หน้าหลัก / โรแมนติก / โหด (ร้าย) รัก / อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (75%)

แชร์

อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (75%)

ผู้เขียน: พราวนภา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-03 09:54:41

ทั้งที่จริงๆ แล้วความทรงจำของเธอควรจะขาดหายไปแค่ช่วงที่ประสบอุบัติเหตุเท่านั้น แต่น่าแปลกที่เธอดันจำเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนไม่ได้ด้วย ช่วงเวลาเหล่านั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้างเธอไม่มีทางรู้เลย ต่อให้จะเพียรถามพ่อแม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยได้ความกระจ่างแจ้งเสียที เพราะทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากถามพ่อกับแม่ก็จะตอบแค่ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าที่พวกท่านเล่าให้ฟัง ซึ่งบูรณิมาก็ไม่ได้แย้งอะไร แต่ลึกๆ ในใจกลับค้านว่ามันต้องมีอะไรมากไปกว่านั้น และความลับนั้นอาจเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่ไม่อยากให้เธอล่วงรู้ก็เป็นได้              

อีกทั้งนึกยังไงก็นึกไม่ออก ว่าชีวิตตัวเองไปเชื่อมโยงกับผีน้อยตนนั้นได้อย่างไร แต่ก็คิดว่ามันน่าจะมีความเกี่ยวเนื่องอะไรกันสักอย่าง ไม่งั้นเธอคงไม่ฝันถึงผีเด็กหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน แต่ก็น่าแปลกเอามากๆ หากว่าวิญญาณเด็กจะเป็นลูกของเธอจริงๆ ตอนนั้นเธอเพิ่งจะเข้ามหา’ลัย ยังโสดสนิท ไม่เคยมีแฟน แล้วเธอจะมีลูกได้ยังไง         

ตอนแรกคิดว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อน ไม่ก็มีผีเด็กคอยตามขอส่วนบุญ แต่ไม่ว่าจะไปดูดวง ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล หรือไปหาพระ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งวิญญาณผีเด็กก็ยังคอยตามวอแวไม่เลิก จวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้   

“แม่เคยบอกแล้วไง ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”

ว่าแล้วแม่ต้องพูดคำเดิม     

“แต่ในความฝันครั้งนี้มันเหมือนจริงมากเลยนะคะ เหมือนกว่าทุกครั้ง” 

หญิงสาวแย้งอย่างกระตือรือร้น พลางเอื้อมมือไปคว้าซาลาเปาไส้ครีมหอมกรุ่นในจานตรงหน้า ยัดเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยตามประสาคนช่างกิน 

“เหมือนกว่าทุกครั้งยังไง?”

คิ้วของนางบูรณาเลิกขึ้น ขณะจ้องหน้าลูกสาว 

“เอ่อ…หนูเห็นภาพ…คนคนนั้น”

“สามีของลูก?” 

คำว่า ‘สามี’ ชวนกระดากจนสาวเจ้าหน้าร้อนผ่าว สำลักน้ำเต้าหู้คำโตที่เพิ่งยกแก้วซดลงคอ ไอโขลกๆ หน้าดำหน้าแดงจนผู้เป็นแม่ต้องยื่นมือมาลูบหลังให้ จากนั้นก็ขยับปากค้านอุบอิบ       

“แม่ก็…เขาไม่ใช่สามีของหนูสักหน่อย”         

“เออๆ แม่พูดผิด หมายถึงผู้ชายที่ผีเด็กนั่นมาขี้ตู่ว่าเป็นสามีของลูก”  

“แม่อย่าใช้คำว่าสามีสิคะ มันชวนขนลุกยังไงไม่รู้” 

“ฮื่อ ก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ”

“ไม่เหมือนค่ะ เพราะหนูไม่ได้บ้าจี้ตามยายผีน้อยตัวแสบนั่นสักหน่อย” 

หญิงสาวทำปากยื่นค้าน แล้วย่นจมูกในสภาพพวงแก้มสุกปลั่ง ผู้เป็นแม่ส่ายหัวระอากับความขี้อายแกมเอ็นดูความไร้เดียงสาของลูกสาว แล้วเอ่ยตัดบท 

“สรุปก็คือลูกเห็นผู้ชายคนนั้นในฝันซ้อนฝันของตัวเอง”  

“ใช่ค่ะ มันชัดเจนมาก”

แม่สาวแก้มกลมพยักหน้าหงึกหงัก

“ถ้าชัดเจนขนาดนั้น แสดงว่ารู้แล้ว ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”

“ค่ะ”

“ใคร?”

ผู้เป็นแม่ถามอย่างใคร่รู้

“เอ่อ…คนที่หนูเอาอิมเมจมาเป็นพระเอกนิยายค่ะ”

ไม่รู้เธอคิดไปเองหรือยังไง ถึงรู้สึกว่าผู้เป็นแม่ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากปากเธอ 

“เรื่องไหน?”

“เรื่องล่าสุดค่ะ”

สาวน้อยอ้อมแอ้มหน้าแดงเรื่อ ซึ่งคราวนี้ยิ่งแปลกไปใหญ่ เมื่อแม่ถึงกับเกือบจะสำลักกาแฟที่เพิ่งดื่มเข้าไป แค่เธอลงลึกถึงรายละเอียดความฝันให้ฟัง ทำไมแม่ถึงได้มีปฏิกิริยาชวนประหลาดเช่นนั้น    

“ความฝันก็คือความฝันอย่าไปใส่ใจให้มันมากนัก”

“ค่า ว่าแต่…แม่ไม่มีอะไรจะเล่าให้บี๋ฟังจริงๆ เหรอคะ” 

“ยายบี๋! ลูกเป็นคนที่ไม่ไว้ใจแม่ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” 

เสียงแข็งๆ ทำให้บูรณิมาหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างอ้อนๆ 

“แม่ขา…อย่าเข้าใจผิดสิคะ หนูก็แค่สงสัย”

“ไม่มีอะไรจะต้องสงสัยทั้งนั้น แม่บอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไร เลิกหมกมุ่นกับเรื่องนี้เสียที” คนเป็นแม่เอ่ยอย่างเด็ดขาด น้ำเสียงเข้มๆ ทำให้คนฟังหน้าจ๋อย 

“ค่ะ” สาวน้อยรับคำเสียงอ่อย

“เกือบลืมบอกไปเลย นนนี่เขาบอกว่าติดต่อแม่ไม่ได้ค่ะ”

บูรณิมาเอ่ยบอกมารดาทันทีที่นึกขึ้นได้ แวบหนึ่งเธอเห็นเหมือนมีแววเครียดเขม็งพาดผ่านดวงตาของอีกฝ่าย แต่แค่เสี้ยวนาทีก็อันตรธาน แล้วแปรเปลี่ยนเป็นปกติดังเดิม

“เดี๋ยวแม่จะโทรหาเขาเอง” 

“แม่กับนนนี่มีเรื่องอะไรกันเหรือเปล่าคะ”

หญิงสาวถามอย่างใคร่รู้ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อนสนิทอย่างนลินนิภาจะติดต่อกับมารดาเป็นการส่วนตัว

“ก็เรื่องหนี้สินของพ่อเรานั่นแหละ”

น้ำคำบอกเล่าทำให้คนฟังเข้าใจได้ทันควัน เพราะระยะหลังๆ แม่เคยเปรยให้ฟังว่าจะให้นลินนิภาช่วยพูดกับพ่อของอีกฝ่าย เรื่องการขอยืมเงินมาใช้หนี้ของพ่อ เนื่องจากครอบครัวของเพื่อนรักมากทั้งบารมีและเงินตรา 

“อ๋อค่ะ”

“ยายบี๋ ลูกอยากให้ความฝันเป็นจริงไหม”

อยู่ๆ ผู้เป็นแม่ก็โพล่งขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาลูกสาวถึงกับหน้าเหวอ

“แม่พูดอะไรคะ บี๋ไม่เข้าใจ”

“ก็เรื่องการมีสามีและลูก ตามความฝันไง”

คราวนี้บูรณิมาถึงกับหลุดขำพรืด เพราะคิดว่าแม่คงพูดเล่น คนเราทุกคนย่อมฝันได้ บางคนนอนมากก็ฝันมาก บางคนเครียด หมกมุ่น ฟุ้งซ่าน ฝังใจ จนเก็บไปฝันก็มี ซึ่งเธอเองไม่คิดว่าเรื่องราวในความฝันอันยาวนานจะเป็นเรื่องจริง เธอเพียงต้องการหาความจริงว่าช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอมากไปกว่าที่รู้หรือไม่ ซึ่งประเด็นหลักๆ เธอคิดว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้มากที่ผีน้อยอาจจะเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์เดียวกัน      

“บางทีแม่อาจจะทำให้ความฝันของลูกเป็นจริงก็ได้”    

ไม่รู้คิดไปเองหรือไม่อย่างไร ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าแววตาของแม่น่าหวาดหวั่นพิลึก

“แม่คิดจะทำอะไรคะ”

“ก็ทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมาสนใจลูกไง บางทีชีวิตของลูกอาจเป็นเหมือนที่ผีน้อยบอกก็ได้ ไม่อยากให้ความฝันเป็นจริงหรือไง” ท่าทางมุ่งมั่นแปลกๆ ของมารดาทำให้เธอรีบส่ายหน้าหวือจนผมกระจาย 

“ไม่ค่ะ! ไม่! ผู้ชายคนนั้นเขามีเมียมีลูกอยู่แล้ว บี๋ไม่ขอยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด อีกอย่างแม่ก็เป็นคนบอกบี๋เองนี่คะ ว่ามันก็เป็นแค่ความฝัน อย่าไปใส่ใจให้มันมากนัก”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โหด (ร้าย) รัก   อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (100%)

    “บี๋ไม่อยากได้เขาจริงเหรอ?”“แม่!”คราวนี้เธอถึงกับหลุดอุทานตาโต เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลั่นวาจาออกมาแบบนั้นนี่แม่ของเธอกำลังคิดอะไรกันแน่!“ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นพ่อของลูกบี๋ในอนาคตจริงๆ ก็ได้”“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ บี๋ไม่มีทางทำเรื่องผิดศีลธรรมแน่”บูรณิมาเอ่ยปฏิเสธอย่างหนักแน่น เพราะผู้ชายคนนั้นมีครอบครัวแล้ว ฉะนั้นเธอจึงไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะนึกถึงเขา ไม่ว่าจะในแง่มุมไหนทั้งสิ้น จริงๆ เธอไม่ควรจะนำเอาบุรุษที่มีภรรยาแล้วมามโนเป็นพระเอกนิยายของตัวเองเสียด้วยซ้ำ หากว่าไม่หลวมตัวตามคำเว้าวอนของศรีจิตตราก็คงไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจมากมายถึงเพียงนี้ “แค่ไม่มีเมียเขา ทุกอย่างมันก็จะกลายเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว…จริงไหม?” ท้ายน้ำเสียงของแม่กดลึกชวนใจสะท้านชอบกล “ไม่ค่ะ ยังไงมันก็ไม่ถูกต้อง”แค่คิดก็ผิดแล้วผิดมากๆผิดอย่างมหันต์ “แต่อะไรที่มันเป็นของเรา ยังไงมันก็ต้องเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ”แม่ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งงงไปใหญ่ แล้วบูรณิมาก็นึกเอะใจอะไรบางอย่าง“ยิ่งแม่พูดอย่างนี้ บี๋ยิ่งสงสัยว่าแม่มีอะไรปิดบังบี๋อยู่ หรือตอนที่บี๋ความจำเสื่อมมีผู้ชายคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง” คราวนี้เธอเอ

  • โหด (ร้าย) รัก   อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (75%)

    ทั้งที่จริงๆ แล้วความทรงจำของเธอควรจะขาดหายไปแค่ช่วงที่ประสบอุบัติเหตุเท่านั้น แต่น่าแปลกที่เธอดันจำเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนไม่ได้ด้วย ช่วงเวลาเหล่านั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้างเธอไม่มีทางรู้เลย ต่อให้จะเพียรถามพ่อแม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยได้ความกระจ่างแจ้งเสียที เพราะทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากถามพ่อกับแม่ก็จะตอบแค่ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าที่พวกท่านเล่าให้ฟัง ซึ่งบูรณิมาก็ไม่ได้แย้งอะไร แต่ลึกๆ ในใจกลับค้านว่ามันต้องมีอะไรมากไปกว่านั้น และความลับนั้นอาจเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่ไม่อยากให้เธอล่วงรู้ก็เป็นได้ อีกทั้งนึกยังไงก็นึกไม่ออก ว่าชีวิตตัวเองไปเชื่อมโยงกับผีน้อยตนนั้นได้อย่างไร แต่ก็คิดว่ามันน่าจะมีความเกี่ยวเนื่องอะไรกันสักอย่าง ไม่งั้นเธอคงไม่ฝันถึงผีเด็กหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน แต่ก็น่าแปลกเอามากๆ หากว่าวิญญาณเด็กจะเป็นลูกของเธอจริงๆ ตอนนั้นเธอเพิ่งจะเข้ามหา’ลัย ยังโสดสนิท ไม่เคยมีแฟน แล้วเธอจะมีลูกได้ยังไง ตอนแรกคิดว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อน ไม่ก็มีผีเด็กคอยตามขอส่วนบุญ แต่ไม่ว่าจะไปดูดวง ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล หรือไปหาพระ กี่ครั้งต

  • โหด (ร้าย) รัก   อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (50%)

    ‘นี่อย่าเพิ่งไปสิ! กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน!’ ร่างอวบอิ่มสะดุ้งเฮือก ตื่นจากห้วงฝันด้วยสภาพใบหน้าชื้นเหงื่อ ลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดมิด ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ความฝันพิลึกพิลั่นแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ตรงข้ามมันเกิดขึ้นบ่อยมาก แต่เธอไม่เคยชินสักครั้ง เมื่อตัวเองต้องกลายมาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของความฝัน หลังจากฟื้นคืนสติจากการประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสตอนอายุเกือบย่างยี่สิบ บูรณิมาก็ฝันประหลาดในลักษณะเดิมซ้ำๆ ตอนแรกเลือนลาง แต่นานวันยิ่งชัดเจนมากขึ้น ที่น่าพิลึก และสุดแสนจะน่าอาย ก็คือผีน้อยในฝันของเธอตนนั้นจะทึกทักว่าเธอคือแม่ตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกที่ปรากฏในความฝันจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบันอีกฝ่ายก็ยังพร่ำบอกว่าเธอคือแม่ ต่อให้จะไล่ จะขอร้องไม่ให้ตามรังควาน จนถึงขั้นยกมือไหว้ ผีเด็กก็ยังตามวอแวไม่เลิก แรกๆ เธอจิตตกหนักมากจนถึงขั้นไปหาหมอดู ไปบูชาของดีจากวัดดังๆ เพื่อหวังจะขับไล่ผีเด็กไปให้พ้นๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่กลัวอะไรเลยสักอย่าง ไม่ยอมไปผุดไปเกิด แถมยังมาหาเธอบ่อยขึ้นไปอีก แต่ที่น่าตกใจสุดก็คงเป็นการมาของผีน้อยในค่ำคืนนี้ มันต่างออกไป

  • โหด (ร้าย) รัก   อยู่ๆ ก็เป็นแม่ซะงั้น (25%)

    ‘แม่จ๋า…แม่…แม่บี๋จ๋า…’เสียงออดอ้อนแกมเรียกร้องความสนใจ ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาปั่นต้นฉบับหัวฟูอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊กสะดุดกึก มือที่รัวแป้นคีย์บอร์ดเพราะสมองกำลังแล่นฉิวพลันชะงักไปชั่วขณะ ‘เฮ้อ…’บูรณิมา กิตศิลปาจารย์ สาวน้อยหน้าใส วัยยี่สิบสาม เจ้าของส่วนสูงน่ารักร้อยห้าสิบห้าเซ็นติเมตร เรือนร่างอวบอิ่ม แก้มป่อง ขาวโอโม่ หน้าอกและสะโพกสะบึมเกินตัว จนเจ้าตัวมองว่าน่าอาย เธอพ่นลมหายใจออกมาด้วยความระอาแกมเหนื่อยใจ เงยหน้าขึ้น ถอดแว่นกรองแสงวางไว้ข้างโน้ตบุ๊กบนโต๊ะญี่ปุ่น ขยับตัวหันไปนั่งเผชิญหน้ากับร่างอ้วนจ้ำม่ำของวิญญาณเด็กผู้หญิงวัยประมาณสี่ขวบ ไม่ก็ห้าขวบ หรือหกขวบ ก่อนจะเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ ‘จะต้องให้บอกอีกกี่ครั้งหือ ว่าพี่ไม่ใช่แม่ของหนู’ อย่าว่าแต่ลูกเลย แฟนสักคนในชีวิตเธอยังไม่เคยมี ‘ช่ายยยยยย…’หนูน้อยทำปากยื่นเถียงกลับ ‘ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ใช่’‘ช่าย แม่บี๋ เป็นแม่หนู’วิญญาณเด็กหญิงตาแป๋วแก้มป่องยังคงยืนยันคำเดิมอย่างดื้อดึงจนน่าดึงแก้มย้วยๆ นั่นให้หลุดติดมือ จากนั้นตัวแสบก็โผเข้ากอดเธอ แล้วลดแก้มกลมๆ ลงมาถูแขนเรียวอย่างออดอ้

  • โหด (ร้าย) รัก   เหมือนจะเคย...(100%)

    บูรณิมาไม่รู้ว่าตนไปได้รอยแผลเป็นดังกล่าวมาได้อย่างไร โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นมันเหมือนเป็นรอยผ่าตัดอะไรสักอย่าง แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก อีกทั้งไม่เคยได้มีโอกาสปริปากสอบถามหมอ เพราะแม่บอกว่าหมอที่รักษาเธอในตอนนั้นได้ย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดแล้ว และแม่ก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ารอยแผลเป็นทั้งหมดนั้นเป็นผลพวงมาจากอุบัติเหตุร้ายแรงที่เธอประสบ ซึ่งบูรณิมาก็ไม่มีข้อโต้แย้ง เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้เธอแค่ปางตาย แต่ยังส่งผลให้ความทรงจำบางช่วงขาดหายไปด้วย หลังจากกลับมาเดินเหินได้ตามปกติ บูรณิมาก็ตัดสินใจไปสักลายดอกทานตะวัน ให้มองว่าออกแนวอาร์ตๆ ดูไม่น่าเกลียด และไม่แสลงใจอย่างที่รู้สึกอยู่ลึกๆ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่พิลึกชวนสงสัยเอามากๆ แต่เธอก็มิอาจรู้ว่าต้นตอของไอ้ความรู้สึกที่ว่าคืออะไรกันแน่ ครั้นบูรณิมาก้าวออกมาจากหลังที่กั้นในสภาพมิดชิดในนาทีต่อมา สาวน้อยก็ต้องเม้มปากแน่น เมื่ออีตาลุงบ้านั่นยังไม่ไปไหน หนำซ้ำยังมีหน้าหันมาจ้องเธอเขม็ง “คุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง?” เจ้าของพวงแก้มแดงเรื่อเอ่ยถามเสียงแข็งๆ ขณะหรี่ตาจ้องหน้าเขาไม่ลดละ ท่าทางเอาเรื่องของ

  • โหด (ร้าย) รัก   เหมือนจะเคย...(60%)

    ภูผาเอ่ยเตือนสติในตอนท้าย เพราะไม่เคยเห็นพื่อนรัก ‘เสียอาการ’ แบบนี้เลยสักครั้ง ถึงจักรพรรดิจะขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ แต่เวลาคบใครก็คบทีละคน พอมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็เลิกหมด ไม่เคยชายตาแลหญิงอื่นให้เมียต้องขุ่นข้องหมองใจ แต่วันนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเผลอลืมตัวมองสาวน้อยหุ่นน่าฟัดที่เพิ่งเดินผ่านไม่วางตา “แค่รู้สึกคุ้นหน้า”คนโดนย้อนทำเพียงไหวไหล่เบาๆ จักรพรรดิรู้สึกเหมือนเคยเจอสาวน้อยคนที่เพิ่งเดินผ่านหน้าไปเมื่อครู่ที่ไหนสักแห่ง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก แถมสมองยังเอาแต่ควานหาว่าเขาเคยรู้จักเธอหรือไม่ ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนเคยเจอ เคยเห็นหน้า เคยสัมผัส เคยใกล้ชิดมันน่าประหลาดเอามากๆ แม่ง! แค่เจอหน้า ทำไมต้องเอาแต่คิดเรื่องของยายเด็กนั่นด้วยวะ“เฮ้ย! เด็กเลี้ยงมึงหรือเปล่าวะ” “นั่นมันมึง ไม่ใช่กู กูไม่เคยเลี้ยงเด็ก กูไม่ชอบเด็ก”มาเฟียหน้าตายสวนกลับทันควัน“งั้นก็เป็นอดีตคู่ควง”“จะต้องให้ย้ำอีกกี่หน ว่ากูไม่ชอบเด็ก ไม่เหมือนมึงที่ชอบพรากผู้เยาว์”คราวนี้คนโดนไล่ต้อนเริ่มกดเสียงต่ำ ส่วนคนถูกหลอกด่าสองดอกติดๆ ทำเพียงไหวไหล่ไม่ยี่หระ“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมมึงมองเขา ‘ต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status