Share

บทที่ 97

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือ “ถูกแล้ว คำพูดพวกนั้น จะไม่ทำให้เจ้าพลอยเดือดร้อน และยังจะช่วยเจ้าให้พ้นผิดด้วย แต่หากเจ้าไม่วางใจ ไม่ยินดีช่วยก็ไม่เป็นไร ข้าจะไม่บังคับ”

ทว่า ชุนเซิงกลับโขกศีรษะให้หรงจือจือครั้งหนึ่ง “ในตอนนั้น ชีวิตนี้ของข้าก็เป็นฮูหยินซื่อจื่อท่านที่ช่วยกลับมา ข้าจดจำพระคุณของท่านได้ ข้าเชื่อว่าท่านไม่มีทางทำร้ายข้า เรื่องนี้ข้าจะช่วยท่านขอรับ”

หรงจือจือกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เช่นนี้ก็ดีนัก ลำบากเจ้าแล้ว”

เจาซีก้าวเข้าไปเพื่อยัดตั๋วเงินให้ชุนเซิง

แต่ชุนเซิงกับยืนกรานไม่ยอมรับ “ฮูหยินซื่อจื่อ เดิมบุญคุณที่ช่วยชีวิต ก็ควรตอบแทนอยู่แล้ว! และตอนนั้น ยังเป็นข้าที่บอกว่าตนเองก็อยากร่ำเรียนหนังสือ ท่านถึงได้จัดให้ข้าไปเป็นเด็กรับใช้เรื่องเรียนของคุณชายสี่”

“เวลานี้ ข้าพอรู้อักษรอยู่บ้าง จึงเข้าใจหลักการและเหตุผลจำนวนหนึ่ง บุญคุณที่ท่านมีต่อข้า ดุจดั่งการให้กำเนิดใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ หากมอบเงินให้ข้า กลับจะเป็นการดูหมิ่นข้านะขอรับ”

คำพูดของชุนเซิง มิได้อยู่เหนือความคาดหมายของหรงจือจือเลย

เพราะหลายปีมานี้ แม้สัญญาขายตัวของเขาจะอยู่กับนางถาน ทว่า เรื่องของฉีจื่อเสียนนั้น ชุนเซิงก็มักมารายงา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 98

    หรงจือจือมองไปที่ตงจื้อ ถามอย่างราบเรียบที่แฝงไปด้วยความเย็นชาและเย้ยหยันว่า “คำพูดที่บอกไม่ได้ข้าสวมชุดไว้ทุกข์ เป็นเจ้าหรือซื่อจื่อที่พูด?”ตงจื้อตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “เป็นข้าพูดเองขอรับ ฮูหยินซื่อจื่อ ข้าก็พูดไปเพื่อประโยชน์ของท่าน ข้า…”หรงจือจือกล่าวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบว่า “ข้ารับใช้ในจวนนี้ ล้วนต่างก็ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้ว แต่ละคนต่างกล้ามาสั่งสอนข้า ว่าควรจัดการเรื่องราวอย่างไร คิดว่าครั้งก่อนที่โบยบ่าวรับใช้แซ่เฉินนั่นไป คงยังไม่พอจะเชือดไก่ให้ลิงดูกระมัง”ตงจื้องงแล้ว นี่ฮูหยินซื่อจื่อหมายความว่าอย่างไรกัน?หรงจือจือ “เด็กๆ! ลากออกไปโบยซะ! ครั้งก่อนสั่งสอนบ่าวแซ่เฉินนั่นเช่นไร วันนี้ก็จงสั่งสอนเขาเช่นนั้น!”ตงจื้อรีบกล่าวว่า “ฮูหยินซื่อจื่อ นี่ท่านกำลังทำสิ่งใดกัน? ข้าหวังดีต่อท่านจริงๆ นะขอรับ หรือท่านไม่อยากปรนนิบัติซื่อจื่อพักผ่อนแล้วหรือ? หากโบยข้า ซื่อจื่อจะต้องไม่พอใจแน่!”หรงจือจือคิดในใจว่า อย่างนั้นย่อมดีที่สุด ทางที่ดีให้ฉีจื่อฟู่ไร้ความสุขทุกคืน ไม่พอใจตนทุกวัน จะได้ไม่คิดถึงเรื่องร่วมเตียงกันที่น่าขยะแขยงแบบนี้อีกนางไม่แม้จะเงยหน้า ไม่ม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 99

    ตงจื้อกล่าวอย่างคิดว่าตนมีเหตุผลว่า “แต่ข้าคิดว่า ซื่อจื่อ ท่านจึงจะเป็นดั่งฟ้าของฮูหยินซื่อจื่อมิใช่หรือขอรับ? ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงจะสำคัญเช่นไร ก็ไม่มีทางสำคัญเท่าการทำให้ท่านเบิกบานใช่ไหมขอรับ?”เมื่อฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้ามืดมนลงแล้ว “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก !”ตนเป็นสามีของจือจือ นางควรจะให้ความสำคัญกับตนเป็นอันดับแรกในทุกเรื่องชัดๆในเวลานั้นเอง ก็มีข้ารับใช้อีกคนเข้ามารายงานว่า “ซื่อจื่อ อนุอวี้บอกว่าท้องของนางรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง บอกให้ท่านไปอยู่เป็นเพื่อนนางขอรับ!”ฉีจื่อฟู่ “รู้แล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้! ในเมื่อหรงจือจือไม่รู้จักรับน้ำใจของผู้อื่น เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางเดียวดายไปเถอะ มีคนมากมายที่รักข้า ข้าก็มิใช่ว่าต้องเป็นนางเพียงผู้เดียวเสียหน่อย!“ชิวอี้ เจ้าจงส่งความไปบอกเรือนหลัน ให้ฮูหยินซื่อจื่อสำนึกตนให้ดี คิดดูว่าจะขอโทษข้าเช่นไร ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาคลอดบุตรภรรยาเอกออกมาไม่ได้ ก็จงอย่าได้มาขอร้องข้าแล้วกัน!”ชิวอี้สั่นสะท้านขึ้นมา เหลือบมองตงจื้อคราหนึ่ง แล้วคุกเข่ากล่าวว่า “ซื่อจื่อ ไม่เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นเด็กรับใช้รับหน้าที่ช่วยจัดการธุระต่างๆ ไปส่งข่าวดีไหมขอร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 100  

    แต่เขาคิดจนหัวแตก ก็ไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย คนยังคงไม่สามารถขึ้นไปอยู่บนเตียงหลังเดียวกับหรงจือจือ รู้สึกเพียงว่า ในใจของตนกระวนกระวายอย่างที่สุด ปากคอยิ่งแห้งผากกว่าเดิม อวี้ม่านหวารับรู้ได้ว่า ใจของเขาไม่อยู่ที่นี่ จึงกล่าวด้วยหยาดน้ำตาที่ขังคลอในเบ้าตาว่า “ท่านพี่ หรือว่าท่านไม่ปรารถนาจะมาหาข้า? ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านก็ไปหาพี่หญิง…ไม่สิ ท่านก็ไปหาฮูหยินซื่อจื่อเถอะ” พูดจบ ก็เริ่มซับน้ำตา ในอดีต ฉีจื่อฟู่มีความอดทนให้การปลอบนางอย่างมาก ทว่าวันนี้ ความคาดหวังอันเต็มอกที่จะได้ร่วมหอกับหรงจือจือถูกดับลงสิ้น จากที่เดิมที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว หนนี้ จึงขมวดคิ้วเหลือบตามองนางคราหนึ่ง แล้วถามอย่างประหลาดใจว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าแสร้งเป็นปวดท้อง เพื่อเรียกให้ข้ามาหรือ?” อวี้ม่านหวาถูกทำให้พูดไม่ออก ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่านางช่างประหลาดนัก ปวดท้องอะไรกัน? เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเรื่องเท็จ กระทั่งลูกไม้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเล็กๆ พวกนี้ของนาง เขาก็มองไม่ออกอย่างนั้นหรือ? แล้วบัดนี้ ยังจะมาเล่นตัวเพื่อการใดอีก? อวี้ม่านหวาเริ่มหลั่งน้ำตา “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าเช่นนี้? ข้าเป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 101

    ครั้นถึงลานเรือนเห็นทุกอย่างในจวนล้วนจัดการได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บรรดาบ่าวรับใช้เดินไปเดินมาอย่างมีระเบียบ ความหรูหราไม่ต่างจากงานเลี้ยงชมดอกเหมยในจวนอ๋องเฉียนครั้งนั้นแม้แต่น้อย นางถานผู้รักในเกียรติจอมปลอมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นหน่อย ทว่าหรงจือจือหรือจะยอมปล่อย?นางเปล่งเสียง “แปลงดอกไม้นั้นจ่ายไปถึงแปดสิบตำลึง พวกเจ้าต้องตั้งใจหน่อยล่ะ”“ชุดชาชุดนี้ร้อยยี่สิบตำลึง เป็นกระเบื้องเย็นชั้นดีจากแคว้นเยียนเชียวนะ อย่าได้ทำตก”“แล้วยังนี่อีก...”นางถานได้ยินแล้วพลันใบหน้าบิดเบี้ยวในจวนมีเงินอยู่ไม่มากแล้ว เงินที่ผู้ดูแลหลี่ได้มาถูกนางหรงนางแพศยาผู้นี้เอาไปตั้งมากอย่างนั้น บัดนี้ชุดชาชุดเดียวก็จ่ายไปมากเช่นนี้แล้ว นางถานจะไม่เดือดดาลได้อย่างไร?นางพูดทั้งหน้าตึง “นางหรง มีผู้ใดดูแลเรือนเช่นนี้บ้าง? ในจวนก็ใช่ว่าจะไม่มีชุดชา ไยต้องสิ้นเปลืองเงินทองมากมายเพื่อซื้อชุดชาชุดใหม่ด้วย?”แปลงดอกไม้ก็ช่างเถอะ ทุกคนชมดอกไม้ก็ต้องชมกันอยู่แล้ว แต่ชุดชามันมีความจำเป็นอันใดกัน?เห็นเพียงฉีอวี่เยียนก็เข้ามาประสมโรงอย่างคึกคักด้วยหรงจือจือตอบอย่างไม่เร็วและไม่ช้า “ท่านแม่ นี่คือชุดชาที

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 102

    เมื่อนางถานได้ยินดังนั้นจึงได้แต่ฝืนข่มไฟโทสะในใจ ไม่ว่าอย่างไรอีกเดี๋ยวจะให้คนอื่นเห็นเรื่องขายหน้าไม่ได้นางจึงแค่กลอกตาใส่หรงจือจือ “ข้าจะยังไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องในวันนี้กับเจ้า!”เนื่องจากมีฮูหยินกั๋วกงมาหลายท่าน นางถานจึงออกไปต้อนรับแขกด้วยตัวเองรอจนแขกเหรื่อทยอยมาครบแล้วหลังจากกู้เจียนเจียนบุตรชายของเสนาบดีกรมคลังนั่งลง ก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้นแล้วกล่าววาจาเหน็บแนม “นายหญิงผู้เฒ่าหรงเพิ่งสิ้น จวนโหวยังถือเป็นญาติเกี่ยวดอง เพิ่งจะผ่านไปสามวันก็รีบจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ ไม่รู้ว่ารีบร้อนอันใดกัน!”ครั้นนางกล่าวเช่นนี้ นางถานย่อมเสียหน้าเป็นธรรมดานางอวี๋ ฮูหยินของเสนาบดีกรมคลังชายตามองนางทีหนึ่ง “เจียนเจียน เจ้ากำลังพูดจาเลื่อนเปื้อนอันใดกัน? เจ้าสอดปากที่นี่ได้หรือ?”เมื่ออบรมบุตรสาวเสร็จ นางอวี๋ก็หันมองไปทางนางถาน “บุตรสาวอายุน้อยไม่รู้ความ ฮูหยินโปรดอย่าได้ถือสาเลยนะ”นางถานฝืนยิ้ม “ข้าเข้าใจ ความจริงคุณหนูรองกู้ก็พูดมีเหตุผล ข้าแค่เห็นว่าจือจืออารมณ์ไม่ดีนัก จึงบอกให้จัดงานเลี้ยงนี้ หวังว่าความครึกครื้นจะทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นบ้าง!”ครอบครัวของพวกเขาล่วงเกินเสนาบดีกรมคลังไม่ได

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 103

    “ท่านรีบร้อนกลับไปอาละวาดเช่นนี้ จะไม่ดีต่อคุณหนูสามนะขอรับ!”“อีกอย่าง วันนี้มีสตรีสูงศักดิ์มากมายออกอย่างนั้น ท่านกลับไปต่อว่าฮูหยินซื่อจื่อต่อหน้าทุกคน ฮูหยินซื่อจื่อจะเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ อย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มิสู้คุยกันเป็นการส่วนตัว ไม่แน่ว่าเรื่องราวอาจยังพลิกผันได้นะขอรับ?”ฉีจื่อเสียนใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “แขกสตรีทั้งนั้นแล้วอย่างไร? คนยิ่งเยอะสิยิ่งดี ข้าไปอาละวาดตอนนี้หรงจือจือจะได้ขายหน้ามากขึ้น!”“ไยข้าต้องใส่ใจกับชื่อเสียงของนางด้วย? นางทำร้ายข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีกระทั่งอาจารย์แล้ว ข้ายังต้องสนใจกฎระเบียบอันใดอีก? ข้าต้องการให้ชื่อเสียงของนางพังพินาศ เป็นที่หัวเราะของผู้คนนั่นแหละ!”“สตรีผู้สูงศักดิ์ทั้งเมืองหลวงต้องประณามนาง เมื่อนั้นนางจึงจะรู้ว่าตัวเองทำผิดไป จึงจะไปพูดดี ๆ ต่อหน้าท่านเจียง ให้เขารับข้ากลับเข้าสำนักอีกครั้ง!”ฉีจื่อเสียนรู้สึกว่าคำพูดชุนเซิงเตือนสติเขาจริง ๆ วันนี้คือโอกาสดีที่จะหาเรื่องหรงจือจือ คนยิ่งมากก็ยิ่งดี!ชุนเซิง “แต่คุณชายสี่ เช่นนั้นเรื่องการแต่งงานของคุณหนูสาม...”ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างรำคาญใจ “เอาละ เจ้าไม่ต้องพูดแล้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 104

    ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างหัวเสีย “เข้าใจผิดอันใด? หรงจือจือ ท่านช่างเล่นละครเก่งจังนะ! บทศรีภรรยาท่านกลับแสดงมาได้ถึงสามปี ปั่นหัวครอบครัวข้าจนหัวหมุนหมดแล้ว!”“มีความสามารถเช่นนี้ ไยไม่ไปเป็นตัวนางแสดงบทนางเอกเสีย? เกรงว่าสตรีในโรงงิ้วอำมหิตต่ำทรามสู้ท่านไม่ได้!”หรงจือจือหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำเพื่อสกุลฉีตลอดสามปี อย่าว่าแต่ให้คนนอกประทับใจเลย บางครั้งนางก็นับถือตัวเองที่ทุ่มเทได้ขนาดนั้นเช่นกันสุดท้ายกลับได้มาเพียงคำพูดนี้ของฉีจื่อเสียนท่านเจียงก็ไม่อยากสอนเขาอยู่แล้ว แต่นางไม่ยินยอม ช้าเร็วต้องขับออกจากสำนักอยู่ดีบัดนี้นางแค่รู้สึกโชคดีที่เป็นศัตรูของครอบครัวพวกเขาแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะกล่าวถ้อยคำอันใด นางก็ไม่สะทกสะท้าน มิเช่นนั้นเกรงว่าวันนี้ต้องกระอักเลือดเพราะฉีจื่อเสียนแล้วยามนี้นางจ้องฉีจื่อเสียน แสร้งทำเป็นพูดอย่างผิดหวัง “น้องเสียน เจ้าอย่าได้พูดจาให้ร้ายข้าอีกเลย ต่อให้เจ้าไม่คำนึงถึงชื่อเสียงข้า แต่ก็ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเองนะ!”ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างกรุ่นโกรธ “ชื่อเสียง? ตอนนี้ข้าถูกท่านทำร้ายถึงขั้นนี้แล้ว ท่านไม่ให้คำอธิบายอะไรสักอย่าง ปากกลั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 105

    “เมื่อครู่เจาซีทำลับ ๆ ล่อ ๆ ออกไป พอกลับถึงเรือนหลังของฮูหยินซื่อจื่อก็รีบเอาจดหมายพวกนี้ออกมาเพื่อจะเผา!”“ดีที่บ่าวตาเร็วมือไวแย่งมาได้ก่อน บ่าวจะเอามาให้ท่าน เจาซียังตามมาตลอดทาง คิดจะแย่งกลับไปอีกแน่ะเจ้าค่ะ!”นางถานรีบถาม “ในจดหมายเขียนว่าอย่างไรบ้าง?”ฉีจื่อเสียนมองจดหมายฉบับนั้นแวบหนึ่งก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “นี่คือจดหมายที่สำนักบัณฑิตเราใช้เฉพาะ คือจดหมายที่ท่านเจียงเขียนถึงพี่สะใภ้! วันนี้ท่านรีบร้อนส่งคนไปเผาทำลาย ในใจคิดอันใดอยู่กันแน่?”นางถานอดมองไปทางหรงจือจือไม่ได้ พร้อมเอ่ยด้วยโทสะ “นางหรงเจ้าทำดีนี่! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะซ่อนแผนเอาไว้จริง ๆ หากไม่ใช่เพราะข้ารอบคอบ ให้หลี่หมัวมัวตามคนของเจ้าไป ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวข้าต้องถูกเจ้าปั่นหัวจนเป็นอย่างไรแล้ว!”หรงจือจือแสร้งพูดหน้าจริงจัง “ท่านแม่ ถือเสียว่าข้าผิดก็แล้วกัน เผาจดหมายนี้เสียเถิด อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย ท่านจะให้เหล่าฮูหยินเห็นจดหมายไม่ได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”นางถานอยู่กับหรงจือจือมาสามปี เคยเห็นอากัปกิริยาสีหน้าซีดขาวเช่นนี้ของนางเสียที่ไหน? เห็นชัดว่ามีชนักติดหลัง!แล้วพอเห็นสีหน้าร้อนรนของเจาซีอีก มันคื

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 350

    แม้ว่าหรงซื่อเจ๋อจะยังคงทำให้นางผิดหวัง อวิ๋นเสวี่ยเซียวก็ยังอยากไปอยู่ดี นั่นเพราะนางอยากเป็นสหายกับหรงจือจือมานานแล้ว แท้จริงแล้วนี่จึงเป็นโอกาสอันดีหลังจากที่นางลุกออกมาจากห้องโถงมหาราชครูหรงก็พูดคุยสัพเพเหระกับสองสามีภรรยาสกุลอวิ๋น ท่าทีของเขาดีมาก ดีจนไม่กล้าเสียมารยาทด้วย นอกจากนี้ หากจะยุติการหมั้นหมายก็เป็นอะไรที่น่าเสียดาย สองสามีภรรยาสกุลอวิ๋นจึงพูดคุยอย่างเป็นมิตรภายในห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะใต้เท้าอวิ๋นกับฮูหยินอวิ๋นสบตากันปราดหนึ่งและสื่อสายตาแบบเดียวกัน ตอนนี้ท่านมหาราชครูหรงไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อพวกเขาแม้แต่น้อย บ่งบอกว่าเห็นคุณค่าในตัวเซียวเซียวหากพวกลูกๆ พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย นั่นก็ย่อมเป็นการแต่งงานที่ทุกฝ่ายล้วนแต่อยากเห็น ทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับความประพฤติของหรงซื่อเจ๋อแล้ว……เรือนอี่เหมยหรงจือจือได้ยินเจาซีรายงานว่าหรงซื่อเจ๋อมาพอขอพบก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดวันนี้เขามีมารยาทกว่าครั้งก่อนๆ มาก รู้จักรออยู่ด้านนอกและให้คนเข้ามารายงานก่อน หรือว่าคำตักเตือนเรื่องที่ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเมื่อครั้งก่อนจะเป็นผล?เจาซีถาม “คุณหนู ท่านจะพบเขาห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 349

    มหาราชครูหรง “ใต้เท้าอวิ๋น ข้ารู้มาโดยตลอดว่าท่านไม่ใช่คนไร้เหตุผล วันนี้พวกเรามาคุยกันอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า ไม่ทราบว่ามีเรื่องเข้าใจผิดอะไรหรือไม่?”ครานี้ฮูหยินอวิ๋นเป็นคนตอบ “คิดว่าท่านมหาราชครูคงจะได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่จวนสกุลหลี่มาแล้ว คุณชายรองหรงไม่มีความเคารพต่อพี่หญิงของตัวเองแม้แต่น้อย…”“ท่านมหาราชครูก็ทราบว่าสกุลอวิ๋นของพวกข้ารักใคร่ปรองดองกันมาก พี่น้องทุกคนสนิทสนมกันเป็นอย่างดี”“การได้เห็นคุณชายรองหรงทำกับพี่หญิงแท้ๆ ของตัวเองเช่นนี้มันทำให้ข้ากังวลว่าวันหน้าเขาจะไม่ดีต่อเซียวเซียว”มหาราชครูหรงฟังจบก็มีสีหน้าย่ำแย่มาก!ความจริงแล้วพ่อบ้านจากจวนราชเลขาธิการได้เล่าให้เขาฟังแล้วว่าหรงซื่อเจ๋อใช้ถ้อยคำไม่ดี เพียงแต่ตอนนั้นเพลิงโทสะของเขาอยู่ที่นางหวังกับหรงเจียวเจียว ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทันได้สั่งสอนเขามหาราชครูหรงสะกดกลั้นความโมโหในใจก่อนจะพูดว่า “บางทีอาจจะเพราะยังหนุ่มจึงเลือดร้อน ด้วยเหตุนี้จึงพูดผิด…”หากก่อนหน้านี้สกุลอวิ๋นมาบอกว่าต้องการถอนหมั้น เขาคงต้องโมโหอย่างแน่นอนแต่บัดนี้ เขาอยากให้บุตรชายของตัวเองแต่งงานกับบุตรสาวสกุลอวิ๋นมากจริงๆ สาเหตุไม่ใช่อื

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 348

    หรงเจียวเจียวเห็นหรงซื่อเจ๋อมั่นใจขนาดนี้ก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อยหรงซื่อเจ๋อวางกล่องอาหารในมือลงและเอ่ยปาก “ข้ารู้ว่าหลายวันมานี้พวกท่านลำบากมามาก ข้าจึงตั้งใจไปซื้อขนมมาฝากโดยเฉพาะ ในนี้ยังมีรังนกที่เป็นของโปรดของน้องหญิงด้วย”“พวกท่านรีบกินเถิด ประเดี๋ยวกินเสร็จแล้วข้ายังต้องนำกล่องอาหารกลับไปด้วย มิเช่นนั้นอาจจะถูกท่านพ่อจับได้”หรงเจียวเจียวน้ำลายไหล ที่ผ่านมานางไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะมีให้กินเป็นปกติ แต่เมื่อถูกสั่งห้ามไม่ให้กิน นางกลับนึกถึงรสชาติที่เคยกินอยู่ตลอดเวลานางยกอาหารออกมากินคำโตทันทีตอนแรกนางหวังยังลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นบุตรสาวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็กินตามแต่นางไม่ลืมที่จะกำชับหรงซื่อเจ๋อ “ต่อไปเจ้าอย่าได้มาที่นี่อีก หากท่านพ่อของเจ้ารู้เข้า เจ้าเองก็จะถูกลงโทษไปด้วย ช่วงนี้เขาไม่ค่อยพอใจเจ้านัก แผลที่หลังเจ้าก็ยังไม่หายดี”หรงซื่อเจ๋อพยักหน้า “ลูกเข้าใจขอรับ”นางหวังถามต่อ “เจ้ากับคุณหนูสกุลอวิ๋นเป็นอย่างไรบ้าง? ถึงแม้ฐานะครอบครัวนางจะต่ำกว่าพวกเรามาก แต่บรรดาพี่ชายของนางล้วนแต่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะพี่ชายคนโตที่ได้เข้าสำนักฮั่นหลินแล้ว ได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงให้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 347

    เดิมทีนางก็ทรมานมากพออยู่แล้วที่ท่านพ่อไม่ให้กินเนื้อสัตว์ในช่วงไว้ทุกข์ ทว่าตอนนี้กลับแย่ยิ่งกว่านั้น นางไม่เพียงต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ แม้กระทั่งรังนกก็ยังอดกินไปด้วยนางหวังอยากกินผักใบเขียวอยู่แบบนี้ที่ใดกัน?นางลูบใบหน้าของบุตรสาวตัวเองด้วยความสงสาร “บุตรสาวผู้น่าสงสารของข้า ผอมซูบหมดแล้ว! หากไม่ใช่เพราะหรงจือจือ พวกเราสองแม่ลูกมีหรือจะตกอยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้?”“ข้าพูดมาตั้งนานแล้วว่าดวงของนางข่มข้า แต่นางกลับไม่ยอมรับ! บัดนี้นางทำให้ข้าถูกลงโทษด้วยการคุกเข่าอย่างโจ่งแจ้ง ตอนนี้ยังจะมีหน้ามาพูดอะไรได้อีกกัน?”หรงเจียวเจียวพูดทั้งน้ำตา “เป็นเพราะลูกไม่ได้เรื่องเอง ไม่เป็นที่ชื่นชอบของท่านพ่อ มิเช่นนั้นท่านแม่คงไม่ถูกลงโทษไปด้วย…”นางหวังพูดด้วยความชิงชัง “จะโทษเจ้าได้อย่างไร? ต้องโทษหรงจือจือต่างหาก ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้กลอุบายมารยาสาไถมาจากที่ใด ถึงได้ล่อลวงราชเลขาธิการเฉินได้”“เจ้าเป็นคนบริสุทธิ์และน่ารัก จะไปมีความสามารถต่ำช้าแบบนั้นได้อย่างไร? เจ้าจะสู้นางไม่ได้ก็ไม่แปลก!”“แต่ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ รอให้พวกเราออกไปแล้ว แม่จะหาคู่ดูตัวให้เจ้าใหม่ ราชเลขาธิการ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 346

    หรงซื่อเจ๋อกล้าพูดเรื่องไร้สาระเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร?ยังไม่ทันจะแต่งงานกันก็จะให้น้องหญิงของเขาก้มหัวต่อหรงเจียวเจียวเสียแล้ว วันหน้าแต่งงานไปแล้วจะไม่หนักกว่านี้หรือ? สงสัยจะได้เหยียบหน้าเซียวเซียวกันพอดี!ใต้เท้าอวิ๋นเห็นเขามีอาการหุนหันพลันแล่นก็รีบห้ามไว้ “ไม่ได้! หรงซื่อเจ๋อเป็นบุตรชายของมหาราชครูหรง ห้ามลงมือด้วย”“นอกจากนี้ หากเจ้าไปทำร้ายเขาถึงบ้านจริงๆ เมื่อเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ทั่วทั้งใต้หล้าคงรู้เรื่องที่น้องหญิงของเจ้าหมั้นหมายกับเขา!”พวกเขาอยากยกเลิกการหมั้นหมายแบบเงียบๆ มากกว่า ทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้นพี่ใหญ่สกุลอวิ๋นถึงค่อยยอมสงบสติอารมณ์ลงอวิ๋นเสวี่ยเซียวกัดฟันพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ “เขาไม่รู้จักดูเสียบ้างว่าหรงเจียวเจียวนั่นพูดโง่เขลาอะไรที่จวนสกุลหลี่บ้าง หากข้าออกหน้าช่วยพูดให้นาง ชื่อเสียงของสกุลอวิ๋นคงได้จบสิ้นกันพอดี”“แค่ข้าไม่ได้ร่วมตำหนิหรงเจียวเจียวและแสดงออกถึงความดูแคลนก็คือว่าเห็นแก่การหมั้นหมายมากพอแล้ว!”มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าตอนนั้นนางอยากเหยียบย่ำหรงเจียวเจียวมากเพียงใด นางไม่ได้อยากทำเพื่อเอาใจหรงจือจือ แต่อยากทำเพราะดูแค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 345

    “ข้ากลัวว่าหากตัวเองพูดอะไรผิดจนเขาไม่พอใจแล้ว ข้อตกลงแต่งงานที่ได้มาโดยยากนี้จะเป็นอันยกเลิก ข้าเองก็ลำบากใจมากเช่นกันนะเจ้าคะ”“เวลานั้นท่านราชเลขาธิการโมโหมาก ทุกคนตกใจกลัวกันหมด ลูกจะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไร…”มหาราชครูหรงสะอึกไปชั่วขณะ เขาพิจารณาหรงจือจือก่อนจะซักถาม “เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้มีนิสัยประจบเอาใจผู้อื่นเช่นนี้!”หรงจือจือวางตัวเป็นบุตรสาวผู้เชื่อฟังพูดเสียงแผ่วเบาว่า “แต่ว่าท่านพ่อ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่า การหย่าร้างหนึ่งครั้งสามารถโทษได้ว่าเป็นความผิดของสกุลฉี แต่หากวันหน้ายังมีการหย่าร้างอีก นั่นจะเท่ากับเป็นความผิดของลูกมิใช่หรือเจ้าคะ?”“วันนั้นลูกจดจำคำสอนของท่านและคิดทบทวนตัวเองอยู่ตลอด กลัวว่าหากตัวเองยังทำตัวแข็งกร้าวไม่ยอมคนเหมือนเดิม ท่านราชเลขาธิการเฉินจะไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้จึงต้องระงับนิสัยของตัวเองเอาไว้”“ลูกเชื่อฟังที่ท่านบอกทุกอย่าง หรือว่าลูก…ทำผิดอีกแล้วเจ้าคะ?”มหาราชครูหรง “…”ยากมากที่เขาจะไม่รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองเมื่อตอนนั้นทำให้หรงจือจือไม่สบายใจ นางจดจำมานานขนาดนี้ อีกทั้งวันนี้ก็จงใจยกขึ้นมาโต้แย้งเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าบุตรสาวของตัวเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 344

    นางหวังเกือบโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดนี้ หันไปมองด้วยความโมโห “หรงจือจือ เจ้าว่ากระไรนะ? เจ้าเป็นลูกสาวแต่กล้าบอกให้ข้าผู้เป็นมารดาไปคุกเข่ารับโทษอย่างนั้นหรือ?”มหาราชครูหรงอยู่ที่นี่ หรงจือจือย่อมไม่โง่เขลาที่จะเรียกอีกฝ่ายว่าฮูหยินหรงให้มหาราชครูหรงไม่พอใจนางพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ท่านแม่ บรรพบุรุษสกุลหรงของเราล้วนแต่เป็นผู้มีศีลธรรม ต้องช่วยสยบสิ่งอัปมงคลในตัวท่านได้อย่างแน่นอน”“ที่ลูกเสนอเช่นนี้ก็เพราะเป็นห่วงสุขภาพท่าน ท่านควรรู้สึกขอบคุณจึงจะถูกนะเจ้าคะ!”นางหวังกัดฟัน เมื่อครู่นี้นางบอกให้หรงจือจือถอนตัวจากการแต่งงาน บอกว่าทำไปเพราะหวังดีและบอกให้นางรู้สึกขอบคุณ แต่แล้วตอนนี้ตัวเองกลับถูกคำพูดเหล่านี้ย้อนกลับเข้าตัว…นางมีหรือจะไม่รู้ว่าหรงจือจือกำลังเอาคืน!นางกัดฟันพูดว่า “หรงจือจือ เจ้าอย่ามาพูดเหลวไหล มีสิ่งอัปมงคลอะไรกัน? กล้าดีอย่างไรมาแช่งแม่ตัวเองแบบนี้ เจ้า…”แต่แล้วตอนนี้มหาราชครูหรงกลับพูดตัดบทด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่ว่าจะมีสิ่งอัปมงคลหรือไม่ เจ้าก็ควรไปทบทวนตัวเองที่โถงบรรพชน !”นางหวังตกใจ “ท่านพี่?”มหาราชครูหรงมองนางด้วยความผิดหวัง “เมื่อก่อนนี้ข้าคิดเพียงว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 343

    นางไม่อยากให้นางหวังกับหรงเจียวเจียวสมปรารถนา!ขณะที่นางหวังกำลังพูดอยู่ จู่ๆ ก็เกิดความคิดอะไรบางอย่าง “เจ้าสามารถบอกท่านราชเลขาธิการไปว่า ตัวเองเป็นหญิงมั่วบุรุษ ไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับเขา ทั้งยังสามารถแต่งเรื่องไปว่าตัวเองเป็นกามโรค เพียงเท่านี้ ท่านราชเลขาธิการก็จะหลีกหนีเจ้าเหมือนแมลงมีพิษและละทิ้งเจ้าแล้วมิใช่หรือไร?”ถึงแม้หรงจือจือจะเลิกคาดหวังในตัวนางหวังมานานแล้ว แต่นางก็ยังหน้าซีดอยู่ดีที่ได้ยินดังนี้ครานี้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพูดมีเสียงตวาดลั่นด้วยความเดือดดาลดังมาจากประตู “เหลวไหล! เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไร?”นางหวังหันไปมองก็พบว่าเป็นมหาราชครูหรง ครั้นทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองพูดก็มีสายตาหวาดกลัว “ท่านพี่ ข้า…เมื่อครู่นี้ข้าเพียงแต่พลั้งปากไปชั่วขณะ!”มหาราชครูหรงพูดด้วยสีหน้าเขียวซีด “แบบนี้เรียกว่าพลั้งปากหรือ? หากเจ้าจะกล่าววาจาเช่นนี้ในเวลาที่พลั้งปาก เช่นนั้นก็ดื่มยาพิษให้ตัวเองเป็นใบ้ไปเลยเถอะ จะได้ไม่สร้างปัญหา!”ในใจนางหวังขื่นขม เสียใจจนดวงตาแดงพร่า ตั้งแต่ที่แต่งงานมา นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพี่ใช้วาจารุนแรงกับนางขนาดนี้นี่ทำให้นางอดพูดอย่างขุ่นเคืองไม่ได้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 342

    ตอนนี้นางหวังมีความคิดดีๆยามนี้มีนางกำนัลเฉินอยู่ด้วย นางไม่อาจลงมือกับหรงจือจือ แต่ในฐานะมารดาแล้ว การสั่งให้หรงจือจือไปคุกเข่าที่โถงบรรพชนของสกุลหรง ต่อให้ไทเฮาทรงเสด็จมาด้วยองค์เองก็ประณามอะไรไม่ได้หรงจือจือเลิกคิ้วมองนางหวัง “ฮูหยินหรงกล่าวผิดแล้ว ผู้ที่ทำให้น้องสามขายหน้าในวันนี้ไม่ใช่ข้าสักหน่อย”“ผู้ที่ยกเรื่องการหมั้นหมายระหว่างนางกับราชเลขาธิการเฉินขึ้นมาพูดคือป้าสะใภ้สกุลหลี่ ส่วนผู้ที่ชี้แจงว่าไม่ได้จะแต่งงานกับน้องสามคือท่านราชเลขาธิการ ตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับข้ากัน?”นางหวังพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าไม่เกี่ยวกับตัวเองอีก! หากไม่ใช่เพราะเจ้าพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งการแต่งงานของน้องหญิงเจ้า ท่านราชเลขาธิการมีหรือจะไม่ชอบเจียวเจียวผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องไปเลือกหญิงมั่วโลกีย์ที่ผ่านมือคนอื่นมาแล้วเช่นเจ้า!”นางกำนัลเฉินขมวดคิ้ว “ฮูหยิน ระวังวาจาด้วย”นางมองว่าตัวเองเจอประสบการณ์มามาก ทว่ากลับไม่เคยเห็นมารดาคนใดดูแคลนบุตรสาวของตัวเองเช่นนี้มาก่อนหรงจือจือฟังถ้อยคำหยามเหยียดของนางหวังแล้วไม่ได้มีสีหน้าขุ่นเคืองแต่อย่างใดตรงกันข้าม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status