เปลือกตาอันหนักอึ้งของเกล็ดมุกเปิดขึ้นช้าๆ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรงพยาบาล โชยเข้าจมูกจนเธออยากจะอาเจียน เธอขยับกายด้วยความเมื่อยล้า แต่ร่างกายที่ผิดปกติทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด หัวใจดวงน้อยหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม รีบแตะที่หน้าท้อง
“ลูก...ลูกจ๋า...ฮือออ...”
“หนูเล็ก อย่าร้องลูกอย่าร้อง”
เจ้าสัวใหญ่รีบเข้าปลอบบุตรสาวที่เริ่มโวยวายด้วยความเข้าใจผิด
“คุณป๋าขา...ฮึกๆ ลูก...”
“เขายังอยู่ลูก หลานของป๋าเขาเข้มแข็งมากรู้ไหม”
คำบอกเล่าเพียงเท่านั้น ก็สามารถทำให้คนกำลังจะเป็นแม่ยิ้มได้ทั้งน้ำตา เกล็ดมุกไม่ขออะไรมากมาย เธอขอแค่ให้ลูกในครรภ์ปลอดภัยเท่านั้น
“มุก! คุณฟื้นแล้ว” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจดังขึ้นทันทีที่ประตูถูกผลักเข้ามา เจ้าสัวหน้าตึงใส่โทนี่ที่ไม่สามารถรั้งหมาบ้าตัวนี้เอาไว้ได้ การ์ดหนุ่มได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิดอยู่หน้าประตู
“มุก...คุณไม่เป็นไรใช่ไหม คุณปลอดภัยแล้วนะที่รัก”
วาคิมพร่ำพูด เข้าไปเกาะขอบเตียง จับมือแม่ของลูกมากุมไว้อย่างแสนรัก
เกล็ดมุกใจเสีย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลทำเอาเธอต้องเบือนหน้าหนี มืออุ่นๆ ที่เขาเกาะกุมอยู่แผ่ไอของความห่วงใยอุ่นวาบไปถึงหน้าท้อง น้ำตาพลันรินไหลอย่างมิอาจห้าม แต่เธอไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
“ผม...ดีใจเหลือเกินที่คุณปลอดภัย ยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า”
น้ำเสียงเอื้ออาทรทอดถามอย่างอ่อนโยน เกล็ดมุกสะอื้นฮักๆ แต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้าชายหนุ่ม เธอดึงมือออกจากการถูกเกาะกุม พลิกตัวหันหลังให้ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะใจไม่แข็งพอ
“ฉันไม่เป็นไรแล้ว...ขอบคุณ คุณป๋าคะ หนูเล็กอยากพัก ให้โทนี่ส่งแขกที”
เจ้าสัวใหญ่ยิ้มถูกใจ ท่านบุ้ยใบ้ให้โทนี่ที่ยืนอยู่ตรงประตู
“เชิญ” โทนี่ผายมือเชื้อเชิญ กวินมองเข้ามาในห้องด้วยความห่วงใย ทั้งเจ้านายและหญิงสาวบนเตียง
“มุก ผมห่วงคุณนะ ห่วงลูกด้วย ลูกของเรา” เขาร้องบอกเสียงเครือ เมื่อเยื่อใยที่มั่นใจว่ามีบัดนี้บางเบาแทบมองไม่เห็น
“ไม่ต้องมาห่วง ฉันกับคุณ เรา...ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”
เกล็ดมุกกลั้นสะอื้นจนตัวโยน เจ้าสัวกุมมือบุตรสาว บีบเบาๆ ให้รู้ว่ายังมีท่านอยู่อีกคนที่ทั้งรักทั้งห่วงเช่นกัน
“ไม่จริง อย่างน้อยในท้องคุณก็มีลูกของผมอยู่ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหมมุก ผม...ผมขอโทษ ที่ผ่านมาผมมันโง่ที่ทำร้ายความรู้สึกของคุณ ผมขอโทษ!”
ร่างสูงใหญ่ก้าวถอยหลังก่อนจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เจ้าสัวเมฆินทร์แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง วาคิมทรุดลงคุกเข่าพร้อมกับก้มหัวให้บุตรสาวท่าน เจ้าชายน้ำแข็งผู้เย็นชาเย่อหยิ่ง ไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆ มีศักดิ์ศรีแบกไว้บนบ่าจนหนักอึ้ง ณ เวลานี้กลับยอมละทิ้งมันได้เพียงเพื่อขอให้ผู้หญิงที่เคยไร้ค่าในชีวิตเขา ให้อภัย ท่านไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ
เกล็ดมุกร่ำไห้ หันไปมองวาคิมแล้วหัวใจพลันสั่นระรัว เขาคุกเข่าด้วยหรือ ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีเพื่องอนง้อเธองั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร!?
ดวงตาที่รื้นด้วยหยาดน้ำใสหันไปสบสายตากับผู้เป็นบิดาด้วยความสับสน
“ป๋า...แล้วแต่หนูเล็ก แค่อยากให้หนูจำไว้ว่าวันใดที่หนูเจ็บ ป๋า...เจ็บกว่าหลายเท่านัก” น้ำใสๆ ไหลอาบใบหน้าอวบของชายสูงวัย ท่านบีบมือบุตรสาวเบาๆ แล้วตัดใจก้าวออกจากห้องพร้อมกับโทนี่
เกล็ดมุกลุกขึ้นนั่ง สองตามองตามแผ่นหลังของบิดาด้วยหัวใจที่รวดร้าว แผ่นหลังที่เคยยืดตรงบัดนี้งอโค้งอย่างหมดหวัง เธอรู้ดีว่าบิดาจะรู้สึกเช่นไรหากเธอเลือกเขา ท่านคงเจ็บปวดและไม่มีทางปล่อยวาคิมให้อยู่อย่างเป็นสุขแน่ๆ เธอไม่ปรารถนาให้เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะเธออีกแล้ว
“ลุกขึ้นเถอะวาคิม ฉันไม่มีค่าพอที่จะแลกกับศักดิ์ศรีของคุณหรอก คุณแค่สับสน ฉันอยู่กับคุณมานานจนกลายเป็นความเคยชินของคุณเท่านั้น หัวใจคุณมันเย็นเยือก ไม่เคยรับรู้ไออุ่นของความรักที่ฉันเพียรส่งให้ ฉันโง่เองวาคิม ฉันโง่เองที่รักคุณแต่ฉันจะไม่กลับไปอีกแล้ว”
“โธ่...มุก...”
“ฉันมีพ่อ มีพี่ชาย ฉันเอาแต่ใจตัวเองมามากพอแล้ว พวกเขาเสียใจทุกข์ใจเพราะฉันมามากเกินพอ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยที่ต้องวิ่งไขว่คว้าความรักที่มันไม่เคยมี คุณไม่ต้องขอให้ฉันยกโทษให้หรอกเพราะคุณไม่เคยทำอะไรผิดเลย เราสองคนเลิกแล้วต่อกันเถอะนะ” เกล็ดมุกพร่ำบอกทั้งน้ำตา มันเจ็บ แต่ก็ต้องเอ่ยออกไป
“ผมทำไม่ได้...คุณท้องอยู่นะ ลูกเราต้องการทั้งพ่อและแม่นะมุก”
วาคิมหาข้ออ้าง แต่มันเป็นข้ออ้างอันแสนเจ็บปวดสำหรับเกล็ดมุก
“เด็กในท้องนี่ ความจริงคุณก็ไม่ได้ต้องการให้เกิดมาอยู่แล้ว ฉันต่างหากที่ตั้งใจ ฉันผิดสัญญา ในเมื่อคุณไม่เคยรักฉัน ฉันก็ไม่แคร์อีกต่อไป เพราะสายเลือดของคุณจะรักฉัน รักแต่ฉันโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อแม้ ไม่มีเงื่อนไข สองตาเขาจะมองแค่ฉัน อ้อมแขนของเขาพร้อมจะโอบกอดฉันในวันที่สุขและทุกข์ แค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะรับเด็กคนนี้ไว้ในหัวใจของคุณ ฉันก็ยินดี แต่คำว่าครอบครัวมันคงไม่มีวันเกิดขึ้นกับเรา...นั่นคือความจริง”
เธอบอกเขาด้วยความมั่นใจ ทั้งที่เจ็บแปลบยามจ้องลึกลงไปในดวงตาคมคู่นั้น วาคิมรักเด็กคนนี้เธอรู้ดี เขารักลูกที่ไม่เคยคิดว่าจะมี เข้าให้แล้ว
“คุณเปลี่ยนไปมากมุก เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน เข้มแข็ง ใจแข็ง เด็ดเดี่ยว ที่สำคัญทำไมคุณถึงโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ ทำร้ายแม้กระทั่งหัวใจของตัวเอง คุณทำได้ยังไง”
น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งรินอย่างไม่อาย เขานับถือหล่อนจริงๆ เขาจะเดินออกจากประตูเดี๋ยวนี้เลยหากหล่อนบอกว่าเกลียดเขาเหมือนวันนั้น ไม่ใช่แบบนี้ หล่อนจะตัดขาดจากเขาทั้งที่ปากก็บอกปาวๆ ว่ายังรักเขาอยู่ ทำได้อย่างไร หล่อนเฉือนหัวใจตัวเองได้อย่างไร!?
“นี่แหล่ะฉันวาคิม นี่คือตัวตนของฉัน คุณกลับไปเถอะ เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้ว คุณจะเป็นสามีคนแรกและคนเดียวของฉันตลอดไป สบายใจได้ว่าลูกของคุณจะไม่มีปมด้อยในวันข้างหน้า
อ้อ...เกือบลืมไปเลย ขอบคุณมากๆ นะคะ หลายปีที่แล้วที่อังกฤษ ถ้าคุณยังพอจำได้ คุณได้ช่วยนักศึกษาชาวไทยคนหนึ่งที่กำลังจะจมน้ำในทะเลสาบหน้ามหา’ลัย ขอบคุณจากใจจริง ที่แท้...ฉันติดค้างคำขอบคุณนี่เอง ถึงไม่อาจลบภาพคุณออกจากใจ ลาก่อนนะคะคุณวา...ของมุก”
เธอเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา แน่ใจว่าเขาเองก็ได้ยิน ก่อนจะหันหลังให้เขา หลับตานิ่งไม่อยากรับรู้ความรู้สึกที่พรั่งพรูออกมาเป็นหยาดน้ำตาของเจ้าชายน้ำแข็งที่ยังนั่งสะอื้นอยู่เบื้องล่าง เนิ่นนาน...กระทั่งเสียงฝีเท้าที่คุ้นชินเดินออกจากห้อง เป็นเวลาเดียวกับที่บิดาที่รักเดินกลับเข้ามา เพื่อนำพาแผ่นอกของท่านมารองรับน้ำตาให้บุตรสาว
“มันจบแล้วลูกรัก มันจบแล้ว”
“หนูรักคุณป๋านะคะ รักมากที่สุด”
“ป๋าก็รักลูก รักหลานของป๋าด้วย เข้มแข็งเข้าไว้ลูกรัก เข้มแข็งเข้าไว้”
_____________
กวินมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลของเจ้านายด้วยความเห็นอกเห็นใจ ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาแทบหาเค้าหน้าเก่าไม่เจอ บ่าที่เคยตั้งอย่างสง่าบัดนี้ลู่ลงอย่างคนที่สูญสิ้นความหวัง แขนสองข้างตกข้างลำตัว แผ่นหลังเอนพิงเบาะของรถคันหรูอย่างอ่อนแรง
“นายเคยมีความรักไหมกวิน” เสียงค่อนข้างแหบเอ่ยถาม กวินแทบเผลอเหยียบเบรก กี่ปีมาแล้วที่เจ้านายผู้เย็นชาห่างหายจากคำคำนี้ นับแต่สาวคนรักอย่างคุณฟ้ารุ่งหนีไปแต่งงานกับชายที่ร่ำรวยกว่า
“อ่า...ครับ เมษาเธอน่ารักครับ อ่อนหวานอ่อนโยน เป็นแม่ศรีเรือน แต่...เธอไม่มีโอกาสได้เป็นแม่ที่ดี” ท้ายประโยคกวินบอกเสียงเศร้า ใบหน้าของภรรยาที่ล่วงลับยังกระจ่างในห้วงคำนึง
“หึๆๆ ฉันขอเดาว่าเธอทิ้งนายไปพร้อมกับทิ้งลูกไว้ให้นายเลี้ยงใช่ไหม”
คนฟังหน้าตึงแต่ก็มิได้โกรธเคืองแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าเจ้านายมีอคติต่อผู้หญิง เขาถอนหายใจก่อนจะเล่าถึง เมษา อดีตภรรยา
“ครับ เธอทิ้งผมไป แต่ไม่ใช่อย่างที่เจ้านายเข้าใจหรอกครับ เธอเสียตอนที่คลอดเจ้ามีน ผม...ไม่ดีเองที่เห็นงานสำคัญกว่า” มือแกร่งของกวินกำพวงมาลัยรถแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
วาคิมใจหายวูบเมื่อได้ฟัง แล้วเกล็ดมุกล่ะ หล่อนจะเป็นเหมือนผู้หญิงที่ชื่อเมษาหรือเปล่า แล้วฉับพลันใบหน้าขาวๆ กับนัยน์ตายาวรีของเด็กชายคนหนึ่งก็แทรกเข้ามาในห้วงความคิด
เปลือกตาอันหนักอึ้งของเกล็ดมุกเปิดขึ้นช้าๆ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรงพยาบาล โชยเข้าจมูกจนเธออยากจะอาเจียน เธอขยับกายด้วยความเมื่อยล้า แต่ร่างกายที่ผิดปกติทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด หัวใจดวงน้อยหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม รีบแตะที่หน้าท้อง“ลูก...ลูกจ๋า...ฮือออ...”“หนูเล็ก อย่าร้องลูกอย่าร้อง”เจ้าสัวใหญ่รีบเข้าปลอบบุตรสาวที่เริ่มโวยวายด้วยความเข้าใจผิด“คุณป๋าขา...ฮึกๆ ลูก...”“เขายังอยู่ลูก หลานของป๋าเขาเข้มแข็งมากรู้ไหม”คำบอกเล่าเพียงเท่านั้น ก็สามารถทำให้คนกำลังจะเป็นแม่ยิ้มได้ทั้งน้ำตา เกล็ดมุกไม่ขออะไรมากมาย เธอขอแค่ให้ลูกในครรภ์ปลอดภัยเท่านั้น“มุก! คุณฟื้นแล้ว” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจดังขึ้นทันทีที่ประตูถูกผลักเข้ามา เจ้าสัวหน้าตึงใส่โทนี่ที่ไม่สามารถรั้งหมาบ้าตัวนี้เอาไว้ได้ การ์ดหนุ่มได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิดอยู่หน้าประตู“มุก...คุณไม่เป็นไรใช่ไหม คุณปลอดภัยแล้วนะที่รัก”วาคิมพร่ำพูด เข้าไปเกาะขอบเตียง จับมือแม่ของลูกมากุมไว้อย่างแสนรักเกล็ดมุกใจเสีย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลทำเอาเ
[12]น้ำตาของวาคิม___________ร่างอวบท้วมของนมน้อมเดินออกมาจากห้องของนายเหมืองหนุ่ม นางถือกะละมังใบเล็กมีผ้าผืนหนึ่งวางพาดบนปากขอบ มันเป็นภาพที่เมฆาเฝ้ามองมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วารินทร์เป็นไข้และยังไม่มีทีท่าว่าจะหาย“เสียใจด้วยนะคะคุณชาย ดิฉันยืนยันว่าแม่หนูคนนั้นยังมีลมหายใจ”นางน้อมค้อนให้เจ้านายอย่างเคย แต่วันนี้มีหน้างอง้ำและคำแทนตัวประชดประชันแถมมาด้วย นางรู้เรื่องที่เจ้านายทำกับวารินทร์เมื่อเช้า หลังจากคะยั้นคะยอว่าไปแกล้งเจ้าหล่อนท่าไหนถึงได้ป่วยนอนซม แล้วความจริงก็ทำให้นางอดเคืองไม่ได้ คุณชายใหญ่ของนางทำเกินไปจริงๆเมฆามัวแต่กังวลเรื่องคนที่นอนซมตั้งแต่เมื่อวาน เลยมองผ่านการประชดประชันของแม่นมคนดี เขากลับเข้าห้องอีกครั้ง หลังจากรบกวนแม่นมให้ช่วยเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้วารินทร์ หล่อนยังนอนแบ็บอยู่บนเตียง ดวงตาสีนิลปิดสนิท มีคราบน้ำตาจางๆ ติดอยู่ที่พวงแก้ม สีหน้าหล่อนดีขึ้นมาก ลองเอามืออังที่หน้าผากก็พบว่าหล่อนไม่มีไข้แล้วนายเหมืองหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก กวาดไล้สาย
เมฆายิ้มร้าย มัดเชือกที่ข้อมือน้อยแน่นหนึบ ชนิดที่ว่ามันไม่มีวันหลุดออกหากว่าไม่มีคนแกะมัน“ทีนี้ก็เดินลงไปในน้ำ”วารินทร์งุนงง น้ำตายังไหล กลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่า น้ำไหลเชี่ยวมาก และเธอ...ว่ายน้ำไม่เป็น“ฝนมันกำลังจะตกหนัก น้ำก็ไหลเชี่ยว ฉันกลัว” วารินทร์สารภาพ แม้จะอยากตายแต่ความกลัวก่อนตายมันก็รังแกหัวใจเธออยู่ดี“นั่นแหละที่ฉันต้องการ ลงไปเดี๋ยวนี้!”วารินทร์กัดฟันแน่น เดินลุยน้ำลงไปอย่างน้อยใจ เขาอยากให้เธอเจ็บปวด อยากให้เธอกลัว ตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้ว สายน้ำช่างเย็นเฉียบและไหลแรงเหลือเกิน น้ำตกก็ร่วงหล่นอย่างหนักแน่นราวกับจะทับถมมนุษย์ตัวเล็กๆ เช่นเธอ“เดินลงไปอีก อย่างนั้น เดินลงไปเรื่อยๆ หันหน้ามาทางนี้ด้วย”เขาสั่งอยู่บนท่าน้ำ วารินทร์ร่ำไห้ หันหน้ากลับมาหาเขา น้ำลึกลงไปทุกคราที่ก้าวถอยหลัง เธอถอยลงไปจนระดับน้ำปริ่มที่ริมฝีปาก น้ำเย็นมากและไหลแรงจนขาเธอแทบจะยืนไม่ติดพื้น ด้านล่างฝ่าเท้ามีแต่ก้อนหิน ทั้งลื่นทั้งแหลม เจ็บเท้าไปหมด“ยกมือซ้ายขึ้นมาให้ฉันเห็น”
“เอาเลยหมอ ชีวิตลูกสาวผมสำคัญกว่า”เจ้าสัวตัดสินใจโดยไม่ต้องคิด อย่างไรเสียชีวิตของบุตรสาวต้องมาก่อน“ไม่! เอาไว้ทั้งสองคนเถอะ ขอร้อง”วาคิมสวนเสียงกร้าว ไม่นำพาต่อสายตาขุ่นเคืองของเจ้าสัว“ลื้อไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่ง นั่นมันลูกสาวอั๊ว” โวยลั่นด้วยความโกรธ มันเริ่มปะทุตั้งแต่เห็นสีหน้าท่าทางของคนจองหองอวดดีคนนี้“นั่นก็เมียกับลูกผมเหมือนกัน มุกรักลูกมากแค่ไหนเจ้าสัวน่าจะรู้ ถ้าไม่มีลูกก็เหมือนฆ่าเธอทั้งเป็น”เจ้าสัวไม่อยากฟัง แทบจะเบือนหน้าหนี“คนไข้อาการแย่มาก แถมเลือดของเธอก็เป็นเลือดกรุ๊ปหายาก หมอเกรงว่าถ้าช่วยเด็กด้วย....”“ผมเลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ! ผมจะให้เลือดเธอเอง เร็วเข้าสิครับหมอ!” ชายหนุ่มเร่งเร้าในที่สุดก็ไม่มีใครขัดประกาศิตเจ้าชายน้ำแข็งได้ ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจึงได้มานอนให้เลือดแก่หญิงสาวในขณะนี้ หยาดโลหิตจากตัวเขาถูกถ่ายเทให้เกล็ดมุกหยดแล้วหยดเล่า กระทั่งใบหน้าซีดเซียวเริ่มซับสีเลือดขึ้นมาทีละน้อย ทีมแพทย์ที่ทำการรักษา เร่งป
[11]ตัวจริงของเกล็ดมุกตัวปลอมของเมฆา______________________‘ห้อง 211 น.ส. เกล็ดมุก เฉิน’วาคิมกัดฟันกรอดๆ จ้องประตูห้องพักฟื้นไม่วางตา ป้ายเลขห้องไม่ยอกแสยงใจเท่านามสกุลที่แปะอยู่ข้างชื่อของหล่อน มันไม่ใช่นามสกุลที่หล่อนใช้ตอนสมัครงาน แต่เป็นนามสกุลของเจ้าสัวแห่งเพิร์ล“นี่ขนาดจดทะเบียนสมรสกับผัวแก่เลยเหรอ เธอนี่มันแน่จริงๆ’สายตาคมมองผ่านช่องกระจกของบานประตู ก่อนจะหันมาสั่งกวิน“นายรออยู่ข้างนอก อย่าให้ไอ้หัวทองมันเข้าไปจนกว่าฉันจะออกมา”“ครับ เจ้านาย” กวินรับคำ เอื้อมมือไปเปิดประตูให้เจ้านายและปิดมันลงเบาๆ เมื่อชายหนุ่มก้าวเข้าไปในนั้นเรียบร้อยบอดี้การ์ดหนุ่มยืนปักหลักเฝ้าหน้าห้อง เตรียมพร้อมรับมือไอ้หมียักษ์หัวทองที่อาจโผล่มาได้ทุกเมื่อ______________ภายในห้องพักฟื้นร่างเล็กบอบบางนอนแบ็บอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล หลังมือด้านขวาของหล่อนถูกพันธนาการไว้ด้วยเข็มน้ำเกลือ ใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยบัดนี้ซีดเซียวไร้สีสัน
“นี่! นายจะเอาอะไร ทำไมไม่ยอมพูดล่ะ เอ๊ะ...หรือว่านายเหนียวตัว อยากอาบน้ำ ไม่ๆๆ นายห้ามอาบน้ำเด็ดขาด! อากาศเย็นเกินไปเดี๋ยวไข้ขึ้น หรือว่านายหิวข้าว? เดี๋ยวฉัน...เดี๋ยวฉัน ฉัน...กลับห้องดีกว่า...”วารินทร์สะดุดกึกเมื่อเห็นสายตาเต็มไปด้วยคำถามของเมฆา เธอรีบหยุดความห่วงใยที่ส่งผ่านคำพูดรัวเป็นชุด รีบดึงมือน้อยออกจากการเกาะกุม เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อต้องเตรียมตอบคำถามว่าเพราะเหตุใด เธอถึงยังอยู่ตรงนี้ทั้งที่เมื่อคืนเขาไล่กลับห้องไปแล้ว“ฉะ...ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบเข้ามานะ พอดีฉันได้ยินเสียงนายคราง คงเพราะพิษไข้ ฉันก็เลย...” แก้ตัวไม่ทันจบก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง วารินทร์นิ่งอึ้งไม่ขัดขืน ยินยอมให้ไหล่น้อยๆ ของเธอเป็นที่พักพิงแก่นายเหมืองผู้เอาแต่ใจ เขากอดเธอแน่น เกยศีรษะได้รูปบนบ่าของเธอ“นายเหมือง...เป็นอะไร” เธอถามแต่ไร้ซึ่งคำตอบ เลยนั่งอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน กระทั่งแรงสะท้านจากคนตัวใหญ่ทำให้เธอใคร่รู้ เธอดันเขาออกห่าง และได้รู้ว่าบ่าน้อยๆ กำลังเปียกชุ่ม“นะ...นายร้องไห้ทำไม ไม่อยากจะเชื่อ! สงสัยนายคงยัง