Share

2

last update Huling Na-update: 2025-09-02 17:52:28

บทที่ 2 พนักงานพาร์ตไทม์

“เพื่อนของครูที่เป็นผู้จัดการโรงแรม เขาต้องการพนักงานพาร์ตไทม์ เธอสนใจไหม” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักปี เธอคงไม่ต้องเรียกคุยกับเด็กคนนี้ที่โรงเรียน เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่หลังจากมารดาของเธอเสียไปแล้ว พ่อของเธอที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนเอาการเอางานก็ใจสลาย กลายเป็นคนขี้เมาหยำเป วัน ๆ เอาแต่ดื่มแล้วก็นั่งร้องไห้ จนธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า บ้านก็ถูกธนาคารยึดจนต้องย้ายไปอยู่ห้องเช่าแทน

“สนใจค่ะคุณครู แต่หนูต้องทำอะไรบ้างคะ”

“เป็นบริกร ทำงานในห้องอาหาร เริ่มงานหกโมงครึ่ง เลิกสี่ทุ่มครึ่ง เขาให้สามร้อย รวมอาหารด้วยหนึ่งมื้อ คิดว่าทำได้ไหม”

“ได้ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ”

“ถ้ามีงานเขาจะโทรมาตามเอง เดี๋ยวครูจะเอาเบอร์โทรของเธอให้เพื่อนครูไว้ก็แล้วกัน”

“แต่หนูไม่มีโทรศัพท์นะคะคุณครู” พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกยื่นมาวางไว้ข้างหน้าของเธอ

“สามีครูเพิ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด ครูยกเครื่องนี้ให้เธอ ครูซื้อซิมใหม่ใส่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”

เด็กสาวเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็รีบหุบลงและส่ายหน้าปฏิเสธ มันไม่ใช่ของเธอ เธอไม่ควรดีใจ

“คุณครูอย่าให้หนูฟรี ๆ เลยนะคะ ขายให้หนูดีกว่า แต่หนูไม่มีเงินให้คุณครูทีเดียวหรอกนะคะ หนูทำงานได้แล้วค่อยผ่อนให้คุณครูได้ไหมคะ”

“เอาไปเถอะ เก็บไว้ครูก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี” นงนุชยืนยันหนักแน่น “ทำงานได้เงินแล้วซื้อข้าวมันไก่มาฝากครูสักห่อก็พอ”

“ค่ะคุณครู ขอบคุณค่ะ”

“ถ้าได้ทำงานแล้วก็ตั้งใจทำให้ดีล่ะ เพราะถ้าเราขยันเขาจะจ้างเราตลอดเลยนะ”

“ค่ะคุณครู”

2 ปีผ่านไป

มงคลมองหญิงสาวที่ทำงานพาร์ตไทม์อยู่กับตนมาประมาณสองปีแล้ว จากการแนะนำของเพื่อนสนิทที่เป็นครูโรงเรียนเก่าของเธอ เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเธอจะอดทนได้ขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเพราะสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ แล้วยังต้องคอยดูแลพ่อขี้เมาอีกหนึ่งชีวิต จึงเมตตาเธอเป็นพิเศษ และเธอก็เป็นเด็กดีสมกับที่เขาให้ความเมตตา

“ครีม”

“ค่ะผู้จัดการ”

“จะกลับแล้วเหรอ”

“ค่ะ ผู้จัดการมีงานอะไรให้หนูทำหรือเปล่าคะ บอกมาได้เลยค่ะ” เธอถามผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมอย่างกระตือรือร้น

“ไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวลุงก็จะกลับแล้วเหมือนกัน รอสักครึ่งชั่วโมงได้ไหม เดี๋ยวลุงแวะไปส่งที่บ้านให้” เมื่อไม่มีพนักงานคนอื่นอยู่แถวนั้น เขาก็พูดจาเป็นกันเองกับเธอมากขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูนั่งรถเมล์ไปเองดีกว่า คุณลุงจะได้ตรงกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่ต้องวกรถไปมาให้เสียเวลา” เธอไม่อยากรบกวนเขา เพราะต้องแวะซื้อข้าวไปให้พ่อที่เอาแต่เมาเหล้าหลังจากเสียแม่ไป

“แต่ข้างนอกฝนตกนะ”

“หนูพกร่มมาค่ะ แล้วป้ายรถเมล์ก็อยู่ใกล้ ๆ นี้เอง ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูลากลับเลยนะคะ”

“อือ เดินทางปลอดภัยนะ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณลุง” หญิงสาววัยสิบเก้าหย่อน ๆ ยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่.. เดินมาถึงทางออกสำหรับพนักงานก็ต้องทำหน้านิ่ว หญิงสาวเปิดกระเป๋าหยิบร่มแล้วกางลุยฝนออกไป เธออยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุดเพราะเป็นห่วงบิดา

ขณะที่กำลังเดินออกมาตามทางเดินด้านหลังของโรงแรมอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งโดยบังเอิญ ตอนแรกกะจะเดินหนีให้เร็วเพราะความกลัว แต่เมื่อสังเกตดี ๆ ก็เห็นความผิดปกติ ด้วยความเป็นคนขี้สงสัย และความรู้สึกบอกว่าเขากำลังเดือดร้อน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาแต่ก็ทิ้งระยะห่างพอสมควร

“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ” แล้วก้มลงเก็บแฟ้มที่เปียกฝนกับกระดาษอีกหลายใบที่หล่นกระจายบนพื้น “ของคุณหรือเปล่าคะ”

“ครับ” ไคตอบหญิงสาวแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะเขาเพิ่งสะดุดล้มด้วยความรีบร้อน ทำให้ข้อเท้าข้างหนึ่งซ้น ต้องกระโดดกระต่ายขาเดียวมาหลบฝนอยู่ตรงมุมนี้ ครั้นจะกระโดดเข้าไปในตึกก็กลัวจะพลาดจนบาดเจ็บเพิ่มอีก “ผมจะโทรหาเลขาให้มารับ แต่โทรศัพท์ดันแบตหมด คุณพอจะมีโทรศัพท์ให้ผมขอยืมใช้หน่อยไหมครับ”

“โทรศัพท์มีค่ะ แต่ไม่มีเงินให้โทรออก ขอโทษด้วยนะคะ” ถ้าเธอไม่ได้โทรยืมเงินกับเครือข่ายไปแล้ว เธอก็จะโทรยืมให้เขาอยู่หรอก เธอรู้สึกผิดที่ช่วยเหลือเขาไม่ได้เลย เขาคงจะเป็นแขกของทางโรงแรมแน่ ๆ “คุณพักอยู่ที่นี่เหรอคะ”

“ครับ ผมเป็น”

“ขึ้นมาเลยค่ะ”

ไคตกใจเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวหันหลังให้โดยที่ไม่ฟังเขาพูดให้จบก่อน “ทำไมเหรอครับ”

“ขึ้นขี่หลังฉันเลยค่ะ เดี๋ยวฉันพาคุณไปส่งที่ห้องเอง”

“อะไรนะครับ!” ไคตกใจกับความคิดของหญิงสาว เพราะเธอตัวเล็กกว่าเขามาก เขาสูง 183 หนักเกือบ 80 แล้วเธอล่ะ ดู ๆ ด้วยสายตาแล้วน่าจะสัก 160 ไม่เกินนี้แน่ หุ่นแบบนี้..หนักเต็มที่ไม่น่าเกิน 55 กิโล เธอคิดได้ยังไง อยากหลังหักหรือไง หรืออยากจะพาเขากลิ้งกลางสายฝนพรำแบบนี้อีกรอบ

“ฉันรู้นะคะว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ฉันแข็งแรงนะคะ ขึ้นมาเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ”

เห็นเธอยืนยันหนักแน่นก็เกิดอยากจะลองแกล้งดูสักตั้ง เขาจึงค่อย ๆ โถมตัวแนบกับแผ่นหลังบอบบาง ไขว้แขนเข้าหากันแล้วค่อย ๆ ผ่อนน้ำหนักลงไปจนหมดก่อนจะเอาขาขึ้น

“ไหวแน่นะครับคุณ”

“ไหวสิคะ ฉันนับหนึ่งถึงสามแล้วคุณยกขาขึ้นมาเลยนะคะ หนึ่ง สอง สาม ฮึบ.. หนักใช่เล่นเลยนะคะ” เธอยังมีอารมณ์กลั้วหัวเราะแม้ภาระบนหลังจะหนักหน่วงจนแทบทรุด แต่เมื่อเธอฮึดสู้ ปลุกพลังยักษ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวขึ้นมา ก็รู้สึกว่าพอทนไหว “ฉันจะพาคุณไปขึ้นลิฟต์ที่ลานจอดรถนะคะ เพราะมันใกล้สุด ฉันจะได้พักตอนอยู่ในลิฟต์ด้วย เก็บแรงไว้แบกคุณต่อรอบสองตอนถึงชั้นที่พักไงคะ”

ชายหนุ่มผู้บริหารมามิยะในประเทศไทยอยากหัวเราะกับความคิดของหญิงสาว เธอโง่หรือว่าจิตใจดีจนเกินเหตุกันแน่ ถ้าเป็นเขา เขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด แต่จะไปตามพนักงานโรงแรมที่เป็นผู้ชายมาช่วยแทน เขามองซีกหน้าละมุนที่ชื้นเหงื่อหรือฝนก็ไม่แน่ใจ รู้สึกอยากจะยื่นมือไปเช็ดให้เธอขึ้นมาดื้อ ๆ

“ปล่อยผมลงก่อนก็ได้นะ” เขาบอกกับเธอเมื่อไปถึงหน้าลิฟต์ “ผมนับถือคุณจริง ๆ ตัวก็เล็กนิดเดียวแต่แบกผู้ชายตัวโตอย่างผมได้” เขาชวนเธอคุยขณะรอให้ลิฟต์มารับ

“ฉันมียักษ์อยู่ในตัวค่ะ เวลาอยากทำงานใช้แรงก็ปลุกมันขึ้นมา”

“คุณทำงานอยู่ที่นี่เหรอ”

“ค่ะ แต่ไม่ใช่พนักงานประจำหรอกนะคะ มาทำพาร์ตไทม์เฉพาะเวลาที่ฝ่ายจัดเลี้ยงต้องการพนักงานเพิ่ม ลิฟต์มาแล้วค่ะ คุณเขย่งเข้าไปได้ไหมคะ”

“ได้ครับ แล้วมาทำบ่อยไหม” เขาตอบรับ แล้วเริ่มชวนคุยต่อเมื่อเข้าไปอยู่ในลิฟต์

“ค่อนข้างบ่อยนะคะ เพราะที่นี่ได้รับความนิยมมาก ก็เลยมีงานเลี้ยงต่อเนื่อง เต็มเกือบทุกห้องตลอด”

“แล้วทำไมไม่มาทำประจำล่ะ”

“ฉันยังเรียนหนังสืออยู่ค่ะ”

“อ๋อ เป็นนักเรียนนี่เอง คุณชื่ออะไร ผมชื่อไค เคนชิน เป็นคนญี่ปุ่น”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • โหยตัณหา   7

    “ขอบคุณพี่กาแฟมากนะคะ แค่นี้ครีมก็ซาบซึ้งมากแล้วค่ะ แต่ครีมยังไหวค่ะ”“ยังไม่ทันได้ช่วยอะไรก็ซาบซึ้งแล้วเหรอ”“แค่มีน้ำใจให้ครีมก็ซาบซึ้งแล้วค่ะ”“ซาบซึ้งอะไรกันจ๊ะ”เสียงทักกระแนะกระแหนจากทางด้านหลังทำให้หนุ่มสาวรุ่นพี่รุ่นน้องต่างหันไปมอง“นิ่ม!”“ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะกาแฟ” หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ถามชายหนุ่มรุ่นเดียวกัน เหลือบมองไปทางหญิงสาวรุ่นน้องด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ได้ยินแต่คำร่ำลือว่ากาแฟมาติดพันรุ่นน้องปีหนึ่ง แต่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง รอดสายตานิ่มไปเกือบปีได้ยังไงกันนะ”“ครีมคิดว่าพี่สาวกำลังเข้าใจผิดนะคะ” สุภัครพีตอบยิ้ม ๆ เพื่อจะทำให้อีกฝ่ายสบายใจ แต่เธอคงคิดผิด เธอรีบหุบยิ้ม เม้มปากแน่นแล้วหันไปมองชายหนุ่มตัวต้นเหตุ ส่งสายตาบอกให้เขาช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดกับหญิงสาวผู้มาใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นคนรักของเขา“พูดอะไรแบบนั้นล่ะนิ่ม อย่าทำให้แฟกับน้องครีมมองหน้ากันไม่ติดสิ”“ทำไมนิ่มต้องทำแบบที่กาแฟพูดด้วยล่ะ นิ่มหึงนิ่มก็แสดงออกว่าหึง นิ่มผิดด้วยเหรอ” อดีตดาวมหาวิทยาลัยนามว่ากชกรบอกกับชายหนุ่มอดีตเดือนมหาวิทยาลัย“จะมาหึงแฟทำไม เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ” พรหมเทพทำ

  • โหยตัณหา   6

    มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของสาวน้อยเบา ๆ ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับเธอ “ตาบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกังวลเรื่องของพ่อ ตาจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”“ไม่ได้หรอกค่ะคุณตา เราไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูจะเห็นแก่ตัวได้อย่างไรคะ”“ทำไมจะไม่ได้เป็น หนูเป็นหลานของคุณสุนทรี คนที่เคยดีกับตาทุกอย่าง ดังนั้นตามีโอกาสได้ตอบแทนน้ำใจของท่านก็ตอนนี้แหละ”“แม่บอกว่ายายทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทนหรอกค่ะคุณตา แม่หนูก็สอนหนูแบบนี้เหมือนกัน”“ถ้าอย่างนั้นคิดซะว่าหนูเป็นหลานของตาก็แล้วกันนะ หลานยายสุนทรีคือหลานตาฮาโตริ ดีไหม.. หือ” เห็นเธอลังเลเขาจึงย้ำถามในลำคอ“ค่ะ แต่คุณตาคะ”“หือ”“หนูซาบซึ้งในน้ำใจของคุณตามาก ๆ และกราบขอบพระคุณที่เมตตาหนู แต่หนูคงรับน้ำใจของคุณตาฝ่ายเดียวไม่ได้ เอาเป็นว่าหนูจะพยายามหาเงินมาใช้ให้คุณตานะคะ หนูจะค่อย ๆ ผ่อนใช้ให้คุณตาเท่าที่หนูจ่ายไหวนะคะ”“หนูเรียนหนังสืออยู่ไม่ใช่เหรอ” เขารู้ว่าเธอทำงานพาร์ตไทม์ที่โรงแรมในเครือมามิยะ แต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง“เรียนค่ะ แต่หนูก็ทำงานด้วย เดี๋ยวหนูจะลองหางานทำเพิ่มอีกสักอย่าง”“อย่าทำแบบนั้นเลยนะหนู ร่างกายจะย่ำแย่เอา ถ้าป่วยขึ้นมาอีกคนใครจะดูแลพ่อล่ะ เอาเป็น

  • โหยตัณหา   5

    บทที่ 5 ความรักไม่ใช่ความผิดสุภัคถอนหายใจ เดินคอตกไปนั่งร่วมวงกับลูกสาว แล้วตักข้าวใส่ปากด้วยมือที่สั่นเทาเพราะหิวเหล้าจัดหญิงสาวมองอาการมือสั่นจนน่ากลัวของบิดา ได้แต่ฝืนกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เป็นขนาดนี้แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดเหล้า ท่านไม่ห่วงเธอที่เป็นลูกเพียงคนเดียวบ้างเลยเหรอ ผิดกับเธอที่เป็นห่วงท่านที่สุดในชีวิต ห่วงจนตัดใจไม่ยอมรับทุนแลกเปลี่ยนที่ทางมหาวิทยาลัยเสนอให้ เธอยอมทิ้งอนาคตเพื่อท่าน แต่ท่านไม่เคยคิดจะสร้างอนาคตให้เธอเลยแต่ถึงจะเป็นแบบนี้เธอก็ไม่โกรธท่านหรอก เพราะรู้ว่ามันเกิดจากความรักที่ท่านมีต่อมารดา ความรักไม่ใช่ความผิด“พ่อ!” สุภัครพีอุทานด้วยความตกใจ เมื่อบิดาที่เพิ่งตักข้าวใส่ปากได้แค่สองคำช้อนร่วงลงจากมือ ตัวงอกุมท้องร้องโอดโอย ก่อนจะอาเจียนเลือดสด ๆ ออกมา “พ่อ! พ่อเป็นอะไร พ่อจ๋า” หญิงสาวเข้าไปประคองบิดา น้ำตาไหลด้วยความตกใจและเป็นห่วง“พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก ไม่ต้องตกใจไป” สุภัคเช็ดเลือดที่ปากแล้วปลอบโยนลูกสาวเสียงอ่อนโยน ทนข่มอาการปวดท้องที่เป็นบ่อยมากในระยะหลัง ๆ มานี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันมาเกิดต่อหน้าลูกสาวเ

  • โหยตัณหา   4

    บทที่ 4 เพื่อนเราคนนี้ไร้เดียงสาอารยารู้ว่าเพื่อนประหยัดมาก เงินทุกบาทที่หามาได้ต้องใช้สอยอย่างรอบคอบ แม้แต่ของฟุ่มเฟือยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แทบจะไม่ได้ซื้อ เธอจึงมักจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีให้เพื่อนด้วย อย่างพี่สาวของเธอที่ทำงานอยู่ในบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำ เมื่อได้สินค้าทดลองใช้มา เธอก็มักจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนคนนี้ได้ใช้เสมอ“อือ อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ภาคต่อของทรูเลิฟจะออกมาแล้วนะ ได้อ่านที่ให้ไปหรือยัง”“อ่านแต่แบบเล่มเดียวจบ แบบที่เป็นเล่มต่อยังไม่ค่อยได้อ่านหรอก อ่านแล้วอารมณ์มันค้างน่ะ”“จีนก็ไม่อ่านเหมือนกัน เมื่อก่อนอ่านนะ อ่านแล้วเสียอารมณ์เป็นบ้า บางทีค้างตอนเลิฟซีน หงุดหงิดมากขอบอก”“ปั่นหัวเพื่อนครีมอีกแล้วนะคุณหนูจีน” พันวาที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบเหน็บเพื่อนสาวลูกเจ้าของธุรกิจที่มีนิสัยก๋ากั่น ปากคอเราะรายผิดกับคุณหนูทั่วไป“ปั่นอะไรยะคุณวา ฉันยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ”“เธอก็รู้ว่าเพื่อนเราคนนี้ไร้เดียงสาแค่ไหน ยังจะพูดเรื่องเลิฟซีนให้นางฟังอีก เดี๋ยวนางก็ตัวแดงหรอก” เป็นที่รู้กันในกลุ่มว่าเวลาเพื่อนสาวคนนี้อายทีไร ตัวจะแดงเถือกทั้งตัว ไม่ใช่แดงเฉพาะใบหน้าเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา

  • โหยตัณหา   3

    บทที่ 3 ไค เคนชิน“ฉันชื่อสุภัครพี... นามสกุลสนิทศรีศิลป์ค่ะ” เธอลังเลอยู่สักพักว่าจะบอกนามสกุลด้วยหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาบอกมาแล้วก็เลยบอกบ้าง“นามสกุลคุณคุ้นหูผมมากเลย” ไคขมวดคิ้วมุ่น พยายามนึกว่าเคยได้ยินหรือรู้จักกับใครที่นามสกุลนี้ แต่ก็นึกไม่ออก และเสียความมั่นใจสุด ๆ ที่เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการแนะนำตัวของเขา เขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่นะ เธอไม่คุ้นบ้างเลยเหรอ“อาจจะแค่คล้ายมั้งคะ คนจน ๆ แบบฉันไม่เคยรู้จักคนต่างชาติหรอกค่ะ” เธอกดลิฟต์ค้างแล้วหันหลังให้เขาเมื่อลิฟต์มาถึงชั้นที่เขากด นับหนึ่งถึงสามให้จังหวะเขาเหนี่ยวขาขึ้น...เมื่อมาถึงห้องพักของเขาเธอก็ร้องอุทานอยู่ในใจ เพราะมันกว้างขวาง โอ่อ่า เรียกว่าอลังการแบบสุด ๆ เป็นบุญตาสำหรับเธอเหลือเกินที่ได้ย่างกรายเข้ามา“ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์แบกยักษ์อย่างผมมาส่งถึงห้องพัก” ไคบอกกับหญิงสาวที่แบกเขามาส่งถึงโซฟา “นั่งพักดื่มอะไรสักหน่อยสิ”“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณถึงห้องปลอดภัยฉันก็ดีใจแล้ว ฉันลากลับเลยก็แล้วกันนะคะ” สุภัครพียกมือไหว้ชายหนุ่มที่เพิ่งสังเกตว่าทั้งหล่อและบุคลิกดีอย่างนอบน้อม ส่งยิ้มสดใสให้กับเขาแล้วหมุนตัวเดินจากไป พ

  • โหยตัณหา   2

    บทที่ 2 พนักงานพาร์ตไทม์“เพื่อนของครูที่เป็นผู้จัดการโรงแรม เขาต้องการพนักงานพาร์ตไทม์ เธอสนใจไหม” ถ้าเป็นก่อนหน้านี้สักปี เธอคงไม่ต้องเรียกคุยกับเด็กคนนี้ที่โรงเรียน เพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่หลังจากมารดาของเธอเสียไปแล้ว พ่อของเธอที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจและเป็นคนเอาการเอางานก็ใจสลาย กลายเป็นคนขี้เมาหยำเป วัน ๆ เอาแต่ดื่มแล้วก็นั่งร้องไห้ จนธุรกิจเจ๊งไม่เป็นท่า บ้านก็ถูกธนาคารยึดจนต้องย้ายไปอยู่ห้องเช่าแทน“สนใจค่ะคุณครู แต่หนูต้องทำอะไรบ้างคะ”“เป็นบริกร ทำงานในห้องอาหาร เริ่มงานหกโมงครึ่ง เลิกสี่ทุ่มครึ่ง เขาให้สามร้อย รวมอาหารด้วยหนึ่งมื้อ คิดว่าทำได้ไหม”“ได้ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ”“ถ้ามีงานเขาจะโทรมาตามเอง เดี๋ยวครูจะเอาเบอร์โทรของเธอให้เพื่อนครูไว้ก็แล้วกัน”“แต่หนูไม่มีโทรศัพท์นะคะคุณครู” พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกยื่นมาวางไว้ข้างหน้าของเธอ“สามีครูเพิ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิด ครูยกเครื่องนี้ให้เธอ ครูซื้อซิมใหม่ใส่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”เด็กสาวเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็รีบหุบลงและส่ายหน้าปฏิเสธ มันไม่ใช่ของเธอ เธอไม่ควรดีใจ“คุณครูอย่าให้หนูฟรี ๆ เลยนะคะ ขายให้หนูดีก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status