Mag-log inลีอาห์เดินลงบันไดมายังชั้นล่างของบ้านในเช้าวันใหม่ที่สดใส แสงแดดอ่อนส่องลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ เข้ามา ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่น
ทว่าทันทีที่สายตาของหญิงสาวเหลือบไปเห็นร่างสูงของมาเฟียหนุ่มที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาพร้อมกับถือแท็บเล็ตไว้ในมือ สีหน้ายิ้มแย้มที่มีมาตลอดตั้งแต่ตื่นนอน ก็แปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งในชั่วพริบตา
เพราะเธอยังคงจำได้ดีถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาไม่อนุญาตให้เธอเล่นน้ำ ซึ่งพอคิดถึงเรื่องนั้น ความหงุดหงิดเล็ก ๆ ก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง
หญิงสาวสูดหายใจเฮือกหนึ่งอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจใครบ้างคน แล้วรีบเดินสาวเท้าเพื่อจะออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด
“จะไม่ทักทายฉันหน่อยเหรอ”
เสียงทุ้มต่ำของมาโครดังขึ้น พร้อมกับสายตาคมที่ยังจับจ้องอยู่บนหน้าจอแท็บเล็ตโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
ลีอาห์ที่ได้ยินก็ชะงักฝีเท้า เธอหันกลับมามองเขาพร้อมย่นจมูกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเรียบ
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ!”
คราวนี้มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอโดยตรง “จะไปเรียนเหรอ”
“ใส่ชุดขนาดนี้ ถ้าไม่มีเรียนจะใส่ทำไม ถามแปลก ๆ” เธอบ่นพึมพำออกมาอย่างไม่พอใจนัก
ร่างเล็กเม้มปากแน่น ความรู้สึกขุ่นเคืองที่ถูกขัดใจจากเหตุการณ์เมื่อวานยังไม่จางหาย ทำให้เสียงของเธอฟังดูงอแงราวกับเด็กที่ไม่ได้ของเล่น ซึ่งทำให้คนฟังถึงกับยกยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว
“ไม่กินข้าวเช้าหรือไง”
“ไม่หิว” เธอตอบทันควันโดยไม่มองหน้า
“ไม่หิวก็ต้องกิน” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย “ดื้อไม่รู้เรื่อง”
“ก็คนมันไม่หิวนี่คะ” หญิงสาวสะบัดหน้าเบา ๆ ก่อนตอบกลับอย่างดื้อดึง “ถ้าหนูหิวเดี๋ยวจะไปหากินที่โรงอาหารของคณะเอง”
“แล้วจะไปยังไง”
เสียงเข้มทุ้มของมาเฟียหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับสายตาคมที่จ้องมองหญิงสาวที่กำลังยืนกอดกระเป๋า
“นั่งแท็กซี่ไป ถามทำไมคะ” ลีอาห์ตอบเสียงห้วน พลางหลุบตา ลงมองพื้น ไม่อยากสบตาเขานาน
“เดวิดจะออกไปเอาของให้ฉัน เดี๋ยวให้มันไปส่งเธอด้วย”
“.....” ร่างเล็กชะงัก หันมามองเขาทันที “ไม่ดีกว่าค่ะ หนูไปเองดีกว่า”
น้ำเสียงฟังดูสุภาพแต่แฝงด้วยความดื้อรั้นชัดเจน เธอไม่ชอบให้ใครต้องลำบากเพราะตัวเอง อีกอย่าง การต้องนั่งรถกับลูกน้องของเขา มันก็รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้
“ไม่ขัดสักเรื่องจะได้ไหม”
“ก็ไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะต้องให้คุณเดวิดไปส่งหนูเลย ทุกวันหนูก็นั่งแท็กซี่ไปเอง” เธอยังไม่ยอมอ่อนเสียงลง
“ก็วันนี้ฉันจะให้มันไปส่งเธอ” มาโครตอบสั้น ๆ ตาคมเข้มจ้องมองร่างเล็กอย่างเอาแต่ใจ เหมือนคำพูดของเขาคือกฎที่ไม่มีใครเถียงได้
หญิงสาวเม้มปากแน่น พยายามกลั้นไม่ให้ถอนหายใจแรง “ก็ได้ อยากให้ไปก็ไป”
“ฉันว่ากระโปรงเธอมันสั้นไป ไปเรียนหรือว่าไปอ่อยผู้ชาย”
“แล้วถ้าหนูไปอ่อยผู้ชาย คุณมายุ่งอะไรด้วย”
คำพูดของหญิงสาว ทำให้มาเฟียหนุ่มที่นั่งจ้องมองอยู่ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ
“เถียงคำไม่ตกฟาก”
“มีเรื่องที่จะพูดกับหนูแค่นี้ใช่ไหม หนูจะได้ไปเรียน”
“แล้วใครจับขาเธอไว้” เขาตอบหน้าตาย จากนั้นก็ก้มมองอ่านงานในแท็บเล็ตของตัวเองต่อ
ลีอาห์เบ้ปากเล็กน้อยอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วเดินตึงตังออกมาจากบ้านอย่างหัวเสีย
พอเดินพ้นขอบประตูออกมาด้านหน้า เธอก็พบเข้ากับเดวิดลูกน้องคนสนิทของมาโครที่ยืนพิงรถหรูอยู่ ใบหน้าคมคายของเขาเงยขึ้นเมื่อเห็นเธอ ก่อนจะรีบเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้
ซึ่งพอเธอก้าวขึ้นรถเรียบร้อย เดวิดก็ปิดประตูให้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะรีบเดินอ้อมมาขึ้นนั่งฝั่งคนขับ จากนั้นจึงสตาร์ตรถและขับออกมาด้วยความเร็วไม่มากนัก
ครืด! ครืด!
ในขณะที่นั่งรถออกมาจากบ้านได้ไม่นาน โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังสั่นขึ้นมา ซึ่งลีอาห์เห็นแบบนั้นก็รีบล้วงหยิบขึ้นมาเปิดดู พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของพี่สาว หญิงสาวก็รีบกดรับทันทีด้วยความคิดถึง
“คิดถึงจังเลย”
(เหมือนกัน)
“พี่เลทำอะไรอยู่เหรอคะ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง”
เธอเอ่ยถาม เลอาห์ พี่สาวของตัวเอง เพราะปกติแล้วพี่สาวของเธอนั้นเวลาจะโทรหาจะเป็นช่วงบ่าย หรือก็ไม่ช่วงค่ำมากกว่า แต่วันนี้เพิ่งแปดโมงเช้าเอง อีกฝ่ายกลับโทรหาเธอ ซึ่งมันแปลกมาก ๆ
(วันนี้มีธุระแต่เช้า)
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง”
(อยู่ที่นั่นเป็นไงบ้าง เริ่มชินหรือยัง)
“เริ่มชินแล้วค่ะ อะไรหลาย ๆ อย่างเข้าที่หมดแล้ว” เธอพูดตามความจริงเพราะตอนที่มาอยู่บ้านของมาเฟียหนุ่มแรก ๆ นั้นเธอพูดตามตรงแล้วว่าเธอไม่ชินเอามาก ๆ เพราะบ้านหลังนั้นมีผู้ชายซะส่วนใหญ่ ส่วนผู้หญิงก็มีแค่ไม่กี่คนเอง
“คิดถึงพี่มาก ตอนไหนเราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันคะ”
(ทนอีกหน่อย อีกไม่นาน)
“ไม่นานมันเท่าไรล่ะ ลีถามพี่เลทีไรก็บอกว่าอีกไม่นานอีกไม่นาน ลีไม่อยากอยู่บ้านคนอื่นแล้ว”
(ขอโทษ อีกนิดเดียวเท่านั้น... ก่อนเราเรียนจบแน่นอน)
“ลีขอโทษ ลีไม่ได้ตั้งใจให้พี่คิดมากนะ ลีก็แค่อยากให้เรากลับมาอยู่ด้วยกันเร็ว ๆ แค่นั้น” พอได้ยินน้ำเสียงของพี่สาวที่เริ่มไม่สบายใจ ร่างเล็กก็รู้สึกผิด จึงรีบเอ่ยขอโทษออกไป
(พี่เข้าใจ งั้นพี่ขอวางสายก่อนนะ พอดีเจ้านายเรียกหาแล้ว)
“ค่ะ” พอเธอเอ่ยพูดออกไป เลอาห์พี่สาวเธอก็กดตัดสาย ซึ่งหญิงสาวเห็นแบบนั้นก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไว้เหมือนเดิม จากนั้นก็หันหน้าไปมองวิวข้างทางพลางพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ
หลายชั่วโมงต่อมา...
“คุณลียังไม่กลับบ้านนะครับนาย”
ขณะที่รถยนต์คันหรูแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ เดวิดที่นั่งอยู่ที่นั่งด้านข้างคนขับก็เอ่ยพูดออกมา ซึ่งมาโครที่กำลังนั่งอ่านงานอยู่ในแท็บเล็ตก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมเพิ่งมาบอกกู”
“ขอโทษครับนาย ผมเพิ่งได้ข่าวจากคนของเรา”
“แล้วรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้อยู่ไหน”
“ห้าง XX กับเพื่อนสาวเธอครับ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนไปเล่นโบว์ลิงด้วยกัน แล้วก็ไปกินข้าวกันต่อครับ”
คิ้วเข้มของมาเฟียหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาคมกริบสะท้อนประกายเย็นเยียบ เขาวางแท็บเล็ตลงบนเบาะข้างตัว ก่อนจะล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อสูทขึ้นมากดต่อสายหาหญิงสาว
โดยรอไม่นานนัก ปลายสายก็กดรับ เสียงสดใสของลีอาห์ก็เอ่ยออกมา
(ค่ะ คุณมาร์ค)
“ตอนนี้สามทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้าน” น้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่แฝงด้วยแรงกดดันที่ทำให้ปลายสายเงียบไปชั่วครู่
“ตอบ!”
(หนูส่งข้อความไปบอกพี่เลแล้วว่าวันนี้จะนอนห้องเพื่อนค่ะ)
“ส่งให้พี่เธอทำไม เธอต้องส่งให้ฉัน เพราะตอนนี้ฉันเป็นคนดูแลเธอ”
ปลายสายมีเสียงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่เสียงเล็กจะตอบกลับมาอย่างดื้อดึง
(งั้นวันนี้หนูนอนห้องเพื่อนนะคะ)
“กลับบ้าน” เขาออกคำสั่งเสียงเข้มทันที
(แล้วทำไมจะต้องมาบังคับกันด้วย หนูบอกแล้วไงว่าวันนี้จะนอนห้องเพื่อน!) เสียงของเธอเริ่มมีอารมณ์แฝงอยู่ ทั้งโกรธ ทั้งขัดใจ
“จะกลับมาเอง หรือจะให้ฉันไปตามกลับ” น้ำเสียงของเขาเย็นลงจนน่ากลัว ข่มให้บรรยากาศในรถที่เงียบอยู่แล้วยิ่งหนักอึ้ง
(ก็ได้... เดี๋ยวหนูให้เพื่อนไปส่ง)
พอร่างเล็กตอบกลับตามที่เขาต้องการ มาเฟียหนุ่มก็กดตัดสายทันทีโดยไม่พูดอะไรต่อ เขาเก็บโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋า สูดลมหายใจเข้าช้า ๆ พยายามกดอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน
“ไอ้อดิศรนายจะให้ผมไปจัดการให้ หรือว่านายอยากจะจัดการเองครับ”
“เอาตัวมันมาแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
“กูจะไปจัดการมันเอง” มาโครตอบเสียงเรียบพลางหยิบมีดพกสั้นที่วางอยู่ข้างโทรศัพท์ขึ้นมาควงเล่น
“ไปลากตัวลีอาห์กลับบ้าน”
วันต่อมา...หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ สองสามีภรรยาพากันขับรถมาที่บ้านใหญ่เพื่อมารับลูกชายเพื่อกลับบ้าน โดยทันทีที่ก้าวลงจากรถ ทั้งสองก็เดินจูงมือเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ก่อนจะพบพ่อแม่ของมาโครที่กำลังนั่งเล่นกับหลานอยู่ที่ห้องโถงกลางบ้านหญิงสาวก็ยกมือไหว้พ่อแม่สามีตามมารยาท คุณแม่ก็ส่งยิ้มกลับมาให้ ส่วนคุณพ่อแม้สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง แต่ก็ดูผ่อนคลายกว่าเดิมที่ผ่านมามาก“ผมมารับลูกกลับบ้านครับ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น“กลับเร็วจัง ให้หลานมาแค่วันเดียวเองเนี่ยนะ” เสียงทุ้มของพ่อสามีแทรกขึ้น "ครับ" มาโครเดินจูงมือภรรยาสาวมานั่งโซฟาที่ว่าง“ทําไมมารับเร็วจัง แม่คิดว่าจะมารับตอนเย็นเสียอีก” “คือตอนเที่ยงหนูมีนัดทานข้าวกับพี่สาวค่ะ เลยจะพาตัวเล็กไปด้วย” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม“ไปกินเสร็จแล้วค่อยมารับไม่ได้เหรอ” เสียงพ่อสามีดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็เงยหน้ามองสามีอย่างขอความเห็น“ผมอยากให้ลูกผมไปด้วยครับ ทำไมครับ ยังอยากเล่นกับหลานอยู่เหรอ” ชายหนุ่มจึงเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น“ใช่” พ่อสามีตอบรับสั้น ๆ“งั้นไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ผมอยากให้ลูกไปด้วย”บรรยากาศรอบตัวเงี
และการเสร็จสมครั้งนี้ มาโครก็ปลดปล่อยออกมามากกว่าปกติพอสมควร เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยออกมานานแล้วเหมือนกัน อีกทั้งการเล้าโลมของภรรยาสาวก็เร่าร้อนจนเขาแทบจะสำลักความสุขเลยด้วยลีอาห์บรรจงกลืนหยาดน้ำรักของสามีลงคอให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนจะค่อย ๆ โลมเลียทำความสะอาดท่อนเอ็นใหญ่ของเขาจนเสร็จสรรพ“ซี้ดดด รู้สึกดีเป็นบ้าเลย”มาโครสูดปากพลางส่งเสียงครางแผ่วเบา เนื่องด้วยหญิงสาวยังคงกลืนกินเขาที่เพิ่งเสร็จสมไป ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านด้วยหัวสมองแทบขาวโพลน“อ่า... แล้วพี่ชอบแบบนี้หรือเปล่าคะ” เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามอย่างเย้าแหย่มาโครที่เสียววูบวาบจนตัวเบาเองก็ผงกหัวขึ้นสบตา แล้วคลี่ยิ้มบาง“ชอบสิ ชอบมากเลยด้วย เสียวแทบบ้า”เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ สติที่แทบจะหลุดลอยไปก็ค่อย ๆ กลับคืนมา มาเฟียหนุ่มจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พลางจ้องมองหญิงสาวซึ่งยังคลอเคลียตรงหว่างขาของตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนใสของเขาแผ่วเบา“แต่พี่ต้องการมากกว่านี้”เมื่อพูดจบ ร่างหนาก็พลันรั้งกายบางลงมานอนราบบนเตียงกว้าง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นไปคร่อมร่างของเธอไว้ พร้อมกับถอดเสื้
พออาบน้ำเสร็จ ร่างเล็กก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วนสบาย ๆ พร้อมกับผ้าเช็ดหัวผืนเล็กที่คล้องคออยู่ พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของสามีกำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงด้วยใบหน้าอิดโรย ราวกับคนที่เพิ่งผ่านสงครามมา เธอเดินตรงมาหาเขาพลางสบตาแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน"ไปอาบน้ำ จะได้สดชื่นขึ้นค่ะ"แม้ว่าจะรู้สึกเอ็นดู แต่ลีอาห์ก็อดหัวเราะในลำคอเบา ๆ ไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าที่สามีมีสภาพแบบนี้ ก็เนื่องมาจากการที่เขาอาสาเลี้ยงลูกแทนเธอหนึ่งวันโดยมาโครก็เงยหน้าขึ้นสบตากับภรรยาสาวคนสวย พลางยิ้มเนือย ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าการเลี้ยงลูกอยู่บ้านแบบนี้มันเหนื่อยจริง ๆ"เหนื่อย" "รู้ค่ะว่าเหนื่อย ไปอาบน้ำ""ไม่มีแรงลุกเลย""เวอร์มาก ปล่อยเลี้ยงลูกวันเดียวเอง แต่จะว่าไปแล้ว แบบนี้แพลนเรื่องลูกคนที่สองล่ะ ยังอยากมีอยู่หรือเปล่าคะ”“ไม่เอา ไม่มีแล้ว แค่คนเดียวก็พอแล้ว” มาโครรีบส่ายหน้าทันควัน ท่าทางแสดงออกว่าเข็ดหลาบภรรยาสาวเมื่อได้เห็นดังนั้นก็พลันหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มคนเป็นสามี พลางเอ่ยปลอบโยนเบา ๆ“ขอบคุณพี่นะคะที่ช่วยดูแลลูก รีบไปอาบ
สามปีต่อมา…“แดดดี้เป็นอารายคับ” (แดดดี้เป็นอะไรครับ) “ไม่มีอะไร เล่นต่อเถอะ” มาโครเอ่ยตอบ ไมเคิล ลูกชายวัยสองขวบสี่เดือน โดยวันนี้เป็นวันหยุด เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาเฟียหนุ่มเลยอาสาภรรยาว่าจะเป็นคนดูแลลูกอยู่ที่บ้านเอง และให้เธอออกไปช็อปปิง เพราะคิดว่าการเลี้ยงลูกแค่วันเดียวคงไม่เหนื่อยเท่าไหร่แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เพราะผ่านไปแค่ครึ่งวันก็ทำเอาเสียพลังไปเกือบหมด ลูกชายเขาทั้งดื้อ ทั้งซนแบบสุด ๆ แถมช่วงนี้พี่เลี้ยงก็ดันลากลับบ้านอีก กว่าจะกลับมาก็สัปดาห์หน้า ภรรยาสุดสวยของเขาต้องเลี้ยงลูกแบบนี้ทุกวัน เธอทำได้ยังไงกันนะ“เล่นอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้ขอไปกินน้ำก่อน”“ได้เยย” (ได้เลย) เมื่อเห็นลูกชายพยักหน้าแล้วยิ้มหวานให้ มาโครก็ลุกขึ้น ก้าวปีนออกจากคอกกั้นแล้วเดินออกมานอกห้อง ก่อนจะพบกับเดวิด ลูกน้องคนสนิทที่กำลังยืนมองอยู่“ไปเอาน้ำมา” เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเมื่อยล้า โดยเดวิดก็เดินออกไป ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำ ก่อนจะวางลงตรงหน้า มาโครยื่นมือไปรับแล้วดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว“นายไหวแน่นะครับ”“หน้ากูตอนนี้ดูเหมือนไหวไหม”“แต่นายอาสาเองนะครับ นายหญิงคัดค้าน นายก็
ลีอาห์ที่เดินออกมาจากลิฟต์เรียบร้อยแล้ว กำลังจะตรงไปยังห้องทำงานของมาโครเพื่อรอเขาประชุมเสร็จ ทว่าขาที่กำลังจะก้าวต่อกลับชะงักลงทันที เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงที่ควรจะอยู่ในห้องประชุม แต่ตอนนี้กลับกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยท่าทีสนิทสนม ซึ่งผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขา และสองคนเคยเกือบได้แต่งงานกันอีกด้วยหัวใจของลีอาห์เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกหึงหวงพุ่งขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เธอรีบก้าวตรงไปหาทั้งคู่ทันที“คุณมาร์ค”เสียงเรียกของเธอทำให้คนที่กำลังสนทนากันอยู่หันมามองพร้อมกัน มาโครเมื่อเห็นเธอก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินมาหยุดตรงหน้า“มาได้ยังไง ใครพามา” น้ำเสียงของเขาฟังดูเรียบเฉย แต่กลับมีแววความห่วงใยซ่อนอยู่ในนั้น“คุณเดวิดค่ะ”“แล้วมันไปไหน ทำไมปล่อยเธอขึ้นมาคนเดียว”“หนูอยากกินชมพู่ค่ะ คุณเดวิดเลยอาสาไปซื้อให้”“อ๋อ” มาโครพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่หญิงสาวอีกคนจะเดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“สวัสดีค่ะน้องลี เป็นยังไงบ้างคะ ตอนนี้ตัวเล็กกี่เดือนแล้วเอ่ย”“ห้าเดือนแล้วค่ะ” ลีอาห์ตอบสุภาพ“รู้หรือยังคะว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”“ผู้ชายค่ะ
หนึ่งเดือนต่อมา...“ค่าน้ำตาลของเธอค่อนข้างสูง หมอบอกให้ลดของหวานเข้าใจไหม”“ค่ะ”“ต่อไปจะกินอะไรก็ต้องระวัง โดยเฉพาะของหวานที่เธอชอบกินทุกวัน ต่อไปนี้ลดได้คือลด”น้ำเสียงของเขาฟังดูนิ่งเรียบ แต่ในแววตากลับมีความกังวลซ่อนอยู่ชัดเจน ขณะที่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกฝั่งกลับทำหน้าบูดบึ้ง มือเล็กจิกชายเสื้อคลุมของตัวเองแน่น ก่อนที่น้ำตาซึ่งพยายามกลั้นไว้จะค่อย ๆ ไหลรินออกมา“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงนิดหน่อยเมื่อเห็นเธอเงียบไปนานหญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาแดงก่ำ “หนูอยากกินเค้กส้ม”“.....” คิ้วเข้มของเขากระตุกขึ้นทันที “ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เองนะ”“ก็มันหิว~” เสียงเธออ่อนลงเหมือนเด็กโดนดุ “หนูชอบกินเค้กค่ะ”“รู้ว่าชอบ แต่วันนี้กินไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาพูดพลางยกคิ้วถาม“ก็ใช่” เธอก้มหน้าลงเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “แต่หนูกินไปนิดเดียวเอง”“กินไปนิดเดียวก็คือกิน”“.....” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำมองเหมือนกำลังอ้อน “ขอหนูกินเพิ่มได้ไหม สัญญาว่าจะกินนิดเดียว พอหายอยากค่ะ”ร่างสูงถอนหายใจออกมาพรืดยาว พลางยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองอย่







![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)