สองเดือนถัดมา
วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสสำหรับเกล็ดมุก มันเกิดขึ้นเพราะโต๊ะทำงานตัวใหม่นี่เอง มันไม่ได้ใหม่ด้วยการซื้อหา แต่มันใหม่เพราะตำแหน่งที่ตั้งของมันต่างหาก
“เป็นยังไงหนูมุก ถูกใจไหม เอาอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
วัลลภเอ่ยถาม ‘อดีตเลขา’ ด้วยความเอ็นดู
“อืม...ไม่เอาแล้วค่ะ มุกมาทำหน้าที่แทนพี่วาสนาแค่ไม่กี่วัน ไม่ต้องเปลี่ยนให้วุ่นวายหรอกค่ะ ลำบากคุณอาเปล่าๆ”
เธอออกตัวด้วยความเกรงใจ นึกขอบคุณบุรุษมากวัยเป็นล้นพ้นที่ช่วยให้เธอได้ทำงานตำแหน่งนี้แทนคนเก่าที่ประสบอุบัติเหตุ ถึงแม้จะแค่ชั่วคราวก็เถอะ
“ก็ไม่แน่หรอก หนูมุกทำงานเก่ง ดีไม่ดีอาจได้ทำต่อเลยก็ได้”
เธอยิ้มขอบคุณแทนการโต้ตอบ ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีสิคะคุณลุง มุกจะได้คอยสกัดดาวรุ่งบรรดาสาวๆ ของคุณวาให้กระเด็นไปไกลๆ ไม่ให้เขาได้ทันรู้ตัวเลย
การสนทนามีอันยุติลง เมื่อคนที่อยู่ในห้องเรียกให้ชายสูงวัยเข้าพบพร้อมๆ กับเลขาคนใหม่ของเขา
หญิงสาวรวบแฟ้มมาแนบอก ก่อนจะก้าวไปเปิดประตูให้อาวัลลภ อย่างน้อยเวลาอีกไม่กี่เดือนที่เหลือ เธอก็จะได้อยู่ใกล้ชิดเขามากขึ้น ไม่รู้ว่าเห็นแก่ตัวมากไปหรือเปล่า เพราะตอนนี้เธอกำลังภาวนาให้พี่วาสนาอย่าเพิ่งถอดเฝือกเลย อยากให้พี่เลขาแสนดีนอนเล่นที่โรงพยาบาลสักเดือนสองเดือนยิ่งดี
สตรีร่างสูงโปร่งในชุดรัดรูปสีเพลิงอวดหน้าอกหน้าใจไซซ์ฝรั่ง ก้าวฉับๆ มาหยุดที่โต๊ะทำงานของเกล็ดมุกด้วยความมาดมั่น รองเท้าส้นสูงปานเสาไฟฟ้าของเจ้าหล่อน แตะกระทบพื้นเป็นจังหวะเสียงดังจนแสบแก้วหู เกล็ดมุกเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารขึ้นมามอง รู้สึกหมั่นไส้แม่สาวทรงโตขึ้นมา เจ้าหล่อนคงนึกว่าเป็นเวทีนางแบบละมั้ง ไม่ต้องกรีดกรายขนาดนั้นเธอก็รู้แล้วล่ะว่าเจ้าหล่อนเป็นใคร
“สวัสดีค่ะ มาพบท่านประธาน ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ” ถามออกไปอย่างสุภาพที่สุด อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็อยู่ในเวลาทำงาน สมควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“นี่หล่อนเป็นเลขาใหม่ใช่ไหม ถึงไม่รู้จักฉัน วาสนาเลขาคนเก่าไม่ได้บอกหรือไงว่าฉันเป็นใคร แต่ไม่เป็นไร ฉันจะบอกเธอเองก็ได้ว่าฉันชื่อ ‘แพรวรุ้ง’ ว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายเธอ รู้แล้วก็ช่วยจำใส่สมองหน่อย คราวหน้าจะได้ไม่ต้องถามว่าฉันมีธุระอะไรถึงมาพบเขา เพราะสำหรับฉัน ไม่จำเป็นต้องมีธุระก็เข้านอกออกในที่นี่ได้ตลอดเวลา รู้ไว้ซะด้วย”
นางแบบสาวยิ้มเย้ยก่อนจะผลักประตูห้องเข้าไป เกล็ดมุกได้แต่มองตามตาปริบๆ คนมีสิทธิ์กับคนไม่มีสิทธิ์ สิทธิมันแตกต่างกันอย่างนี้นี่เอง
ภายในห้องทำงานของวาคิม
“อาคิดว่าที่ทางเพิร์ลเสนอมาน่าสนใจมากๆ ราคาสูงไปหน่อยแต่ของเขามีคุณภาพจริงๆ ที่สำคัญหากเราต้องการเพชร พลอย มรกต หรือว่าทับทิม เขาก็สามารถหาให้เราได้โดยง่าย ไม่ใช่มีแค่ไข่มุกเพียงอย่างเดียว หากเราเป็นคู่ค้ากับเขา อนาคตข้างหน้าราคาอัญมณีเหล่านี้ อาเชื่อว่าต้องสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่านี้แน่นอน ที่สำคัญเราไม่ต้องไปแย่งวัตถุดิบในตลาดให้วุ่นวายด้วย” วัลลภเสนอแนะเจ้านายรุ่นลูก
“ผมก็เห็นด้วย แต่ถ้าสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่านี้ได้ บริษัทก็จะได้กำไรมากขึ้น ผมขอเวลาอีกสองวันก็แล้วกัน ถ้าในสองวันนี้มีบริษัทอื่นเสนอราคามาอีก เราค่อยมาดูกันอีกที” วาคิมตอบเรียบๆ มีเพียงหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“เซอร์ไพรส์ค่ะวาขา! แพรวมาชวนวาไปหาอะไรทานด้วยกัน ไปกันเลยไหมคะ”
เสียงแหลมๆ นั่นทำเอาวาคิมต้องชักสีหน้า นี่ไงล่ะแพรวรุ้งตัวจริง หล่อนไม่เคยถามเขาสักคำว่าอยากไปกับหล่อนหรือเปล่า แถมยังทำเป็นลืมมารยาทผู้ดี เดินเข้าห้องเขาโดยไม่เคาะประตูด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่ามารดาของหล่อนเป็นเพื่อนกับมารดาเขาละก็ เขาไม่มีทางควงหล่อนให้เสียเวลาแน่ๆ เกล็ดมุกก็เหลือเกิน ปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไร รู้ทั้งรู้ว่าเขากำลังคุยเรื่องงานอยู่
“ถ้าอย่างนั้น อาขอตัวก่อนก็แล้วกัน” ชายสูงวัยเอ่ยอย่างเกรงใจ ถือโอกาสปลีกตัวออกจากห้องของบอสใหญ่ หางตาของคนสูงวัยปรายไปยังนางแบบรุ่นลูกแล้วก็ต้องส่ายศีรษะอย่างระอา นี่หรือว่าที่นายหญิงของ GB นอกจากราศีที่แดงเถือกเปล่งออกมาจากชุดที่สวมแล้ว หล่อนยังห่างไกลคำว่าสวยสง่าไปอีกหลายล้านปีแสง หวังว่าในอนาคต คงไม่ต้องเรียกนางแบบสาวว่า ‘นายหญิง’ จริงๆ หรอกนะ
_____________
ขณะที่เกล็ดมุกกำลังรวบรวมเอกสารที่จะใช้ในการประชุมของวันพรุ่งนี้ ประตูห้องบอสใหญ่ที่ปิดไว้เกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากอาวัลลภออกไป ก็เปิดออกในที่สุด ร่างสวยสะคราญของนางแบบหุ่นเพรียวลมแต่อวบอึ๋ม แนบชิดคลอเคลียอยู่ในวงแขนของเขา
เกล็ดมุกมองภาพนั้นแล้วปวดหัวใจยิ่งนัก เธอไม่ได้หึงหวงผู้หญิงคนนี้ แต่เธออิจฉาต่างหาก อิจฉาที่หล่อนได้อยู่ในอ้อมแขนของชายที่รักในทุกๆ ที่ที่หล่อนต้องการ ในขณะที่อ้อมแขนของชายที่เธอรัก เขามีให้เธอเฉพาะตอนที่อยู่บนเตียง
“ฉันจะไปข้างนอกกับคุณแพรว นัดตอนบ่ายเลื่อนไปวันพรุ่งนี้”
เขาสั่งเรียบๆ ตามแบบฉบับของเขาแล้วเดินเคียงคู่กันออกไป ไม่รอฟังคำขานรับของเธอด้วยซ้ำ เธอมองตามร่างของคนทั้งสองไม่วางตา เมื่อไรหนอเธอถึงจะมีโอกาสได้เดินเคียงคู่กับเขาอย่างนี้บ้าง เมื่อไหร่กัน
ครืดดด!!! ตึง!!!เมฆาลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ มันล้มหงายบนพื้นอย่างแรง เกล็ดมุกสะดุ้งเฮือก หลับตาแน่นหนึบ รอคอยถ้อยวาจาที่พี่ชายจะกล่าวออกมาเพื่อสั่งสอนเหมือนทุกครั้ง ทว่าทุกสรรพสิ่งยังเงียบงัน หลายนาทีผ่านไปจึงได้ลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง ดวงตาที่รื้นด้วยหยาดน้ำใสจึงทันเห็นแผ่นหลังกว้างของพี่ชายหายลับไปหลังบานประตูเกล็ดมุกหันมาหาบิดา เพียงชั่ววินาทีคำสารภาพของเธอก็เปลี่ยนฝ่ามืออุ่นๆ ของท่านให้เย็นเฉียบ เธอรับรู้ถึงความอบอุ่นที่จางหายบนฝ่ามือนั้น รีบทรุดตัวลงไปนั่งบนพรมผืนหนา คลานเข่าเข้าหาบิดาเหมือนครั้งที่ยังเล็กๆ มือเรียวพนมขึ้นมาแล้วก้มศีรษะลงกราบงามๆ แทบฝ่าเท้าของท่าน นิ่งนาน...เกล็ดมุกรู้ดี ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าบิดาจะให้อภัย ให้เธอได้มีโอกาสอุ้มท้องลูกคนนี้ ลูกไม่มีพ่อ“ความจริง...บ้านเรา มันก็เงียบเหงาเกินไปนะ ถ้ามีเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่นบ้างจะเป็นไรไป” เจ้าสัวใหญ่น้ำตาซึม เสียงแหบสั่นกลั่นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก ไร้ประโยชน์หากท่านจะถือโทษโกรธเคืองบุตรสาว หล่อนเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว และรู้ดีแก่ใจว่าได้ละเมิดข
“แน่ใจหรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของคุณ เจ้านายผมฝากมาบอกพวกคุณว่าถ้ายังไม่อยากตาย เลิกยุ่งกับคุณหนูเล็กซะ ไม่อยากนั้นจะได้กิน ‘ลูกปืน’ แทนข้าว” พ่อหมียักษ์ส่งสารตามที่เจ้านายสั่งไว้จนจบ เขาอุ้มร่างของคุณหนูเล็กขึ้นแนบอกแล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง ตามด้วยชายชุดดำรั้งท้ายอีกเป็นขบวน“โธ่เว้ย! พวกมันเป็นใครกวิน ฉันต้องการรู้ในสิบนาที มันกล้าทำขนาดนี้หยามกันชัดๆ สารเลวเอ๊ย!” ก่นด่าด้วยแรงอารมณ์ ของที่อยู่ใกล้มือที่สุดมีอันต้องลอยละลิ่วด้วยถูกปาจากมือเจ้าของวาคิมกลับเข้าไปในห้องนอน ระบายความโกรธแค้นที่โหมแรงราวพายุน้ำแข็งลงกับข้าวของในนั้น ยี่สิบนาทีต่อมาพายุลูกใหญ่ก็พัดผ่านเหลือเพียงเศษซากอารมณ์ที่พังยับ มันเกลื่อนกระจายบนพื้นห้อง อาจจะกองรวมกับเศษแจกันหรือไม่ก็โคมไฟทรงพระจันทร์สีนวลที่ตอนนี้เว้าแหว่งเหลือเพียงครึ่งเสี้ยวกวินกวาดสายตามองไปรอบห้อง พายุอารมณ์เริ่มอ่อนแรงแล้ว เขาเองก็อยากระบายอารมณ์ให้หายแค้นกับอะไรสักอย่าง แต่เจ้านายที่เคารพคงไม่อาจอยู่ได้ลำพังในสภาพนี้“ไม่ต้องรอถึงสิบนาทีหรอก ถ้าเป็นไอ้หมียักษ์นั่น
[5]ลูกสาวเจ้าพ่อขอทวงบัลลังก์_____________________________“เดี๋ยว! เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันยังไม่อนุญาต”เขาประกาศก้อง กวินยิ้มกว้างเต็มวงหน้า หลีกทางให้เจ้านายสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวเกล็ดมุกหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสมเพช วาคิมก็ยังเป็นวาคิมวันยังค่ำ หัวใจน้ำแข็งที่เย็นเยือกและแข็งกระด้างยังคงทระนงอยู่เช่นเดิม ไม่ยอมอ่อนไหวละลายลงให้ใครเลยแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง หากเขาบอกสักนิดว่า ‘รัก’ เธออาจจะเปลี่ยนใจ แต่...ไม่ละ ไม่ดีกว่า เธอทำให้บิดาและพี่ชายเสียใจมามากพอแล้ว“คุณเคยบอกว่าไม่ต้องขออนุญาต อย่าลืม!”เกล็ดมุกเปล่งน้ำเสียงเฉียบขาดประกาศจุดยืนอีกครั้ง เธอเดินหน้าก้าวต่อแม้ว่าพื้นห้องจะโคลงเคลงเหมือนเพิ่งลงจากรถไฟเหาะหมับ!“อย่าแตะฉัน! ปล่อย!” เธอร้องลั่นเมื่อมือที่หมายจะเอื้อมไปเปิดประตูถูกเขาคว้าเอาไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ เขาตวัดแขนรอบเดียวก็เกี่ยวเธอมาแนบชิดติดอกแกร่ง ช่างง่ายดายเหลือเกิน
วาคิมร้องชื่อหญิงสาวลั่นห้อง ไอ้ท่าทางบ่าตั้งหลังตรง คอแข็งเป็นนางพญา แถมวาจาเชือดเฉือนไม่มีลดราวาศอกของหล่อนนี่มันสุดจะทนจริงๆเกล็ดมุกเดินเข้าห้องนอนอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวกระทำ กระทั่งผ่านไปอีกหลายนาทีเจ้าหล่อนก็เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับข้าวของหลายอย่างในอ้อมแขน หล่อนปล่อยทุกอย่างให้หล่นโครมบนโต๊ะตรงหน้าพวกเขาวาคิมพูดไม่ออกเมื่อกล่องกระดาษใบเล็กกระเด็นมากระดอนมาโดนขา เขาต้องรีบรับมันไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงไปใต้โต๊ะ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แน่ละเพราะของทุกอย่างที่เขาสั่งให้หล่อน กวินเป็นคนจัดการทั้งสิ้นหัวคิ้วของบอดี้การ์ดหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อแลเห็นของในมือเจ้านาย เกล็ดมุกกำลังจะทำอะไรกัน“นั่นของขวัญปลอบใจ” เธอบอกเบาๆ ขมขื่นใจเหลือเกินเมื่อแลไปที่กล่องของขวัญใบเล็กในมือเขา “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างในมันคืออะไร คุณเป็นคนให้เอง บอกฉันได้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร”วาคิมนิ่งอึ้ง รู้สึกว่าอากาศภายในห้องมีไม่เพียงพอสำหรับเขา มันอึดอัดหายใจลำบาก ที่สำคัญปากของเขาเหมือนถูกถ่วงไว้ด้วยลูกตุ้มยักษ์ ไม่อาจแก้ต่างใ
หญิงสาวหยุดยืนที่กลางห้องเป็นครั้งสุดท้าย หน่วยตาหม่นเศร้ามีหยดน้ำใสคลออยู่ กวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว ซึมซับเอาความสุข ความทุกข์ ที่เขาและเธอมีร่วมกัน กลิ่นอายความสุขยังอบอวลอยู่ในนี้ มันมีมากพอๆ กับละอองของหยดน้ำตา“วาคิมคะ มุกมาอยู่ที่นี่เพราะว่ามุกรักคุณ แต่ที่มุกต้องไปก็เพราะมุกรักคุณเช่นกัน” เอ่ยกับห้องนอนอันว่างเปล่า ค่อยๆ ก้าวมาที่ประตูอย่างช้าๆ บิดลูกบิดสีเงินด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว แต่ยังไม่ทันได้ผลักมันออกไป เสียงประตูใหญ่ด้านนอกก็ถูกผลักเข้ามา มือเรียวสวยหยุดชะงัก ประตูห้องนอนถูกแง้มไว้มิได้เปิดออกจนสุด“ฉันกำลังโมโหมากเลยกวิน! เกล็ดมุกกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า!”วาคิมตะโกนบอกบอดี้การ์ดทั้งที่กวินก็เดินตามหลังมา ใช่! เขากำลังจะบ้าเพราะไม่รู้จะจัดการกับน้ำตาของเกล็ดมุกอย่างไรดี หล่อนชอบประชดประชันแล้วก็เอาแต่ร้องไห้ เขาพยายามไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ แต่หัวจิตหัวใจกลับเจ็บปวดเหลือทนเกล็ดมุกยืนนิ่งหลังประตูห้องนอน ไม่ได้จะแอบฟัง แต่ชื่อของตัวเองที่ถูกกล่าวถึงทำให้อดใจไม่ไหว“เจ้านายน่าจะคุยกับคุณมุกอีกที เธอกำลังไม่ส
เธอลุกยืนแล้วเดินเข้าห้องนอนอย่างช้าๆ รู้สึกถึงไอร้อนผะผ่าวทั่วร่าง เธอคงจับไข้เข้าให้แล้ววาคิมแสดงน้ำใจอันล้นเหลือด้วยการยืนกอดอก สองตาเพ่งมองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังตะเกียกตะกายเข้าห้อง ถ้าหล่อนร้องขอความช่วยเหลือสักคำ เขาคงอุ้มหล่อนไปส่งให้ถึงเตียงเชียว แต่นี่ไม่เลย เก่งให้ตลอดนะเกล็ดมุก ผู้หญิงหัวดื้อ!เกล็ดมุกสะท้อนในอก หากล้มลงไปตรงนี้วาคิมจะถลามาคว้าไว้หรือว่าจะก้าวข้ามกันแน่ เธอยิ้มขมขื่น จ้องมองทางข้างหน้าผ่านม่านน้ำตา ห้องน้ำด้านในห้องนอนคือจุดมุ่งหมาย และเมื่อเข้ามาได้ เธอก็ขย้อนเอาอาหารเที่ยงออกมาอีกครั้ง ร่างอ่อนแรงแทบสลบข้างโถชักโครก แต่ก็ยังแข็งใจฝืนลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ยาแก้ไข้ถูกป้อนเข้าปากตามด้วยน้ำอีกหนึ่งแก้วใหญ่ เธอปีนขึ้นเตียงนอน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยปัง!เสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ณ บัดนี้บนชั้นสูงสุดของตึก GB มีเพียงเกล็ดมุกเท่านั้นที่ยังอยู่ วาคิมบันดาลโทสะอันมากมีของเขาลงกับประตูบานเดิม เขาคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็คงหัวเสียที่วันนี้เธอกล้าเถียงเขา วาคิมเคยบอกว่าไม่เคยใส่ใจเรื่องของเธอ แต่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเขา