LOGINบทที่ 2 พนักงานพาร์ตไทม์
“เพื่อนของครูที่เป็นผู้จัดการโรงแรม เขาต้องการพนักงานพาร์ตไทม์ เธอสนใจไหม” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักปี เธอคงไม่ต้องเรียกคุยกับเด็กคนนี้ที่โรงเรียน เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่หลังจากมารดาของเธอเสียไปแล้ว พ่อของเธอที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนเอาการเอางานก็ใจสลาย กลายเป็นคนขี้เมาหยำเป วัน ๆ เอาแต่ดื่มแล้วก็นั่งร้องไห้ จนธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า บ้านก็ถูกธนาคารยึดจนต้องย้ายไปอยู่ห้องเช่าแทน
“สนใจค่ะคุณครู แต่หนูต้องทำอะไรบ้างคะ”
“เป็นบริกร ทำงานในห้องอาหาร เริ่มงานหกโมงครึ่ง เลิกสี่ทุ่มครึ่ง เขาให้สามร้อย รวมอาหารด้วยหนึ่งมื้อ คิดว่าทำได้ไหม”
“ได้ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ”
“ถ้ามีงานเขาจะโทรมาตามเอง เดี๋ยวครูจะเอาเบอร์โทรของเธอให้เพื่อนครูไว้ก็แล้วกัน”
“แต่หนูไม่มีโทรศัพท์นะคะคุณครู” พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกยื่นมาวางไว้ข้างหน้าของเธอ
“สามีครูเพิ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด ครูยกเครื่องนี้ให้เธอ ครูซื้อซิมใหม่ใส่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”
เด็กสาวเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็รีบหุบลงและส่ายหน้าปฏิเสธ มันไม่ใช่ของเธอ เธอไม่ควรดีใจ
“คุณครูอย่าให้หนูฟรี ๆ เลยนะคะ ขายให้หนูดีกว่า แต่หนูไม่มีเงินให้คุณครูทีเดียวหรอกนะคะ หนูทำงานได้แล้วค่อยผ่อนให้คุณครูได้ไหมคะ”
“เอาไปเถอะ เก็บไว้ครูก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี” นงนุชยืนยันหนักแน่น “ทำงานได้เงินแล้วซื้อข้าวมันไก่มาฝากครูสักห่อก็พอ”
“ค่ะคุณครู ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าได้ทำงานแล้วก็ตั้งใจทำให้ดีล่ะ เพราะถ้าเราขยันเขาจะจ้างเราตลอดเลยนะ”
“ค่ะคุณครู”
2 ปีผ่านไป
มงคลมองหญิงสาวที่ทำงานพาร์ตไทม์อยู่กับตนมาประมาณสองปีแล้ว จากการแนะนำของเพื่อนสนิทที่เป็นครูโรงเรียนเก่าของเธอ เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเธอจะอดทนได้ขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเพราะสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ แล้วยังต้องคอยดูแลพ่อขี้เมาอีกหนึ่งชีวิต จึงเมตตาเธอเป็นพิเศษ และเธอก็เป็นเด็กดีสมกับที่เขาให้ความเมตตา
“ครีม”
“ค่ะผู้จัดการ”
“จะกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ ผู้จัดการมีงานอะไรให้หนูทำหรือเปล่าคะ บอกมาได้เลยค่ะ” เธอถามผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมอย่างกระตือรือร้น
“ไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวลุงก็จะกลับแล้วเหมือนกัน รอสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม เดี๋ยวลุงแวะไปส่งที่บ้านให้” เมื่อไม่มีพนักงานคนอื่นอยู่แถวนั้น เขาก็พูดจาเป็นกันเองกับเธอมากขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูนั่งรถเมล์ไปเองดีกว่า คุณลุงจะได้ตรงกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่ต้องวกรถไปมาให้เสียเวลา” เธอไม่อยากรบกวนเขา เพราะต้องแวะซื้อข้าวไปให้พ่อที่เอาแต่เมาเหล้าหลังจากเสียแม่ไป
“แต่ข้างนอกฝนตกนะ”
“หนูพกร่มมาค่ะ แล้วป้ายรถเมล์ก็อยู่ใกล้ ๆ นี้เอง ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูลากลับเลยนะคะ”
“อือ เดินทางปลอดภัยนะ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณลุง” หญิงสาววัยสิบเก้าหย่อน ๆ ยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่.. เดินมาถึงทางออกสำหรับพนักงานก็ต้องทำหน้านิ่ว หญิงสาวเปิดกระเป๋าหยิบร่มแล้วกางลุยฝนออกไป เธออยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุดเพราะเป็นห่วงบิดา
ขณะที่กำลังเดินออกมาตามทางเดินด้านหลังของโรงแรมอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ ตอนแรกกะจะเดินหนีให้เร็วเพราะความกลัว แต่เมื่อสังเกตดี ๆ ก็เห็นความผิดปกติ ด้วยความเป็นคนขี้สงสัย และความรู้สึกบอกว่าเขากำลังเดือดร้อน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาแต่ก็ทิ้งระยะห่างพอสมควร
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ” แล้วก้มลงเก็บแฟ้มที่เปียกฝนกับกระดาษอีกหลายใบที่หล่นกระจายบนพื้น “ของคุณหรือเปล่าคะ”
“ครับ” ไคตอบหญิงสาวแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะเขาเพิ่งสะดุดล้มด้วยความรีบร้อน ทำให้ข้อเท้าข้างหนึ่งซ้น ต้องกระโดดกระต่ายขาเดียวมาหลบฝนอยู่ตรงมุมนี้ ครั้นจะกระโดดเข้าไปในตึกก็กลัวจะพลาดจนบาดเจ็บเพิ่มอีก “ผมจะโทรหาเลขาให้มารับ แต่โทรศัพท์ดันแบตหมด คุณพอจะมีโทรศัพท์ให้ผมขอยืมใช้หน่อยไหมครับ”
“โทรศัพท์มีค่ะ แต่ไม่มีเงินให้โทรออก ขอโทษด้วยนะคะ” ถ้าเธอไม่ได้โทรยืมเงินกับเครือข่ายไปแล้ว เธอก็จะโทรยืมให้เขาอยู่หรอก เธอรู้สึกผิดที่ช่วยเหลือเขาไม่ได้เลย เขาคงจะเป็นแขกของทางโรงแรมแน่ ๆ “คุณพักอยู่ที่นี่เหรอคะ”
“ครับ ผมเป็น”
“ขึ้นมาเลยค่ะ”
ไคตกใจเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวหันหลังให้โดยที่ไม่ฟังเขาพูดให้จบก่อน “ทำไมเหรอครับ”
“ขึ้นขี่หลังฉันเลยค่ะ เดี๋ยวฉันพาคุณไปส่งที่ห้องเอง”
“อะไรนะครับ!” ไคตกใจกับความคิดของหญิงสาว เพราะเธอตัวเล็กกว่าเขามาก เขาสูง 183 หนักเกือบ 80 แล้วเธอล่ะ ดู ๆ ด้วยสายตาแล้วน่าจะสัก 160 ไม่เกินนี้แน่ หุ่นแบบนี้..หนักเต็มที่ไม่น่าเกิน 55 กิโล เธอคิดได้ยังไง อยากหลังหักหรือไง หรืออยากจะพาเขากลิ้งกลางสายฝนพรำแบบนี้อีกรอบ
“ฉันรู้นะคะว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ฉันแข็งแรงนะคะ ขึ้นมาเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ”
เห็นเธอยืนยันหนักแน่นก็เกิดอยากจะลองแกล้งดูสักตั้ง เขาจึงค่อย ๆ โถมตัวแนบกับแผ่นหลังบอบบาง ไขว้แขนเข้าหากันแล้วค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักลงไปจนหมดก่อนจะเอาขาขึ้น
“ไหวแน่นะครับคุณ”
“ไหวสิคะ ฉันนับหนึ่งถึงสามแล้วคุณยกขาขึ้นมาเลยนะคะ หนึ่ง สอง สาม ฮึบ.. หนักใช่เล่นเลยนะคะ” เธอยังมีอารมณ์กลั้วหัวเราะแม้ภาระบนหลังจะหนักหน่วงจนแทบทรุด แต่เมื่อเธอฮึดสู้ ปลุกพลังยักษ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวขึ้นมา ก็รู้สึกว่าพอทนไหว “ฉันจะพาคุณไปขึ้นลิฟต์ที่ลานจอดรถนะคะ เพราะมันใกล้สุด ฉันจะได้พักตอนอยู่ในลิฟต์ด้วย เก็บแรงไว้แบกคุณต่อรอบสองตอนถึงชั้นที่พักไงคะ”
ชายหนุ่มผู้บริหารมามิยะในประเทศไทยอยากหัวเราะกับความคิดของหญิงสาว เธอโง่หรือว่าจิตใจดีจนเกินเหตุกันแน่ ถ้าเป็นเขา เขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด แต่จะไปตามพนักงานโรงแรมที่เป็นผู้ชายมาช่วยแทน เขามองซีกหน้าละมุนที่ชื้นเหงื่อหรือฝนก็ไม่แน่ใจ รู้สึกอยากจะยื่นมือไปเช็ดให้เธอขึ้นมาดื้อ ๆ
“ปล่อยผมลงก่อนก็ได้นะ” เขาบอกกับเธอเมื่อไปถึงหน้าลิฟต์ “ผมนับถือคุณจริง ๆ ตัวก็เล็กนิดเดียวแต่แบกผู้ชายตัวโตอย่างผมได้” เขาชวนเธอคุยขณะรอให้ลิฟต์มารับ
“ฉันมียักษ์อยู่ในตัวค่ะ เวลาอยากทำงานใช้แรงก็ปลุกมันขึ้นมา”
“คุณทำงานอยู่ที่นี่เหรอ”
“ค่ะ แต่ไม่ใช่พนักงานประจำหรอกนะคะ มาทำพาร์ตไทม์เฉพาะเวลาที่ฝ่ายจัดเลี้ยงต้องการพนักงานเพิ่ม ลิฟต์มาแล้วค่ะ คุณเขย่งเข้าไปได้ไหมคะ”
“ได้ครับ แล้วมาทำบ่อยไหม” เขาตอบรับ แล้วเริ่มชวนคุยต่อเมื่อเข้าไปอยู่ในลิฟต์
“ค่อนข้างบ่อยนะคะ เพราะที่นี่ได้รับความนิยมมาก ก็เลยมีงานเลี้ยงต่อเนื่อง เต็มเกือบทุกห้องตลอด”
“แล้วทำไมไม่มาทำประจำล่ะ”
“ฉันยังเรียนหนังสืออยู่ค่ะ”
“อ๋อ เป็นนักเรียนนี่เอง คุณชื่ออะไร ผมชื่อไค เคนชิน เป็นคนญี่ปุ่น”
ใบหน้าเคร่งขรึมเผลอยิ้มออกมา เมื่อเห็นร่างที่นอนหลับไร้สติตะแคงตัวอยู่บนเตียงนอน ข้าง ๆ เตียงมีกล่องของขวัญที่สุทธิดาส่งมาให้แทนคำขอบคุณเปิดอยู่ ข้างในมีชุดชั้นในและชุดนอนผ้าซีทรูที่เข้าชุดกันหลายชุด เขาเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงอย่างนุ่มนวลที่สุด เพราะกลัวจะทำให้เธอตื่น แต่ก็ทำพลาดจนได้ ร่างบางส่งเสียงอุทธรณ์ในลำคอก่อนจะลืมตาขึ้นมา “พี่ไค” เธองัวเงียเรียกเขา “มานานแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกครีมล่ะ” “พี่บอกให้กลับบ้านไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ” สามีตีหน้าขรึมเสียงขรึมใส่ภรรยา คิด ๆ แล้วก็อยากงอนเธอไปอีกหลาย ๆ วัน ที่ทำกับเขาเหมือนไม่ใช่สามี แต่ก็ทำไม่ลงเพราะรักเธอมากเกินไป คนถูกดุที่อยู่ใต้ผ้าห่มนวมเม้มปากแน่นก่อนจะค่อย ๆ คลายออก “ครีมไม่สบายใจนี่คะ ครีมอยากมาง้อ อยากมาขอโทษ” “ขอโทษเรื่องอะไร ครีมทำอะไรผิดถึงต้องมาขอโทษ” สุภัครพีลุกจากที่นอนแล้วดึงมือสามีมากุมไว้ “รู้ไหมคะว่าครีมดีใจมากแค่ไหนเวลาที่พี่ไคไปรับครีม แต่ถึงจะดีใจมากครีมก็ไม่อยากให้พี่ไคไปรับ เพราะครีมไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา ไม่อยากถูกครหาและไม่อยากให้พี่ไคต้องถูกนินทาไปด
ปฐพีแปลกใจกับการแสดงออกอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสไร้การเสแสร้งนั้นนัก เธอยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติแบบนั้นได้อย่างไรกัน ไม่รู้สึกเป็นปมด้อยกับตัวเองบ้างเหรอ ที่เกิดมาสวยและรวยมากแต่กลับกลายเป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขา“แล้วปกติหนูเล็กใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอย่างไรครับ คือผมสงสัยเพราะคุณบอกว่าจะซื้อรถเข็นมาใช้ แสดงว่าคุณยังไม่มีถูกไหมครับ”“ค่ะ” หญิงสาวตอบตรง ๆ “ปกติเล็กจะทำงานอยู่ในห้องนอนเสียส่วนใหญ่ ห้องนอนของหนูเล็กเหมือนคอนโดห้องหนึ่งเลยค่ะ มีมุมทานข้าว มุมนั่งเล่น มุมทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ถ้าจะออกจากห้องนอนก็ค่อย ๆ เดิน ค่อย ๆ พัก เดี๋ยวก็ลงมาถึงข้างล่างเองค่ะ แต่ส่วนใหญ่หนูเล็กจะขี่หลังจัสตินลงมามากกว่าค่ะ จัสตินบอกว่าหนูเล็กอวบเกิน เขาอุ้มไม่ไหวค่ะ” เธอเล่าไปยิ้มไป และยิ้มกว้างขึ้นเมื่อพูดถึงเพื่อนเกย์สุดที่รักที่เพิ่งมาจากอังกฤษ แต่ตอนนี้กำลังไปเที่ยวทะเลภาคใต้กับแฟนหนุ่มเพื่อหาไอเดียใหม่ ๆ“ใครคือจัสตินเหรอจ๊ะ” ประมาณถามอย่างสนใจเพราะรู้แน่ ๆ ว่าฝ่ายนั้นคือผู้ชาย“เพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ของหนูเ
จนล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มารดาของเธอก็ยื่นคำขาดว่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก เพราะเธอผลัดท่านมาสองปีแล้ว ท่านยอมรับข้อเสนอเรื่องที่เธอให้โกหกใครต่อใครว่าเป็นโรคประหลาด เท้าอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เดินเหินด้วยตัวเองแทบไม่ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วอาการที่ว่ามานั้นจะเกิดขึ้นได้ยากมาก ต้องเดินไกล ๆ เป็นกิโลหรือยืนนาน ๆ เป็นชั่วโมงเท่านั้นอาการถึงจะกำเริบแล้วท่านก็รับปากอีกข้อว่าถ้าแต่งงานแล้วในอนาคตต้องหย่าร้างกัน ท่านจะไม่ก้าวก่ายกับชีวิตส่วนตัวของเธออีกดังนั้นเธอจึงตัดสินใจรับปากเรื่องแต่งงาน เมื่อสืบประวัติของว่าที่เจ้าบ่าวมาอย่างละเอียดแล้วรู้ว่าฝ่ายนั้นก็ตกที่นั่งเดียวกับเธอเหมือนกัน เขาเป็นคนเย็นชาไม่รู้จักกับความรัก เป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ชอบผู้หญิงสวยสง่าและเซ็กซี่ซึ่งต่างกับเธออย่างสิ้นเชิงเธอเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ และฝันที่จะมีความรักแบบเจ้าชายกับเจ้าหญิง ถ้าเขาเป็นขั้วบวกเธอก็เป็นขั้วลบ รับรองว่าชีวิตคู่ต้องล่มจมไม่เป็นท่าตั้งแต่ปีแรกแน่ ๆ แบบนี้แหละที่เธอต้องการที่สุด“ถ้าลูกตัดสินใจเองพ่อก็ตามใจลูก พ่อหวังว่าลูกจะมีความสุขกับการตัดสินใจของลูกนะ”
“ส่วนเธอ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอไปได้ยินอะไรมาหรืออิจฉาอะไรครีมเขา แต่เธอควรจะรู้เอาไว้ว่าครีมไม่ใช่เด็กเสี่ยอย่างที่เธอเข้าใจ ครีมเขาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันทุกประการ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอย่าให้ฉันได้ยินว่าเธอดูถูกภรรยาฉันอีก ฉันจะดำเนินคดีกับเธอสถานเดียว” ไคหยิบนามบัตรจากกระเป๋ายื่นให้เธอ “เธอควรรู้เอาไว้ว่าฉันเป็นใคร ก่อนที่คิดจะท้าทายคำพูดของฉัน” แล้วยื่นอีกใบให้คนที่เป็นอาจารย์กชกรรับนามบัตรมาอ่าน.. ปากที่แสยะอย่างไม่ค่อยพอใจเปลี่ยนเป็นเม้มแน่น ใจแป้วลงไปทันทีที่ได้เห็นชื่อบริษัทและตำแหน่งบนนามบัตรใบนั้นแม้แต่พรหมเทพยังตกใจเมื่อได้รู้ความจริง เขาหันไปมองหญิงสาวที่เคยตามจีบ ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าเป็นเมียมหาเศรษฐี เพราะเธอทำตัวติดดินมาก“พี่ขอโทษแทนนิ่มด้วยนะครีม พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก วา จีน แล้วก็แมวด้วย พี่ขอโทษจากใจเลย”“คุมเมียพี่ให้ดีหน่อยก็แล้วกันพี่กาแฟ อย่าปล่อยให้บ้าอีกล่ะ” พันวากล่าวอย่างไม่ค่อยเต็มใจจะยกโทษให้สักเท่าไหร่“ครีมแต่งงานกับพี่ไคแล้วจริง ๆ พวกเราเป
“พอ ๆ หยุด ๆ” ความโกลาหลเกิดขึ้นในทันที เพื่อน ๆ ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ช่วยกันห้ามช่วยกันดึงเพื่อนออกมา“ปล่อยกู! กูบอกว่าปล่อยกูไงไอ้กาแฟ มึงไม่เห็นเหรอว่ามันตบกูตั้งหลายที” กชกรพยายามจะดิ้นออกจากวงแขนของคนรักให้ได้“มาสิอีดอก อีร่าน มึงแน่จริงมึงก็เข้ามาเลย กูจะตบเลาะฟันให้ร่วงหมดปากเลยมึง” พันวาก็พยายามจะถลาเข้าไปหาอีกฝ่าย แต่ก็ถูกเพื่อน ๆ ดึงตัวเอาไว้“มึงเสือกอะไร กูไม่ได้ด่ามึงซะหน่อย คนโดนด่าเขายังไม่ร้อนตัวเลย”“ก็เพราะครีมมันไม่ร้อนไงกูถึงได้ร้อนแทน ปากมึงว่างนักเหรอไง ถ้าว่างมากก็ไปแดกขี้ลูกมึงไป จะได้เลิกเห่าหอนใส่ชาวบ้านเขา”“พอเถอะวา อายเขา” สุภัครพีห้ามเพื่อน “เดี๋ยวอาจารย์มาเห็นเข้าก็เป็นเรื่องหรอก”“เป็นก็เป็นสิ จะได้รู้กันไปเลยว่าใครผิด”“มึงนั่นแหละผิด กูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุดคอยดูสิอีวา อีดอก”“ก็เอาเลยสิอีนิ่ม อีดอกทองเอ๊ย”“กรี๊ดดดด..” กชกรสะบัดแขนสุดแรงจนสามารถพาตัวเอ
“ขอบใจมากเลยนะที่ยังนึกถึงพี่ แล้วที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง หมดหนาวหรือยัง” “ไม่หนาวไม่ร้อน อากาศกำลังดีถ้าใส่แขนยาวนะคะ” “แล้วได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างล่ะ” “ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกค่ะ” เธอไล่ชื่อสถานที่เที่ยวที่ได้ไปในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ญี่ปุ่นให้เขาฟัง “เขาว่าหนุ่มญี่ปุ่นหล่อ ๆ เยอะ เดินกันเกลื่อนถนนจริงหรือเปล่า” “ไม่จริงหรอกค่ะ ที่ครีมเห็นยังไม่มีใครหล่อเท่าพี่ชายของครีมสักคน” เธอพูดเอาใจเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง“รวมคุณไคด้วยหรือเปล่า”“คนนั้นเป็นข้อยกเว้นค่ะ คนนั้นเขาเป็นเทพบุตรค่ะ”“ไม่ค่อยเข้าข้างสามีตัวเองเลยนะ” แม้จะรู้สึกคันยิบ ๆ ที่หัวใจ แต่เขาก็แ







