Share

โหยตัณหา
โหยตัณหา
Author: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update Huling Na-update: 2025-09-02 17:51:15

บทที่ ๑ ความรักของฮาโตริ เคนชิน

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2548

บุรุษชาวญี่ปุ่นวัย 55 ปี กำลังอยู่ในพิธีฌาปนกิจศพของสตรีที่เขาหลงรัก แต่ไม่อาจเอามาเป็นของตนได้อย่างอาลัยอาวรณ์ เพราะเธอผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว เจ้าของของเธอก็คือคู่ค้าทางธุรกิจคนสำคัญของเขานั่นเอง

เธอแต่งงานกับเจ้าของบริษัทเลิศอินเตอร์คอร์ปอเรชั่น ชีวิตของเธอดูน่าจะมีความสุขเพราะได้แต่งงานกับพ่อม่ายที่เพียบพร้อมอย่างประมาณ แต่ความจริงที่เขารู้และเห็นมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เธออยู่กับเขาด้วยความอดทน ทำงานเยี่ยงคนงานโดยไม่ปริปากบ่น เพราะเธอเป็นแม่ม่ายมีลูกติด เธออยากให้ลูกได้เรียน ได้กินอิ่มนอนหลับ ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อเหมือนในอดีต จึงต้องทนและอยู่อย่างเจียมตัว ไม่ได้มีความสุขกับความรักที่สามีมอบให้เลย เพราะเขารักแต่เธอ แต่ไม่ได้รักลูกของเธอเหมือนอย่างที่เคยรับปากเอาไว้

วันนี้เป็นวันสุดท้าย เป็นวันที่จะเผาร่างที่ไร้วิญญาณของเธอแล้ว แต่สามีของเธอก็ยังใจดำกับลูกเลี้ยง ไม่ยอมให้ลูกของเธอมายืนรวมกลุ่มกับเจ้าภาพ ภาพของหญิงสาวที่ยืนซบสามีและกอดลูกสาวตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้นห่างออกไปจากกลุ่มเจ้าภาพ ช่างเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจเหลือเกิน

หลังจากเผาศพเสร็จเรียบร้อย ฮาโตริ เคนชิน แห่งมามิยะกรุ๊ปก็เดินไปที่รถ เกือบจะถึงรถอยู่แล้วเขาก็หันไปเห็นลูกสาวของคนตายกำลังนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จึงเดินไปหาเธอ เขาโค้งศีรษะรับไหว้จากสามีของเธอ และลูบศีรษะเด็กหญิงที่ทำตามบิดาอย่างเอ็นดู

“คุณหนู คุณฮาโตริมาหาครับ” สุภัคกระซิบบอกภรรยาที่เอาฝ่ามือปิดหน้าร้องไห้อยู่

ระพีเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมา “คุณลุง”

“ฉันเสียใจด้วยนะ”

“ขอบคุณนะคะคุณลุง ที่มาส่งแม่หนู” พร้อมยกมือไหว้อีกฝ่าย

“แม่เขาไปดีแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว อย่าร้องไห้เลยนะ”

“ค่ะ” คำปลอบโยนของบุรุษชาวญี่ปุ่นทำให้ระพีสะอื้นหนักยิ่งกว่าเดิม เธอรู้ว่าแม่เหนื่อยมากแค่ไหน เธอจึงอดทนมาตลอดเพราะไม่อยากให้ท่านเหนื่อยมากขึ้นอีก พ่อเลี้ยงไม่รักเธอ ไม่เคยให้ความอบอุ่นแม้แต่ทางคำพูดกับเธอ ส่วนน้องๆ ต่างพ่ออีกสองคนนั้นไม่ต้องพูดถึง น้องชายไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเธอ ส่วนน้องสาวนั้น ยามลับหลังมารดาก็มักจะด่าทอเธออย่างไร้เหตุผล “หนูจะพยายามค่ะคุณลุง”

ฮาโตริหยิบนามบัตรส่งให้หญิงสาวด้วยความเศร้าใจ “ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ ถือซะว่าฉันเป็นพ่อของเธอนะ บอกฉันได้ทุกเรื่อง รับปากฉันสิระพี” เพราะสังหรณ์ใจไม่ดี เขาจึงสั่งกำชับเธออย่างหนักแน่น

ระพีรับนามบัตรของเขาไว้ ซาบซึ้งในน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ น้ำใจที่เธอไม่เคยได้รับจากพ่อเลี้ยง ถึงแม้เขาจะไม่เคยตีไม่เคยด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ก็มักจะเหน็บแนมด้วยคำพูดลับหลังมารดาอยู่เสมอ

“รับปากฉันสิหนูระพี” ฮาโตริย้ำอีกครั้ง

“ค่ะคุณลุง”

ผ่านไปเจ็ดปีหลังจากครั้งนั้น ฮาโตริไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากลูกสาวของสตรีที่แอบรักเลย วันนี้เขาเดินทางมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง จุดประสงค์หลักคือเพื่อพบเธอโดยเฉพาะ เพราะอยากรู้ว่าเธออยู่สุขสบายเพียงใด เมื่อได้รับโทรศัพท์เรียนเชิญจากประธานแห่งเลิศอินเตอร์คอร์ปอเรชั่น ที่ปัจจุบันยังมีหุ้นส่วนอยู่ในมามิยะประเทศไทยโดยตรง จึงรับปากทันทีอย่างไม่ลังเล

“คุณลุงไม่จำเป็นต้องมาก็ได้นี่ครับ แค่งานเลี้ยงครบรอบบริษัทของคุณประมาณ ให้ผมไปแทนก็ได้”

ฮาโตริ เคนชิน มองหน้าหลานชายแท้ ๆ เพียงคนเดียวของตนพร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนโยน

“ลุงไม่ได้อยากมาร่วมงานหรอกนะ แต่ลุงมีจุดประสงค์อื่นที่สำคัญกว่านั้นต่างหาก ลุงถึงได้ถ่อสังขารมานี่ไง”

“จุดประสงค์อะไรครับ บอกผมได้หรือเปล่า”

“ได้สิ ลุงไม่คิดจะปิดบังแกอยู่แล้ว ลุงแค่อยากมาเห็นหน้าลูกสาวของผู้หญิงที่ลุงเคยรักว่าเธออยู่สุขสบายดีไหม แค่นี้แหละ”

“แค่นี้เองเหรอครับเหตุผล” ไคมองผู้เป็นลุงอย่างไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่ ส่วนเรื่องราวของสตรีไทยที่ท่านเคยหลงรักก็พอได้ยินมาจากท่านบ้างแล้ว จึงไม่แปลกใจอะไร

“ก็เธอไม่ติดต่อมาหาลุงเลยนี่นา ลุงก็ต้องมาดูให้เห็นกับตาหน่อยสิ บอกตรงๆ ว่าลุงไม่มั่นใจเลยว่าคุณประมาณจะอุปการะเธอต่อไปอีก”

“คุณประมาณเขาคงไม่ใจดำกับลูกเลี้ยงขนาดนั้นหรอกครับคุณลุง”

“ถ้าเราไม่มีประโยชน์ร่วมกัน เขาคงไม่ดีกับเราแบบนี้หรอก” ถ้าหลานชายเคยเห็นแบบที่เขาเห็นคงจะไม่พูดแบบนี้

“เอาไว้ดูกันวันงานก็แล้วกันนะครับ ว่าลุงจะคิดถูกหรือผิด”

“อือ ว่าแต่วันนี้แกว่างนักเหรอ ทำไมถึงมารับลุงได้ล่ะ”

“ทำไมคุณลุงถามผมแบบนี้ล่ะครับ จะว่างหรือไม่ว่างยังไงผมก็ต้องมารับลุงของผมด้วยตัวเองสิครับ จะให้คนอื่นมาแทนได้ยังไง”

“แกช่างเป็นหลานที่กตัญญูรู้คุณเสียจริง”

คนถูกชมขมวดคิ้วนิดๆ มองหน้าลุงที่กำลังอมยิ้มด้วยสายตาสงสัย ไม่แน่ใจว่านั่นคือคำชมหรือคำพูดประชด

“ไค”

“ครับ”

“ถ้าสิ่งที่ลุงกังวลเป็นเรื่องจริง แกต้องช่วยลุงนะ”

“ช่วยอะไรครับ อย่าบอกนะว่าจะให้ผมตามหาพวกเขา... เฮ้อ! ผมไม่อยากจะทำหรอกนะครับ แต่เพื่อคุณลุงผมจะยอมก็แล้วกัน” ลุงก็เปรียบเสมือนพ่อของเขา เพราะเขาเสียพ่อไปตั้งแต่ยังอยู่ในท้องของแม่ ดังนั้นอะไรที่ทำให้ท่านสบายใจได้เขาก็อยากจะทำ

ก๊อก ๆ ๆ

“ขออนุญาตสักครู่นะคะครูเกตุ” คุณครูประจำห้องแนะแนวใช้ไม้เรียวที่ถือติดมือเคาะประตูห้องเรียนเพื่อให้สัญญาณครูที่กำลังสอน

“เชิญค่ะ”

“สุภัครพี เลิกเรียนแล้วไปหาครูที่ห้องแนะแนวด้วยนะ”

“ค่ะคุณครู”

“ขอบคุณค่ะครูเกตุ” ครูแนะแนวหันไปขอบคุณครูผู้สอนแล้วเดินจากไป

“คุณครูเรียกหนูทำไมเหรอคะ” หลังจากจบคาบเรียน เด็กสาววัยสิบเจ็ดก็มาพบครูที่ห้องแนะแนว

“นั่งสิ เธอยังอยากทำงานอยู่ไหมสุภัครพี”

“อยากค่ะคุณครู” เด็กสาวตอบรับทันที

“เธอจะไม่ถามหน่อยเหรอว่างานอะไร”

“ไม่ค่ะ ถ้าคุณครูหาให้ก็แสดงว่าเป็นงานที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว”

นงนุชคลี่ยิ้ม พยักหน้าคล้อยตามคำพูดของลูกศิษย์คนโปรด เธอรู้จักเด็กคนนี้มานานก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ และสนิทชิดเชื้อกับพ่อแม่ของอีกฝ่าย รู้เรื่องราวทุกอย่างพอประมาณ และยังกำความลับสำคัญเอาไว้อีกเรื่องหนึ่งด้วย

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • โหยตัณหา   7

    “ขอบคุณพี่กาแฟมากนะคะ แค่นี้ครีมก็ซาบซึ้งมากแล้วค่ะ แต่ครีมยังไหวค่ะ”“ยังไม่ทันได้ช่วยอะไรก็ซาบซึ้งแล้วเหรอ”“แค่มีน้ำใจให้ครีมก็ซาบซึ้งแล้วค่ะ”“ซาบซึ้งอะไรกันจ๊ะ”เสียงทักกระแนะกระแหนจากทางด้านหลังทำให้หนุ่มสาวรุ่นพี่รุ่นน้องต่างหันไปมอง“นิ่ม!”“ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะกาแฟ” หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ถามชายหนุ่มรุ่นเดียวกัน เหลือบมองไปทางหญิงสาวรุ่นน้องด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ได้ยินแต่คำร่ำลือว่ากาแฟมาติดพันรุ่นน้องปีหนึ่ง แต่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง รอดสายตานิ่มไปเกือบปีได้ยังไงกันนะ”“ครีมคิดว่าพี่สาวกำลังเข้าใจผิดนะคะ” สุภัครพีตอบยิ้ม ๆ เพื่อจะทำให้อีกฝ่ายสบายใจ แต่เธอคงคิดผิด เธอรีบหุบยิ้ม เม้มปากแน่นแล้วหันไปมองชายหนุ่มตัวต้นเหตุ ส่งสายตาบอกให้เขาช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดกับหญิงสาวผู้มาใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นคนรักของเขา“พูดอะไรแบบนั้นล่ะนิ่ม อย่าทำให้แฟกับน้องครีมมองหน้ากันไม่ติดสิ”“ทำไมนิ่มต้องทำแบบที่กาแฟพูดด้วยล่ะ นิ่มหึงนิ่มก็แสดงออกว่าหึง นิ่มผิดด้วยเหรอ” อดีตดาวมหาวิทยาลัยนามว่ากชกรบอกกับชายหนุ่มอดีตเดือนมหาวิทยาลัย“จะมาหึงแฟทำไม เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ” พรหมเทพทำ

  • โหยตัณหา   6

    มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของสาวน้อยเบา ๆ ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับเธอ “ตาบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกังวลเรื่องของพ่อ ตาจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”“ไม่ได้หรอกค่ะคุณตา เราไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูจะเห็นแก่ตัวได้อย่างไรคะ”“ทำไมจะไม่ได้เป็น หนูเป็นหลานของคุณสุนทรี คนที่เคยดีกับตาทุกอย่าง ดังนั้นตามีโอกาสได้ตอบแทนน้ำใจของท่านก็ตอนนี้แหละ”“แม่บอกว่ายายทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทนหรอกค่ะคุณตา แม่หนูก็สอนหนูแบบนี้เหมือนกัน”“ถ้าอย่างนั้นคิดซะว่าหนูเป็นหลานของตาก็แล้วกันนะ หลานยายสุนทรีคือหลานตาฮาโตริ ดีไหม.. หือ” เห็นเธอลังเลเขาจึงย้ำถามในลำคอ“ค่ะ แต่คุณตาคะ”“หือ”“หนูซาบซึ้งในน้ำใจของคุณตามาก ๆ และกราบขอบพระคุณที่เมตตาหนู แต่หนูคงรับน้ำใจของคุณตาฝ่ายเดียวไม่ได้ เอาเป็นว่าหนูจะพยายามหาเงินมาใช้ให้คุณตานะคะ หนูจะค่อย ๆ ผ่อนใช้ให้คุณตาเท่าที่หนูจ่ายไหวนะคะ”“หนูเรียนหนังสืออยู่ไม่ใช่เหรอ” เขารู้ว่าเธอทำงานพาร์ตไทม์ที่โรงแรมในเครือมามิยะ แต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง“เรียนค่ะ แต่หนูก็ทำงานด้วย เดี๋ยวหนูจะลองหางานทำเพิ่มอีกสักอย่าง”“อย่าทำแบบนั้นเลยนะหนู ร่างกายจะย่ำแย่เอา ถ้าป่วยขึ้นมาอีกคนใครจะดูแลพ่อล่ะ เอาเป็น

  • โหยตัณหา   5

    บทที่ 5 ความรักไม่ใช่ความผิดสุภัคถอนหายใจ เดินคอตกไปนั่งร่วมวงกับลูกสาว แล้วตักข้าวใส่ปากด้วยมือที่สั่นเทาเพราะหิวเหล้าจัดหญิงสาวมองอาการมือสั่นจนน่ากลัวของบิดา ได้แต่ฝืนกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เป็นขนาดนี้แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดเหล้า ท่านไม่ห่วงเธอที่เป็นลูกเพียงคนเดียวบ้างเลยเหรอ ผิดกับเธอที่เป็นห่วงท่านที่สุดในชีวิต ห่วงจนตัดใจไม่ยอมรับทุนแลกเปลี่ยนที่ทางมหาวิทยาลัยเสนอให้ เธอยอมทิ้งอนาคตเพื่อท่าน แต่ท่านไม่เคยคิดจะสร้างอนาคตให้เธอเลยแต่ถึงจะเป็นแบบนี้เธอก็ไม่โกรธท่านหรอก เพราะรู้ว่ามันเกิดจากความรักที่ท่านมีต่อมารดา ความรักไม่ใช่ความผิด“พ่อ!” สุภัครพีอุทานด้วยความตกใจ เมื่อบิดาที่เพิ่งตักข้าวใส่ปากได้แค่สองคำช้อนร่วงลงจากมือ ตัวงอกุมท้องร้องโอดโอย ก่อนจะอาเจียนเลือดสด ๆ ออกมา “พ่อ! พ่อเป็นอะไร พ่อจ๋า” หญิงสาวเข้าไปประคองบิดา น้ำตาไหลด้วยความตกใจและเป็นห่วง“พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก ไม่ต้องตกใจไป” สุภัคเช็ดเลือดที่ปากแล้วปลอบโยนลูกสาวเสียงอ่อนโยน ทนข่มอาการปวดท้องที่เป็นบ่อยมากในระยะหลัง ๆ มานี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันมาเกิดต่อหน้าลูกสาวเ

  • โหยตัณหา   4

    บทที่ 4 เพื่อนเราคนนี้ไร้เดียงสาอารยารู้ว่าเพื่อนประหยัดมาก เงินทุกบาทที่หามาได้ต้องใช้สอยอย่างรอบคอบ แม้แต่ของฟุ่มเฟือยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แทบจะไม่ได้ซื้อ เธอจึงมักจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีให้เพื่อนด้วย อย่างพี่สาวของเธอที่ทำงานอยู่ในบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำ เมื่อได้สินค้าทดลองใช้มา เธอก็มักจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนคนนี้ได้ใช้เสมอ“อือ อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ภาคต่อของทรูเลิฟจะออกมาแล้วนะ ได้อ่านที่ให้ไปหรือยัง”“อ่านแต่แบบเล่มเดียวจบ แบบที่เป็นเล่มต่อยังไม่ค่อยได้อ่านหรอก อ่านแล้วอารมณ์มันค้างน่ะ”“จีนก็ไม่อ่านเหมือนกัน เมื่อก่อนอ่านนะ อ่านแล้วเสียอารมณ์เป็นบ้า บางทีค้างตอนเลิฟซีน หงุดหงิดมากขอบอก”“ปั่นหัวเพื่อนครีมอีกแล้วนะคุณหนูจีน” พันวาที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบเหน็บเพื่อนสาวลูกเจ้าของธุรกิจที่มีนิสัยก๋ากั่น ปากคอเราะรายผิดกับคุณหนูทั่วไป“ปั่นอะไรยะคุณวา ฉันยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ”“เธอก็รู้ว่าเพื่อนเราคนนี้ไร้เดียงสาแค่ไหน ยังจะพูดเรื่องเลิฟซีนให้นางฟังอีก เดี๋ยวนางก็ตัวแดงหรอก” เป็นที่รู้กันในกลุ่มว่าเวลาเพื่อนสาวคนนี้อายทีไร ตัวจะแดงเถือกทั้งตัว ไม่ใช่แดงเฉพาะใบหน้าเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา

  • โหยตัณหา   3

    บทที่ 3 ไค เคนชิน“ฉันชื่อสุภัครพี... นามสกุลสนิทศรีศิลป์ค่ะ” เธอลังเลอยู่สักพักว่าจะบอกนามสกุลด้วยหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาบอกมาแล้วก็เลยบอกบ้าง“นามสกุลคุณคุ้นหูผมมากเลย” ไคขมวดคิ้วมุ่น พยายามนึกว่าเคยได้ยินหรือรู้จักกับใครที่นามสกุลนี้ แต่ก็นึกไม่ออก และเสียความมั่นใจสุด ๆ ที่เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการแนะนำตัวของเขา เขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่นะ เธอไม่คุ้นบ้างเลยเหรอ“อาจจะแค่คล้ายมั้งคะ คนจน ๆ แบบฉันไม่เคยรู้จักคนต่างชาติหรอกค่ะ” เธอกดลิฟต์ค้างแล้วหันหลังให้เขาเมื่อลิฟต์มาถึงชั้นที่เขากด นับหนึ่งถึงสามให้จังหวะเขาเหนี่ยวขาขึ้น...เมื่อมาถึงห้องพักของเขาเธอก็ร้องอุทานอยู่ในใจ เพราะมันกว้างขวาง โอ่อ่า เรียกว่าอลังการแบบสุด ๆ เป็นบุญตาสำหรับเธอเหลือเกินที่ได้ย่างกรายเข้ามา“ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์แบกยักษ์อย่างผมมาส่งถึงห้องพัก” ไคบอกกับหญิงสาวที่แบกเขามาส่งถึงโซฟา “นั่งพักดื่มอะไรสักหน่อยสิ”“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณถึงห้องปลอดภัยฉันก็ดีใจแล้ว ฉันลากลับเลยก็แล้วกันนะคะ” สุภัครพียกมือไหว้ชายหนุ่มที่เพิ่งสังเกตว่าทั้งหล่อและบุคลิกดีอย่างนอบน้อม ส่งยิ้มสดใสให้กับเขาแล้วหมุนตัวเดินจากไป พ

  • โหยตัณหา   2

    บทที่ 2 พนักงานพาร์ตไทม์“เพื่อนของครูที่เป็นผู้จัดการโรงแรม เขาต้องการพนักงานพาร์ตไทม์ เธอสนใจไหม” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักปี เธอคงไม่ต้องเรียกคุยกับเด็กคนนี้ที่โรงเรียน เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่หลังจากมารดาของเธอเสียไปแล้ว พ่อของเธอที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนเอาการเอางานก็ใจสลาย กลายเป็นคนขี้เมาหยำเป วัน ๆ เอาแต่ดื่มแล้วก็นั่งร้องไห้ จนธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า บ้านก็ถูกธนาคารยึดจนต้องย้ายไปอยู่ห้องเช่าแทน“สนใจค่ะคุณครู แต่หนูต้องทำอะไรบ้างคะ”“เป็นบริกร ทำงานในห้องอาหาร เริ่มงานหกโมงครึ่ง เลิกสี่ทุ่มครึ่ง เขาให้สามร้อย รวมอาหารด้วยหนึ่งมื้อ คิดว่าทำได้ไหม”“ได้ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ”“ถ้ามีงานเขาจะโทรมาตามเอง เดี๋ยวครูจะเอาเบอร์โทรของเธอให้เพื่อนครูไว้ก็แล้วกัน”“แต่หนูไม่มีโทรศัพท์นะคะคุณครู” พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกยื่นมาวางไว้ข้างหน้าของเธอ“สามีครูเพิ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด ครูยกเครื่องนี้ให้เธอ ครูซื้อซิมใหม่ใส่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”เด็กสาวเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็รีบหุบลงและส่ายหน้าปฏิเสธ มันไม่ใช่ของเธอ เธอไม่ควรดีใจ“คุณครูอย่าให้หนูฟรี ๆ เลยนะคะ ขายให้หนูดีก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status