หญิงสาวจอมเฉิ่มผู้ที่พลาดมีสัมพันธ์กับชายหนุ่มแปลกหน้าโดยไม่รู้ตัวและหลังจากในคืนนั้นเธอก็ได้ให้กำเนิดสองแฝดชายหญิงที่น่ารักออกมาหญิงสาวเฝ้าทะนุถนอมลูกของเธออย่างดีตัวคนเดียวมาตลอด เขาเป็นชายหนุ่มที่กอบกุมกิจการใหญ่โตแทบจะเป็นนักธุรกิจเบอร์ต้นๆของประเทศเพอเฟคไปเสียทุกอย่างแต่มีบางอย่างที่เขานั้นยังค้างคาใจว่าผู้หญิงในคืนนั้นเธอคือใคร
View Moreเชียงใหม่
บ้านธีธารา
20.00 น.
หลังจากที่ลูกแฝดทั้งสองวัยสองขวบนอนหลับแล้วณัฐนิชาก็ต้องแบกร่างของเธอมาทำงานต่อให้เสร็จเพราะเธอรับงานออกแบบภายในของบ้านให้กับเพื่อนสาวของเธอหลังจากที่หญิงสาวตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเธอก็ต้องออกจากงานประจำมาเพื่อดูแลตัวเองและรับงานออกแบบฟรีแลนซ์อยู่กับบ้านแล้วส่งต่องานให้กับเพื่อนของเธอไปเสนอกับลูกค้าอีกทีหญิงสาวทำแบบนี้มาจนลูกทั้งสองของเธอโตจนสองขวบแล้ว
หญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งดวงตากลมโตใบหน้าจิ้มลิ้มผิวขาวเนียนนั่งอยู่หน้าจอคอมอย่างใจจดใจจ่อเพราะอยากให้งานชิ้นนี้เสร็จโดยเร็วเพราะเธอจะได้พาลูกๆของเธอไปเที่ยวทะเลตามที่อยากจะพาลูกแฝดของเธอไป
“เด็กๆหลับแล้วเหรอคะพี่นิชา”
รินทร์ธาราพึ่งเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ถามหาเจ้าสองแสบหลานของเธอทันทีพร้อมสอดส่องสายตามองลอดเข้าไปในห้องนอนของพี่สาวเธอที่เปิดอยู่
“หลับไปเมื่อกี้นี้เอง...ดีแล้วพี่จะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ..วันนี้ทำไมกลับช้าล่ะ”
ณัฐนิชาละมือจากการทำงานพร้อมหันเก้าอี้มาหาน้องสาวของเธอพลางสงสัยเรื่องเวลาเลิกงานของน้องสาวเธอวันนี้เพราะปกติแล้วรินทร์ธารานั้นจะกลับมาทันเล่นกับใยไหมกับใบหม่อนก่อนนอนทุกครั้งแต่วันนี้เจ้าสองแสบหลับไปแล้วน้องสาวเธอพึ่งจะกลับมา
“ก็เจ้าลัคกี้น่ะสิมันงอแงอีกแล้ว”
รินทร์ธาราพูดถึงรถเก๋งคันเก่าที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่งพ่อแม่เธอที่ช่วงนี้มันช่างมีปัญหาบ่อยด้วยใบหน้าที่แอบเซ็งเล็กน้อย
“อืม...มันก็เก่ามากแล้วก็คงตามสภาพ...”
ณัฐนิชาเองก็นึกถึงสภาพรถของที่บ้านเธอใช้อยู่คันเดียวทุกวันนี้มันก็เก่ามากจริงๆเธอเองตอนนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะหาคันใหม่มาเป็นภาระเพราะงานฟรีแลนซ์ของเธอมันก็ได้รายได้ที่ไม่แน่นอนเธอต้องสำรองเอาไว้ให้ลูกของเธออีกน้องสาวของเธอถึงจะทำงานเป็นเภสัชแต่เงินที่เป็นลูกจ้างตามร้านยามันก็ไม่ได้รายได้สูงอะไรมากมายนักแค่พอใช้ไปเดือนๆมีเก็บบ้างแค่นั้นเองยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเครียด
“เฮ้อ!!!...เมื่อยจัง”
ณัฐนิชาบิดขี้เกียจและถอนหายใจเบาๆพร้อมทิ้งตัวลงนอนบนฟูกผืนหนากว้างข้างๆลูกแฝดของเธอทั้งสองที่กำลังนอนหลับปุ๋ยขาก่ายเกยทับกันอยู่
กว่าเธอจะรีบปั่นงานให้เสร็จก็เป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งหญิงสาวนอนหันหน้ามาทางลูกทั้งสองของเธอพร้อมอมยิ้มเบาๆและลงยื่นหน้าไปหอมแก้มเจ้าแฝดชายหญิงตัวกลมทั้งสองคนละทีแบบเบาๆและหลับตาลงอย่างสบายใจเธอนอนดึกตื่นเช้าแทบจะทุกครั้งที่ได้รับงานมาแต่ถึงเธอจะเหนื่อยแต่พอได้รู้ว่าทำเพื่อใครเธอก็ไม่เคยคิดจะปริปากบ่นเลยสักนิด
เช้าวันต่อมา
“คุณแม่ขา..”
หนูน้อยใยไหมตื่นขึ้นมาก็รีบลุกขึ้นนั่งพร้อมก้มกระซิบที่ข้างๆหูคนเป็นแม่เพื่อปลุกให้ตื่นอย่างอารมณ์ดี
“อืมม...ตื่นเช้าจังเลยล่ะคะ”
ณัฐนิชารู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงแหลมๆข้างๆหูหญิงสาวลืมตาตื่นผงกหัวขึ้นมาพร้อมรวบตัวลูกสาวตัวกลมของเธอไปกอดเล่นพลางมองไปที่ใบหม่อนลูกชายแฝดน้องที่นอนแผ่หลาเต็มที่นอนยังไม่ยอมตื่นง่ายๆคนเป็นแม่ฉีกยิ้มออกมาหน้าระรื่น สองพี่น้องถึงจะเป็นแฝดกันแต่นิสัยไม่ค่อยจะเหมือนกันเลยสักนิดดูจากการตื่นนอนก็ไม่เหมือนกันอย่างหนึ่งแล้ว
หลังจากที่ณัฐนิชาให้ลูกๆของเธอทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วก็ปล่อยให้เด็กๆเล่นกันอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนเธอก็มาเตรียมน้ำอาบให้กับลูกๆกะละมังอาบน้ำสีชมพูกับสีฟ้าวางตรงหน้าของหญิงสาวได้ถูกใส่น้ำไว้ประมาณครึ่งกะละมัง
“มาอาบน้ำกันก่อนเร็วค่ะเด็กๆ”
ณัฐนิชาใช้มือวางลงไปที่น้ำตรวจดูว่าได้อุณภูมิที่เหมาะสมแล้วจึงเรียกเจ้าสองแสบที่เล่นกันอยู่ในห้องนั่งเล่นมาที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำในตอนเช้า
“เย่!!../เล่นน้ำ”
เจ้าก้อนกลมทั้งสองที่ได้ยินเสียงคนเป็นแม่เรียกให้มาอาบน้ำก็แข่งกันวิ่งตัวป้อมมาหาคนเป็นแม่เพราะชอบการเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจพูดได้ว่าให้อยู่กับน้ำทั้งวันยังได้
“ยกแขนขึ้นค่ะ”
คนเป็นแม่ถอดเสื้อผ้าให้ลูกทั้งสองของเธออย่างรวดเร็วเพราะเจ้าสองแสบมายืนเรียงคิวให้ถอดเสื้อผ้าอย่างรู้งานเมื่อคนเป็นพี่สาวอย่างใยไหมถอดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลงไปนั่งในกะละมังใหญ่สีชมพูของตัวเองทันทีเด็กหญิงนั่งแล้วขยับไม่ได้มากนักเพราะตัวของเธอแทบจะเต็มกะละมังแต่ก็ยังชอบที่จะนั่งในนี้อยู่เพราะเล่นน้ำได้สะดวก
ใบหม่อนคนเป็นน้องชายก็เช่นกันเมื่อถอดเสื้อผ้าเสร็จก็กระโดดลงกะละมังจนน้ำกระจายเต็มพื้นห้องน้ำไปหมดรวมถึงกระเด็นมาเปียกคนเป็นแม่ด้วยเป็นแบบนี้ปกติเป็นประจำทุกวัน
“อ๊าย...คิๆๆ”
ใยไหมผู้เป็นพี่พอเห็นน้องชายลงกะละมังเล่นน้ำก็ใช้มือตวัดน้ำใส่เจ้าตัวกลมข้างๆหน้าระรื่นแสดงถึงความอารมณ์ดี
“...คุณแม่คร้าบ...”
ใบหม่อนน้องชายที่ดูจะเรียบร้อยกว่าพี่สาวนิดหน่อยเมื่อโดนแกล้งก็จะไม่โต้ตอบแต่หันหน้ามาทำตาละห้อยฟ้องคนเป็นแม่แทน
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์ณัฐนิชาตื่นแต่เช้าเพราะวันนี้ถึงจะเป็นวันปิดเทอมของลูกๆเธอแต่เด็กๆก็มีเรียนพิเศษที่ทั้งสองอยากจะเรียนโดยใยไหมนั้นชอบที่จะเรียนบัลเล่ต์ส่วนใบหม่อนนั้นชอบดนตรีเป็นพิเศษเลยเลือกที่จะเรียนดนตรีทั้งหญิงสาวและสามีไม่เคยที่จะบังคับลูกๆของเธอว่าให้เรียนอะไรแต่จะให้เรียนสิ่งที่ลูกๆของเธอเลือกเองและพร้อมสนับสนุนเท่านั้น“คุณเมฆคะเดี๋ยวนิส่งใยไหมกับใบหม่อนเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปซื้อของต่อกับคุณแม่ฝากดูแม็คกับมาร์คด้วยนะคะวันนี้นิน่าจะรอรับเด็กๆกลับด้วยเลย...จุ้บ..นิจะรีบไปรีบมานะคะ”วันนี้ณัฐนิชาต้องไปส่งเจ้าสองแฝดวัยห้าขวบกว่าแต่เช้าเพราะวันนี้เธอจะต้องไปเลือกซื้อของเข้าบ้านกับมัทนาต่อตามประสามแม่สามีกับลูกสะใภ้หญิงสาวเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุดของสามีเธอเลยวานให้สามีเธอดูแลลูกๆอีกสองคนเสียเลยก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มของเมฆาที่นอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนที่ตอนนี้สามีของเธอยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อวานมีประชุมที่บริษัทและกลับบ้านมาจนดึก“คร้าบ...”เมฆาตอบรับปากคนเป็นภรรยาทั้งที่ตาก็ยังจะลืมไม่ขึ้นวันนี้เขาต้องรับหน้าที่ดูแลลูกชายวัยสองขวบกับสี่เดือนเองแล้วล่ะสิแต่พ่อลูกอ่อนที่ผ่านการเลี้ยง
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย
Comments