[6]
ลูกสาวเจ้าพ่อออกฤทธิ์
______________________
ณ ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ ภายในโรงแรมสุดหรูกลางกรุงฯ เวลานี้แน่นขนัดไปด้วยบรรดาคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งหลาย ที่ต่างประโคมใส่เครื่องเพชรเพื่อมาอวดรวยในงานเลี้ยงคืนนี้
เกล็ดมุกตาพร่าเมื่อแสงแฟลชวูบวาบสาดเข้านัยน์ตา เธอถูกพาเข้างานโดยโทนี่ ที่ฝ่าด่านนักข่าวพานายทั้งสองเข้ามาได้สำเร็จ การปรากฏตัวของเจ้าสัวแห่งเพิร์ลกับหญิงสาวที่เป็นปริศนา ได้สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาเหยี่ยวข่าวทั้งหลาย แน่นอนว่าพรุ่งนี้ สื่อทุกสำนักต้องมีรูปของเจ้าสัวใหญ่กับเกล็ดมุกเป็นแน่แท้ ทว่าคำบรรยายใต้ภาพนั้น คงสุดจะคาดเดา
แสงแฟลชวูบวาบรัวเร็วจากบรรดาช่างภาพทำเอาเกล็ดมุกเริ่มทนไม่ไหว เธอต้องกะพริบตาถี่ๆ เมื่อแลไม่เห็นแม้แต่ใบหน้าของบิดา ยิ่งกลิ่นน้ำหอมนานาชนิดของบรรดาแขกเหรื่อ ก็ยิ่งทำให้เธอเวียนศีรษะจนอยากอาเจียน ต้องพิงศีรษะลงกับไหล่ของเจ้าสัวใหญ่
“ว่าไงยัยหนู ไหวหรือเปล่า” เจ้าสัวถามไถ่ด้วยความห่วงใย
“ขอโทษค่ะคุณป๋า หนูเล็กยังไหวค่ะ มื้อเที่ยงคงกินน้อยไปหน่อย เจ้าตัวแสบเลยประท้วงเอา” แก้ต่างด้วยไม่อยากให้บิดาเป็นห่วง ดึงกายมายืนดีๆ ด้วยไม่อยากให้ท่านกังวล
“ป๋าว่าเจ้าตัวแสบของหนูคงจะหวงแม่มากกว่า วันนี้ลูกสาวป๋าสวยที่สุดในงานเลยนี่นา เจ้าตัวแสบคงกลัวหนุ่มๆ มาเกาะแกะลูกสาวป๋าละมั้ง” ท่านไม่ได้ยอเกินจริงเลย วันนี้เกล็ดมุกสวยเหลือเกิน...ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่างดงามต่างหาก ทั้งงดงาม สง่า ดุจนางพญาหงส์ไม่มีผิด
“ชู่ว์...รู้แล้วค่ะว่าสวย แต่ถ้าคุณป๋าเผลอเรียกหนูเล็กว่าลูกสาวบ่อยๆ หนูเล็กก็หมดสนุกกันพอดี อย่าลืมสิคะว่าวันนี้หนูเล็กเป็นคู่ควง”
เกล็ดมุกยิ้มซุกซนเมื่อนึกถึงเรื่องสนุก และพออาการต่างๆ ทุเลาลงแล้ว ก็เดินเคียงบ่าบิดาเข้าไปทักทายแขกเหรื่อในงาน
สายตาอิจฉาจากบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ภายในงานแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร ถูกส่งมายังร่างท้วมของเจ้าสัวมากวัยถ้วนหน้า ก็แน่ละ ท่านควงสาวสวยรุ่นลูกที่น่าหลงใหลตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เกล็ดมุกนั้นงดงามไม่มีที่ติ แถมยังเซ็กซี่ด้วยชุดแดงแรงฤทธิ์เว้าหลังผ่าข้าง เห็นขาอ่อนและหลังขาวๆ ให้หนุ่มๆ ได้เก็บไปฝันกันเต็มที่
“สวัสดีค่าเจ้าสัว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังหล่อเฟี้ยวเหมือนเดิมเลยนะคะ”
หญิงวัยกลางคนร่างตุ้ยนุ้ยที่เป็นดั่งตู้เพชรเคลื่อนที่ เดินตรงรี่เข้ามาทักทายบิดาของเกล็ดมุก ลำคออวบย้อยของนางห้อยเป็นชั้นๆ บดบังสร้อยเพชรเม็ดเขื่องให้เหลือเพียงส่วนปลายของจี้รูปหยดน้ำ
“ขอบคุณครับคุณหญิงสาวิกา ท่าจะยอเกินจริงไปแล้ว ฮ่าๆๆ”
เจ้าสัวหัวเราะร่าไม่ใช่เพราะคำยอ แต่เพราะเสียงกระซิบของเกล็ดมุกที่ข้างหูท่านต่างหาก ‘คุณป๋า...คุณหญิงเอาคอมาหรือเปล่าคะ’
“แล้วนี่ควงสาวที่ไหนมาคะ ปกติเห็นควงแต่ลูกชายสุดหล่อนี่นา”
“อ้อ...ขอโทษทีครับ นี่คือหนูเกล็ดมุก เป็น...”
“เป็นคนพิเศษของเจ้าสัวค่ะ” คนพิเศษชิงตอบ เรียกรอยยิ้มบางๆ อย่างขบขันของบิดาออกมาได้ ยัยหนูขี้แกล้งเมื่อตอนเล็กๆ คงอยากรื้อฟื้นความทรงจำ
เมื่อคุณหญิงสาวิกาขอตัวไปหาเพื่อนที่จับกลุ่มรอท่าอยู่ สองพ่อลูกก็หันมามองหน้ากันอย่างรู้ทัน เกล็ดมุกหัวเราะน้อยๆ เนื่องจากพอจะเดาออกว่าเรื่องที่เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างคุณหญิงสาวิกากับผองเพื่อน คงไม่พ้นเรื่องเจ้าสัวคนดังหนีบอีหนูคราวลูกออกงานเป็นแน่แท้
กว่าโชว์จะเริ่มก็ปาเข้าไปสี่ห้าทุ่ม เจ้าสัวเมฆินทร์ยังเดินว่อนไปทั่วงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลักๆ ก็คือคอยมองหาลู่ทางตลาดใหม่ๆ เพื่อจะส่งออกอัญมณีของท่าน การเจรจาค้าขายกับบรรดาคู่แข่งคู่ค้าที่มารวมตัวหนาตาในคืนนี้ จึงไม่จบไม่สิ้นลงสักที
เกล็ดมุกลอบถอนหายใจ เจ้าสัวใหญ่อายุมากแล้ว ต้องมาทนปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่คนพวกนี้ก็เพื่อลูกสาวอย่างเธอแท้ๆ เพราะฉะนั้น กว่าจะคลอดลูกคนนี้ เธอคงต้องเข้าไปดูแลบริษัทบ้าง อย่างน้อยก็ให้บิดาที่รักได้พักอย่างจริงจังเสียที
“หนูเล็ก เป็นอะไรฮึ เหนื่อยหรือเปล่า ให้โทนี่พาไปนั่งไหม”
เจ้าสัวหันมาถามบุตรสาวที่เงียบเสียงไป
เกล็ดมุกส่ายหน้าพรืด บิดาทำเพื่อเธอมาตั้งแต่เธอเกิด ท่านยังไม่เหนื่อยเลย แล้วแค่มาออกงานแค่นี้เธอจะเหนื่อยได้อย่างไร
“เปล่าค่ะ หนูเล็กไม่เป็นไร ให้โทนี่อยู่ดูแลคุณป๋าเถอะค่ะ เอ่อ...หนูเล็กหิวนิดๆ แล้ว ไปหาอะไรกินก่อนนะคะ”
เจ้าสัวใหญ่พยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ และจังหวะเดียวกันนั้น หนึ่งในคู่สนทนาของเจ้าสัวก็กำลังเพ่งมองสาวสวยของท่านตาเป็นมัน
“ขอตัวนะคะ คุณกรุณ คุณภาที” หันไปเอ่ยกับคู่สนทนาของบิดาตามมารยาท แต่หนึ่งในนั้นกลับใจกล้า...
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับคุณเกล็ดมุก ผมเองก็ชักหิวแล้วเหมือนกัน จะได้ช่วยกันเลือกของกินไงครับ”
ชายหนุ่มหน้าตี๋อดใจไม่ไหว ขอหยั่งเชิงสาวสวยของเจ้าสัวหน่อยเป็นไร ของอย่างนี้ใครดีใครได้ เขามั่นใจว่าเงินที่เขามีก็ไม่ได้น้อยไปกว่าของเจ้าสัวเลย
เกล็ดมุกส่งสายตาไปถามบิดา เจ้าสัวอมยิ้มขบขันให้ว่าที่คุณแม่แทนคำตอบ ท่านจะดูซิว่าลูกสาวเจ้าพ่อจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้านี้อย่างไร ไอ้หนุ่มหน้าตี๋คนนี้มันก็เหลือเกินจริงๆ ตีหน้ามึนดื้อด้านไม่รับรู้ทั้งที่เห็นๆ กันอยู่ว่าวันนี้เกล็ดมุกมาในฐานะคู่ควงของท่านแท้ๆ
“จะดีหรือคะคุณกรุณ ดิฉันจะไปห้องน้ำก่อน ห้องน้ำหญิงน่ะ ถ้าคุณกรุณสะดวกก็เชิญนะคะ” กล่าวยิ้มๆ เห็นหน้าอีกฝ่ายเหมือนโดนน็อกเมื่อถูกปฏิเสธกลายๆ
กรุณหน้าม้านเมื่อสาวสวยไม่เล่นด้วย เขาเดินออกจากวงสนทนาทันที พลางนึกในใจว่ามีส่วนไหนกันที่เขาด้อยกว่าชายแก่คนนั้น
เธอหยุดชั่วครู่แล้วหันไปมองหน้าเจ้าบ่าวเล็กน้อย เขาดูหล่อเหลาเอาการ ไม่แพ้พี่ชายเธอเลย เขาดูสุขุมเยือกเย็นแต่แววตาเต็มไปด้วยแววบางอย่างที่เธอมองแล้วอบอุ่นหัวใจ อบอุ่น...เหมือนวันนั้นเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด“ตอนมุกไปเรียนที่อังกฤษ มุกได้เจอกับวีวี่ เอ่อ...น้องวา ที่มหาวิทยาลัย เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนับแต่วันแรกที่พบหน้า แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง กามเทพก็เล่นตลก คือตอนนั้นมุกไม่รู้จริงๆ ว่าคุณวาเป็นพี่ชายของวีวี่ ตอนนั้นมุกเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในทะเลสาบหน้ามหาวิทยาลัย น้ำนี่เย็นเฉียบเลยค่ะ มุกยังจำได้ดี ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย อัศวินขี่ม้าขาวก็ยื่นมือเข้ามาช่วย และตั้งแต่นั้นมา ใบหน้าของอัศวินคนนั้นก็ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจของมุก หัวใจของมุกไม่เคยลืมผู้ชายคนนั้นแม้สักวินาที มุกยอมแลกแม้กระทั่ง...ศักดิ์ศรี”เกล็ดมุกสะดุดถ้อยคำที่เตรียมเอาไว้ในใจเมื่อวาคิมแย่งไมโครโฟนจากมือเธอ เขาคงกลัวว่าเธอจะเอ่ยในสิ่งที่ต้องทำร้ายหัวใจตัวเองอีกครั้งวาคิมเอื้อมมือไปรั้งเอวของเจ้าสาวเข้ามาใกล้ ดันตัวหล่อนให้ซบใบหน้ากับอกอุ่นของเขา เป็นเหมือนสัญญาณเตือนบอกว่าให้เลิกพร่ำเสียที“พอแล้ว...พอเถอะมุก ผมรู้แล
“เลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว ไปอยู่บ้านเขาต้องเป็นแม่บ้านที่ดีรู้หรือเปล่า อย่าวู่วามอย่าใจร้อน หัดคิดก่อนพูด ระลึกเอาไว้เสมอว่านั่นไม่ใช่บ้านเรา จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วน ไม่ใช่ทำแล้วมาเสียใจสำนึกผิดทีหลัง ลูกต้องอดทนให้มากๆ หัดฟังพี่เขาให้จบ อย่าตีโพยตีพายเหมือนตอนที่อยู่บ้านเรา พ่อเมฆคนนี้แม่ดูออก แม่มั่นใจ หัวใจของเขามีลูกสาวของแม่แล้ว จงรักษาไว้ให้ดี รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา พิจารณาให้ถ้วนถี่ อย่าใช้แต่อารมณ์เหมือนที่ผ่านมา สุดท้ายนี้แม่ก็ขอให้ลูกสาวแม่...มีความสุข มีเวลาก็กลับมาเยี่ยมแม่บ้าง...นะลูกนะ”นางกลั้นก้อนสะอื้น วารินทร์กอดรัดมารดาแนบแน่น น้ำตาไหลพรากๆ ไม่หยุดเกล็ดมุกหยิบกระดาษเช็ดหน้าไปซับหยาดน้ำตาให้เพื่อนรักและแม่สามี ก่อนที่ทั้งสามจะสวมกอดกันอีกครั้งเกล็ดมุกยังคิดถึงมารดา แม่ขา...หนูเล็กมีความสุขเหลือเกิน แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูเล็กจะดูแลตัวเองและหลานของแม่ให้ดีที่สุด แม่มองมาจากสวรรค์เอาใจช่วยหนูเล็กด้วยนะคะ______________คุณหนูคนเล็กของสองตระกูลในชุดเจ้าสาว เดินกรุยกรายผ่านประตูบานใหญ่เข้ามา เจ้าสัวรีบไปรับบุตรสาวจากมือคุณหญิงเพื่อไปส่งให้ถึงมือเจ้าบ่าว
[18]วิวาห์หวาน___________อาทิตย์ถัดมา วันแต่งงานใบหน้าของเจ้าสาวคนงาม ถูกแต่งแต้มไว้ด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจนเนียนกริบ พร้อมพรั่งด้วยเสื้อผ้าทรงผมที่ถูกช่างหลายชีวิตเนรมิตให้เธอสวยที่สุดในงานวันนี้ วารินทร์เพ่งพินิจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ภาพที่สะท้อนผ่านกระจกเงาบานใหญ่ช่างงดงามประดุจเจ้าหญิงในเทพนิยาย ไม่น่าเชื่อว่าชุดเจ้าสาวจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งดูสง่างามได้ถึงเพียงนี้ มันช่างมีมนต์ขลังเมื่อเธอจะได้ใส่ชุดนี้เดินกรุยกรายอยู่เคียงข้างเจ้าบ่าว มวลความสุขคงอบอวลไปทั่ว แต่จะดีกว่านี้ หากเจ้าบ่าวของเธอมีหัวใจรักให้เธอบ้างเพื่อนรักของวารินทร์ก็เช่นกัน เกล็ดมุกกำลังจ้องอยู่กระจกเงาอีกบานที่สูงใหญ่ไม่แพ้กัน ผิดก็แต่ชุดเจ้าสาวของเธอฟูฟ่องกว่าของวารินทร์ ช่วยพรางหน้าท้องนูนน้อยๆ ของว่าที่คุณแม่ได้ดีเหลือเกิน เกล็ดมุกกำลังคิดว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วนัก อาทิตย์ที่แล้วเธอเพิ่งไปถ่ายรูปและลองชุดที่สตูดิโอแท้ๆ แต่วันนี้กลับเป็นวันงานจริงๆ แล้ว พิธีตักบาตรและพิธีหมั้นผ่านพ้นไปด้วยดีในตอนเช้า รวมทั้งพิธียกน้ำชาด้วย บรรดาแขกเหรื่อมาร่วมยินดีกันล้นหลาม ทุกคนต่างอวยพรให้ชีวิ
“โธ่เอ๋ย ฉันก็เลยปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ริสอนเขาทำกับข้าว แถมยังบอกให้เขากลับไปทำให้น้องมีนผู้น่ารักกินอีก”‘นั่นละว่าที่ลูกเขยเรานะที่รัก’วาคิมคิดอยู่ในใจ แต่เรื่องสำคัญเขาต้องหาเวลาเคลียร์กับเจ้าบอดี้การ์ดหน้าตี๋เสียก่อน มันมาให้เมียเขาสอนทำกับข้าวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ฉันเอ็นดูพ่อหนูนั่นนะ ฉันทำขนมไปฝากแกบ่อยๆ พวกกับข้าวแล้วก็อาหารที่ฉันทำให้คุณแต่คุณไม่เคยแตะ ฉันก็เคยชวนสองพ่อลูกนั่นมาร่วมวงกินด้วยกัน” บอกอย่างอยากประชดเขา แต่ประชดออกมาแล้วกลับเป็นตัวเองที่เจ็บหัวใจ“ผมสัญญา หลังแต่งงานผมจะรอกินฝีมือคุณทุกวันเลย”หากเป็นคู่รักคู่อื่น ฝ่ายหญิงคงได้ยิ้มแก้มปริ แต่ไม่ใช่คู่ของเกล็ดมุก ยิ่งเขาพูดออกมาอย่างนั้นเธอก็ยิ่งช้ำใจ เหมือนว่าเขามาสะกิดแผลใจให้มันปริแยกแตกออกอย่างไรอย่างนั้น“ไม่ละ ฉันเบื่อที่ต้องเอาใจคนอื่น”“แม้แต่สามีงั้นเหรอ”“ใช่! อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ”เขาพยักหน้า รับรู้และเข้าใจความเจ็บปวดที่หล่อนสื่อออกมาทางแววตา“แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า” เขาเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากให้หล่อนคิดมากในเรื่องอดีต เขากลับไปแก้ไขมันไม่ได้จริงๆ“ก็นิดหน่อย แค่ช่วงนี้ไม่ชอบกินของหวาน”“อืม...เห
เกล็ดมุกหน้าเจื่อน เธอแค่อยากประชดคนที่มานั่งรอเท่านั้นเอง“หนูเล็กขอโทษค่ะคุณป๋า หนูเล็กหงุดหงิดนิดหน่อย ความจริงหนูเล็กไปลองชุดกับวีวี่ก็ได้ เห็นเขาบ่นๆ ว่างานยุ่งหนูเล็กก็เลยไม่อยากให้เขาเสียเวลา”“ไม่หรอก ป๋ารู้ดี ที่เขามาเพราะอยากให้เกียรติหนูนะลูก”“คุณป๋าแน่ใจได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ทำไปเพราะถูกบังคับทางอ้อม เขาอาจจะทำเพื่อเด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ได้ แล้วเรื่องในอดีตคุณป๋าลืมมันได้เหรอ ไม่โกรธแล้วหรือคะ”“โกรธสิ โกรธมากด้วย แต่ถ้าอนาคต เขาสามารถทำให้ลูกสาวป๋ามีความสุขได้ ป๋าก็จะทำลืมๆ ไปซะ หนูเองก็เหมือนกัน อย่าทิฐิให้มากนัก คิดถึงวันแรกที่หนูตัดสินใจไปอยู่กับเขาให้มากๆ หนูรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอยากให้มีงานแต่งงานเกิดขึ้นมากแค่ไหน ป๋าพูดถูกใช่ไหมลูกรัก”ท่านให้ข้อคิด มือลูบศีรษะบุตรสาวให้กำลังใจ เกล็ดมุกยอมตัดขาดจากวาคิมช่วงหนึ่งก็เพราะเห็นแก่พ่อคนนี้ แล้วท่านจะใจร้ายทำลายความรักของบุตรสาวได้อย่างไร“หนูเล็กขอโทษนะคะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณป๋าไม่ชอบเขาแต่หนูเล็กก็ยังตกลงแต่งงาน”“ป๋ารู้ว่าหนูไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ต้องรู้สึกผิดกับป๋า ตราบใดที่หนูมีความสุข ป๋าก็มีความสุขนะลูกรัก เปิดใ
“บ้าน่ะสิ ฉันเพิ่งท้อง”“อ้อ...แล้วลูกจะอยู่ในท้องเธออีกหลายเดือนเลยเหรอ”นัยน์ตาคมกล้าจับจ้องที่หน้าท้องบางๆ อีกหน“ใช่...น่าร้อนปีนี้ฉันอดใส่ทูพีชแหงๆ” ว่าที่คุณแม่ทำหน้าปุเลี่ยน เมื่อนึกถึงสภาพตัวเองตอนท้องป่องแล้วใส่ทูพีชสีชมพูแปร๋นตัวโปรด“หึๆๆ ดี” เขาตอบสั้นๆ หัวเราะในลำคออย่างสมใจ พออดไม่ไหวก็เอื้อมมือไปวางบนหน้าท้องของหล่อนไอร้อนที่ซึมผ่านเนื้อผ้าลงมาทำให้วารินทร์ถึงกับน้ำตาซึม เขาคงอยากสัมผัสลูกบ้าง“คุณเคยคิดฆ่าลูกจริงๆ หรือเปล่า” ถามออกไปแล้วก็หวั่นใจในคำตอบ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่คิด“ฉันแค่ขู่ไปอย่างนั้นเอง เธอนั่นแหละบ้าดีเดือดเกือบทำให้ฉันกลายเป็นฆาตกรฆ่าลูกตัวเอง” เขาพูดความจริง โบ้ยความผิดมาให้หล่อนซึ่งหน้า แต่วารินทร์กลับยิ้มรับทั้งน้ำตา“ฉันขอโทษที่ทำบ้าๆ อย่างนั้น ก็...มันโมโหนี่นา”เมฆาปาดน้ำตาให้วารินทร์ด้วยปลายนิ้วอย่างอ่อนโยน เขารวบร่างบางที่สะอื้นน้อยๆ มาไว้ในอ้อมแขน ปลอบประโลมหล่อนด้วยการลูบแผ่นหลังขึ้นลงเป็นจังหวะ ทำแบบนั้นอยู่นานก่อนจะดันหล่อนออกเพื่อเผชิญหน้าอีกครั้งริมฝีปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นสะอื้นของวารินทร์ ช่างยั่วยวนเมฆาด้วยเจตนาบริสุ