Share

บทที่ 4

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ฮ่องเต้ทรราชจะเสด็จมา เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่บอกให้เหลียนซวงทำทรงผมกลับไปตามเดิม แต่มือของเหลียนซวงสั่นเทิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้ทรราชที่กำลังจะมาเยือนผู้นั้น

นางมือสั่น ย่อมทำผิดพลาดอย่างไม่อาจเลี่ยง

เมื่อถูกถอนผมเป็นเส้นที่สาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยเสียงเย็นชาว่า

“ถอยไป ข้าจัดการเอง” นางเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉม การฝึกฝนทำผมทรงต่าง ๆ ให้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ด้วยเหตุนี้ นางจัดแจงเพียงไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทรงผมกลับไปเหมือนตอนแรกได้แล้ว เหลียนซวงเห็นแล้วก็ตกตะลึงเหลือล้น

“ฮองเฮา ท่านมีฝีมือยอดเยี่ยมนักเพคะ!”

แต่ขณะที่ฝั่งพวกนางเตรียมความพร้อมต้อนรับฮ่องเต้ คนจากนอกตำหนักก็มารายงานอีกครั้งว่า

“ฮองเฮา โรคปวดศีรษะของหวงกุ้ยเฟยกำเริบ ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

เหลียนซวงเผยอปาก รู้สึกโมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมา

หวงกุ้ยเฟยจะต้องแกล้งป่วยเป็นแน่ โรคปวดศีรษะกำเริบขึ้นมาตอนนี้ จะเหมาะเจาะขนาดนี้ได้อย่างไร

คงเห็นว่าฝ่าบาทเสด็จกลับวังมาแล้วจึงให้คนไปเชิญน่ะสิ

พอเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่าหวงกุ้ยเฟยก็คิดถึงเวยเฉียงน้องสาว

เวยเฉียงถูกทำร้ายแสนสาหัสจนถึงแก่ความตาย แค้นนี้ต้องชำระ!

ทว่า รู้เขารู้เรา จึงจะชนะอย่างยั่งยืน

หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานไม่เสื่อมคลาย ข้างกายจะต้องมีองครักษ์ยอดฝีมืออยู่เป็นแน่

นางไม่อาจบุ่มบ่ามลงมือ

……

ตำหนักฉือหนิง

ไทเฮาหมุนสร้อยลูกประคำในมือ แต่ยังคงยากจะระงับโทสะในใจได้

นางเอ่ยถามทุกคนว่า

“พิธีอภิเษกสมรสในวันนี้ ฮ่องเต้กลับให้รุ่ยอ๋องเข้าพิธีแทนเขา! พวกเจ้าไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยรึ!”

คนในตำหนักที่ยืนอยู่ตรงหน้านางต่างก้มศีรษะ

“บ่าวมิทราบ”

ฮ่องเต้กระทำตามอำเภอใจมาแต่ไหนแต่ไร ไทเฮายังทำอันใดเขาไม่ได้

แต่คนทั้งใต้หล้ามีแต่จะคิดว่านางล้มเหลวในการอบรมบุตร

ดวงเนตรไทเฮาฉายแววเศร้าโศก ราวมีความเจ็บช้ำใจเหลือแสนเอ่อคลออยู่ในนั้น

“ถึงข้าจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา แต่ก็เลี้ยงดูเขาด้วยความเอาใจใส่ทุ่มเทมาจนโต ไฉนโตมาแล้วจึงมีแต่เรื่องให้กลุ้มใจแบบนี้...”

เหล่าข้ารับใช้เห็นเช่นนั้นก็เข้าข้างไทเฮาไปโดยไม่รู้ตัว คิดว่าฮ่องเต้อกตัญญู

ดุจจะราดน้ำมันลงบนกองเพลิง มีคนในวังมารายงานว่า

“ไทเฮา ฝ่าบาทเสด็จกลับมาแล้ว แต่ทรง ทรงไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

“เหลวไหล!” ไทเฮาตบโต๊ะน้ำชาดังปัง

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์นางคนต่ำช้านั่น วันแบบนี้ก็ยังกล้าก่อเรื่อง ได้รับความโปรดปรานจนเหิมเกริมไร้ขอบเขต ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำไปหมดแล้ว!

เฟิ่งเวยเฉียงก็เหมือนกัน เป็นบุตรีตระกูลเฟิ่งแท้ ๆ ไม่มีฝีมือสักนิดเลยหรือไร? รึจะยอมให้คนเหยียบบนศีรษะเอาเช่นนี้?

เดิมยังหวังว่าฮองเฮาจะสามารถข่มหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไว้ได้ ยามนี้เห็นทีคงเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเหมือนกัน

ไม่เพียงแต่ไทเฮา เหล่าสนมคนอื่น ๆ ก็คิดเช่นนี้

นางสนมหลายคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาจับกลุ่มพูดคุยกันในสถานที่แห่งหนึ่ง

“คืนอภิเษกสมรสยังรั้งตัวฝ่าบาทไว้ไม่ได้ เห็นทีคงพ่ายแพ้ให้กุ้ยเฟยแน่แล้ว”

สนมชุดเขียวคนหนึ่งนึกเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน “ฮองเฮาก็เป็นคนอาภัพคนหนึ่ง ตงเซี่ย พรุ่งนี้ให้เตรียมพัดหยกเซียงจวินของข้าเอาไว้ ข้าจะนำไปมอบให้ฮองเฮา”

“เพคะ พระสนม”

หนึ่งในคนที่นั่งอยู่ด้วยกันถอนหายใจออกมา “หวงกุ้ยเฟยหน้าตาเหมือนหรงเฟยจึงได้รับความโปรดปราน หากฮองเฮาเป็นคนฉลาดก็ควรคล้อยตามพระประสงค์ของฝ่าบาท อย่าให้มีเรื่องขัดแย้งกัน...”

สิ้นเสียงก็มีคนในวังมารายงานว่า

“เรียนพระสนม ได้ยินว่าฮองเฮาเสด็จไปที่ตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ!”

คนทั้งหลายมองหน้ากัน แล้วส่ายศีรษะน้อย ๆ

“ฮองเฮาทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเลย”

“ไม่เหมาะสมอย่างมากเลยต่างหาก! ระงับโทสะไม่อยู่เช่นนี้ มิทำให้ฝ่าบาทรำคาญพระทัยหรอกรึ?”

“ถ้ามีเรื่องกัน ฝ่าบาทก็ต้องลำเอียงเข้าข้างหวงกุ้ยเฟยอยู่แล้ว ฮองเฮาไม่น่าทำเช่นนี้เลย”

พวกนางเฝ้ารอจะมีฮองเฮาผู้เก่งกาจมากคุณธรรม เหมือนกับบรรดาฮองเฮาที่ผ่านมาของตระกูลเฟิ่ง ที่สามารถปกครองให้วังหลังอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดอง เหล่าสนมร่วมใจกันปรนนิบัติฝ่าบาท หลีกเลี่ยงการต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานอย่างสุดโต่งชนิดตายกันไปข้างหนึ่ง

ตอนนี้เห็นที ฮองเฮาผู้นี้คงหวังพึ่งไม่ได้แล้ว

หวงกุ้ยเฟยยังไม่ได้งัดฝีมือที่ร้ายกาจกว่านี้ออกมา ฮองเฮาก็รับมือไม่ไหวเสียแล้ว

นอกตำหนักหลิงเซียว

เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมชุดเจ้าสาว มงกุฎหงส์บนศีรษะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงฐานันดรอันสูงศักดิ์ของนาง

ฮองเฮาที่ถูกสนมคนโปรดทำลายคืนเข้าหอผู้หนึ่ง คนในวังไม่เพียงไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ยังดูแคลนอีกด้วย

ถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งไว้ในห้องหอก็น่าอับอายมากอยู่แล้ว ไฉนยังมีหน้ามาที่นี่อีก?

องครักษ์ที่อารักขาตำหนักอยู่เข้าใจว่านางมาขอให้ฮ่องเต้กลับห้องหอ ไม่รอให้นางเอ่ยปากก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า

“ฮองเฮา ฮ่องเต้กำชับไว้ว่า หมอหลวงกำลังตรวจอาการให้หวงกุ้ยเฟย ไม่อนุญาตให้ใครรบกวน โปรดอภัยที่กระหม่อมไม่อาจเข้าไปรายงานให้ท่านได้”

เวลานั้นเอง หัวหน้าหมัวมัวที่มีหน้าที่ปรนนิบัตินางก็เตือนว่า

“ฮองเฮา ไม่มีประโยชน์หรอกเพคะ ทุกเรื่องในวังหลังล้วนยกให้หวงกุ้ยเฟยมาก่อนเสมอ ถ้าท่านอยากพบฝ่าบาทตอนนี้ ฝ่าบาทคงไม่...”

ภายใต้แสงจันทร์ แต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนงดงามหยาดเยิ้ม ใช้หางตากวาดมองรอบหนึ่ง แววตาก็พลันมืดครึ้มลง

นางถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ใครว่าข้ามาพบฝ่าบาท?”

ทุกคนเงียบไป

แล้วนางจะมาทำไมเล่า?

มาชมวิวทิวทัศน์? มาดูว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานหวงกุ้ยเฟยเพียงไหน?

เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตา สาวใช้เหลียนซวงก็ก้าวออกมาข้างหน้า ยื่นกล่องไม้ใบหนึ่งให้องครักษ์ที่เฝ้าหน้าตำหนักผู้นั้น

“ข้าได้ยินว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นโรคปวดศีรษะ ยานี้พี่ชายข้าได้มาจากชายแดน รักษาโรคปวดศีรษะได้ชะงัดนัก จึงนำมาให้หวงกุ้ยเฟยลองใช้ดู”

ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ฮองเฮาเพียงนำยามาให้?

นางใจกว้างขนาดนั้นเสียที่ไหน จะต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีแน่นอน!

องครักษ์ลังเลเล็กน้อย แล้วเข้าไปขอคำปรึกษาในตำหนัก

จากนั้น หมอหลวงท่านหนึ่งก็ออกมารับยานั้น หลังพิศดูอย่างละเอียดก็เอ่ยชมเชยพลางประคองราวกับเป็นของล้ำค่า

“นี่คือยาวิเศษที่หายากยิ่งนัก!”

หลังเขาเข้าไปข้างใน ผ่านไปไม่นานก็มีขันทีผู้หนึ่งออกมากล่าวกับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีนอบน้อม

“ฮองเฮา หวงกุ้ยเฟยรับประทานยานี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ฝ่าบาทตรัสว่าท่านมีน้ำใจนัก ให้ท่านกลับไปเตรียมปรนนิบัติบรรทมพ่ะย่ะค่ะ”

ขันทีเข้าใจว่าฮองเฮาได้ยินคำกล่าวนี้แล้วจะต้องดีพระทัยมากเป็นแน่

หากความจริง เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ดีใจเลยสักนิด

ฮ่องเต้ทรราชผู้นี้จะต้องมีใบหน้าใหญ่โตเหมือนขนมปังอบที่ชายแดนใต้เป็นแน่แท้

ปรนนิบัติบรรทม ฟังดูราวกับว่าพระราชทานรางวัลให้นางอย่างนั้นแหละ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (20)
goodnovel comment avatar
Ilada Zenlee
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Joom
I cannot wait for the next episodes.
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1737

    ไม่รู้จริง ๆ ว่าเสด็จแม่ทรงคิดเช่นไรวันที่ออกเดินทาง ข้าไปรับพี่จี๋เอ๋อร์ที่จวนรุ่ยอ๋อง ก็เห็นท่านอารุ่ยอ๋องดวงตาแดงก่ำ กำชับพี่จี๋เอ๋อร์ดูแลตัวเองให้ดีส่วนท่านอาสะใภ้อาอวี้กลับจับมือของข้า ให้ข้าพาพี่จี๋เอ๋อร์ไปเที่ยวให้สนุก ให้เขาเที่ยวไปนาน ๆข้าสงสัยอย่างมากพอออกจากจวนรุ่ยอ๋อง ข้าก็ถามพี่จี๋เอ๋อร์“ท่านมีน้องชายแล้ว พวกเขาก็ไม่ต้องการท่านแล้วหรือ?”บนใบหน้าหล่อเหลาของพี่จี๋เอ๋อร์ปรากฏความกลัดกลุ้ม“ไม่ใช่ พวกท่านพ่ออยากได้บุตรสาว”“หา? เพราะเหตุใด?”“เพื่อจะได้แต่งกับเสด็จพี่ของเจ้า ครอบครัวพวกเราจะต้องมีคนแต่งกับเสด็จพี่ของเจ้า นี่คือความมุ่งมั่นของท่านแม่”ข้าพูดโพล่งออกมา: “ท่านก็แต่งให้เสด็จพี่ของข้าได้แล้วนี่!”พี่จี๋เอ๋อร์ตกใจจนไอไม่หยุด เกือบจะตกจากหลังม้าข้าแสดงสีหน้าภูมิใจทันที“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ท่านพ่อของท่านชอบเสด็จพ่อของข้า หากไม่ได้พบกับท่านอาสะใภ้อาอวี้ ท่านพ่อของท่านก็คงเป็นสนมของเสด็จพ่อข้าไปแล้ว“ท่านดำเนินรอยตามท่านพ่อของท่านได้นี่!”ใบหน้าของพี่จี๋เอ๋อร์ซีดขาวไปหมด“องค์หญิง ท่านไม่ควรพูดเช่นนี้”ตอนที่พวกเราจะออกจากประตูเมือง พี่สามก็ตามม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1736

    ข้าคือเซียวจื่อเหิงที่เกือบจะถูกพี่สามแย่งชื่อไป เป็นองค์หญิงน้อยที่เสด็จพ่อตั้งตารอคอยมานานหลังจากที่ข้าเกิดมา ก็ได้รับความโปรดปรานอย่างมากเสด็จพ่อยังทรงโปรดให้สร้างตำหนักมุกหลังหนึ่งสำหรับข้าโดยเฉพาะภายในตำหนักมีไข่มุกและสมบัติล้ำค่าต่าง ๆ นานา ซึ่งสื่อความหมายว่าข้าคือไข่มุกล้ำค่าในมือของเสด็จพ่อแม้ว่าเสด็จพ่อจะดีกับข้าที่สุดในใต้หล้า แต่คนที่ข้ารักที่สุดกลับเป็นเสด็จแม่ตอนที่เสด็จแม่ทรงอุ้มท้องข้า ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากหมอหลวงพากันเกลี้ยกล่อมให้นางละทิ้งข้า แม้แต่เสด็จพ่อก็ไม่ต้องการข้า แต่เป็นเสด็จแม่ที่ยืนกรานจะให้กำเนิดข้าดังนั้นหากเสด็จแม่ทรงบอกให้ทำสิ่งใด ข้าจะไม่ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามเด็ดขาดข้าอาจทำให้ผู้อื่นเสียใจหรือโมโหได้ แต่มีเพียงเสด็จแม่ที่ไม่สามารถทำร้ายจิตใจได้พอเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ ทรงเสียพระทัยในทันทีแน่นอนว่า ข้าก็รักเสด็จพ่ออย่างมากเช่นกันเพียงแต่ เสด็จพ่อมักจะคิดว่าตนเองทำสิ่งดี ๆ ให้ข้าเสมอ แต่ของบางอย่าง ก็หาใช่ว่าข้าจะพึงพอใจอย่างเช่นตำหนักมุกนั่นกลับเป็นพี่สามที่ชื่นชอบ และมักจะมาหาข้าที่นี่เพื่อ “ยืม” เครื่องประดับอยู่เสมอพูดถึง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1735

    ข้าคือเซียวจื่อซูข้าต่างหากคือลูกที่เชื่อฟังที่สุดพี่ใหญ่เป็นรัชทายาท ดีไปหมดทุกอย่าง แต่ไม่ยอมอยู่ใต้การควบคุมพี่รองมีนิสัยรักอิสระ ชอบฝึกวรยุทธ์ แต่ยังควบคุมยากกว่าพี่ใหญ่เสียอีกมีแต่ข้าเท่านั้น ที่ทำตัวว่านอนสอนง่ายอยู่ข้างกายเสด็จพ่อและเสด็จแม่ ไม่มีทางสร้างปัญหาให้พวกเขาข้าชอบสิ่งสวย ๆ งาม ๆนี่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรกระมังเสด็จพ่อไม่เข้าใจข้าแม้แต่น้อย ถึงได้ตั้งชื่อที่น่าเกลียดเช่นนั้นให้ข้าหากจริงอย่างที่เขาพูดว่า ชื่อเซียวอู๋หมิงนี้ดีมาก แล้วตอนนั้นที่ข้าเสนอจะเปลี่ยนชื่อกับน้องหญิง เหตุใดเสด็จพ่อถึงได้คัดค้านอย่างเต็มที่ด้วยเล่า?ดูเถอะ ชื่อเซียวจื่อเหิงยังไพเราะกว่าเซียวอู๋หมิงตามที่คิดไว้จริง ๆ!ภายใต้การหว่านล้อมทุกวิถีทางของข้า ในที่สุดข้าก็มีชื่อที่ไพเราะข้าชอบวาดภาพ อาจารย์ตงฟางซื่อของข้ายอดเยี่ยม เขาสอนข้าหลายอย่างข้าขยันและตั้งใจเรียน เสด็จพ่อและเสด็จแม่ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบข้าพี่รองก็เพราะอิจฉาข้า จึงมักจะรังแกข้าอยู่เสมอวันนั้นเขามาที่ห้องนอนของข้า “นี่! เซียวอู๋หมิง! ข้าวของที่นี่ของเจ้าล้วนน่าเกลียด!”ระหว่างที่พูด มือของเขาก็ยังสัมผัสไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1734

    ข้าคือเซียวจื่อลี่ บุตรคนรองของเสด็จพ่อและเสด็จแม่แต่ข้ารู้สึกมาตลอดว่า ข้ากับพี่ชายหน้าตาเหมือนกัน ตอนที่เกิดมา หมอตำแยต้องผิดพลาดเป็นแน่ ข้าต่างหากคือคนที่เกิดก่อนก็ใครใช้ให้ข้าใจกว้างกันเล่าน้องชายก็น้องชายหลังจากเสด็จแม่ทรงคลอดน้องสาม ข้าก็มิใช่ว่าได้เป็นพี่ชายแล้วหรอกหรือจะเห็นได้ว่า การเป็นพี่ชายหรือน้องชาย ก็เป็นเพียงการเทียบเคียงเท่านั้นตั้งแต่เล็กข้าก็รู้ว่าจะเอาใจเสด็จพ่ออย่างไร อย่ามองว่าเสด็จพ่อทรงดุร้ายน่ากลัว แท้จริงแล้วกลับพระทัยอ่อนเสด็จแม่ต่างหากที่ทรงเข้มงวดแท้จริงไม่ว่าจะกับข้า หรือกับพี่ชายกระทั่งแม้แต่เสด็จพ่อก็ยังถูกเสด็จแม่บังคับให้ตื่นเช้ามาฝึกวรยุทธ์ทุกวันต่อมาข้าถูกส่งไปที่สถาบันทางการทหารอยู่ที่นั่น ข้าได้รู้จักสหายดี ๆ มากมายลูกหลานของขุนนางในราชสำนักจำนวนไม่น้อย ก็ถูกส่งไปที่สถาบันทางการทหารเช่นกันมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น อย่างเช่นบุตรคนโตของภรรยาเอกที่ถูกคาดหวังไว้สูง เหมือนกับพี่ชายข้า ก็จะถูกส่งไปที่ห้องเรียน เพื่อเป็นสหายร่วมเรียนของรัชทายาทหากเทียบกันแล้ว ข้าชอบสถาบันทางการทหารมากกว่าพวกเราสามารถเกลือกกลิ้งไปมา ทำให้เสื้อผ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1733

    ข้าคือเซียวจื่อหลิ่น บุตรคนแรกของเสด็จพ่อและเสด็จแม่แน่นอนว่า ข้ากับน้องชายคนที่สองเซียวจื่อลี่ แค่เกิดห่างกันไม่ถึงหนึ่งถ้วยชาเสด็จพ่อและเสด็จแม่ทรงพูดเสมอว่า นิสัยของพวกเราฝาแฝดนั้นแตกต่างกันอย่างมากข้าทำสิ่งต่าง ๆ อย่างจริงจัง ชอบไปห้องเรียน ชอบอ่านหนังสือ เสด็จพ่อยังทรงชอบพาข้าไปห้องทรงพระอักษรด้วยส่วนน้องชายคนที่สองชอบเล่นสนุก บางครั้งก็ขาดความสำรวมไปห้องเรียน? นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยทุกครั้งที่ให้เขานั่งฟังบรรยายที่นั่น ก็ราวกับว่ากำลังลงโทษเขาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนข้า เสด็จพ่อจึงปรึกษากับเสด็จแม่ว่า จะส่งน้องรองไปฝึกวรยุทธ์ด้วยเหตุนี้ พวกเขาสองคนยังพาน้องรองไปหาอาจารย์ปู่ที่ภูเขาหวูหยาโดยเฉพาะภูเขาหวูหยาอยู่ไกลเกินไป เสด็จแม่จึงคิดหาวิธีเจอกันครึ่งทาง โดยให้เหล่าอาจารย์ลุงและอาจารย์อาของภูเขาหวูหยาลงจากเขา มายังเมืองหลวง เพื่อรับหน้าที่สอนในสถาบันทางการทหารดังนั้น น้องรองจึงใช้ชีวิตโดยที่ทุกวันจะออกจากวังไปฝึกวรยุทธ์ในตอนเช้า และถูกส่งกลับเข้าวังในตอนเย็นหากเทียบกับไปห้องเรียน สถาบันทางการทหารมีคนเยอะกว่า และครึกครื้นกว่าเสด็จพ่อทรงกังวลว่าข้าจะมุ่งแต่ศึ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1732

    นี่แตกต่างจากสิ่งที่ข้าเคยได้รับมาก่อนหน้านี้อย่างมาก!ข้าตัดสินใจแล้ว กลางดึกจะเลื้อยขึ้นเตียงของเขา ข้าจะทำให้เขาตกใจ!พอถึงกลางคืนข้าเลื้อยอย่างคืบคลานออกมาจากห้องเล็ก ๆ นั่นเดิมทีตั้งใจจะไปหาหลิวหวา ทว่า เลื้อยไปเลื้อยมา ข้าก็กลับมาถึงจวนอ๋องแล้วข้าตามกลิ่นของเจ้านายน้อยจี๋เอ๋อร์ จนมาถึงนอกประตูห้องข้าอยากเข้าไปดูเขาสักหน่อย กลับได้ยินภายในมีเสียงคุยกัน“อาอวี้ เจ้านำงูตัวโปรดไปทิ้งให้หลิวหวาจริงหรือ? เขาเป็นคนไม่ละเอียดรอบคอบ กลัวว่าจะดูแลไม่ดี...”“นั่นก็ไม่มีทางเลือก จี๋เอ๋อร์ขี้กลัว อีกอย่าง นี่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น”“ไม่สู้ลองนำมันมาแต่งตัวดู? หากมันหน้าตาไม่น่าเกลียดนัก ก็คงไม่ทำให้จี๋เอ๋อร์ตกใจ”ข้าอยู่ด้านนอกได้ยินอย่างชัดเจนหากเทียบกับบอกว่าข้าน่ากลัวจนทำให้คนตกใจ ข้ายิ่งรับไม่ได้มากกว่าที่บอกว่าข้าน่าเกลียด!!!รุ่ยอ๋องที่อยู่ด้านในยังคงเสนอแนะ“อย่างเช่น ให้มันสวมเสื้อผ้า หรือทำเขามังกรให้มัน ถอนเขี้ยวมันออก... อืม ลิ้นก็ต้องดึงออกด้วย”ข้าถึงกับสั่นไปทั้งตัวอย่าพูดว่า “อย่างเช่น” อีกเลย! รุ่ยอ๋องช่างไม่ใช่คนจริง ๆ!นี่จะต่างอะไรกับการทรมาน?!ยังโชค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status