แชร์

สวยตะลึง

ผู้เขียน: ต้าเหนิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-14 08:53:58

บทที่2

สวยตะลึง

“เจ้ารูปโฉมงดงามนัก หากโตขึ้นกว่านี้คงมีแต่ชายแลมองไม่หยุด “ ซูซ่านจ้องมองตัวเองในกระจกพร้อมฟังเจ้าของร้านกล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก ในขณะนั้นเฟยเถาก็เดินเข้ามาพอดี

เฟยเถา “เจ้างดงามยิ่งนัก พร้อมออกไปข้างนอกสู้สายตาผู้คนหรือยัง “

ซูซ่าน “ ข้าพร้อมแล้ว “

เด็กสาวซูซ่านก้าวขาบาง ๆ ออกสู่ข้างนอกสู้สายตาผู้คนที่มองมาเห็นสตรีงามพริ้งจนไม่อาจละสายตาแม้กระทั่งกลิ่นอายของความบริสุทธิ์ทำให้บุรุษทุกคนต้องเลียวมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เฟยเถา “ คู่บ่าวสาวเดินคู่กันเต็มไปหมด “ เฟยเถามองไปทางข้างหน้าแหงนเมียงมองท้องฟ้าที่กำลังปกคลุมพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินอย่างเศร้าใจจนผู้คนเดินผ่านเดินชนหัวไหล่นางโดยไม่ได้ตั้งใจ

“แม่นางยืนระวัง ๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะชนท่านต้องขออภัยข้าเองก็ไม่ทันมอง “

เฟยเถารีบขอโทษหญิงชราที่เดินถือข้าวของเต็มไม้เต็มมือมีทั้งอาหารขนมผลไม้พร้อมจูงมือหลายชายตัวน้อยเดินออกจากเทศกาล

เฟยเถา “ ขออภัยข้ามัวแต่เมอ ต่อไปข้าจะระวังให้มากกว่านี้ “

“ไม่เป็นไร งั้นข้าไปก่อนปานนี้ลูก ๆ คงรอข้าอยู่ “ ยายชรายิ้มร่ามองข้าวของที่ชื้อมาพร้อมจูงมือหลานชายออกไปมันช่างอบอุ่นไปทั่วหัวใจ จนนางก็คิดว่าเมื่อก่อนหากครอบครัวไม่แตกแยกครอบครัวนางคงมีความสุข

แต่เรื่องราวมันก็ผ่านมานานแล้วนางจึงหักห้ามใจอย่าได้นึกถึงมันขึ้นมาให้เศร้าใจ ในขณะที่นางกำลังหันมามองหาซูซ่านปรากฏว่านางไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิม แววตาที่กังวลจึงกวาดสายตามองหาซูซ่านจนพบว่าซูซ่านนั้นกำลังยืนมองหน้าร้านผลไม้ในเวลาผู้คนกำลังโกลาหลเลือกผลไม้อยู่หน้าร้านเพื่อชื้อกลับไปฝากครอบครัว เมื่อหันมามองเงินที่อยู่ในกำมือซูซ่านก็ถอดสีหน้าทันที

ซูซ่าน “ข้ามีเงินแค่นี้เอง จะไปพอได้เช่นไร “

เฟยเถา “ข้าจะชื้อให้ “ ซูซ่านตกใจหันมามองเฟยเถา ในมือรีบกำเงินซ่อนไว้ด้านหลัง

ซูซ่าน “ข้าแค่ยืนดูเฉย ๆ ท่านเฟยเถาข้าว่าไปดูละครหน้ากากกันเถิด ดูท่าจะสนุกมาก “

เฟยเถาจึงเดินนำหน้านางไปในขณะที่ซูซ่านแอบมองหน้าร้านผลไม้จนเฟยเถานั้นสังเกตเห็นแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนาง จนทั้งสองมาหยุดอยู่ที่การแสดงละครหน้ากากที่บอกเล่าเกี่ยวกับความรักต่างชนชั้นที่แสดงออกโดยการใส่หน้ากากในเวทีมีพระเอกกับนางเอกที่กำลังยืนสบตากัน พระเอกนั้นใส่หน้ากากสิงโตในความหมายนั้นสิงโตตัวนี้คือราชาแห่งเจ้าป่า ส่วนนางเอกที่ใส่หน้ากากจิ้งจอกน้อยวิ่งไปมารอบ ๆ ป่าอย่างมีความสุขโดยมีผีเสื้อเป็นพยายรักให้ทั้งสองที่โบยบินอยู่รอบ ๆ ไม่ไปที่ใด แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด พ่อกับแม่เจ้าป่านั้นได้มาพบภาพความรักที่มันเป็นไปไม่ได้ จึงเรียกทั้งสองให้หยุดคลอเคลียกันได้แล้ว ทั้งสองตกใจมากแต่ด้วยยึดมั่นในความรักจึงกล้ายืนหยัดไม่ยอมแยกออกจากกัน พ่อพระเอกจึงพุ่งเข้ามาหวังจะฆ่าจิ้งจอกน้อยให้ตายแต่พระเอกนั้นเอาตัวมาบังไว้จนได้รับบาดเจ็บ นางเอกที่ทนเห็นพระเอกนั้นต้องเจ็บเพราะนาง ตัวจึงยอมจำนนบอกพ่อพระเอกว่าเรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก หลังจากนั้นนางก็วิ่งหายเข้าไปในป่านานแสนนานจนพระเอกนั้นได้แต่งงานเพื่อครองบัลลังก์ราชาคนใหม่ต่อไปแทนท่านพ่อ แต่พระเอกนั้นก็ไม่เคยลืมคนที่รักมากอยู่ในหัวใจ เฝ้ารอและเฝ้ารอจนแก่ชราก็ยังไม่มีวี่แววจะพบนางเอก เมื่อละครจบซูซ่านหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว จนเสียงตบมือดังขึ้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าต้องรีบกลับแล้วอยู่นานไม่ได้

ซูซ่าน “ท่านเฟยเถา ข้าอยากกลับแล้วท่านยังอยากอยู่ต่อหรือไม่ “ เฟยเถาส่ายหน้าแล้วพาซูซ่านออกจากบริเวณเวทีละครจนมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านผลไม้จึงได้สั่งให้ซูซ่านยืนรออยู่ที่เดิมห้ามเดินไปที่อื่น

จนกระทั่งเฟยเถากำลังก้าวขาออกจากร้านอย่างเร่งรีบจนสดุดล้มกระแทกพื้นจนฝ่ามือถลอกทันใดนั้น จู่ ๆ รถม้าวิ่งเร็วพุ่งมาที่ซูซ่านพร้อมชายแปลกหน้าอีกสองคนยื่นมือดึงซูซ่านขึ้นรถม้าหายไปต่อหน้าต่อตาท่ามกลางเสียงตกใจตื่นตระหนกวิ่งหนีกลับออกจากงานอย่างชุลมุน เฟยเถารีบลุกขึ้นไม่สนใจผลไม้แล้วจึงเร่งตามหาผู้ควบคุมม้าแต่เฟยเถาไม่อยากตามหาแล้วจึงควบม้าไปเองทั้ง ๆ ที่ฝ่ามือเป็นแผลมีเลือดออกสีหน้าร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด เฟยเถาพยายามแกะรอยตามเพราะจำได้ว่ามีดอกไม้สีเหลืองหล่นร่วงตลอดทางที่พวกมันลักพาตัวซูซ่านตั้งแต่หน้าร้านผลไม้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   จบ

    บทที่20ปรับความเข้าใจโหย่วเฉา “ฟางเหรินเจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายปีที่ผ่านมาข้าตามหาเจ้ามาตลอด ตอนนั้นเมื่อข้ารู้ข่าวว่าเจ้าถูกโจรฆ่าตายข้านั้นก็แทบใจสลาย ได้แต่มองเจี้ยวจ้านเป็นตัวแทนของเจ้า เพราะลูกเจ้าช่างนิสัยเหมือนเจ้าหากไม่มีเจี้ยวจ้านปานนี่ข้าคงตรอมใจตาย “เฟยเถา “เป็นท่านไม่ใช่รึ ที่เบื่อข้าและให้ชายารองมายื่นใบหย่าให้ข้าลงนาม “โหย่วเฉา “เจ้าว่าอะไรนะ ข้ารึขอหย่าเจ้าข้าไม่เคยขอหย่าเจ้าและไม่เคยเบื่อเจ้าเลย “เฟยเถา “แล้วเหตุใดชายารองของท่านถึงบอกข้าเช่นนั้น “โหย่วเฉา “ ‘งั้นเจ้าก็ไม่ได้ถูกโจรฆ่าตาย “เฟยเถา ใช่ข้าถูกผลักตกหน้าผา แล้วนางยังบอกอีกว่าท่านไม่ต้องการข้าแล้ว “ทั้งสองปรับความเข้าใจกันอยู่นานพอสมควร จนในที่สุดก็เข้าใจกันเสียที เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากชายารองที่ริษยาอยากขึ้นเป็นชายาเอกเลยทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเฟยเถาออกไปจากชีวิตโหย่วเฉา ทั้งสองต้องการบอกเรื่องนี่ให้ซูซ่านกับเจี้ยวจ้านนั้นรู้ความจริง เฟยเถาจึงเรียกซูซ่านกับเจี้ยวจ้านเข้ามาด้านในตำหนัก จนเวลาผ่านไปสามชั่วโมง ซูซ่านกับเจี้ยวจ้านจึงเข้าใจทุกอย่างและได้รู้ว่าพ่อของลูกในคืนนั้นคือเจี้ยวจ้าน และเจี้ยวจ้า

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ความจริง

    บทที่19ตงหยางกับน้องทั้งสี่ได้ยินว่าท่านโหย่วเฉามาถึงแล้ว จึงรีบออกจากตำหนักเพื่อมาถามไถ่อาการ จนโหย่วเฉาที่ยืนอยู่ ต้องค่อย ๆ เดินไปนั่ง เพราะตอนนี่เด็กแฝดทั้งห้ากำลังล้ายล้อมตัวเองไว้อยู่โหย่วเฉา “ใจเย็น ๆ ลูก ๆ ของเจ้าช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน “ซูซ่าน “เด็กก็ชนเช่นนี้อย่าได้ถือสาเลย “โหย่วเฉา “ ข้าจะถือสาลูกเจ้าลงได้เช่นไร “ป๋อหลิน “ท่านโหย่วเฉาอาการท่านเป็นอย่างไรบ้าง “โหย่วเฉา “อาการข้าแข็งแรงขึ้นมาก เป็นเพราะเจ้าที่ช่วยชีวิตข้าไว้ “หลังจากนั้นป๋อหลินได้ทำการรักษาท่านโหย่วเฉาเป็นครั้งที่สองจนตอนนี้หมอหลวงในวังเริ่มสงสัยโหย่วเฉาแล้ว จึงได้นำเรื่องนี่ไปเข้าเฝ้าพระมเหสีก่อนที่โหย่วเฉาจะมาตำหนักซูซ่าน ตอนนี่ไหน ๆ ท่านโหย่วเฉาก็ได้มารักษาตัวและจะต้องอยู่อีก สามชั่วโมงซูซ่านจึงคิดอยากทำของว่างมาให้โหย่วเฉาและเจี้ยวจ้านได้เคี้ยวเล่นในยามกลางวันเจี้ยยวจ้าน “เจ้าจะไปไหนรึ “.ซูซ่าน “ข้าจะไปทำของว่างมาให้ท่านกับท่านโหย่วเฉา “เจี้ยวจ้าน “ให้ข้าไปช่วยได้หรือไม่ “ ซูซ่านแววตาเปล่งประกายทันทีเมื่อได้ยินเจี้ยวจ้านบอกว่าอยากเข้าไปทำของว่างด้วยซูซ่าน “ก็ได้ ท่านเดินตามข้ามา “ เจี้ยวจ้านส่ง

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   ลานแข่ง

    บทที่18 ลานแข่งณ. ลานแข่งด้านการแพทย์ในขณะนี้ลานแข่งด้าน หมอได้เริ่มการแข่งขันขึ้นแล้ว โดยการนำพิษทุกชนิดให้ทุกคนเขียนชื่อลงไปว่าพิษชนิดนี่ชื่ออะไรแล้วอะไรสามารถถอนพิษได้ และที่มาของพืชพิษแหล่งกำเนิดอยู่ที่ใดป๋อหลินส่งงานช้ากว่าเพื่อ ๆ เลยถูกคู่แข่งเยอะเย้ย“ทำเป็นฉลาดไม่รู้เรื่องก็บอกมาเถอะ “ป๋อหลินไม่สนใจได้แต่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจเขียนรายละเอียดต่อไป เมื่อคู่แข่งเห็นว่าป๋อหลินเงียบใส่จึงกระชากกระดาษข้อตอบบนโต๊ะจนขาดเป็นชิ้น ๆ ป๋อหลินจึงลุกขึ้นต่อยหน้าคู่แข่งไปหลายทีในระหว่างนั้นอาจารย์หมอก็ได้เข้ามาพบเห็นจึงรีบผลักป๋อหลินออกแล้วต่อว่าป๋อหลินโดยไม่มีเหตุผล“เจ้าเหตุใดถึงได้ทำร้ายร่างกายคู่แข่งเช่นนี้ “ป๋อหลิน “ท่านอย่าเพิ่งตัดสิ้นในสิ่งที่ท่านเพิ่งเห็นมัน ท่านลองถามคู่แข่งสิ ว่าได้ทำอะไรข้าก่อน “อาจารย์จึงถามคู่แข่งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่คู่แข็งนั้นปากแข็งมากไม่ยอมรับอะไรสักอย่างโทษแต่ป๋อหลินฝ่ายเดียวป๋อหลิน “ท่านอาจารย์ จู่ๆ ชายหน้าด้านก็วิ่งเข่ามาฉีกกระดาษคำตอบของข้า “ท่านอาจารย์จึงหยิบเศษกระดาษที่ขาดออกมาเรียงติดต่อกันแล้วอ่านคำตอบทั้งหมด ซึ่งไม่มีข้อไหนผิดแม้แต่ข้อเดี

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   การแข่งขันไม่เป็นธรรม

    บทที่17เช้า 06.00 เช้านี่ลูก ๆของซูซ่านทั้งสี่ต้องเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันในสิ่งที่ตัวเองนั้นถนัด ทุกตำหนักที่อยู่ติดกันต่างพาลูก ๆ ไปยังลานแข่ง จู่ ๆ เจี้ยวจ้านก็เข้ามาที่นี่พอดีตนจึงอาสา นำตัวเด็ก ๆที่เหลือสามคนไปส่งด้วยตัวเอง ส่วนซูเซียวน้องคนเล็กนั้นเจี้ยวจ้านจะดูแลไม่ให้ห่างกาย เจี้ยวจ้าน " เจ้าไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลลูกสาวเจ้าเป็นอย่างดี " ซูซ่าน " งั้นข้าฝากท่านด้วย " เจี้ยวจ้านได้พาลูก ๆ ซู่ซ่านไปทั้งหมดสี่คน แต่ลงแข่งแค่สามคน ส่วนตงหยางซูซ่านจะไปส่งเอง ณ. ลานแข่งขันด้านวรุยุทธ ซููซ่าน " ตงหยาง ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นเช่นไร ต้องรู้จักการพ่ายแพ้ ไม่ดูถูกคู่ต่อสู้นะลูก " ตงหยางเข้าใจในสิ่งที่ซู่ซ่านพูดแม่ลูกมองหน้ากันอย่างเข้าใจพร้อมเดินเข้าไปข้างในอย่างมั่นใจ แต่ดูสีหน้าคู่แข่งแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียดความกดดันจากผู้ใหญ่ไม่มีผู้ใดยิ้มร่าเริงให้เห็นเลยตวหยาง " ท่านแม่บรรยากาศดูตึงเครียดลูกรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "ซูซ่าน " ครั้งแรกก็เช่นนี่ต่อไปเดี๋ยวก็ชินเองลูก " ในระกว่างที่ตงหยางยืนอยู่ข้าง ๆ ซูซ่านไม่ห่างหายได้มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทักทายอย่างไม่เป็

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   นั่งกินอาหาร

    ดังนั้นเฟยเถากับซูซ่านก็เข้าไปนำอาหารใส่ชามออกมาเพื่อนั่งกินอยู่ด้านนอก จำต้องปล่อยเด็ก ๆไว้ ข้างนอกเพราะนางคิดว่าที่นี่ในวังคงไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไรมากมาย ซูซ่าน " ตงหยางลูก พาน้อง ๆไปรอแม่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ห้ามเดินไปที่อื่นเด็ดขาด " ตงหยาง " ขอรับท่านแม่ ข้าจะดูแลน้องๆ เป็นอย่างดี ซูซ่าน " ดีมาก งั้นแม่เข้าไปด้านในก่อน " เมื่อซูซ่านออกไปพ้นสายตาเด็ก ๆ แล้ว ตงหยางก็ได้ทำหน้าที่อย่างที่แม่ขอไว้แต่ในขณะนั้นเลี่ยงจิง จู่ ๆ ก็มาโผล่หัวมาอยู่ที่นี่หมายตั้งใจเดินเข้ามาหาลูก ๆ ของซูซ่าน ด้วยท่าทางผยิ่งสโยไม่เกรงกลัวผู้ใดเลี่ยงจิง " เจ้าเด็กเหลือขอผู้ใดให้เจ้ามาอยู่ใต้ต้นไม้ เหตุใดไม่เข้าไปในครัว " ลูกของซูซ่าน ไม่พอใจที่แม่นางผู้นี่กล่าวหาว่าทุกคนเป็นเด็กเหลือขอทั้ง ๆ ที่แม่ตัวจริงก็มีอยู่แล้ว " ตงหยาง " นางผู้หญิงปากเน่าช่างไม่ลืมหูลืมตา เด็กเหลือขอที่ไหนจะมาอยู่ในวังหลวง โง่แล้วยังอวดเบ่งใส่พวกข้าอีก " เลี่ยงจิงตกใจในคำพูดของเด็กเจ็ดขวบทำให้นางโกรธจนหน้าสั่นยื่นแขนข้างขวาบีบคอตงหยางแล้วใช้แรงผลักจนล้มหัวเข่ากระแทกพื้น น้องทั้งสี่บุกเข้าไปด่าว่าพร้อมใช้กำปั่นน้อย ๆ ฟาดเข้าไปที่

  • แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า   อาการป่วยดีขึ้น

    บทที่ 15เจี้ยวจ้าน " ท่านพ่ออาการเป็นอย่างไรบ้าง " เจี้ยวจ้านรีบถามอาการของพ่อตนทันทีในขณะที่ป๋อหลินลูกชายคนที่สองมีสีหน้าที่เริ่มกังวลใจ เจี้ยวจ้านรู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ดีแน่ ๆ เจี้ยว " ป๋อหลินอาการท่านลุงเป็นอย่างไรบ้าง "ป๋อหลิน " อาการท่านลุงตอนนี้แย่มากร่างกายมีพิษมากเกินไป ภายในหนึ่งเดือนหากไม่ได้รับการรักษาอาจจะไม่มีชีวิตรอด " เจี้ยวจ้าน " ว่าอย่างไร มีพิษงั้นรึ " ป๋อหลิน " ใช่ขอรับ ในทุก ๆ เช้าท่านลุงได้ดื่มอะไรยามเช้าเป็นประจำหรือไม่ " โหย่วเฉาจึงนั่งนึกอยู่ในใจ แต่ก็นึกไม่ออกเพราะช่วงเช้ามีแต่ยาของหมอหลวงนำมาให้ จึงได้ให้คำตอบป๋อหลินว่าตนนั้นไม่ได้ดื่มน้ำอะไร นอกจากยาของหมอหลวง ป๋อหลินจึงขอให้ท่านเจี้ยวจ้านนำยาของโหย่วเฉาออกมาดู เจี้ยวจ้านก็ไม่ได้มีคำถามอะไรก็ให้ดูตามที่ป๋อหลินนั้นขอ ตอนนี้ยาเม็ดกลม ๆ ได้อยู่ที่ฝ่ามือป๋อหลินแล้วทันใดนั้นเม็ดยาก็ถูกขยี้ให้แตกออกโดยใช้นิ้วมือบี้ไปมาจนเจอสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ข้างใน ป๋อหลิน " นี่มันสมุนไพรมีพิษ " ซูซ่าน " ป๋อหลินลูก เรื่องจริงรึลูกแน่ใจรึ " ป๋อหลิน " ข้ามั่นใจข้าไม่ได้โกหก หากไม่เชื่อท่านลองเอาเศษยาพิษเหล่านี้ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status