ฟ้าค่อยๆนั่งคุกเข่ากับพื้น ดึงกางเกงนอนและบ็อกเซอร์ของชรันลงไปกองที่ข้อเท้า ใช้ปากดูดกลืนแก่นกายนั้นเข้าไปจนมิด ขยับเข้าออกเร็วๆจนชรันหายใจแรง เผลอครางออกมา
“โอยย…อาาา ฟ้าาา..เสียวมาก..” ยิ่งเขาร้องครางเพราะความเสียวซ่าน แม่บ้านสาวก็ยิ่งได้ใจดูดดุนรุนแรง ปากที่เม้มรัดแท่งเอ็นที่ตึงตัวจนเป็นสีแดงเข้ม จนชรันใช้สองมือจับศีรษะของเธอขยับให้ดูดแรงและเร็วขึ้น “อึก..อึก..” “อาาา..นอนลง..ตรงนั้น” ชรันชี้ไปตรงพรมที่อยู่กลางห้องทำงาน ฟ้ารีบถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแค่ร่างเปลือยเปล่า อ้าขาสองข้างพร้อมให้เขาเริงรักกับเธอ ที่โผเข้ามากลางหว่างขา สอดใส่แก่นกายที่แข็งตัวสุดๆเข้าไปกดจนมิดแล้วเริ่มขยับเอวรัวๆทันทีด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในกามารมณ์ “อาา..คุณรัน ใหญ่จัง..” “ดีใช่ไหมล่ะ…คับมากเลย..จะไม่ไหวแล้ว” แม่บ้านสาวใช้สองขารัดเอว รูสวาทตอดรัดขมิบจนชรันกระแทกแรงขึ้นจนเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง เอวที่ซอยยิกๆถี่ๆ ในที่สุดเขาก็ถึงจุดสุดยอดพรั่งพรูน้ำกามจนเต็มร่องหลืบของเธอ “อาา..สุดยอดเลยฟ้า” “ฟ้าคิดถึงคุณรันอยากให้อยู่ด้วยทุกคืนเลย” ทั้งสองยังอ้อยอิ่งนอนกอดจูบกันต่ออยู่พักหนึ่งก่อนจะแยกย้ายกันออกจากห้องทำงานที่ชั้นล่างของบ้าน “คุณรันไปไหนมาคะ? พิชาตื่นมาเข้าห้องน้ำเมื่อกี้ไม่เห็นคุณ” ชรันใจหายวาบที่พิชามญช์ทักขึ้นมาขณะที่เขากำลังปิดประตูอย่างเบามือ “ผมลงไปดื่มน้ำมาน่ะ แล้วได้ยินเสียงอะไรแปลกๆเลยออกไปเดินดูมา สงสัยเราต้องเลี้ยงหมาไว้ข้างนอกสักตัวดีกว่า” “หมู่บ้านเราโครงการหรูและใหญ่ขนาดนี้ ระบบรักษาความปลอดภัยต้องดีอยู่แล้วล่ะค่ะ” เขาเข้าไปนอนซุกกอดเธอที่ไม่รู้ตัวเลยว่า สามีป้ายแดงพึ่งไประเริงรักกับแม่บ้านมาหมาดๆ แต่ถึงกระนั้นชรันกลับนอนคิดถึงเด็กสาวผู้เป็นลูกเลี้ยงของเขา เฝ้ารอวันที่เธอจะต้องมาอยู่ที่นี่ทุกอาทิตย์ ในค่ำวันศุกร์พ่อของพรรณนาราได้มาส่งที่บ้านของพ่อเลี้ยงและได้กำชับว่าจะมารับเที่ยงวันอาทิตย์ “ถ้าพู่ไม่แฮปปี้ก็บอกนะ พ่อจะมารับเลย” “จริงๆพู่ก็ไม่อยากมานะคะ” พิชามญช์ที่ออกมารอรับลูกสาว ยืนกอดอกรอว่าเมื่อไหร่ลูกสาวจะลงจากรถเสียที พรรณนารามองที่แม่แล้วถอนหายใจ “เจอกันวันอาทิตย์ค่ะพ่อ” เมื่อพ่อของเธอขับรถออกไปแล้ว ชรันก็รีบเดินออกมาหาจากในบ้าน “สองแม่ลูกเข้าบ้านกันเถอะ หนูพู่กินอะไรหรือยัง?” “กินแล้วค่ะ หนูขอไปอาบน้ำพักผ่อนเลยนะคะ” ชรันมองตามสาวน้อยที่ใส่ชุดเดรสสั้น ผิวขาวผ่องและขาที่เรียวสวยทำให้เขาแอบมองตามหลังไป ทำให้พิชามญช์ถึงกับเอ่ยปากออกมา “สายตาคุณรัน ระวังบ้างก็ดีนะคะ ยังไงพู่กันก็เป็นลูกของพิชา” “คุณจะบ้าเหรอ? นั่นเด็กนะ” เธอจ้องเขาเหมือนรู้ไปถึงในใจ ก่อนจะเดินนำเข้าบ้านไปด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด พอเช้าวันเสาร์พรรณนาราเอาแต่หมกอยู่ในห้อง เธอปฏิเสธการออกไปไหนกับแม่และพ่อเลี้ยง จนกระทั่งบ่ายสามที่ทั้งคู่กลับเข้ามาพร้อมช่างแต่งหน้าทำผม พิชามญช์ไปเคาะประตูเพื่อบอกลูกสาว “พู่ๆ แม่กับคุณรันจะไปงานเลี้ยงฉลองยอดกำไรของบริษัทกับแจกโบนัสพนักงาน ลูกอยากไปด้วยมั้ย?” พรรณนาราเปิดประตูแง้มและพูดด้วยท่าทางเนือยๆ “หนูจะอยู่บ้านค่ะ” “ตามใจนะ” พิชามญช์พยักพเยิดหน้าเดินกลับไปที่ห้อง เพราะในใจก็ไม่อยากให้ลูกสาวไปด้วยอยู่แล้ว พรรณนารานั่งดูไอแพดที่โต๊ะทำการบ้านอยู่เกือบสามสิบนาที เสียงลูกบิดประตูก็เปิดออก ทำให้เธอหันไปดูและยืนขึ้นทันทีด้วยความตกใจกลัวจนขาสั่น “ขอโทษทีที่ไม่ได้เคาะประตู อาแค่อยากมาคุยด้วย แม่ของหนูพู่แต่งหน้าทำผมน่าจะเป็นชั่วโมง ขอคุยด้วยได้มั้ย?” “ไปคุยข้างนอกดีกว่าค่ะ” เธอกลั้นใจทำน้ำเสียงให้ปกติที่สุด แต่เขากลับเดินเข้าหาเธอจนต้องถอยไปติดโต๊ะ “ที่นี่บ้านของเรา คุยที่ไหนก็เหมือนกัน” ชรันลูบผมและจับมาปอยหนึ่ง พรรณนารารู้สึกสยองและขยะแขยง จนต้องเบือนหน้าหนี “จริงๆอาไม่ได้อยากแต่งงานกับแม่ของหนูหรอก ไม่ได้อยากให้หนูต้องครอบครัวแตกแยก แต่อาไม่มีทางเลือกเพราะโดนภรรยาฟ้อง เราสองคนมันก็แค่..คนไม่มีที่ไปต้องมาอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้อาเริ่มเห็นข้อดีของการแต่งงานครั้งนี้แล้วล่ะ” “หนูจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว ถอยออกไป!” ชรันหันหลังเดินไปทำให้พรรณนาราคิดว่าเขาจะออกไป..แต่เปล่าเลย เขาล็อกประตูและถอดเสื้อนอกออกแขวนไว้กับที่แขวนกระเป๋าข้างประตูห้อง แล้วเดินย่างสามขุมเข้ามาหา รีบเอามือปิดปากเธอที่กำลังจะหนี ร่างกายที่สูงใหญ่นั้นรวบเรือนกายที่บอบบางอย่างแน่นหนาและล้มลงบนเตียง เขาทับตัวเธอจนขยับไม่ได้ มือที่ปิดปากจนแทบหายใจไม่ออก เธอจึงทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ มืออีกข้างที่ลูบไล้เรียวขาก่อนจะล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นเพื่อสัมผัสจุดซ่อนเร้นของหญิงสาวที่ยังเยาว์วัยเพียงสิบห้า นิ้วที่ล้วงเข้าไปในของลับที่นุ่มนิ่ม ความเป็นชายที่แข็งตัวจนอึดอัด ชรันรีบรูดซิบดึงกางเกงลงแค่ครึ่งก้นด้วยมือข้างเดียว “แป๊บเดียวเท่านั้นเองเด็กดี” เขาเอาความเป็นชายถูไถที่หน้าท้องของพรรณนารา แล้วจับมือเธอให้กำแก่นกายนั้นพร้อมกับชักขึ้นลงเร็วๆ “อา..พู่กัน..แบบนั้นแหละ” ชรันจับมือเธอให้รูดขึ้นลงจนน้ำหล่อลื่นเปรอะเปื้อนมือเล็กๆนั้นไปหมด ส่วนเธอที่ส่งเสียงอู้อี้ปนกับสะอื้นโดยที่น้ำตาไหลเป็นทาง “เสียวมาก..พู่ โอย…” น้ำขาวขุ่นพุ่งแรงจนเปื้อนเสื้อและหน้าท้องของสาวน้อยที่ตัวสั่นเทาเต็มไปหมด เขารีบยกตัวผละจากตัวเธอ โดยที่ยังไม่ยอมเปิดปากให้เธอได้ร้องขออะไร “ถ้าหนูเอาไปบอกแม่อย่างมากเราก็แค่เลิกกัน แต่แม่หนูจะลำบากที่ต้องเลิกกับอา เพราะเธอมาแต่ตัวใช่มั้ยล่ะ? แล้วอาจะไปบอกพ่อของหนูว่าเรามีอะไรกัน” ชรันค่อยๆเอามือที่ปิดปากเธอออก พรรณนาราเงียบไม่พูดอะไร แต่แววตาของเธอโกรธแค้นชิงชัง เขาเข้าไปในห้องน้ำและล้างมือที่เปื้อนคราบอสุจิออก จัดเสื้อผ้าผมเผ้า แล้วออกมาใส่เสื้อสูท โดยที่พรรณนารานั่งอยู่ขอบเตียงจ้องเขาเขม็งด้วยหน้าตาที่แดงก่ำ เขาควักกระเป๋าเงินออกมาแล้วเดินเอาเงินมาวางไว้ข้างตัวเธอจำนวนสามพันบาท “ค่าขนมนะ อายุแค่นี้อย่าพึ่งใช้เยอะ อยากได้อะไรบอกอา อาจะซื้อให้ ขอแค่ทำตัวน่ารักๆก็พอ ไม่ต้องห่วงเพราะอาไม่ชอบเอาอะไรของใครฟรี” ชรันเปิดประตูออกไปและกลับไปที่ห้องนั่งเล่นที่เหล่าช่างแต่งหน้าทำผมเกือบจะจัดการให้พิชามญช์เสร็จแล้ว “กำลังคิดว่าคุณรันทำอะไรอยู่เลย เห็นไม่ลงมา” “คุยงานนิดหน่อย นี่ขนาดคุยตั้งนานคุณยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย ดีแล้วที่ผมไม่ได้เกิดเป็นผู้หญิง” ทำเอาทุกคนแอบขำเขาที่ทำท่าหยอกภรรยา โดยหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังหน้ากากสามีที่แสนดีคือคนที่มีรสนิยมใคร่เด็ก พรรณนาราถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ เอาเสื้อผ้าทิ้งลงถังขยะ ร้องไห้หนักด้วยความโมโห จากนั้นเธอเอาแต่อยู่ในห้องรอดูตรงหน้าต่างว่าพวกเขาทั้งหมดจะออกจากบ้านไปเมื่อไหร่ 19.50 น. ธีทัตที่ไปเที่ยวดูหนังกับแฟนและไปส่งเธอที่บ้านแล้ว เกิดมีอะไรสะกิดใจให้นึกถึงว่าวันนี้พรรณนาราน่าจะมาค้างที่บ้าน เขาจึงแวะไปที่บ้านใหม่ของพ่อ พอกดกริ่งก็มีแม่บ้านมาเปิดประตูให้พร้อมกับบอกว่าพวกเขาไปงานปาร์ตี้ “มีแค่น้องพู่กันที่อยู่ค่ะ” แม่บ้านสาวที่ชื่อฟ้ารีบบอกด้วยสายตาที่ปลื้มปริ่มเมื่อเห็นหนุ่มหล่อ “ขอบคุณครับ” เขาเดินขึ้นไปชั้นสองและเคาะห้องของพรรณนารา “น้องพู่ครับ พี่ธีนะ” เธอตกใจระคนดีใจมาก รีบกระโดลงจากเตียงมาเปิดประตูให้ “พี่ธี” “น้องพู่กินข้าวเย็นหรือยัง? แม่บ้านบอกว่าพ่อกับแม่น้องไปปาร์ตี้กันตั้งแต่เย็น” เธอส่ายหน้าแววตานั้นหม่นหมอง “หนูไม่หิวค่ะ ไม่เป็นไร” ฉันอยากบอก..แต่..เขาจะรังเกียจหรือเปล่า? เขาจะเชื่อฉันมากกว่าพ่อของตัวเองมั้ย?..ถ้าบอกแล้วเขาเอาไปบอกคนอื่นล่ะ?… ด้วยวัยที่ยังน้อยและไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จากผู้ใหญ่ ทำให้เธอไม่เด็ดขาด ไม่กล้าตัดสินใจและเก็บความลับไว้กับตัวเองเท่านั้น “มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะ ดูหน้าตาไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับน้องพู่” “หนูโอเคค่ะ ไม่มีอะไร เอ่อ..พี่ธีคะ พู่จะขอพี่ไปส่งที่บ้านพ่อได้ไหม? หนูอยู่ที่นี่คืนนี้ไม่ได้จริงๆ” “ป่ะ งั้นพี่ไปส่งที่บ้านนะ” เธอโทรหาพ่อว่าจะกลับบ้านโดยให้ลูกชายของสามีใหม่แม่ไปส่ง พ่อถึงกับไม่สบายใจ “พ่อไปรับก็ได้ ทำไมรีบกลับล่ะ? มีอะไรหรือลูก?” “หนูอยู่คนเดียวในบ้าน แม่กับเขาไปปาร์ตี้จะกลับเมื่อไหร่ไม่รู้ค่ะ หนูนอนไม่หลับ” ณัฐวีย์เข้าใจในสิ่งที่ลูกสาวพูดและคิดแบบนั้นจึงไม่ได้ท้วงอะไร ……………………………….🖤😈ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที
ไม่นานนักปริมก็คลอดบุตรสาวที่มีน้ำหนักน้อยมากจนต้องเข้าตู้อบโดยมีแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามีและลูกเลี้ยงสาวได้เดินทางมาเยี่ยม “พ่อคิดชื่อไว้แล้ว ชื่อจริง ปนิตา ชื่อเล่น น้องนิต้า ลูกว่าดีไหมพู่กัน?”พรรณนาราแค่ยิ้มรับตามมารยาทแล้วพยักหน้า“ขึ้นต้นคล้ายกับลูกชายของคุณแม่เลยค่ะ ชื่อ ปภาวิน น้องชายหน้าคล้ายหนูกับคุณแม่มาก”เธอพูดกับพ่อจบก็เดินมาที่ปลายเตียงของปริม “ยินดีด้วยนะ..ที่ได้..ลูกสาว อย่าอดอาหารเพราะห่วงจะหุ่นไม่สวยเกินไป ทำเอาน้องตัวนิดเดียวเอง .. พ่อคะ เดี๋ยวไปส่งหนูที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ได้มั้ย?”“หือ จะหัดขับแล้วเหรอ? อ้อ จริงสินะ อีกปีนึงลูกจะจบ ม.6 แล้ว งั้นพ่อจะซื้อรถให้”“ไม่ต้องซื้อค่ะ วันเกิดที่ผ่านมาหนูได้รถเป็นของขวัญแล้ว Porsche 911 Frozen Berry Metallic สีชมพูตามวันเกิด พ่อให้อย่างอื่นหนูก็ได้นะคะ หนูอยากได้ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”“แล้วแม่ว่าไง? อนุญาตเหรอ?”“แม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”“งั้นรอลูกเลือกมหาวิทยาลัยก่อนค่อยมาบอกพ่อแล้วกัน”ปริมที่ได้แต่นอนฟังอย่างไม่มีปากมีเสียง เธอผิดหวังที่มีลูกชายให้เขาไม่ได้ พอจะขอใช้วิธีทางการแพทย์ ณัฐวีย์กลับไ
ธีทัตที่อยู่อังกฤษ เขาแชร์ที่พักกับแบมในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน แต่กลับทำเหมือนเป็นแค่รูมเมทกันเท่านั้น ไม่ว่าแบมจะพยายามปรับตัว เอาใจเขา หรือแม้กระทั่งยั่วยวนแค่ไหน ธีทัตกลับเอาแต่อยู่คนเดียวในห้องคิดถึงแค่คนเดียวเท่านั้น..พรรณนารา…อาทิตย์ต่อมาที่พรรณนาราไปนอนบ้านพ่อ ก็เกิดมีเรื่องขึ้นว่าปริมโดนเข็มเย็บผ้าปักที่ขาลึกพอสมควรบนที่นอนในห้อง เสียงกรีดร้องและเลือดที่ไหลเป็นทางจนณัฐวีย์รีบอุ้มขึ้นรถไปโรงพยาบาล ทำเอาคนที่บ้านแตกตื่นยกเว้นเธอ“ทำไมมีเข็มไปปักบนที่นอนได้ นี่มันอันตรายมาก จงใจทำร้ายกันชัดๆ เรียกทุกคนมาคุยที่ห้องรับแขก”เมื่อทุกคนมาถึงรวมทั้งลูกสาวของเขา ณัฐวีย์จึงเริ่มสอบถาม แต่ก็ไม่สามารถจับมือใครดมไม่ว่าใครจงใจทำ แม่บ้านคนสนิทของปริมจึงพูดขึ้นมา“คนที่ทำแบบนี้ต้องไม่ชอบกันเท่านั้นแหละค่ะ ในบ้านก็มีกันแค่นี้ แล้วต้องมาเป็นวันหยุดด้วยนะ ยางแบนอาทิตย์ก่อนก็วันอาทิตย์ เพราะเช้าวันจันทร์มันแบนแล้วค่ะ”ณัฐวีย์ถึงกับคิดและมองหน้าลูกสาวที่หน้าตาเฉยเมย“พ่อคิดว่าเป็นหนูหรือคะ? หนูกำลังคิดเลยว่าคนที่กล้าทำให้ตัวเองดูเป็นเหยื่อจนเลือดตกยางออกได้ขนาดนี้ จิตใจต้องเหี้ยมขนาดไหน น่ากลัวนะคะ