หน้าหลัก / รักโบราณ / โศลกเพลิงผลาญใจ / ตอนที่ 1 เสียงรำพึงรำพันหวานโศก

แชร์

โศลกเพลิงผลาญใจ
โศลกเพลิงผลาญใจ
ผู้แต่ง: เพลงมีนา

ตอนที่ 1 เสียงรำพึงรำพันหวานโศก

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-07 12:06:23

รัตติกาลถูกย้อมด้วยเปลวเพลิง

แผ่นดินสะอื้นครวญคร่ำร่ำไห้

โชคชะตาชิงชังกักขังข้าฯไว้

หนึ่งปรารถนาเพียงใจได้พบนาง

เสียงรำพึงรำพันหวานโศกล่องลอยในอากาศราวกับวงแขนที่โอบรัดทว่ามองไม่เห็น ความหนาวเย็บเสียดแทงทุกอณูเนื้อของร่างกายเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ปรารถนาเพียงการจำนนเพื่อปลดปล่อยจากความเจ็บปวดทั้งหลายทั้งมวล ทว่าเสียงขับร้องบทกวีซ้ำๆ เรียกสติที่เหลือน้อยนิด เหนี่ยวรั้งให้กลับมา

‘ไม่ต้องกลัว ข้าจะตามหาเจ้า ไม่ว่ากี่ชาติภพ ข้าจะตามหาเจ้าให้พบ’

‘ไม่ต้องกลัว’

คล้ายมีก้อนเหนียวหนืดติดอยู่ในลำคอ ในที่สุดหญิงสาวสำลักจนอาเจียนออกมาหมดสิ้น ร่างบอบบางพลิกตัวโกงคออาเจียนเป็นน้ำเหนียวข้นสีเหลือง บนพื้นที่มีหิมะปกคลุมบางเบาแต่กลับเห็นได้ชัดว่า นางสำรอกเอาน้ำย่อยออกมา

“ดีแล้วๆ อ้วกออกมาให้หมด”  มือหยาบกระด้างตบแผ่นหลังของหญิงสาว “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”

กระเพาะแสบร้อนไปหมด แต่กระนั้นกลับเรียกสติให้หญิงสาวได้เป็นอย่างดี ดวงตางดงามกวาดมองไปถ้วนทั่วแต่กลับยิ่งมึนงงสับสน

“เด็กน้อยของข้า”  มือข้างนั้นยังคงลูบแผ่นหลังของนาง “รักษาชีวิตไว้เถิด ให้สมกับที่แม่เจ้ามอบชีวิตนางเพื่อเจ้า”

“คุณ...คุณน้าพูดเรื่องอะไรกันคะ”

กว่าจะเค้นเสียงพูดออกมาได้ก็แสนยากเย็น ลำคอแผดร้อนไปหมด เจ้าของดวงตาคู่งามเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาจ้องมองเจ้าของมือหยาบกระด้าง สตรีตรงหน้าปล่อยผมยาวกระเซอะกระเซิง สวมชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบสีขาวขุ่น  ใบหน้าเหลือเค้าโครงความงามในอดีตทว่ายามนี้หมองคลำและผอมจนแก้มซูบตอบเห็นเป็นกระดูกที่โหนกแก้ม

“เจ้าพูดอันใดกัน หรือป่วยไข้จนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว”

“ที่นี่...”  ไม่อยากจะใช้คำถามนี้เลย แต่หญิงสาวก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะใช้ประโยคไหนดี “ที่นี่ที่ไหนคะ”

“แย่แล้วๆ เจ้าป่วยหนักจริงๆ รีบเข้าไปด้านในเถิด แม้ยามนี้ปลายฤดูหนาวแล้ว แต่เจ้าดูสิหิมะยังหนาอยู่ ปีนี้หนาวรุนแรงเหลือเกิน”

ท่าจะป่วยหนักจริงๆ? หญิงสาวยันกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก อาจเพราะก่อนหน้านี้ฟุบอยู่บนพื้นที่ปกคลุมด้วยหิมะทำให้เสื้อผ้าที่สวมเปียกชื้น ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นทันที

“เหยาเอ๋อร์ แม้ถูกทอดทิ้งให้อยู่ที่ตำหนักเย็นแห่งนี้ แต่เจ้าไม่ต้องทรมานตนเองจนรีบร้อนไปปรโลกเลย”

“เหยาเอ๋อร์”  หญิงสาวยกนิ้วชี้ที่ตัวเอง “คุณน้ารู้จักชื่อของฉันหรือคะ”

สตรีผู้นั้นเบิกตาโตจ้องมองดรุณีที่เคยงดงามราวกับดอกกล้วยไม้ แล้วก็ส่ายหน้าด้วยความเวทนาใจ

“หลินอวี่เหยาเอ่ย แม้แต่ชื่อตัวเองยังจำไม่ได้ แล้วเจ้าจำข้าได้หรือไม่ ข้าจื่อหนิง เจ้าจำได้หรือไม่ ข้าเคยได้ยินว่าคนป่วยไข้บางครั้งก็เลอะเลือนจดจำตัวเองไม่ได้”

“หลิน-อวี่-เหยา อ๊ะ!”

หญิงสาวยกมือขึ้นกุมขมับ เพียงก้าวเท้าเข้ามาในห้องที่ทรุดโทรมแทบป้องกันไอเย็นไม่ได้เลย ร่างบอบบางก็ทรุดลงไปนั่งบนพื้น  ราวกับมีพายุโหมกระหน่ำในศีรษะความทรงจำราวสายน้ำหลากโหมกระหน่ำถาโถมจนแทบสำลัก ในที่สุดหญิงสาวก็รู้ว่า ‘หลิวอวี่เหยา’ คือใคร

“นี่...ตำหนักเย็น...”  หญิงสาวพึมพำหลังอาการปวดศีรษะเบาบางลงแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นอีกครั้ง พื้นเย็นเหลือเกิน เสื้อผ้าก็บาง มิน่าเล่า เจ้าของร่างนี้จึงล้มป่วยจนสิ้นใจ

ถูกแล้ว หลินอวี่เหยาเจ้าของร่างนี้สิ้นลมไปแล้ว แต่หลินอวี่เหยาที่ประสบอุบัติเหตุตกเขาทะลุมิติมาในยุคจีนโบราณมาอยู่ในร่างของนางสนมอวี่เหยาที่ถูกป้ายความผิดและขับไล่มาที่ตำหนักเย็นแห่งนี้

“ฉัน...ข้า...ไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณท่านน้าจื่อหนิงที่ช่วยเหลือ”

“เช่นนั้น ข้ากลับแล้วนะ”

“เจ้าค่ะ”  หญิงสาวจะเดินไปส่งแค่อีกฝ่ายโบกมือไปมา

“ไม่ต้องๆ ข้ากลับเองได้”  จื่อหนิงกล่าวแล้วก็เดินหลังงุ้มกลับไป

หลังมือที่มีรอยแผลเป็นจากไฟไหม้ชวนให้รู้สึกหดหู่น่าสงสารยิ่ง

แต่ตอนนี้หลินอวี่เหยาสงสารตัวเองมากที่สุด

หญิงสาวเดินไปรินน้ำดื่ม น้ำเย็นชืดจนอยากหลั่งน้ำตา หนาวก็หนาวแล้วต้องมาดื่มน้ำเย็นอีก ไม่ต้องเดาเลยว่าแม้แต่ใบชาก็ไม่มี  ทว่าน้ำเย็นที่ดื่มลงไปก็ช่วยเรียกสติให้หญิงสาวได้อีกครั้ง

แค่พริบตา หลิวอวี่เหยาที่กำลังเดินป่าขึ้นเขาเพื่อไปสำรวจตรวจสอบพรรณไม้โบราณกับทีมนักสำรวจอีกสามคนเดินและชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทาง ทว่ากลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน หญิงสาวผลัดหลงกับคนอื่นและลื่นไถลตกเขา ความเจ็บปวดแสนสาหัสนำพาให้มาสู่ยุคจีนโบราณแห่งนี้

“ฮัดเช้ย!”  เสียงจามติดๆ กันอีกหลายครั้งทำให้หลิวอวี่เหยาไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น รีบไปค้นหาเสื้อผ้าแห้งสำหรับผลัดเปลี่ยน เมื่อถอดชุดที่เปียกชื้นออกผลันปรากฏเรือนร่างผอมบางจนเห็นกระดูก น่าจะเรียกได้ว่า ‘หนังหุ้มกระดูก’  จากความทรงจำที่ได้รับมาก็ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของร่างนี้อยู่ในสภาพนี้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่140 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน (จบ)

    เยี่ยหรงอ่านจดหมายที่ถูกส่งมาให้ คนที่บ้านรู้แล้วว่าออกรบครั้งนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ต้องการให้เขากลับไปพักฟื้นที่บ้าน ปีหนึ่งเขากลับบ้านกี่ครั้งเชียว เอาจริงๆ แล้ว เขารู้สึกว่าค่ายทหารต่างหากที่เขาเรียกว่าบ้านได้เต็มปากเต็มคำ ชายหนุ่มออกจากโรงพยาบาลกลับมานอนพักฟื้นที่ค่ายทหารแล้ว แม้คนอื่นจะคัดค้านอยากให้เขอยู่โรงพยาบาลให้นานกว่านี้ เขารู้ตัวดีว่าพักไม่กี่วันก็ดีขึ้นไม่รู้จะไปแย่งที่นอนคนเจ็บป่วยคนอื่นเพื่ออะไรกัน อีกอย่างเขาก็...ขัดเขินทุกครั้งที่พยาบาลสาวคนนั้นมาทำแผลให้เขา ร่างกายเขาดันมีปฏิกิริยาตอบสนองกับเธอเสียด้วย ปกติเรื่องพวกนี้เขาควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม แต่ไม่รู้ทำไม...ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งอับอาย เขาพับจดหมายใส่ซองตามเดิมแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ใช้ชีวิตทหารมาหลายปี ไต่เต้าด้วยตัวเอง เขาต้องการถูกยอมรับจากความสามารถของตัวเอง ตอนนี้เป็นร้อยเอกเยี่ยหรงแห่งค่ายทหารหน่วยที่ 308 อีกไม่นานเขาก็ได้เลื่อนยศแล้ว ขณะที่ใจลอยคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น สายตาก็เห็นหญิงสาวปั่นจักรยานเก่าๆ เข้ามาในเขตทหาร เขาเพ่งมองอย่างหงุดหงิดเพราะพื้นที่

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่139 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน 2

    แรงตีที่ข้อมือไม่ได้ทำให้เขาเจ็บแต่เรียกให้เขาได้สติ ชายหนุ่มรีบปล่อยมือทันทีทำให้หญิงสาวในชุดพยาบาลถอยห่างออกไปสองก้าว “สมกับเป็นผู้บัญชาการเยี่ยจริงๆ” อวี่เหยายกมือลูบลำคอของตน แต่ก็ต้องตกใจทีเห็นเขายันกายขึ้นนั่งและทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออก “อย่าค่ะ! ถ้าคุณดื้อฉันจะมัดคุณไว้กับเตียงนะ!” มีชีวิตอยู่มาตั้งอายุขนาดนี้เพิ่งเคยได้ยินคนขู่เขาแบบนี้เป็นครั้งแรก เยี่ยหรงจ้องมองหญิงสาว เธอสวมชุดพยาบาลและที่นี่คงเป็นโรงพยาบาลแน่นอน พลันนึกได้ว่าเมื่อครู่เขาพลั้งมือทำร้ายเธอไป “....” เยี่ยหรงขยับปากแต่ไม่มีเสียง พยาบาลสาวเห็นสีหน้าของคนเจ็บก็เข้าใจทันที เธอขยับเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องกลัวนะคะ ตอนผ่าตัดใส่เครื่องช่วยหายใจ คุณเลยเจ็บคออยู่ ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ คุณนั่งนิ่งๆ อย่าดึงสายอะไรออกอีกนะ ฉันจะไปตามคุณหมอแล้วเอาน้ำมาให้คุณดื่ม” ร่างเพรียวบางหมุนตัวจากไปทันที เยี่ยหรงได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย อยากจะหัวเราะที่เขาตัวโตขนาดนี้แต่ถูกผู้หญิงตัวเล็กๆ ดุเอาเสียได้ ไม่กี่นาทีต่อมาคุณหมอก็สาวเ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่138 ตอนพิเศษ กาลครั้งหนึ่ง..เคยพบกัน 1

    ร้อน! เปลวไฟกำลังโหมกระหน่ำอย่างหนัก ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านท่ามกลางเปลวเพลิง เสียงวูบวาบทั่วทุกทิศทาง ผู้คนวิ่งชนหนีตายอลหม่านแต่เขายังยืนนิ่งงัน ทว่าในสมองคล้ายได้ยินเสียงแว่วอยู่ข้างหู คล้ายใครบางคนอ่านบทกวีแสนเศร้าให้ฟัง “ผู้บัญชาการ!!!” เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาได้สติ สหายร่วมรบถูกสะเก็ดระเบิด เขาไม่รอช้าแบกคนเจ็บขึ้นหลังทันที “ปล่อยผม! ทิ้งผมไว้ที่นี่” “ฉันสัญญากับแม่นายแล้วว่าจะพานายกลับบ้าน ก็ต้องทำตามสัญญา” เขากัดฟันทั้งที่ตัวเองก็บาดเจ็บไม่น้อย ในสนามรบที่เต็มไปด้วยทหารทั้งสองฝ่าย เสียงปืนดังรัวไม่ขาดสาย และระเบิดเป็นระยะๆ เขาแบกร่างของเพื่อนร่วมกองรบวิ่งกลับมาที่บังเกอร์ได้สำเร็จ “ผู้บัญชาการเยี่ย ท่านจะไปไหนอีกครับ” ลูกน้องถามเมื่อเห็นว่านายกองคว้าปืนยาวของสหายร่วมรบมาถือไว้ “จัดการพวกมันนะสิ” “ผู้บัญชาการ คนของเราเหลือแค่ไม่กี่คนแล้ว รอกองหนุนไม่ดีกว่าหรือครับ” “พวกนายอยู่นี่ ฉันไปจัดการเอง” “ผู้บัญชาการ!!” ความบ้าระห่ำของผู้ชายคนนี้ท

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่137 ตอนพิเศษ

    ห้าปีต่อมา คฤหาสน์ตระกูลเยี่ยมีเสียงหัวเราะของเด็กน้อย เด็กชายวัยสามขวบวิ่งถลามาหาหญิงสาวที่นั่งพิมพ์เอกสารอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ค เสียงร้องตกใจของคนรับใช้ทำให้หลินอวี่เหยาเงยหน้าขึ้นจากงานตรงหน้า ทว่าลูกชายยังมาไม่ถึงก็ถูกมือใหญ่ของคนเป็นพ่อคว้าคอเสื้อไว้ได้ทัน “ฮ่าวหมิง อย่ากระโจนใส่แม่แบบนั้นสิ” เยี่ยหรงเพิ่งกลับจากบริษัทพอดี เขาอุ้มลูกชายนั่งบนท่อนแขนแล้วอบรม “แม่อุ้มท้องน้องสาวอยู่ ถ้าลูกไปกระแทกท้องของแม่ก็กระทบกระเทือนถึงน้องสาวด้วย ลูกเข้าใจไหม” “ฮ่าวหมิงแค่อยากเล่นกับน้องสาว” เสียงเจื้อแจ้วเอ่ยตอบพร้อมดวงตากลมโตจ้องมารดา “เดือนหน้าก็ได้เจอหน้าน้องสาวแล้ว” คนเป็นพ่ออุ้มลูกชายแล้วเดินมานั่งข้างคนรักแล้วโน้มตัวลงมาอบรมคนเป็นแม่อีกคน “เดือนหน้าคุณก็จะคลอดแล้ว ยังทำงานอยู่อีก” “ฉันท้องไม่ได้ป่วยเสียหน่อย” หลินอวี่เหยาหัวเราะเสียงใส แต่ปลายนิ้วยังพร่างพรมบนคีย์บอร์ด จนกระทั่งเธอกดปุ่มเอ็นเทอร์และเซฟไฟล์งาน“เย่! เสร็จเรียบร้อยเสียที” “เย่ๆ” ฮ่าวหมิงร้องดีใจแม้ไม่เข้าใจว่าแม่ดีใจเรื่องอะไร

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่136 สวรรค์เมตตา

    “อืม...” หญิงสาวรับคำแล้วยกมือขึ้นแตะแก้มของเขา “ทำไมคุณโง่แบบนี้ ไม่ต้องช่วยฉันก็ได้ คุณเจ็บเพราะถูกกระบี่เทพสวรรค์แทงทะลุหัวใจ แล้วยังถูกเง็กเซียนฮ่องเต้ลงโทษอีก” ดวงตาของชายหนุ่มมีหยาดน้ำเอ่อคลอ “วันที่ฉันตกเขาไปครั้งนั้น ดวงวิญญาณในร่างนี้ทะลุมิติไปในชาติที่คุณคือแม่ทัพเยี่ยหรง” หญิงสาวยิ้มเศร้าเคล้าน้ำตา “ฉันตายในชาตินั้นก็กลับมาที่นี่ ได้พบคุณอีกแล้ว” “ผมขอโทษ” เขากอดร่างบอบบางทั้งที่ตัวเองก็สั่นสะท้าน “ผมรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้คุณเจ็บปวด ผมเห็นแก่ตัว แต่ชีวิตผมขาดคุณไม่ได้” มือเล็กดันแผ่นอกเขาเบาๆ รับรู้ว่าเขาก็กลัวไม่ต่างกัน เธอดันเขาออกแล้วพูดเสียงสั่นเครือ “ใช่ คุณคือสิ่งที่ฉันหวาดกลัวที่สุด แต่คุณก็คือความสุขที่สุดในชีวิตฉัน ไม่ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง มันก็คือความสุขที่ฉันยินดีรับไว้แม้จบอย่างเจ็บปวดก็ตามที” เธอวางมือตรงหัวใจของเขาแล้วยิ้มทั้งน้ำตา “เยี่ยหรง...คุณจะแต่งงานกับฉันไหมคะ” “เหยาเหยา...” “หลังจากนี้เ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่135 คุณจำผมได้ใช่ไหม

    จู่ๆ สายลมก็พัดแรง แรงจนสะพานแกว่งเหมือนมีมียักษ์มาแกว่ง หลินอวี่เหยาตัวเอียงไปมาจนร่างเซไปด้านหนึ่งของสะพาน เยี่ยหรงอยู่ด้านหลังแค่สองก้าวแต่เหมือนห่างไปสิบเมตร กระแสลมพัดแรงไม่ปกติ แม้รู้ดีว่าเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแต่สำหรับเขาไม่ปกติแน่นอน ทุกคนที่ก้าวข้ามไปแล้วถูกกระแสลมพัดแรงจนพวกเขาต้องหาที่ยึดเกาะ เพราะสะพานที่แกว่งไปมา ร่างเล็กเสียหลักหงายหลังตกสะพานแขวน!“เหยาเหยาระวัง!”“กรี๊ด!”เขายื่นมือไปสุดแขนแต่คว้ามือเธอไม่ทัน ร่างของหญิงสาวร่วงลงสู่แม่น้ำด้านล่าง เยี่ยหรงไม่รอช้าเขากระโดดตามไปทันที ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ครู่หนึ่งลมสงบแล้วหานเหยียนจึงวิ่งมากลางสะพานแล้วก้มมองลงไป เห็นเพียงเงาร่างเล็กๆ อยู่ในแม่น้ำ“บ้าเอ๊ย!” หานเหยียนสบถแล้วใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมสั่งการทันที “ใช้เฮลิคอปเตอร์ออกสำรวจปลายน้ำ เร็ว!”หานเหยียนสั่งการเฉียบขาด เขาให้คนอื่นๆ ดูแลทีมนักสำรวจที่เหลือ ส่วนตัวรีบหาทางไปที่ปลายแม่น้ำทันทีทำไมต้องมีเรื่องเช่นนี้กับเกิดท่านแม่ทัพของเขาด้วยนะ จะมีสักชาติไหมที่ทั้งสองได้ใช้ชีวิตครองคู่กันอย่างปกติสุขร่างเล็กร่วงลงในแม่น้ำอย่างรวดเร็ว เร็วจนหลินอวี่เหยาไม่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status