LOGINPacific Gateways Co., Ltdในตอนสายของวัน พนักงานของบริษัทต้องแปลกใจ เมื่อมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาขอพบชรัน จากนั้นได้กรูกันเข้าไปในห้องทำงานของเขาและเชิญให้ไปสถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งแน่นอนว่าชรันฉลาดพอที่จะไม่ให้ปากคำอะไรที่จะมัดตัวเขาได้นอกจากขอให้การในชั้นศาลเท่านั้นและต้องการใช้ทนายให้พูดแทน เขายื่นประกันและถูกปล่อยตัวให้กลับบ้าน ความคั่งแค้นในใจ พยายามคิดหาแต่ว่าทำไมผู้หญิงสามคนถึงรวมหัวกันแจ้งความเขา แล้วเด็กสาวที่เลี้ยงไว้อยู่ๆก็หายไปติดต่อไม่ได้กลับไปโผล่อยู่กับฟ้าและพรรณนาราได้ยังไง คลิปต่างๆที่จะมัดตัวเขาของทั้งสามคนมาจากไหน? จากใคร? ได้มายังไง? ชรันคิดได้แค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ พิชามญช์มีสายโทรเข้าปลายสายที่รู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องสงสัยเธอจนได้ พิชามญช์แค่รับสายแล้วทำน้ำเสียงปรกติเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร“พิชา..วันนี้ตำรวจมากันที่บริษัทผม มีทนายความมายื่นแจ้งความให้ผู้หญิงสามคน ลูกสาวคุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วย มีอะไรจะพูดมั้ย? อย่าลืมว่าคุณยกพู่กันให้ผมเอาเอง”“ฉันเลี้ยงแต่ลูกอยู่ในห้องตั้งแต่คืนที่จับได้ว่าคุณเอากับอดีตภรรยาคุณธี ใครจะจัดการอะไรเรื่องแบบนี้
แบมซื้ออาหารและน้ำเข้ามาให้ชรันที่บ้าน เธอย่างกรายเข้าไปในตัวบ้านที่เงียบจนวังเวง เขาที่นั่งรออยู่แล้วได้รีบเดินมาต้อนรับ “แม่บ้านไม่มีสักคนเหรอคะ?” “เหลือป้าแม่บ้านกับคนขับรถ พอดีสั่งไว้ว่าไม่ต้องทำอาหารเผื่อเพราะตอนแรกคิดว่าจะไปนั่งดื่มข้างนอก แต่รู้สึกเพลียเลยไม่ออกไปน่ะ” ชรันทำมือว่าให้ตามเขาไปที่ห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเตรียมจานช้ามช้อนส้อมแก้วน้ำไว้แล้ว “หนูแบมนั่งคุยกับอาสักพักสิ จะถามเรื่องพิชาหน่อย” “เอ่อ..ค่ะ แต่หนูไม่กินนะคะ พอดีทานมาแล้ว” เขารินน้ำผลไม้ให้เธอแล้วไปนั่งฝั่งตรงข้าม เริ่มต้นถามว่าไปเจอพิชามญช์ที่ไหน ต่อด้วยคุยกันเรื่องคดี เรื่องลูกชายทั้งสองคน ไม่นานนักแบมเริ่มมีอาการง่วงซึมแต่ก็ยังรู้สึกตัวบ้าง เขารีบเข้าไปโอบเธอให้ลุกขึ้นแล้วประคองเดินไปนั่งพักที่โซฟาห้องรับแขก “คุณอา..ทำไม?..” แบมพูดถามได้แค่นั้นเท่าที่สติยังพอมีเหลือก่อนจะเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ชรันจึงปล่อยเธอไว้ก่อนจะเดินไปปิดประตูบ้านล็อกเอาไว้ ปิดไฟและปิดผ้าม่านจนหมด เหลือเพียงความมืดสลัวในบ้านที่กว้างขวางนี้เท่านั้น แบมที่สะลึมสะลือเพราะชรันไม่ได้ใช้ยากับเธอมากนัก ก็เพราะเขายังอยากให้เ
ธีทัตลงจากรถอ้อมไปเปิดประตูฝั่งของพรรณนาราแล้วดึงแขนเธอให้ออกมาแล้วเปิดประตูด้านหลังดันตัวเธอเข้าไป“พี่ธี..ไม่เอานะ พาหนูกลับบ้าน”“ใจดีให้ก็ดื้อ ปั่นหัวพี่สนุกไหมพู่กัน..”เขาเข้ามานั่งข้างๆจับแขนเธอที่ดันแผ่นอกบังคับให้นอนลงไปที่เบาะหลัง เริ่มต้นซุกไซร้ไปที่กลางลำตัวเธอแล้วเลิกกระโปรงสั้นขึ้นจนเห็นแพนตี้ลูกไม้แนบเนื้อตัวจิ๋ว“พูด..พี่เป็นใครสำหรับพู่”เขาจับคอเธอแม้จะไม่ได้บีบแน่นแต่ก็ทำให้เธอตื่นเต้นหายใจหอบจนตัวโยน ส่วนอีกมือเริ่มซุกซนใช้นิ้วแหวกชั้นในเข้าไปลูบคลึงส่วนสงวนจนเจ้าตัวสั่นสะท้าน“ถ้าหนูไม่พูดล่ะ”“ยั่วให้พี่โมโหเหรอ?”“เปล่า หนูชอบเวลาพี่หึง”“เพราะรักถึงหวง แล้วถ้าชอบให้หึงก็ยอมรับมาว่าเป็นเมียพี่..”“ขนาดนี้แล้วทำไมต้องพูดคะ คำพูดสำคัญกว่าการกระทำรึไง?”“พี่ไม่นอนกับใครถ้าไม่รัก”เขาปลดเข็มขัดและรูดซิปลงด้วยมือเดียว ก่อนจะจับแท่งลำนั้นสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักที่รัดติ้ว โดยที่เธอยังใส่แพนตี้อยู่“อึก..อื้อออ”“ร่างกายหนูบอกว่ารักพี่นะ..สุดๆ..”แรงขมิบเป็นจังหวะถี่ๆส่งสัญญาณแทนคำพูดของหญิงสาวแต่นั่นมันยังไม่พอสำหรับเขา“อาา..แรงอีก..”สองขาที่เกร็งและรัดเอวแน่น ธีทัต
ฟ้าได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามารอที่บ้านภัทราวุธตั้งแต่บ่าย เธอตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับน้องสาวที่รักและเอ็นดู โดยจะได้มีห้องส่วนตัวติดกับห้องของพรรณนารา ส่วนธีทัตได้รับการไหว้วานจากณัฐวีย์ให้ไปรับลูกสาวที่มหาวิทยาลัยแทนคนขับรถเพราะยุ่งกันอยู่ “ช่วงนี้พี่จะได้อยู่กับพู่ทุกวันตอนเย็นเลยล่ะ เพราะคุณพ่อหนูคงต้องเฝ้าภรรยานานเลย” “แล้วแต่เถอะค่ะ” “เอ้า ไม่ดีใจเหรอ?” “แม่ถีบหัวทุกคนให้พ้นทางได้แล้ว หนูคงไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก” “พู่..อย่าพูดแบบนั้นสิ ไม่น่ารักเลย” “หนูเป็นแบบนี้ พี่จะไม่รักก็ได้นะ” พรรณนารากล่าวแบบหยิ่งๆ แต่ธีทัตกลับมองว่านี่คือความดื้อดึงที่เขาชอบ “พ่อกับแม่กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว คิดในแง่ดีหน่อยสิ” “ตั้งแต่หนูเกิดมา แม่กับหนูก็แข่งกันแย่งความรักจากพ่อมาตลอด แม่ไม่เคยอยากได้ลูกสาว ทำไมไม่ให้หมอเลือกเพศตั้งแต่แรกก็จบ” “ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เปลี่ยนเรื่องเนอะ พี่พาหนูไปกินอะไรอร่อยๆข้างนอกดีกว่าไหม?” เธอส่ายหน้าแล้วว่าจะกินที่บ้าน “หนูนัดกับเพื่อนจะไปเที่ยวกันคืนนี้ แบบ..ชิลๆตามประสาเพื่อนฝูง เดี๋ยวเพื่อนมารับตอนสามทุ่ม” ธีทัตตาเขียวขึ้นมาทันทีตามปร
ไม่ถึงสี่สิบนาทีธีทัตก็ขับรถมาถึงบ้านแม่ของเขา กชกรนั่งรออยู่ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นลูกชายเพียงคนเดียวก้าวเท้าเข้ามาในบ้านโดยยังไม่ทันจะได้นั่งหรือพูดอะไร เธอก็รีบวีนขึ้นก่อน “ธี มันอะไรกันน่ะ? ลูกไปหลงทั้งลูกเลี้ยงทั้งเมียใหม่ของพ่อรึไง? นี่เหรอสาเหตุที่เลิกกับแบม? แล้วไปทำไมที่บ้านสามีเก่ามัน? ตั้งแต่พ่อของลูกแต่งงานใหม่ ธีทำตัวแปลกไป หาความสบายใจให้แม่ไม่ได้เลย แล้วนี่ยังโดนตัดจากบริษัทอีก ลูกกลายเป็นคนไม่เอาถ่านแบบนี้ไปได้ยังไง?” คำถามจากคนเป็นแม่รัวๆใส่เขาที่ไม่รู้จะตอบอันไหนก่อน “แม่ใจเย็นก่อนครับ ไปนั่งก่อนดีกว่า” เขาดึงมือแม่ไปนั่งสบายๆที่โซฟาด้วยกัน สีหน้าท่าทางนั้นดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรผิดกับคนเป็นแม่ “ผมต้องคุยกับแม่จริงจังสักที แม่ควรต้องรู้เรื่องอะไรที่ผมเคยคิดว่าไม่ควรจะบอกเกี่ยวกับตัวพ่อ ก่อนอื่นผมจะบอกว่าแม่โชคดีมากที่เลิกกับเขา” “แน่นอนสิ มันนอกใจไปเอาเมียชาวบ้านนิ” “เปล่าครับ ตอนที่พ่อยังไม่เลิกกับแม่ พ่อก็เลี้ยงเด็กสาวที่อายุไม่ถึงสิบแปดไว้เป็นแม่บ้านที่บริษัท ก่อนจะมาเจอคุณพิชาก็ซื้อกินประปรายมาตลอด พอแต่งงานใหม่ก็ยังเอาแม่บ้านคนนี้ย้า
พรรณนาราอ่านข้อความที่แม่ส่งมาด้วยความรู้สึกโกรธ เธอขยับตัวจากธีทัตที่นอนกอดอยู่ “พี่ธีคะ..พี่ธี..” เธอใช้มือเขย่าแขนเขาเบาๆ “อืออ..กี่โมงแล้ว?..หนูจะไปเรียนใช่มั้ย? พี่จะไปส่งนะ” “ไม่ค่ะ พี่ธีดูแลน้องวินไปนะ หนูจะให้คนขับรถไปส่งเอง แล้วพี่อย่าทำตัวมีพิรุธกับพ่อหนู ห้ามบอกว่ามีอะไรกัน เข้าใจมั้ยคะ?” “รับทราบครับ คุณหนู” เธอกระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร็วด้วยความกลัวว่าพ่อกับแม่จะกลับมาถึงก่อน จากนั้นก็รีบวิ่งลงไปขึ้นรถที่คนขับรถสแตนด์บายรออยู่แล้ว ธีทัตพาน้องชายที่แทบเป็นลูกชายของเขาได้เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ความผูกพันทางสายเลือดได้ก่อตัวขึ้นมา เพราะเด็กชายตัวน้อยดูชื่นชอบพี่ชายต่างวัยอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาอุ้มน้องลงมาข้างล่างก็เจอเข้ากับปริมและลูกสาวพอดี “เอ๊ะ? อ้าว เอ่อคุณคนเมื่อวาน แฟนน้องพู่..เมื่อคืนนอนที่นี่เหรอคะ?” อันที่จริงเธอรู้อยู่แล้วแต่แกล้งทำว่าไม่รู้ เพราะแม่บ้านคนสนิทที่สอดรู้ทุกเรื่องได้รายงานทุกอย่าง “ผมต้องรบกวนหามื้อเช้าให้น้องน่ะครับ” “อ้อ คุณณัฐไปปรึกษาหารือกันกับอดีตภรรยาทั้งคืนยังไม่กลับสินะคะ งั้นเดี๋ยวฉันบอกแม่บ้านให้ท







