"เสี่ยวเหยา ฉันขอคุยด้วยหน่อย"
ในขณะที่หลินเสี่ยวเหยากำลังจะเล่านิทานให้เจ้าตุ้ยนุ้ยฟัง จางเหวินชิงก็เดินเข้ามาในห้องนอนของลูกชายและบอกกับเธอ เธอมองหน้าเขานิดหนึ่งก่อนจะพูดออกมา "ได้..แต่ขอกล่อมจ้าวเหวินให้หลับก่อน คุณไปรอฉันที่ห้องนั่งเล่นแล้วกัน" จางเหวินชิงรู้สึกแปลกใจกับคำตอบของเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากเขาพูดแบบนี้ เธอจะรีบทิ้งทุกอย่างเพื่อไปคุยกับเขา หรือนี่จะเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจของเธออีกแบบหนึ่ง "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันนั่งรอที่นี่" ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็อยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน จึงคิดจะนั่งรอเธอในห้องนี้ "พ่อครับ มาฟังนิทานกับหนูไหม ? แม่เล่าสนุกมาก" ซาลาเปาน้อยเอ่ยชวนพ่อ เด็กน้อยรู้สึกดีใจมากที่พ่อเข้ามาในห้องนอนของเขา เพราะปกติแล้วจางเหวินชิงไม่เคยย่างกรายมาที่นี่เลย "อืม..ก็ดีเดี๋ยวพ่อฟังด้วย" หลินเสี่ยวเหยามองหน้าเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเล่านิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าให้ลูกชายฟัง พอนิทานจบเด็กน้อยก็หลับปุ๋ย เธอก้มลงจูบแก้มยุ้ยของเจ้าตุ้ยนุ้ย ห่มผ้าให้และปิดไฟตรงหัวเตียง แล้วก็ลงจากเตียงเดินนำจางเหวินชิงไปที่ห้องนั่งเล่น เขาจึงต้องรีบก้าวยาว ๆ ตามหลังเธอไป กิริยาที่หลินเสี่ยวเหยาปฏิบัติต่อลูกชายเมื่อกี้ ทำให้ใจของจางเหวินชิงเต้นแปลก ๆ "มีอะไร ?" พอมาถึงห้องนั่งเล่นแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็เอ่ยปากถามเขาทันที เธอกอดอกยืนห่างจากเขาราวสองสามเมตร เพราะจำได้ดีว่าเขามักจะบอกให้เธอยืนห่าง ๆ อย่าเข้าใกล้เขามากเกินไป "สองสามวันมานี้เธอดูแปลก ๆ วางแผนชั่วอะไรหรือเปล่า แล้วเรื่องที่ฉันพาเยี่ยนถิงมาอยู่ที่นี่หวังว่าเธอคงไม่นำไปบอกคุณย่าหรอกนะ ?" พอจบคำพูดของจางเหวินชิง หลินเสี่ยวเหยาก็เกิดอาการปรี๊ดขึ้นมาในหัวสมอง นอกจากความหล่อเหลาแล้วเขาไม่มีอะไรดีเลย ไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าของร่างนี้หลงรักเขาเข้าไปได้อย่างไรหัวปักหัวปำ จนยอมทำร้ายตัวเองและที่สำคัญยอมทำร้ายแม้แต่ลูกชายที่แสนน่ารักอย่างจางจ้าวเหวิน "ฮึ!..ในสมองของคุณ ฉันคงจะชั่วร้ายมากสินะ ไม่ต้องห่วงหรอก นับจากนี้ไปฉันกับจ้าวเหวินจะอยู่ห่างคุณให้มากที่สุด คุณจะพาใครมาอยู่ด้วยก็เรื่องของคุณ อีกอย่างคุณเตรียมตัวเรื่องหย่าเอาไว้ได้เลย" พูดจบหลินเสี่ยวเหยาก็หมุนตัวกลับ เตรียมจะเดินหนีเขาไปจากตรงนี้ แต่จางเหวินชิงกลับคว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน "อุ๊ย !" เพราะเขาคว้าแขนเธอเอาไว้อย่างกะทันหันยังไม่ทันตั้งตัว อีกอย่างหลินเสี่ยวเหยาก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ จึงส่งผลให้เธอเสียหลักเกือบหงายหลังล้มลงไป แต่ว่าจางเหวินชิงก็คว้าเอวเล็กของเธอเอาไว้ได้ทัน ร่างบอบบางของเธอจึงได้เข้าไปอยู่ในวงแขนแกร่งของเขา แผ่นหลังนุ่มนิ่มแนบชิดกับหน้าอกแกร่ง หลินเสี่ยวเหยารู้สึกราวกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อต แม้ว่าวิญญาณของนภาจะมาอาศัยอยู่ในร่างนี้ แต่ทว่าความทรงจำและความรู้สึกแปดส่วนในสิบส่วนยังคงเป็นของหลินเสี่ยวเหยาคนเดิม "เป็นอะไรหรือเปล่า ?" จางเหวินชิงถามเธอออกมา หลินเสี่ยวเหยารีบเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขาทันที "ไม่เป็นไร" พูดจบเธอก็วิ่งตรงเข้าไปในห้องของลูกชาย ปิดประตูลงกลอนทันที จางเหวินชิงมองตามหลังเธอไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันกับหลินเสี่ยวเหยา เมื่อกี้เขาเองตอนที่สัมผัสร่างกายของเธอก็รู้สึกราวกับว่าโดนกระแสไฟฟ้าช็อตเช่นเดียวกัน ที่เขาคว้าแขนเธอไว้แบบนั้นเพราะตั้งใจจะถามเธอเรื่องหย่า แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะว่าเธอหายเข้าไปในห้องของจ้าวเหวินและหากให้เดาเธอคงจะปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย จางเหวินชิงเหม่อลอย เดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง เมื่อสักครู่นี้เหมือนหลินเสี่ยวเหยาจะพูดถึงเรื่องหย่า เขาไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือแค่เรียกร้องความสนใจ เพราะยังไงคุณย่าก็คงไม่ยอมแน่ ๆ แต่พอได้ยินแบบนี้เขากลับรู้สึกไม่พอใจ ได้แต่บอกกับตัวเองว่าควรเป็นเขามากกว่าที่จะเอ่ยคำว่าหย่าออกมา "ชิ !" กู่เยี่ยนถิงที่ยืนแอบมองจางเหวินชิงและหลินเสี่ยวเหยาคุยกันอยู่ สบถออกมาด้วยความไม่พอใจ ไหนบอกว่าไม่เคยรักภรรยาคนนี้ไงล่ะ แต่ท่าทางเมื่อกี้ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ "สงสัยเราคงต้องรีบเริ่มแผนการณ์แล้วล่ะ" กู่เยี่ยนถิงพึมพำบอกกับตัวเองเบา ๆ อีกไม่ถึงอาทิตย์เธอก็จะต้องย้ายออกจากที่นี่ เพราะว่าจางเหวินชิงได้ซื้อบ้านให้เธอแล้ว ถึงแม้จะรู้สึกดีที่เขาซื้อบ้านหลังใหม่ในหมู่บ้านหรูให้เธอ แต่เธออยากอยู่ที่นี่มากกว่า เพราะคนที่สมควรจะไปจากคฤหาสน์หลังนี้ ควรจะเป็นหลินเสี่ยวเหยากับจางจ้าวเหวินไม่ใช่เธอ แต่ว่าในตอนนี้กู่เยี่ยนถิงคงทำได้แค่เพียงยอมโอนอ่อนไปก่อน เธอไม่อยากทำตัวเรื่องมากให้จางเหวินชิงรำคาญใจ อุปสรรคใหญ่ของเธอนอกจากสองแม่ลูกนั่นแล้ว เธอยังสืบทราบมาอีกว่ายังมีอีกคนก็คือคุณย่าของเขา เพราะฉะนั้นเธอควรจะกำจัดอุปสรรคนี้ให้หมดสิ้นไปเสียก่อน กู่เยี่ยนถิงล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง เธอนึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับจางเหวินชิงเมื่อตอนกลางวัน ตอนที่ไปดูบ้านหลังใหม่ "เหวินชิงคะ บ้านที่นี่มันราคาแพงมากไป เราไปดูที่หมู่บ้านอื่นดีกว่าค่ะ" "ไม่แพงหรอก เอาที่นี่แหละสะดวกสบาย ความปลอดภัยก็สูงด้วย" พอเขาพูดจบเธอก็ยิ้มกว้าง แล้วก็เดินไปเกาะแขนเขาอย่างออดอ้อน พร้อมกับพูดออกมาเสียงอ่อนหวาน "ขอบคุณมากเลยนะเหวินชิง ฉันรักคุณ" จางเหวินชิงชะงักไปเล็กน้อย เขาแกะแขนของเธอออกอย่างสุภาพ แล้วก็เดินไปดูห้องอื่นภายในบ้าน กู่เยี่ยนถิงจึงจำต้องรีบเดินตามเขาไป "เหวินชิงคะ ดูท่าทางคุณไม่สบายใจ เป็นเพราะฉันหรือเปล่า ?" พอเดินทันเขา เธอก็เอ่ยถามออกมาเสียงแผ่ว จางเหวินชิงจึงเอื้อมมือมาลูบศีระษะเธอเบา ๆ "ไม่มีอะไรหรอกอย่าคิดมาก แค่เธอกลับมานี่ฉันก็ดีใจมากแล้ว ตกลงเอาหลังนี้นะ ?ฉันจะได้ทำสัญญาซื้อขายเลย" "ตามใจคุณค่ะ" พูดจบเธอก็ทำท่าจะเดินไปเกาะแขนเขาอีกครั้ง แต่ว่าจางเหวินชิงกลับรีบเดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่ของโครงการหมู่บ้านโดยที่ไม่รอเธอ "หรือว่าเวลาห้าปีที่เหวินชิงกับเสี่ยวเหยาอยู่ด้วยกัน มันอาจจะนานเกินไป ?" กู่เยี่ยนถิงตั้งคำถามกับตัวเอง แต่ว่ายังไงในตอนนี้เธอก็คงถอยไม่ได้แล้ว เพราะว่าจางเหวินชิงคือบ่อเงินบ่อทองของเธอหนึ่งเดือนต่อมา จางเหวินชิงกับหลินเสี่ยวเหยาได้มาเที่ยวที่ต่างประเทศด้วยกันลำพังสองคน ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะลองให้โอกาสกันและกันดู แล้วก็ลองศึกษาดูนิสัยใจคอกันใหม่ด้วย ซึ่งคุณย่าทวดและจางจ้าวเหวินต่างก็เห็นดีเห็นงามด้วยกับทั้งคู่โดยก่อนที่หนุ่มสาวทั้งสองจะเดินทางมาต่างประเทศ คุณย่าทวดก็ได้กำชับหนักแน่นว่าให้หลินเสี่ยวเหยารีบมีน้องของจางจ้าวเหวินเร็ว ๆ และพอบอกเรื่องนี้กับเจ้าตุ้ยนุ้ย เด็กน้อยก็เฝ้ารอคอยน้องชายกับน้องสาวอยู่ตลอดเวลา"เหวินชิง คุณดูนั่นสิ"หลินเสี่ยวเหยาชี้ชวนให้จางเหวินชิงดูกุหลาบแดงช่อใหญ่ ที่วางขายอยู่ตรงริมฟุตบาท เขามองดูเธอด้วยสายตารักใคร่ เพราะเธอทั้งสดใสน่ารักและก็ไม่ใช่คนเอาแต่ใจอย่างที่ผ่านมาเลย "อยากได้เหรอ ?"เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยน พร้อมกับจูงมือเธอพาเดินไปที่กุหลาบสีแดงช่อนั้น "อืม..ก็มันทั้งสวยแล้วก็หอมด้วย"เธอตอบเขาพลางก้มลงมองกุหลาบช่อนั้นใกล้ ๆ จางเหวินชิงจึงถามราคาจากคนขายแล้วก็จ่ายเงิน เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาก็ส่งกุหลาบแดงช่อนั้นให้เธอ หลินเสี่ยวเหยารับมันมาถือเอาไว้แนบอก ก้มลงดอมดมกลิ่นหอมของมัน"ขอบคุณมากค่ะ"เธอกล่าวขอบคุณเขาออกมาด้วย
ในตอนเช้าหลินเสี่ยวเหยางัวเงียตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของจางเหวินชิง จึงรีบขยับตัวเพื่อจะออกจากอ้อมแขนของเขา "จะรีบลุกไปไหน ยังเช้าอยู่เลย ?"แต่ว่าจางเหวินชิงกลับไม่ยอมปล่อย เขากลับกอดกระชับอ้อมแขนแกร่งรัดตัวเธอให้แน่นขึ้น "คุณ..ปล่อยนะ"เธอบอกเขาเสียงห้วน สายตามองหาร่างอ้วนกลมของลูกชาย ก็พบว่าจางจ้าวเหวินนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียง"เมื่อก่อนคุณรังเกียจฉันอย่างกับอะไรไม่ใช่หรือไง ?"จบประโยคของเธอ จางเหวินชิงจึงได้คลายอ้อมแขนออก สายตามีแวววูบไหวอยู่ในนั้น แต่หลินเสี่ยวเหยาไม่ได้สนใจท่าทางของเขา ปีนลงจากเตียงและไปปลุกลูกชายให้ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนจางเหวินชิงจึงได้ลุกขึ้น เขากลับไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องนอนของตัวเอง และไปนั่งรอสองแม่ลูกที่โต๊ะทานข้าว"วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ ?"คุณย่าเอ่ยถาม เพราะเห็นว่าวันนี้เขาใส่ชุดลำลอง เสื้อยืดสีเทาแขนยาวแล้วก็กางเกงสแล็คสีกรมท่า ไม่ใช่ชุดสูทสำหรับไปทำงาน"ผมจะไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนของจ้าวเหวินครับ""คุณย่าไปด้วยไหมครับ ?"จางจ้าวเหวินเดินเข้ามาพร้อมแม่ ทันได้ยินที่คุณย่าคุยกับพ่อ เขาจึงชวนท่านไปด้วย "ไม่ล่ะ หนูไปกับคุณพ่อค
"ฉันคุยกับคุณย่าแล้ว ท่านไม่มีปัญหาค่ะ รอแค่เราสองคนพร้อมเท่านั้น ท่านเคารพการตัดสินใจของเรา"คำพูดของหลินเสี่ยวเหยาสะท้อนกลับไปกลับมาในโสตประสาทของจางเหวินชิง จู่ ๆ เขาก็ไม่อยากหย่ากับเธอขึ้นมา ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยจะว่าไปแล้วที่หลินเสี่ยวเหยามีนิสัยที่ไม่ดีหลายอย่าง ทั้งตามหึงหวง เหวี่ยงวีนผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ความผิดส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเขาเอง เขาไม่เคยให้เกียรติเธอในฐานะภรรยา เย็นชาและไม่เคยพูดดีกับเธอเลยสักครั้ง แถมยังท้ทเธอหย่าเกือบทุกวัน จนเธอต้องสร้างเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่พอมาวันนี้เธอหยุดทำแบบนั้นและเป็นคนเอ่ยปากเรื่องหย่าขึ้นมาเองเขากลับรู้สึกเจ็บจางเหวินชิงยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก อยากจะข่มตาให้นอนหลับ แต่มันก็หลับไม่ลง เขาเลื่อนมือลงไปลูบตรงสะบักเอวของตัวเองเบา ๆ'ไตของเธอข้างหนึ่งอยู่กับเขา'หลินเสี่ยวเหยาคงรักเขามากจริง ๆ แม้แต่อวัยวะในร่างกายยังยอมเสียสละให้เขาได้ นี่เขาตามืดบอดมองไม่เห็นความรักของเธอได้ยังไงกัน แต่กับกู่เยี่ยนถิงเขากลับหลงเชื่อและงมงาย คิดว่าเธอรักเขาจริง ๆ แต่แท้จริงแล้วเธอวางแผนทุกอย่างเพื่อใช้เขาเป็นสะพานไปสู่ความต้
หลังจากเรื่องของกู่เยี่ยนถิงผ่านไป ถึงแม้ว่าความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลินเสี่ยวเหยาและจางเหวินชิงก็ไม่ได้ดีขึ้นจากแต่ก่อนเลยหลินเสี่ยวเหยาโกรธที่จางเหวินชิงไม่ยอมจัดการตอนที่รู้ว่ากู่เยี่ยนถิงปองร้ายจางจ้าวเหวิน ส่วนตัวจางเหวินชิงนั้นเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เรื่องราวไม่ดีต่าง ๆ เกิดขึ้นมา รวมทั้งเรื่องที่ความจริงแล้ว คนที่มอบไตให้เขาก็คือหลินเสี่ยวเหยาไม่ใช่กู่เยี่ยนถิงด้วยจางเหวินชิงกินนอนที่บริษัทเป็นส่วนใหญ่ เขาแทบไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เลย แม้แต่คุณย่าเองที่เมื่อก่อนจะเป็นเดือดเป็นร้อนทุกครั้งที่เขาไม่ยอมกลับบ้าน มักจะคอยโทรตามขอร้องกึ่งบังคับให้เขากลับ แต่ตอนนี้ท่านกลับไม่ทำแบบนั้นเลย"พ่อคร้าบบ"วันนี้เป็นวันเสาร์ จางจ้าวเหวินไม่ได้ไปโรงเรียน เขาจึงมาหาจางเหวินชิงที่บริษัท เนื่องจากว่าพ่อไม่กลับบ้านนานนับเดือนแล้ว เจ้าตุ้ยนุ้ยคิดถึงพ่อมาก จึงขอให้แม่พาเขามา "จ้าวเหวิน มาได้ยังไง ?"ร่างอ้วนกลมของจางจ้าวเหวินวิ่งเข้าไปหาพ่อที่ห้องทำงาน จางเหวินชิงก้าวยาว ๆ ไปหาลูกชาย แล้วก็ย่อตัวลงอุ้มเจ้าตุ้ยนุ้ยขึ้นมา เขากอดคอพ่อเอาไว้แล้ว
ราว ๆ ห้าโมงเย็นจางเหวินชิงก็กลับมาถึงคฤหาสน์ เขารีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก เพราะเกาถานแจ้งว่า กู่เยี่ยนถิงอยู่ที่นั่น"เยี่ยนถิง คุณมาทำไม ?"เขาถามเธอออกไปด้วยความโมโห แล้วก็กระชากแขนเธอให้ลุกขึ้น"ก็คุณไม่ยอมไปหาฉัน พอฉันไปหาคุณที่บริษัทคุณก็ไล่ฉันกลับ ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณโกรธฉันเรื่องอะไร ?"กู่เยี่ยนถิงถามเขาเสียงเครือ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาคลอหน่วย "เยี่ยนถิง เพราะอะไรคุณรู้ดีที่สุด"จางเหวินชิงบอกกับเธอเสียงเย็นชา กู่เยี่ยนถิงชะงักไป อย่าบอกนะว่าเขารู้อะไรมา แต่ว่าเธอก็ยังคงบีบน้ำตาและถามเขาออกมาเสียงสั่น ดูช่างน่าสงสาร"รู้อะไรคะ ?""เลิกเสแสร้งเถอะ ผมรู้เรื่องหมดแล้วทั้งเรื่องที่คุณวางยาจ้าวเหวินเพื่อจะโยนความผิดให้เสี่ยวเหยา แล้วก็ที่คุณวางยาเดวิด เพราะว่าคุณเป็นคนสั่งให้เขามาจับตัวเสี่ยวเหยา คุณย่าและจ้าวเหวิน"เขาพูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ ย้ำชัด ๆ ให้ผู้หญิงตรงหน้าได้ยิน แต่ว่ากู่เยี่ยนถิงกลับปฏิเสธ"ไม่จริงค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น แม้แต่มดสักตัวฉันยังไม่เคยฆ่า แล้วฉันจะวางยาเดวิดกับลูกชายคุณได้ยังไง !?""คุณหยุดพูด และกลับไปเสียเถอะแล้วก็อย่ามายุ่งกับผมอีก ผมไม่
"เหวินชิงคะ"กู่เยี่ยนถิงมาดักรอพบเขาที่บริษัท แต่ว่ารปภ. ไม่ยอมให้เธอเข้าไปเพราะจางเหวินชิงสั่งเอาไว้ เธอไม่มีข้ออ้างแล้วด้วยเพราะงานถ่ายแบบที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับจางกรุ๊ปนั้นถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงหวานทันทีที่เขาก้าวลงมาจากรถ กู่เยี่ยนถิงมารอเขาที่ลานจอดรถตั้งแต่เช้าแล้ว เพราะว่าจางเหวินชิงไม่ยอมไปหาเธอเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวคนในครอบครัวเขา พอเธอโทรหาและถาม เขาก็บอกว่างานยุ่ง"เยี่ยนถิง มาทำไม ?"น้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมานั้น กู่เยี่ยนถิงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน แม้จะโกรธแต่ก็ต้องระงับเอาไว้ เอ่ยบอกเขาเสียงอ่อนหวาน"ฉันคิดถึงคุณ"พูดจบก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อจะเกาะแขนเขา แต่จางเหวินชิงสะบัดแขนออก"กลับไปเถอะเยี่ยนถิง แล้วก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก""อะไรกันคะเหวินชิง ทำไมพูดแบบนี้ คุณโกรธเรื่องอะไร ?"เธอรีบถามเขาเสียงแผ่ว น้ำตารื้นขึ้นมาทันที สบตากับเขาใบหน้าแดงก่ำ ราวกับเจ็บปวดนักหนา ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน จางเหวินชิงจะรีบกอดและเอ่ยปลอบใจเธอทันที แต่ว่าวันนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"คุณกลับไปเถอะ"เขาพูดเพ