Share

บทที่ 249

Author: สั่งไม่หยุด
แม้แต่หรงจือจือก็มักจะรู้สึกว่า มีคนยุยงอยู่ระหว่างกลาง แต่หรงซื่อเจ๋อไม่ยอมพูดอะไรเลย และแม้จะมีเรื่องเข้าใจผิด ก็ไม่รู้จะแก้ไขที่ส่วนใดดี

หรงซื่อเจ๋อกล่าวด้วยดวงตาที่มืดมน “ไม่มีอะไรเข้าใจผิดทั้งนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องสกปรกที่เจ้าทำ! ข้าแค่กลัวว่าหากพูดออกไป เจ้าจะอับอายจนถึงแก่ความตายก็เท่านั้น!”

“คำพูดไร้สาระพวกนี้วันหลังไม่จำเป็นต้องพูดขึ้นอีก ทว่าชุดกระโปรงนี่เจ้าแค่บอกมาว่าจะทำหรือไม่แค่นั้น หากไม่ทำ เจ้าอย่ามาโทษที่ข้าไม่ยอมรับเจ้าว่าเป็นพี่หญิงในภายหลังก็แล้วกัน!”

ทันทีที่พูดคำนี้ หรงซื่อเจ๋อก็สะบัดชายเสื้อ และก้าวเท้ายาวจากไป

เจาซีมองหรงจือจืออย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นหรงจือจือรู้สึกหดหู่เล็กน้อย นางไหนเลยจะไม่รู้ว่าคุณหนูกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อก่อนพี่น้องมีความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่ตอนนี้กลับเดินมาถึงจุดนี้

มันจะดีกว่าหากไม่ผูกพันกันตั้งแต่แรก เพราะมันจะยิ่งทำให้เศร้าใจและทรมานมากขึ้น

เจาซีกระซิบถาม “คุณหนู เช่นนั้นเสื้อผ้านี้ ท่าน...จะทำหรือไม่เจ้าคะ?”

นางคิดว่าไม่ควรทำ

แต่เมื่อก่อนคุณหนูดันใส่ใจน้องชายคนนี้มาก ตราบใดที่คุณหนูสามารถทำได้ ก็จะตอบรับคำขออยู่เสมอ

ในน้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 250

    หรงจือจือใส่ใจหรงซื่อเจ๋อคนนี้มากเพียงใด ในใจของหรงจือจือย่อมรู้ชัดแน่นอนตอนเป็นเด็กพี่รองคนนี้ของตน นอกจากท่านย่าที่อยู่ในเรือนแห่งนี้ ยังเป็นเพียงคนเดียวที่เต็มใจใกล้ชิดกับหรงจือจือ ดังนั้นหรงจือจือจึงหวงแหนเขามากเช่นกันเมื่อเห็นหรงซื่อเจ๋อพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นหรงเจียวเจียวเองก็รู้ว่า เรื่องนี้เป็นที่มั่นใจเก้าในสิบแล้ว......เที่ยงของวันรุ่งขึ้นหรงจือจือเห็นเจาซีเข้ามาด้วยด้วยสีหน้าแปลก ๆ และเอ่ยปากรายงานว่า “คุณหนู เจ้าพวกนักเล่านิทานด้านนอกมากมาย พากันพูดเรื่องของท่านกับสกุลฉีมั่วซั่วไปหมดแล้วเจ้าค่ะ...” “เห็นได้ชัดว่าสกุลฉีทำให้ท่านผิดหวัง ภายหลังกลับพูดเหมือนว่าท่านทำผิดต่อสกุลฉีเสียนี่”“บ่าวไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เจ้าค่ะ เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนผู้คนต่างด่าทอคนสกุลฉี แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนนี้ถึงเริ่มด่าท่านแล้ว”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “เพราะข้าในเมื่อก่อน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่น่าสงสารที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และทนทุกข์อย่างถึงที่สุดในสายตาของชาวโลก พวกเขาจึงเห็นใจข้าบ้างเป็นธรรมดา” “แต่ตอนนี้ข้าหย่าร้างแล้ว ข้าทำให้พวกเขารู้ว่า ตอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 251

    แต่นางเซี่ยไม่ยอมรับในตัวนางหรงจือจือพูด “ต่อไปอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก ในเมื่อข้ารับปากนางเซี่ยไปแล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะกลับคำ”“เอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ไปก็มีแต่จะเพิ่มความคิดที่ไร้ประโยชน์ให้กับเจ้า หรือหากแพร่งพรายออกไปก็จะกระทบต่อชื่อเสียงของทั้งสองฝ่าย”ไม่รู้ว่าการกระทำของจีอู๋เหิงวันนี้จะทำให้เกิดข่าวลือหรือไม่เจาซีตอบอย่างไม่เต็มใจนัก “บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าหัวใจของเจาซีกำลังหลั่งโลหิต ที่คุณหนูต้องพลาดจากบุรุษที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้สองนายบ่าวคุยกันถึงแค่ตรงนี้คนเฝ้าประตูเดินเข้ามารายงาน “คุณหนู ฉีอวี่เยียนมาหาขอรับ ร้องโวยวายอยู่ด้านนอกว่าต้องการพบท่าน!”เมื่อนึกถึงยามที่ออกจากสกุลฉีเมื่อวาน ฉีอวี่เยียนข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวตายเพื่อบีบให้หรงจือจือทิ้งสินเดิมไว้ ครั้นได้ยินว่าอีกฝ่ายมาหาในวันนี้ หรงจือจือก็ย่อมรู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนเอ่ยปากตอบทันทีว่า “ไม่พบ!”นางนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าตัวเองออกจากสกุลฉีมาแล้ วแต่ก็ยังจะโดนคนสกุลฉีตามหลอกหลอนไม่เลิกอีก นางคิดว่าตราบใดที่คดีของอวี้ม่านหวายังไต่สวนไม่เสร็จสิ้น สกุลฉีก็น่าจะต้องปวดหัวกับเรื่องน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 252

    หรงเจียวเจียวฟังถึงตรงนี้ก็รีบพูดตาม “นั่นสิเจ้าคะพี่หญิง อย่าก่อเรื่องอีกเลย รีบตามคุณหนูสามจากสกุลฉีกลับไปเถิด”“การที่นางมารับถึงที่นี่ก็แสดงให้ถึงความจริงใจของสกุลฉี จะเล่นตัวก็เล่นแค่พอเป็นพิธี เล่นมากไปจะหมดความหมาย”นางว่าจบก็ดันฉีอวี่เยียนเบาๆ “ยังไม่รีบพูดจาดีๆ กับพี่หญิงของข้าอีก?”ฉีอวี่เยียนฟังหรงเจียวเจียวพูดแบบนี้แล้ว มีหรือจะเห็นหรงจือจืออยู่ในสายตาอีก มองว่าก็แค่เศษสวะที่อยากตามตัวเองกลับสกุลฉีแต่ชอบวางท่าเล่นตัวพูดเย้ยหยันว่า “หรงจือจือ ข้าพูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว จะกลับหรือไม่กลับก็แล้วแต่! ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด”หรงเจียวเจียวมองหรงจือจือ “ท่านพี่ คุณหนูสามสกุลฉีโมโหแล้วเจ้าค่ะ หากท่านยังไม่รีบกลับไป ทำให้ผลประโยชน์ตกเป็นของสตรีคนอื่นขึ้นมาจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”“ข้าเพียงแต่กลัวว่าผลประโยชน์จะตกไปเป็นของผู้อื่น กลัวว่าท่านจะหยิ่งในศักดิ์ศรี ด้วยเหตุนี้จึงต้อนรับนางแทนท่าน”“สกุลฉีเป็นครอบครัวอันเพียบพร้อมที่หาได้ยากยิ่ง พี่เขยเป็นคนดีที่หาได้ยากเช่นกัน แม้ว่าช่วงนี้จะทำผิดพลาดไปเล็กน้อย แต่ข้าก็เชื่อว่าเขาจะแก้ไขปรับปรุงได้อย่างแน่นอน ท่านรีบไปเก็บของเถิด!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 253

    หรงจือจือพูดจบก็หันตัวเดินนำเจาซีจากไปหรงเจียวเจียวรีบร้องขึ้น “หรงจือจือ ท่านจะไปไหน? นางมาหาท่านนะ!”ฉีอวี่เยียนเข้ามาคว้าแขนหรงเจียวเจียวเอาไว้ “ไม่ ข้ามาหาเจ้าต่างหาก! จะมาหานางทำไม?”“ความจริงแล้วข้ารู้สึกถูกชะตากับเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! จริงสิ ขนาดหรงจือจือยังมีปะการังต้นใหญ่ เจ้าเป็นที่โปรดปรานของครอบครัวขนาดนี้ คิดว่าท่านแม่ของเจ้าน่าจะมอบให้อย่างน้อยสองต้นใช่หรือไม่?”“รอให้ถึงวันที่ข้าแต่งงานออกเรือน เจ้าแบ่งให้ข้าต้นหนึ่งได้หรือไม่? ข้าขอแค่ต้นเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปกระมัง?”“พี่หญิงของเจ้าตระหนี่มาก ตอนนั้นข้าขอร้องจนปากเปียกปากแฉะ แต่นางกลับไม่ยอมยกให้แม้เพียงครึ่งต้น เจ้าทั้งใจกว้างทั้งใจดีขนาดนี้ คิดว่าคงไม่ใจแคบกระมัง?”หรงเจียวเจียว “เจ้า เจ้า…”นางไม่เคยพบเจอคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน มันทำให้นางโมโหจนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อดีที่ทำให้นางโมโหหนักเข้าไปอีกก็คือ ฉีอวี่เยียนมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “แม้ว่ารูปโฉมจะด้อยกว่าพี่หญิงของเจ้าไปบ้างและมีกิริยามารยาทสง่างามไม่เท่านาง แต่ก็ถือว่าสะสวย”“แต่หากครอบครัวพวกข้าต้องมีสะใภ้ที่โดดเด่นไม่เท่าเดิม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 254

    สมัยที่หรงจือจือยังไม่ออกเรือน เมื่อไรที่นางหวังโมโหแบบนี้ หรงจือจือจะมายืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเชื่อฟังทุกครั้งไปไม่ว่านางหวังจะสั่งให้นางคุกเข่ายอมรับผิดหรือตบหน้า หรงจือจือก็ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียวทว่าวันนี้ นางหวังเดินเข้ามาอาละวาดแล้วเห็นหรงจือจือนั่งนิ่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ในมือถือถ้วยชาพร้อมกับจิบอย่างสง่างาม ทั้งยังเพียงแค่ปรายตามองไปที่นางหวังอย่างเรียบเฉยสายตาเรียบนิ่งเฉยเมยนี้เกือบทำให้นางหวังเป็นลมหมดสตินางโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม ชี้หน้าหรงจือจือว่า “เจ้าเห็นว่าข้าเข้ามาแล้ว เหตุใดยังไม่มาทำความเคารพอีก?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “เคารพอันใดกัน? บัดนี้ข้าเป็นท่านหญิงขั้นที่สอง แต่ฮูหยินไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย หากจะทำความเคารพจริงๆ เกรงว่าคงเป็นท่านมากกว่าที่ต้องทำความเคารพข้า!”นางเข้าใจแล้ว ในเมื่อบัดนี้นางเป็นท่านหญิง เช่นนั้นก็ควรใช้ตำแหน่งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองบ้างนางหวังเกือบต้องโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดของหรงจือจือ นั่นเพราะนางไม่ได้มีตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นสูง ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นที่หนึ่งที่มีก่อนหน้านี้ถูกมหาราชครูหรงยกให้กับฮูหยินผู้เฒ่า ยังไม่มีโอกาส

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 255

    นางหวังพูดด้วยความรังเกียจ “เสื้อผ้าพวกนี้ถูกทิ้งไว้ที่เรืออี๋เหมยจนแปดเปื้อนไปด้วยความอัปมงคลหมดแล้ว เจียวเจียวของข้าไม่มีทางใส่อีกแน่ ข้าจะสั่งตัดเสื้อผ้าให้นางใหม่ เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมด!”พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองครั้นเห็นนางเดินห่างออกไปไกลเจาซีก็อดบ่นเสียงเบาไม่ได้ว่า “เสื้อผ้าที่หรงเจียวเจียวเคยสวมต่างหากที่อัปมงคล เก็บไว้ที่นี่ไปก็ไม่เป็นมงคลต่อคุณหนูของข้า เผาทิ้งก็ดีเหมือนกัน ถุย!”อวี้หมัวมัวมองนางปราดหนึ่ง “บัดนี้อยู่ที่จวนสกุลหรง ระวังคำพูดและกิริยาด้วย”เจาซีมุ่ยปากแล้วไม่พูดอะไรอีกเมื่ออวี้หมัวมัวหันตัวกลับก็เห็นหรงจือจือมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังกำแพงเรือน สายตาราวกับมองผ่านชายคาออกไปยังโลกกว้างด้านนอกจวนสกุลหรง ภาพนี้ทำให้อวี้หมัวมัวตื่นตระหนกไปชั่วขณะและในจังหวะนี้เองที่หรงจือจือสั่งให้คนปิดประตูจากนั้นถามขึ้นว่า “อวี้หมัวมัว หลังจากที่พบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดที่ร่วมมือกับนางถานสังหารท่านย่าแล้ว ข้าจะย้ายออกจากจวนไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่ของตัวเองดีหรือไม่?”สุดท้าย เรื่องที่อวี้หมัวมัวหวาดกลัวก็มาถึงจนได้นางรีบตอบกลับไป “คุณหนู ไม่ได้เด็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 256

    เฉินเยี่ยนซู “พ่อบ้าน ส่งแขก”หรงซื่อเจ๋อ “?”เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งจะพูดไปแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงไล่กันแล้ว? อีกอย่าง เมื่อครู่ท่านราชเลขาธิการยังยิ้มอยู่เลยมิใช่หรือ?พ่อบ้านหวง “คุณชายรองหรง เชิญเถิด”พ่อบ้านหวงทำการแสดงงิ้วเสฉวนให้หรงซื่อเจ๋อดูเช่นกัน—การแสดงเปลี่ยนหน้าใบหน้าเปลี่ยนจากยิ้มแย้มมาเป็นเคร่งขรึมประหนึ่งมีคำหยาบนับหมื่นอยู่ในใจและทำท่าผายมือเชิญให้เขาออกไปหรงซื่อเจ๋อขมวดคิ้วพูด “ท่านราชเลขาธิการ ไม่ทราบว่าข้า…”เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค เซินเฮ่อก็ทำตัวเหมือนวัวกระทิงก็มิปาน เข้ามาผลักหรงซื่อเจ๋อออกไปด้านนอกด้วยเรี่ยวแรงที่สามารถผลักให้คนลอยกระเด็นได้ “ยังไม่รีบไปอีก! ท่านราชเลขาธิการไล่แล้วนะ!”หรงซื่อเจ๋อสับสนงุนงง “ใต้เท้าเซิน ข้ายังพูดไม่จบเลยนะขอรับ!”เซินเฮ่อ “ยังจะพูดอะไรอีก! ไม่เห็นหรือว่าท่านราชเลขาธิการไม่อยากเห็นหน้าเจ้า? อย่ามารบกวนการพักรักษาตัวของเขา ไม่มีผู้ใดอยากฟังที่เจ้าพูดหรอก!”เหอะๆ น้องภรรยาของท่านราชเลขาธิการไม่รู้จักดูให้ดีแบบนี้ ดีจริงๆ เยี่ยมจริงๆเท่านี้ก็จะเทียบตำแหน่งของเขาภายในใจท่านราชเลขาธิการ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 257

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านพี่ทำตัวไม่ดี นางจึงยังขุ่นเคืองอยู่ก็เท่านั้น”“แท้จริงแล้วนางกำลังรอให้ครอบครัวของเราไปรับตัวกลับมา!”ฉีจื่อฟู่ฟังจบก็ตาเป็นประกาย “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”ฉีอวี่เยียนตอบทันที “เรื่องนี้จะเป็นเท็จได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะแบบนี้ ข้าก็คงไม่ยืนอยู่หน้าจวนสกุลหรงนานขนาดนั้นหรอก พูดไปพูดมา ที่ข้าไปสอบถามมาก็เพราะรู้ว่าท่านปล่อยวางพี่สะใภ้ไม่ได้”ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่าหัวใจที่แห้งเหือดของตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะคำพูดของฉีอวี่เยียน แม้แต่จิตวิญญาณก็ฟื้นกลับมาฉีอวี่เยียนพูดต่อ “ท่านพี่ ข้าว่านะ ท่านให้ผู้อาวุโสไปรับพี่สะใภ้กลับมาด้วยตัวเองเถิด!”“ตัวข้าที่เป็นเพียงน้องสาวสามีไปรับเพียงลำพังนั้นดูเสียมารยาทเล็กน้อย นางจะไม่อยากกลับมากับข้าก็ไม่แปลก”“แต่หากท่านไปด้วยตัวเองจะไม่เหมือนกัน นางจะไม่ยอมไว้หน้าท่านสักหน่อยหรือ? ท่านว่าใช่หรือไม่?”หัวคิ้วของฉีจื่อฟู่ขมวดเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเริ่มคล้อยตามแต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองสาบานกับจือจือว่าสกุลฉีของพวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยตัวเอง หากเขาไปหานางตอนนี้ก็อาจจะทำให้นางดูแคลนเขาได้ไม่แ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status