“แป๋มว่าถ้าหลังขนาดนี้ห้าวันอย่างต่ำค่ะ...แกโอเคใช่ไหมนิ”
ป๋อมแป๋มมีสีหน้าเคร่งเครียดที่งานนี้มันจะใหญ่เกินกว่าที่เธอคาดไว้เสียแล้ว
“เรื่องเวลาไม่มีปัญหาหรอกแต่ของใช้เจ้าสองแสบฉันเตรียมมาแค่สามสี่วันเองน่ะสิ”
เรื่องเวลาในการดูงานของณัฐนิชาเธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแต่ปัญหาก็คือของใช้จำเป็นไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือนมแม้แต่เสื้อผ้าของเด็กๆเธอก็เตรียมมาแค่พอจำกัด
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับถ้าคุณนิชาอยากเข้าเมืองบอกผมได้ตลอดเลย”
ธาดาเห็นว่าเรื่องที่หญิงสาวพูดมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเพราะถ้าหญิงสาวขาดเหลืออะไรเขาสามารถพาเธอออกจากเกาะไปซื้อได้ตลอดอยู่แล้ว
“ขอบคุณนะคะ”
ณัฐนิชารีบขอบคุณธาดาที่ดูแลพวกเธออย่างดีแต่มีอีกสิ่งที่เธอต้องห่วงก็คือเธอบอกน้องสาวของเธอว่ามาที่นี่ไม่กี่วันถ้าหากนานมีหวังน้องเธอตามมาเป็นแน่
“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะทุกคน”
“อาหารมาแล้วเดี๋ยวเราทานอาหารกันก่อนดีกว่าครับเรื่องงานค่อยว่ากันอีกที”
ธาดาเห็นว่าป้าดาวเรืองและแม่บ้านอีกสองคนเดินยกอาหารมาวางที่โต๊ะอาหารแล้วเขาจึงให้ทั้งสองมาทานข้าวกันก่อนแล้วเรื่องงานค่อยว่ากันอีกทีเพรามันเที่ยงกว่าแล้วเดี๋ยวจะเลยเวลาอาหารกลางวัน
14.00 น.
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารกันเสร็จธาดาก็บอกรายละเอียดคร่าวๆของบ้านหลังนี้ให้หญิงสาวทั้งสองฟังเมื่อกำลังคุยงานกันเพลินๆก็ได้เวลานอนของเจ้าสองแสบณัฐนิชาเลยต้องขอตัวพาลูกน้อยของเธอไปนอนและปล่อยให้ธาดาและป๋อมแป๋มคุยงานกันไปก่อน
ครู่ต่อมา
“เด็กๆหลับแล้วเหรอ”
ป๋อมแป๋มที่กำลังยืนสำรวจห้องแรกอยู่เมื่อเห็นณัฐนิชาเธอเดินเข้ามาเลยถามถึงหลานทั้งสอง
“อืม..ดูได้กี่ห้องแล้ว”
ณัฐนิชาพยักหน้าตอบเพื่อนสาวของเธอวันนี้ลูกๆของเธอหลับไวเป็นพิเศษคงเพราะความเพลียจากการเดินทางพร้อมถามเพื่อนสาวเธอว่าดูได้กี่ห้องแล้ว
“พึ่งดูได้ห้องแรกนี่แหละ”
ป๋อมแป๋มมีสีหน้าหนักใจทันทีเมื่อณัฐนิชาถามขึ้นธาดาเองก็ได้แต่อมยิ้มให้หญิงสาวทั้งสองที่รู้ว่างานนี้ดูท่าจะหลายวันกว่าจะเสร็จ
“เอ่อ...ห้องด้านบนใหญ่เหมือนกันแบบนี้ทุกห้องเลยหรือเปล่าคะ”
ณัฐนิชาถึงกับไปไม่เป็นเธอพยายามทำความเข้าใจกับงานนี้ให้มากที่สุดพร้อมหันไปหาธาดาและถามคนตรงหน้าที่ยืนนิ่งอยู่ว่าชั้นบนมีห้องที่พื้นที่เท่ากันหมดเลยใช่หรือไม่
“ใช่ครับส่วนมากชั้นบนก็จะมีแค่เตียงใหญ่เตียงเดียวในห้องยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์เพราะรอพวกคุณออกแบบก่อน”
ธาดายิ้มอ่อนพร้อมพยักหน้าบอกหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่เธอคิด
“งานหินเลย...งั้นเดี๋ยวพวกเราขอเดินดูทุกๆห้องก่อนดีกว่าค่ะแล้วถ้าหากคุณเมฆกลับมานิว่าจะคุยกับเค้าอีกทีว่าอยากจะได้แบบไหน”
ณัฐนิชาถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมคิดว่างานนี้เธอคงจะตัดสินใจกับเพื่อนเธอสองคนไม่ได้แล้วเพราะที่นี่ค่อนข้างกว้างหากจะจัดตกแต่งคงใช้งบเยอะถึงแม้เจ้าของบ้านจะบอกงบไม่อั้นยังไงเธอก็ต้องขอคุยกับเขาก่อนอยู่ดี
“ฉันว่าแบบนั้นก็เป็นความคิดที่ดีนะ”
ป๋อมแป๋มเองก็เห็นด้วยกับความคิดณัฐนิชาเพราะเธอเชื่อว่างบตกแต่งบานปลายแน่นอนหากไม่มีอะไรเลยแบบนี้
“งั้นตามผมมาเลยครับ”
ธาดาเริ่มทำตัวเป็นไกด์ที่ดีพาสองสาวเดินรอบๆบ้านหลังโตไปทุกซอกทุกมุม
“ตรงนี้จะเป็นลานดาดฟ้าที่เอาไว้จัดปาร์ตี้เล็กๆครับแล้วก็มีสระว่ายน้ำที่ขนาดเท่ากับตรงหน้าบ้านส่วนที่ต่อไปข้างบนตรงนั้นเป็นห้องที่เอาไว้ดูดาวครับ”
เมื่อดูพื้นที่ชั้นสองของบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วธาดาก็พาหญิงสาวทั้งสองเดินขึ้นมาด้านบน..สองสาวดูจะตานตาตื่นใจมากเพราะบนนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดก็ว่าได้
“นี่ขนาดยังตกแต่งไม่เสร็จพื้นที่ก็ดูโรแมนติกขนาดนี้เลยนะเนี่ย”
ป๋อมแป๋มกวาดสายตามองรอบๆด้วยสายตาที่เป็นประกายด้วยรู้สึกชอบพื้นที่ตรงนี้พอสมควร
“อืม...มุมนี้ฉันพอจะนึกไอเดียออกบ้างแล้วหละ”
ณัฐนิชามองไปทุกจุดของสถานที่ด้านบนเธอพอจะนึกไอเดียของการจัดแต่งมุมตรงนี้ได้บ้างจึงเปิดสมุดในมือแล้วจดบันทึกสิ่งที่เธออยากทำให้มุมนี้มันออกมาแบบไหน
17.00 น.
หลังจากที่เดินดูบ้านกันพักใหญ่เด็กๆก็ตื่นกันพอดีป๋อมแป๋มกับณัฐนิชาเลยพาเด็กๆออกมาเดินเล่นที่ชายหาดโดยป๋อมแป๋มเป็นคนพาเด็กๆวิ่งเล่นส่วนณัฐนิชาก็นั่งเขียนแผนงานคร่าวๆใกล้ๆกับลูกๆทั้งสองบรรยากาศดีๆยามเย็นแบบนี้ทำให้หญิงสาวสมองแล่นพอสมควร
“น้าแป๋ม...ตักทรายค่ะ”
“จ้าๆ”
ป๋อมแป๋มนั่งเล่นทรายกับหลานๆทั้งสองอย่างสบายอารมณ์เพราะบรรยากาศยามเย็นที่นี่ดีเหลือเกินเธอมองวิวเพลินไปหน่อยจนหลานสาวตัวกลมต้องเอ่ยปากเรียกให้คนเป็นน้ามาเล่นด้วยกัน
“บู๊นน..”
ใบหม่อนไม่ได้หยิบที่ตักทรายของพี่สาวมาเล่นแม้แต่นิดยังคงใจจดใจจ่อใสรถคันโปรดสีแดงที่ป๋อมแป๋มซื้อให้ใสไปมาบนพื้นทรายพร้อมส่งเสียงเล่นอย่างเมามัน
“แกเดี๋ยวฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เมื่อเล่นกับเด็กๆได้พักใหญ่ป๋อมแป๋มก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำเลยเลยลุกขึ้นเดินมาหาณัฐนิชาให้เธอดูเด็กๆไปก่อน
“อืม”
หลังจากป๋อมแป๋มเดินเข้าบ้านไปไม่เท่าไรอยู่ดีๆใบหม่อนก็ลุกขึ้นวิ่งตรงไปที่หน้าบ้านใยไหมเห็นน้องวิ่งก็วิ่งตามกันบ้าง
“ไปไหนกันจ้ะเด็กๆ”
ทำเอาณัฐนิชาวางสมุดในมือลุกขึ้นสาวเท้าตามลูกๆของเธอแทบไม่ทัน
“แล้วมาตกอะไรตอนนี้เล่า”
เมฆากำลังขับรถออฟโรดของเขาจะถึงหน้าบ้านอยู่แล้วจู่ๆมือถือก็ดันมาล่วงลงเบาะข้างๆทำให้ชยหนุ่มต้องชะลอรถเพื่อก้มดูมือถือว่ามันอยู่ตรงไหน
“เด็กๆ..รถ...ไม่นะ..อ๊ายย”
ณัฐนิชาที่กำลังเดินตามลูกๆของเธอที่เกือบจะถึงถนนหน้าบ้านพลันสายตาเธอก็เห็นรถแล่นเข้ามาโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบรกด้วยสัญชาติญาณของความเป็นแม่เธอรีบวิ่งไปเอาตัวกอดรัดลูกน้อยเพื่อปกป้องทันที
“เฮ้ยยยย” เอี๊ยด..ด..ด
เมฆาได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องเสียงดังเขาจึงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมเหยียบเบรกอย่างกะทันหันร่างของหญิงสาวกับรถของเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบทำให้เขาตกใจจนหัวใจแทบจะเต้นกระเด็นออกมาอยู่ข้างนอกและรีบลงจากรถไปดูทันที
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง