"ขอแย่งเจ้าสิงโตชิมสักวันนะครับคนดี" น้ำเสียงของชายหนุ่มช่างออดอ้อน ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงละเลียดชิมอมแล้วดูดที่เม็ดบัวอย่างมูมมาม ราวกับว่าจะไม่เหลือมันไว้ให้กับลูกชายเลยสักหยด"อุ๊ย! พี่เสือ" หญิงสาวร้องครางออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้ามังกรยักษ์ที่แข็งเป็นลำตั้งชันขึ้นทิ่มหน้าท้องของเธอไปมา จนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะแอ่นสะโพกขึ้นไปท้าทายกับท่อนเอ็นลำใหญ่หัวแดงบานเบ่ง ที่มันพร้อมจะเข้ามาสำรวจในถ้ำของเธอเต็มที "อืม...ขวัญ...ทำไมเมียพี่ถึงได้เซ็กซี่จัง" เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยชมผู้เป็นภรรยาออกมา เข้าอ้อยอิ่งละเลียดชิมอมแล้วดูดอยู่ที่สองเต้าเป็นนานสองนาน ก่อนจะก้มลงไปจับเจ้ามังกรยักษ์สอดเข้าไปในช่องแคบของเธอพรึบ!!! "อืมพี่เสือ...อ๊า" เมื่อชายหนุ่มดันเจ้ามังกรยักษ์เข้าไปในถ้ำของเธอ ทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความคับแน่น จนเธอร้องครางออกมา แต่ทว่ามันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเลยสักนิด เมื่อความเสียวซ่านกำลังเกิดขึ้นภายในช่องแคบ เมื่อสามี
"เดี๋ยวก็รู้ตามพี่มา" อัครเดชจูงแขนภรรยาของเขาเดินเข้าไปในไร่กุหลาบ ส่วนฮันน่าและลูกๆ ของเธอได้นั่งเล่นที่สนาม โดยมีเอื้องคำเป็นพี่เลี้ยง หญิงสาวแอบอมยิ้มตามภาพของพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่น เพราะเธอแน่ใจว่าบอสหนุ่มคงกำลังจะมีเซอร์ไพรส์ภรรยา อัครเดชพาขวัญข้าวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงซุ้มกุหลาบที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม มันถูกออกแบบโดยชายหนุ่ม เมื่อเขาอยากจะขอภรรยาแต่งงาน และนั่นก็ทำให้ขวัญข้าวถึงกับน้ำตาคลอ เพราะไม่คิดว่าเขาจะมีมุมที่อ่อนโยน แล้วโรแมนติกขนาดนี้มาก่อน "นั่งตรงนี้ก่อนครับคนดี" เขาจัดแจงให้ภรรยานั่งลงที่ขอนไม้ จากนั้นชายหนุ่มได้คุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว โดยที่เขายังคงอุ้มเจ้าสิงโตเอาไว้ แล้วค่อยๆ หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง "แต่งงานกับพี่นะครับ" "พี่เสือ..." ขวัญข้าวเรียกชื่อผู้เป็นสามีออกมา ด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจเพราะเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า เขาจะขอเธอแต่งงาน เมื่อหญิงสาวไม่เคยคาดหวังที่จะมีโมเม้นต์แบบนี้ "ขอให้เจ้าสิงโตเป็นพยาน พี่จะรักและซื่
จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้ว ที่ขวัญข้าวใช้ชีวิตร่วมกับอัครเดชด้วยความผาสุก ชีวิตคู่ของเขาและเธอนั้น มีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ขวัญข้าวนึกไม่ถึง โดยเฉพาะสิ่งที่ชายหนุ่มทำให้เธอ มันเป็นมากกว่าคำว่ารัก ที่เขายืนยันพูดกับเธอซ้ำๆ ในทุกคืนวัน เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนผ่านเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็ไม่เคยชายตาแลเลยสักครั้ง เขายังคงทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้กับเจ้าสิงโตได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนฮันน่าได้คลอดลูกแฝด หลังจากที่ขวัญข้าวคลอดเจ้าสิงโตได้หนึ่งเดือน ที่สำคัญเธอสามารถคลอดเองแบบธรรมชาติได้ และที่น่าแปลกก็คือลูกสาวของเธอคลอดเวลาเกือบเที่ยงคืน ของคืนวันที่สามสิบกันยายน ห่างจากลูกชายเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่ทำให้ลูกอีกคนของเธอนั้นต้องแจ้งเกิดเป็นเดือนตุลาคม และนั่นก็คือที่มาของชื่อกันยาและตุลา ส่วนเจ้าสิงโตลูกของขวัญข้าวกับอัครเดชนั้นเกิดในเดือนสิงหาคม ช่างเหมาะเจาะกับชื่อสิงโต และทั้งสามคงจะเติบโตไปด้วยกัน อย่างไม่มีวันเหงาแน่นอน "สิงโตกลับบ้านได้แล้วลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับกันยาและตุลาใหม่นะครับ" ขวั
สักพักอัครเดชก็เดินเข้ามาในห้องคลอด โดยมีคุณหมอและพยาบาลยืนข้างๆ เตียง ที่มีขวัญข้าวนอนหายใจเข้าถี่ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อหญิงสาวพยายามเบ่งคลอดหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และดูเหมือนว่าเธอนั้นเริ่มจะหมดแรง "ขวัญ...ขวัญต้องอดทนนะครับคนดี เพื่อลูกของเรา อีกไม่กี่นาทีเจ้าสิงโตก็จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว พี่รู้ว่าขวัญเจ็บมาก อดทนไว้นะครับ""คุณพ่อมาให้กำลังใจแล้ว คุณแม่หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งนะคะ แล้วเตรียมเบ่ง หายใจเข้าลึกๆ ค่ะ หนึ่ง สอง สาม เบ่งค่ะ...อื้ดดด!!" คุณหมอและนางพยาบาลต่างก็ช่วยกันให้กำลังใจขวัญข้าว เมื่อปากมดลูกของเธอเริ่มเปิดสิบเซนติเมตรพร้อมคลอดเต็มทีแล้ว กรี๊ด!!! หญิงสาวร้องกรี๊ดออกมาจนสุดแรงเกิด แม้ว่าคุณหมอจะบอกให้เก็บเสียง แต่ในเวลานี้คงไม่มีคุณแม่คนไหนเก็บอาการเจ็บปวดปางตายนี้ไว้ได้ ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววความเจ็บปวดออกมาอย่างทรมาน จนอัครเดชนั้นถึงกับน้ำตาซึมเพราะสงสารภรรยา"อูเว้! อูเว้! อูเว้! " เสียงทารกน้อยดังขึ้น พร้อมกับลมหายใจหอบเหนื่อยของขวัญข้าว ที่ดูเหมือนว่าเธอนั้นกำลังหมดเรี่ยวแรงพอดี แต่รอยยิ
"ทำไมอ้อนแบบนี้ครับ ถ้าพี่อดใจไม่ไหวจะให้ทำยังไง...หื้ม"คำพูดและแววตาของชายหนุ่มฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วโอบกอดหญิงสาวร่างอวบเอาไว้หลวมๆ แต่ขวัญข้าวก็เชื่อว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่ากอด เพราะตั้งแต่กลับมาที่ไร่ก็ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ มีมุมอ่อนโยน และเขาก็ทะนุถนอมห่วงใยเธอมาก จนมองข้ามความต้องการของตัวเองออกไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วหากเขาจะทำอะไรในแบบที่พูดออกมาก็ย่อมทำได้ "พี่เสือ... ขวัญขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ" ขวัญข้าวพลิกตัวตะแคงข้างเข้าหาชายหนุ่ม พร้อมกับ สบตากับเขา "ไหนบอกว่าง่วงไง ทำไมตาแป๋วเลยตอนนี้ จะถามอะไรพี่ละครับ...หื้ม...จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! " ดวงหน้ากลมของภรรยาที่ดูอวบอิ่มเพราะการตั้งครรภ์ ทำให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ที่จะจุ๊บลงไปที่เรียวปากของเธอหลายที ก่อนจะเอามือปัดปอยผมออกจากแก้ม แล้วยิ้มแฉ่งให้กับความน่ารักของเธอ ขณะที่ขวัญข้าวก็ยิ้มร่าให้กับความรักที่ผู้เป็นสามีมอบให้มาด้วยความสุขใจ
"ปล่อยขวัญได้แล้วค่ะพี่ไปทำงานเถอะ" เมื่อขวัญข้าวนั่งลงที่โซฟานุ่ม เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำที่แผ่วเบา และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าภรรยาของเขา ยังคงงอนอยู่อย่างแน่นอน "ที่พี่ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้าทุกวัน ก็เพื่อจะได้มีเวลาให้ขวัญกับลูก และตอนนี้หน้าที่ของพี่ก็คือการดูแลขวัญ ส่วนเรื่องที่ไร่ก็ปล่อยให้อ้ายคำปันและอ้ายสิงห์คำเป็นคนจัดการไปสิ ไหนดูซิเท้าบวมหมดแล้วเนี่ย"ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าพร้อมกับจับเท้าภรรยาขึ้นมาวางที่หน้าขาของเขาแล้วคลึงเบา เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย การกระทำของเขา ทำให้หญิงสาวรู้สึกซาบซึ้งตรึงใจ จนความโกรธที่มีเริ่มที่จะจางหายไปในทันที"คุณเสือโทรเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ" หลังจากที่อ้ายคำปันอาบน้ำเสร็จ เพราะเขาได้ช่วยอัครเดชซ่อมท่อน้ำที่แตก และได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายหนุ่มให้มาที่บ้าน เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวมาที่นี่ ก่อนจะออกไปไร่อีกครั้ง "อ้ายคำปันช่วยพาคุณน้ำอิงไปดูไร่กะหล่ำปลีเราหน่อย และออเดอร์ทั้งหมดที่เธอสั่งเอาไว้