Masuk“อย่าเถียงสิ” คนเป็นพี่ว่ากลับ ดีใจเหลือเกินเมื่อเห็นน้องสาวต่อปากต่อคำได้เหมือนเคย
“เถียงที่ไหนล่ะ เฮียอย่ามาหาเรื่องนะ หนูเล็กอยู่ดีๆ”
“โอเคๆ ยอมๆๆ”
คนเป็นพี่ยกมือยอมแพ้ด้วยว่าขี้เกียจต่อความกับน้องสาว เวลาเดียวกันนั้น บิดาของคนทั้งสองก็เดินเข้ามาสมทบ
“เอ้า? คุณชายใหญ่ขอรับ ไม่ทราบว่าวันนี้คุณชายใหญ่จะให้เกียรติไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนกระผมได้หรือเปล่าขอรับ อุตส่าห์ตามหาเสียทั่วบ้าน ที่แท้มาอยู่กับคุณหนูเล็กนี่เอง แกล้งคนแก่ให้เดินหาจนเหงื่อท่วม มันน่าจะให้โทนี่ตัดนิ้วลงโทษดีไหมฮึ” ผู้เป็นบิดาบ่นแกมประชด นึกเคืองเจ้าลูกชายตัวดีขึ้นมาตงิดๆ มันเล่นตัวยิ่งกว่าสาวๆ ขนาดใกล้เวลาเตรียมตัวไปงานแล้วก็ยังไม่ยอมตกปากรับคำ
เมฆาเบะปากให้น้องสาวเมื่อได้ฟังคำขู่ของบิดา เกล็ดมุกหัวเราะร่า อวดฟันเรียงสวยเมื่อเห็นสีหน้าปุเลี่ยนของพี่ชาย
“ป๋าเลือกเลยว่าจะเอานิ้วไหน แต่ถ้าไม่มีใครเอาลูกชายป๋าไปทำพันธุ์ละก็ อดเลี้ยงหลานปู่ไม่รู้ด้วยนะ” เมฆาว่าอย่างเป็นต่อ ลูบคางที่รกไปด้วยหนวดเคราอย่างพออกพอใจ
เจ้าสัวยิ้มค้างเมื่อกาลกลับตาลปัตร เจ้าลูกชายตัวดีมันเจ้าเล่ห์จริงๆ
“แล้วอย่างนี้ป๋าจะควงใครไปงานล่ะ ฮึ่ม!” ท่านครางฮึ่มๆ ในลำคออย่างขัดใจ
“โธ่...ก็คนมันขี้เกียจโกนหนวดนี่นา” เมฆาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ไม่ได้นึกพิสมัยงานสังคมหรูหราที่ว่าเลยสักนิด ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ คืนนี้เขามีงานช้างที่ต้องไปจัดการ
“แล้วก็ไม่บอกแต่เนิ่นๆ ป๋าจะได้ให้โทนี่หาสาวๆ ให้สักคนสองคน”
เจ้าสัวแกล้งยั่ว ท่านรู้ดีว่าสองศรีพี่น้องหวงพ่ออย่างกับอะไร
“ไม่ได้!” เกล็ดมุกออกอาการ จะให้บิดาควงสาวงั้นหรือ ฝันไปเถอะ
“หนูเล็กไปเอง”
หญิงสาวโพล่งขึ้น เรียกสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามจากทั้งบิดาและพี่ชาย
“จริงๆ นะ หนูเล็กแข็งแรงดีแล้วทั้งร่างกายและจิตใจ” ยืนยันเสียงหนักแน่น ยังเห็นแววเคลือบแคลงในดวงตาของบุรุษที่รักทั้งสอง
“แน่ใจหรือหนูเล็ก ป๋าแน่ใจว่าคนพวกนั้นคงไม่พลาดงานนี้แน่ๆ”
“หนูเล็กแน่ใจค่ะ ลูกสาวเจ้าพ่อต้องเข้มแข็ง นี่คือบททดสอบ ต่อให้วาคิมควงผู้หญิงมายืนอยู่ตรงหน้า หนูเล็กก็ไม่หวั่นหรอกค่ะ” ใช่! เธอต้องทำให้ได้ ต้องทำให้คนที่เธอรักทั้งสองได้มั่นใจว่าเธอเข้มแข็งแล้ว แม้ว่าความจริงมันจะตรงข้ามกันก็ตาม
“เอ้า ถ้าอย่างนั้นไปก็ไป นักข่าวคงได้เล่นข่าวสนุก ว่าเจ้าสัวแห่งเพิร์ลควงสาวสวยเข้างาน เฮ้อ...ใครเขาจะมาเชื่อว่าหนูเป็นลูกป๋า”
เจ้าสัวมากวัยบ่นพึมพำ เพราะทั้งบุตรสาวและบุตรชาย ไม่มีใครถอดแบบท่านมาเป๊ะๆ เลยสักคน ทั้งคู่เหมือนภรรยาของท่านมากกว่า ที่สำคัญก็คือ ลูกทั้งสองไม่ชอบออกงานสังคม แน่นอนว่าข่าวเกี่ยวกับคุณหนูทั้งสองของเพิร์ลจึงมีน้อยมากๆ ยิ่งเป็นคนน้องด้วยแล้ว แทบไม่เคยมีสื่อเจ้าไหน ได้รูปเจ้าหล่อนไปลงเลย
“ช่วยไม่ได้นะครับ ถ้าจะไม่มีใครเชื่อว่าน้องเป็นลูกป๋า ก็น้องไม่ชอบออกงานสังคมนี่นา แต่อย่างนี้ก็ดีแล้ว ป๋าจะได้เลิกควงลูกชายออกงานเสียที หึๆ”
เมฆาหันมายิ้มกับน้องสาว วันนี้นายเหมืองหนุ่มเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการปลดแอกการเป็นคู่ควงของเจ้าสัวแห่งเพิร์ลได้สำเร็จแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นหนูเล็กไปแต่งสวยก่อนนะคะ รับรองว่าคืนนี้คุณป๋าสนุกแน่ๆ” คนสวยลอบยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วเดินตัวปลิวเข้าบ้าน คิดไปตลอดทางว่าจะสวมชุดอะไรดี
เจ้าสัวใหญ่มองตามจนบุตรสาวเดินหายเข้าไปในบ้าน ก่อนจะหันมาเอ่ยบางอย่างกับบุตรชาย
“แม่หนูที่ชื่อวารินทร์น่ะ น่าเอ็นดูดีนะ”
ท่านเอ่ยลอยๆ เมฆาลมหายใจสะดุด ตกใจไม่น้อยที่บิดาเอ่ยชื่อวารินทร์
“ป๋ารู้เรื่องวารินทร์ได้ยังไง”
“ป๋ารู้ทุกเรื่องที่อยากจะรู้ โทนี่เป็นมือขวาที่ยอดเยี่ยมเสมอ ลื้อนั่นแหละระวังตัวให้ดี กำลังทำอะไรอยู่ก็เก็บหลักฐานให้เรียบร้อย ป๋ายังไม่อยากให้ลื้อต้องไปนอนเล่นในคุกนะ คุณชายใหญ่” น้ำเสียงล้อเล่นเมื่อครู่ ปลาสนาการไปสิ้น เมื่ออดีตเจ้าพ่อต้องเอ่ยประโยคนี้กับบุตรชาย
“ตกลงว่าโทนี่เป็นบอดี้การ์ดหรือนักสืบกันแน่ครับ หูตานี่ยิ่งกว่าสับปะรดจริงๆ”
“มันช่วยไม่ได้ ลื้อเองนั่นแหละที่ไม่ปรึกษาป๋าก่อน ทำการใหญ่มันต้องรอบคอบ ครั้งนี้ป๋าจะปล่อยลื้อไปก่อน ไปทำงานให้สำเร็จ ที่สำคัญอย่าให้ระแคะระคายถึงหูยัยหนูเล็กเข้าเชียว” ท่านกำชับ
“ครับ รับรองว่าไม่พลาดแม้แต่เรื่องเดียว งานนี้ไอ้วาคิมมันกระอักเลือดแน่!” เขายืนยัน
สองพ่อลูกสบตากันอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มร้ายฉายบนวงหน้าของคนทั้งคู่ โดยเฉพาะเจ้าสัวผู้มากมากวัย
‘ถ้าจะโทษก็โทษที่เกิดมาเป็นน้องไอ้เลวนั่นก็แล้วกันนะแม่หนู’
วูบหนึ่งที่เจ้าสัวเมฆินทร์รู้สึกผิดต่อหญิงสาวผู้นั้น แต่ถ้ามันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ท่านหายแค้น มันก็ช่วยไม่ได้!
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห







