเอียดเรื่องงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคนอย่างจริงจังจนได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะจัดงานแต่งงานก่อนซูหนิงเซียวจะเปิดเทอมและขึ้นปีสามเพื่อความสะดวกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งก็เหลือเวลาเตรียมงานไม่ถึงสามสัปดาห์ แน่นอนว่าสัปดาห์นี้ทุกคนยุ่งอยู่กับแผนการล้มหกตระกูลรอง จ้านหย่งเหอกับจ้านเซียงชิงจึงให้เริ่มเตรียมงานแต่งในสัปดาห์หน้าแทน โดยพวกเขาจะเรียกเจิ้งเหลียงฮวามาช่วยเรื่องทำบัตรเชิญเหมือนตอนงานหมั้น คืนนั้นกว่าทุกคนจะได้เข้านอนก็เกือบห้าทุ่มแล้ว พวกเขาต่างยิ้มแย้มที่กำลังจะมีงานมงคลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถึงแม้แต่ละคนจะมีงานล้นมืออยู่ก็ตามที สายวันต่อมา แผนการของซูหนิงจิงทำให้บริษัทใหญ่ทั้งหกไม่มีทางเลือกจนต้องเทขายหุ้นในมือก่อนที่จะขาดทุนไปมากกว่านี้ ซูหนิงจิงโทรหาไป่เฉิงให้เขากว้านซื้อหุ้นทั้งหมดเอาไว้ให้เธอ โดยเธอโอนเงินให้เขาเผื่อเอาไว้ 900 ล้านหยวน ต้องขอบคุณโครงการฟู่ซิงซินที่ขายหมดเร็วจนเธอมีกำไรจากโครงการนี้มากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน ตระกูลทั้งหกที่เกี่ยวพันกับเรื่องของซูหนิงเซียวต่างนัดประชุมเ