Share

บทที่ 4

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ฮ่องเต้ทรราชจะเสด็จมา เฟิ่งจิ่วเหยียนได้แต่บอกให้เหลียนซวงทำทรงผมกลับไปตามเดิม แต่มือของเหลียนซวงสั่นเทิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะหวาดกลัวฮ่องเต้ทรราชที่กำลังจะมาเยือนผู้นั้น

นางมือสั่น ย่อมทำผิดพลาดอย่างไม่อาจเลี่ยง

เมื่อถูกถอนผมเป็นเส้นที่สาม เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยเสียงเย็นชาว่า

“ถอยไป ข้าจัดการเอง” นางเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉม การฝึกฝนทำผมทรงต่าง ๆ ให้ได้อย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ด้วยเหตุนี้ นางจัดแจงเพียงไม่กี่ครั้งก็ทำให้ทรงผมกลับไปเหมือนตอนแรกได้แล้ว เหลียนซวงเห็นแล้วก็ตกตะลึงเหลือล้น

“ฮองเฮา ท่านมีฝีมือยอดเยี่ยมนักเพคะ!”

แต่ขณะที่ฝั่งพวกนางเตรียมความพร้อมต้อนรับฮ่องเต้ คนจากนอกตำหนักก็มารายงานอีกครั้งว่า

“ฮองเฮา โรคปวดศีรษะของหวงกุ้ยเฟยกำเริบ ฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

เหลียนซวงเผยอปาก รู้สึกโมโหแต่ไม่กล้าพูดออกมา

หวงกุ้ยเฟยจะต้องแกล้งป่วยเป็นแน่ โรคปวดศีรษะกำเริบขึ้นมาตอนนี้ จะเหมาะเจาะขนาดนี้ได้อย่างไร

คงเห็นว่าฝ่าบาทเสด็จกลับวังมาแล้วจึงให้คนไปเชิญน่ะสิ

พอเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินคำว่าหวงกุ้ยเฟยก็คิดถึงเวยเฉียงน้องสาว

เวยเฉียงถูกทำร้ายแสนสาหัสจนถึงแก่ความตาย แค้นนี้ต้องชำระ!

ทว่า รู้เขารู้เรา จึงจะชนะอย่างยั่งยืน

หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานไม่เสื่อมคลาย ข้างกายจะต้องมีองครักษ์ยอดฝีมืออยู่เป็นแน่

นางไม่อาจบุ่มบ่ามลงมือ

……

ตำหนักฉือหนิง

ไทเฮาหมุนสร้อยลูกประคำในมือ แต่ยังคงยากจะระงับโทสะในใจได้

นางเอ่ยถามทุกคนว่า

“พิธีอภิเษกสมรสในวันนี้ ฮ่องเต้กลับให้รุ่ยอ๋องเข้าพิธีแทนเขา! พวกเจ้าไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยรึ!”

คนในตำหนักที่ยืนอยู่ตรงหน้านางต่างก้มศีรษะ

“บ่าวมิทราบ”

ฮ่องเต้กระทำตามอำเภอใจมาแต่ไหนแต่ไร ไทเฮายังทำอันใดเขาไม่ได้

แต่คนทั้งใต้หล้ามีแต่จะคิดว่านางล้มเหลวในการอบรมบุตร

ดวงเนตรไทเฮาฉายแววเศร้าโศก ราวมีความเจ็บช้ำใจเหลือแสนเอ่อคลออยู่ในนั้น

“ถึงข้าจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา แต่ก็เลี้ยงดูเขาด้วยความเอาใจใส่ทุ่มเทมาจนโต ไฉนโตมาแล้วจึงมีแต่เรื่องให้กลุ้มใจแบบนี้...”

เหล่าข้ารับใช้เห็นเช่นนั้นก็เข้าข้างไทเฮาไปโดยไม่รู้ตัว คิดว่าฮ่องเต้อกตัญญู

ดุจจะราดน้ำมันลงบนกองเพลิง มีคนในวังมารายงานว่า

“ไทเฮา ฝ่าบาทเสด็จกลับมาแล้ว แต่ทรง ทรงไปตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ”

“เหลวไหล!” ไทเฮาตบโต๊ะน้ำชาดังปัง

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์นางคนต่ำช้านั่น วันแบบนี้ก็ยังกล้าก่อเรื่อง ได้รับความโปรดปรานจนเหิมเกริมไร้ขอบเขต ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำไปหมดแล้ว!

เฟิ่งเวยเฉียงก็เหมือนกัน เป็นบุตรีตระกูลเฟิ่งแท้ ๆ ไม่มีฝีมือสักนิดเลยหรือไร? รึจะยอมให้คนเหยียบบนศีรษะเอาเช่นนี้?

เดิมยังหวังว่าฮองเฮาจะสามารถข่มหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไว้ได้ ยามนี้เห็นทีคงเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเหมือนกัน

ไม่เพียงแต่ไทเฮา เหล่าสนมคนอื่น ๆ ก็คิดเช่นนี้

นางสนมหลายคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาจับกลุ่มพูดคุยกันในสถานที่แห่งหนึ่ง

“คืนอภิเษกสมรสยังรั้งตัวฝ่าบาทไว้ไม่ได้ เห็นทีคงพ่ายแพ้ให้กุ้ยเฟยแน่แล้ว”

สนมชุดเขียวคนหนึ่งนึกเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน “ฮองเฮาก็เป็นคนอาภัพคนหนึ่ง ตงเซี่ย พรุ่งนี้ให้เตรียมพัดหยกเซียงจวินของข้าเอาไว้ ข้าจะนำไปมอบให้ฮองเฮา”

“เพคะ พระสนม”

หนึ่งในคนที่นั่งอยู่ด้วยกันถอนหายใจออกมา “หวงกุ้ยเฟยหน้าตาเหมือนหรงเฟยจึงได้รับความโปรดปราน หากฮองเฮาเป็นคนฉลาดก็ควรคล้อยตามพระประสงค์ของฝ่าบาท อย่าให้มีเรื่องขัดแย้งกัน...”

สิ้นเสียงก็มีคนในวังมารายงานว่า

“เรียนพระสนม ได้ยินว่าฮองเฮาเสด็จไปที่ตำหนักหลิงเซียวแล้วเพคะ!”

คนทั้งหลายมองหน้ากัน แล้วส่ายศีรษะน้อย ๆ

“ฮองเฮาทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเลย”

“ไม่เหมาะสมอย่างมากเลยต่างหาก! ระงับโทสะไม่อยู่เช่นนี้ มิทำให้ฝ่าบาทรำคาญพระทัยหรอกรึ?”

“ถ้ามีเรื่องกัน ฝ่าบาทก็ต้องลำเอียงเข้าข้างหวงกุ้ยเฟยอยู่แล้ว ฮองเฮาไม่น่าทำเช่นนี้เลย”

พวกนางเฝ้ารอจะมีฮองเฮาผู้เก่งกาจมากคุณธรรม เหมือนกับบรรดาฮองเฮาที่ผ่านมาของตระกูลเฟิ่ง ที่สามารถปกครองให้วังหลังอยู่ร่วมกันได้อย่างปรองดอง เหล่าสนมร่วมใจกันปรนนิบัติฝ่าบาท หลีกเลี่ยงการต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานอย่างสุดโต่งชนิดตายกันไปข้างหนึ่ง

ตอนนี้เห็นที ฮองเฮาผู้นี้คงหวังพึ่งไม่ได้แล้ว

หวงกุ้ยเฟยยังไม่ได้งัดฝีมือที่ร้ายกาจกว่านี้ออกมา ฮองเฮาก็รับมือไม่ไหวเสียแล้ว

นอกตำหนักหลิงเซียว

เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมชุดเจ้าสาว มงกุฎหงส์บนศีรษะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงฐานันดรอันสูงศักดิ์ของนาง

ฮองเฮาที่ถูกสนมคนโปรดทำลายคืนเข้าหอผู้หนึ่ง คนในวังไม่เพียงไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่ยังดูแคลนอีกด้วย

ถูกฮ่องเต้ทอดทิ้งไว้ในห้องหอก็น่าอับอายมากอยู่แล้ว ไฉนยังมีหน้ามาที่นี่อีก?

องครักษ์ที่อารักขาตำหนักอยู่เข้าใจว่านางมาขอให้ฮ่องเต้กลับห้องหอ ไม่รอให้นางเอ่ยปากก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า

“ฮองเฮา ฮ่องเต้กำชับไว้ว่า หมอหลวงกำลังตรวจอาการให้หวงกุ้ยเฟย ไม่อนุญาตให้ใครรบกวน โปรดอภัยที่กระหม่อมไม่อาจเข้าไปรายงานให้ท่านได้”

เวลานั้นเอง หัวหน้าหมัวมัวที่มีหน้าที่ปรนนิบัตินางก็เตือนว่า

“ฮองเฮา ไม่มีประโยชน์หรอกเพคะ ทุกเรื่องในวังหลังล้วนยกให้หวงกุ้ยเฟยมาก่อนเสมอ ถ้าท่านอยากพบฝ่าบาทตอนนี้ ฝ่าบาทคงไม่...”

ภายใต้แสงจันทร์ แต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของเฟิ่งจิ่วเหยียนงดงามหยาดเยิ้ม ใช้หางตากวาดมองรอบหนึ่ง แววตาก็พลันมืดครึ้มลง

นางถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ใครว่าข้ามาพบฝ่าบาท?”

ทุกคนเงียบไป

แล้วนางจะมาทำไมเล่า?

มาชมวิวทิวทัศน์? มาดูว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานหวงกุ้ยเฟยเพียงไหน?

เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตา สาวใช้เหลียนซวงก็ก้าวออกมาข้างหน้า ยื่นกล่องไม้ใบหนึ่งให้องครักษ์ที่เฝ้าหน้าตำหนักผู้นั้น

“ข้าได้ยินว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นโรคปวดศีรษะ ยานี้พี่ชายข้าได้มาจากชายแดน รักษาโรคปวดศีรษะได้ชะงัดนัก จึงนำมาให้หวงกุ้ยเฟยลองใช้ดู”

ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ฮองเฮาเพียงนำยามาให้?

นางใจกว้างขนาดนั้นเสียที่ไหน จะต้องเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีแน่นอน!

องครักษ์ลังเลเล็กน้อย แล้วเข้าไปขอคำปรึกษาในตำหนัก

จากนั้น หมอหลวงท่านหนึ่งก็ออกมารับยานั้น หลังพิศดูอย่างละเอียดก็เอ่ยชมเชยพลางประคองราวกับเป็นของล้ำค่า

“นี่คือยาวิเศษที่หายากยิ่งนัก!”

หลังเขาเข้าไปข้างใน ผ่านไปไม่นานก็มีขันทีผู้หนึ่งออกมากล่าวกับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีนอบน้อม

“ฮองเฮา หวงกุ้ยเฟยรับประทานยานี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ฝ่าบาทตรัสว่าท่านมีน้ำใจนัก ให้ท่านกลับไปเตรียมปรนนิบัติบรรทมพ่ะย่ะค่ะ”

ขันทีเข้าใจว่าฮองเฮาได้ยินคำกล่าวนี้แล้วจะต้องดีพระทัยมากเป็นแน่

หากความจริง เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ดีใจเลยสักนิด

ฮ่องเต้ทรราชผู้นี้จะต้องมีใบหน้าใหญ่โตเหมือนขนมปังอบที่ชายแดนใต้เป็นแน่แท้

ปรนนิบัติบรรทม ฟังดูราวกับว่าพระราชทานรางวัลให้นางอย่างนั้นแหละ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (20)
goodnovel comment avatar
Ilada Zenlee
สนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Joom
I cannot wait for the next episodes.
goodnovel comment avatar
Atitan Srikul
สนุกมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1550

    เฟิ่งจิ่วเหยียนลองนึกย้อนดู เมื่อครั้งที่เซียวอวี้มอบกระบี่ชื่อหยวนให้นางในตอนนั้น ไม่ได้บอกนางอย่างละเอียดว่า เขาได้มันมาอย่างไรตอนนั้นนางไม่ได้ถามอะไรมากนัก การที่คนอื่นมอบของขวัญให้นาง แล้วนางถามนั่นถามนี่ก็ดูไม่เหมาะสมเช่นกันด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจมาตลอดว่า กระบี่ชื่อหยวนนี้เป็นสิ่งที่เขาได้มาโดยบังเอิญคำพูดฝ่ายเดียวของท่านผู้เฒ่าหยวน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ได้เชื่อโดยง่ายเช่นกันมือของนางวางลงเบา ๆ บนฝักกระบี่ สีหน้าดูสงบนิ่งและสุขุมในขณะนั้น ท่านผู้เฒ่าหยวนเอ่ยอีกว่า“ข้ามีคำขอที่ไม่เหมาะสมนัก ขอฮองเฮาโปรดคืนมันมาได้หรือไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนขัดจังหวะคำพูดของเขาทันที“กระบี่เล่มนี้เป็นสิ่งที่ฝ่าบาททรงประทานให้ ขออภัยที่ข้าไม่อาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้”ท่านผู้เฒ่าหยวนได้ยินดังนั้น ดูเหมือนจะไม่ยืนกรานอีกต่อไปเช่นกันเขาเอ่ยพึมพำ ด้วยน้ำเสียงแก่ชรา“ช่างเถอะ บางทีหลังจากที่ซีเอ๋อร์เกิดเรื่อง กระบี่เล่มนี้ก็คงถูกทิ้งอยู่ในวัง“ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นซีเอ๋อร์ หรือสิ่งที่นางทิ้งไว้ ข้าล้วนไม่อาจนำพาไปได้“วันนี้ต้องลำบากฮองเฮาเสด็จมาเอง เพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นแก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1549

    หนานเจียงอ๋องก็ทราบถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ฮองเฮาของแคว้นหนานฉี เป็นเพื่อนสนิทของหร่วนฝูอวี้ และรุ่ยอ๋องแห่งชายแดนใต้ ก็เป็นคนรักของนาง พวกเขาจะช่วยหร่วนฝูอวี้แน่นอน หากหร่วนฝู่อวี้ทรยศหนานเจียง แล้วมอบกู่ราชาให้ชาวฉี... เมื่อคิดเช่นนี้ หนานเจียงอ๋องยิ่งรู้สึกร้อนใจ โชคดีที่เขาได้สั่งปิดประตูเมืองทุกแห่ง และส่งคนไปซุ่มอยู่ที่ชายแดนระหว่างสองแคว้นแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานจะตามหานางเจอ หนานฉี ในเมืองหลวง เฟิ่งจิ่วเหยียนสืบสวนคดีสายลับแคว้นตงซาน ใกล้จะได้ผลสรุปแล้ว นางตามหาผู้ที่เคยรับใช้หยวนเฟยในตอนนั้น รวมถึงพวกนางกำนัลที่ออกจากวังเมื่อถึงวัย และซักถามทีละคน เมื่อรวมกับข้อมูลจากผู้เฒ่าหยวน จึงคาดเดาเรื่องราวทั้งหมดได้คร่าว ๆ แล้ว นางออกนอกวัง ไปพบผู้เฒ่าหยวนด้วยตนเอง มีบางเรื่อง ที่ต้องหารือกับเขา “เดิมเหยาเหนียงถูกแคว้นตงซานส่งไปเป็นสายลับในวัง นางตั้งใจจะอาศัยคำแนะนำของหยวนเฟย เพื่อเข้าใกล้อดีตฮ่องเต้ แต่หยวนเฟยกลับปฏิเสธ “เหยาเหนียงจึงแฝงตัวอยู่ในตำหนักของซูเฟย รอจังหวะลงมือ ในช่วงเวลาเหล่านี้ได้ปลอมลายมือของหยวนเฟ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1548

    หนานเจียงอ๋องทุกรัชสมัยเฝ้าพิทักษ์เขตแดน เพราะมีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้น ที่สามารถสร้างหมอกพิษได้ ดวงตาของหร่วนฝูอวี้เต็มไปด้วยความผิดหวัง “ตอนนี้ท่านอ๋องจะขยายอาณาเขตออกไปอย่างไม่หยุด เท่ากับว่าตั้งใจละทิ้งหมอกพิษ” ยังไม่ต้องเอ่ยถึงต้าเซี่ย แม้แต่สภาพอากาศเช่นที่เผ่าสุยเหอ ก็ไม่สามารถสร้างหมอกพิษได้ สีหน้าของหนานเจียงอ๋องมืดครึ้ม “เจ้ากำลังคิดตื้นเขินแบบสตรี! “ตราบใดที่พวกเราพิชิตต้าเซี่ยได้ นั่นก็จะเป็นดินแดนของหนานเจียง! “ส่วนเรื่องหมอกพิษ ขอเพียงรับประกันว่าอาณาเขตเดิมยังถูกปกคลุมด้วยหมอกพิษ และรับประกันราชสำนักอ๋องกับเมืองหลวง...” “หมายความว่า ท่านอ๋องจะซ่อนตัวอยู่ในหมอกพิษตลอดไปหรือ? แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ดินแดนที่ยึดครองได้นั้น จะยอมสวามิภักดิ์ภายใต้การปกครองของท่านตลอดไป? ท่านทำเช่นนี้ เป็นการสิ้นเปลืองทหารเท่านั้น” กษัตริย์ที่ไม่สามารถก้าวออกจากพื้นที่คุ้มครองของหมอกพิษได้ ย่อมไม่น่าเกรงกลัว หร่วนฝูอวี้โกรธจนหัวเราะออกมาเพราะความโง่เขลาของเขา นางยื่นมือออกไป สอดนิ้วเข้าไปในตารางตาข่าย “ผู้ใดสอนให้ท่านทำเช่นน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1547

    สำหรับเรื่องของราชาพิษหนอนกู่ หนานเจียงอ๋องระมัดระวังเป็นพิเศษ ความภาคภูมิใจของเขาที่พุ่งทะยานเสียดฟ้า ถูกดึงลงมาด้วยสติทันที “ไม่ได้ ราชาพิษหนอนกู่จะแตะต้องไม่ได้” นี่คือรากฐานความมั่นคงของชายแดนทั้งสี่ของหนานเจียง อย่างน้อยตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น ก่อนที่หนานเจียงจะแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานศัตรูจากภายนอกได้ ราชาพิษหนอนกู่จะต้องไม่เกิดข้อผิดพลาด เซียวเหิงหาได้บีบบังคับไม่ เขานั่งกลับไปที่โต๊ะอาหารของตนเอง จิบสุรา แล้วแสร้งทำเป็นพูดด้วยท่าทีผ่อนคลาย “ดูเหมือนว่า สิ่งที่หนานเจียงได้มาตอนนี้ ท่านอ๋องก็พอพระทัยแล้ว เช่นนั้น วันนี้กระหม่อมควรจะถอนตัว” หนานเจียงอ๋องขมวดคิ้วเป็นปม แน่นอนว่าเขาไม่พอใจ! เมื่อเห็นหนานเจียงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ข่าวชัยชนะจากชายแดนส่งมาไม่ขาดสาย ทำให้เขามีความสุขมากในทุก ๆ วัน สันติสุขและชนเผ่าเล็ก ๆ เหล่านั้น ไม่เพียงพอที่จะให้เขาอิ่มท้อง ยิ่งกว่านั้นเมื่อครู่เซียวเหิงบอกว่า เป้าหมายต่อไปคือต้าเซี่ย ถึงแม้ความแข็งแกร่งของต้าเซี่ยจะสู้หนานฉีและแคว้นตงซานไม่ได้ แต่เทียบได้กับแคว้นซีหนี่ว์ในตอนนี้ ทั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1546

    เซียวอวี้เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “จิ่วเหยียน เรารู้ว่าแคว้นซีหนี่ว์มีความหมายกับเจ้าต่างจากที่อื่น “เราเองก็กำลังมองหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกัน “เจ้าอย่าเพิ่งกังวล หากวันนั้นมาถึงจริง ๆ เราจะหารือกับเจ้าก่อน “แน่นอนว่า จะอย่างไรก็ตาม เราไม่อยากให้เรื่องไปถึงขั้นนั้นเหมือนกัน “ตราบใดที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่กระทำเหมือนหนานเจียง ที่ถูกผู้อื่นหลอกใช้ และคุกคามพรมแดนหนานฉีของเรา เราจะไม่ลงมือใด ๆ “ส่วนแคว้นตงซาน มันไม่ใช่แคว้นเล็กเช่นหนานเจียง ถึงแม้เราอยากจะทำสงครามด้วย ก็จะไม่ทำอย่างวู่วาม” เฟิ่งจิ่วเหยียนผงกศีรษะ “หม่อมฉันเข้าใจแล้ว หม่อมฉันจะไม่แทรกแซงเรื่องของหนานเจียง” นางดูใจเย็นมาก ดูเหมือนจะไม่ตำหนิที่เขาปิดบัง เซียวอวี้ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เขาโอบไหล่ของนางอย่างอ่อนโยน กอดนางไว้ “จิ่วเหยียน เจ้าคุยกับเราอีกหน่อยเถิด เจ้ายังคิดว่าเราทำผิดหรือไม่?” เฟิ่งจิ่วเหยียน กล่าวอย่างช้า ๆ “เรื่องนี้ไม่มีถูกหรือผิด มีเพียงความแตกต่างระหว่างการพิจารณามากน้อย และการยอมเสียสละฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ท่านคือฮ่องเต้ผู้ประทับบนบัลลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1545

    วังหลวง ตกกลางคืน เซียวอวี้ออกจากห้องทรงพระอักษรตรงไปยังตำหนักหย่งเหอ บุตรชายทั้งสองเข้านอนไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ที่โต๊ะ ดูเหมือนกำลังรอเขาอยู่ เซียวอวี้นั่งลงข้าง ๆ จับมือนางไว้แน่น สีหน้าละอายใจเล็กน้อย นางไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เพียงเงยหน้าขึ้น มองเขาอย่างสงบนิ่ง “เรื่องของหนานเจียง ท่านวางแผนจะทำอย่างไร” เซียวอวี้พูดเรื่องอื่นเพื่อเลี่ยงไม่ตอบ “กินมื้อเย็นหรือยัง? ไยวันนี้พวกอาหลิ่นถึงเข้านอนเร็วนัก?” เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ตอบคำถามนี้ของเขา นางวกกลับมาที่เรื่องเดิม “ท่านปิดบังไม่ได้หรอก” เซียวอวี้ถอนหายใจเบา ๆ ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ฝ่ามือของนางสองสามครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เราได้เขียนจดหมายไปถึงรุ่ยหลินแล้ว ให้เขาส่งสายลับเข้าไปในหนานเจียง “ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เจ้าคิด แค่รอให้เซียวเหิงทำลายหมอกพิษในหนานเจียงจนหมดสิ้น กองทัพชายแดนใต้ก็จะบุกเข้าสู่หนานเจียง “เราก็ได้เตือนพวกเขาอย่างเป็นทางการ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการนองเลือด จับโจรต้องจับหัวก่อน ด้วยการควบคุมราชสำนักอ๋อง ก็จะสามารถยึดครองหนานเจียงทั้งหมด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status