Share

บทที่ 65

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจืออยู่ด้านในสวน ผึ่งสมุนไพรที่ตนซื้อมาก่อนหน้านี้ วันนี้แสงแดดกำลังดี นำพวกมันออกมาตาก เพื่อจะไม่ได้ชื้นจนขึ้นรา

เจาซีกล่าว “คุณหนู สมุนไพรพวกนี้ทิ้งไปเถอะเจ้าค่ะ แค่เงินเล็กน้อย พวกเรากลับไปที่สกุลหรงแล้วค่อยซื้อใหม่ก็สิ้นเรื่องเจ้าค่ะ เหตุใดจึงต้องเปลืองแรงแบบนี้ด้วยเจ้าคะ?”

หรงจือจือยิ้ม “เจาซี บนโลกใบนี้มีเงินเพียงแบบเดียว ที่ไม่ควรเอาเปรียบผู้อื่น นั่นก็คือเงินที่ซื้อยา บนโลกใบนี้มีสิ่งของเพียงอย่างเดียวเช่นกัน ที่ไม่ควรสิ้นเปลืองยิ่งกว่าเงินทอง นั่นก็คือสมุนไพร”

“หากเจ้ามองว่าพวกมันไม่มีค่าอะไร ไม่เหมือนกับโสมคนและเห็ดหลินจือ แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ สิ่งที่รักษาไว้ได้ก็คือชีวิตคนนะ”

เจาซี “ถ้าอย่างนั้นก็ได้เจ้าค่ะ บ่าวจะช่วยท่านเอง”

ติดตามหรงจือจือมาหลายปี เจาซีก็ได้รู้จักสมุนไพรไม่น้อย

แต่ว่าไม่รู้เพราะสาเหตุใด นังหนูถึงเอาแต่โมโห

หรงจือจือถามด้วยความขบขัน “วันนี้เจ้าเป็นอะไรหรือ? เอาแต่ทำหน้ามุ่ย เหมือนกับถูกใครยั่วโมโหมาอย่างนั้น”

เจาซี “ก็เพราะโดนยั่วโมโหมานะสิเจ้าคะ? นังปีศาจจิ้งจองไร้ยางอายนั่น เมื่อวานปวดครรภ์ ซื่อจื่อจริงวิ่งโร่ไปดูแลนาง จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 66

    เจาซีโมโหจนหน้าเขียวคล้ำอีกครั้ง นางรู้สึกว่าอวี้หมัวมัวพูดไม่ถูกต้อง บางครั้งไม่ใช่ว่าตนวู่วามชอบโมโห ทั้งยังต้องให้คุณหนูมาปลอบใจตนเองตอนที่อารมณ์ไม่ดี แต่คนสกุลฉีต่างหากที่ทำให้รู้สึกน่าสะอิดสะเอียนจริง ๆผู้ที่เรียนหนังสือย่อมแตกต่างออกไป ฉีจื่อเสียนผู้นี้ถึงขนาดอ้างอิงคำพูดในคัมภีร์มาพูดจาไร้ยางอาย ให้ฟังดูมีเหตุผลได้หรงจือจือยิ้มบาง ๆ “ในเมื่อน้องสามีอยากจะอภิปราย เช่นนั้นข้าก็ขออภิปรายกับเจ้า”ฉีจื่อเสียนตกตะลึง แม้ปากเขาจะอ้างว่าเป็นการอภิปราย แต่ความจริงที่คิดอยู่ภายในใจก็คือผู้หญิงอย่างหรงจือจือ จะไปเข้าใจเหตุผลอะไร?จากการที่ถูกตนยั่วยุเพียงเล็กน้อย นางจะต้องรู้สึกตระหนักและเข้าใจ จะต้องกลับตัวกลับใจ ปฏิบัติตามที่ตนเองกล่าว แต่ตอนนี้...หรงจือจือ “น้องสามีกล่าวว่า ผู้ชายจะต้องปกป้องคนในครอบครัวอย่างสุดความสามารถ แต่ท่านพี่ของเจ้าได้ปกป้องข้าสักนิดหรือไม่? เขาไร้จิตสำนึก เจ้ากลับอยากให้ข้าเสียสละเพื่อคนแบบนี้ เหตุผลคืออะไร?”“หนังสือแห่งปราชญ์สอนเจ้าว่าผู้หญิงควรทำอะไร แต่ไม่ได้สอนเจ้าหรือว่า การมีที่จิตใจโหดเหี้ยมเป็นสิ่งที่สามีไม่พึงกระทำ?”“หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าคง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 67

    ฉีจื่อเสียนเดินจากไปด้วยความโมโหเจาซีรู้สึกเพียงว่าสะใจเป็นอย่างยิ่ง “คุณหนู สมกับที่เป็นท่าน! ฉีจื่อเสียนนี่ เพิ่งร่ำเรียนได้ไม่นาน ก็คิดว่าตนเองเก่งกาจนัก โล่มาเห่าถึงที่นี่ คิดว่าในใต้หล้านี้ มีเขาเพียงคนเดียวที่เคยเรียนหนังสือหรืออย่างไร?”หรงจือจือชะงัก เอ่ยปากกล่าว “ท่านเจียงเขียนจดหมายกี่ฉบับแล้ว?”เจาซี “เขียนมาเป็นฉบับที่ห้าแล้วเจ้าค่ะ บอกว่าปวดหัวมาก กล่าวว่าท่านหาเรื่องยุ่งยากให้เขาชัด ๆ นักเรียนที่สามารถเข้าสำนักของเขาได้ แต่ละคนล้วนเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ เมื่อเทียบกับพวกเขา คุณชายสี่ไม่ใช่ปัญญาชนเลยสักนิด”“ท่านเจียงยังกล่าวอีกว่า ไม่ว่าเขาจะสอนอะไร คุณชายสี่มักจะมีข้อโต้แย้งที่บิดเบือนบ่อย ๆ มักจะบิดเบือนความหมายของท่านเจียงเป็นประจำ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อแก้ไข”“จดหมายฉบับนั้นเมื่อหลายวันก่อนของท่านเจียง กล่าวว่าเขาสอนไม่ได้แล้วจริง ๆ บอกให้ท่านช่วยมีเมตตา ปล่อยเขาไปสักครั้ง ท่านเองก็กำลังลังเลอยู่ใช่หรือไม่ ว่าอยากจะทำให้คนแก่อย่างเขาต้องลำบากใจอยู่อีกหรือไม่?”หรงจือจือกล่าวเสียงเบา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ตอบท่านเจียงไปว่า หากเขาไม่อยากสอนก็ไม่ต้องสอนแล้ว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 68

    แม้ว่าจะรู้สึกสงสัย หรงจือจือก็ยังคงออกไปต้อนรับนางหวังสาวเท้ายาวเดินเข้ามา เมื่อได้กลิ่นหอมของสมุนไพรที่อยู่ในลานบ้าน นางก็ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ เมื่อเดินไปถึงตรงหน้าของหรงจือจือไม่รอให้นางคำนับ นางหวังก็กล่าวขึ้นมาทันที “ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นสมุนไพร เจ้ามีท่าทางของฮูหยินซื่อจื่ออยู่บ้างหรือไม่!”“หมอหญิงสถานะต่ำต้อย เจ้ามัวแต่เอาใจใส่ดูแลของพวกนี้ ใครจะชอบใจเจ้า? ก็ไม่แปลกที่ครอบครัวฝ่ายสามีไม่อยากให้เจ้าเป็นนายหญิงของตระกูล มนุษย์ต้องเห็นค่าตนเองก่อนผู้อื่นถึงจะเห็นค่า เจ้ายังไม่เห็นคุณค่าของตนเอง แล้วใครจะมาชอบใจเจ้า?”หรงจือจือรู้อยู่แก่ใจ ท่านแม่ก็แค่ไม่ชอบใจตน ดังนั้นไม่ว่าตนจะทำอะไรนางก็ไม่ชอบใจทั้งนั้นไม่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้ตอนที่น้องหญิงก็อยากเรียนหมอเช่นกัน ตากสมุนไพรที่ลานบ้านเอาไว้จำนวนไม่น้อย เหตุใดท่านแม่ถึงไม่ด่านาง แต่กลับพูดว่านางช่างแสวงหาความก้าวหน้าจริง ๆ?เพียงแต่เป็นเพราะน้องสาวเห่อของใหม่เพียงไม่กี่วัน ก็ไม่ได้เรียนต่อนางคร้านที่จะโต้แย้งกับนางหรง กล่าวเพียง “ท่านแม่เชิญนั่ง ไม่ทราบว่าที่ท่านมาในวันนี้ ต้องการจะสั่งสอนอะไรหรือ?”เมื่อนึกถึงจุดป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 69

    นางหวังตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น “ตอนนั้นที่บีบคอเจ้า นั่นเป็นการลงโทษที่เจ้าคลอดยาก!”หรงจือจือน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านแม่ ตอนที่ข้าเกิด ยังไม่มีสติปัญญา เรื่องการกลับหัวผิดตำแหน่ง ไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถเลือกได้ ที่ท่านรู้สึกว่าคลอดน้อง ๆ ง่ายกว่าการคลอดข้า เพียงเพราะข้าเป็นท้องแรก”“ท้องแรกสำหรับผู้หญิงส่วนมากแล้ว เป็นเรื่องที่ยากลำบากทั้งสิ้น ตอนท้องสอง ท้องสาม ที่ค่อนข้างสบาย เป็นเพราะก่อนหน้านี้ช่องคลอดเคยเปิดแล้ว เปิดออกอีกครั้งก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิม”“หากท่านแม่ไม่เชื่อ ก็เชิญไปถามแม่คนอื่น ๆ ดู คนส่วนมากที่ภายหลังมีลูกอีกสองสามคน ก็จะคลอดง่ายกว่าเดิม”“เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะข้าเกิดมาเพื่อเอาชนะท่าน แต่เป็นเพราะบังเอิญที่ทารกไม่กลับหัว ประกอบกับความรู้ทางด้านการแพทย์บางอย่างเท่านั้นนางหวังกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “บัดนี้เจ้ามีอนาคตที่สดใสแล้ว แม้แต่แม่ของตนเอง เจ้าก็ยังจะชี้แนะให้ข้าเข้าใจเหตุผลอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นสิ่งที่สมุนไพรบ้า ๆ พวกนั้นสอนเจ้าอย่างนั้นหรือ?”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ลูกไม่กล้า ลูกเพียงแค่คิดว่า เรื่องบางเรื่องควรจะพูดให้ชัดเจนเท่านั้น”ไม่อย่างนั้นท่านแม่ม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 70

    หรงจือจือกล่าวช้า ๆ “ท่านแม่พูดว่าจะตัดขาดความเป็นแม่ลูกกัน หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่านับจากตอนนี้เป็นต้นไป ท่านกับข้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันอีก ท่านจะไม่สนใจข้าอีก จะไม่ก้าวก่ายเรื่องใด ๆ ของข้าอีก”“ท่านจะไม่สั่งสอนข้าอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่ต้องลำบากเพื่อให้ไปหายาพิษที่หลังจากข้ากินลงไปแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือแม้กระทั่ง วันหน้าเห็นข้า ท่านแม่ก็จะทำเป็นไม่รู้จักกับข้าใช่หรือไม่?”นางหวังเลิกคิ้ว “ถูกต้อง! เป็นเช่นนี้แหละ! เจ้าเองก็คงไม่ได้หวังให้ตนต้องกลายเป็นลูกที่ไม่มีแม่ นับตั้งแต่นี้ไปหรอกนะ?”หรงจือจือได้ฟังถึงตรงนี้ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ด้านหน้าของนางหวัง คุกเข่าลงไปคำนับนางหวังสามครั้งนางหวังตะลึงไป รีบลุกขึ้นกล่าว “หรงจือจือ นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร?”หรงจือจือ “ขอบคุณบุญคุณของท่านแม่ที่ให้กำเนิด”นางหวังรู้สึกโล่งใจทันที กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ “เจ้ายังมีความกตัญญูอยู่บ้างก็ดี ก่อนจะกินยาพิษ ยังรู้จักคำนับข้าเพื่อแสดงความกตัญญู”“คนชั่วอย่างนางเจียงจะวางแผนไว้นานแค่ไหน อยากจะดึงลูกสาวของข้าไปเป็นพวกเพื่อให้นางใช้งาน เป็นไปไม่ได้หรอก! ในใจของลูกสาวข้า มี

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 71

    นางหวังฟังจนหน้าคล้ำดำเขียว พลางชี้ไปที่หรงจือจือ “เจ้า...เจ้าพูดอะไรน่ะ?”หรงจือจือ “ฮูหยิน นำยาพิษของท่านกลับไปเถอะ ท่านอยากให้ผู้ใดกิน ผู้ใดยอมกิน ข้าไม่สน สรุปก็คือข้า หรงจือจือไม่มีทางกินเป็นอันขาด”“บุญคุณเลี้ยงดูยิ่งใหญ่กว่าบุญให้กำเนิด ผู้ที่เลี้ยงดูข้ามาจนเติบใหญ่จริง ๆ คือท่านย่า ผู้ที่สอนให้ข้าเข้าใจความหมายของเหตุผลก็คือท่านย่า ผู้ที่เตรียมสินเดิมให้ข้ามากมาย ก็คือท่านย่าเช่นกัน”“ท่านย่าต้องหวังให้ข้าใช้ชีวิตดี ๆ เป็นแน่ ด้วยจือจือจะทำตามความประสงค์ของท่านย่า คงได้แต่ต้องทำให้ฮูหยินหรงผิดหวังแล้ว!”นางหวัง “เจ้า เจ้า...”นางยังอยากเอ่ยสิ่งใดต่อทว่าหรงจือจือดันเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ขึ้นมาก่อน “เจาซี ส่งแขก”เจาซีอดรนทนไม่ไหวที่จะไล่นางหวังออกจากประตูไปตั้งนานแล้ว นางเดินขึ้นมาก้าวหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ฮูหยิน เชิญเจ้าค่ะ!”นางหวังเดือดดาลจนควันออกหู “พวกเจ้า! ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้านายบ่าวจะต่ำตมเช่นนี้ หรงจือจือ ข้าให้กำเนิดผู้ใดก็ดีกว่าให้กำเนิดคนเนรคุณเช่นเจ้า! เพราะตั้งท้องเจ้าสิบเดือน ข้าต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้!”หรงจือจือตอกกลับทั้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 72

    อวี้หมัวมัวขมวดคิ้ว “มีเรื่องอันใดถึงต้องลุกลี้ลุกลนเพียงนี้?”บ่าวรับใช้ผู้นั้นตอบ “นายหญิงใหญ่! นายหญิงใหญ่แย่แล้วเจ้าค่ะ นายท่านให้เชิญคุณหนูกลับไปดูใจนายหญิงใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายเจ้าค่ะ!”ฝ่าเท้าของหรงจือจือสั่นระรัว นางเอ่ยขึ้นอย่างยากจะเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ? ท่านย่าเป็นอะไร?”บ่าวรับใช้ “นายหญิงใหญ่อาเจียนเป็นเลือดออกมาเยอะมาก หมอเทวดาใช้ให้ตระเตรียมงานศพแล้ว...”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าคร่ำเครียด “เจ้าอย่าพูดซี้ซั้ว! ท่านย่าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้หมอเทวดาบอกว่าฝังเข็มอีกสามวัน ท่านย่าก็จะหายดีแล้วไม่ใช่หรือ?”บ่าวรับใช้รีบตอบ “เพราะวันนี้ตอนพลบค่ำสาวใช้ในเรือนนายหญิงใหญ่คนหนึ่งหลุดปากพูดออกไป ทำให้นายหญิงใหญ่รู้เรื่องที่คุณหนูถูกสกุลฉีข่มเหงและเหยียดหยาม นายหญิงใหญ่จึงอาเจียนออกมาเป็นเลือดตรงนั้นเลย ตอนนี้อาการย่ำแย่ยิ่งนัก!”หรงจือจือ “อะไรนะ?”นางรู้สึกเพียงในหัวมีเสียงหึ่ง ๆ แว่วดังขึ้นมา เกือบจะสงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป ขาและเท้ายิ่งไร้เรี่ยวแรงเข้าไปใหญ่เจาซีรีบพยุงนางเอาไว้ “คุณหนู ใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ...”หรงจือจือ “เตรียมรถม้า”ขึ้นไปบนรถม้า หรงจือจือก็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 73

    หมอเทวดาก้มหน้า “มารดาบุญธรรม เพราะข้าไร้ความสามารถเอง”นายหญิงผู้เฒ่าหรงส่ายศีรษะ “ไม่โทษเจ้าหรอก และไม่โทษผู้ใดทั้งนั้น ชีวิตก็เป็นเช่นนี้! ลูกชายข้าล่ะ ลูกชายข้าอยู่ที่ใด?”มหาราชครูหรงรีบมาตรงหน้าเตียงแล้วคุกเข่าลงหน้านายหญิงใหญ่ทันที “ท่านแม่ ลูกอยู่นี่ขอรับ”นายหญิงผู้เฒ่าหรงคว้ามือของลูกชายเอาไว้ แล้วเอ่ยกับเขาว่า “ลูกชายข้า หลายปีมานี้เจ้ายุ่งอยู่กับเรื่องในวงการขุนนาง ก็ได้จือจือคอยอยู่ข้างกายเป็นเพื่อนข้า แสดงความกตัญญูแทนเจ้าบ่อย ๆ ”“ตอนนี้แม่จะไปแล้ว สิ่งเดียวที่แม่ยังพะวงก็คือนาง เด็กที่แสนดีเช่นนี้ กลับไม่ค่อยได้รับความเมตตาจากสวรรค์ เจ้าต้องดูแลจือจือให้ดีแทนแม่ ได้ยินหรือไม่?”“หากแม่รู้ว่าเจ้าเองก็ทำอะไรเลอะเลือน ข่มเหงจือจือของแม่เช่นกัน แม่ที่อยู่ในปรโลก จะไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นอันขาด! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”มหาราชครูหรงตอบกลับทั้งน้ำตาไหลพราก “ขอรับท่านแม่ ลูกจำเอาไว้ขึ้นใจแล้ว!”นายหญิงใหญ่หรงฉีกยิ้ม “เยี่ยม เยี่ยม! ชีวิตนี้ของข้า มีลูกชายกตัญญู มีหลานสาวกตัญญู มีบุตรบุญธรรมแสนดี ก็คุ้มค่าแล้ว!”ครั้นนายหญิงใหญ่เอ่ยประโยคนี้จบ ก็มองไปที่หรงจือจือด้วยความเป็น

Pinakabagong kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 348

    หรงเจียวเจียวเห็นหรงซื่อเจ๋อมั่นใจขนาดนี้ก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อยหรงซื่อเจ๋อวางกล่องอาหารในมือลงและเอ่ยปาก “ข้ารู้ว่าหลายวันมานี้พวกท่านลำบากมามาก ข้าจึงตั้งใจไปซื้อขนมมาฝากโดยเฉพาะ ในนี้ยังมีรังนกที่เป็นของโปรดของน้องหญิงด้วย”“พวกท่านรีบกินเถิด ประเดี๋ยวกินเสร็จแล้วข้ายังต้องนำกล่องอาหารกลับไปด้วย มิเช่นนั้นอาจจะถูกท่านพ่อจับได้”หรงเจียวเจียวน้ำลายไหล ที่ผ่านมานางไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะมีให้กินเป็นปกติ แต่เมื่อถูกสั่งห้ามไม่ให้กิน นางกลับนึกถึงรสชาติที่เคยกินอยู่ตลอดเวลานางยกอาหารออกมากินคำโตทันทีตอนแรกนางหวังยังลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นบุตรสาวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็กินตามแต่นางไม่ลืมที่จะกำชับหรงซื่อเจ๋อ “ต่อไปเจ้าอย่าได้มาที่นี่อีก หากท่านพ่อของเจ้ารู้เข้า เจ้าเองก็จะถูกลงโทษไปด้วย ช่วงนี้เขาไม่ค่อยพอใจเจ้านัก แผลที่หลังเจ้าก็ยังไม่หายดี”หรงซื่อเจ๋อพยักหน้า “ลูกเข้าใจขอรับ”นางหวังถามต่อ “เจ้ากับคุณหนูสกุลอวิ๋นเป็นอย่างไรบ้าง? ถึงแม้ฐานะครอบครัวนางจะต่ำกว่าพวกเรามาก แต่บรรดาพี่ชายของนางล้วนแต่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะพี่ชายคนโตที่ได้เข้าสำนักฮั่นหลินแล้ว ได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงให้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 347

    เดิมทีนางก็ทรมานมากพออยู่แล้วที่ท่านพ่อไม่ให้กินเนื้อสัตว์ในช่วงไว้ทุกข์ ทว่าตอนนี้กลับแย่ยิ่งกว่านั้น นางไม่เพียงต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ แม้กระทั่งรังนกก็ยังอดกินไปด้วยนางหวังอยากกินผักใบเขียวอยู่แบบนี้ที่ใดกัน?นางลูบใบหน้าของบุตรสาวตัวเองด้วยความสงสาร “บุตรสาวผู้น่าสงสารของข้า ผอมซูบหมดแล้ว! หากไม่ใช่เพราะหรงจือจือ พวกเราสองแม่ลูกมีหรือจะตกอยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้?”“ข้าพูดมาตั้งนานแล้วว่าดวงของนางข่มข้า แต่นางกลับไม่ยอมรับ! บัดนี้นางทำให้ข้าถูกลงโทษด้วยการคุกเข่าอย่างโจ่งแจ้ง ตอนนี้ยังจะมีหน้ามาพูดอะไรได้อีกกัน?”หรงเจียวเจียวพูดทั้งน้ำตา “เป็นเพราะลูกไม่ได้เรื่องเอง ไม่เป็นที่ชื่นชอบของท่านพ่อ มิเช่นนั้นท่านแม่คงไม่ถูกลงโทษไปด้วย…”นางหวังพูดด้วยความชิงชัง “จะโทษเจ้าได้อย่างไร? ต้องโทษหรงจือจือต่างหาก ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้กลอุบายมารยาสาไถมาจากที่ใด ถึงได้ล่อลวงราชเลขาธิการเฉินได้”“เจ้าเป็นคนบริสุทธิ์และน่ารัก จะไปมีความสามารถต่ำช้าแบบนั้นได้อย่างไร? เจ้าจะสู้นางไม่ได้ก็ไม่แปลก!”“แต่ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ รอให้พวกเราออกไปแล้ว แม่จะหาคู่ดูตัวให้เจ้าใหม่ ราชเลขาธิการ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 346

    หรงซื่อเจ๋อกล้าพูดเรื่องไร้สาระเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร?ยังไม่ทันจะแต่งงานกันก็จะให้น้องหญิงของเขาก้มหัวต่อหรงเจียวเจียวเสียแล้ว วันหน้าแต่งงานไปแล้วจะไม่หนักกว่านี้หรือ? สงสัยจะได้เหยียบหน้าเซียวเซียวกันพอดี!ใต้เท้าอวิ๋นเห็นเขามีอาการหุนหันพลันแล่นก็รีบห้ามไว้ “ไม่ได้! หรงซื่อเจ๋อเป็นบุตรชายของมหาราชครูหรง ห้ามลงมือด้วย”“นอกจากนี้ หากเจ้าไปทำร้ายเขาถึงบ้านจริงๆ เมื่อเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ทั่วทั้งใต้หล้าคงรู้เรื่องที่น้องหญิงของเจ้าหมั้นหมายกับเขา!”พวกเขาอยากยกเลิกการหมั้นหมายแบบเงียบๆ มากกว่า ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นพี่ใหญ่สกุลอวิ๋นถึงค่อยยอมสงบสติอารมณ์ลงอวิ๋นเสวี่ยเซียวกัดฟันพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ “เขาไม่รู้จักดูเสียบ้างว่าหรงเจียวเจียวนั่นพูดโง่เขลาอะไรที่จวนสกุลหลี่บ้าง หากข้าออกหน้าช่วยพูดให้นาง ชื่อเสียงของสกุลอวิ๋นคงได้จบสิ้นกันพอดี”“แค่ข้าไม่ได้ร่วมตำหนิหรงเจียวเจียวและแสดงออกถึงความดูแคลนก็คือว่าเห็นแก่การหมั้นหมายมากพอแล้ว!”มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าตอนนั้นนางอยากเหยียบย่ำหรงเจียวเจียวมากเพียงใด นางไม่ได้อยากทำเพื่อเอาใจหรงจือจือ แต่อยากทำเพราะดูแค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 345

    “ข้ากลัวว่าหากตัวเองพูดอะไรผิดจนเขาไม่พอใจแล้ว ข้อตกลงแต่งงานที่ได้มาโดยยากนี้จะเป็นอันยกเลิก ข้าเองก็ลำบากใจมากเช่นกันนะเจ้าคะ”“เวลานั้นท่านราชเลขาธิการโมโหมาก ทุกคนตกใจกลัวกันหมด ลูกจะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไร…”มหาราชครูหรงสะอึกไปชั่วขณะ เขาพิจารณาหรงจือจือก่อนจะซักถาม “เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้มีนิสัยประจบเอาใจผู้อื่นเช่นนี้!”หรงจือจือวางตัวเป็นบุตรสาวผู้เชื่อฟังพูดเสียงแผ่วเบาว่า “แต่ว่าท่านพ่อ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่า การหย่าร้างหนึ่งครั้งสามารถโทษได้ว่าเป็นความผิดของสกุลฉี แต่หากวันหน้ายังมีการหย่าร้างอีก นั่นจะเท่ากับเป็นความผิดของลูกมิใช่หรือเจ้าคะ?”“วันนั้นลูกจดจำคำสอนของท่านและคิดทบทวนตัวเองอยู่ตลอด กลัวว่าหากตัวเองยังทำตัวแข็งกร้าวไม่ยอมคนเหมือนเดิม ท่านราชเลขาธิการเฉินจะไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้จึงต้องระงับนิสัยของตัวเองเอาไว้”“ลูกเชื่อฟังที่ท่านบอกทุกอย่าง หรือว่าลูก…ทำผิดอีกแล้วเจ้าคะ?”มหาราชครูหรง “…”ยากมากที่เขาจะไม่รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองเมื่อตอนนั้นทำให้หรงจือจือไม่สบายใจ นางจดจำมานานขนาดนี้ อีกทั้งวันนี้ก็จงใจยกขึ้นมาโต้แย้งเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าบุตรสาวของตัวเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 344

    นางหวังเกือบโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดนี้ หันไปมองด้วยความโมโห “หรงจือจือ เจ้าว่ากระไรนะ? เจ้าเป็นลูกสาวแต่กล้าบอกให้ข้าผู้เป็นมารดาไปคุกเข่ารับโทษอย่างนั้นหรือ?”มหาราชครูหรงอยู่ที่นี่ หรงจือจือย่อมไม่โง่เขลาที่จะเรียกอีกฝ่ายว่าฮูหยินหรงให้มหาราชครูหรงไม่พอใจนางพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านแม่ บรรพบุรุษสกุลหรงของเราล้วนแต่เป็นผู้มีศีลธรรม ต้องช่วยสยบสิ่งอัปมงคลในตัวท่านได้อย่างแน่นอน”“ที่ลูกเสนอเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงสุขภาพท่าน ท่านควรรู้สึกขอบคุณจึงจะถูกนะเจ้าคะ!”นางหวังกัดฟัน เมื่อครู่นี้นางบอกให้หรงจือจือถอนตัวจากการแต่งงาน บอกว่าทำไปเพราะหวังดีและบอกให้นางรู้สึกขอบคุณ แต่แล้วตอนนี้ตัวเองกลับถูกคำพูดเหล่านี้ย้อนกลับเข้าตัว…นางมีหรือจะไม่รู้ว่าหรงจือจือกำลังเอาคืน!นางกัดฟันพูดว่า “หรงจือจือ เจ้าอย่ามาพูดเหลวไหล มีสิ่งอัปมงคลอะไรกัน? กล้าดีอย่างไรมาแช่งแม่ตัวเองแบบนี้ เจ้า…”แต่แล้วตอนนี้มหาราชครูหรงกลับพูดตัดบทด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่ว่าจะมีสิ่งอัปมงคลหรือไม่ เจ้าก็ควรไปทบทวนตัวเองที่โถงบรรพชน !”นางหวังตกใจ “ท่านพี่?”มหาราชครูหรงมองนางด้วยความผิดหวัง “เมื่อก่อนนี้ข้าคิดเพียงว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 343

    นางไม่อยากให้นางหวังกับหรงเจียวเจียวสมปรารถนา!ขณะที่นางหวังกำลังพูดอยู่ จู่ๆ ก็เกิดความคิดอะไรบางอย่าง “เจ้าสามารถบอกท่านราชเลขาธิการไปว่า ตัวเองเป็นหญิงมั่วบุรุษ ไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับเขา ทั้งยังสามารถแต่งเรื่องไปว่าตัวเองเป็นกามโรค เพียงเท่านี้ ท่านราชเลขาธิการก็จะหลีกหนีเจ้าเหมือนแมลงมีพิษและละทิ้งเจ้าแล้วมิใช่หรือไร?”ถึงแม้หรงจือจือจะเลิกคาดหวังในตัวนางหวังมานานแล้ว แต่นางก็ยังหน้าซีดอยู่ดีที่ได้ยินดังนี้ครานี้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพูดมีเสียงตวาดลั่นด้วยความเดือดดาลดังมาจากประตู “เหลวไหล! เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไร?”นางหวังหันไปมองก็พบว่าเป็นมหาราชครูหรง ครั้นทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองพูดก็มีสายตาหวาดกลัว “ท่านพี่ ข้า…เมื่อครู่นี้ข้าเพียงแต่พลั้งปากไปชั่วขณะ!”มหาราชครูหรงพูดด้วยสีหน้าเขียวซีด “แบบนี้เรียกว่าพลั้งปากหรือ? หากเจ้าจะกล่าววาจาเช่นนี้ในเวลาที่พลั้งปาก เช่นนั้นก็ดื่มยาพิษให้ตัวเองเป็นใบ้ไปเลยเถอะ จะได้ไม่สร้างปัญหา!”ในใจนางหวังขื่นขม เสียใจจนดวงตาแดงพร่า ตั้งแต่ที่แต่งงานมา นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพี่ใช้วาจารุนแรงกับนางขนาดนี้นี่ทำให้นางอดพูดอย่างขุ่นเคืองไม่ได้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 342

    ตอนนี้นางหวังมีความคิดดีๆยามนี้มีนางกำนัลเฉินอยู่ด้วย นางไม่อาจลงมือกับหรงจือจือ แต่ในฐานะมารดาแล้ว การสั่งให้หรงจือจือไปคุกเข่าที่โถงบรรพชนของสกุลหรง ต่อให้ไทเฮาทรงเสด็จมาด้วยองค์เองก็ประณามอะไรไม่ได้หรงจือจือเลิกคิ้วมองนางหวัง “ฮูหยินหรงกล่าวผิดแล้ว ผู้ที่ทำให้น้องสามขายหน้าในวันนี้ไม่ใช่ข้าสักหน่อย”“ผู้ที่ยกเรื่องการหมั้นหมายระหว่างนางกับราชเลขาธิการเฉินขึ้นมาพูดคือป้าสะใภ้สกุลหลี่ ส่วนผู้ที่ชี้แจงว่าไม่ได้จะแต่งงานกับน้องสามคือท่านราชเลขาธิการ ตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับข้ากัน?”นางหวังพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าไม่เกี่ยวกับตัวเองอีก! หากไม่ใช่เพราะเจ้าพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งการแต่งงานของน้องหญิงเจ้า ท่านราชเลขาธิการมีหรือจะไม่ชอบเจียวเจียวผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องไปเลือกหญิงมั่วโลกีย์ที่ผ่านมือคนอื่นมาแล้วเช่นเจ้า!”นางกำนัลเฉินขมวดคิ้ว “ฮูหยิน ระวังวาจาด้วย”นางมองว่าตัวเองเจอประสบการณ์มามาก ทว่ากลับไม่เคยเห็นมารดาคนใดดูแคลนบุตรสาวของตัวเองเช่นนี้มาก่อนหรงจือจือฟังถ้อยคำหยามเหยียดของนางหวังแล้วไม่ได้มีสีหน้าขุ่นเคืองแต่อย่างใดตรงกันข้าม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 341

    ฮูหยินอวิ๋นกำผ้าเช็ดหน้าแน่น “เอาแบบนี้เลย ประเดี๋ยวกลับไปหารือกับบิดาและพี่ชายของเจ้าแล้วค่อยว่ากัน!”วันนี้บิดาและพี่ชายของอวิ๋นเสวี่ยเซียวไปทำงานพอดี เป็นเหตุให้ไม่ได้มาด้วย“เรื่องในราชสำนักเปรียบได้กับการดึงผมเส้นเดียวกระทบทั้งตัว การแต่งงานระหว่างสองครอบครัวก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เรื่องนี้ต้องให้บิดาของเจ้าตอบตกลงด้วย”อวิ๋นเสวี่ยเซียวกอดแขนฮูหยินอวิ๋นออดอ้อน “ข้าคิดไว้อยู่แล้วว่าท่านแม่ใจดีที่สุด”ทว่าฮูหยินอวิ๋นกลับรู้สึกปวดหัว “เจ้านี่นะ ดูแล้วคงจะอ่านตำรามากเกินไป ถึงได้มีความคิดพวกนี้!”หากเป็นแม่นางคนอื่น ต่อให้รู้สึกว่าอนาคตไม่สดใสก็คงก้มหน้ายอมรับชะตากรรม อย่างมากก็แค่คิดหาวิธีออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากหลังจากแต่งงาน อวิ๋นเสวี่ยเซียวยิ้มว่า “ข้ารู้สึกว่าคุณหนูใหญ่สกุลหรงคงอ่านตำรามามากเช่นกัน นางถึงได้มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่จะหย่าร้าง ลูกรู้สึกนับถือในตัวนางมากจริงๆ”ครานี้ฮูหยินอวิ๋นมีอาการตื่นตกใจ “เจ้าเลิกพูดเหลวไหลได้แล้ว! แค่อนุญาตให้เจ้าพูดเรื่องถอนหมั้นก็ถือว่าครอบครัวใจดีกับเจ้ามาก อย่าได้พูดเรื่องหย่าร้างอีก วันหน้าแต่งงานไปแล้วก็อย่าได้คิดเรื่องนี้”อว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 340

    ฮูหยินอวิ๋นฉุนเล็กน้อย ขณะที่มองอวิ๋นเสวี่ยเซียวก็กล่าว “ถอนหมั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก หากข่าวแพร่ออกไปแล้ว สุดท้ายมันจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเจ้า”อวิ๋นเสวี่ยเซียว “ก่อนหน้านี้เพราะงานขาวดำของนายหญิงผู้เฒ่าหรง เรื่องงานหมั้นยังไม่ได้ประกาศออกไปอย่างเอิกเกริกเลยไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“คิดว่าคงมีแค่สองตระกูลที่รู้เรื่อง ไม่สู้ยกเลิกงานหมั้นแบบส่วนตัว หากด้านนอกมีข่าวลืออะไร พวกเราก็บอกได้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด”ฮูหยินอวิ๋นแตะหน้าผากของนางเบา ๆ พลางกล่าวอย่างโกรธเคือง “ข้าว่า พ่อและพี่ชายเจ้าตามใจเจ้าเกินไปเสียแล้ว คำพูดที่ไม่มีขอบเขตเช่นนี้ ยังจะกล้าพูดพล่อย ๆ ออกมาได้”“เจ้าลองดูในเมืองหลวงแห่งนี้ สตรีผู้สูงศักดิ์บ้านใด เป็นฝ่ายอยากถอนหมั้นก่อนบ้าง? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”อวิ๋นเสวี่ยเซียวท้อแท้เล็กน้อย ตอนที่นางเอ่ยปาก ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก บนโลกนี้มีขีดจำกัดมากมายต่อสตรี แต่บุรุษกลับผ่อนปรนเป็นอย่างมากหากในงานเลี้ยงแต่งบทกวีวันนี้คนที่ประพฤตติตัวไม่เหมาะสม และโดนดูถูกเป็นตนเอง แม้หรงซื่อเจ๋อจะถอนหมั้น ก็คงไม่มีใครตำหนิเขาแม้แต่นิดเดียว แต่สกุลอวิ๋นของนางยังต้องถูกวิพากวิจาร

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status