ในศาลากลางทะเลสาบ มีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้านั่งอยู่กระโปรงขาว รองเท้าขาว และแม้แต่ผมของเธอก็ผูกด้วยโบสีขาวเธอก้มหน้าอ่านหนังสือทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ค่อยชัดจวงเสี่ยวหยิงดึงเย่ซิวเข้ามา“ชิงเสวี่ย เธอมาอ่านหนังสือที่นี่อีกแล้ว”หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอันสวยงามใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพู สวยเหมือนหญิงงามสมัยโบราณเธอมีนิสัยรักสงบ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเย่ซิวเผยสีหน้าประหลาดใจไม่ใช่ว่าเขาประหลาดใจกับหน้าตาของเธอ แต่เป็นศักยภาพของเธอต่างหากแม้ว่าหญิงสาวที่ชื่อชิงเสวี่ยตรงหน้านี้ จะมีความโดดเด่นในทุกด้าน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเทียบได้จอมยุทธ์ระดับแปด!ผู้หญิงคนนี้ดูเด็กกว่าตนเองเล็กน้อย แต่ไม่คิดว่าจะมีพละกำลังระดับนั้นจริง ๆเย่ซิวไม่เคยสบประมาทใครในโลกนี้ และเขาไม่ใช่คนเดียวที่มีพรสวรรค์ราวกับปีศาจชิงเสวี่ยลุกขึ้นยืน เธอยิ้มหวานและพูดด้วยเสียงไพเราะ "เสี่ยวหยิง วันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะ"จวงเสี่ยวหยิงหัวเราะคิกคัก "ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเย่ซิว พี่ชายของฉัน "ชิงเสวี่ยมองไปที่เย่ซิว "ได้ยินชื่อเสียงคุณมานา
“เป็นหน่วยข่าวกรองชั้นยอดที่มีสายสืบกระจายกว่าสองร้อยประเทศทั่วโลก” หยางชิงเสวี่ยเปิดเผยความลับนี้“เรามีสุดยอดข่าวกรองนับไม่ถ้วน ซึ่งหากมอบข้อมูลเหล่านี้ให้กับประเทศหลงเถิง จะสามารถขยายที่ดินเพิ่มเป็นสองเท่าภายในสิบปี!”สิ่งนี้วนเวียนอยู่ในใจของเย่ซิว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจท่านอาจารย์ของเขาทรงพลังเกินไปมากจริง ๆ ไม่คิดว่าจะเตรียมการไว้มากมายขนาดนี้“เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรก ฉันจะให้ข้อมูลแก่คุณฟรี ๆ หนึ่งอย่าง”เมื่อพูดเช่นนั้น หยางชิงเสวี่ยก็หยิบกระดาษที่พับอยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมามอบให้เย่ซิวเย่ซิวรับมันมาและเปิดดู ในนั้นมีรูปแผนที่ และรายละเอียดตัวเลข เครื่องหมายสัญลักษณ์ต่าง ๆ หยางชิงเสวี่ยพูด "ตำแหน่งที่ระบุไว้บนแผนที่คือค่ายทหารของประเทศคาบูประเทศนี้ถูกควบคุมอย่างลับ ๆ โดยสมาชิกทั้งหกคนของหอการค้าไป๋ชวนเมื่อหลายปีก่อนเนื่องจากคุณสังหารจอมยุทธ์ยอดฝีมือของยุทธภพไปหลายคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกทั้งหกคนและเครือญาติของพวกเขาจึงทยอยย้ายไปที่ประเทศคาบูกันแล้วนอกจากนี้พวกเขายังใช้วิธีการต่าง ๆ ในการขนย้ายทรัพย์สินออกไปทีละนิดโดยทำอย่างลับ ๆ ซึ่งขณะน
เย่ซิวตระหนักถึงพลังของยามังกรพยัคฆ์อย่างถ่องแท้หลังจากทานมันไป จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ชายโดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ายาแซดวายใด ๆ ในท้องตลาด เมื่อวางขายแล้วจะเกิดการแย่งชิงอย่างแน่นอนหลังจากแน่ใจแล้วว่ายาไม่มีปัญหาใด ๆ เย่ซิวจึงเริ่มเตรียมการผลิตสวนสมุนไพรทั้งหมดมีขนาดใหญ่โต เพียงพอที่จะผลิตให้ตนเองได้ยามังกรพยัคฆ์ที่วางขายนี้จะแบ่งออกเป็นสองสูตรที่แตกต่างกันสูตรในประเทศกับสูตรต่างประเทศสูตรในประเทศทำจากสมุนไพรชั้นเลิศที่ปลูกในสวนสมุนไพร โดยให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับสูตรต่างประเทศ เขาวางแผนซื้อสมุนไพรคุณภาพต่ำที่สุด และลดต้นทุนให้ต่ำมากที่สุด ผลลัพธ์คาดว่าจะมีเพียงหนึ่งในสิบของสูตรในประเทศแต่ในแง่ของราคา เย่ซิววางแผนที่จะตั้งราคาสูงกว่าในประเทศประมาณสิบเท่าแต่ก่อนเรื่องแบบนี้ ประเทศมหาอํานาจทางเทคโนโลยีในต่างประเทศทํากันบ่อย ๆตอนที่ประเทศหลงเถิงยังค่อนข้างล้าหลัง มักถูกเรียกราคาสูง ๆ เอาเปรียบอยู่เสมอสกรูหนึ่งตัวที่ต่างประเทศขายห้าสิบบาท แต่ในประเทศสามารถขายได้ในราคาห้าหมื่นบาท แถมยังมีท่าทางชนิดที่ว่าใครไม
ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาว่า หลินโหรวลาออกแล้วและให้คนอื่นทำงานแทนที่ตำแหน่งเธอแล้วเย่ซิวเดาว่าเป็นเพราะเธอเลิกกับหลิวเยวี่ยหง จึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้เขาไม่ได้เข้าไปคุย เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านผู้หญิงคนนี้มักจะตั้งแง่กับเขาเสมอ จะเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวทำไมเบียร์หนึ่งโหลถูกนำมาเสิร์ฟ เธอดื่มทีละขวดดื่มไปส่งข้อความเสียงไป“อย่าทิ้งฉันไปได้ไหม?”“ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”“เหตุผลคืออะไร เราคบกันมาตั้งหลายปี อยากเลิกก็เลิกงั้นเหรอ?”“อ๊ากกก..ตอบสิ อย่าเมินใส่ฉัน”…… ยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งเศร้า และยิ่งดื่มหนักขึ้นไปอีกยิ่งดึก จำนวนแขกยิ่งค่อย ๆ เพิ่มขึ้นชายฉกรรจ์สามคนเดินเข้ามาเมื่อเห็นหลินโหรวเมาแอ๋นั่งคุยกับตัวเอง พวกเขาก็ตาลุกวาวทันทีพวกเขาพร้อมใจกันเดินเข้าไป“น้องสาว เธอเมาหรือเปล่า?”“อยู่คนเดียวข้างนอกมันอันตราย ให้พี่ ๆ ไปส่งบ้านดีกว่า”หลินโหรวกะพริบตา "ไสหัวไป ไอ้โสโครก น่าขยะแขยง"ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนไม่ได้โกรธ พวกเขาหัวเราะและพยายามดึงหลินโหรวขึ้นมาเพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งสามถูกขวดเหล้าฟาดไปที่ท้ายทอย หน้ามืดเป็นลมหมดสติทันที
คำพูดยั่วยุของหลินโหรวได้ผลอย่างแท้จริง เย่ซิวทนผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว ในเมื่อเธอต้องการท้าทายเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไปในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็ได้ปลูกฝังทัศนคติและมุมมองชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอด้วยสิ่งที่เธอเคยเชื่อถือมาก่อนนั้นบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป สำหรับหลินโหรวที่เป็น ‘ผู้ป่วยขั้นวิกฤติ’ แบบนี้ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาแรงเท่านั้นและเพราะเหตุนี้ เย่ซิวจึงทำให้เธอกลับมาในทิศทางที่ถูกต้องเธอเพิ่งจะได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ปกติระหว่างชายหญิงนั้นเป็นแบบนี้เองเย่ซิวมองดูเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้วเวลาที่เขานัดกับไป๋อวี้เจี๋ยคือสี่ทุ่มครึ่ง หลินโหรวที่เหนื่อยล้าจนทนไม่ไหวได้หลับสนิทไปแล้ว เย่ซิวจึงออกจากห้องไปโดยไม่รบกวนเธอ ที่นี่ปลอดภัยและสะอาดดี ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเกิดปัญหาอะไรเย่ซิวขับรถออกจากโรงแรมและมาถึงที่พักของไป๋อวี้เจี๋ยตามเวลาที่นัดไว้ แต่เมื่อเขามาถึงหน้าประตู กลับพบว่ามีรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่งวางอยู่ กลิ่นบางอย่างที่ลอยในอากาศทำให้เขารู้ทันทีว่าเป็นของใครเขากดรหัสเปิดประตูด้วยลายนิ้วมือ จนเกิดเสียงติ๊ดดังขึ้นพร้อมกับที่ประตูเปิดออก
ไป๋อวี้เจี๋ยยืนอยู่ตรงหน้าหน้าเย่ซิวในชุดจักรพรรดินีเต็มยศ สุดยอด ชุดที่เธอสวมอยู่คือชุดฮองเฮาที่มักเห็นในละครโทรทัศน์เย่ซิวมองเธอด้วยความตกตะลึง “สวยไหมคะ?” ไป๋อวี้เจี๋ยยืดอกอย่างภาคภูมิใจ พลางเดินมาตรงหน้าเย่ซิว “เห็นฮองเฮาเช่นข้าแล้วยังไม่รีบคารวะอีก!”ต้องยอมรับว่า ด้วยท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจและบารมีจากการดำรงตำแหน่งสูงส่ง ทำให้เธอดูเหมือนฮองเฮาจริง ๆเย่ซิวดึงเธอเข้ามาใกล้ พลางตีเธออย่างมันเขี้ยว “ถ้าคุณเป็นฮองเฮา งั้นผมก็คงเป็นฮ่องเต้แล้วสิ”ไป๋อวี้เจี๋ยครางออกมาก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณไม่เคยอยากลองทำเหมือนพวกเศรษฐีระดับโลกบ้างเหรอ? คอยควบคุมประเทศเล็ก ๆ ทั่วโลกอย่างลับ ๆ แล้วรอวันที่ลูก ๆ ของคุณเกิดมา พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิง”เย่ซิวส่ายหัว “ไม่จำเป็นหรอก”หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะเคยมีความคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้เย่ซิวแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้อีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตามเป้าหมายของเขาคือช่วยเหลือประเทศหลงเถิงจัดการศัตรูตัวฉกาจ และพัฒนาเส้นทางการบำเพ็ญเพียรไปให้ไกลกว่าเดิมไป๋อวี้เจี๋ยตอบอืมแบบรับรู้และไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก เธอเอ่ยเสียง
ขณะที่พนักงานเสิร์ฟหญิงอีกคนในร้านเดินถือชามบะหมี่เนื้อแกะร้อน ๆ เข้ามา ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงเบา “เรียบร้อยใช่ไหม?”หญิงสาวตอบกลับ “ไม่มีปัญหาค่ะ ใส่ยาลงไปในบะหมี่เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าเธอจะหมดสติแน่นอนหลังจากกินเข้าไป”ชายหนุ่มลูบคางพลางยิ้มด้วยความตื่นเต้น “รีบเอาไปเสิร์ฟเถอะ”พนักงานเสิร์ฟหญิงรับคำก่อนจะเดินเข้าไปในห้องชายหนุ่มคนนี้เป็นเจ้าของร้าน เพิ่งได้รับช่วงต่อจากพ่อของเขาได้ไม่นาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัวอีอีได้มาสมัครงานที่นี่ และเขาก็ตกหลุมรักในความงดงามอันบริสุทธิ์ของเธอทันทีตั้งแต่แรกเห็น ทำให้เขาตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานโดยไม่ต้องผ่านการสัมภาษณ์ใด ๆหลังจากนั้น เขาก็พยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะครอบครองเธอให้ได้ แต่หลัวอีอีกลับเป็นคนระมัดระวังตัวสูง ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเธอได้จนกระทั่งพนักงานหญิงอีกคนซึ่งเคยถูกเขาเล่นจนหมดสภาพ ได้แนะนำแผนการนี้ขึ้นมา จึงได้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น“มาดูกันว่าคราวนี้เธอจะหนียังไง เธอต้องเป็นของฉัน!” เมื่อเขานึกถึงใบหน้าอันงดงามและรูปร่างอันน่าหลงใหลของหลัวอีอีแล้ว ความปรารถนาที่เขามีต่อเธอก็ปะทุขึ้นมาทันที“เถ้าแก่
ชายคนนั้นแทบอยากจะฉีกเย่ซิวออกเป็นชิ้น ๆ แต่เมื่อคิดถึงหลัวอีอี เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ทันที เขาลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะยิ้มแหย ๆ “ผมจะกินครับ คุณอย่าเพิ่งโทรนะ”เขาฝืนความขยะแขยงและกินบะหมี่ทั้งชามรวมถึงน้ำซุปจนหมด ใบหน้าเขาสั่นนิด ๆ ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าความอิจฉาทำให้เขาตามืดบอด และสุดท้ายก็ต้องรับผลแห่งการกระทำของตัวเองเย่ซิวเก็บโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะนั่งกินข้าวที่นี่อีกต่อไปแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการได้เก็บเกี่ยวหลัวอีอี“หืม?”เย่ซิวหยุดเดินกลางคัน หูขวาของเขาขยับเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยบางอย่าง ทำให้สายตาเขาหันไปมองทางห้องส่วนตัวที่หลัวอีอีอยู่ชายหนุ่มใจเต้นแรง ก่อนจะยิ้มแหยและเอ่ย “คุณลูกค้า มีอะไรเหรอครับ?”เย่ซิวไม่ตอบ เขาเดินตรงไปยังห้องส่วนตัวทันที ชายหนุ่มเริ่มตื่นตระหนก เขารีบไปขวางเย่ซิวเอาไว้ “คุณลูกค้า คุณจะมาก่อเรื่องหรือไง?”เย่ซิวตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลบไป ฉันสงสัยว่านายกำลังทำเรื่องผิดกฎหมายอ
“ฉันมาซื้อโอสถตามคำสั่งของเขา การที่ยอมซื้อโอสถของพวกเธอก็ถือว่าให้เกียรติแล้ว อย่าหาเรื่องใส่ตัวจะดีกว่า”จางเสี่ยวอวี๋เผลอหันไปมองเย่ซิวอย่างอดไม่ได้เพราะคนตรงหน้านั้นมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา เธอจึงไม่กล้ารับมือเองเย่ซิวหรี่ตาเล็กน้อย “จะเป็นใครก็ช่าง ต่อให้เป็นเจ้าสำนักเองก็ต้องทำตามกฎ”“กล้าดียังไง คิดว่ากลั่นโอสถได้ไม่กี่เตาก็จะเหิมเกริมเกินขอบเขตได้หรือไง!”รั่วอวิ๋นที่ได้ยินเสียงวุ่นวายก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “กล้าดียังไงมาหาเรื่องถึงหน้าร้านฉัน ไม่กลัวว่าฉันจะตบนายให้หายไปจากโลกในทีเดียวเลยหรือไง”ชายคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามฝืนความกลัวไว้ “ผู้อาวุโสรั่วอวิ๋น นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับเขา ท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรเข้ามายุ่งจะดีกว่า”เย่ซิวเข้าใจทันที ก่อนจะมองชายคนนั้นอย่างพินิจ “นายจงใจมายั่วโมโหฉันใช่ไหม หวังให้ฉันลงมือก่อนสินะ”ชายคนนั้นตอบกลับด้วยท่าทางเย็นชา “ฉันไม่เข้าใจที่นายพูด ฉันแค่มาซื้อโอสถเท่านั้นเอง”“ตามกฎของสำนักอวิ้นหลิง ผู้ใดลงมือทำร้ายผู้อื่นโดยพลการ จะต้องถูกลบล้างพลังบำเพ็ญทั้งหมดเพราะงั้นหนานกงอู๋ซวงจึงส่งนายมา หวังใช้ชี
ภาพความวุ่นวายที่อยู่ตรงหน้า เย่ซิวกับรั่วอวิ๋นเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนคนพวกนั้นตาแดงก่ำ หน้าตาเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งใครไม่รู้เรื่องมาก่อนคงนึกว่าพวกเขากำลังจะไปแก้แค้นให้พ่ออย่างไรอย่างนั้นรั่วอวิ๋นต้องก้าวออกมาข้างหน้า ปล่อยพลังอำนาจอันน่าเกรงขามออกมา “ทุกคนต่อแถวตามระเบียบ ใครกล้าแซงคิว จะถูกตัดสิทธิ์ซื้อโอสถร้านนี้ตลอดไป”อำนาจบารมีของรั่วอวิ๋นยังคงรุนแรงไม่เปลี่ยนพอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็หยุดทันที แล้วหันมาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบรรดาผู้อาวุโสรีบจ้ำพรวดเข้ามาอยู่หน้าสุด ใบหน้าทุกคนยิ้มแย้มเหมือนดอกไม้บาน“ศิษย์น้องรั่วอวิ๋น ยินดีด้วยนะที่เปิดกิจการแล้ว เรามาช่วยอุดหนุนเต็มที่เลย เดี๋ยวจะเหมาให้หมดร้านเลย”“ใช่แล้ว วันนี้เราจะกวาดซื้อทุกอย่างในร้านให้หมด”……ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเย่ซิวแล้วแม้จะพูดกับรั่วอวิ๋น แต่ทั้งหมดก็จงใจพูดให้เย่ซิวได้ยินทั้งนั้นเย่ซิวมองดูสีหน้ากระหายโอสถของพวกเขาแล้วรู้สึกไม่ดีขึ้นมาตอนแรกเขาคิดว่าโอสถกว่าล้านเม็ดที่เตรียมไว้น่าจะขายได้อีกนานแต่ดูจากสภาพตอนนี้ มีหวังหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวแน่ ถ้าเป็นแบบนั้น ความลับบางอย่าง
เสี่ยวโหรวเดินเข้าครัวอย่างว่าง่าย เตรียมเคี่ยวสมุนไพรให้เย่ซิวใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มบาง ๆตลอดหลายวันที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกสงบสุขที่สุดนับตั้งแต่เดินทางมายังเผ่ามนุษย์เย่ซิวมัวแต่ยุ่งกับการกลั่นโอสถ ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับเธอ และก็ไม่เคยบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าการให้เกียรติอย่างแท้จริงเธอแอบคิดในใจว่าทุกอย่างที่ท่านแม่พูดมันก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ที่ว่ามนุษย์ล้วนแล้วแต่เป็นพวกเจ้าเล่ห์ แฝงไปด้วยเล่ห์กลและความต่ำช้า ในหมู่พวกเขาก็ยังมีคนดีอยู่เหมือนกันไม่นานเธอก็เคี่ยวสมุนไพรเสร็จ แล้วถือมาเสิร์ฟให้เย่ซิวเย่ซิวดื่มรวดเดียวหมดความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายเหมือนจะผ่อนคลายลงไปไม่น้อยเขามองไปที่เสี่ยวโหรวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหวานใส รูปร่างบอบบางเหมือนดอกไม้แรกแย้มที่กำลังรอใครสักคนมาสัมผัส“ไม่ต้องคอยดูแลฉันหรอก กลับห้องไปอ่านหนังสือได้แล้ว”เย่ซิวให้หนังสือกับเธอไว้หลายเล่ม หวังให้เธอได้อ่านเพื่อขจัดความเป็นปีศาจที่หลงเหลืออยู่ในตัว“เจ้าค่ะนายท่าน ถ้ามีสิ่งใดที่ต้องการก็สั่งได้เลยนะเจ้าคะ”เสี่ยวโ
“อีกแปดวันข้างหน้า เขตลับของสำนักจะเปิดแล้วนะ ฉันสมัครให้นายเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปเข้าร่วมล่ะ”เย่ซิวถามด้วยความสงสัย “ข้างในอันตรายไหมครับ แล้วสู้กันได้หรือเปล่า?”“บางจุดก็อันตราย แต่มีไม่มาก ส่วนจะสู้กันได้ไหม ถ้ามีใครคิดร้ายกับนาย มันก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องมีหลักฐานนะ หรือไม่งั้นก็ต้องเก็บกวาดกันหน่อย”เย่ซิวเข้าใจดี จึงถามอีกครั้ง “หนานกงอู๋ซวงจะเข้าไปด้วยไหมครับ?”หมอนั่นดูมีท่าทีเป็นศัตรูกับเขาอย่างมาก ถ้าอีกฝ่ายเข้าไปจริง ๆ คงไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่รั่วอวิ๋นเหลือบตามองเขา “ไม่แน่ใจเหมือนกัน เขาเคยเข้าไปแค่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้ก็อาจจะเข้าไปอีก ถ้าเจอเขาก็รีบหนีไปให้ไกลที่สุด เขาแข็งแกร่งมาก นายสู้ไม่ได้หรอก”เธอมองว่าเย่ซิวกับหนานกงอู๋ซวงอยู่กันคนละระดับกัน ต่างกันราวฟ้ากับเหวเย่ซิวไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินจากไปรั่วอวิ๋นมองตามแผ่นหลังของเย่ซิว แล้วก้มมองมือของตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายจับก่อนหน้านี้ จากนั้นใบหน้าก็เริ่มขึ้นสีแดงเรื่อเธอสบถในใจว่า ‘ไอ้บ้านี่’ แล้วก็หมุนตัวกลับไปยังถ้ำของตัวเองเย่ซิวไม่ได้กลับที่พักทันที แต่เดินไปหาจางเสี่ยวอวี๋เพื่อดูว่า
บางทีอาจเปลี่ยนสถานะของเผ่าพันธุ์เราทั้งหมดในหมู่ปีศาจได้เลยก็ได้”เสี่ยวโหรวพยักหน้า “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน”หลังจากจบการติดต่อ เสี่ยวโหรวก็ก้มมองโอสถวิญญาณหยกในมือ สายตาเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมายห้าวันต่อมา เย่ซิวก็ได้รับศิลาวิญญาณเพิ่มอีกกว่าแปดแสนก้อน ซึ่งก็มาจากคำสั่งซื้อของเหล่าศิษย์ในสำนักแต่หากหารายได้ด้วยวิธีนี้อย่างเดียวคงต้องใช้เวลาอีกนานมาก กว่าจะสะสมได้มากพอ ดังนั้นเย่ซิวจึงไปหารั่วอวิ๋นเมื่อไปถึงหน้าถ้ำและเปิดประตูออก แต่รั่วอวิ๋นกลับไม่ต้อนรับเขาอย่างเป็นมิตรเท่าไหร่ “โอ้โห ที่แท้ก็เป็นปรมาจารย์เย่นี่เอง วันนี้มีอะไรจะมาสั่งสอนหรือ”ช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆก่อนหน้านี้ฐานะของเธอในสำนักแทบจะเป็นอันดับหนึ่งแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว!คนมากมายแห่กันไปหาเย่ซิวเพื่อให้กลั่นโอสถให้ รายได้ของเธอจึงลดฮวบกระแสความนิยมก็ลดลงไปด้วยสรุปสั้น ๆ คือเธอรู้สึกว่าตัวเองหมดเสน่ห์แล้วเย่ซิวได้แต่ยิ้มแห้ง อายุก็หลายร้อยปีเข้าไปแล้ว ทำไมยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่ได้ “ท่านอาจารย์อย่าแกล้งผมเลย ผมจะเป็นปรมาจารย์ได้ยังไง อาจารย์ต่างหากที่ค
เสี่ยวโหรวรีบกลืนเข็มทิศลงท้อง แล้วลุกขึ้นกลับมาเป็นหญิงสาวแสนอ่อนโยนในพริบตา จากนั้นจึงเปิดประตูออกเธอกะพริบตาคู่สีฟ้าใสดุจไพลิน “นายท่านมีอะไรจะสั่งหรือเจ้าคะ หรือว่าอยากให้เสี่ยวโหรวรับใช้?”“ไม่ใช่แบบนั้น” เย่ซิวยิ้ม “เอานี่ไปกินให้หมด ถ้าหมดแล้วก็บอก ฉันจะให้เพิ่ม”เสี่ยวโหรวรับขวดโอสถในมือเย่ซิว แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไรเหรอเจ้าคะนายท่าน?”“เปิดดูสิ”เสี่ยวโหรวเปิดฝาออก กลิ่นยาสมุนไพรก็กระจายออกมาทันทีทำให้รูขุมขนทั่วตัวเธอเปิดออก เลือดสูบฉีดเร็วขึ้น พลังภายในตัวพลุ่งพล่านดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ “โอสถวิญญาณหยก? มากขนาดนี้เชียวเหรอ สองร้อยกว่าเม็ด แถมยัง…”เธอเทออกมาหนึ่งเม็ดและพบว่ามันมีคุณภาพดีกว่าโอสถทุกเม็ดที่เธอเคยกินเสียอีก เพราะทั้งหมดนี้เป็นระดับสูงสุด“ใช่แล้ว โอสถวิญญาณหยก ตอนนี้เธอกินไปก่อนเพื่อวางพื้นฐานให้มั่นคง อีกไม่นานฉันจะสอนวิธีบำเพ็ญตนให้”เสี่ยวโหรวไม่ได้ถือว่ามีพรสวรรค์สูง แต่ก็ไม่ได้แย่เย่ซิวจึงวางแผนจะสังเกตดูเธอสักระยะถ้าความภักดีของเธอมากพอก็อาจจะฝึกให้เธอกลายเป็นผู้ดูแล และให้ช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้ส่วนผนึกที่อยู
เฉินเยียนจือยังไม่ยอมแพ้ เธอออดอ้อนไม่หยุด “ไม่เอาน่าแม่ หนูแค่อยากสั่งสอนเขานิดหน่อยเอง ขอระบายอารมณ์บ้าง รับรองว่าจะไม่ทำให้เขาเจ็บตัวแน่นอนขอร้องนะคะ ถ้าไม่ได้ทำแบบนี้ สุดท้ายความแค้นมันจะกลายเป็นเงาในใจถ้าวันหนึ่งตอนบำเพ็ญตนแล้วพลังวูบวาบจนผิดพลาด แม่ก็อาจจะต้องสูญเสียลูกสาวที่ทั้งน่ารัก ฉลาด สดใสและว่านอนสอนง่ายไปเลยนะ”“พอ ๆ ๆ เลิกเขย่าแม่ได้แล้ว แม่จะเวียนหัวอยู่แล้วเนี่ย” ภรรยาเจ้าสำนักถอนหายใจแล้วพูดอย่างหงุดหงิด“งั้นก็ได้ แม่จะสอนให้แค่บางส่วนพอไว้ใช้สั่งสอนเขานิดหน่อยก็แล้วกัน”เฉินเยียนจือดีใจจนตาเป็นประกาย “ขอบคุณค่ะแม่”……สถานที่ปิดด่านของเจ้าสำนักกินพื้นที่นับหลายร้อยไร่ ภายในเต็มไปด้วยของล้ำค่าที่ช่วยในการบำเพ็ญตนทั้งสิ้นหลังจากพาห้าร่างแยกของเย่ซิวมาถึงที่นี่ เจ้าสำนักก็ส่งข่าวให้ภรรยาทราบต่อจากนี้ เขากับผู้อาวุโสอีกหลายคนจะเป็นผู้ฝึกสอนห้าคนนี้ด้วยตัวเองส่วนเรื่องภายนอกก็ให้ภรรยาของเขาจัดการไปก่อนในแววตาของเจ้าสำนักเต็มไปด้วยประกายทะเยอทะยานอย่างไม่คิดจะปิดบังเลยแม้แต่น้อย“ถ้ามีเด็กทั้งห้าคนนี้ บางทีในงานประชุมใหญ่ในอีกสองปีข้างหน้า เราอาจจะคว้าอัน
เย่ซิวจ้องเสี่ยวโหรวแน่นิ่ง “เธอพูดจริงหรือเปล่า?”เสี่ยวโหรวก้มหน้าลงเล็กน้อยจนมองไม่เห็นสีหน้าที่ชัดเจน “นายท่านไม่เหมือนคนอื่น นายท่านจะไม่ทำร้ายข้า เพราะแบบนั้น ข้าถึงยิมยอมจากใจจริง”เย่ซิวไม่พูดอะไร เพียงแค่มองเธออยู่อย่างนั้นประมาณหนึ่งถึงสองนาที จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ “ช่างเถอะ วันนี้ฉันยังมีธุระ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันไปล้างตัวแล้วเลือกห้องว่างเอาไว้พักสักห้องเถอะ จำไว้นะ ห้องกลั่นโอสถกับห้องหมายเลขห้า ห้ามเข้าเด็ดขาด นอกนั้นเลือกได้ตามสบาย”ในห้องหมายเลขห้ามีเตียงน้ำแข็งตั้งอยู่“รับทราบเจ้าค่ะนายท่าน”เสี่ยวโหรวลุกขึ้นและก้าวเดินด้วยขาเรียวยาวไปล้างตัวอย่างว่าง่ายช่วงที่เธอไปอาบน้ำ เย่ซิวก็จัดการวางค่ายกลในห้องหมายเลขห้าเพิ่มเติมอีกหลายชั้นจากนั้นก็หยิบหุ่นเชิดระดับถอดจิตออกมาบริเวณด้านหน้ามีรอยเว้าสำหรับเปิดช่องเก็บพลังงานเมื่อวางศิลาวิญญาณลงไป ไม่กี่วินาทีพลังวิญญาณก็ถูกดูดไปจนหมดเขาใช้ศิลาวิญญาณไปทั้งหมดกว่าสองแสนก้อนกว่าจะเติมพลังให้หุ่นเชิดจนเต็มถ้าใช้พลังเต็มกำลัง หุ่นเชิดตนนี้ก็จะสามารถต่อสู้ได้นานถึงหนึ่งชั่วโมง เหมาะสำหรับใช้เป็นยามเฝ้าที่เย
“รู้…แล้ว...”เฉินเยียนจือตอบเสียงแผ่วเบาอย่างที่ใคร ๆ ว่ากันไว้ คนเลวต้องเจอกับคนที่เลวยิ่งกว่า คนแบบเธอ มีแต่ต้องเจอคนที่โหดเหี้ยมกว่าเท่านั้น ถึงจะถูกกำราบอยู่หมัด“ในเมื่อเข้าใจแล้ว ลองเรียกคำว่านายท่านให้ฉันฟังหน่อยสิ”เย่ซิวไม่ได้หลงเชื่อว่าเธอจะยอมสยบง่าย ๆ สิ่งที่เธอแสดงออกตอนนี้มีแต่จะเป็นการยอมจำนนแบบชั่วคราวเท่านั้นและก็จริงตามคาด สีหน้าของเฉินเยียนจือพลันแข็งกระด้างขึ้นมาอีกครั้ง“หืม ไม่อยากพูดงั้นเหรอ” เย่ซิวแกล้งทำหน้าบึ้ง “แสดงว่าบทเรียนเมื่อกี้ยังเบาเกินไปสินะ”เฉินเยียนจือถึงกับสั่นไปทั้งตัว เรื่องเมื่อกี้ยังคงเป็นฝันร้ายที่เธอไม่อยากเผชิญซ้ำอีก“นาย…ท่าน...”สองคำนั้นหลุดออกจากปากเธอด้วยความรู้สึกอัปยศเกินบรรยายเย่ซิวยิ้ม แล้วบิดแหวนผนึกของจากนิ้วของเธอออกมา “เปิดมันซะ”เฉินเยียนจือรู้ว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำตามอย่างว่าง่ายเย่ซิวใช้พลังจิตสำรวจภายในทันที ด้านในมีทั้งศิลาวิญญาณจำนวนมาก สมุนไพรหายาก และโอสถล้ำค่า รวมมูลค่าแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้านศิลาวิญญาณเย่ซิวเก็บทั้งหมดเอาไว้โดยไม่ลังเลเฉินเยียนจือเจ็บใจจนแทบร้องไห้ทรัพยากรจำนวนมหาศา