Share

บทที่ 99

Aвтор: สั่งไม่หยุด
ตงจื้อกล่าวอย่างคิดว่าตนมีเหตุผลว่า “แต่ข้าคิดว่า ซื่อจื่อ ท่านจึงจะเป็นดั่งฟ้าของฮูหยินซื่อจื่อมิใช่หรือขอรับ? ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าหรงจะสำคัญเช่นไร ก็ไม่มีทางสำคัญเท่าการทำให้ท่านเบิกบานใช่ไหมขอรับ?”

เมื่อฉีจื่อฟู่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้ามืดมนลงแล้ว “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก !”

ตนเป็นสามีของจือจือ นางควรจะให้ความสำคัญกับตนเป็นอันดับแรกในทุกเรื่องชัดๆ

ในเวลานั้นเอง ก็มีข้ารับใช้อีกคนเข้ามารายงานว่า “ซื่อจื่อ อนุอวี้บอกว่าท้องของนางรู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง บอกให้ท่านไปอยู่เป็นเพื่อนนางขอรับ!”

ฉีจื่อฟู่ “รู้แล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้! ในเมื่อหรงจือจือไม่รู้จักรับน้ำใจของผู้อื่น เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางเดียวดายไปเถอะ มีคนมากมายที่รักข้า ข้าก็มิใช่ว่าต้องเป็นนางเพียงผู้เดียวเสียหน่อย!

“ชิวอี้ เจ้าจงส่งความไปบอกเรือนหลัน ให้ฮูหยินซื่อจื่อสำนึกตนให้ดี คิดดูว่าจะขอโทษข้าเช่นไร ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาคลอดบุตรภรรยาเอกออกมาไม่ได้ ก็จงอย่าได้มาขอร้องข้าแล้วกัน!”

ชิวอี้สั่นสะท้านขึ้นมา เหลือบมองตงจื้อคราหนึ่ง แล้วคุกเข่ากล่าวว่า “ซื่อจื่อ ไม่เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นเด็กรับใช้รับหน้าที่ช่วยจัดการธุระต่างๆ ไปส่งข่าวดีไหมขอร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава
Комментарии (2)
goodnovel comment avatar
Petch Kusuma
อัพเดทด้วยค่ะ
goodnovel comment avatar
Petch Kusuma
รอนาน..อัพเดทด้วยค่ะ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Related chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 100  

    แต่เขาคิดจนหัวแตก ก็ไม่เกิดประโยชน์แม้แต่น้อย คนยังคงไม่สามารถขึ้นไปอยู่บนเตียงหลังเดียวกับหรงจือจือ รู้สึกเพียงว่า ในใจของตนกระวนกระวายอย่างที่สุด ปากคอยิ่งแห้งผากกว่าเดิม อวี้ม่านหวารับรู้ได้ว่า ใจของเขาไม่อยู่ที่นี่ จึงกล่าวด้วยหยาดน้ำตาที่ขังคลอในเบ้าตาว่า “ท่านพี่ หรือว่าท่านไม่ปรารถนาจะมาหาข้า? ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านก็ไปหาพี่หญิง…ไม่สิ ท่านก็ไปหาฮูหยินซื่อจื่อเถอะ” พูดจบ ก็เริ่มซับน้ำตา ในอดีต ฉีจื่อฟู่มีความอดทนให้การปลอบนางอย่างมาก ทว่าวันนี้ ความคาดหวังอันเต็มอกที่จะได้ร่วมหอกับหรงจือจือถูกดับลงสิ้น จากที่เดิมที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว หนนี้ จึงขมวดคิ้วเหลือบตามองนางคราหนึ่ง แล้วถามอย่างประหลาดใจว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าแสร้งเป็นปวดท้อง เพื่อเรียกให้ข้ามาหรือ?” อวี้ม่านหวาถูกทำให้พูดไม่ออก ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่านางช่างประหลาดนัก ปวดท้องอะไรกัน? เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเรื่องเท็จ กระทั่งลูกไม้เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานเล็กๆ พวกนี้ของนาง เขาก็มองไม่ออกอย่างนั้นหรือ? แล้วบัดนี้ ยังจะมาเล่นตัวเพื่อการใดอีก? อวี้ม่านหวาเริ่มหลั่งน้ำตา “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดท่านจึงกล่าวกับข้าเช่นนี้? ข้าเป

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 101

    ครั้นถึงลานเรือนเห็นทุกอย่างในจวนล้วนจัดการได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บรรดาบ่าวรับใช้เดินไปเดินมาอย่างมีระเบียบ ความหรูหราไม่ต่างจากงานเลี้ยงชมดอกเหมยในจวนอ๋องเฉียนครั้งนั้นแม้แต่น้อย นางถานผู้รักในเกียรติจอมปลอมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นหน่อย ทว่าหรงจือจือหรือจะยอมปล่อย?นางเปล่งเสียง “แปลงดอกไม้นั้นจ่ายไปถึงแปดสิบตำลึง พวกเจ้าต้องตั้งใจหน่อยล่ะ”“ชุดชาชุดนี้ร้อยยี่สิบตำลึง เป็นกระเบื้องเย็นชั้นดีจากแคว้นเยียนเชียวนะ อย่าได้ทำตก”“แล้วยังนี่อีก...”นางถานได้ยินแล้วพลันใบหน้าบิดเบี้ยวในจวนมีเงินอยู่ไม่มากแล้ว เงินที่ผู้ดูแลหลี่ได้มาถูกนางหรงนางแพศยาผู้นี้เอาไปตั้งมากอย่างนั้น บัดนี้ชุดชาชุดเดียวก็จ่ายไปมากเช่นนี้แล้ว นางถานจะไม่เดือดดาลได้อย่างไร?นางพูดทั้งหน้าตึง “นางหรง มีผู้ใดดูแลเรือนเช่นนี้บ้าง? ในจวนก็ใช่ว่าจะไม่มีชุดชา ไยต้องสิ้นเปลืองเงินทองมากมายเพื่อซื้อชุดชาชุดใหม่ด้วย?”แปลงดอกไม้ก็ช่างเถอะ ทุกคนชมดอกไม้ก็ต้องชมกันอยู่แล้ว แต่ชุดชามันมีความจำเป็นอันใดกัน?เห็นเพียงฉีอวี่เยียนก็เข้ามาประสมโรงอย่างคึกคักด้วยหรงจือจือตอบอย่างไม่เร็วและไม่ช้า “ท่านแม่ นี่คือชุดชาที

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 102

    เมื่อนางถานได้ยินดังนั้นจึงได้แต่ฝืนข่มไฟโทสะในใจ ไม่ว่าอย่างไรอีกเดี๋ยวจะให้คนอื่นเห็นเรื่องขายหน้าไม่ได้นางจึงแค่กลอกตาใส่หรงจือจือ “ข้าจะยังไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องในวันนี้กับเจ้า!”เนื่องจากมีฮูหยินกั๋วกงมาหลายท่าน นางถานจึงออกไปต้อนรับแขกด้วยตัวเองรอจนแขกเหรื่อทยอยมาครบแล้วหลังจากกู้เจียนเจียนบุตรชายของเสนาบดีกรมคลังนั่งลง ก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้นแล้วกล่าววาจาเหน็บแนม “นายหญิงผู้เฒ่าหรงเพิ่งสิ้น จวนโหวยังถือเป็นญาติเกี่ยวดอง เพิ่งจะผ่านไปสามวันก็รีบจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ ไม่รู้ว่ารีบร้อนอันใดกัน!”ครั้นนางกล่าวเช่นนี้ นางถานย่อมเสียหน้าเป็นธรรมดานางอวี๋ ฮูหยินของเสนาบดีกรมคลังชายตามองนางทีหนึ่ง “เจียนเจียน เจ้ากำลังพูดจาเลื่อนเปื้อนอันใดกัน? เจ้าสอดปากที่นี่ได้หรือ?”เมื่ออบรมบุตรสาวเสร็จ นางอวี๋ก็หันมองไปทางนางถาน “บุตรสาวอายุน้อยไม่รู้ความ ฮูหยินโปรดอย่าได้ถือสาเลยนะ”นางถานฝืนยิ้ม “ข้าเข้าใจ ความจริงคุณหนูรองกู้ก็พูดมีเหตุผล ข้าแค่เห็นว่าจือจืออารมณ์ไม่ดีนัก จึงบอกให้จัดงานเลี้ยงนี้ หวังว่าความครึกครื้นจะทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นบ้าง!”ครอบครัวของพวกเขาล่วงเกินเสนาบดีกรมคลังไม่ได

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 103

    “ท่านรีบร้อนกลับไปอาละวาดเช่นนี้ จะไม่ดีต่อคุณหนูสามนะขอรับ!”“อีกอย่าง วันนี้มีสตรีสูงศักดิ์มากมายออกอย่างนั้น ท่านกลับไปต่อว่าฮูหยินซื่อจื่อต่อหน้าทุกคน ฮูหยินซื่อจื่อจะเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ อย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มิสู้คุยกันเป็นการส่วนตัว ไม่แน่ว่าเรื่องราวอาจยังพลิกผันได้นะขอรับ?”ฉีจื่อเสียนใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “แขกสตรีทั้งนั้นแล้วอย่างไร? คนยิ่งเยอะสิยิ่งดี ข้าไปอาละวาดตอนนี้หรงจือจือจะได้ขายหน้ามากขึ้น!”“ไยข้าต้องใส่ใจกับชื่อเสียงของนางด้วย? นางทำร้ายข้าเช่นนี้ ข้าไม่มีกระทั่งอาจารย์แล้ว ข้ายังต้องสนใจกฎระเบียบอันใดอีก? ข้าต้องการให้ชื่อเสียงของนางพังพินาศ เป็นที่หัวเราะของผู้คนนั่นแหละ!”“สตรีผู้สูงศักดิ์ทั้งเมืองหลวงต้องประณามนาง เมื่อนั้นนางจึงจะรู้ว่าตัวเองทำผิดไป จึงจะไปพูดดี ๆ ต่อหน้าท่านเจียง ให้เขารับข้ากลับเข้าสำนักอีกครั้ง!”ฉีจื่อเสียนรู้สึกว่าคำพูดชุนเซิงเตือนสติเขาจริง ๆ วันนี้คือโอกาสดีที่จะหาเรื่องหรงจือจือ คนยิ่งมากก็ยิ่งดี!ชุนเซิง “แต่คุณชายสี่ เช่นนั้นเรื่องการแต่งงานของคุณหนูสาม...”ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างรำคาญใจ “เอาละ เจ้าไม่ต้องพูดแล้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 104

    ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างหัวเสีย “เข้าใจผิดอันใด? หรงจือจือ ท่านช่างเล่นละครเก่งจังนะ! บทศรีภรรยาท่านกลับแสดงมาได้ถึงสามปี ปั่นหัวครอบครัวข้าจนหัวหมุนหมดแล้ว!”“มีความสามารถเช่นนี้ ไยไม่ไปเป็นตัวนางแสดงบทนางเอกเสีย? เกรงว่าสตรีในโรงงิ้วอำมหิตต่ำทรามสู้ท่านไม่ได้!”หรงจือจือหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำเพื่อสกุลฉีตลอดสามปี อย่าว่าแต่ให้คนนอกประทับใจเลย บางครั้งนางก็นับถือตัวเองที่ทุ่มเทได้ขนาดนั้นเช่นกันสุดท้ายกลับได้มาเพียงคำพูดนี้ของฉีจื่อเสียนท่านเจียงก็ไม่อยากสอนเขาอยู่แล้ว แต่นางไม่ยินยอม ช้าเร็วต้องขับออกจากสำนักอยู่ดีบัดนี้นางแค่รู้สึกโชคดีที่เป็นศัตรูของครอบครัวพวกเขาแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะกล่าวถ้อยคำอันใด นางก็ไม่สะทกสะท้าน มิเช่นนั้นเกรงว่าวันนี้ต้องกระอักเลือดเพราะฉีจื่อเสียนแล้วยามนี้นางจ้องฉีจื่อเสียน แสร้งทำเป็นพูดอย่างผิดหวัง “น้องเสียน เจ้าอย่าได้พูดจาให้ร้ายข้าอีกเลย ต่อให้เจ้าไม่คำนึงถึงชื่อเสียงข้า แต่ก็ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเองนะ!”ฉีจื่อเสียนเอ่ยอย่างกรุ่นโกรธ “ชื่อเสียง? ตอนนี้ข้าถูกท่านทำร้ายถึงขั้นนี้แล้ว ท่านไม่ให้คำอธิบายอะไรสักอย่าง ปากกลั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 105

    “เมื่อครู่เจาซีทำลับ ๆ ล่อ ๆ ออกไป พอกลับถึงเรือนหลังของฮูหยินซื่อจื่อก็รีบเอาจดหมายพวกนี้ออกมาเพื่อจะเผา!”“ดีที่บ่าวตาเร็วมือไวแย่งมาได้ก่อน บ่าวจะเอามาให้ท่าน เจาซียังตามมาตลอดทาง คิดจะแย่งกลับไปอีกแน่ะเจ้าค่ะ!”นางถานรีบถาม “ในจดหมายเขียนว่าอย่างไรบ้าง?”ฉีจื่อเสียนมองจดหมายฉบับนั้นแวบหนึ่งก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “นี่คือจดหมายที่สำนักบัณฑิตเราใช้เฉพาะ คือจดหมายที่ท่านเจียงเขียนถึงพี่สะใภ้! วันนี้ท่านรีบร้อนส่งคนไปเผาทำลาย ในใจคิดอันใดอยู่กันแน่?”นางถานอดมองไปทางหรงจือจือไม่ได้ พร้อมเอ่ยด้วยโทสะ “นางหรงเจ้าทำดีนี่! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะซ่อนแผนเอาไว้จริง ๆ หากไม่ใช่เพราะข้ารอบคอบ ให้หลี่หมัวมัวตามคนของเจ้าไป ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวข้าต้องถูกเจ้าปั่นหัวจนเป็นอย่างไรแล้ว!”หรงจือจือแสร้งพูดหน้าจริงจัง “ท่านแม่ ถือเสียว่าข้าผิดก็แล้วกัน เผาจดหมายนี้เสียเถิด อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย ท่านจะให้เหล่าฮูหยินเห็นจดหมายไม่ได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”นางถานอยู่กับหรงจือจือมาสามปี เคยเห็นอากัปกิริยาสีหน้าซีดขาวเช่นนี้ของนางเสียที่ไหน? เห็นชัดว่ามีชนักติดหลัง!แล้วพอเห็นสีหน้าร้อนรนของเจาซีอีก มันคื

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 106

    นางถานไม่ตะขิดตะขวงใจสักนิด ยังคงพูดพล่ามไม่หยุด “ท่านเจียงไม่สามารถรั้งตัวผู้มีความสามารถเช่นลูกชายข้าเอาไว้ข้างตัวได้ ต้องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากแน่!”“แต่ท่านเจียงจะทำอันใดได้? จะแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ไม่ทดแทนบุญคุณแทนลูกชายข้าก็ไม่ได้กระมัง? ส่วนลูกชายข้าก็หลงกลนางหรงนางแพศยาแล้ว!”หรงจือจืออยากจะพูดแต่ก็หยุด ซับน้ำตาตรงหางตาที่ไม่เคยปรากฏ “เฮ้อ ท่านแม่ ท่านทำร้ายน้องเสียนแล้วจริง ๆ...”นางถานพูดด้วยความกรุ่นโกรธ “เจ้ายังจะเพ้อเจ้อยุแยงอันใดอีก?!”ทว่าตอนนี้เองฮูหยินฉินกั๋วกงอดพูดขึ้นไม่ได้ “ฮูหยินโหว หรือว่าท่านก็อ่านจดหมายฉบับนี้เองก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ?”เห็นสีหน้าแปลกประหลาดของฮูหยินฉินกั๋วกงกอปรกับบรรดาฮูหยิน สตรีสูงศักดิ์ที่ราวกับอยากรู้อยากเห็นเรื่องของผู้อื่น หลังจากสลับจดหมายกันอย่างรวดเร็วแล้ว ก็เผยสีหน้าที่มีถ้อยคำพันหมื่นในใจกลับไม่รู้จะกล่าวออกมาจากปากอย่างไรนางถานเริ่มสงสัย “นี่พวกท่าน...”กลับเป็นกู้เจียนเจียนที่อดรนทนไม่ไหวจริง ๆ อ่านจดหมายในมือของตัวเอง [นางหนูสกุลหรง เห็นตัวอักษรประหนึ่งเห็นหน้า ก่อนหน้านี้ข้าพูดแล้วหลายครั้ง ฉีจื่อเสียนผู้นั้นมิใช่ผู้เห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 107

    “ลูกสะใภ้ยังอยากถามท่านอีกแน่ะ ท่านมีความแค้นอันใดกับน้องเสียนหรือไม่ ลูกสะใภ้ก็บอกแล้ว ถือเสียว่าเป็นความผิดของข้า บอกให้ท่านอย่าได้ทำร้ายน้องเสียนเป็นอันขาด แต่ท่านก็ยังดื้อดึงจะทำ!”ถ้อยคำเหล่านี้ย้ำเตือนนางถาน เป็นนางที่ต้องการให้ประจานกับทุกคนจริง ๆบรรดาฮูหยินเริ่มกระซิบกระซาบ มองหรงจือจือด้วยสายตาเห็นใจมากขึ้นหากหรงจือจือเป็นคนนำจดหมายออกมา พวกนางย่อมสงสัยว่าหรงจือจือหมายทำลายชื่อเสียงของน้องชายสามี มิใช่คนดีอันใด แต่นางหรงกลับห้ามถึงที่สุดแล้ว เป็นนางถานที่จะประกาศต่อสาธารณะให้ได้!นางหรงมิใช่ศรีภรรยาแล้วคืออันใด? นางถานมิใช่สตรีโง่งมแล้วคืออันใดอีก?หรงจือจือพูดทั้งน้ำตาคลอ “ข้าวางแผนเพื่อน้องเสียนทุกเรื่อง น้องเสียนยังเด็ก เข้าใจข้าผิดก็ช่างเถิด ข้าไม่โทษเขา แต่ท่านแม่ก็เข้าใจข้าผิดด้วย ทั้งยังไม่ยอมฟังคำเตือนของข้า เรื่องที่ทำลายชื่อเสียงของน้องเสียนเช่นนี้ เหตุใดท่านไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนแล้วค่อยทำ ลูกสงสารน้องเสียนจริง ๆ”หรงจือจือกล่าวจบ ฉีจื่อเสียนก็มองหน้านางถานด้วยสายตาเคียดแค้นนั่นสิ!ทั้งที่ท่านแม่สามารถให้หลี่หมัวมัวอ่านก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเปิดเผยห

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 340

    ฮูหยินอวิ๋นฉุนเล็กน้อย ขณะที่มองอวิ๋นเสวี่ยเซียวก็กล่าว “ถอนหมั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก หากข่าวแพร่ออกไปแล้ว สุดท้ายมันจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเจ้า”อวิ๋นเสวี่ยเซียว “ก่อนหน้านี้เพราะงานขาวดำของนายหญิงผู้เฒ่าหรง เรื่องงานหมั้นยังไม่ได้ประกาศออกไปอย่างเอิกเกริกเลยไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“คิดว่าคงมีแค่สองตระกูลที่รู้เรื่อง ไม่สู้ยกเลิกงานหมั้นแบบส่วนตัว หากด้านนอกมีข่าวลืออะไร พวกเราก็บอกได้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด”ฮูหยินอวิ๋นแตะหน้าผากของนางเบา ๆ พลางกล่าวอย่างโกรธเคือง “ข้าว่า พ่อและพี่ชายเจ้าตามใจเจ้าเกินไปเสียแล้ว คำพูดที่ไม่มีขอบเขตเช่นนี้ ยังจะกล้าพูดพล่อย ๆ ออกมาได้”“เจ้าลองดูในเมืองหลวงแห่งนี้ สตรีผู้สูงศักดิ์บ้านใด เป็นฝ่ายอยากถอนหมั้นก่อนบ้าง? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”อวิ๋นเสวี่ยเซียวท้อแท้เล็กน้อย ตอนที่นางเอ่ยปาก ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก บนโลกนี้มีขีดจำกัดมากมายต่อสตรี แต่บุรุษกลับผ่อนปรนเป็นอย่างมากหากในงานเลี้ยงแต่งบทกวีวันนี้คนที่ประพฤตติตัวไม่เหมาะสม และโดนดูถูกเป็นตนเอง แม้หรงซื่อเจ๋อจะถอนหมั้น ก็คงไม่มีใครตำหนิเขาแม้แต่นิดเดียว แต่สกุลอวิ๋นของนางยังต้องถูกวิพากวิจาร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 339

    ชั่วขณะหนึ่ง นางถึงกับสงสัยว่าระหว่างพวกเขา ชายหญิงสลับกันหรือไม่นางไม่ใช่คนที่ทำลายบรรยากาศ ดังนั้นจึงพูดติดตลก และกล่าวให้ความร่วมมือไปว่า “หรงจือจือจะต้องเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญอย่างแน่นอน ท่านเสนาบดีโปรดวางใจเจ้าค่ะ”เสิ่นเยี่ยนซูได้ยินน้ำเสียงที่ติดตลกของนาง ใบหน้าก็ยังคงร้อนผ่าว จึงรีบเบือนหน้าหนีเซิ่งเฟิงอยู่ด้านหลังส่งเสียง “จิ๊” เบา ๆ มันอิจฉาจนเขาปวดฟันหรงจือจือยังจำถึงความตั้งใจที่เขาอยากแต่งงานกับตนเองได้ จึงมองไปทางเสิ่นเยี่ยนซู และกล่าวเสียงเบา “ท่านเสนาบดีจะถือสา ที่ข้าจะตรวจชีพจรให้ท่านเสียหน่อยหรือไม่เจ้าคะ?”เสิ่นเยี่ยนซู “ย่อมไม่ถือสาอยู่แล้ว”เขายื่นมือออกไปในทันทีแค่เซิ่งเฟิงสะบัดมือทีเดียว องครักษ์หลายนายก็ปรากฏตัวออกมา พลางปิดกั้นเสียเล็กน้อย เพื่อไม่ให้คนนอกเห็นพวกเขาสัมผัสร่างกายกันมือของนางวางลงบนข้อมือของเสิ่นเยี่ยนซูร้อนจนหัวใจของเสิ่นเยี่ยนซูสั่นสะท้าน ใบหน้าก็ยิ่งแดงขึ้นไปชั่วขณะ แม้กระทั่งในใจยังมีความปรารถนาที่ซ่อนเร้นอย่างยากจะอธิบายได้อีกขณะที่หรงจือจือแตะชีพจร ก็กล่าวอย่างแปลกใจว่า “เหตุใดหัวใจของท่านเสนาบดีถึงเต้นเร็วเช่นนี้เจ้าค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status