Share

แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า
แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า
Author: ต้าเหนิง

ย้อนกลับไปเมื่อ17 ปีที่แล้ว

last update Last Updated: 2025-05-14 08:53:53

ย้อนไปเมื่อ17ปีที่แล้ว หญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยว ชื่อซูซ่านนางเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนถูกรับเลี้ยงจากยายชราอายุ60ปี จนซูซ่านเติบใหญ่โตเป็นสาวอายุสิบเจ็ดหน้าตาสะสวยผิวขาวนวลผ่องสูงประมาณ 164 ซ.ม นางมีความใฝ่ฝันอยากจะหาเงินได้เยอะ ๆ เพื่อให้มีฐานะดีขึ้นจะได้ไม่ต้องลำบากนางจึงรับจ้างทำงานทุกอย่างเท่าที่สามารถจะทำได้ แม้กระทั้งงานก่อสร้างนางก็ยอมทำ แต่หากจะให้นางไปขายตัวนางไม่ยอม ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นสายตาแม่เล้าในยานทางเมืองลั่วหยางอยู่ห่างจากราชวังศ์ชิงประมาณหกลี้ ซึ่งเป็นแถบที่ผู้คนเที่ยวเยอะที่สุด อยู่มาวันหนึ่งซูซ่านอยากมาดูเทศการวันตรุษจีนนางจึงขอแม่นางเดินทางไปที่นั้น แม่นางนั้นเห็นว่านางเริ่มเป็นสาวแล้วคงอยากเที่ยวตามประสานารีนึกเหมือนดอกไม้ที่กำลังออกดอก อยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องธรรมดา

“ไปเถิด อย่ากลับมามืดค่ำละกันมันอันตราย “ น้ำเสียงพลางบอกกล่าวในลำคอที่เบาดังใบไม้แห้งเหี่ยวกล่าว ตักเตือนบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ไม่ทันจะได้พูดอีกคำซูซ่านก็เดินออกจากเรือนเลยไม่ได้ยินสิ่งที่แม่จะพูดต่อไป จนเจอรถม้าผู้ที่พอมีฐานะมีรถม้าประจำบ้านกำลังออกเดินทางไปยังลั่วหยาง ทันทีที่เห็นซูซ่านวิ่งตามมาจึงหยุดรถม้าทันที ไม่รู้ว่านางนั้นวิ่งมาตามนานแค่ไหนแล้วเศรษฐีจึงเอ่ยถาม ในขณะที่นางเดินย่อเข่าปวดเมื่อยไปทั้งตัว

“ซูซ่านเจ้าอยากไปด้วยรึ “

ซูว่านพยักหน้าตอบรับแลดูหน้าเศร้าหมองกลัวว่าจะไม่ได้ไปด้วย ทันใดนั้นท่านเศรษฐีจึงยิ้มร่าเอ็นดูหญิงสาว พร้อมเปิดประตูรถม้าให้นางขึ้นมานั่งด้านใน ซูซ่านเห็นเช่นนั้นจึงเข้าใจรีบขอบคุณท่านเศรษฐีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยน้ำเสียงสีหน้าแววตาที่ยังอ่อนต่อโลกใบนี้ ในระหว่างเดินทางนั้น หญิงสาวอายุราว45 ปี หรือท่านเศรษฐีที่ซูซ่านชอบเรียกแทนชื่อจริง นางได้เอ่ยถามซูซ่านว่าโตขึ้นนางอยากเป็นอะไร ซูซ่านจึงตอบอย่างมั่นใจว่านางนั้นอยากมีพื้นที่ดินหลายแปลงจะได้ปลูกพืชผักขายเองอยู่แบบสามัญชนทั่วไป เศรษฐีได้ฟังคำตอบของซูซ่านแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง

“เจ้าไม่อยากเข้าวังเป็นนางสนมรึ ผู้ใดก็อยากเป็นทั้งนั้น “

ซูซ่าน “ ไม่ข้าไม่เคยนึกถึงเรื่องนี่ ข้าเพียงนึกแต่ว่าหากท่านแม่ข้าแก่ตัวลงไปผู้ใดจะดูแลหากข้าออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ในที่ห่างไกล “

เศรษฐีได้ฟังคำตอบแล้วก็เอ็นดูหญิงสาวที่มีความดีไม่ทอดทิ้งผู้มีพระคุณและนางต่างจากสตรีทั่วไปมากหากโตขึ้นมากกว่านี้หากคิดจะมีคู่ครองต้องหาคนที่มีความคิดนิสัยใจคอเช่นเดียวกันไม่เช่นนั้นไปกันไม่รอด เศรษฐีจึงเอ่ยบทกลอนสุภาษิต สอนซูซ่านที่กำลังจะโตเป็นสาวให้ชายหมายตามองเชยชม

“แม้นหากชายใดหมายประสงค์มาหลงรัก

ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น อันความรักของชาย

นี้หลายชั้นเขาว่ารักรักนั้นประกาศใด “

“จำคำข้าไว้เจ้าอย่าได้หลงกลบุรุษเพียงเพราะคำว่ารัก หากชายผู้นั้นรักเจ้าจริงการกระทำมันบ่งบอกมากว่าคำพูด สิ่งที่ข้าบอกสอนเจ้าอย่าได้ลืมเป็นอันขาด “

ซูซ่าน “ ข้าจะไม่ลืมในสิ่งที่ท่านบอกสอนข้า “

“ดีแล้ว “

09.00 เมืองลั่วหยาง

ซูซ่าน “ท่านหญิงข้ายังไม่รู้จักซื่อของท่านเลย “

เฟยเถา “ ข้าชื่อว่าเฟยเถา “

ซูซ่านจึงเรียกน้าเฟยเถาอย่างเป็นทางการ แลมองหน้าเฟยเถาแล้วปิดฝ่ามือที่มีแผลแขนหลังไขว้กำมือซ่อนด้านหลังในท่ามกลางผู้คนที่กำลังเดินทางมาวันตรุจีน ด้วยเสื้อผ้าที่สง่างามมีแต่ซูซ่านที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาด ๆ ที่เก่าแล้ว นางจึงไม่กล้าเดินกับเฟยเถากลัวผู้อื่นจะนินทาเฟยเถาว่าเอาสาวรับใช้มาเที่ยวเตร่งานตรุจีนด้วยสภาพเหมือนหมาป่าที่ยังไม่อาบน้ำ เฟยเถาจึงเข้าใจทันทีเลยเดินจูงมือซูซ่านเข้ามาในร้านเสื้อผ้าให้เจ้าของร้านปรับแปลงแต่งโฉมให้งดงามที่สุดโดยเฟยเถานั้น บอกซูซ่านว่าจะออกค่าใช่จ่ายเอง

ซูซ่าน “ท่านน้า ข้าเกรงใจท่าน “ ซูซ่านยืนกอดเสาหน้าร้านไม่ยอมเข้าร้านนั่งย่อตัวลงเม้มฝีปากรัดแน่นก้มหน้าก้มหน้าก้มตาดูสภาพตัวเอง เลยได้แต่นึกในใจว่านางนั้นเป็นแค่หญิงยากจนไม่มีเงินทองจะคู่ควรแก่เสื้อผ้าพวกนี้หรือ เฟยเถาจึงย่อตัวนั่งเป็นเพื่อนนางจนซูซ่านมองไปรอบ ๆ ที่ผู้คนกำลังเดินผ่านมองนางด้วยสายตารังเกียจทันใดนั้นซูซ่านจึงรีบลุกขึ้นแล้วขอร้องให้เฟยเถาอย่าทำเช่นนี้

ซูซ่าน “ ท่านน้าท่านลุกขึ้นเถิด “

เฟยเถา “ ไม่ !จนกว่าเจ้าจะยอมแปลงโฉม “

ซูซ่าน “งั้นข้าจะทำงานแลกเงินเก็บทีละเล็กน้อยเพื่อหาเงินมาคืนค่าชุดที่ท่านเลือกให้ “ ซูซ่านกระซิบเสียงเบา ๆ อย่างร้อนใจ กลอกตาไปมาจนไม่กล้าสบตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา

เฟยเถา “ ก็ได้ เจ้าเข้าไปด้านในข้าจะรออยู่ด้านนอก “

เมื่อ เจ้าของร้านเห็นนางยืนหน้าตายตัวแข็งทื่อสายตามองดูเสื้อขาด ๆ ที่เป็นรูเล็ก ๆ และผมเผ้าที่รุงรังผิวหน้าทั้งลำตัวไม่เคยถูกเครื่องปะแป้ง เลยจับนางอาบน้ำขัดผิวข้อศอกและหัวเข่าที่ดำด้านเล็กน้อย

ซูซ่าน “ ข้าอาย “ ซูซ่านนั้นเขินอายเพราะไม่เคยแก้ผ้าให้ผู้ใดเห็นจึงคว้าเอาผ้ามาปิดลำตัวกอดอกรัดแน่นยืนชิดกำแพงขดตัวเล็กน้อย ดวงตาปรือสำเหลืองมองไปที่อ่างอาบน้ำ

“ข้าก็เป็นสตรี เหตุใดเจ้าต้องอาย “ เจ้าของร้านยืนค้ำเอวพยายามเอ่ยบอกให้ซูซ่านเข้าใจ

ซูซ่าน “ ข้า.... ? “ หลังจากนั้นนางก็ยอมเอาผ้าคลุมตัวออกนางคิดเสียว่านางนั้นอยู่ในห้องคนเดียวยอมลงอ่างอาบน้ำทั้งที่ตัวเกร็งไปหมดแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   จบ

    บทที่20ปรับความเข้าใจโหย่วเฉา “ฟางเหรินเจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายปีที่ผ่านมาข้าตามหาเจ้ามาตลอด ตอนนั้นเมื่อข้ารู้ข่าวว่าเจ้าถูกโจรฆ่าตายข้านั้นก็แทบใจสลาย ได้แต่มองเจี้ยวจ้านเป็นตัวแทนของเจ้า เพราะลูกเจ้าช่างนิสัยเหมือนเจ้าหากไม่มีเจี้ยวจ้านปานนี่ข้าคงตรอมใจตาย “เฟยเถา “เป็นท่านไม่ใช่รึ ที่เบื่อข้าและให้ชายารองมายื่นใบหย่าให้ข้าลงนาม “โหย่วเฉา “เจ้าว่าอะไรนะ ข้ารึขอหย่าเจ้าข้าไม่เคยขอหย่าเจ้าและไม่เคยเบื่อเจ้าเลย “เฟยเถา “แล้วเหตุใดชายารองของท่านถึงบอกข้าเช่นนั้น “โหย่วเฉา “ ‘งั้นเจ้าก็ไม่ได้ถูกโจรฆ่าตาย “เฟยเถา ใช่ข้าถูกผลักตกหน้าผา แล้วนางยังบอกอีกว่าท่านไม่ต้องการข้าแล้ว “ทั้งสองปรับความเข้าใจกันอยู่นานพอสมควร จนในที่สุดก็เข้าใจกันเสียที เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากชายารองที่ริษยาอยากขึ้นเป็นชายาเอกเลยทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเฟยเถาออกไปจากชีวิตโหย่วเฉา ทั้งสองต้องการบอกเรื่องนี่ให้ซูซ่านกับเจี้ยวจ้านนั้นรู้ความจริง เฟยเถาจึงเรียกซูซ่านกับเจี้ยวจ้านเข้ามาด้านในตำหนัก จนเวลาผ่านไปสามชั่วโมง ซูซ่านกับเจี้ยวจ้านจึงเข้าใจทุกอย่างและได้รู้ว่าพ่อของลูกในคืนนั้นคือเจี้ยวจ้าน และเจี้ยวจ้า

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ความจริง

    บทที่19ตงหยางกับน้องทั้งสี่ได้ยินว่าท่านโหย่วเฉามาถึงแล้ว จึงรีบออกจากตำหนักเพื่อมาถามไถ่อาการ จนโหย่วเฉาที่ยืนอยู่ ต้องค่อย ๆ เดินไปนั่ง เพราะตอนนี่เด็กแฝดทั้งห้ากำลังล้ายล้อมตัวเองไว้อยู่โหย่วเฉา “ใจเย็น ๆ ลูก ๆ ของเจ้าช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน “ซูซ่าน “เด็กก็ชนเช่นนี้อย่าได้ถือสาเลย “โหย่วเฉา “ ข้าจะถือสาลูกเจ้าลงได้เช่นไร “ป๋อหลิน “ท่านโหย่วเฉาอาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง “โหย่วเฉา “อาการข้าแข็งแรงขึ้นมาก เป็นเพราะเจ้าที่ช่วยชีวิตข้าไว้ “หลังจากนั้นป๋อหลินได้ทำการรักษาท่านโหย่วเฉาเป็นครั้งที่สองจนตอนนี้หมอหลวงในวังเริ่มสงสัยโหย่วเฉาแล้ว จึงได้นำเรื่องนี่ไปเข้าเฝ้าพระมเหสีก่อนที่โหย่วเฉาจะมาตำหนักซูซ่าน ตอนนี่ไหน ๆ ท่านโหย่วเฉาก็ได้มารักษาตัวและจะต้องอยู่อีก สามชั่วโมงซูซ่านจึงคิดอยากทำของว่างมาให้โหย่วเฉาและเจี้ยวจ้านได้เคี้ยวเล่นในยามกลางวันเจี้ยยวจ้าน “เจ้าจะไปไหนรึ “.ซูซ่าน “ข้าจะไปทำของว่างมาให้ท่านกับท่านโหย่วเฉา “เจี้ยวจ้าน “ให้ข้าไปช่วยได้หรือไม่ “ ซูซ่านแววตาเปล่งประกายทันทีเมื่อได้ยินเจี้ยวจ้านบอกว่าอยากเข้าไปทำของว่างด้วยซูซ่าน “ก็ได้ ท่านเดินตามข้ามา “ เจี้ยวจ้านส่ง

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ลานแข่ง

    บทที่18 ลานแข่งณ. ลานแข่งด้านการแพทย์ในขณะนี้ลานแข่งด้าน หมอได้เริ่มการแข่งขันขึ้นแล้ว โดยการนำพิษทุกชนิดให้ทุกคนเขียนชื่อลงไปว่าพิษชนิดนี่ชื่ออะไรแล้วอะไรสามารถถอนพิษได้ และที่มาของพืชพิษแหล่งกำเนิดอยู่ที่ใดป๋อหลินส่งงานช้ากว่าเพื่อ ๆ เลยถูกคู่แข่งเยอะเย้ย“ทำเป็นฉลาดไม่รู้เรื่องก็บอกมาเถอะ “ป๋อหลินไม่สนใจได้แต่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจเขียนรายละเอียดต่อไป เมื่อคู่แข่งเห็นว่าป๋อหลินเงียบใส่จึงกระชากกระดาษข้อตอบบนโต๊ะจนขาดเป็นชิ้น ๆ ป๋อหลินจึงลุกขึ้นต่อยหน้าคู่แข่งไปหลายทีในระหว่างนั้นอาจารย์หมอก็ได้เข้ามาพบเห็นจึงรีบผลักป๋อหลินออกแล้วต่อว่าป๋อหลินโดยไม่มีเหตุผล“เจ้าเหตุใดถึงได้ทำร้ายร่างกายคู่แข่งเช่นนี้ “ป๋อหลิน “ท่านอย่าเพิ่งตัดสิ้นในสิ่งที่ท่านเพิ่งเห็นมัน ท่านลองถามคู่แข่งสิ ว่าได้ทำอะไรข้าก่อน “อาจารย์จึงถามคู่แข่งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่คู่แข็งนั้นปากแข็งมากไม่ยอมรับอะไรสักอย่างโทษแต่ป๋อหลินฝ่ายเดียวป๋อหลิน “ท่านอาจารย์ จู่ๆ ชายหน้าด้านก็วิ่งเข่ามาฉีกกระดาษคำตอบของข้า “ท่านอาจารย์จึงหยิบเศษกระดาษที่ขาดออกมาเรียงติดต่อกันแล้วอ่านคำตอบทั้งหมด ซึ่งไม่มีข้อไหนผิดแม้แต่ข้อเดี

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   การแข่งขันไม่เป็นธรรม

    บทที่17เช้า 06.00 เช้านี่ลูก ๆของซูซ่านทั้งสี่ต้องเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันในสิ่งที่ตัวเองนั้นถนัด ทุกตำหนักที่อยู่ติดกันต่างพาลูก ๆ ไปยังลานแข่ง จู่ ๆ เจี้ยวจ้านก็เข้ามาที่นี่พอดีตนจึงอาสา นำตัวเด็ก ๆที่เหลือสามคนไปส่งด้วยตัวเอง ส่วนซูเซียวน้องคนเล็กนั้นเจี้ยวจ้านจะดูแลไม่ให้ห่างกาย เจี้ยวจ้าน " เจ้าไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลลูกสาวเจ้าเป็นอย่างดี " ซูซ่าน " งั้นข้าฝากท่านด้วย " เจี้ยวจ้านได้พาลูก ๆ ซู่ซ่านไปทั้งหมดสี่คน แต่ลงแข่งแค่สามคน ส่วนตงหยางซูซ่านจะไปส่งเอง ณ. ลานแข่งขันด้านวรุยุทธ ซููซ่าน " ตงหยาง ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นเช่นไร ต้องรู้จักการพ่ายแพ้ ไม่ดูถูกคู่ต่อสู้นะลูก " ตงหยางเข้าใจในสิ่งที่ซู่ซ่านพูดแม่ลูกมองหน้ากันอย่างเข้าใจพร้อมเดินเข้าไปข้างในอย่างมั่นใจ แต่ดูสีหน้าคู่แข่งแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียดความกดดันจากผู้ใหญ่ไม่มีผู้ใดยิ้มร่าเริงให้เห็นเลยตวหยาง " ท่านแม่บรรยากาศดูตึงเครียดลูกรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "ซูซ่าน " ครั้งแรกก็เช่นนี่ต่อไปเดี๋ยวก็ชินเองลูก " ในระกว่างที่ตงหยางยืนอยู่ข้าง ๆ ซูซ่านไม่ห่างหายได้มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทักทายอย่างไม่เป็

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   นั่งกินอาหาร

    ดังนั้นเฟยเถากับซูซ่านก็เข้าไปนำอาหารใส่ชามออกมาเพื่อนั่งกินอยู่ด้านนอก จำต้องปล่อยเด็ก ๆไว้ ข้างนอกเพราะนางคิดว่าที่นี่ในวังคงไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรมากมาย ซูซ่าน " ตงหยางลูก พาน้อง ๆไปรอแม่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ห้ามเดินไปที่อื่นเด็ดขาด " ตงหยาง " ขอรับท่านแม่ ข้าจะดูแลน้องๆ เป็นอย่างดี ซูซ่าน " ดีมาก งั้นแม่เข้าไปด้านในก่อน " เมื่อซูซ่านออกไปพ้นสายตาเด็ก ๆ แล้ว ตงหยางก็ได้ทำหน้าที่อย่างที่แม่ขอไว้แต่ในขณะนั้นเลี่ยงจิง จู่ ๆ ก็มาโผล่หัวมาอยู่ที่นี่หมายตั้งใจเดินเข้ามาหาลูก ๆ ของซูซ่าน ด้วยท่าทางผยิ่งสโยไม่เกรงกลัวผู้ใดเลี่ยงจิง " เจ้าเด็กเหลือขอผู้ใดให้เจ้ามาอยู่ใต้ต้นไม้ เหตุใดไม่เข้าไปในครัว " ลูกของซูซ่าน ไม่พอใจที่แม่นางผู้นี่กล่าวหาว่าทุกคนเป็นเด็กเหลือขอทั้ง ๆ ที่แม่ตัวจริงก็มีอยู่แล้ว " ตงหยาง " นางผู้หญิงปากเน่าช่างไม่ลืมหูลืมตา เด็กเหลือขอที่ไหนจะมาอยู่ในวังหลวง โง่แล้วยังอวดเบ่งใส่พวกข้าอีก " เลี่ยงจิงตกใจในคำพูดของเด็กเจ็ดขวบทำให้นางโกรธจนหน้าสั่นยื่นแขนข้างขวาบีบคอตงหยางแล้วใช้แรงผลักจนล้มหัวเข่ากระแทกพื้น น้องทั้งสี่บุกเข้าไปด่าว่าพร้อมใช้กำปั่นน้อย ๆ ฟาดเข้าไปที่

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   อาการป่วยดีขึ้น

    บทที่ 15เจี้ยวจ้าน " ท่านพ่ออาการเป็นอย่างไรบ้าง " เจี้ยวจ้านรีบถามอาการของพ่อตนทันทีในขณะที่ป๋อหลินลูกชายคนที่สองมีสีหน้าที่เริ่มกังวลใจ เจี้ยวจ้านรู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ เจี้ยว " ป๋อหลินอาการท่านลุงเป็นอย่างไรบ้าง "ป๋อหลิน " อาการท่านลุงตอนนี้แย่มากร่างกายมีพิษมากเกินไป ภายในหนึ่งเดือนหากไม่ได้รับการรักษาอาจจะไม่มีชีวิตรอด " เจี้ยวจ้าน " ว่าอย่างไร มีพิษงั้นรึ " ป๋อหลิน " ใช่ขอรับ ในทุก ๆ เช้าท่านลุงได้ดื่มอะไรยามเช้าเป็นประจำหรือไม่ " โหย่วเฉาจึงนั่งนึกอยู่ในใจ แต่ก็นึกไม่ออกเพราะช่วงเช้ามีแต่ยาของหมอหลวงนำมาให้ จึงได้ให้คำตอบป๋อหลินว่าตนนั้นไม่ได้ดื่มน้ำอะไร นอกจากยาของหมอหลวง ป๋อหลินจึงขอให้ท่านเจี้ยวจ้านนำยาของโหย่วเฉาออกมาดู เจี้ยวจ้านก็ไม่ได้มีคำถามอะไรก็ให้ดูตามที่ป๋อหลินนั้นขอ ตอนนี้ยาเม็ดกลม ๆ ได้อยู่ที่ฝ่ามือป๋อหลินแล้วทันใดนั้นเม็ดยาก็ถูกขยี้ให้แตกออกโดยใช้นิ้วมือบี้ไปมาจนเจอสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ข้างใน ป๋อหลิน " นี่มันสมุนไพรมีพิษ " ซูซ่าน " ป๋อหลินลูก เรื่องจริงรึลูกแน่ใจรึ " ป๋อหลิน " ข้ามั่นใจข้าไม่ได้โกหก หากไม่เชื่อท่านลองเอาเศษยาพิษเหล่านี้ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status