Share

ตอนที่4 ตื่น

last update Last Updated: 2025-07-09 00:58:54

โศลกเพลิงผลาญใจ ตอนที่04 ตื่น

          ความหนาวเหน็บปลุกให้หญิงสาวตื่น หลินอวี่เหยาปรับสายตาครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ยันกายขึ้นนั่ง กวาดสายตาในห้องที่เก่าและทรุดโทรม บานหน้าต่างที่ชำรุดไม่อาจป้องกันสายลมหนาวได้   นางยกมือขึ้นเสยเส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้าทว่าเส้นผมยาวยุ่งเป็นกระเซิงสางด้วยมือยังทำไม่ได้

            “นึกว่าจะตื่นมาแล้วกลับไปที่สถาบันเสียอีก”  หญิงสาวถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่านี้  อยากกลับบ้านก็ไม่รู้จะกลับยังไง ตอนมาเธอตกเขาแต่ที่นี่ไม่มีภูเขาจะทำซ้ำสถานการณ์เดิมก็ไม่ได้

            หลินอวี่เหยาไม่ใช่คนจมกับความทุกข์  ชีวิตที่บ้านเด็กกำพร้าสั่งสอนให้เผชิญกับปัญหาทุกรูปแบบ  คิดในแง่ดีก็คือไม่ต้องไปแย่งชิงความโปรดปรานกับผู้ใด แต่ก็คงไม่ใช้ชีวิตขาดอิสรภาพเช่นนี้ไปจนวันตาย ร่างกายนี้อ่อนแอแทบไร้เรี่ยวแรงทรงตัว  ได้ยินเสียงประตูใหญ่เปิดออกตามด้วยร่างขันทีผอมบางนำตะกร้าอาหารมาวางบนโต๊ะที่ผุผัง เขาไม่เอ่ยวาจาใดเมื่อทำหน้าที่ตนเสร็จก็หมุนตัวออกไป ทิ้งให้หลิวอวี่เหยายืนนิ่งงันอยู่อึดใจก่อนเดินไปเปิดตะกร้าออกดู

            “นี่มัน...ของคนกินเหรอ”  นางมองข้าวต้มที่แทบเป็นน้ำขาวขุ่นและมีผักดองอีกเล็กน้อย ทว่ายามนี้เลือกไม่ได้ทำให้นางตัดสินใจยกน้ำข้าวที่เย็นชืดขึ้นกิน “คิดเสียว่ากลับไปใช้ชีวิตบ้านเด็กกำพร้าก็แล้วกัน”

            กระเพาะที่ว่างเปล่ามีเศษอาหารลงไปเต็มเล็กน้อยพอบรรเทาความหิว หลินอวี่เหยาปลุกกำลังใจให้ตนเอง ก่อนจะตามหาอิสรภาพคงต้องจัดการชีวิตความเป็นอยู่ที่นี่เสียก่อน  และเริ่มจากการสำรวจโดยรอบ หญิงสาวเคยดูในซีรีย์มาหลายเรื่อง แม้งานการจะยุ่งมากแค่ไหนแต่ก็ยังมีเวลาพอสำหรับความบันเทิงเล็กๆ น้อยๆ  สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างกันนัก ทว่าเมื่อก้าวเท้าออกมานอกห้องก็สัมผัสลมหนาวจนต้องถอยกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง

            “เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมหนาวแบบนี้ล่ะ”

หลินอวี่เหยาไม่ชอบที่สุดก็คืออากาศหนาวเย็นอย่างนี้  เจ้าของร่างเล็กเดินกลับมาค้นหาเสื้อผ้าเท่าที่พอจะมีหยิบเสื้อคลุมเนื้อหยาบมาสวมทับแล้วเดินออกมาด้านนอก หิมะเริ่มละลายแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้  ความทรงจำที่ได้รับมา ที่นี่ไม่มีห้องครัว แต่สนมหลินเคยมีเตาเล็กๆ สำหรับต้มน้ำ น่าจะอยู่...

“เจอแล้ว!”  ราวกับได้พบของล้ำค่า แม้เป็นเตาขนาดเล็กและยังมีรอยแตกร้าว แต่ก็ยังว่าเป็น ‘เตา’ ให้ได้พอใช้งานได้ “หม้อล่ะ หม้อจ๋า อยู่ไหนนะ”

ความเป็นคนมองโลกในแง่ดี หญิงสาวก้มๆ เงยๆ รวบรวมข้าวของที่พอจะใช้ได้ออกมา เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตกับความโดดเดียวไร้ความหวัง ญาติพี่น้องไม่มีใครใส่ใจราวกับนางได้ตายจากพวกเขาไปแล้ว ตอนนี้นางต้องการน้ำดื่มและต้มน้ำสำหรับสระผม

“สภาพความเป็นอยู่ไม่มีมลพิษทางอากาศ เอาหิมะมาต้มเป็นน้ำดื่มคงไม่มีแบคทีเรียหรือโลหะหนักในอากาศหรอกนะ”

หญิงสาวพึมพำกับตนเองแล้วเดินย่ำไปบนพื้นที่ค่อนข้างลื่น เมื่อวานก็คงแบบนี้ ร่างกายอ่อนแอและจิตใจที่บอบช้ำ เพียงหกล้มลงไปก็ไร้เรี่ยวแรงลุกขึ้นยอมจำนนจนความตายมาพรากลมหายใจไปอย่างง่ายดาย หลินอวี่เหยาอยู่ในร่างที่มีชื่อเดียวกัน แต่นิสัยใจคอแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ไม่ใช่แค่เธอมาจากศตวรรษที่21 แต่เพราะนิสัยของเธอเป็นเช่นนี้เอง  ดวงตากลมโตมองหาหิมะที่เกาะบนกิ่งไม้ หิมะขาวสะอาดทำให้หญิงสาวยิ้มกว้าง แน่นอนว่านี่คือแหล่งน้ำที่พอจะหาได้  นิ้วมือที่เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเหมือนกิ่งไม้แห้งค่อยๆ กวาดหิมะใส่หม้อ การเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องระวังทำให้ร่างเล็กเดินเอียงไปมา สายตาเหลือบไปเห็นที่ริมกำแพง ใบสีเขียวที่แทรกขึ้นมาจากหิมะที่เริ่มละลายทำให้เห็นชัดว่าเป็น...

“นี่...หอมป่านี่น่า”  ราวกับได้เจอของล่ำค่า หลิวอวี่เหยาค่อยๆ นั่งลงแล้ววางหม้อข้างตัว นางคุกเข่าบนพื้นที่เปียกชื้นแล้วใช้สองมือคุ้ยหิมะออกพยายามถอนต้นหอมป่าออกมา

‘เหยาเหยา ปู่ทำไข่ตุ๋นใส่หอมป่าซอยมาให้ ลองกินดูสิ หอมป่าดีกับสุขภาพช่วยรับมือกับการอักเสบของร่างกาย ปู่รู้ว่าเหยาเหยาไม่ชอบกินยา ลองกินไข่ตุ๋นสูตรพิเศษของปู่ดูหน่อยสิ’

เสียงของปู่หลินแว่วดังอยู่ข้างหู หญิงสาวยิ้มบางๆ ตอนนี้แค่ไข่ไก่ก็ไม่มี แต่ไม่เป็นไร เก็บไว้ใส่น้ำข้าวก็ได้

“คุณปู่ค่ะ เหยาเหยาไม่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณปู่ต้องดูแลตัวเองให้มากๆนะคะ”

 หญิงสาวได้แต่รำพึงกับตนเองแล้วลุกขึ้นเดินกลับมาที่เตาบิ่นๆ นั้น เธอวางทุกอย่างอย่างระวัง แล้วเดินหาสิ่งที่พอจะเป็นเชื้อไฟได้ ยังดีที่เดินป่าบ่อยและยังใช้ชีวิตกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล แค่การก่อไฟจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอันใดนัก  เธอเก็บเศษไม้เก่าๆหักๆ และยังใบไม้แห้งที่คงถูกลมพัดมากองในห้องที่เจ้าของไม่เหลียวแล  ไม่นานนักเตาที่ร้างการใช้งานมาแรมปีก็เกิดประกายไฟ หญิงสาวยื่นมือไปอังไฟแล้วมาแนบแก้มของตน

“ผอมเกินไปแล้ว แต่ก็นั้นแหละ ได้กินแค่น้ำข้าวแล้วยังมีชีวิตมาถึงเมื่อวานได้ก็นับว่าแข็งแกร่งมากจริงๆ”

           

           

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่56 ขอคน

    ใครๆ ต่างก็รู้ว่าองค์หญิงเซวียนจิ้งหว่าน เป็นคนโปรดของไทเฮา องค์หญิงเซวียนจิ้งหว่านเป็นสตรีที่รูปโฉมงดงาม กิริยามารยาทล้วนสูงส่งสมกับที่ไทเฮาอบรมด้วยพระองค์เอง องค์หญิงผู้งดงามสวมชุดกระโปรงสีชมพูกลีบบัวเสริมความอ่อนหวาน กำลังเดินเข้าไปในตำหนักของไทเฮา แต่ดวงตาคู่งามสะดุดกับหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางสาวเท้าเร็วๆ เดินไปทางอุทยาน“นั้นใคร” เซวียนจิ้งหว่านเอ่ยถามนางกำนัล“สนมหลินเพคะ”“สนมหลิน? ฮ่องเต้รับสนมใหม่เมื่อใดกัน” “สนมหลินอวี่เหยาเข้าวังมาเกือบสามปีแล้วเพคะ แต่เข้ามาแค่ครึ่งปีก็ทำความผิดจึงถูกส่งไปตำหนักเย็น อยู่ที่นั้นมาสองปี ด้วยความเมตตาของฮองเฮาให้ทำคุณไถ่โทษ โดยให้นางมาดูแลสวนดอกไม้ของไทเฮาเพคะ”“ฮองเฮาช่างมีเมตตาจริงๆ ให้อภัยคนที่ทำผิดได้” เซวียนจิ้งหว่านกล่าวชื่นชมจากใจ นางมีเว่ยซูอิ๋นเป็นแบบอย่าง งดงามและงามสง่าปกครองตำหนักในด้วยใจเมตตา ไทเฮานั่งอ่านพระคัมภีร์อยู่ โดยมีฮองเฮาชงน้ำชาให้ ภาพนี้เห็นจนชินตา ดูงดงามราวภาพวาดของจิตกรเอก เมื่อเห็นเซวียนจิ้งหว่านเข้ามาก็ไทเฮาก็วางคัมภีร์ลง เซวียนจิ้งหว่านส่งยิ้มก่อนแล้วถวายพระพรไทเฮาจากนั้นก็เดินเข้าไปใกล้แล้วบีบนวด

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่55 ท่าน! จริงจังหน่อยได้ไหม! 

    “ท่าน! จริงจังหน่อยได้ไหม!” “ได้ๆ ข้าเชื่อฟังเจ้าแล้ว” เขาพยายามเก็บรอยยิ้ม และยื่นมือไปรับตลับยาจากหญิงสาว แต่นางกลับชักมือกลับเขาคว้าได้เพียงความว่างเปล่า “ข้าลืมไป ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ย่อมต้องมีหมอทหารดูแลอย่างดี และยังมียาดีๆ ที่สรรพคุณดีกว่าของข้า” “ไม่มียาของผู้ใดดีไปกว่าของเจ้า” เขาไม่อยากแย่งชิงจากมือนาง แม้รู้ดีว่าหากเขาต้องการจริงๆ ก็ทำได้ไม่ยากเลย สีหน้าเหมือน...เอ่อ...ลูกหมาน้อย ทำให้หลินอวี่เหยาทำตัวไม่ถูก ยามอยู่กับนางเขาดู ‘เชื่อง’ ไร้พิษส่ง แต่เมื่อครั้งที่อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ เขาดูเหมือนหมาป่าที่พร้อมขยำทุกคนที่กล้าขวาง นี่...เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ เห็นนางเอาแต่จ้องหน้าเขา ชายหนุ่มก็วางท่าทีเคร่งขรึมมีเพียงแววตาที่เป็นประกายหวานหยาดเยิ้ม “ข้าชอบที่เหยาเหยามองข้าเช่นนี้ แต่ข้าไม่มีเวลามากนัก ภารกิจเร่งด่วนหวังว่าจะเข้าใจ” “เอ่อ...อืม..อะ...เจ้าค่ะ” นางได้สติพูดจาตะกุกตะกักไปหมด “เอ่อ...ทำไมท่านเรียกข้าว่าเหยาเหยา” “หรือเ

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่54 ‘เรื่องของเรา’

    หญิงสาวรวบผมด้วยเชือกเส้นเล็ก นางสระผมและมีเฉิงฮัวช่วยเช็ดและแปรงผมให้ ทว่าหลินอวี่เหยาไม่คุ้นชินกับการมีคนปรนนิบัติรับใช้จึงไม่ได้ให้ทำอะไรมาก นางก็ให้เฉิงฮัวไปพักที่ห้องเล็กด้านข้าง หลินอวี่เหยามองรอบกาย ผ่านมาสี่เดือนสำหรับชีวิตใหม่ เวลาไม่ช้าไม่เร็วแต่ทำให้นางค่อยๆ ลืมความคิดที่จะได้กลับไปโลกปัจจุบัน แต่ไม่เคยลืมคนสำคัญอย่างคุณปู่หลินเลย หลังจากฝึกฝนมาระยะหนึ่งการเขียนอักษรของนางก็ดีขึ้น อาจยังไม่ดีนัก แต่ก็ไม่น่าอับอายเช่นที่ผ่านมา นางไม่รู้สถานการณ์ที่ฝู่หม่าเป็นเช่นไร นอกจากพืชผักที่ทนแล้งแล้ว ยังต้องระวังเรื่องโรคระบาดอีกด้วย ใบหน้างามครุ่นคิดแล้วจรดพู่กันลำดับความสำคัญต่างๆ เปลวเทียนวูบไหวเล็กน้อย แต่หญิงสาวก็ชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้น เบื้องหน้าคือบุรุษในชุดดำอำพราง มือใหญ่ยกขึ้นดึงผ้าสีดำที่ปิดครึ่งใบหน้าลงเพื่อมิให้เจ้าของเรือนแตกตื่นตกใจ แต่ดูเหมือนว่านางจะเดาได้ก่อนแล้วว่าเป็นเขา “หลี่กงกงให้คนซ่อมหน้าต่างแล้ว ท่านยังเข้ามาได้อีกหรือ?” “เจ้ามิได้ลงกลอนแน่นหนา คราวหน้าให้สาวใช้ตรวจดูบานหน้า

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่53 เพียงข้ามคืน

    เพียงข้ามคืนทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน ฟูกนอนใหม่เอี่ยมถูกส่งมาเปลี่ยนรวมทั้งหมอนและผ้าห่ม ม่านมุ้งที่ชำรุดก็เช่นกัน หน้าต่างที่แม้ซ่อมแล้วแต่ยังปิดไม่สนิทก็ถูกเปลี่ยนบานใหม่และยังมีนางกำนัลส่งมาอยู่รับใช้นางเพิ่มอีกหนึ่งคน “เช่นนั้นเจ้าชื่อเฉิงฮัวก็แล้วกัน” หลินอวี่เหยาพูดกับนางกำนัลอายุประมาณสิบห้าปี นางท่าทางดูทึมทื่อไม่น่าพึ่งพาได้ จนนางต้องเหลือบมองทางขันทีซูจินที่อายุเท่ากัน เอาเถอะ ดีกว่าส่งนางข้าหลวงมาอบรมมารยาทให้นาง เรื่องของนางเป็นที่พูดถึงไปทั่ววังหลวง เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้ให้หลี่กงกงลงมาจัดการด้วยตนเอง หลินอวี่เหยากวาดตามองข้าวของเครื่องใช้ใหม่ในห้องแล้วก็ยิ้มจางๆ เรื่องดีอีกเรื่องคือนางยังอยู่ที่ตำหนักเดิมซึ่งนางร้องขอกับฮ่องเต้ไว้ ‘หม่อมปลูกพืชผักและยังเลี้ยงปลาไว้ด้วย ให้หม่อมฉันอยู่ที่เดิมเถิดเพคะ’ “ซูจินเจ้าถือว่าเป็นพี่ใหญ่เพราะอยู่กับข้ามาก่อน ต้องคอยช่วยดูแลสั่งสองเฉิงฮัวให้ดี อย่าเอาแต่ใช้นางล่ะ” “ข้ารู้แล้ว เอ่อ ทราบแล้วขอรับ” ซูจินเองก็ต้องระวังคำพูดมากย

  • โศลกเพลิงผลาญใจ    ตอนที่52 เผชิญหน้า 3

    ‘เหยาเหยา’ ความเจ็บแปลบราวลูกธนูพุ่งเข้าใส่ที่หัวใจ หลินอวี่เหยาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้น นางก้มมองหน้าอกของตน ราวกับเห็นลูกศรทะลุทรวงอก หยาดโลหิตแผ่กระจายย้อมชุดขาวที่สวมอยู่ให้กลายเป็นสีแดง หญิงสาวยกมือที่สั่นระริกขึ้นแตะปลายศรนั้นทว่ามันสลายไปสิ้น และไม่มีคราบเลือดบนเสื้อของนาง เมื่อครู่นี่มันอะไรกัน ภาพที่นางเห็นคือสิ่งใดกันแน่ ชายบนหลังอาชาปีศาจนั้นคือเยี่ยหรงหรือ? “เหยาเหยา!” เยี่ยหรงพุ่งเข้าไปทันทีไม่สนใจว่าตนอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ร่างเล็กโงนเงนและร่วงลงในอ้อมกอดของเขาพอดี “เจ้าเจ็บที่ใด” หลินอวี่เหยาปรับลมหายใจครู่หนึ่งก่อนส่ายหน้าไปมา แต่ก่อนนางแอบตำหนิที่เขาพูดน้อยจนเหมือนคนเป็นใบ้ แต่ตอนนี้กลายเป็นนางที่อับจนถ้อยคำเสียงเอง ใบหน้านี้ แววตานี้ คล้ายกันนัก แต่ไม่ใช่...ไม่ใช่คนเดียวกัน “ฝ่าบาท กระหม่อมขออนุญาต...” “เราไม่อนุญาต” เซวียนจิ้งเฉินยกมือห้ามโดยไม่ต้องรอให้แม่ทัพเยี่ยหรงพูดจบประโยค “อย่างไรนางก็เป็นสนมของเรา เจ้าไม่ควรแตะต้องนางและไม่มีสิทธิ์พานางไปที่ใดทั

  • โศลกเพลิงผลาญใจ   ตอนที่51 เผชิญหน้า 2

    ใช่ว่าหลบไม่พ้น แต่เพราะใจจดจ่อกับแววตาคู่งามจึงไม่ทันระวังเจ้าก้อนหินเล็กๆ ที่กระทบหลังมือของเขา เสียงชักกระบี่อ่อนของหลี่หยวนซินดังขึ้นแทบทันทีที่เห็นหินก้อนนั้น แต่กระนั้นบุรุษในชุดผ้าไหมสีดำเรียบง่ายตัดเย็บประณีตก็ก้าวเข้ามาด้วยท่าทีสุขุมไร้ความหวาดกลัว หลินอวี่เหยาถอยหลังไปครึ่งก้าว สูดลมหายใจลึกเรียกอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่และยกมือขึ้นกุมลำคอ แต่สายตาของนางจ้องมองไปยังชายที่นางเคยช่วยชีวิตไว้ ยามนี้เขาสวมเสื้อผ้าขับเน้นรูปร่างสูงใหญ่และองอาจ ที่จริงบุรุษหน้านิ่งผู้นี้ก็ดูหล่อเหลาไม่น้อย ติดที่สีหน้าเดียวตลอดและยังพูดน้อยมากจนต้องคาดเดาอารมณ์กันเลยทีเดียว “บังอาจ!” หลี่หย่วนซินวาดกระบี่ไปจ่อลำคอของแม่ทัพเยี่ยหรง แต่ดวงตาดุจเหยี่ยวคู่นั้นไม่เพรียงไม่ใส่ใจแต่ยังจ้องมองเพียงหลินอวี่เหยาเท่านั้น “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” “ไม่...ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” แปะ แปะ แปะ เซวียนจิ้งเฉินตบมือและฉีกยิ้มกว้าง ทำราวกับไม่ถือสาที่แม่ทัพหนุ่มทำลงไป “หลี่กงกง เก็บกระบี่ของเจ้าเสีย ฝีมือเจ้ามิใช่คู่ต่อกรกับแม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status