สุดท้ายกลุ่มเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะมาดื่มที่ห้องของไนท์ เพราะมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นับดาวตื่นเต้นที่จะได้เจอกับโซ่ในรอบเกือบปี ที่ผ่านมาคุยกันผ่านข้อความตลอด เธอเอาแต่คิดหนักว่าจะเอ่ยคำใดทักทายเขาเป็นคำแรก ควรจะยิ้มระดับไหนให้มันไม่เกินงาม
หญิงสาวเปิดดูหน้าต่างข้อความที่คุยกับเขา ล่าสุดเมื่อตอนเช้า เขาหายไปทั้งวันแล้วไม่ยอมตอบข้อความเธอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่ได้คุย บางทีก็ข้ามวันถึงมาตอบข้อความเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน
“ไอ้ม่อน มึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย แล้วก็น้ำกีวี่ มันเป็นยังไงไอ้ม่อนไม่รู้จัก” ประโยคหลังไนท์หันมาถามน้องสาวเพราะปลายสายตั้งคำถาม
“ก็น้ำที่มันเป็นสีเขียว ฝาสีขาว”
“เออ ๆ กีวี่ไหนมึงก็เอามาเถอะ ไม่มีก็ไม่เอา อ้วนเป็นหมูยังจะกินน้ำหวานอีก” ไนท์บ่นกับน้องสาวก่อนจะกดวางสายจากเพื่อน
“เกลียดพี่ไนท์ละ คำก็อ้วนสองคำก็อ้วน” นับดาวปากคว่ำ ยอมรับว่าอ้วนแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม เธอพยายามลดอยู่ นี่ก็ลดมาได้ตั้งสามกิโลกรัมแล้ว
“ทำหน้าให้มันดี ๆ”
“ถึงอ้วนก็สวยแล้วกัน” พูดจบก็สะบัดตูดเข้าห้อง
ไม่ได้โกรธหรอก นับดาวแค่จะเข้ามาเตรียมตัว ฉีดน้ำหอมกลิ่นแป้งเด็ก ประแป้งสักหน่อย ปัดแก้มอีกนิด ไม่ลืมที่จะเขียนคิ้วด้วย พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาเพราะได้ยินเสียงพูดคุยกันของผู้ชาย
พี่โซ่มาแล้วใช่ไหม
“นั่นไง น้องกู เชี่ย ! ทำอะไรวะนับ อย่างกับลิง” ไนท์อุทานเสียงหลงเมื่อเห็นน้องสาวตัวเองเดินออกมาด้วยแก้มที่แดงแจ๋ ปากก็เคลือบลิปสติกอีก แป้งก็ขาววอก จะไม่ให้กูตกใจได้ยังไง
“มึงก็ว่าน้องมันเกิน น่ารักดีออก” ใครบางคนเอ่ยปากชมพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ
คนนี้เธอจำได้ว่าชื่อพี่ราม
“สวัสดีค่ะพี่ราม” นับดาวยกมือไหว้อย่างมีมารยาท อีกฝ่ายก็โค้งศีรษะรับไหว้ด้วยรอยยิ้ม
“ไงสาวบริหาร เก่งนะเนี่ย น้องสาวพี่อยากเข้าแต่สอบไม่ได้ หนีไปอยู่กรุงเทพฯ นู่นละ” รามเอ่ยปากชมน้องสาวเพื่อนอย่างเอ็นดู เห็นแต่งหน้ามาอย่างนี้มันก็ขำอยู่หรอกแต่เขาว่าน่าเอ็นดูมากกว่า
“ขอบคุณค่ะพี่ราม แล้วพี่โซ่ไม่มาเหรอ”
“มา ๆ แต่มันน่าจะมาดึก บอกว่ามีธุระ” รามบอกนับดาวด้วยรอยยิ้ม
แล้วก็อดสงสารไม่ได้เพราะเขาได้รู้อะไรบางอย่างมา บางอย่างที่แม้แต่ไอ้ม่อนกับไอ้ไนท์ก็ไม่รู้ และรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้เพื่อนแตกหักกันได้เลย
นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรเพราะเขาไม่ได้ตอบข้อความเธอเลย ส่งไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขาก็ยังไม่อ่าน ก็แอบน้อยใจอยู่หรอก แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาไม่ตอบ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาหนหนึ่ง ไนท์เดินไปเปิดประตูเพราะรู้แล้วว่าใคร นับจับจ้องไปที่ประตูบานนั้น ลุ้นแทบแย่ว่าจะเป็นพี่โซ่ แต่ไม่ใช่
ผู้ชายหน้าตาดีอีกคนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับถุงพะรุงพะรัง เขาบ่นตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาก่อนจะชะงักเมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ทาแป้งขาววอก ที่เขาเห็นแล้วยังตกใจ
“อ้าว นับมาแล้วเหรอ” ม่อนครางถามในลำคอ ไม่คิดว่าน้องสาวไอ้ไนท์จะมาอยู่ในห้องนี้ เขาได้ยินผ่าน ๆ แค่ว่าจะย้ายมา เรื่องน้ำกีวี่ที่เถียงกันก็คิดอยู่ว่าไอ้ผู้ชายอกสามศอกคนไหนมันจะแดก
เขารู้จักนับดาวมานานแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกับไนท์มาตั้งแต่มอปลาย แต่ไม่ได้เจอกันบ่อยนักเพราะน้องเรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วน ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาก็ไม่เชื่อว่าเป็นน้องสาวมันจริง
เพราะไอ้ไนท์มันหน้าตาดี หุ่นก็ดี ถึงน้องสาวมันจะมีเค้าโครงความสวยอยู่แต่เขาก็คิดว่าไม่เหมาะจะเป็นน้องสาวไอ้ไนท์อยู่ดี พี่ชายเข้าฟิตเนสเกือบทุกวัน ส่วนคนน้องน่าจะกินทั้งวันนะกูว่า
“สวัสดีค่ะ” นับดาวยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ชายที่รู้จักกันแล้วมาระยะหนึ่ง
“ครับ”
ทั้งคู่ยิ้มแห้งใส่กันก่อนที่นับจะหนีเข้าห้องไปเช็ดหน้าตัวเอง ก็เธอโดนมองเหมือนตัวประหลาดจะไม่ให้อายได้อย่างไร เอาเถอะ เดี๋ยวฝึกแต่งหน้าสวยขึ้นเมื่อไรเธอจะสวยให้ดู
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มครึ่ง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
นับดาวชะโงกหน้าออกมาจากห้องของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไนท์กำลังจะลุกขึ้นจากวงสนทนา พอเห็นว่าน้องสาวกำลังให้ความสนใจกับผู้มาใหม่ เขาจึงหันไปสั่งน้องตัวเอง
“ไปเปิดไป ขี้เกียจลุกละ” ไนท์บอกคนเป็นน้อง
นับดาวไม่ได้ตอบอะไร เธอรีบเดินไปที่ประตู ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองตาม เธอเอื้อมมือไปจับลูกบิดด้วยหัวใจที่เต้นรัว ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเขาชนิดที่ว่ามือยังสั่นไปด้วย
“...”
สายตาสองคู่สบประสานกันเพียงเสี้ยววินาที คนร่างสูงก็แกล้งเบือนหน้าไปทางเพื่อนที่อยู่ในห้อง เขาหลุบตาลงมาที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มให้
“นับดาว” เขาเอ่ยชื่อเธอเสียงเบา
“นึกว่าพี่โซ่จะไม่มาแล้ว” นับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นและดีใจ เธอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเขิน ๆ
“พอดีมีธุระน่ะ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง
นับดาวรู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างเรามันสั้นเกินไป ทั้งที่สถานะของเธอกับเขาก็มีคำว่าแฟนอยู่ หรือเพราะเขากลัวพี่ชายของเธอจะรู้เข้าถึงต้องทำเป็นไม่มีอะไร
แล้วเธอต้องปิดไปอีกนานแค่ไหนกันนะ
“น้องนับมานั่งด้วยกันสิ” ม่อนเอ่ยปากชวนด้วยรอยยิ้ม แล้วสายตาอีกคู่ก็หันมามองเธอด้วย
เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด สีหน้าเรียบนิ่งราวกับกลัวหลุดอะไรออกมาจากแววตาคู่นั้น หรือเหมือนไม่มีความรู้สึกใดอยู่ในนั้นเลยสักนิด แต่สุดท้ายก็ยิ้มเล็ก ๆ ส่งให้สาวรุ่นน้องไป
“เอาน้ำกีวี่ไป แล้วก็เข้าห้องได้แล้ว” ไนท์ปัดมือไล่น้องตัวเอง
“มึงก็ไล่น้อง นั่งคุยกันตรงนี้ก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร”
“จัดห้องยังไม่เสร็จเลยจะนอนตรงไหน รีบไปทำให้เสร็จ”
นับดาวพ่นลมหายใจกับเสียงพี่ชายตัวเองที่เอาแต่ขัดใจเธอไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าห้องเพราะมันคงไม่เหมาะที่จะนั่งตรงนี้ เดี๋ยวเขาคนนั้นจะมองเธอไม่ดี
จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่า เสียงด้านนอกเริ่มเงียบลงไปแล้ว เหมือนว่าเพื่อนของไนท์จะทยอยกลับกัน นับที่เผลอหลับไปก็รีบขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอน เธอยังไม่ได้คุยกับเขาเลย อย่างน้อยก็ขอให้ได้บอกลากันคืนนี้
นับดาวเดินออกมาจากห้องก็เห็นเพียงความว่างเปล่า แต่ยังมีขวดเครื่องดื่มกับแก้ววางทิ้งไว้อยู่โต๊ะกลางโซฟา พร้อมกลิ่นบุหรี่ที่โชยเข้ามาในห้อง พอมองไปที่ระเบียงก็เห็นหนึ่งชีวิตกำลังยืนอยู่ตรงนั้น
“พี่โซ่ดูดบุหรี่ด้วยเหรอ” เธอเดินเข้าไปทักทายเขา เวลานี้ไม่มีใครคงคุยกันได้ใช่ไหม
“อืม แค่บางครั้ง ไม่บ่อย” เฉพาะเวลาที่เขามีเรื่องให้คิดมาก ๆ
นับดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะเหม็นกลิ่นบุหรี่มากแค่ไหน แต่ยอมทนยืนตรงนี้เพื่อที่จะได้สนทนากับเขาต่อ
“อย่าดูดมากนะ มันไม่ดี นับเป็นห่วง” เธอบอกเขาด้วยรอยยิ้ม
โซ่พยักหน้า ยิ้มตอบเธอเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังมองไปนอกระเบียงที่ตอนนี้เห็นเพียงท้องฟ้าอันมืดมิด มีแสงระยิบระยับจากดวงดาว แสงไฟจากวัดพระธาตุบนเขาสูง แสงเหล่านั้นยังสว่างไสวกว่าจิตใจเขา
“ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
นับดาวไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะนิสัยของเขาหรือเขาเย็นชากับเธอ แต่เพราะความเคยชินที่ได้คุยกันในรูปแบบนี้มาตลอด เธอจึงไม่อยากคิดมาก
“แล้วพี่เมาไหม” หญิงสาวถามเขาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่”
“…” นับดาวพยักหน้า เขาดูเหนื่อย ๆ เหมือนไม่มีแรงจะคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ “งั้นกลับดี ๆ นะ นับไปนอนแล้ว”
โซ่พยักหน้า เขาเกือบพูดประโยคหนึ่งออกไปแต่ก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้ในที่สุด ไหน ๆ ก็จะบอกกับนับดาวอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่มาคบกันแบบนี้ แม้แต่คำว่าฝันดีเขาก็ไม่ควรพูดด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้พี่โซ่เรียนกี่โมงเหรอ”
เธอเกือบจะเดินเข้าห้องแล้ว แต่เพราะไม่อยากเข้าไปถึงนึกขึ้นได้ว่าควรถามเรื่องนี้กับเขาสักนิด
“ก็ว่าอยู่ พี่ยังไม่ได้ดูเลย มีอะไรหรือเปล่า”
“คือ ไม่มีอะไรค่ะ แค่ถาม” หญิงสาวบอกแล้วยิ้มเขิน ๆ
“มาทำอะไรตรงนี้ ไปนอนได้แล้วไอ้อ้วน”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง จะเป็นใครได้อีกถ้าไม่ใช่พี่ชายที่เธอคลานตามออกมา พอได้ยินเสียงเขานับดาวถึงกับพ่นลมหายใจ
“รู้แล้วน่า” เธอบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“กูก็จะกลับแล้ว พรุ่งนี้เรียนกี่โมงนะ” โซ่เอ่ยประโยคนั้นดังขึ้นตามหลัง เขาทิ้งบุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินตามเธอเข้ามา
“เก้าครึ่ง”
“อืม”
ตอนที่ 5 โดนของ“…” โซ่ถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนักจะว่าไปนับดาวก็โคตรจะซื่อบื้อ ทั้งที่เขาไม่สนใจ ไม่ค่อยตอบข้อความ ที่ตอบไปแต่ละครั้งก็เพราะสงสารทั้งนั้น แต่นับดาวก็ยังทน ส่งข้อความมาบอกรัก บอกฝันดีเขาทุกวันอีก กูจะบ้าผู้หญิงแบบนี้มันน่ารำคาญกว่าประเภทที่ตามตื๊อไม่เลิกอีก“มึงเลิกใช้ไอ้ความรู้สึกสงสารนี่สักทีเถอะกูว่า มึงทำตัวแบบนี้น้องมันน่าสงสารกว่าอีก” รามหัวเราะในลำคอ“เออ กูจะบอก เร็วๆ นี้แหละ”“มึงบอกตอนนี้เลยก็ได้”“เดี๋ยวกูนัดนับคุย มึงช่วยถ่วงเวลาไอ้ไนท์หน่อย ไปเจอตัวเลยคงดีกว่า ถ้าส่งข้อความแล้วตัดสัมพันธ์มันคงใจร้ายไปหน่อย”“ส่งข้อความไปก็ได้มั้ง”“ใจร้ายไปไหมวะ นับก็เป็นน้องของเพื่อนนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างน้อยการได้เจอหน้ากันแล้วบอกนับดาวว่าให้เป็นพี่น้องกัน ยังดีกว่าการส่งข้อความทิ้งไว้ให้อีกคนคิดมากกูก็คนดีอยู่หรอก กับแค่บางคน ถ้าไม่ใช่น้องสาวเพื่อนตอนนี้กูมองเมินไปแล้ว นี่ยังใจดีตอบข้อความมาตั้งเป็นปี ใช้ความเงียบค่อย ๆ ทำลายความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจทว่า วิธีนี้ก็ใช้กับนับดาวไม่ได้ผลอยู่ดีน้องอยากเจอเขามาหลายวันแล้ว เขารู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก อย่
ตอนที่ 4 แค่พลาดหลังจากเลิกกิจกรรมซ้อมร้องเพลงเชียร์ในช่วงเย็น นับดาวก็เดินซื้อของอร่อยที่ขายอยู่ข้างทางกับเพื่อน เวลานี้มีร้านค้าเรียงรายเต็มไปหมด ไอ้ความคิดจะลดน้ำหนักนั้นพังไม่เป็นท่า สุดท้ายแล้วก็อ้วนเหมือนเดิม“พวกเธอกลับกันเลย เดี๋ยวพี่ไนท์แวะรับเรา” นับหันไปบอกเพื่อนขณะที่ปากยังเคี้ยวผลไม้อย่างเอร็ดอร่อย“พี่ไนท์จะมารับที่นี่เหรอ” ทิชามีท่าทางตื่นเต้นจนอายต้องตีแขนเพื่อนไปหนึ่งที“น้อย ๆ หน่อยเดี๋ยวเขารู้หมดว่าเราชอบ”ทิชาหัวเราะชอบใจ สุดท้ายทั้งสองคนก็อยู่เป็นเพื่อนนับดาวรอจนพี่ชายมารับในคณะ“มาแล้ว”หญิงสาวบอกเพื่อนเมื่อเห็นรถสีขาวที่คุ้นตาแล่นเข้ามาใกล้ รถยนต์คันนี้แม่ให้ไนท์เอามาใช้ตั้งแต่ที่รู้ว่าน้องก็สอบติดที่เดียวกัน เพราะจะได้ให้พี่ชายคอยรับคอยส่งนับดาวด้วย แน่นอนว่าเขาชอบบ่น แต่ก็ยอมมารับน้องสาวตัวอ้วนอย่างเธอตลอด“ไว้เจอกันนะนับ”“เจอกันจ้า” นับโบกมือให้เพื่อนสองคนด้วยรอยยิ้มก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถเพราะพี่ชายเธอจอดรถอยู่กลางถนนไม่ยอมหลบเข้าข้างทางสักนิดรีบมากหรืออย่างไร“จะรีบไปไหนไม่ทราบ” ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ เธอก็เอ่ยปากถามพี่ชายอย่างเอาเรื่อง“ก็มันเสียเวลา” ถนน
ตอนที่ 3 ไม่ว่างหลายวันต่อมาการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยยังคงเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับนับดาว เธอได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างอายตาและทิชา ซึ่งเริ่มสนิทกันตั้งแต่วันที่มาลงทะเบียนนักศึกษาก่อนเปิดเทอม จนตอนนี้เรียนที่นี่ได้เกือบเดือนแล้วก็ยังเกาะกลุ่มกันสามคน“เห็นคนนั้นไหม อัยมี่ ตัวเก็งดาวคณะ” ทิชาแอบชี้ไปที่ใครบางคนซึ่งทุกคนพอจะได้เห็นหน้าตากันมาบ้างแล้ว“สวย พี่ชายก็หล่อ” อายตาเอ่ยปากชื่นชมสาวรุ่นเดียวกันด้วยรอยยิ้มนับดาวมองตามคนสวยที่ว่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอรู้จักเป็นอย่างดีเลย แต่เป็นการรู้จักข้างเดียวเพราะสาวสวยคนนั้นคือน้องสาวแท้ ๆ ของโซ่ ผู้ชายที่เธอคุยด้วยเกือบทุกวัน แถมยังมีสถานะเป็นแฟนแบบลับ ๆแต่นับดาวไม่เคยได้ทำความรู้จักกับอัยมี่เลยสักครั้ง แม้กระทั่งตัวโซ่เอง เธอยังไม่ได้ทำความรู้จักให้มากกว่าการส่งข้อความคุยกันเลยสักครั้ง จนตอนนี้เธอเริ่มสงสัยว่าคบกันแบบไหนตั้งแต่เธอเข้ามาเรียนที่นี่ เขาก็เริ่มตอบข้อความน้อยลง หน้าก็ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ หรืออาจจะแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เธออยากถามและอยากได้คำตอบว่าที่ทำอยู่นี้มันคืออะไร แต่ก็กลัวว่าถ้าถามออกไปมันจะแย่กว่าเดิมแ
ตอนที่ 2 ความลับที่ไม่มีใครรู้สุดท้ายกลุ่มเพื่อนก็ตกลงกันว่าจะมาดื่มที่ห้องของไนท์ เพราะมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันนับดาวตื่นเต้นที่จะได้เจอกับโซ่ในรอบเกือบปี ที่ผ่านมาคุยกันผ่านข้อความตลอด เธอเอาแต่คิดหนักว่าจะเอ่ยคำใดทักทายเขาเป็นคำแรก ควรจะยิ้มระดับไหนให้มันไม่เกินงามหญิงสาวเปิดดูหน้าต่างข้อความที่คุยกับเขา ล่าสุดเมื่อตอนเช้า เขาหายไปทั้งวันแล้วไม่ยอมตอบข้อความเธอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกที่ได้คุย บางทีก็ข้ามวันถึงมาตอบข้อความเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หายไปไหน“ไอ้ม่อน มึงซื้อน้ำแข็งมาด้วย แล้วก็น้ำกีวี่ มันเป็นยังไงไอ้ม่อนไม่รู้จัก” ประโยคหลังไนท์หันมาถามน้องสาวเพราะปลายสายตั้งคำถาม“ก็น้ำที่มันเป็นสีเขียว ฝาสีขาว”“เออ ๆ กีวี่ไหนมึงก็เอามาเถอะ ไม่มีก็ไม่เอา อ้วนเป็นหมูยังจะกินน้ำหวานอีก” ไนท์บ่นกับน้องสาวก่อนจะกดวางสายจากเพื่อน“เกลียดพี่ไนท์ละ คำก็อ้วนสองคำก็อ้วน” นับดาวปากคว่ำ ยอมรับว่าอ้วนแต่ไม่ต้องย้ำได้ไหม เธอพยายามลดอยู่ นี่ก็ลดมาได้ตั้งสามกิโลกรัมแล้ว“ทำหน้าให้มันดี ๆ”“ถึงอ้วนก็สวยแล้วกัน” พูดจบก็สะบัดตูดเข้าห้องไม่ได้โกรธหรอก นับดาวแค่จะเข้า
ตอนที่ 1 เด็กอ้วนของพี่ไนท์“นับ เสร็จหรือยังลูก”เสียงของพ่อเรียกลูกสาวที่กำลังเก็บของสำคัญใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้รีบออกจากห้อง ทำให้นับดาวรีบตรงดิ่งไปขึ้นรถกระบะสี่ประตูที่พ่อเพิ่งถอยมาได้ไม่กี่เดือน แถมยังขับไปล้างที่คาร์แคร์ใกล้บ้านเมื่อวาน ไม่พอพ่อยังกลับมาเช็ด ๆ ถู ๆ มันทั้งวันจนนับดาวเริ่มไม่มั่นใจว่าระหว่างตัวเธอกับรถทุกคันในบ้านนี้ พ่อรักอะไรมากกว่ากัน“โอ้โฮพ่อ เอาออกเถอะ นับจะนั่งยังไงเนี่ย”“เอาน่า ถ้าฝุ่นมันเกาะเดี๋ยวมันเก่า” ผู้เป็นพ่อบอกด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก่อนจะจับผ้าขนหนูเล็ก ๆ ไปเช็ดที่พวงมาลัยอีกรอบนับดาวได้แต่พ่นลมหายใจออกมากับความหวงรถที่พ่อเธอเป็น ขนาดที่ซื้อรถมาได้สามเดือนจะสี่เดือนเข้าไปแล้ว พลาสติกใสคลุมเบาะยังอยู่ทุกชิ้น เข้าโค้งทีมีลื่นไปรวมอยู่ฝั่งเดียวกันหมด“พ่อ ! ยังไม่เอาออกอีกเหรอ แบบนี้แม่ไม่ไปด้วยนะ”นับดาวนั่งอยู่เบาะหลังแล้วกลั้นขำ มีทางเดียวที่จะทำให้พ่อเธอยอมเอาออกก็คือแม่สั่ง แล้วทันทีที่พ่อโดนถามก็เริ่มทำหน้าสลด“รถเรายังใหม่อยู่ เอาออกเดี๋ยวมันเก่านะแม่”คนเป็นพ่อยังคงดื้อดึง เมียก็เมียเถอะ ยังไงกูก็ไม่ยอมเอาออก อยากให้มันใหม่สักปี ใครจะทำไม
บทนำไดอารี่ของน้องหมูนับ ชื่อ นริศร์ชา ธาราภัคศิริกุลชื่อเล่น นับดาว อายุสิบเจ็ดปีน้ำหนักหกสิบสองกิโลกรัม ส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรสีที่ชอบ ชมพู ม่วงอาหารที่ชอบ ชานมไข่มุก ขนมหวานทุกชนิด คติประจำใจ ไม่ต้องวิ่งตามฝัน แค่นอน ฝันก็มาเอง ^^บันทึกหน้าที่หนึ่งสวัสดีเราชื่อนับดาวนะ พ่อกับพี่ไนท์ชอบเรียกเราว่าอ้วน เพราะเราเป็นเด็กอ้วนมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ก็ยังอ้วนอยู่เลย 5555วันนี้เราลองเขียนบันทึกครั้งแรกเพราะเห็นในซีรีส์ นางเอกเขียนไดอารี่ของตัวเองตั้งแต่เด็กจนถึงวันแต่งงาน มันน่ารักดี อิอิบันทึกหน้าที่ สิบห้าไม่รู้จะเขียนอะไรดี ชีวิตนับดาวมีแต่เรื่องเรียน กิน แล้วก็นอน อยากลุกไปออกกำลังกายกับพ่อก็ขี้เกียจ เมื่อไหร่จะผอมเนี่ยเราบันทึกหน้าที่สามสิบวันนี้เราเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นเพื่อนของพี่ไนท์ ชื่อพี่ โซ่ หน้าตาอย่างกับดารา หล่อมาก ๆ เรียนคณะกับสาขาเดียวกันกับพี่ไนท์ด้วย พี่เขามาจากระยอง แต่ย่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมที่เชียงใหม่และเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน เป็นครั้งแรกเลยนะที่คนอย่างนับดาวรู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอทำไมพี่โซ่ถึงได้น่ารักจัง >บันทึกหน้าที