แชร์

บทที่ 288

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
ภายในวัดร้าง บุรุษผลัดเปลี่ยนกันคนแล้วคนเล่า

ตอนแรกเฉียวม่อยังร้องตะโกน ตอนหลังนางไม่มีเสียงแล้ว

นางนอนอยู่บนกองฟาง ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง และจ้องมองที่ประตู

นางเหมือนตุ๊กตาดินเหนียวที่ไร้วิญญาณ ทั้งเนื้อทั้งตัวหนาวเหน็บ

นางคาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริง ๆ

ศิษย์พี่จะใช้วิธีการเช่นนี้เล่นงานนางจริง ๆ!

เจ็บปวดเหลือเกิน...

ศิษย์พี่เคยพูดไว้ชัดเจนว่าจะปกป้องนางตลอดชีวิต

ศิษย์พี่โกหก!

ในเวลาเดียวกันนั้นที่ตำหนักหย่งเหอ

นอกประตูห้องด้านใน

เดิมทีเหลียนซวงคิดจะนำชาแก้เมาค้างเข้าไปส่งให้ ทว่ากลับได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวแปลก ๆ นางจึงรู้ทันทีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

นางถึงกับอ้าปากค้าง ทั้งร้อนใจและหวาดกลัว

ทันใดนั้น หลิวซื่อเหลียงไม่รู้โผล่ออกมาจากที่ใด เขาลากตัวนางออกไป

สีหน้าของเหลียนซวงกลับซีดเผือด

นางคิดจะพุ่งเข้าไปในห้องเพื่อขัดขวาง

ทว่านางทำไม่สำเร็จ

นางไร้ประโยชน์สิ้นดี ไม่สามารถปกป้องฮองเฮาได้

......

ณ ท้องพระโรงจัดงานเลี้ยง

หลังจากฮ่องเต้เสด็จออกไป เหล่าพระสนมก็หมดอารมณ์สนุก

พวกนางต่างมองไปที่บัลลังก์เป็นระยะ ๆ และผลัดกันถามตอบ

“ฮ่องเต้ไม่เสด็จกลับมาแล้วหรือ?”

“ไม่มีทาง คืนนี้เป
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ตกลงจะรักกันได้ยังคะ
goodnovel comment avatar
FF
เขาได้กันแล้ว อยากให้รักกัน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 289

    บุรุษผู้นั้นลุกขึ้นนั่ง ชุดคลุมของเขาคลายออกอย่างหลวม ๆ เผยให้เห็นหน้าท้องที่มีมัดกล้ามแน่น ๆ ช่วงบนยังมีรอยข่วนของนางจากคืนที่ผ่านมา และเห็นเป็นขีดชัดเจนเขาจับคางของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้แน่น และหันหน้านางกลับมา ให้นางหันมามองเขา เขาเหมือนสัตว์ป่าที่อิ่มแล้วจึงเชื่องไม่ดุร้าย แววตาดูเซื่องซึมและเฉยชา ทั้งยังมีความอ่อนโยนที่ไม่เคยมีมาก่อน“คืนที่ผ่านมา...”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งราวกับน้ำนิ่ง“หม่อมฉันดื่มจนเมา หากล่วงเกิน ท่านโปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วย เรื่องแบบนี้...จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”คิ้วเรียวของเขาขมวดขึ้น ความอบอุ่นในแววตาจางหายไปในทันที“เมื่อคืนฮองเฮารับปากว่า จะรีบตั้งครรภ์โอรสรัชทายาท แค่ครั้งนี้พอแล้วหรือ”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วนางจะรับปากเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร!“คำพูดขณะเมาอย่าถือจริงจังเพคะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเซียวอวี้เยือกเย็นขึ้นมาทันที“เมาแล้วก็ไม่ถือจริงจังรึ ฮองเฮา คืนที่ผ่านมาเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน เจ้ากอดเรา และขอร้องว่าต้องการเรา! สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ถือจริงจังอย่างนั้นหรือ!”คำพูดของเขาฟังดูเกินจริงไปบ้าง ทว่านางเป็นคนเริ่มก่อนก็ถูกต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 290

    ยาคุมกำเนิด หากไปขอรับอย่างเปิดเผยได้ ไม่มีทางได้มาอย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยียนกำชับกับเหลียนซวง ให้นางอ้างว่านำรางวัลมามอบให้กับหมอหลวงทุกคนเพราะมีผลงานดี จากนั้นก็แอบขโมยยามาเหลียนซวงจัดการเรื่องนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว และนำยามาได้อย่างราบรื่น พร้อมแอบนำไปต้มที่ห้องครัวทว่าผู้ดูแลซุนหมัวมัวกลับมาเห็นเข้าระยะนี้ซุนหมัวมัวสีหน้าดูดีขึ้น ฮองเฮาทรงตั้งครรภ์แล้ว นางในฐานะผู้ดูแลก็ย่อมมีชีวิตที่ต่างจากเดิมตอนนี้นางต้องคอยเฝ้าระวังคนที่คิดจะทำร้ายครรภ์ของฮองเฮา ทุกวันจะคอยจับตาดูผู้คนในตำหนักหย่งเหอนึกไม่ถึงว่าจะถูกนางจับได้จริง ๆเหลียนซวงผู้นี้ท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ทั้งยังต้มยาที่หมอหลวงไม่ได้สั่ง ดูท่าทางไม่ชอบมาพากล!นางใช้ให้คนล่อเหลียนซวงออกไปก่อน จากนั้นรีบเปิดฝาเพื่อตรวจดูด้วยประสบการณ์ช่ำชองของนาง จึงวินิจฉัยออกมาได้ทันที ในนี้มียาฤทธิ์รุนแรงอย่างชะมดเช็ด!เช่นนั้นก็แย่แล้ว?!หากทองคำล้ำค่าในครรภ์ฮองเฮาหายไป ตำหนักหย่งเหอทั้งหมดก็จบสิ้น!ซุนหมัวมัวเอ่ยพึมพำ“เหลียนซวงผู้นี้ ปกติดูเหมือนเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ ที่แท้ก็เสแสร้ง! ข้าต้องจัดการนางให้ได้!”เดิมทีนางคิดจะทูล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 291

    ความโกรธเกรี้ยวของเซียวอวี้พลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนจะเลื่อนมาปรากฏบนนัยน์ตานางสนมในวังหลังนั้น มีสนมนางใดบ้างที่มิต้องการความโปรดปรานจากเขา มีนาง เฟิ่งเวยเฉียง อยากได้ความโปรดปรานจากเขาหากแต่มิยอมรับ กลับมาเล่นเนื้อเล่นตัวต่อหน้าเขาอีกหากนางมิยินยอม เหตุใดเมื่อคืนวานถึงได้ยั่วยวนเขาเช่นนั้น?หลังจากทุกอย่างจบลงแล้ว นางยังคิดสร้างเรื่องขึ้นมาอีก เหตุใดต้องทำให้เขาลำบากเช่นนี้ด้วย!เช่นนี้จักไม่ให้เขาโกรธโมโหได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง“หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาทได้รับความอยุติธรรมแล้ว”ความเยือกเย็นบนร่างของเซียวอวี้มิได้จางหายไป หากแต่น้ำเสียงกลับแผ่วเบาลงเล็กน้อย“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเราได้รับความอยุติธรรมเช่นนี้ เช่นนั้นฮองเฮาก็สมควรชดใช้“หากว่าเจ้าตั้งครรภ์จริง ๆ แล้วไซร้ ย่อมเป็นเรื่องที่ทุกคนปิติยินดีอย่างแน่นอน“ยาคุมกำเนิดนั้น หากเจ้ากล้าแตะต้องละก็ เราจักสังหารสาวใช้ที่จงรักภักดีต่อเจ้า”เขาไม่มีทางบอกนางว่าเมื่อคืนวานนี้ ยามที่เขาเห็นนางเมามายเช่นนั้น เขาหาได้ทำจนไปถึงขั้นตอนสุดท้ายไม่นับว่าหาได้ยากที่เขาจักทำตัวเป็นบัณฑิตเช่นนี้ยามที่คิดได้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 292

    ซุนหมัวมัวที่มิอาจควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของตนเองได้นั้น จึงแกะจดหมายประจำตระกูลของฮองเฮาออกมาน่าแปลก เนื้อหาด้านในจดหมายเป็นเพียงเนื้อหาปกติทั่วไปที่สื่อถึงความเป็นห่วงเป็นใยเท่านั้นจดหมายเช่นนี้เหตุใดจึงต้องลอบส่งออกจากวังไปด้วยเล่า?หาได้เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่เมื่อกลับมาคิด ๆ ดูแล้วนั้น บางทีอาจจะเป็นแผนการที่ฮองเฮาลอบทดสอบความสามารถของนางดูก็เป็นได้ ว่านางจักสามารถใช้การได้หรือไม่ซุนหมัวมัวจึงรีบทำตามรับสั่ง พลางนำจดหมายลอบส่งไปที่ประตูทิศตะวันออกในทันทีทางด้านประตูทิศตะวันออกนั้นมีคนรอรับจดหมายอยู่แล้วไม่นานนัก อู๋ไป๋จึงได้รับจดหมายในทันทีเนื้อความในจดหมายแม้จักดูธรรมดาไปนัก แต่แท้จริงแล้วเป็นการจัดเรียงข้อความลับท่านแม่ทัพน้อยมักจะชอบใช้ “สามสี่หนึ่งห้า”นั่นก็คือ วงคำที่เกี่ยวข้องในแต่ละประโยคออกมา เมื่อนำความหมายมาเชื่อมโยงกันนั้น ก็จักแปรเปลี่ยนเป็นความหมายแท้จริงที่ต้องการจะสื่อ——[เฉียวม่อมีคนให้ความช่วยเหลือ สืบหา]เมื่ออู๋ไป๋อ่านจบแล้วนั้น เขาก็จัดการเผาจดหมายทิ้งในทันที……ภายในตำหนักหย่งเหอวันแรกของปีเช่นนี้ เหล่าบรรดานางสนมทั้งหลายย่อมมาแสดงควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 293

    ไทฮองไทเฮาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง“เจ้าแต่งเข้าวังมาก็นานแล้ว หากยังมิได้เข้าร่วมบรรทมกับฝ่าบาทอีกใช้ได้ที่ใดกัน?”เดิมทีพระนางตั้งใจจะเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้ ทว่า ฝ่าบาทที่มิใส่ใจเรื่องนี้จึงได้แต่พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดในเมื่อฝ่าบาทสามารถทำให้ฮองเฮาตั้งครรภ์ได้แล้วนั้น เช่นนี้พระองค์ย่อมมิอาจหาเรื่องปฏิเสธไปได้อีกอีกทั้ง เขาที่เคารพรักเสด็จย่าเช่นนางมาโดยตลอดในยามที่เพิ่งจัดพิธีมงคลสมรสไปได้ไม่นานนั้น ฮองเฮาก็ยังเป็นสตรีพรหมจรรย์อยู่ หากแต่เป็นพระนางที่ออกคำสั่ง จึงทำให้ฝ่าบาทและฮองเฮาได้เข้าหอเช่นนี้การถวายตัวของฉานเอ๋อร์นั้น ไทฮองไทเฮาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งใบหน้าสวยงามของมู่หรงฉานพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะหลุบตาลงพลางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“หม่อมฉันน้อมรับฟังคำของท่านเพคะ”ถึงแม้ท่าทีของมู่หรงฉานจักดูอ่อนโยนเรียบร้อย ทว่า นัยน์ตากลับฉายแววความทะเยอทะยานออกมาแต่งเข้าวังมาในฐานะสนม ประสูติพระโอรส เดิมทีทั้งหมดล้วนแต่เป็นเป้าหมายของนางทว่านางถูกเรื่องราวของตระกูลมารดาฉุดรั้งเอาไว้เท่านั้นในยามนี้ก็ปล่อยให้ฮองเฮามีอำนาจเหนือกว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 294

    เฉียวม่อที่ยืนมาโดยตลอดนั้น เมื่อได้ยินเฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งให้ตนเองคุกเข่าลง นางถึงกับชะงักไปในทันทีแววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนฉายแววเย็นชา“ข้าสั่งให้เจ้าคุกเข่า เจ้าย่อมมิอาจยืนได้ ตนเองเป็นถึงขุนนางของราชสำนัก แม้แต่กฏเช่นนี้ยังมิรู้งั้นหรือ?”เฉียวม่อรู้สึกจุกอกขึ้นมาในทันทีไม่ว่านางจักเอ่ยเล่นลิ้นออกมาอย่างไร ย่อมมิอาจอยู่เหนืออำนาจของราชสำนักไปได้ ก่อนหน้านั้นเป็นเพราะศิษย์พี่เอ็นดูนาง อย่าว่าแต่ให้คุกเข่าเลย แม้แต่ให้ยืนนาน ๆ ศิษย์พี่ก็หาให้นางทำเช่นนั้นไม่ความห่างของระดับชั้นนี้ ทำเอาเฉียวม่อมิอาจรับได้ นางยืนนิ่งมิขยับเช่นนั้นอยู่นานเมื่อได้ยินคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น องครักษ์ของวังหลวงจึงได้เข้ามาในตำหนักเฉียวม่อที่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันนึกไปถึงศิษย์พี่ยามที่อยู่ในค่ายทหาร เพียงแค่ร้องเรียกคำเดียว บรรดาเหล่าทหารก็จะก้าวออกมารับคำสั่งในทันทีนี่คืออำนาจเป็นแม่ทัพนั้นมีอำนาจ ฮองเฮาก็มีอำนาจเช่นกันเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีดุดันว่า“เมิ่งเฉียวม่อกระทำตัวต่อเราด้วยความหยาบคาย ลากออกไปคุกเข่าสักหนึ่งชั่วยามเสีย”ทหารองครักษ์รับคำสั่งพวกเขาหาได

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 295

    เฉียวม่อคุกเข่าท่ามกลางลมหนาวที่พัดเข้ากระดูมานานกว่าครึ่‘ชั่วยาม เมื่อเห็นฝ่าบาทเสด็จมานั้น นางจึงรีบหันหน้าไปหาด้วยท่าทีไร้หนทางในทันทีมิคิดเลยว่า ฝ่าบาทหาได้หันมามองนางสักตาเดียวไม่ พลางเดินดุ่ม ๆ เข้าไปด้านในตำหนักแทนเฉียวม่อจ้องมองไปยังแผ่นหลังของฝ่าบาท พลางกำหมัดที่แดงก่ำจากความหนาวเย็นเอาไว้แน่นศิษย์พี่มิได้ชมชอบฝ่าบาท นางรู้ดีแล้วฝ่าบาทเล่า?ฝ่าบาทดูเหมือนจะ...ชอบศิษย์พี่มากทว่า ไม่ว่าจะชมชอบสตรีมากเพียงใดก็ตาม พระองค์ก็คงมิยอมให้สตรียื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องราวในราชสำนักอย่างแน่นอน ทั้งยังมิยินยอมให้นางมารังแกท่านแม่ทัพภายใต้การบังคับบัญชาของตนเองอีกด้วย!ภายในตำหนักในเมื่อเซียวอวี้เข้ามานั้น เขาก็ไล่คนอื่น ๆ ให้ออกไปในทันที ซันหมัวมัวหันกลับไปมองฮองเฮาด้วยท่าทีหมดหนทาง พลางใช้สายตาสื่อออกมาวว่า “ผู้ใดให้ท่านมิฟังคำข้า เกิดเรื่องแล้วใช่หรือไม่” เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ ทว่า บนใบหน้าหาได้มีท่าทีตื่นตระหนกหรือรู้สึกผิดอันใดไม่“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”เซียวอวี้พลางถามด้วยท่าทีดุดัน“เหตุใดต้องลงโทษแม่ทัพเมิ่งให้นั่งคุกเข่าด้วย?”เซียวอวี้มิได้เอ่ยต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 296

    เมื่อได้ยินว่าเฉียวม่อเป็นลม สายตาของเซียวอวี้พลันเปลี่ยนไปในทันทีพลางขมวดคิ้วเป็นปม เพื่ออดกลั้นน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความโมโหเอาไว้ พร้อมเอ่ยตำหนิเฟิ่งจิ่วเหยียนออกมาว่า“เจ้าทำได้ ‘ดี’ ยิ่ง!”เซียวอวี้จึงสั่งให้คนไปอุ้มเฉียวม่อเข้าไปพักที่ตำหนักข้าง ทั้งยังเรียกตัวให้หมอหลวงเข้ามาตรวจดูอาการของนางในขณะเดียวกันก็ออกคำสั่ง ห้ามคนภายในตำหนักหย่งเหอแพร่งพรายเรื่องราวในวันนี้ออกไปไม่นานนัก เฉียวม่อจึงตื่นขึ้นมาภายในตำหนักที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมีนางกำนัลสาวใช้ที่รอปรนนิบัตินางอยู่ภายในตำหนักนั้น“ใต้เท้าเมิ่ง ท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่เจ้าคะ?” นางกำนัลเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเฉียวม่อหาได้เป็นลมจริง ๆ ไม่นางเพียงแค่อดทนรอไม่ไหวเท่านั้นในยามนี้นางกำลังนอนอยู่บนเตียง พลางแสดงท่าทีเหนื่อยอ่อนแรงออกมาให้เห็น“พยุงข้า...ขึ้นมา ข้ายังคุกเข่าไม่ครบหนึ่งชั่วยาม...”ตึก!นางทำเหมือนขาทั้งสองข้างได้ถูกแช่แข็งเอาไว้ แม้แต่จะลุกขึ้นยืนยังไม่ไหว เมื่อนางลุกขึ้นมานั้นร่างกายจึงล้มลงไปบนพื้นในทันทีนางกำนัลจึงเข้ามาช่วยพยุงนางลุกขึ้นโดยไว“ใต้เท้าเมิ่ง ท่านมิต้องเป็นกังวลไปเจ้าค่ะ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status