공유

บทที่ 17

작가: สั่งไม่หยุด
เจาซีตะลึงไปทันที ในใจมีความสงสัยเล็กน้อย ว่าเหตุใดคุณหนูถึงได้มั่นใจเช่นนี้

แต่เมื่อลองคิดดูคุณหนูก็ประสบความสำเร็จมาตลอด คิดว่าไม่น่าจะคำนวณผิดพลาด จึงวางใจได้ชั่วขณะ

......

สวนฉางโซ่วของนางถาน

ฉีอวี่เยียนกลับมาด้วยความดีใจ เล่าเรื่องที่หรงจือจือรับปากตนเองให้ฟัง

ยังรินน้ำชาให้ตนอีกถ้วยด้วย พลางดื่มพลางกล่าวด้วยท่าทางมีความสุข “เป็นตามที่ท่านแม่คาดคะเน มหาราชครูหรงไม่สนใจนาง นางจึงตื่นตระหนก ต่อไป สิ่งของทั้งหมดของนางหรง ก็จะตกเป็นของครอบครัวเราแล้ว!”

“ทันทีที่อ้าปากก็ตอบตกลงว่าจะให้สิ่งของมากมายขนาดนี้ ท่านแม่ ผ้าไหมสามพับนั่นที่ท่านตั้งใจจะให้ข้าเป็นสินสมรสติดตัวไป ก็เก็บเอาไว้เองเถอะ บัดนี้ข้ามีสิ่งของที่นางหรงมอบให้ ก็ไม่ได้ขาดแคลนของเล็กน้อยนั่นแล้ว”

เมื่อฉีจื่อฟู่ได้ฟังถึงตรงนี้ ก็วางใจขึ้น

แตกต่างกับท่านแม่และน้องสาว ทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอยากได้สินเดิมของหรงจือจือ ดังนั้นจึงเอ่ยข้อเรียกร้องเช่นนี้ออกมา

แต่ฉีจื่อฟู่เพียงแค่อยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อดูท่าทีของหรงจือจือ หากหรงจือจือปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เหมือนกับเมื่อคืนนี้ที่ปฏิเสธการร่วมหลับนอนกับตน คิดว่าเป็นเพราะมหาราชครู
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
อมรรัตน์ Amornrat
ฉีจื่อฟู่ชั่วบริสุทธิ์จริงๆ ...
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 18

    เมื่อนางถานนึกถึงความเย็นชาเหล่านั้นที่ตนได้รับวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็โมโหขึ้นมา แทบอยากจะกลืนหรงจือจือทั้งเป็น เมื่อเห็นบุตรชายถูกตนโน้มน้าวได้สำเร็จนางถานจึงพยายามต่อไป กล่าวขึ้นอีกว่า “ดังนั้นไม่เพียงเรื่องสินเดิม เจ้าห้ามปกป้องนาง เจ้าต้องคิดหาหนทาง เพื่อตั้งกฎให้นาง”“ทำให้นางรู้ว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรเจ้าไม่ใช่ว่าอะไรก็นึกถึงแต่นาง คนที่เจ้ารักที่สุดในใจก็ไม่ใช่นางเช่นกัน องค์หญิงม่านหวากับลูกในท้องของนาง เจ้าต้องวางไว้เป็นอันดับหนึ่ง”“ทำเช่นนี้หรงจือจือถึงจะรู้สึกถึงความลนลาน ถึงจะระมัดระวังตัว พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเอาชนะใจเจ้า”ฉีจื่อฟู่แค่นหัวเราะ “เรื่องแค่นี้ลูกเข้าใจ! ก่อนหน้านี้ให้นางเป็นอนุ นางก็อยากจะหย่าร้าง เห็นได้ชัดว่าหัวแข็งเกินไป เมื่อก่อนลูกดีกับนางเกินไปหน่อย”“หากนางรักข้าจริง ก็ต้องยินดีที่เป็นอนุ จะไม่ยอมร่วมหลับนอนได้อย่างไร? ท่านแม่วางใจ ลูกจะสั่งสอนนางให้ดี ทำแบบนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!”หรงจือจือดีงามเกินไปแล้ว ตอนนั้นตอนที่เขายังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง ทุกคนมาเยี่ยมเขา มักจะพูดถึงหรงจือจือ กล่าวว่าตนเองมีวาสนาราวกับว่าผู้ชายอกสามศอกอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 19

    ก่อนหน้านี้เป็นเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง นางถานจึงได้มอบหน้าที่หุงหาอาหารในบ้านให้หรงจือจือทำมานานแล้ว วันนี้อยากจะต้อนรับขับสู้ด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับนางเซี่ยหรงจือจือเพิ่งได้รับอิสระ แต่นางก็ไม่ได้ทำตัวว่าง ส่งคนไปสืบข่าวคราวที่เรือนด้านหน้า แล้วก็กำลังจัดการใบรายการสินเดิมของตนเองเพียงแต่ถึงแม้นางถานจะสติเลอะเลือน แต่กลับปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรอบคอบยิ่ง ให้คนรับใช้คนสนิทของตนเฝ้าเรือนอย่างเข้มงวด สาวใช้ของหรงจือจือจึงไม่สามารถสืบรายละเอียดที่คุยกันได้หลังจากได้ยินรายงานของเจาซี “คุณหนู หลังจากที่พระชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องกลับไปแล้ว ฮูหยินก็โมโหมาก ขว้างปาข้าวของในห้องหลายอย่างเลยเจ้าค่ะ!”หรงจือจือเลิกคิ้ว “อย่างนั้นหรือ?”หรือที่ไม่อยากให้ตนไปพูดอะไรกับจวนอ๋องเฉียน เป็นเพราะการแต่งงานได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว?ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างละเอียดสาวใช้เฉินคนสนิทของนางถาน ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ จ้องหรงจือจือกล่าว “ฮูหยินซื่อจื่อ ฮูหยินใช้ให้บ่าวรับใช้มาตามท่านให้ไปพบเจ้าค่ะ!”หรงจือจือก็อยากจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเช่นกัน จึงไม่รอช้า รีบลุกขึ้นทันทีเจา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 20

    เมื่อเจาซีฟังจบก็สีหน้าไม่พอใจทันที กำหมัดแน่น รู้สึกไม่พอใจแทนคุณหนูของตนมาก อยากจะด่าแม่สามีที่ไม่มีเหตุผลอย่างนางถานสักยกจริง ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ด่าไม่ได้ จึงทำได้เพียงอดทนหรงจือจือดูสงบยิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด “ท่านแม่อยากจะตำหนิข้าอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นอย่างน้อยลูกก็ควรได้รู้ว่า ตนทำผิดอะไรใช่หรือไม่? ท่านแม่โปรดบอกด้วย”นางถานกำลังจับมือสาวใช้เฉิน มองหรงจือจือด้วยสีหน้าขึงขัง “เจ้าทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ? ดี ข้าจะให้เจ้าได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง! ป้าเฉิน เจ้าบอกนางไปซิ”สาวใช้เฉินก้าวออกมา พูดเหตุผลออกมาแทนเจ้านายของตนเอง “เมื่อครู่นี้นางเซี่ยพระชายาซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องเฉียนมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องสินสอด ไม่คิดว่าจะสะเพร่าถึงขนาดนี้ ให้สินสอดเพียงสามสิบลัง นี่ไม่ใช่เรื่องที่จวนอ๋องจะทำอย่างแน่นอน”“นางเซี่ยกล่าวว่า เป็นเพราะเรื่องที่ซื่อจื่อจะให้ซื่อจื่อฮูหยินเป็นอนุ ตอนนี้ด้านนอกลือกันอย่างหนาหู ในครอบครัวต่างกำลังพูดกันว่าครอบครัวของเราไม่ดี นางไม่ยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ ก็นับว่าไว้หน้าจวนโหวแล้ว”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงไม่ยินยอมที่จะให้สินสอดไปมากกว่านี้แล้ว ให้เพียงแค่สาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 21

    สิ่งนี้ทำให้นางถานไม่พอใจเป็นอย่างมากทว่าในจังหวะนี้เองฉีจื่อฟู่ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “จือจือ ท่านแม่ถูกเจ้ายั่วโมโหจนร้องไห้ แต่เจ้ากลับไม่สำนึกผิดเลยสักนิด คุณธรรมกับความกตัญญูของเจ้าล่ะ?”ครั้นหรงจือจือได้ยินคำพูดกลับขาวเป็นดำของคนในตระกูลเขา ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าในใจของนางจะสงบลงแล้วนางเพียงทอดตามองเขาชืด ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเตือนว่า “ท่านพี่กล่าวเรื่องตลกแล้ว ผู้ที่ถูกสามีลดขั้นให้เป็นอนุเช่นข้าจะมีคุณธรรมอะไรกัน?”“แทนที่ท่านพี่จะมาถามหาความกตัญญูจากข้า ไม่สู้ถามตัวท่านเองเถิด? หากไม่ใช่เพราะท่านคบชู้ร่วมประเวณีโดยมิชอบ และประกาศว่าจะลดตำแหน่งภรรยาเอกเป็นอนุในงานเลี้ยงละก็ เรื่องการแต่งงานของอวี่เยียนจะพลอยถูกท่านทำให้ติดร่างแหไปด้วยหรือ?”“ท่านแม่เอาแต่โทษข้า แต่ผู้ที่มีปัญญาก็รู้กันทั้งนั้นว่า อันที่จริงแล้วเรื่องมันเกิดมาจากท่านทั้งนั้น ฉะนั้นผู้ที่ทำให้ท่านแม่ต้องเดือดดาลจนเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ข้า แต่เป็นผู้ที่เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดอย่างท่านต่างหาก!”ฉีจื่อฟู่จ้องมองนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง “จือจือ เจ้าดูสภาพของเจ้าตอนนี้สิ ข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 22

    หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็แทบจะหลุดขำออกมา นางถานทำดีกับนาง?เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นยายเฒ่าเจ้าเล่ห์ปากหวานก้นเปรี้ยว อยู่ข้างนอกแสร้งทำเป็นชอบพอในตัวนาง ทว่าเมื่อกลับถึงจวนกลับเปลี่ยนลูกไม้ใช้ให้ตนไปปรนนิบัติ ตั้งกฎเกณฑ์ให้นาง ราวกับหากได้บดขยี้นางแล้ว ยายเฒ่าเจ้าเล่ห์ก็จะได้อยู่สูงกว่าผู้อื่นเนื่องจากแม่แท้ ๆ ของหรงจือจือเองก็ไม่เคยทำดีกับนาง ฉะนั้นนางจึงไม่เคยเรียกร้องอะไรมากมายกับนางถานเช่นกัน คิดเพียงแค่ว่าใช้ชีวิตผ่านไปได้ก็พอแล้วไม่รู้เลยว่า ฉีจื่อฟู่พูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?นางเองก็คร้านจะพูดมาก จึงได้แต่มองฉีจื่อฟู่แล้วเอ่ยว่า “ท่านพี่ไม่ต้องมาชี้หน้าข้าพูดเรื่องกฎเกณฑ์ด้วยโทสะหรอก ข้าอยู่เรือนไม่รู้จักกฎเกณฑ์เป็นเรื่องเล็ก แต่ท่านพี่อยู่ในราชสำนักไม่รู้จักกฎมณเฑียรบาลเป็นเรื่องใหญ่”“เดี๋ยวข้าจะให้คนเอากฎมณเทียณบาลของราชสำนักเรามาให้ท่านพี่เช่นกัน ท่านพี่ก็ศึกษาอยู่ในห้องหนังสือดี ๆ ล่ะ”“หวังว่าหลังจากนี้ท่านพี่จะไม่ไปโวยวายพูดเรื่องกบฏฝ่าฝืนกฎมณเฑียรบาล ลดภรรยาเอกเป็นอนุต่อหน้าธารกำนัล จนถูกผู้ตรวจการจางชี้หน้า บอกว่าควรสั่งเฆี่ยนท่านพี่เท่าไรอีก”“หากมีอีกครา อย่าว่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 23

    “ไม่แน่ว่าเมื่อรับม่านหวากลับมาแล้ว ทั้งจวนจะได้รอลูกคนแรกของข้าคลอดออกมาด้วยกัน!”“พูดไปพูดมา ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าเอะอะก่อเรื่อง ไม่เข้าใจกระทั่งหลักหลังออกเรือนเชื่อฟังสามี ไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงดี ๆ ของเจ้าได้มาได้อย่างไร”หรงจือจือคิดว่าตนเองคงชินกับความไร้ยางอายของครอบครัวเขาไปแล้ว อารมณ์จึงสงบไม่ไหวติงใด ๆทว่าในตอนนี้ กลับทำให้ฉีจื่อฟู่กลับเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟสุด ๆฉีอวี่เยียนที่หน้าคล้ำดำเขียวเงียบไปอยู่นานสองนาน ก็พูดแทรกขึ้นมาในตอนนี้ “ใช่ พี่สะใภ้ ก็แค่เพิ่มอีกสามสิบหาบเท่านั้น!”“ตอนที่ท่านแต่งงานเข้ามา สินเดิมมีตั้งหนึ่งร้อยยี่สิบหกหาบไม่ใช่หรือ? แบ่งให้ข้าสักหน่อยจะเป็นอะไรไป? หากของแค่นี้ท่านยังตัดใจไม่ได้ คนในบ้านใครจะเข้าข้างท่าน?”หรงจือจือกล่าวอยู่ในใจว่าต่อให้ตนผ่าหัวใจให้คนในครอบครัวนี้ พวกเขาก็ไม่มีวันเข้าข้างตนหรอกเมื่อเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ นางก็ฉีกยิ้มชืด ๆ ออกมา “เพิ่มให้อีกสามสิบหาบอย่างนั้นหรือ? เพิ่งจะเท่าไรกันเชียว? รวมกับยี่สิบหาบก่อนหน้านี้ ข้าเพิ่มให้อีกหกสิบแปดหาบเลย รวมเพิ่มให้อวี่เยียนทั้งหมดหกสิบแปดหาบ คิดว่าเช่นนี้ท่านแม่กับท่านพี่คงจะพอใจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 24

    นางถานได้ยินดังนั้นก็เดือดจนควันออกหู นางอยากให้หรงจือจือใจกว้างยกสินเดิมให้ตระกูลพวกเขา ทว่าก็ไม่ได้ให้ใช้วิธีที่ใจกว้างเช่นนี้เสียหน่อยนางรีบส่งสายตาไม่ให้หรงจือจือปริปากอีกทันที จากนั้นก็เอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้ของเจ้าเอาใจเจ้าเช่นนี้ ถึงขั้นยอมยกสินเดิมให้เจ้ามากมายขนาดนั้น เจ้าเองก็ควรนึกถึงพี่สะใภ้บ้างสิถึงจะถูก”“เจ้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ได้อย่างไร เอาของดีมากมายขนาดนั้นไปคนเดียว ไม่คิดถึงอนาคตของพี่ชายกับพี่สะใภ้เจ้าบ้างหรือ?”หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็นึกอยากขำ เยี่ยมไปเลย ตอนนี้เริ่มกล่าวโทษว่าฉีอวี่เยียนเห็นแก่ตัวแล้ว หากทำไม่ถูกใจนางถาน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้นฉีอวี่เยียนถลึงตาโต “ท่านแม่ ท่านพี่กับพี่สะใภ้มีอะไรให้ข้าต้องคิดเผื่อเล่า? วันหน้าจวนโหวนี่ท่านพี่ก็ได้เป็นผู้สืบทอด”นางถานเอ่ยถามด้วยสีหน้าปั้นยาก “ใช่ว่าเจ้าไม่รู้เสียหน่อยว่า ตอนนี้สถานการณ์ของจวนโหวเป็นเช่นไร...”ฉีอวี่เยียน “ข้ารู้ว่าจวนโหวไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ท่านแม่บอกว่ารวมยี่สิบหาบนั่นของพี่สะใภ้แล้ว จะให้สินเดิมข้าทั้งหมดหกสิบหกหาบ ท่านแม่ออกเองสี่สิบหกหาบ”“แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 25

    ฉีอวี่เยียนที่เดิมทีคิดจะทำตามการจัดเตรียมของมารดา เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ถูกฉากแสนงดงามที่หรงจือจือพรรณนาทำให้หวั่นไหวเป็นอย่างมากผู้ที่มีสินเดิมสองร้อยหาบตอนออกเรือน มีเพียงท่านหญิงอันเหอลูกพี่ลูกน้องของฝ่าบาทเท่านั้น ! หากนางมีเยอะขนาดนั้นได้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรนางเซี่ยแม่สามีในอนาคต ก็จะต้องมองตนด้วยความชื่นชม!นางรีบคว้าแขนของนางถาง “ท่านแม่! ท่านแม่ดูสิพี่สะใภ้เอ่ยเช่นนี้แล้ว ไม่สู้จัดการตามที่พี่สะใภ้ว่าเถิด หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะรักข้าน้อยกว่าพี่สะใภ้?”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ฟังดูอบอุ่น “อวี่เยียนไม่ต้องกังวลไปนะ ท่านแม่รักเจ้าราวกับแก้วตาดวงใจมาตลอด คำของ่าย ๆ เช่นนี้ ท่านแม่ย่อมต้องยินยอมอยู่แล้ว! พี่สะใภ้อย่างข้ายังตัดใจให้หนึ่งร้อยหาบได้ หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะไม่ยอมเชียวหรือ?”นางถางถูกฉีอวี่เยียนอ้อนวอน มิหนำซ้ำยังถูกหรงจือจือยกยอปอปั้นขึ้นมาอีก ในฉับพลันก็ลำบากใจเป็นอย่างมากนางจ้องหรงจือจือ พลางตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะจัดเตรียมสินเดิมให้อวี่เยียนอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอดปากตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าของหรงจือจือแข็งทื่อ นางตอกกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้

최신 챕터

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status