“นับ เสร็จหรือยังลูก”
เสียงของพ่อเรียกลูกสาวที่กำลังเก็บของสำคัญใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้รีบออกจากห้อง ทำให้นับดาวรีบตรงดิ่งไปขึ้นรถกระบะสี่ประตูที่พ่อเพิ่งถอยมาได้ไม่กี่เดือน แถมยังขับไปล้างที่คาร์แคร์ใกล้บ้านเมื่อวาน ไม่พอพ่อยังกลับมาเช็ด ๆ ถู ๆ มันทั้งวัน
จนนับดาวเริ่มไม่มั่นใจว่าระหว่างตัวเธอกับรถทุกคันในบ้านนี้ พ่อรักอะไรมากกว่ากัน
“โอ้โฮพ่อ เอาออกเถอะ นับจะนั่งยังไงเนี่ย”
“เอาน่า ถ้าฝุ่นมันเกาะเดี๋ยวมันเก่า” ผู้เป็นพ่อบอกด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก่อนจะจับผ้าขนหนูเล็ก ๆ ไปเช็ดที่พวงมาลัยอีกรอบ
นับดาวได้แต่พ่นลมหายใจออกมากับความหวงรถที่พ่อเธอเป็น ขนาดที่ซื้อรถมาได้สามเดือนจะสี่เดือนเข้าไปแล้ว พลาสติกใสคลุมเบาะยังอยู่ทุกชิ้น เข้าโค้งทีมีลื่นไปรวมอยู่ฝั่งเดียวกันหมด
“พ่อ ! ยังไม่เอาออกอีกเหรอ แบบนี้แม่ไม่ไปด้วยนะ”
นับดาวนั่งอยู่เบาะหลังแล้วกลั้นขำ มีทางเดียวที่จะทำให้พ่อเธอยอมเอาออกก็คือแม่สั่ง แล้วทันทีที่พ่อโดนถามก็เริ่มทำหน้าสลด
“รถเรายังใหม่อยู่ เอาออกเดี๋ยวมันเก่านะแม่”
คนเป็นพ่อยังคงดื้อดึง เมียก็เมียเถอะ ยังไงกูก็ไม่ยอมเอาออก อยากให้มันใหม่สักปี ใครจะทำไม
“สรุปจะไม่ยอมเอาออก” แม่ยกมือเท้าเอว
เล่นเอาพ่อในวัยห้าสิบสามปีหน้าเริ่มซีด ทว่าก็ยังคงตอบอย่างมั่นใจ
“ไม่ มันใช่ปัญหาที่ไหนกันเล่า นั่งแบบไหนก็เหมือนกัน” เขาพยายามทำเสียงแข็งให้หนักแน่นมั่นคง
“งั้นน้องนับ ลงมา ไปกับแม่ ให้พ่อเขาขับไปเอง”
พูดจบผู้เป็นแม่ก็ปิดประตูดังปัง จนพ่อหน้าเหวอ เธอไม่รู้ว่าที่พ่อตกใจเพราะแม่กำลังโกรธหรือกลัวรถจะพังกันแน่ นับดาวยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะยกมือโบกลาพ่อ
“แม่งอนแล้วนะ เย็นนี้นับไม่อยู่ด้วยก็อวยพรขอให้พ่อโชคดีแล้วกัน” หญิงสาวหัวเราะชอบใจก่อนจะปิดประตูตามแม่ไป
“เดี๋ยวก่อนที่รัก พ่อยอมเอาออกก็ได้ ไปเถอะไปขึ้นรถกัน จะขับเองให้เมื่อยทำไม มาเร็วนับดาวลูกพ่อเดี๋ยวก็สายกันหรอก”
สุดท้ายพ่อก็ต้องเป็นฝ่ายง้อ ก็แน่ละ เพราะถ้าพ่อไม่ยอม เย็นนี้คงได้ออกไปนอนกับไอ้โคล่า หมาแก่ที่นับดาวเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อยู่ประถม ตอนนี้มันชรามากแล้วแทบไม่ขยับตัวไปไหน คงนอนเป็นเพื่อนพ่อได้ทั้งคืน
“เอาออกแต่แรกก็จบ” แม่บ่นพึมพำแล้วเดินกลับไปที่รถคันใหม่
พ่อค่อย ๆ ดึงเอาพลาสติกที่คลุมเบาะออกด้วยสีหน้าเศร้าหมอง และห่อเหี่ยวใจ
คนเป็นลูกสาวเห็นก็สงสารพ่ออยู่หรอก แต่แบบนี้ก็ไม่ไหว บ้านเธอมีรถอยู่หลายคัน พ่อก็รักทุกคัน ยิ่งคันไหนที่ถอยมาใหม่พ่อจะดูแลดียิ่งกว่าลูกในไส้ จนแทบไม่เป็นอันทำอย่างอื่น ไม่แปลกใจเลยที่แม่จะหงุดหงิด
ใช้เวลาเดินทางราวสามชั่วโมงก็มาถึงคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย ที่พ่อกับแม่ซื้อไว้หลายปีแล้ว เพราะครอบครัวเธอมักจะพากันมาเที่ยวเชียงใหม่อยู่บ่อย ๆ พอพี่ชายสอบติดมหาวิทยาลัยเขาก็พักที่นี่ ตอนนี้นับดาวสอบติดอีกคนก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันได้พอดี ไม่ต้องไปเช่าหอให้เปลืองเงิน
ที่นี่เป็นห้องชุด มีห้องนอนอยู่สองห้อง และครัวเล็ก ๆ ให้ทำอาหารง่าย ๆ รวมถึงระเบียงกว้างที่สามารถนั่งชมวิวภูเขา ที่ตอนนี้มันไม่น่ามองเท่าไรนัก เพราะความร้อนและฝุ่นควันจนมองแทบไม่เห็นอะไร ภาวนาให้ฝนตกสักครั้งท้องฟ้าจะได้ดูแจ่มใสขึ้น
“ขนอะไรมาเยอะแยะอย่างกับจะย้ายบ้าน” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอย่างกับดาราที่สาวเกือบทั้งมหาวิทยาลัยรู้จัก ยืนมองของที่ตนเพิ่งช่วยพ่อขนขึ้นมาบนห้อง จนตอนนี้มันเยอะแทบไม่มีที่เดิน
เขาอยู่มาสองปีห้องโล่งเหมือนไม่มีคนอยู่ น้องสาวเข้ามาวันเดียวห้องรกขึ้นทันตา
“เดี๋ยวนับก็เก็บเข้าห้องเองน่า อย่าบ่น” นับดาวบอกพี่ชายตัวเองด้วยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า ก่อนจะทยอยเก็บของตัวเองเข้าห้องนอนแล้วจัดให้เป็นระเบียบ
“ตู้เย็นหรือตู้เบียร์เนี่ยไนท์ ดื่มขนาดนี้ไม่เป็นขี้เมาแล้วเหรอ” ผู้เป็นแม่ขมวดคิ้วมองสิ่งที่เห็น ก่อนจะหันไปเอ็ดลูกชายตัวดี
“ไม่ขนาดนั้นแม่ อันนี้พวกเพื่อนมันเอามาแล้วแดกไม่หมด”
“ดูพูด มาเรียนหรือมาเป็นนักเลง” ฝ่ามือฟาดไปที่หลังกว้างหนึ่งที “แล้วน้องมาอยู่ด้วยก็อย่าชวนเพื่อนมาบ่อย เดี๋ยวน้องจะอึดอัด”
“รู้แล้วน่า เพื่อนไนท์จะกลัวนับสิไม่ว่า ตัวใหญ่ขนาดนั้น” ไนท์เกาหัวตัวเองจนยุ่งเหยิง
“เดี๋ยวจะโดนตี น้องได้ยินเดี๋ยวก็น้อยใจหรอก” แม่ทำท่าจะฟาดที่หลังเขาอีกทีแต่เจ้าตัวเบี่ยงหลบทัน “อยู่ด้วยกันก็ชวนน้องไปออกกำลังกายบ้าง”
“หุ่นนี้ลดไม่ไหวแล้ว”
“อย่ามาดูถูกนับนะ เดี๋ยวจะผอมให้ดู” นับดาวเดินออกมาพอดี เธอมองพี่ชายอย่างเอาเรื่อง
“พี่จะรอดูนะไอ้อ้วน” เขาหัวเราะชอบใจ คิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าตอนนับดาวตัวผอมมันเป็นยังไง โตมาด้วยกันเขาก็เห็นเป็นอย่างนี้แล้ว
พ่อกับแม่หวงน้องมากแค่ไหน เขาเองก็ไม่ได้ต่างกันนักหรอก ถึงน้องสาวเขาจะตัวอวบอ้วน ผิวชมพูอย่างกับลูกหมู แต่น้องใครใครก็รัก ที่เขาพูดไปก็แค่หยอกน้องสาวเท่านั้น
“ไม่คุยด้วยแล้ว”
หญิงสาวร่างอวบอั๋นสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินไปหยิบของใช้เข้าห้องตัวเอง
หลังจากขนของขึ้นห้องเสร็จก็พากันไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ก่อนที่พ่อกับแม่จะบอกลาสองพี่น้องเพราะต้องไปคุยงานต่อ
“พี่จะไปร้านเหล้า เพื่อนมันชวน อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” ไนท์ถามน้องสาวตอนที่เขากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวสำหรับนัดหมายกับกลุ่มเพื่อนคืนนี้
กลุ่มเขามีกันอยู่สี่คนคือเขา ไอ้โซ่ ไอ้ม่อน แล้วก็ไอ้ราม คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยจนตอนนี้จะขึ้นปีสามก็ยังกอดคอกันเหนียวแน่น
“กลับดึกเหรอ” นับดาวที่วุ่นวายอยู่กับการจัดข้าวของส่วนรวมให้เข้าที่ เพราะพี่ชายเธอทำรกไว้พลางหันไปมองผู้ชายที่เธอไม่เคยมองว่าหล่อเหมือนอย่างที่สาวคนอื่นมอง
“อืม เที่ยงคืน ตีหนึ่ง”
“ไปด้วยสิ นับไม่อยากอยู่คนเดียว กลัว”
“ไม่ได้ แกยังเข้าไม่ได้”
“นะ แอบเข้าก็ได้ นับเคยแอบเข้า” นับดาวขยับตัวลุกขึ้นไปเกาะแขนพี่ชายตัวเองพร้อมกับนวดเอาใจ
ไม่ได้ใกล้ชิดกับพี่ชายมานานรู้สึกว่าเขาตัวหนาขึ้นไหมนะ มีกล้ามด้วยนะเนี่ย มิน่าล่ะถึงมีสาวมาจีบเยอะ เพื่อนเธอที่โรงเรียนก็กรี๊ดเขาใหญ่เลย
“ไม่ได้คือไม่ได้”
“ใจร้าย” นับดาวจ้องพี่ชายด้วยสีหน้าน้อยใจ ก่อนจะพยายามบีบน้ำตาจนมันคลอเบ้า “นับกลัวผีพี่ไนท์ก็รู้”
ไนท์พ่นลมหายใจออกมาอย่างคิดหนัก มองหน้าน้องสาวแท้ ๆ ที่หุ่นนุ่มนิ่มเหมือนหมีแล้วก็รู้สึกเอ็นดู เขาคอยเฝ้ากอดเฝ้าหอมมาตั้งแต่เด็ก เห็นน้องเป็นอย่างนี้แล้วใครจะทิ้งลง
“งั้นจะชวนพวกมันดื่มที่ห้อง ปล่อยก่อนไอ้อ้วน”
“ห้องใครเหรอ” นับดาวยิ้มออกมาอย่างลืมตัว “นับไปด้วยได้ใช่ไหม”
“ให้มันน้อย ๆ หน่อย กับไอ้โซ่ก็อย่าไปเล่นกับมันเยอะ” ไนท์ปรายตามองน้อง ระหว่างที่เขาส่งข้อความให้เพื่อนในกลุ่มแชท
เขารู้ว่าน้องสาวชอบเพื่อนของเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเพื่อนแอบคบกับน้องสาวอยู่ เพราะโซ่บอกกับนับดาวว่าห้ามให้ใครรู้ เธอไม่ใช่คนเรื่องมาก แค่เขาคุยกับเธอทุกวันมันก็ดีมากแล้ว ส่วนที่เขาตกลงเป็นแฟนกับเธอวันนั้นถือเป็นโบนัส
นับพยายามจะเปลี่ยนตัวเองอยู่ ให้เป็นผู้หญิงที่พี่โซ่พร้อมจะเปิดตัว ไม่ใช่ยายอ้วนแบบนี้ รอก่อนนะพี่โซ่ นับดาวจะผอม สวย หมวย เซ็กซี่ เร็ว ๆ นี้ !
ตอนที่ 5 โดนของ“…” โซ่ถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนักจะว่าไปนับดาวก็โคตรจะซื่อบื้อ ทั้งที่เขาไม่สนใจ ไม่ค่อยตอบข้อความ ที่ตอบไปแต่ละครั้งก็เพราะสงสารทั้งนั้น แต่นับดาวก็ยังทน ส่งข้อความมาบอกรัก บอกฝันดีเขาทุกวันอีก กูจะบ้าผู้หญิงแบบนี้มันน่ารำคาญกว่าประเภทที่ตามตื๊อไม่เลิกอีก“มึงเลิกใช้ไอ้ความรู้สึกสงสารนี่สักทีเถอะกูว่า มึงทำตัวแบบนี้น้องมันน่าสงสารกว่าอีก” รามหัวเราะในลำคอ“เออ กูจะบอก เร็วๆ นี้แหละ”“มึงบอกตอนนี้เลยก็ได้”“เดี๋ยวกูนัดนับคุย มึงช่วยถ่วงเวลาไอ้ไนท์หน่อย ไปเจอตัวเลยคงดีกว่า ถ้าส่งข้อความแล้วตัดสัมพันธ์มันคงใจร้ายไปหน่อย”“ส่งข้อความไปก็ได้มั้ง”“ใจร้ายไปไหมวะ นับก็เป็นน้องของเพื่อนนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างน้อยการได้เจอหน้ากันแล้วบอกนับดาวว่าให้เป็นพี่น้องกัน ยังดีกว่าการส่งข้อความทิ้งไว้ให้อีกคนคิดมากกูก็คนดีอยู่หรอก กับแค่บางคน ถ้าไม่ใช่น้องสาวเพื่อนตอนนี้กูมองเมินไปแล้ว นี่ยังใจดีตอบข้อความมาตั้งเป็นปี ใช้ความเงียบค่อย ๆ ทำลายความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจทว่า วิธีนี้ก็ใช้กับนับดาวไม่ได้ผลอยู่ดีน้องอยากเจอเขามาหลายวันแล้ว เขารู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก อย่
ตอนที่ 4 แค่พลาดหลังจากเลิกกิจกรรมซ้อมร้องเพลงเชียร์ในช่วงเย็น นับดาวก็เดินซื้อของอร่อยที่ขายอยู่ข้างทางกับเพื่อน เวลานี้มีร้านค้าเรียงรายเต็มไปหมด ไอ้ความคิดจะลดน้ำหนักนั้นพังไม่เป็นท่า สุดท้ายแล้วก็อ้วนเหมือนเดิม“พวกเธอกลับกันเลย เดี๋ยวพี่ไนท์แวะรับเรา” นับหันไปบอกเพื่อนขณะที่ปากยังเคี้ยวผลไม้อย่างเอร็ดอร่อย“พี่ไนท์จะมารับที่นี่เหรอ” ทิชามีท่าทางตื่นเต้นจนอายต้องตีแขนเพื่อนไปหนึ่งที“น้อย ๆ หน่อยเดี๋ยวเขารู้หมดว่าเราชอบ”ทิชาหัวเราะชอบใจ สุดท้ายทั้งสองคนก็อยู่เป็นเพื่อนนับดาวรอจนพี่ชายมารับในคณะ“มาแล้ว”หญิงสาวบอกเพื่อนเมื่อเห็นรถสีขาวที่คุ้นตาแล่นเข้ามาใกล้ รถยนต์คันนี้แม่ให้ไนท์เอามาใช้ตั้งแต่ที่รู้ว่าน้องก็สอบติดที่เดียวกัน เพราะจะได้ให้พี่ชายคอยรับคอยส่งนับดาวด้วย แน่นอนว่าเขาชอบบ่น แต่ก็ยอมมารับน้องสาวตัวอ้วนอย่างเธอตลอด“ไว้เจอกันนะนับ”“เจอกันจ้า” นับโบกมือให้เพื่อนสองคนด้วยรอยยิ้มก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถเพราะพี่ชายเธอจอดรถอยู่กลางถนนไม่ยอมหลบเข้าข้างทางสักนิดรีบมากหรืออย่างไร“จะรีบไปไหนไม่ทราบ” ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ เธอก็เอ่ยปากถามพี่ชายอย่างเอาเรื่อง“ก็มันเสียเวลา” ถนน
ตอนที่ 3 ไม่ว่างหลายวันต่อมาการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับนับดาว เธอได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างอายตาและทิชา ซึ่งเริ่มสนิทกันตั้งแต่วันที่มาลงทะเบียนนักศึกษาก่อนเปิดเทอม จนตอนนี้เรียนที่นี่ได้เกือบเดือนแล้วก็ยังเกาะกลุ่มกันสามคน“เห็นคนนั้นไหม อัยมี่ ตัวเก็งดาวคณะ” ทิชาแอบชี้ไปที่ใครบางคนซึ่งทุกคนพอจะได้เห็นหน้าตากันมาบ้างแล้ว“สวย พี่ชายก็หล่อ” อายตาเอ่ยปากชื่นชมสาวรุ่นเดียวกันด้วยรอยยิ้มนับดาวมองตามคนสวยที่ว่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอรู้จักเป็นอย่างดีเลย แต่เป็นการรู้จักข้างเดียวเพราะสาวสวยคนนั้นคือน้องสาวแท้ ๆ ของโซ่ ผู้ชายที่เธอคุยด้วยเกือบทุกวัน แถมยังมีสถานะเป็นแฟนแบบลับ ๆแต่นับดาวไม่เคยได้ทำความรู้จักกับอัยมี่เลยสักครั้ง แม้กระทั่งตัวโซ่เอง เธอยังไม่ได้ทำความรู้จักให้มากกว่าการส่งข้อความคุยกันเลยสักครั้ง จนตอนนี้เธอเริ่มสงสัยว่าคบกันแบบไหนตั้งแต่เธอเข้ามาเรียนที่นี่ เขาก็เริ่มตอบข้อความน้อยลง หน้าก็ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ หรืออาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เธออยากถามและอยากได้คำตอบว่าที่ทำอยู่นี้มันคืออะไร แต่ก็กลัวว่าถ้าถามออกไปมันจะแย่กว่าเดิมแ
ตอนที่ 2 ความลับที่ไม่มีใครรู้สุดท้ายกลุ่มเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะมาดื่มที่ห้องของไนท์ เพราะมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนับดาวตื่นเต้นที่จะได้เจอกับโซ่ในรอบเกือบปี ที่ผ่านมาคุยกันผ่านข้อความตลอด เธอเอาแต่คิดหนักว่าจะเอ่ยคำใดทักทายเขาเป็นคำแรก ควรจะยิ้มระดับไหนให้มันไม่เกินงามหญิงสาวเปิดดูหน้าต่างข้อความที่คุยกับเขา ล่าสุดเมื่อตอนเช้า เขาหายไปทั้งวันแล้วไม่ยอมตอบข้อความเธอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่ได้คุย บางทีก็ข้ามวันถึงมาตอบข้อความเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน“ไอ้ม่อน มึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย แล้วก็น้ำกีวี่ มันเป็นยังไงไอ้ม่อนไม่รู้จัก” ประโยคหลังไนท์หันมาถามน้องสาวเพราะปลายสายตั้งคำถาม“ก็น้ำที่มันเป็นสีเขียว ฝาสีขาว”“เออ ๆ กีวี่ไหนมึงก็เอามาเถอะ ไม่มีก็ไม่เอา อ้วนเป็นหมูยังจะกินน้ำหวานอีก” ไนท์บ่นกับน้องสาวก่อนจะกดวางสายจากเพื่อน“เกลียดพี่ไนท์ละ คำก็อ้วนสองคำก็อ้วน” นับดาวปากคว่ำ ยอมรับว่าอ้วนแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม เธอพยายามลดอยู่ นี่ก็ลดมาได้ตั้งสามกิโลกรัมแล้ว“ทำหน้าให้มันดี ๆ”“ถึงอ้วนก็สวยแล้วกัน” พูดจบก็สะบัดตูดเข้าห้องไม่ได้โกรธหรอก นับดาวแค่จะเข้า
ตอนที่ 1 เด็กอ้วนของพี่ไนท์“นับ เสร็จหรือยังลูก”เสียงของพ่อเรียกลูกสาวที่กำลังเก็บของสำคัญใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้รีบออกจากห้อง ทำให้นับดาวรีบตรงดิ่งไปขึ้นรถกระบะสี่ประตูที่พ่อเพิ่งถอยมาได้ไม่กี่เดือน แถมยังขับไปล้างที่คาร์แคร์ใกล้บ้านเมื่อวาน ไม่พอพ่อยังกลับมาเช็ด ๆ ถู ๆ มันทั้งวันจนนับดาวเริ่มไม่มั่นใจว่าระหว่างตัวเธอกับรถทุกคันในบ้านนี้ พ่อรักอะไรมากกว่ากัน“โอ้โฮพ่อ เอาออกเถอะ นับจะนั่งยังไงเนี่ย”“เอาน่า ถ้าฝุ่นมันเกาะเดี๋ยวมันเก่า” ผู้เป็นพ่อบอกด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก่อนจะจับผ้าขนหนูเล็ก ๆ ไปเช็ดที่พวงมาลัยอีกรอบนับดาวได้แต่พ่นลมหายใจออกมากับความหวงรถที่พ่อเธอเป็น ขนาดที่ซื้อรถมาได้สามเดือนจะสี่เดือนเข้าไปแล้ว พลาสติกใสคลุมเบาะยังอยู่ทุกชิ้น เข้าโค้งทีมีลื่นไปรวมอยู่ฝั่งเดียวกันหมด“พ่อ ! ยังไม่เอาออกอีกเหรอ แบบนี้แม่ไม่ไปด้วยนะ”นับดาวนั่งอยู่เบาะหลังแล้วกลั้นขำ มีทางเดียวที่จะทำให้พ่อเธอยอมเอาออกก็คือแม่สั่ง แล้วทันทีที่พ่อโดนถามก็เริ่มทำหน้าสลด“รถเรายังใหม่อยู่ เอาออกเดี๋ยวมันเก่านะแม่”คนเป็นพ่อยังคงดื้อดึง เมียก็เมียเถอะ ยังไงกูก็ไม่ยอมเอาออก อยากให้มันใหม่สักปี ใครจะทำไม
บทนำไดอารี่ของน้องหมูนับ ชื่อ นริศร์ชา ธาราภัคศิริกุลชื่อเล่น นับดาว อายุสิบเจ็ดปีน้ำหนักหกสิบสองกิโลกรัม ส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรสีที่ชอบ ชมพู ม่วงอาหารที่ชอบ ชานมไข่มุก ขนมหวานทุกชนิด คติประจำใจ ไม่ต้องวิ่งตามฝัน แค่นอน ฝันก็มาเอง ^^บันทึกหน้าที่หนึ่งสวัสดีเราชื่อนับดาวนะ พ่อกับพี่ไนท์ชอบเรียกเราว่าอ้วน เพราะเราเป็นเด็กอ้วนมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ก็ยังอ้วนอยู่เลย 5555วันนี้เราลองเขียนบันทึกครั้งแรกเพราะเห็นในซีรีส์ นางเอกเขียนไดอารี่ของตัวเองตั้งแต่เด็กจนถึงวันแต่งงาน มันน่ารักดี อิอิบันทึกหน้าที่ สิบห้าไม่รู้จะเขียนอะไรดี ชีวิตนับดาวมีแต่เรื่องเรียน กิน แล้วก็นอน อยากลุกไปออกกำลังกายกับพ่อก็ขี้เกียจ เมื่อไหร่จะผอมเนี่ยเราบันทึกหน้าที่สามสิบวันนี้เราเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นเพื่อนของพี่ไนท์ ชื่อพี่ โซ่ หน้าตาอย่างกับดารา หล่อมาก ๆ เรียนคณะกับสาขาเดียวกันกับพี่ไนท์ด้วย พี่เขามาจากระยอง แต่ย่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่เชียงใหม่และเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน เป็นครั้งแรกเลยนะที่คนอย่างนับดาวรู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอทำไมพี่โซ่ถึงได้น่ารักจัง >บันทึกหน้าที