Home / รักโบราณ / แม่หมอแห่งซูโจว / 39. ส่งเด็กน้อยเข้าสำนักศึกษา (1)

Share

39. ส่งเด็กน้อยเข้าสำนักศึกษา (1)

last update Last Updated: 2025-06-28 19:39:57

หลังจากวันที่อี้หานพาลี่มี่ไปแนะนำกับครอบครัวสกุลโจว โจวฟู่เฉียนก็ได้เร่งเข้ามาพูดคุยกับท่านยายเหมาไป่ ทั้งยังส่งมอบของหมั้นให้สมฐานะของสกุลโจวและบุตรชายที่เป็นถึงท่านเจ้าเมือง ในส่วนของพิธีแต่งงาน อี้หานได้ประกาศออกไปว่า จะมีพิธีมงคลก็ต่อเมื่อสามารถจับตัวคนร้ายที่กระทำผิดมาลงโทษได้แล้วเท่านั้น เมื่อประกาศไปดังนั้นชาวบ้านก็แห่สรรเสริญท่านเจ้าเมืองกันยกใหญ่ที่เห็นแก่ทุกข์สุขของชาวเมืองมากกว่าความสุขส่วนตน

“พี่ว่าอาภรณ์สีฟ้าเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก ใส่แล้วน่ารักยิ่ง” ลี่มี่มองน้องชายที่สวมอาภรณ์สีฟ้าสดใสแล้วยิ่งรู้สึกเอ็นดูน้องชาย เหมาไป่และผิงผิงเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับลี่มี่

“มิได้! เจ้าเด็กขี้แยเป็นคนซุ่มซ่าม ประเดี๋ยวก็ทำเสื้อผ้าเปื้อน…ใส่สีดำนี่” หวังเยี่ยนชี้นิ้วไปที่อาภรณ์สีดำ

“ยายเองก็คิดเช่นเดียวกับอาเยี่ยนว่า ใส่เสื้อผ้าสีดำจะได้มิเปื้อนง่าย”

“สีดำมิน่ารักสักนิด อาเยี่ยนเอาไปใส่เองเถิด” หลังจากที่ลี่มี่หมั้นหมายกับอี้หาน การเรียกขานและการพูดคุยจึงดูสนิทสนมกันมากขึ้น แต่หวังเยี่ยนก็ยังมิเรียกลี่มี่ว่าท่านแม่เสียที

“พี่สาวแก้มเขียวจะให้อาหมิงไปทำตัวน่ารักหรือจะให้ไปเรียน หืม” เสียงถก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • แม่หมอแห่งซูโจว   44. หายไป (2)

    “อาหมิง เบื่อหรือไม่” หวังเยี่ยนที่ละเล่นมาทั้งวัน ก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา ทั้งเวลานี้ก็จะเข้าปลายยามโหย่วแล้ว (17:00 – 18:59 น.) แต่ท่านพ่อและพี่สาวแก้มเขียวก็ยังไม่กลับเรือนเสียที“มิเบื่อขอยับ นี่ น้องวาดปลาได้แย้ว~”“อืมๆ”“คุณชายเบื่อหยือขอยับ” ลี่หมิงเมื่อเห็นว่าคุณชายนอนนิ่งมิไหวติง ก็เข้าไปถามไถ่“อืม เบื่อ! เราไปตลาดกันดีหรือไม่”“ไปหาพี่มี่เอ๋อร์ หยือขอยับ”“ใช่ ไปหาท่านแม่สุดที่รักของข้า ไปช่วยนางทำมาหากินเสียหน่อย ข้าจะได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญูบ้าง” ว่าแล้วหวังเยี่ยนก็ลุกพรวดขึ้น ใช้เวลาเพียงไม่นานหวังเยี่ยนและลี่หมิงก็ออดอ้อนพ่อบ้านจาง ขอออกมาพบว่าที่ฮูหยินของเรือนท่านเจ้าเมืองจนได้“อาหมิง เจ้าว่าเราเล่นซ่อนหากันดีหรือไม่ สนุกนะ” เสียงกระซิบของคุณชายทำให้ลี่หมิงนึกลังเล พ่อบ้านจางบอกว่าต้องอยู่กับสาวใช้ตลอดเวลา ห้ามแยกตัวออกไปคนเดียว“แต่เดี๋ยวพี่สาวจะเป็นห่วงเอาได้นะขอยับ” พี่สาวที่ลี่หมิงหมายถึง คือสาวใช้ที่อาสามาส่งพวกเขาไปหาพี่มี่เอ๋อร์ที่สำนักแม่หมอ“ก็เดี๋ยวเราให้นางเป็นคนหาอย่างไรเล่า ไปเถิด” ยังไม่ทันที่ลี่หมิงจะเอ่ยปฏิเสธ หวังเยี่ยนก็ดึงแขนลี่หมิงวิ่งแยกตัวออกไป

  • แม่หมอแห่งซูโจว   43. หายไป (1)

    เช้าวันรุ่งขึ้น อี้หานก็รีบไปที่เรือนเล็ก เพื่อสอบถามเรื่องสร้อยข้อมือที่พบในที่เกิดเหตุ หากว่าท่านยายมีเครือญาติที่ใช้แซ่เหมา อาจทำให้หาตัวคนร้ายได้ง่ายขึ้น“ผู้ที่ใช้แซ่เหมา นอกจากท่านแล้ว ยังมีผู้อื่นหรือไม่ขอรับ”“ในเมืองซูโจวมิมีแล้ว สามียายเดินทางมาจากเมืองอื่น จึงมิมีเครือญาติที่ใช้แซ่เหมาอยู่ในเมืองของเราเลย”“ถ้าอย่างนั้นท่านยายเคยเห็นจี้ข้อมือนี้หรือไม่ขอรับ” อี้หานยื่นสร้อยข้อมือให้กับเหมาไป่ได้ดูอย่างถนัดถนี่เมื่อเห็นสร้อยข้อมือชัดเจนแล้ว เหมาไป่ถึงกับน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ร่างอวบของหญิงชราสั่นเทา จนลี่มี่ที่นั่งประคองอยู่รู้สึกได้“ท่านยาย…”“ฮึก! ท่านได้มาจากที่ใดหรือ มันเป็นของบุตรชายข้า” คำตอบของท่านยาย ทำให้ลี่มี่และอี้หานสบตากันอย่างมิได้นัดหมาย ทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่าบุตรชายท่านยายได้เสียชีวิตไปแล้วเช่นนั้นคนร้ายเป็นผู้ใดกัน เป็นผีสางอย่างนั้นหรือ“ข้าเจอในที่เกิดเหตุฆาตกรรมขอรับ มีผู้อื่นที่ใส่จี้นี้หรือไม่ขอรับ”“มิมี สร้อยข้อมือนี้เป็นข้า ที่ทำให้อาซางกับมือของข้าเอง มีเพียงชิ้นเดียวในแผ่นดิน แต่บุตรชายข้า ฮึก เขาตายไปแล้ว ถึงเขาจะยังมีชีวิตอยู่ เขาก็มิมีทางทำเช่น

  • แม่หมอแห่งซูโจว   42. สิ่งที่เปลี่ยนไป (2)

    “สลักคำว่า เหมา อย่างนั้นหรือ” อี้หานพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา บนเหรียญอีแปะสลักคำว่าเหมาไม่ผิดแน่“สกุลของท่านยายหรือเจ้าคะ ข้าขอดูทีเถิด” ลี่มี่ขยับเข้าไปใกล้อี้หาน“…”“จริงด้วย สลักคำว่าเหมามิผิดแน่ แซ่ของท่านยายก็มีอักษรเช่นนี้เจ้าค่ะ”“ท่านยายมีเครือญาติที่ใดอีกบ้าง” ฟ่งอู๋เอ่ยถามขึ้น เขากลัวว่าคนร้ายจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวสกุลเหมา“ไม่มีเลยเจ้าค่ะ สามีและบุตรของท่านยายตายไปแล้ว แต่ครอบครัวสามีท่านยาย ข้าเองก็ไม่แน่ใจ คงต้องไปถามท่านยายอีกทีเจ้าค่ะ”“อืม พรุ่งนี้ข้าจะถามท่านยายเอง แต่คงต้องรบกวนหรงจี ให้ช่วยหาคนแซ่เหมาในเมืองซูโจวของเรา และประกาศออกไปว่าเรารู้ตัวคนร้ายแล้ว” อี้หานคิดว่าเรื่องบ้านเมืองเช่นนี้ เขาสมควรที่จะเอ่ยปากถามท่านยายด้วยตนเอง“ข้อน้อยยินดีขอรับ”“ข้าขอบใจทุกคนที่มาช่วยเหลือกัน วันนี้กลับไปพักผ่อนก่อนเถิด วันพรุ่งเราจะเร่งหาตัวคนกระทำผิดกันแต่เช้า” ว่าแล้วอี้หานก็จับจูงมือลี่มี่กลับเรือนทันที แต่แม้จะกลับมาถึงเรือนแล้ว ลี่มี่ก็ยังมีภาพน่าสยดสยองเหล่านั้นติดตาอยู่ จนมิกล้าแม้แต่จะก้าวขาออกห่างท่านเจ้าเมือง“นี่ก็ปลายยามฉวีแล้ว (19:00 – 20:59 น.) เจ้ารี

  • แม่หมอแห่งซูโจว   41. สิ่งที่เปลี่ยนไป (1)

    สถานที่เริงรมย์ที่มีเพียงเสียงหัวเราะรื่นเริง ของชายหนุ่มและหญิงสาว กลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นที่แฝงไปด้วยความเสียใจและตื่นกลัว เตียงนอนที่ควรจะมีแพงกลิ่นอายของความสุขเคล้าราคะ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน มิรู้ว่าเลือดมากมายเหล่านั้นเป็นของผู้ใดกันแน่ เพราะในห้องมีคนถึงสามคนที่ถูกฆ่าอย่างทารุณ“เกินไปแล้ว เหตุใดจึงโหดร้ายเช่นนี้” ภาพน่าสยดสยองตรงหน้าทำให้ร่างเล็กถึงกับหันมาซุกอกแกร่ง หลังจากที่ท่านผู้ช่วยมาแจ้งเรื่องราวการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในหอนางโลมหนี่ชิ่ง ลี่มี่ก็รีบขอตามอี้หานมาด้วย แต่มิคิดว่าจะเรื่องราวจะโหดร้ายเช่นนี้“ครานี้ฆ่าไปถึงสามศพเลยหรือ เรียกฟ่งอู๋มาตรวจดูศพแล้วหรือยัง” อี้หานว่า พลางโอบตัวลี่มี่เข้าซุกอกของตนเอง“มาตรวจแล้วขอรับ บัดนี้ท่านหมอกำลังเขียนรายงานอยู่ในอีกห้องขอรับ” หรงจีพยักพเยิดหน้าไปทางห้องข้างๆเหตุคราวนี้เกิดขึ้นในห้องพักส่วนตัวบนหอนางโลมหนี่ชิ่ง ทหารหนุ่มที่พึ่งจะออกเวรยาม เข้ามาเที่ยวสถานที่เริงรมย์ ทั้งยังเรียกสตรีเข้ามาปรนนิบัติถึงสองคน แต่แล้วเรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ทั้งสามคนถูกคนร้ายฆ่าตายอย่างน่าอนาถ ร่างกายมีบาดแผลเหวอะเต็มไปหม

  • แม่หมอแห่งซูโจว   40. ส่งเด็กน้อยเข้าสำนักศึกษา (2)

    อาจารย์ที่รับลี่หมิงเข้ามาเรียน ก็แนะนำลี่หมิงให้ศิษย์คนอื่นๆ รู้จัก จากนั้นก็เริ่มทำการเรียนการสอนตามปกติ ลี่หมิงเองก็ตั้งใจเล่าเรียน เพื่อมิให้เงินทองของพี่อี้หานต้องสูญเปล่า ดังที่พี่สาวได้เอ่ยบอกเอาไว้ แต่แล้วช่วงเวลาที่ยากลำบากก็มาถึง เพราะหลังจากเรียนเสร็จ ท่านอาจารย์บอกให้ศิษย์ทุกคนไปพักทานอาหารมื้อกลางวัน“อาหมิง ไปทานข้าวกับพวกเราหรือไม่” เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยชวนสหายคนใหม่อย่างใจดี“ขออภัยขอยับ น้องเอาอาหารไว้ที่คุณชายโจว ต้องไปเอาก่อนขอยับ”“อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นพวกเราไปทานข้าวก่อนนะ”“ขอยับ” ลี่หมิงอดเสียดายไม่ได้ เขากำลังจะได้สหายคนใหม่แล้วเชียว มือเล็กรีบเก็บของเข้าย่าม แล้วจึงเดินออกไปหาคุณชายโจว ที่มิรู้ว่าบัดนี้ไปอยู่ที่ใดเดินหาอยู่นาน ลี่หมิงก็พบว่าหวังเยี่ยนเองก็กำลังจะเดินมาทางเขาอยู่พอดี“คุณชาย น้องอยู่ตรงนี้”“รู้แล้วๆ ข้ากำลังเดินอยู่นี่อย่างไร” หวังเยี่ยนพาลี่หมิงไปทานมื้อกลางวันใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ประจำของเขามือเล็กนำห่อข้าวที่บ่าวรับใช้เตรียมมาให้ออกมาแกะกินจนหมด ลี่หมิงที่ยังไม่อิ่มก็รีบนำขนมที่เตรียมมาสองชิ้นขึ้นมากิน แต่เด็กอ้วนก็ยังมีน้ำใจแบ่งให้หวังเยี่ยนไ

  • แม่หมอแห่งซูโจว   39. ส่งเด็กน้อยเข้าสำนักศึกษา (1)

    หลังจากวันที่อี้หานพาลี่มี่ไปแนะนำกับครอบครัวสกุลโจว โจวฟู่เฉียนก็ได้เร่งเข้ามาพูดคุยกับท่านยายเหมาไป่ ทั้งยังส่งมอบของหมั้นให้สมฐานะของสกุลโจวและบุตรชายที่เป็นถึงท่านเจ้าเมือง ในส่วนของพิธีแต่งงาน อี้หานได้ประกาศออกไปว่า จะมีพิธีมงคลก็ต่อเมื่อสามารถจับตัวคนร้ายที่กระทำผิดมาลงโทษได้แล้วเท่านั้น เมื่อประกาศไปดังนั้นชาวบ้านก็แห่สรรเสริญท่านเจ้าเมืองกันยกใหญ่ที่เห็นแก่ทุกข์สุขของชาวเมืองมากกว่าความสุขส่วนตน“พี่ว่าอาภรณ์สีฟ้าเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก ใส่แล้วน่ารักยิ่ง” ลี่มี่มองน้องชายที่สวมอาภรณ์สีฟ้าสดใสแล้วยิ่งรู้สึกเอ็นดูน้องชาย เหมาไป่และผิงผิงเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับลี่มี่“มิได้! เจ้าเด็กขี้แยเป็นคนซุ่มซ่าม ประเดี๋ยวก็ทำเสื้อผ้าเปื้อน…ใส่สีดำนี่” หวังเยี่ยนชี้นิ้วไปที่อาภรณ์สีดำ“ยายเองก็คิดเช่นเดียวกับอาเยี่ยนว่า ใส่เสื้อผ้าสีดำจะได้มิเปื้อนง่าย”“สีดำมิน่ารักสักนิด อาเยี่ยนเอาไปใส่เองเถิด” หลังจากที่ลี่มี่หมั้นหมายกับอี้หาน การเรียกขานและการพูดคุยจึงดูสนิทสนมกันมากขึ้น แต่หวังเยี่ยนก็ยังมิเรียกลี่มี่ว่าท่านแม่เสียที“พี่สาวแก้มเขียวจะให้อาหมิงไปทำตัวน่ารักหรือจะให้ไปเรียน หืม” เสียงถก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status