LOGINสนามหญ้าเขียวชอุ่มข้างสระน้ำสีฟ้าครามในรั้วบ้านอัครเทพ ที่ถูกตกแต่งให้เป็นมินิปาร์ตี้สำหรับครอบครัว ลูกโป่งหลากสีถูกประดับประดาเป็นซุ้มแทนดอกไม้ พร้อมทั้งหลอดไฟกะพริบระยิบระยับหลากสีสัน เพื่อเอาใจหลานรักแอนเดรียประหนึ่งว่าเป็นวันเกิดของเธอเสียอย่างนั้น พร้อมทั้งมุมปิ้งย่างบาร์บีคิว และเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่
ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เสร็จสรรพพร้อมรอยยิ้มเจ้าของวันเกิดที่แสนจะอิ่มเอมที่ได้เห็นคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า
พระอาทิตย์เริ่มพ้นขอบฟ้างานปาร์ตี้อบอุ่นก็เริ่มขึ้น
ภูวไนย พร้อมกับภรรยาสาว แอนนา และสาวน้อยวัยหกขวบที่มาในชุดนางฟ้าสีชมพูหวานแสนสวย พร้อมด้วยแขกหนุ่มหล่อวีไอพีของภูวไนยที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ญี่ปุ่น ถือโอกาสมาอวยพรภูวนาถในวันนี้ด้วย
สาวสวยลลิตาที่มาในชุดสุดเซ็กซี่สีแดงเพลิงพร้อมด้วยของขวัญอวยพรเจ้าของบ้าน ที่ยืนไม่ห่างหนุ่มหล่อภูวดลประหนึ่งว่ากลัวจะหลงทาง
“วันนี้คุณลิต้าสวยมากนะคะ” คำชมจากแอนนา
“ขอบคุณค่ะ แต่คงสวยสู้คุณนาไม่ได้หรอกค่ะ” เธอชมกลับด้วยรอยยิ้ม
งานเริ่มด้วยการพูดคุยทักทายตามประสาคนที่ห่างกันด้วยระยะทาง มีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟัง เสียงหัวเราะประสานกับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมทั้งสาวน้อยแอนเดรียที่สร้างสีสันให้งานเลี้ยงเล็ก ๆ ไม่เงียบเหงา
เค้กที่ถูกวาดใบหน้าของผู้สูงวัยเจ้าของวันเกิดถูกนำมาวางไว้ตรงกลางโต๊ะด้วยมือของน้างฟ้าตัวน้อย และเทียนตัวเลขที่ตั้งใจปักสลับอายุของคุณปู่จาก 61 เป็น 16 จนเป็นที่ขบขัน
เธอจุดไฟลงที่เทียนพร้อมปรบมือร้องเพลงอวยพรวันเกิดผู้เป็นปู่อย่างตื่นเต้นและจบลงด้วยคำอวยพรที่สร้างรอยยิ้มให้ภูวนาถจนแทบหุบไม่ลง
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ นะคะคุณปู่”
“ขอให้คุณปู่สุขภาพแข็งแรงนะคะ”
“คุณปู่อธิษฐานก่อนนะคะนางฟ้าจะเสกให้คำขอเป็นจริงค่ะ”
เธอพูดพลางยกไม้วิเศษในมือทำท่าทำทาง ภูวนาถที่ใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้มทำตามคำสั่งของหลานรัก หลับตานิ่งสักพักเหมือนกำลังอธิษฐานตามที่เธอบอก ก่อนจะลืมตาและเป่าเทียนให้ดับลง พร้อมกับเสียงปรบมือของทุกคน
“หนูมีของขวัญให้คุณปู่ด้วยนะคะ” พูดพลางยื่นกล่องของขวัญให้ภูวนาถดวงตาใสแป๋วพร้อมรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับนางฟ้า”
และตามด้วยคำอวยพรของทุกคน สลับกับเสียงหัวเราะประสานกันด้วยความสุข ก่อนที่ชายสูงวัยจะขอตัวไปพักผ่อน ปล่อยให้หนุ่มสาวปาร์ตี้พูดคุยกันต่อจนดึกดื่น
มุมที่ที่มีความสุขและรอยยิ้มอยู่ที่สนามหญ้า ส่วนอีกมุมที่มีแต่ความทุกข์คือยวนใจที่เพิ่งสูญเสียที่ดินแปลงสุดท้ายที่เหลือเพียงน้อยนิดไปกับการจำนองญาติเพื่อแลกกับการประกันตัววันชัยลูกรัก
สองพี่น้องอัครเทพที่ห่างหายการแข่งดื่มไปนานโข ยกเรื่องงานออกจากหัวสมองและปล่อยจอยกันอย่างเต็มที่
“วันนี้ใครล้มก่อนเป็นหมา” ภูวไนยที่ดูมั่นอกมั่นใจเอ่ยขึ้นอย่างลำพอง
“แต่ไหนแต่ไรผมก็เห็นพี่เป็นหมาทุกครั้ง ครั้งนี้ก็คงไม่ต่าง” ผู้เป็นน้องเย้ยหยัน
“ก็ให้มันรู้ไปว่าแกจะไม่เป็นหมาบ้างไอ้ดล”
ภูวไนยยักคิ้วพร้อมหัวเราะผ่อนคลายกับคำสบประมาทของน้องที่เป็นจริงแทบทุกครั้ง มือชูแก้วขึ้นมองสมาชิกในวงปาร์ตี้ที่อยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มผ่อนคลาย
“สำหรับมิตรภาพของเราทุกคนครับ”
“หมดแก้ว”
กระดกรวดเดียวเหลือเพียงแก้วเปล่า
“คุณกฤษเต็มที่เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจคิดเสียว่ามาพักผ่อน และต้องขอโทษด้วยที่ดูแลได้ไม่เต็มที่”
“ครับผม”
แขกวีไอพีพยักหน้าตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ปาร์ตี้ล่วงเลยจนดึกดื่นแอนนาที่พาแอนเดรียขึ้นห้องนอนได้พักใหญ่ก็ลงมาลานปาร์ตี้อีกครั้งเพื่อรับ “หมาภูวไนย” ที่ล้มก่อนตามคำสบประมาทของผู้เป็นน้อง
ลลิตาที่ชินแล้วกับการถูกหมางเมินจากชายในดวงใจ พร้อมแขกวีไอพีของภูวไนยที่เหมือนจะส่งสายตาเชิญชวนอย่างไม่ต้องเอ่ยปาก เธอที่สวยขนาดนี้และเพียบพร้อมขนาดนี้ทำไมจะต้องเป็นตัวเลือกของภูวดลเพียงฝ่ายเดียว เขาต่างหากที่ควรเป็นตัวเลือกของเธอบ้าง
“ให้ผมไปส่งคุณลิต้านะครับดูแล้วคุณดลน่าจะขับไม่ไหว”
กฤษเอ่ยปากขออาสาไปส่งหญิงสาวขณะที่ภูวดลเข้าห้องน้ำ
“รบกวนคุณกฤษหรือเปล่าคะลิต้าเกรงใจ”
“รบกวนอะไรกันครับเป็นเกียรติสำหรับผมที่ได้ไปส่งสาวสวยอย่างคุณลิต้าต่างหาก”
“หรือถ้าคุณลิต้าไม่รังเกียจไปดื่มต่อที่โรงแรมได้นะครับ นานๆ ผมจะกลับมาเมืองไทยผมไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่”
“เอ่อ…” เธอทำท่าครุ่นคิด
“ก็ได้ค่ะพรุ่งนี้วันหยุดลิต้าไม่ได้ทำงาน”
“แต่คงอยู่ดึกไม่ได้นะคะ” เธอไว้ตัวทั้งที่กลับบ้านเช้าก็บ่อยครั้ง
พร้อมประสานสายตาที่ไม่ต้องอธิบายให้เสียเวลาก็เข้าใจได้อย่างง่ายดายสำหรับสองหนุ่มสาวที่เพิ่งรู้จักแต่ดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย
“ดลไม่ต้องไปส่งลิต้าก็ได้ค่ะเมาแล้วขับมันอันตราย เดี๋ยวลิต้าขอติดรถกลับกับคุณกฤษเองค่ะ”
“ไม่เป็นไรผมไม่ได้เมาขนาดนั้น”
“อย่าเลยค่ะยังไงก็ต้องไปทางเดียวกันกับคุณกฤษอยู่แล้วดลพักเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงลิต้าถึงบ้านแล้วลิต้าจะโทรบอกค่ะ”
“งั้นก็ได้ ขอโทษคุณด้วยก็แล้วกัน”
หลังจากแขกขอตัวกลับแล้วเครื่องดื่มจากลานปาร์ตี้ที่เหลือค่อนขวด ถูกย้ายเข้ามาวางในห้องนั่งเล่น จิบคนเดียวไปเรื่อย ๆ สักพักก็เหลือเพียงขวดเปล่า ชายหนุ่มนั่งพิงพนักโซฟาปิดเปลือกตาผ่อนคลายชั่วครู่
“ดื่มชาร้อนๆ ก่อนค่ะคุณดลจะช่วยให้ไม่ปวดหัวนะคะ” เสียงจากยวนใจพร้อมถาดเครื่องดื่มเพื่อสร่างเมาตามคำบอกเล่าของนาง
“คุณท่านบอกว่าช่วยได้เยอะค่ะ”
“ขอบคุณครับป้ายวน”
ก่อนผละออกมาปล่อยให้เจ้านายน้อยได้พักต่อ
มุกดายกกะละมังใบเล็กใส่น้ำเย็นเดินเข้าห้องเจ้านายหนุ่มตามคำไหว้วานของยวนใจ และนั่งรออยู่ที่พื้นคู่กับอุปกรณ์ที่ยกเข้ามาเมื่อครู่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้านายของเธอจะให้มาจัดกระเป๋าทำไมในเวลาดึกดื่นแบบนี้ ก็แค่ไปส่งคุณนัยและครอบครัวที่สนามบินเท่านั้นเอง
“หรือพรุ่งนี้คุณดลจะเดินทางไปด้วย?”
เธอมีคำถามในใจแต่ก็ทำได้แค่นั่งรอตามคำบอกเล่าของยวนใจเท่านั้น
แอร์เย็น ๆ บวกกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในห้องสร้างบรรยากาศชวนหลับใหลซึ่งแตกต่างจากห้องนอนของเธอและขนุนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารหลากเมนูจากในครัวที่ยังขังอยู่ กลิ่นแล้วกลิ่นเล่าจนเริ่มชินเสียแล้ว
หนังตาเธอเริ่มหนักขึ้น และหนักขึ้น มุกดากะพริบตาหนักๆ หลายครั้งไล่ความง่วงที่เริ่มเกาะกิน มองไปรอบห้องที่ขาวโพลนจนตาพร่า ภาพมันหมุนเคว้งจนชวนเวียนหัว เธอนั่งพับเพียบและประคองตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ สองฝ่ามือค้ำยันพื้นไว้ สะบัดใบหน้าไล่ความมึนงงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง รู้สึกถึงเหงื่อชุ่มที่ซึมออกทั่วหน้าผากและลำคอทั้งที่แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ
พร้อมความวูบวาบทั่วร่างกาย ได้ยินจังหวะเต้นของหัวใจที่เหมือนจะทะลุออกมาด้านนอก รู้สึกเหมือนร่างกายขาดอากาศจนต้องหายใจถี่ ๆ เพื่อโกยออกซิเจนเข้าให้เต็มปอด ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะติดๆ ดับ ๆ และเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงสนทนาแต่เธอฟังไม่เข้าใจเสียแล้ว
ละอองน้ำเย็นซ่านกระเซ็นจากฝักบัวที่โปรยปรายลงสู่ร่างกำยำเรียกความสดชื่นคืนสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี ภูวดลหลับตากลั้นลมหายใจเงยหน้ารับละอองน้ำเย็นล้างฟองแชมพูหอมกรุ่นออกจากศีรษะ และยืนรับความชุ่มฉ่ำอยู่อย่างนั้น สมองเริ่มตื่นตัวบ้างแล้วจากความมึนงงและเริ่มลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืน
สติสัมปชัญญะของเขาหายไปตอนไหนยังนึกไม่ออกหลังจากจบปาร์ตี้เมื่อวาน
ร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ในมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้เช็ดเรือนผมที่เปียกชุ่ม ขาที่กำลังก้าวชะงักชั่วขณะเมื่อสายตาปะทะเข้ากับเสื้อที่เขาสวมเมื่อคืนกองอยู่ที่พื้นข้างเตียง ด้านข้างคือกางเกงของเขาที่เข็มขัดยังคล้องอยู่
“จะเมาอะไรขนาดนั้นวะ?”
หัวคิ้วย่นเข้าหากันภาพวิ่งเข้ามาในโสตประสาทจับต้นชนปลายชั่วครู่ มือตวัดผ้าห่มบนเตียงออกมองบนที่นอนนุ่ม สัญลักษณ์บางอย่างบนที่นอนบ่งบอกว่าเขาไม่ได้นอนคนเดียว และยืนยันความวาบหวิวเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน
แล้วใครกันที่อยู่บนเตียงกับเขาเมื่อคืนนี้?
ลิต้าก็กลับไปแล้วก่อนหน้านั้น
หรือเธอจะกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง?
เขาไม่เคยเมาทิ้งตัวแบบนี้มาก่อน
อาการเหมือน…โดนวางยา!!
เป็นไปไม่ได้ เพราะคนนอกก็มีเพียงคุณกฤษและลิต้าเท่านั้น นอกนั้นก็ คนในบ้าน ความคิดวิ่งวนในหัว ตาเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้อง ต้องรีบแต่งตัวออกไปส่งภูวไนยที่สนามบินค่อยกลับมาหาคำตอบอีกครั้งก็แล้วกัน
ร่างสูงเดินลงมาจากห้อง เสียงสดใสของหลานสาวตัวน้อยแอนเดรียที่กำลังร้องเพลงดังลั่นพร้อมเสียงหัวเราะของคุณปู่ประสานกันอยู่เป็นระยะ ชายหนุ่มตรงไปห้องครัว
“ขอกาแฟเข้ม ๆ แก้วนึง”
“ค่ะคุณดล” ขนุนตอบรับพร้อมกับเดินไปมุมกาแฟ
ชายหนุ่มกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ
“ป้ายวนล่ะ?”
“ป้ายวนออกไปข้างนอกค่ะ เห็นบอกว่ามีญาติมาหาค่ะ”
พยักหน้ารับรู้และเดินออกไปห้องนั่งเล่น
“อาดลคะ”
แอนเดรียทักเสียงใสพร้อมรอยยิ้ม ในมือของเธอถือกล้องที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญต้อนรับการกลับบ้าน และตอนนี้เธอกำลังบันทึกวิดีโออยู่
“แอนจะถ่ายวิดีโอทุกคนเก็บไว้ดูตอนคิดถึงค่ะ”
“อาดลยิ้มหน่อยค่ะจะได้หล่อๆ”
พูดพลางแพนกล้องเข้ามาใกล้ผู้เป็นอา ตากล้องตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อยบันทึกเรื่องราวพร้อมคำพูดมากมาย หันกล้องไปมุมนั้นมุมนี้อย่างสนุกมือ ภูวดลหัวเราะเบา ๆ ที่มุมปากกับความน่ารักของหลานสาวมือหยิบแก้วกาแฟที่ขนุนนำมาให้ขึ้นจิบขณะฟังตากล้องตัวน้อยไปพร้อมกัน
ภูวนาถหยิบกล่องนาฬิกาที่ให้เลขาเตรียมไว้สำหรับเป็นของขวัญก่อนเดินทางกลับญี่ปุ่นให้หลานรักแอนเดรีย ที่เธอพูดถึงไม่หยุดปากว่ากำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเพื่อนๆ และเธอก็ยังไม่มีเลย
“ปู่มีของขวัญจะให้หนูด้วยนะ”
ชูของในมือขึ้นอวดหลานสาว เธอเบิกตาโตวางกล้องในมือลงทันที วิ่งมาหาปู่อย่างตื่นเต้น ดวงตาแพรวพราวฉายแววลิงโลด
“สวยจังเลยค่ะคุณปู่ ขอบคุณนะคะ” ยกมือไหว้พร้อมกับโอบกอดร่างชายชราด้วยความดีใจ
“แอนเดรีย” เสียงเรียกจากแอนนาที่หน้าบ้าน
“คะคุณแม่”
“ออกมาได้แล้วลูก”
“ค่าคุณแม่…”
พร้อมกับนายสำเริงคนขับรถที่เดินเข้ามาด้านใน
“พร้อมแล้วครับคุณท่าน”
ยวนใจออกจากบ้านอัครเทพมาในตอนเช้ามืดหลังจากได้รับโทรศัพท์จากวันชัยที่หนีมากบดานจากแก๊งค้ายา หลังจากรับยามาปล่อยให้แต่ไม่มีเงินไปให้นายก็ต้องโดนตามล่า ทั้งที่เพิ่งได้รับการประกันตัวออกจากคุกมาหมาดๆ
เธอพาวันชัยไปขอพักอาศัยอยู่กับแคมป์คนงานก่อสร้างของน้องสาว และกะจะรีบกลับมาบ้านให้ทันในขณะที่มุกดายังอยู่ในห้องนอนของภูวดล ตามที่เธอวางแผนไว้ แต่ต้องผิดหวังเมื่อมีเหตุขัดข้องไม่เป็นดังใจเธอหลายอย่าง และเจ้านายออกจากบ้านไปสนามบินกันหมดแล้ว
ความหวังที่จะเรียกค่าทำขวัญโดยอาศัยความเป็นป้าให้กับหลานสาวในนาม โดยข้ออ้างในหัวที่หล่อนวางไว้คือภูวดลเมาแล้วเกินเลยกับมุกดาขณะที่เธอเข้าไปดูแลเขาตอนเมา ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้ง่ายเหมือนในละครที่หล่อนเคยดูสมัยสาว ๆ เลยสักนิด
หลังจากทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็อาบน้ำเดินเข้าห้อง วันหยุดที่แสนจะเหนื่อยล้าจากการเดินจนขาลาก เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ปลายสายเป็นเพื่อนร่วมงานที่ส่งข้อความจะโทรมาเม้าท์มอยเรื่องงาน เอนตัวลงบนเตียงนอนคุยโทรศัพท์นานสองนานกว่าจะวางสายไป รอยยิ้มที่มีความสุขของลูกในวันนี้ผุดขึ้นมาในหัวทำให้เผลอยิ้มคนเดียว หลับตาผ่อนคลายเบาๆ ด้วยความอ่อนเพลียทำให้เผลอหลับไปสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกฝ่าเท้าเล็กๆ ถีบเข้าที่สะโพก เธองัวเงียลุกขึ้น ไฟในห้องถูกปิดแล้ว ตอนไหนกัน นี่เธอกลายเป็นคนนอนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงไม่รู้สึกตัวได้ขนาดนี้ และที่สำคัญสองพ่อลูกนอนอยู่ข้างเธอ บนเตียงเดียวกัน ลุกพรวดขึ้นมาทันที กำลังอ้าปากจะวีนเขา“ชู่ว” ภูวดลที่ส่งสัญญาณห้ามใช้เสียง นิ้วชี้วางทับที่ริมฝีปากและชี้ที่เจ้าตัวเล็กที่กอดพ่อแน่นและกำลังหลับอย่างสบายใจ“กลับห้องคุณเลย” เธอกระซิบเสียงเบาเขาชี้นิ้วบอกต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้กลับห้องที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ตอนนี้ มุกดาโน้มตัวลงไป เอื้อมมือคว้าแขนเจ้าตัวเล็กออกจากอกพ่อ และทันทีที่ภูวภัสพลิกตัวเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วและฟาดแขนลงที่แขนพับของแม่อย่างกะทันหันโดยไ
ทุกสายตาแอบชำเลืองมองสองร่างที่เดินเข้าสำนักงาน ผู้เป็นพ่อที่จูงมือลูกชายเดินผ่านหน้าประชาสัมพันธ์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ผิดกับเจ้าตัวเล็กที่กวาดสายตามองรอบบริเวณอย่างตื่นเต้นถึงแม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มานั่งเล่นในห้องทำงานของพ่อระหว่างที่รอให้แม่กลับถึงบ้าน พนักงานสาวต่างสุมหัวซุบซิบหลังจากเจ้านายหนุ่มเดินลับตาไป ครั้นจะหาคำตอบจากคนสนิทอย่างเทวาก็คว้าน้ำเหลว“อยากรู้ก็ถามบอสเองสิครับ?”“ลูกบอสหรือเปล่า?“แต่บอสยังไม่ได้แต่งงานนี่นา”“โอ๊ย…ไม่แต่งงานก็มีลูกได้”“แล้วแม่เด็กล่ะ มีใครเคยเจอสักครั้งหรือยัง?”“ไม่เคยนะ”“ทำไมไม่ลองถามเด็กดูล่ะ”“เธอก็เดินเข้าไปถามสิในห้องบอสน่ะ”“พูดเป็นเล่น” และต่างเดากันไปต่างๆ นานาอย่างสนุกปากและแน่นอนว่าเรื่องนี้ถึงหูลลิตาอยู่แล้วจากที่ผูกมิตรกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไว้ขอให้ส่งข่าวหากมีความเคลื่อนไหวของภูวดลเจ้าหน้าที่การเงินวางแฟ้มรายงานการเบิกจ่ายประจำเดือนที่สูงผิดปกติบนโต๊ะทำงานประธานหนุ่ม พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดคร่าว ๆ ที่อยู่ในแฟ้มให้เจ้านายฟัง“พ่อครับ”“ภูต่อเสร็จแล้วนะครับ พ่อมาดูเร็ว”เสียงที่กำลังรายงานเจ้านายอยู่สะดุดทันที และหัน
เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องทำงานปลุกให้คนที่นั่งอมยิ้มปรับสีหน้าให้เป็นปกติทันทีจากการดูภาพถ่ายของตัวเองกับลูกชาย และภาพที่แอบถ่ายแม่ของลูกก่อนหย่อนโทรศัพท์มือถือเข้าเก็บในกระเป๋ากางเกง“วินนี่โทรหาคุณหลายครั้งแล้วแต่เทวาบอกว่าคุณยุ่งอยู่วินนี่ก็เลยแวะมารอค่ะ”วนิดา ที่กำลังตกเป็นข่าวซุบซิบในแวดวงไฮโซว่าเธอคือหญิงสาวที่กำลังคบหาดูใจกับภูวดลอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่เธอสร้างขึ้นและกระจายข่าวออกไปเท่านั้น สำหรับเธอเองที่ยังรอคอยสถานะจากภูวดลอยู่ และไม่มีทีท่าว่าเขาจะให้ความชัดเจนกับเธอเลยสักครั้ง ยังคลุมเครืออยู่อย่างนั้น แต่เธอก็ไม่ท้อใจในการวิ่งตามความรู้สึกของตัวเอง“ผมเพิ่งออกห้องประชุมเห็นเบอร์คุณแล้วแต่ยังไม่ได้โทรกลับ”“คุณมีอะไรด่วนหรือเปล่า?”“ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะ วินนี่แค่มาชวนคุณไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน”“ไปนะคะ” ส่งยิ้มให้และรอคำตอบอยากจะปฏิเสธแต่ก็นึกเห็นใจหล่อนที่อุตส่าห์นั่งรอเขาอยู่นานจนกระทั่งประชุมเสร็จ ไหน ๆ ก็เป็นคนคุ้นเคยก็แค่ออกไปกินข้าวกลางวันเท่านั้น จึงตกปากรับคำไป แต่ในใจกลับคิดถึงสองแม่ลุกขึ้นมาเสียอย่างนั้นมุกดานั่งมองคนหน้าเศร้าที่ต่อจิ๊กซอว์คนเดี
ภูวดลเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าใบใหญ่ ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น พร้อมชุดทำงาน ลากลงมาจากชั้นบนพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของขนุนที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“คุณดลจะไปญี่ปุ่นเหรอคะ?”“เปล่า?”ขนุนกะพริบตาปริบๆ เพียงแค่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าถามต่อ หลังจากที่คุณท่านเสียเจ้านายคนเล็กก็กลับมาอยู่ที่บ้าน นานๆ จะกลับไปค้างที่คอนโดสักครั้งแต่วันนี้จัดกระเป๋าเองและไม่ได้ไปต่างประเทศ แล้วจะไปไหน ได้แค่สงสัยเท่านั้น“ตอนเย็นไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อฉันนะ”“วันนี้ไม่กลับบ้าน” บอกอย่างอารมณ์ดี“ค่ะคุณดล”ภูวดลจอดรถที่หน้าโรงเรียนรอรับภูวภัสหลังเลิกเรียนซึ่งชั้นอนุบาลคุณครูจะปล่อยเด็กกลับบ้านเร็วกว่ารุ่นพี่ชั้นปฐม แต่เนื่องจากต้องรอแม่มารับหลังเลิกงานทุกวันเด็กชายจึงค่อนข้างแปลกใจที่คุณครูบอกว่าผู้ปกครองมารอรับเด็กชายภูวภัสแล้วไม่แค่เพียงภูวภัสเท่านั้นที่รู้สึกแปลกใจ คุณครูประจำชั้นอนุบาลที่รู้สึกคุ้นหน้ากับคุณพ่อของเด็กน้อยที่ดูยังไงก็เหมือนประธานบริษัทแขกคนสำคัญของทางโรงเรียน ที่นำของมาบริจาคให้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา“พ่อดล”เมื่อมั่นใจว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนจริงคุณครูก็อนุญาตให้กลับได้ ภู
ภูวภัสตื่นแต่เช้าตรู่เพื่ออาบน้ำพร้อมกับเสียงเพลงจากปากเจ้าตัวเล็กที่ร้องดังจนก้องห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี แต่งตัวรอพ่อมารับอย่างตื่นเต้น มุกดาที่มองภาพเด็กชายพร้อมความเศร้าที่ผุดขึ้นมาในใจรู้สึกผิดต่อลูกจนใจหวิว เขาคงดีใจมากที่มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ลูกถามเธอก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดเสียงรถจอดหน้าบ้านพร้อมกับร่างเจ้าตัวน้อยที่วิ่งพรวดพราดออกไปดูทันที“พ่อดลมาแล้ว” เปิดประตูรั้ววิ่งออกไปหาผู้เป็นพ่อที่อยู่หน้าบ้าน“รอพ่อนานไหมครับ?” อุ้มลูกขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด“นานมาก….” ลากเสียงยาว“ยังไม่ถึงเวลานัดเลย พ่อมาก่อนเวลาด้วยนะโกหกหรือเปล่า?”พร้อมเสียงหัวเราะสองพ่อลูกที่ดังประสานกันสองผู้สูงวัย ยายดวงใจ และตาทวี ที่กำลังตัดแต่งกิ่งดอกกุหลาบในกระถางหน้าบ้านส่งสายตาข้ามกำแพงรั้วที่สูงแค่อก กั้นอาณาเขตบ้านสองหลังอยู่ มองภาพผู้มาเยือนที่ไม่คุ้นหน้าแต่ท่าทางสนิทสนมกับภูวภัส ก่อนจะเอ่ยปากถามเด็กชาย“น้องภูจะไปเที่ยวไหนจ๊ะแต่งตัวเท่เชียว” คำถามจากยายดวงใจ“ไปซื้อของครับยายดวง”“พ่อมารับครับ” เด็กน้อยอวดว่าเขามีพ่อแล้วอย่างมีความสุข“พ่อ?” ยายดวงทวนคำพูดของเด็กน้อยในใจ“สวัสดีครับ”ภูวดลท
ความเงียบเข้าครอบคลุมการสนทนาชั่วขณะ พร้อมกับหัวใจของมุกดาที่หล่นวูบลงเช่นกัน ก่อนเรียกสติกลับคืนมา“คุณพูดอะไร?”“ฉันรู้ภูเป็นลูกฉัน”มุกดาที่แววตาไหวระริกกับคำพูดของเขา ใจเต้นแรงพร้อมใบหน้าที่ร้อนวูบวาบแต่ยังคุมอาการได้อยู่แม้จะหวิว ๆ ในใจ พร้อมหลากหลายคำถามและคำตอบวิ่งวนปั่นป่วนในหัวไปหมด เขารู้แล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ เขารู้ได้ยังไง หรือเขาแค่ลองหยั่งเชิงเธอดูเท่านั้น“เธอไม่คิดจะให้พ่อลูกเขาเจอกันเลยหรือยังไง?“ถ้าฉันไม่บังเอิญเจอลูกเองก็คงไม่รู้”“ใจดำไปนะ”มองใบหน้าสวยด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ยาก“ใครบอกคุณคะว่าภูเป็นลูกคุณ?”พลันคำพูดของเด็กน้อยในวันนั้นที่แวบเข้ามาในความจำว่าลุงดลตัดเล็บให้ เขาเอาไปตรวจดีเอนเอแล้วหรือเปล่านะ ถึงได้พูดแบบนี้ แต่เธอต้องนิ่งเข้าไว้ภูวดลยื่นซองเอกสารส่งให้เธอดู มุกดารับมาอ่านและวางลงดังเดิมควบคุมปฏิกิริยาตัวเองทั้งสีหน้าและอารมณ์ให้คงที่ บอกตัวเองว่าเธอไม่ใช่เด็กในบ้านเขาแล้ว ไม่ใช่พนักงานในบริษัทของเขาที่ยังรับเงินเดือนจากเขา ไม่มีอะไรที่ต้องเกรงกลัวเลยสักนิด แม้ในใจจะหวั่น ๆและแล้ววันที่เธอกลัวมาตลอดก็มาถึงจนได้ วันที่เขาเจอเธอและลูก ที่สำคัญเข







