공유

บทที่ 205

작가: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือหัวเราะ “ดูท่า สถานการณ์เอื้ออำนวยที่ข้ารอก็มาถึงแล้ว!”

ปกติแล้วหากไม่ใช่ขุนนางตำแหน่งสูงมีอำนาจมากระดับแถวหน้า ก็มีน้อยคนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดอายุสี่สิบปีอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ ที่จัดล้วนจัดงานเลี้ยงวันเกิดอายุหกสิบปีให้ผู้อาวุโสในบ้านทั้งนั้น

นางหลิวทำเช่นนี้ อันธพาลผู้นั้นต้องเป็นคนยุยงเป็นแน่

แต่เป้าหมายของอันธพาลผู้นั้นคืออะไร ชัดเจนไม่กว่านี้ไม่ได้แล้วมิใช่หรือ?

อวี้หมัวมัวเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนู เราจะไปหรือไม่เจ้าคะ?”

หรงจือจือ “มีเรื่องสนุกในตอนท้าย จะไม่ไปได้อย่างไรกัน? หวังก็แต่สามีน้อยที่นางหลิวเลี้ยง จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

อวี้หมัวมัวฉีกยิ้มตาม

พริบตาเดียวก็ถึงวันงานเลี้ยงวันเกิดของนางหลิวแล้ว

นางถานเสนอว่าช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่สู้ไปร่วมงานเลี้ยงกันยกบ้าน ได้สัมผัสความครึกครื้นเสียหน่อย ในใจจะได้ผ่อนคลายลงสองสามส่วน ฉะนั้นคนทั้งจวนจะออกเดินทางไป

ครั้นเห็นหรงจือจือปรากฏตัว นางถานก็กล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “หรงจือจือ เจ้ามาทำไม?”

หรงจือจือตอบกลับด้วยน้ำเสียงจืดชืด “ท่านพ่อ ข้าไปไม่ได้หรือ?”

ฉีอวิ่นรีบตอบกลับว่า “ไปได้สิ! ไปได้อยู่แล้ว!”

หลังจากนั้นก
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 206

    พูดคำพวกนี้จบยังไม่เท่าไรนางถานยังใช้มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรั้งอวี้ม่านหวาเอาไว้ด้วย “ม่านหวา เจ้าวางใจ แม้เจ้าจะเป็นเพียงแค่อนุ แต่จื่อฟู่ก็รักและให้ความสำคัญกับเจ้า ขอให้ฝ่าบาทแต่งตั้งฮูหยินตราตั้งเพื่อเจ้า เจ้ามีหน้ามีตามากเสียยิ่งกว่าภรรยาเอกจอมปลอมบางคนเสียอีก!”อวี้ม่านหวาฉีกยิ้มพลางเอ่ย “ท่านแม่ จิตใจของท่านพี่ ข้าย่อมรู้ดีที่สุด! เพียงแต่อย่างไรพี่หญิงก็แต่งเข้ามาก่อน แม้ว่าตอนนี้ฐานะของข้าจะอยู่เหนือกว่านาง แต่ข้าก็ยังยินดีให้หน้าบาง ๆ แก่พี่หญิงสองสามส่วน”“หากพี่หญิงอยากนั่งก่อนจริง ๆ เช่นนั้นก็นั่งเถิด! ข้าไม่ใช่คนกระเปิ๊บกระป๊าบเช่นนี้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้พี่หญิงจะให้ข้าเรียกท่านว่าฮูหยินให้ได้ ไม่ยอมให้ข้าเรียกพี่หญิง ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านรู้สึกอิหลักอิเหลื่อบ้างหรือไม่?”นางถานกลอกตาขาวทีหนึ่ง “หากข้าเป็นเจ้านะ คงหากระสอบมาคลุมหัวตัวเองแล้ว จะได้ไม่ต้องออกมาขายขี้หน้าคนอื่นเขา!”พวกนางแม่ผัวลูกสะใภ้ผลัดกันพูดไปมาพูดจนฮูหยินนางหนึ่งอดกลั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า นางหรงจะถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงแล้วมิใช่หรือ?”นางถานตกตะลึง “ฮะ? เจ้าว่าอะไรนะ?”หา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 207

    นางถานยิ่งไม่เชื่อเข้าไปกันใหญ่ “ท่านอัครมหาเสนาบดีจำผิดคนหรือเปล่า?”นางสวีกล่าว “ท่านอัครมหาเสนาบดีเป็นคนระดับไหน? จำผิดกระทั่งผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตตน? กลับกันฮูหยินฉีเจ้าแปลกยิ่งนัก ลูกสะใภ้ของตัวเองได้เป็นท่านหญิงแท้ ๆ กลับไม่ดีใจเลยสักนิด ยังทำราวกับว่าถูกโจมตีอะไรอีก!”สีหน้าของนางถานคล้ำดำหมองเป็นอย่างมากสีหน้าของอวี้ม่านหวาเองก็ไม่สู้ดีนักต่อให้ฝันก็ยังคิดไม่ถึงเลยว่า นางประสมโรงนางถานเพียงไม่กี่คำ ขยะแขยงหรงจือจือด้วยกัน ทว่าสุดท้ายกลับทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้าจนหมดสิ้น มิน่าล่ะสองวันนี้ฉีจื่อฟู่ถึงดูแปลก ๆนางสวีกล่าวจบ ก็แสร้งมาคว้ามือของหรงจือจืออย่างสนิทสนมฉีกยิ้มพลางเอ่ยว่า “พอข้าเห็นเจ้า ก็รู้สึกถูกชะตาเป็นอย่างมาก! ตอนแรกเจ้าช่วยท่านอัครมหาสนาบดีเอาไว้ คิดว่าวิชาแพทย์ก็คงยอดเยี่ยมมากใช่หรือไม่?”หรงจือจือตอบกลับอย่างมีมารยาท “รู้งู ๆ ปลา ๆ เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”นางถานเองก็นึกขึ้นได้ว่าหรงจือจือรู้วิชาแพทย์ พลันกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แค่เจ้าบังเอิญโชคดีอีกครั้งก็เท่านั้นแหละ!”“ไม่แน่ว่าเดิมทีท่านอัครมหาเสนาบดีอาจจะไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว แต่เข้าใจผิดคิดว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 208

    นางถานไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก บวกกลับช่วงนี้เกลียดชังนางหลิวมากจริง ๆกล่าวทั้งหน้าคล้ำดำหมอง “ตอนนี้สกุลถานมีแต่คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้าแล้วหรืออย่างไร? กระทั่งน้ำชายังถือไม่อยู่! นางหลิวดูแลจวนอย่างไรกันแน่?”ครั้นนางด่าเช่นนี้ออกมา คนที่อยู่ในงานต่างพากันเงียบกริบสาวรับใช้ผู้นั้นถือน้ำยังถือไม่อยู่มือ ก็เลอะเลือนนิดหน่อยจริง ๆ ทว่าสตรีที่แต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นหลายปีเช่นนางถาน ว่าพี่สะใภ้ต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ไม่มีกฎเกณฑ์และทำให้ผู้คนรังเกียจเป็นอย่างมากสาวใช้ผู้นั้นรีบหมอบกราบแล้วกล่าวว่า “ขอฮูหยินใจเย็น ๆ ด้วยเจ้าค่ะ!”ต่อให้นางถานเดือดดาลแค่ไหน แต่จะสวมเสื้อผ้าเปียกไปตลอดไม่ได้ จึงลุกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นพาข้าไปเปลี่ยนชุดเสีย! เปลี่ยนชุดเสร็จค่อยมาจัดการทาสชั้นต่ำไร้ประโยชน์อย่างเจ้า!”สาวใช้กล่าวทั้งน้ำตาอาบหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวจะนำทางให้ฮูหยินไปยังเรือนชิงเฟิงที่บรรดาแขกมีเกียรติเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน!”ก่อนไป นางถานยังนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางหันหน้ากลับไปมองทีหนึ่ง “ตำแหน่งประธานเป็นของข้า ท่านหญิงขั้นสองเป็นลูกสะใภ้ของข้า! เดี๋ยวหากผู้ใดนั่งตำแหน่งของข้า ก็ต

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 209

    ถานผิงถิงบอกสถานการณ์กับนาง ในใจนางไม่ชอบหรงจือจือ แต่เมื่อรู้ว่านางสวีเป็นคนไม่ได้ตั้งใจทำหกใส่ นางเองก็ไม่ควรที่จะพูดอะไรได้แต่ฉีกยิ้มพลางกล่าว “ข้าในฐานะเจ้าบ้าน ก็จะไปด้วยเช่นกัน!”หรงจือจือย่อมยิ่งไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้วดูท่าสวรรค์กำลังช่วยตนอยู่ ไม่คิดเลยว่านางหลิวยังกลับมาพอดิบพอดีอีก คิดว่าเรื่องสนุกนี้จะยิ่งยอดเยี่ยมไปกันใหญ่...ทว่ากล่าวถึงนางถานที่ถูกสาวใช้พาไป มาถึงเรือนชิงเฟิงแล้วครั้นหญิงรับใช้แซ่หลี่เห็นสาวใช้ผู้นั้น ก็กล่าวขึ้นย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่แหละ ข้าเข้าไปปรนนิบัติฮูหยินก็พอแล้ว!”สาวใช้ “เจ้าค่ะ!”แม้หญิงรับใช้แซ่หลี่ไม่กล่าวออกมาเช่นนี้ นางเองก็จะเป็นฝ่ายเสนอออกมาก่อนอยู่ดี นางจะเฝ้าให้คุณชายอยู่ข้างนอกนางถานเริ่มเปลื้องผ้า ภายใต้การปรนนิบัติของหญิงรับใช้แซ่หลี่ทว่ามีคนผู้หนึ่ง ซุ่มซ่อนอยู่ในห้องนี้มานานแล้ว เข้ามาใกล้ช้า ๆ ฉวยโอกาสตอนที่หญิงรับใช้แซ่หลี่ไม่ทันสังเกต ตีท้ายทองของนางจากเบื้องหลังจนเป็นลมไปนางถานได้ยินเพียงเสียง ‘ตุบ’ ดังขึ้นเสียงหนึ่ง กำลังจะหันหน้ากลับไปทว่าถูกคนโอบเอวเอาไว้อย่างแรง ครั้นเบือนศีรษะไปนางก็เ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 210

    นางหลิวเห็นสีหน้าของสาวใช้ ก็รู้ในทันทีว่าเกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว!ตอนนี้ยังได้ยินเสียงสามีหนุ่มของตนอีกต่างหาก นางยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก?เสียงครวญครางของนางถานยังแว่วดังออกมาอีกว่า “โอ๊ย! เจ้าอย่ามุทะลุเช่นนี้ แขนของข้ายังไม่หายดีเลยนะ เจ้าแตะถูกแผลแล้ว...”เหล่าฮูหยินที่อยู่ข้างหน้าต่างมองหน้ากัน ไหนเลยพวกนางจะฟังไม่ออก นั่นคือเสียงของนางถานหรงจือจือเองก็หน้าซีดเผือดไปหมด “นี่...”ในใจนางกลับเลื่อมใสอันธพาลผู้นั้นอยู่หลายส่วน ฟังจากเสียงนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่านางถานจะถูกเขาทำให้หลงได้เร็วขนาดนี้? มิน่าล่ะถึงมีความสามารถหลอกฮูหยินได้มากมายขนาดนั้น!ในตอนนี้นางหลิวเดือดดาลจนจะบ้าแล้วนางพุ่งเข้าไปโดยตรง แล้วถีบเปิดประตูสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้าประตูกล่าวเสียงดังว่า “ฮูหยิน ฮูหยินใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ้าคะ...”นางหลิวใจเย็นลงเสียที่ไหน ถีบนางกระเดือนไปข้าง ๆ ด้วยบรรดาฮูหยินและคุณหนู ในใจกระวนกระวายราวกับถูกแมวข่วนก็มิปาน อยากเข้าไปดูเรื่องสนุก ทว่าก็กลัวเห็นภาพอะไรที่ไม่อาจทนดูได้ จนทำให้คนซุบซิบนินทาตนได้ดังนั้น พวกนางจึงเลือกวิธีที่อยู่ระหว่างกลาง : เอามือปิดหน้าแล้วแอบมองจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 211

    “แต่ตอนนี้... ท่านกลับเอาเงินของข้าไปเลี้ยงชู้รักของท่าน? แถมยังตั้งครรภ์ลูกของเขาอีกด้วย! ท่านแม่ ท่านทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไร?”นางหลิวครานี้ก็ไม่พอใจเช่นกัน “ข้าทำอะไรผิดกัน? ข้าเลี้ยงเจ้ามาจนโต เอาสินสอดของเจ้ามาใช้แล้วอย่างไร? เจ้าก็ควรกตัญญูต่อข้าไม่ใช่หรือ?"นางถานที่มึนงงอยู่ก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว จึงถามด้วยความเหลือเชื่อ “ถ้าเช่นนั้น นางหลิว สินสอดของข้าที่แบ่งไปครึ่งหนึ่ง ท่านเอาไปเลี้ยงชายอื่นหมดเลยหรือ? มิน่าล่ะ ลูกสาวของท่านถึงได้เอาแค่ของไร้ค่าเป็นสินเดิมเข้าบ้าน! ท่านทำแบบนี้กับพี่ชายข้าได้อย่างไร?”นางหลิวกล่าวว่า “เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือ? วันนี้เจ้าคบชู้กับเขาต่อหน้าต่อตาข้า แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าไม่ผิดกับใครเลยหรือ?”ฉีอวี่เยียนได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือด เพราะนางเข้าใจแล้วว่า แม่ของนางทำเรื่องเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนมากมาย ในฐานะลูกสาวของนาง ชื่อเสียงของตนคงพังทลายอย่างสิ้นเชิง!ซิ่วไฉที่นางหมายปอง เกรงว่าคงไม่ยอมแต่งงานกับนางอีกแล้ว!เสียงเอะอะโวยวายดังขนาดนี้ฝั่งแขกชาย ไม่นานนักข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่ว ทุกคนไม่สนใจเรื่องการแยกชายหญิงอีกต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 212

    เมื่อนางพูดเช่นนั้น สายตาของคนจำนวนมากก็จับจ้องไปที่หรงจือจืออย่างไรก็ตาม หรงจือจือไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ทำเพียงท่าทีประหลาดใจ “ท่านแม่...ท่านช่างกล่าวหาข้าจริง ๆ ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย ฮูหยินทั้งหลายเป็นพยานให้ข้าได้!”นางสวีเป็นคนแรกที่พูดขึ้น “ที่จริงแล้ว ข้าถือถ้วยชาไม่มั่นคงเอง ทำให้น้ำชาหกใส่ท่านหญิง!”ฉีอวิ่นตะลึง “ท่านหญิง?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉีจื่อฟู่ก็รู้สึกอับอายขายหน้าเช่นกัน แต่เขาก็ยังอธิบาย “จือจือเคยช่วยท่านเสนาบดีไว้ ฝ่าบาทจึงทรงแต่งตั้ง และรอเพียงฤกษ์งามยามดี”ฉีอวิ่นอยากถามหรงจือจือมากว่าทำไมนางถึงไม่บอกคนในครอบครัวเรื่องที่นางช่วยท่านเสนาบดีไว้เร็วกว่านี้ คราวที่แล้วที่เขาถาม นางตอบว่าไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้!เขาจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง แล้วหันไปมองนางถานอีกครั้ง “เจ้าเองก็ได้ยินแล้ว! ที่จือจือมาที่นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ!”นางถานพูดอย่างโกรธเคือง “ใครจะรู้ว่านางสมรู้ร่วมคิดกับนางสวีหรือไม่?"คราวนี้ นางสวีก็ไม่ยอม นางพูดกับฉีอวิ่น “นายท่านฉี นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของท่าน ตามหลักแล้วข้าไม่ควร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 213

    หรงจือจือเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอตรงหางตา สีหน้าฉายแววน้อยใจ “ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านไม่เคยชอบข้า แต่เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ ท่านก็กล่าวหาข้าอย่างลอย ๆ ไม่ได้นะเจ้าคะ”“โชคดีที่ท่านพ่อทรงปรีชาสามารถ ตัดสินคดีออกมาอย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของข้าคงป่นปี้หมด!”ฉีอวิ่นผู้ได้รับคำชมว่าปรีชาสามารถ แต่บนศีรษะกลับส่องประกายสีเขียว ถึงแม้จะได้รับคำยกย่อง ก็รู้สึกยินดีไม่ออก!นางถานหันไปมองนางหลิว ก่อนจะเอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “ท่านได้ยินหรือไม่! เขาทำร้ายข้าเพราะโลภเงินของข้า ข้ามิเคยยั่วยวนเขาเลยสักนิด!”นางหลิวหน้าซีดเผือดไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าอันธพาลผู้นั้นจะหันไปพูดกับนางถานว่า “ข้าลงมือจริง แต่ข้ามิได้บังคับเจ้าเสียหน่อย! ตอนแรกเจ้ายังแสร้งขัดขืนอยู่พักหนึ่ง แต่พอผ่านไปไม่นาน เจ้ากลับตื่นเต้นขึ้นมาเองไม่ใช่หรือ?”“ฮ่า ๆ...” ไม่รู้ว่าขุนนางท่านใดเผลอหลุดขำออกมาฉีอวิ่นยิ่งรู้สึกว่าหมวกเขียวบนศีรษะตนส่องประกายเจิดจ้ากว่าเดิมนางถานรู้สึกหวาดหวั่น แต่ก็ยังตะโกนเสียงดัง “ข้าไม่ได้ทำ!”อันธพาลหัวเราะเยาะ “เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือ? เหล่าฮูหยินที่อยู่ตรงนั้นล้วนได้ยินกันหมดแล้ว!”เรื่องมาถึงตอน

최신 챕터

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status