ครั้งแรกที่เธอได้รู้จักพ่อเลี้ยง นั่นคือตอนที่เธออายุเพียงสิบสี่ปี ในค่ำวันเสาร์ที่แม่ไปดินเนอร์กับเขาและพามาที่บ้าน ขณะที่เธอนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขก แม่บอกกับเธอล่วงหน้าแล้วว่าจะแนะนำให้รู้จักกับว่าที่…พ่อเลี้ยง
เสียงรถยนต์สองคันที่ขับเข้ามาจอดต่อกันในที่จอดรถ พู่กันลุกไปชะเง้อดูที่หน้าต่าง ก็เห็นชายวัยกลางคนร่างสูงกำยำที่ดูภูมิฐานในชุดสูทราคาแพง เขาลงจากรถแล้วเดินมาจูบกับแม่ของเธอ พร้อมกับพูดคุยกระซิบกระซาบหัวเราะต่อกระซิกพร้อมกับโอบเอวแม่ของเธอเข้ามาในบ้าน “อ้าว พู่กัน กินข้าวเย็นแล้วใช่มั้ยลูก? เอ่อ นี่คุณอาชรันนะ คุณรันคะ นี่ลูกสาวพิชาเองชื่อ พู่กันค่ะ พอดีศุกร์ถึงอาทิตย์จะอยู่ที่นี่ วันธรรมดาจะอยู่กับคุณพ่อเขา” พู่กันหรือพรรณนารา ยกมือสวัสดีด้วยหน้าตาที่ไม่ยินดียินร้ายอะไร เพราะเขาคือคนที่ทำให้ครอบครัวเธอแตกแยก รวมถึงแม่ที่เห็นผู้ชายอื่นสำคัญมากกว่าคำว่าครอบครัว ชรัน หนุ่มใหญ่วัย 49 และแม่ของเธอที่อายุน้อยกว่าเขาสิบปี ก็ดูจะเป็นคู่ที่น่าเหมาะสมอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะต่างคนต่างลอบเล่นชู้กันจนเขาถูกฟ้องหย่าและพ่อของเธอรู้เพราะภรรยาของเขามาบอกกับพ่อจนความแตก “เอ่อ..งั้นแม่ขึ้นไปข้างบนก่อนนะ ลูกจะอยู่ดูทีวีไปก่อนก็ได้” พรรณนาราไม่ตอบอะไร ส่วนชรันก็มองด้วยสายตาที่เธอคิดในใจว่า “น่าเกลียด” พอหมดพันธะกันทั้งคู่ก็เปิดตัวแบบไม่อายอะไรเลยสินะ… ความที่ทั้งสองโดนฟ้องหย่า ชรันอาจไม่เดือดร้อนมากนักเพราะเขาร่ำรวย แต่แม่ของเธอนี่สิ จากที่อยู่บ้านหลังใหญ่ มีความสุขสามคนพ่อแม่ลูกมันคงจะน่าเบื่อเกินไป สุดท้ายต้องระเห็จมาอยู่บ้านเช่าหลังเล็กแบบนี้แทน คุณพ่อของเธออนุญาตให้มาอยู่กับแม่ได้แค่เย็นวันศุกร์ถึงเที่ยงวันอาทิตย์เท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงเธอไม่อยากมาแต่เพราะแม่ของเธอขอร้องเอาไว้ “ลำบากเลยสินะ รอหน่อยนะพิชา บ้านใหม่ตกแต่งใกล้จะเสร็จแล้ว เราจะได้อยู่ด้วยกันสักที มีห้องพอสำหรับทุกคนทั้งลูกสาวลูกชายของเราทั้งคู่” “พิชารอที่จะได้อยู่กับคุณไม่ไหวแล้ว” “ตอนนี้ก็อยู่แล้วไง” “ลูกชายคุณคงเกลียดพิชาแน่ๆ” พิชามญช์ทำหน้าอ้อนๆ แม้เธอจะอายุ 39 แล้ว แต่ความสวยนั้นยังทำให้รู้สึกเหมือนยังไม่สามสิบ เพราะเธอไม่เคยต้องลำบากตากแดดตากดำอะไรมาก่อน “ผมคุยกับเขาแบบคนโตๆแล้ว เขาก็ไม่ว่าอะไรนะ ชีวิตคู่มันก็แบบนี้แหละ” พรรณนารานั่งดูโทรทัศน์อยู่พักหนึ่งก็เบื่อ จึงขึ้นไปที่ห้องของเธอบนชั้นสอง พอผ่านห้องของแม่ก็ได้ยินเสียงร้องครางของคนทั้งคู่ที่ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน ฉันไม่อยากมาที่นี่ด้วยซ้ำตั้งแต่พ่อขอหย่ากับแม่ เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้… “อืออ..คุณรัน..แรงอีก..ที่รัก..อ๊าา” ชรันกดกระแทกความเป็นชายเน้นๆอย่างแนบแน่นด้วยความหื่นกระหายในรสโลกีย์ของพิชามญช์ เธอและเขาตอบสนองความต้องการทางเพศระหว่างกันได้ดีมาก “ดีโคตรๆเลย..พิชา…อาา” เมื่อทั้งบ้านเงียบเพราะเป็นบ้านเช่าหลังสุดท้ายในซอย พรรณนาราจึงยังได้ยินเสียงครวญครางแว่วมาเบาๆบ้าง แต่มันก็กวนใจเธอยาวนานร่วมสี่สิบนาทีจึงเงียบไป นั่นถึงทำให้เธอหลับลงได้ “วันนี้ผมค้างที่นี่นะ ตื่นมาเราค่อยไปที่คอนโดผมแล้วค่อยไปกินข้าวเที่ยงกัน เอาหนูพู่กันไปด้วย” “ให้พู่กันอยู่บ้านนี่ล่ะค่ะ แกไม่ชอบไปไหน” “ว่าจะให้คุณกับลูกสาวรู้จักลูกชายผมด้วยไงล่ะ” “อ้อ โอเคค่ะ งั้นก็ได้” ช่วงสายของวันอาทิตย์ พิชามญช์ได้มาเคาะห้องลูกสาวให้อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทานมื้อเที่ยง “รีบเลยนะลูกเพราะคุณอาชรันจะต้องกลับคอนโดไปแต่งตัวอีก” พรรณนาราเปิดประตูแง้มนิดหน่อยพอให้แค่มองเห็นหน้ากัน “หนูไม่ไปได้มั้ยคะ?” “อีกหน่อยเราต้องย้ายจากที่นี่ไปบ้านใหม่ ต้องรู้จักลูกชายของคุณอาเค้า รู้สึกจะแก่กว่าลูกเจ็ดปี ลูกต้องเคารพพี่เค้าด้วย” ระหว่างที่แม่พูดกับเธอ ชรันก็เดินออกจากห้องมาที่ด้านหลังของพิชามญช์ แต่สายตาเขากลับมองมาที่เธอ ซึ่งทำให้รู้สึกขนลุกเกรียว “ว่าไงสองแม่ลูก? คุยอะไรกันอยู่ครับ?” “หนูอาบน้ำก่อนนะคะแม่” พรรณนาราพูดแค่นั้นแล้วรีบปิดประตูทันที “เอ้า ลูกคนนี้นี่ ไม่มีมารยาทเลย ผู้ใหญ่ถามดันปิดประตูใส่เฉย สงสัยอยู่กับพ่อมากไปจนตามใจเกิน” ชรันจับไหล่คุณแม่ยังสาวว่าที่ภรรยาใหม่ของเขา บีบนวดเบาๆให้ผ่อนคลาย “หนูพู่กันคงยังไม่คุ้นเคยน่ะ ให้เวลาแกหน่อย ไม่ต้องคิดมากหรอก” และในวันนี้เองที่พรรณนาราได้เจอกับรักแรก เธอแอบชอบเขาในใจทันทีที่เดินมานั่งลงที่โต๊ะเพื่อร่วมรับประทานอาหารเที่ยง แต่สีหน้าเขาดูราบเรียบ แววตาดูขุ่นเคือง ก็แน่ล่ะ..แม่ของฉันไปทำให้ครอบครัวเขาต้องพังพินาศ เหมือนที่ฉันเกลียดพ่อของเขาที่มาทำลายครอบครัวฉัน…ซึ่งเขาก็คงอาจเกลียดฉันด้วยเช่นกัน.. “ธี นี่คุณน้าพิชามญช์กับน้องพู่กันนะ รู้จักกันไว้เพราะอีกหน่อยต้องอยู่บ้านเดียวกัน ลูกเรียนจบก็ต้องมารับช่วงกิจการต่อ อีกปีเดียวก็จบแล้ว พ่อจะได้เบาตัวบ้าง” “สวัสดีครับ” ธีทัตยกมือไหว้ตามมารยาทแล้วสบตากับพรรณนาราที่หลบตาเขา “สวัสดีครับน้องพู่กัน” “สวัสดีค่ะ พี่ธี” เธอยกมือไหว้และสบตาเขาด้วยความประหม่า “อีกหน่อยถ้าพู่กันอยากเรียนคณะอะไรก็คงปรึกษาคุณธีได้ใช่มั้ยคะ?” พิชามญช์พูดฉอเลาะเอาใจลูกเลี้ยง แต่มันทำให้พู่กันรู้สึกอายแทน “อีกนานกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?” ชรันท้วงขึ้นมาเพราะรู้ว่าเธอกำลังอยากใช้ลูกสาวเพื่อตีสนิทลูกชายของเขา “หนูปรึกษาคุณพ่อได้ค่ะ ท่านเป็นคนเก่ง” แม่ของเธอชักสีหน้าแล้วมองลูกสาวที่หลุบตาลงต่ำด้วยความไม่พอใจ ธีทัตที่เห็นแบบนั้นก็เข้าใจสถานการณ์ทันทีว่าพรรณนาราเองก็ไม่ได้รู้สึกดีที่ต้องบ้านแตกเช่นกัน “ก็ถ้าน้องมีคำถามอยากปรึกษา ผมก็ไม่ขัดข้องที่จะแนะนำให้ได้” นั่นทำให้พรรณนารามองสบตาเขาแล้วยิ้มออกได้นิดหน่อย มื้อเที่ยงจบลงทั้งสามคนก็กลับบ้านไปด้วยกัน ส่วนธีทัตก็กลับไปที่บ้านแม่ของเขา “เป็นไงธี เจอหน้าผู้หญิงหน้าด้านหน้าทนแบบนั้น? เขากล้ามากนะที่แนะนำชู้ให้ลูกชายตัวเองรู้จัก หน้าไม่อายจริงๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าลูกต้องดูแลกิจการต่อจากเขา แม่คงไม่อยากให้ไปหรอก แต่เรื่องอะไรจะให้ใครมาชุบมือเปิบ ดีนะที่อีนั่นมีแค่ลูกสาว อีกหน่อยก็คงไม่ต่างจากแม่มัน” “แม่ครับ ไม่เอานะ อย่าพูดไม่ดีกับเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร ลูกสาวเองก็ดูไม่ค่อยเข้ากับคนเป็นแม่เท่าไหร่ ทางเราเองก็ได้จากพ่อมาเยอะ แม่อย่าคิดมากเลยนะครับ อีกปีเดียวธีจะเรียนจบแล้วด้วย ยังไงก็ต้องไปทำงานกับพ่ออยู่ดี” “อืม แม่น่ะแก่แล้ว ไม่ได้คิดจะหาคนใหม่อีก ดีที่มีลูกอยู่เคียงข้างเผื่อแก่ตัวลงไป ดูแลตัวเองดีๆ แม่จะโล่งใจถ้ากิจการของมันตกอยู่ในมือลูกให้มันจบๆ ลูกอยากทดแทนบุญคุณมันในฐานะพ่อก็แล้วแต่” “ครับแม่” ธีทัตนึกถึงหน้าของสาวน้อยวัยสิบสี่ที่ติดตาตรึงใจเขามาก แต่ต้องสลัดความคิดทิ้งไปเพราะเกรงว่าใครที่รู้ความคิดของเขาจะมองว่าเป็นพวกเปโดฟีเลีย และเขาเองก็มีคนคุยที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่งอยู่แล้ว เธอมีเสน่ห์บางอย่างที่บอกไม่ถูก จะเรียกว่าแรงดึงดูดก็คงใช่.. แต่สิ่งที่ธีทัตไม่รู้ก็คือ พ่อของเขาอย่างชรัน เบื้องหน้าที่เป็นหนุ่มใหญ่ใจดีนั้น เบื้องหลังเขามีรสนิยมที่ชื่นชอบผู้หญิงที่อายุน้อยมากๆเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากว่าพวกเธอที่ยังเด็กและมักไม่เก่งเรื่องบนเตียง ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้อย่างเต็มที่ จนมาเจอพิชามญช์ที่อายุน้อยกว่าสิบปีและเคมีตรงกันจากการเจอกันหลายครั้งเพราะสามีของเธอและเขาเป็นคู่ค้ากัน จึงนำมาสู่การลับลอบนัดเจอหลายครั้งและลงเอยกันในที่สุด …………………………….💋🌻🌷ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที
ไม่นานนักปริมก็คลอดบุตรสาวที่มีน้ำหนักน้อยมากจนต้องเข้าตู้อบโดยมีแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามีและลูกเลี้ยงสาวได้เดินทางมาเยี่ยม “พ่อคิดชื่อไว้แล้ว ชื่อจริง ปนิตา ชื่อเล่น น้องนิต้า ลูกว่าดีไหมพู่กัน?”พรรณนาราแค่ยิ้มรับตามมารยาทแล้วพยักหน้า“ขึ้นต้นคล้ายกับลูกชายของคุณแม่เลยค่ะ ชื่อ ปภาวิน น้องชายหน้าคล้ายหนูกับคุณแม่มาก”เธอพูดกับพ่อจบก็เดินมาที่ปลายเตียงของปริม “ยินดีด้วยนะ..ที่ได้..ลูกสาว อย่าอดอาหารเพราะห่วงจะหุ่นไม่สวยเกินไป ทำเอาน้องตัวนิดเดียวเอง .. พ่อคะ เดี๋ยวไปส่งหนูที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ได้มั้ย?”“หือ จะหัดขับแล้วเหรอ? อ้อ จริงสินะ อีกปีนึงลูกจะจบ ม.6 แล้ว งั้นพ่อจะซื้อรถให้”“ไม่ต้องซื้อค่ะ วันเกิดที่ผ่านมาหนูได้รถเป็นของขวัญแล้ว Porsche 911 Frozen Berry Metallic สีชมพูตามวันเกิด พ่อให้อย่างอื่นหนูก็ได้นะคะ หนูอยากได้ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”“แล้วแม่ว่าไง? อนุญาตเหรอ?”“แม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”“งั้นรอลูกเลือกมหาวิทยาลัยก่อนค่อยมาบอกพ่อแล้วกัน”ปริมที่ได้แต่นอนฟังอย่างไม่มีปากมีเสียง เธอผิดหวังที่มีลูกชายให้เขาไม่ได้ พอจะขอใช้วิธีทางการแพทย์ ณัฐวีย์กลับไ
ธีทัตที่อยู่อังกฤษ เขาแชร์ที่พักกับแบมในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน แต่กลับทำเหมือนเป็นแค่รูมเมทกันเท่านั้น ไม่ว่าแบมจะพยายามปรับตัว เอาใจเขา หรือแม้กระทั่งยั่วยวนแค่ไหน ธีทัตกลับเอาแต่อยู่คนเดียวในห้องคิดถึงแค่คนเดียวเท่านั้น..พรรณนารา…อาทิตย์ต่อมาที่พรรณนาราไปนอนบ้านพ่อ ก็เกิดมีเรื่องขึ้นว่าปริมโดนเข็มเย็บผ้าปักที่ขาลึกพอสมควรบนที่นอนในห้อง เสียงกรีดร้องและเลือดที่ไหลเป็นทางจนณัฐวีย์รีบอุ้มขึ้นรถไปโรงพยาบาล ทำเอาคนที่บ้านแตกตื่นยกเว้นเธอ“ทำไมมีเข็มไปปักบนที่นอนได้ นี่มันอันตรายมาก จงใจทำร้ายกันชัดๆ เรียกทุกคนมาคุยที่ห้องรับแขก”เมื่อทุกคนมาถึงรวมทั้งลูกสาวของเขา ณัฐวีย์จึงเริ่มสอบถาม แต่ก็ไม่สามารถจับมือใครดมไม่ว่าใครจงใจทำ แม่บ้านคนสนิทของปริมจึงพูดขึ้นมา“คนที่ทำแบบนี้ต้องไม่ชอบกันเท่านั้นแหละค่ะ ในบ้านก็มีกันแค่นี้ แล้วต้องมาเป็นวันหยุดด้วยนะ ยางแบนอาทิตย์ก่อนก็วันอาทิตย์ เพราะเช้าวันจันทร์มันแบนแล้วค่ะ”ณัฐวีย์ถึงกับคิดและมองหน้าลูกสาวที่หน้าตาเฉยเมย“พ่อคิดว่าเป็นหนูหรือคะ? หนูกำลังคิดเลยว่าคนที่กล้าทำให้ตัวเองดูเป็นเหยื่อจนเลือดตกยางออกได้ขนาดนี้ จิตใจต้องเหี้ยมขนาดไหน น่ากลัวนะคะ