@ บ้านของนายหัวคาวี
"คุณหนูเก็บของหมดแล้วใช่ไหมคะ ดูดีแล้วใช่ไหม" ป้าพรเอ่ยถาม พร้อมกับยื่นดูเด็กสาวที่กำลังขนของขึ้นท้ายกระบะ ด้วยความอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากให้เธอไปจากที่นี่เลย ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี
"ไม่ได้เอาไปหมดหรอกค่ะ" น้ำตาลตอบ เพราะคิดว่ายังไงวันหนึ่งก็คงต้องได้กลับมาบ้างอยู่แล้ว ไม่เก็บไปจนหมดจะดีกว่า เพราะตอนที่มาเธอก็ไม่ได้เอาอะไรมามากมายเลย ส่วนมากก็มาซื้อเอาที่นี่มากกว่า
"เสร็จแล้วยัง จะได้ไป กว่าจะถึงอีก มันจะค่ำ" นายหัวคาวีพูดพลางบ่นอุบที่ทั้งสองเอาแต่พูดคุยร่ำลากันอยู่ได้ ตัวเองก็ใจร้อนรีบจะไปเพราะกลัวจะค่ำก่อนถึงที่หมาย
"วุ้ย นี่ก็รีบจริง" เด็กสาวทำหน้าบูดใส่เจ้าของร่างกำยำที่ยืนทำทรงเข้มอยู่
"คุณหนูกลับไปแล้วต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ"
"ค่ะ ป้าพรก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ไม่ต้องไปมัวดูแลคนอื่น ปล่อยให้เขาดูแลตัวเองบ้างเถอะค่ะ" พูดเหน็บถึงคนข้างหลัง
"จ้ะ แล้วก็อย่าลืมกลับมาหาป้าบ้างนะคะ"
"ค่ะป้า"
หลังจากที่กอดร่ำลากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำตาลก็เดินไปขึ้นรถกระบะของนายหัวคาวี ก่อนที่ทั้งสองจะออกไปด้วยกัน เขาอาสาที่จะเป็นคนไปส่งเอง เพราะยังมีอะไร ๆ ที่ต้องจัดการอยู่อีกหลายอย่างทันทีที่พาเธอไปถึงบ้าน
ระหว่างทาง...
"จัดการเรื่องมหาลัยเรียบร้อยแล้วเหรอ ?" คนหน้าเข้มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น หลังจากที่เงียบกันมาตลอดทาง
"ค่ะ แค่เข้าไปรายงานตัวก็เข้าเรียนได้แล้ว"
"ฮึ ! ไวเชียวนะเรื่องนี้"
"อะไรของคุณ หนูก็จัดการเรื่องเรียนตัวเอง แปลกตรงไหน ?" พูดแบบไม่มีพิรุธเลย แต่ถูกจับได้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
"ก็แปลกตรงที่เลือกมหาลัยไกลเลยไง"
"ไกลที่ไหน ใกล้บ้านหนูจะตายไป ถึงยังไงก็ต้องได้ย้ายกลับบ้านตัวเองอยู่ดี ก็จัดการเรื่องมหาลัยไปเลยสิ"
นายหัวคาวีรู้เรื่องที่เธอสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพแล้ว เพราะมีเอกสารตอบรับส่งมาที่บ้านของเขา ด้วยความที่คะแนนการเรียนดี เกรดสูง เธอก็เลยสามารถเลือกที่เรียนได้
"เก่งจริงนะ" เขาอาจจะชมแหละ แต่สำหรับเธอที่อยู่กับเขามาพร้อมกับความไม่ลงตัวตั้งแต่แรกเห็น คำนี้เหมือนคำเหน็บมากกว่า แต่ถามว่าโกรธไหม ก็ไม่เลย มีแต่จะเถียงกลับมากกว่า
"แน่น๊อน คนอย่างน้ำตาลหัวใสกิ๊กอยู่แล้วจ้า"
"หึหึ" เขาหัวเราะเบา ๆ ให้กับน้ำเสียงที่กวนอารมณ์ของเธอ เมื่อก่อนเจอคนกวนอารมณ์แบบนี้คงจะหัวเสียไปแล้วเพราะไม่ชอบคนพูดเล่นหัว แต่เหมือนจะปรับตัวได้และก็ชินกับนิสัยของเธอที่เป็นแบบนี้
หลายชั่วโมงต่อมาก็มาถึงบ้านของน้ำตาล เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางพอมาถึงต่างคนต่างก็แยกกันเข้าห้องพักผ่อนทันที ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก
จนกระทั่งตอนเช้า...
"คุณหนู วันนี้มีเรียนหรือคะ ?" แม่บ้านถาม เพราะเห็นน้ำตาลใส่ชุดนักศึกษา และท่าทีเหมือนกำลังเร่งรีบจะออกไป
"พอดีต้องไปรายงานตัวค่ะ เดี๋ยวสาย"
"เดี๋ยวค่ะ นี่เพิ่งหกโมงครึ่งเองนะคะ"
ร่างบางชะงักนิ่งงันไปครู่นึง สายตาจับจ้องมองไปยังเบื้องหน้าที่ซึ่งยังสลัว ๆ อยู่เลย ตะวันยังไม่ทันขึ้นส่องแสงเท่าไหร่นัก เธอลืมไปเลยว่านี่ไม่ใช่ที่บ้านนั้นที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปรอขึ้นรถไปโรงเรียน แต่ที่นี่คือบ้านของเธอที่กรุงเทพที่ไม่ต้องไปขึ้นรถแต่เช้า
ทุกอย่างรอบตัวเหมือนมันถูกหยุดเวลา เงียบกริบไปเลย
"ที่มหาลัยเขานัดเช้าขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
"ไม่หรอกค่ะ พอดีหนูชินกับที่นั่น" พูดจบก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างรอแม่บ้านเตรียมอาหาร
"วันนี้ตื่นเช้านะ"
เสียงทุ้มทักทายเด็กสาวที่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองในทันที ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เพราะนอกจากแม่บ้านแล้วที่นี่ก็มีแค่เธอกับเขาเท่านั้นแหละ
"ปกติค่ะ" จะพูดว่าหลงตื่นเช้าเพราะจำผิดคิดว่านี่คือที่บ้านของเขาเดี๋ยวจะอายเอาได้
"วันนี้จะไปกับใคร ?"
"มีคนขับรถ"
"ดีหนิ สบายเชียว"
"....." เธอไม่ตอบ เพราะชินกับเรื่องแบบนี้ไปแล้ว กับเขาน่ะถ้าเจอกันแล้วไม่ได้พูดเหน็บกันสิแปลก
#เวลาต่อมา
มหาวิทยาลัยHN.
หลังจากที่รายงานตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำตาลก็ออกมาสูดอากาศอยู่ที่ด้านนอก มหาวิทยาลัยกว้าง ๆ ที่รอบข้างเธอนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ที่เป็นนักศึกษาของที่นี่ บางคนก็มารายงานตัวพร้อมกับเธอ
มันเป็นอากาศที่เธอสูดเข้าไปแล้วรู้สึกว่า ‘นี่มันคืออิสระ’ จากนี้ไปคงไม่ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของใครอีกแล้ว เธอจะทำอะไรก็ได้ตามใจเธอ ไปไหนก็ได้ที่อยากไป ใช้เงินเท่าไหร่ก็ได้ที่อยากใช้
แต่ก็นะมันก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะเคยอยู่ที่นั่นและเคยชินไปกับมันแล้ว
ขณะเดียวกันกับที่รู้สึกอิสระ เธอก็รู้สึกเคว้งคว้างแบบบอกไม่ถูก มองไปยังด้านหน้า ภาพเดิมที่กว้างใหญ่ ผู้คนมากมายที่เดินสวนกันไปมา มันทำให้เธอย้อนกลับมาถามกับตัวเองว่า เธอต้องการอะไรจริง ๆ กันแน่
ขณะเดียวกันเธอก็เดินกลับมาที่รถ ที่คนขับรถจอดรถรออยู่
"คุณหนูจะไปไหนต่อครับ ?"
"ไปที่คาเฟ่ตรงด้านหลังมหาลัยทีค่ะ"
"ได้ครับคุณหนู"
ไม่ใช่ไม่อยากกลับบ้าน แต่เธอแค่อยากอยู่เงียบ ๆ ให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวน ถึงสิ่งต่าง ๆ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะต่อจากนี้เธอต้องตัวคนเดียวและลำพังแล้ว
ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น บ้านหลังนั้น มีป้าพรที่คอยดูแลเธอ เปรียบเสมือนเป็นแม่อีกคนนึงเลย มันเลยทำให้เธอรู้สึกใจหายที่ต้องจากมา เหมือนลูกที่จากแม่มาไกล ๆ
"สวัสดีครับ คุณลูกค้ารับอะไรดีครับ ?"
"โกโก้ร้อนค่ะ"
"ได้ครับ รอสักครู่นะครับ"
ระหว่างรอเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่า มีบางอย่างที่เธออยากรู้เลยเปิดเข้าไปดู เงินของเธอที่มีอยู่ในบัญชีและบัตรเครดิตถูกปลดล็อคแล้ว หลังจากที่ถูกเขา (นายหัวคาวี) ล็อคเอาไว้ไม่ให้เธอใช้งาน และใช้สิทธิ์ในความเป็นผู้ปกครองจัดการเรื่องการเงินกับเธอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างปลดล็อคหมดแล้ว เธอสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ครืด ครืด ครืด
>> สายเรียกเข้า คนหน้าตึง
ที่ตั้งชื่อเบอร์ของเขาแบบนี้ ก็เพราะเขาชอบทำหน้าตึงใส่เธอ
"ค่ะ"
( เสร็จแล้วหรือยัง )
"เพิ่งเสร็จค่ะ กำลังจะกลับ"
( ฉันจัดการเรื่องเอกสารที่นี่เสร็จแล้ว คงต้องกลับก่อน เลยโทรมาบอก ถ้ามีโอกาสจะแวะมาดูบ่อย ๆ เผื่อเธอไปสร้างเรื่อง จับหัวใครโขกเสาเข้าอีก )
"คนต่อไปที่หนูจะจับหัวโขกเสานะคือนายหัวนั่นแหละ"
( หึหึ ) ปลายสายหัวเราะชอบใจ
"จะกลับแล้วเหรอ"
( อือ )
"ถ้าอย่างนั้นก็ ขับรถกลับดี ๆ ค่ะ ขอบคุณที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณที่คอยดูแลหนู ถึงจะไม่ดูแลเองก็เถอะ แต่ก็ขอบคุณที่ยอมรับหนูไม่ทิ้งหนู"
( อืม อยู่ที่นี่ไม่มีใครคอยห้ามปราม ก็ต้องรู้จักหักห้ามใจตัวเอง อย่าใจร้อน โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว )
"ค่ะ แค่นี้นะ"
( อืม )
พอกดวางสาย เธอก็ยังคิดถึงเรื่องนั้นต่อ หลายอย่างเหมือนกันที่เธอยังไม่ได้คำตอบ โดยเฉพาะเรื่องที่เธออยากรู้มาก ๆ เรื่องที่เขาเป็นอะไรกับครอบครัวของเธอนั่นแหละ เพราะคงจะมีแค่เขาที่รู้ดีในเรื่องนี้
"โกโก้ร้อนที่สั่งได้แล้วครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
พักเรื่องที่คิดเอาไว้ในหัวสักพักนึง แล้วจิบโกโก้ร้อนของโปรดให้คลายความกังวลต่าง ๆ เพราะมันก็จริงอย่างที่เขาบอก ตอนนี้เธอต้องโตได้แล้ว เป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้แล้วล่ะ และก็ใจร้อนเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วด้วย
@หนึ่งปีต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองจะฮันนีมูนด้วยกัน แต่น้ำตาลยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปที่ไหน ตอนนี้เธอเลยมาพักที่บ้านของนายหัวคาวีก่อน เพราะเธออยากจะเที่ยวอยู่ที่นี่ ไม่ได้อยากไปไหนไกลเลย"วันนี้ขอเข้าสวนด้วยนะ" น้ำตาลมากอดแขนออดอ้อนตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ถูกเขาปฏิเสธมาทั้งเช้าแล้วเหมือนกัน"มันร้อน เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก""หนูแข็งแรงจะตายไป ทำไม? เมียอยากเข้าสวนเนี่ยไม่ได้หรือไง ซุกเด็กไว้ที่สวนหรอ""เด็กที่ว่า คงมีแต่บองหลาล่ะสิไม่ว่า""นะนะ นะคะที่รัก หนูขอไปด้วยนะ""อาๆ จะไปก็ไป"ถึงในใจจะไม่เต็มใจสักเท่าไร แต่ก็ขัดใจเธอไม่ได้จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากให้เธอตามไปด้วย เพราะในสวนอากาศค่อนข้างร้อน แล้วก็เต็มไปด้วยสัตว์มีพิษเต็มไปหมด ไม่ได้มีอะไรน่าดู น่าเที่ยวเลยสักนิด แถมป่าก็รก ถึงคนงานจะช่วยกันถางไปบางส่วนแล้ว แต่พอฝนตกทีนึงก็เหมือนไปช่วยทำให้พวกมันได้เติบโตขึ้นมาใหม่หลังจากนั้นน้ำตาลก็ได้นั่งรถกระบะไปพร้อมกับนายหัวคาวี เข้าไปที่สวนของเขานั่นแหละ เธอมาบ่อยแล้วก็จริง แต่หลังจากที่เรียนจบจากที่นี่ และไปใช้ชีวิตในกรุงเทพฯต่อ เธอก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าสวนบ่อยๆ อีกเลย"ห
#เวลาต่อมาที่บ้านของนายหัวคาวี หลังจากที่เขากลับมาจากทำงานในสวนแล้ว ก็เดินเข้าบ้านเตรียมตัวจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และกำลังจะโทรคุยกับสุดที่รักของตัวเองแต่ทว่า..."จะโทรทำไมคะ ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว"" !!! " นายหัวคาวีตกใจ เพราะไม่รู้ว่าที่ตัวเองเห็นนั้นมันคือตัวจริง หรือเขาคิดถึงเธอจนเห็นภาพหลอน หรือว่าเหนื่อยจากทำงานอากาศร้อนๆ เลยกลายเป็นแบบนี้"นายหัวขา ~ ""บ้าเอ้ย ! เบลอจนเห็นภาพหลอนหรอวะเนี่ย" ร่างสูงสบถออกมาเบาๆ พร้อมกับสะบัดหัวทิ้ง เหมือนต้องการที่จะให้มันปลอดโปร่งมากกว่านี้ภาพหลอนที่เห็นอยู่ตรงหน้าจะได้หายไป เธอจะมาได้ยังไงกัน เพราะเมื่อตอนเช้ายังคุยกันอยู่เลยว่าเธอมีประชุมงาน และอีกอย่างถ้าเธอมาที่นี่ก็ต้องมีรถสิ แต่นี่เขาเดินเข้ามายังไม่เห็นรถสักคันเลย"คนค่ะไม่ใช่ผี ไม่ใช่ภาพหลอนด้วย"หมับ !!!พอได้ยินอย่างนั้นนายหัวคาวีก็รีบหันกลับไปกอดเธอแน่น พอได้กอดแล้วถึงได้รู้ว่าเขาไม่ได้เห็นภาพหลอนจริงๆ แต่ก็ยังตกใจ ที่เห็นเธออยู่ที่นี่"คิดถึงจัง""หนูก็คิดถึงนายหัว""ทำไมมาถึงไม่บอก แล้วนี่มายังไง""มีคนมาส่งค่ะ เขากลับไปแล้ว""อืม...ฉันนึกว่าตัวเองเบลอจากอากาศร้อน แล้วเห็นภาพหลอน""
#หนึ่งเดือนถัดมาถึงจะมีคนคอยดูแลงานที่สวนให้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ต้องกลับไปทำงานของตัวเองต่อ แค่มีคนมาคอยดูแลในสวนเพื่อที่เขาจะได้มาอยู่กับน้ำตานานๆ ก็เท่านั้นเอง ถึงเวลาก็ต้องกลับ ถึงในใจจะคัดค้านก็เถอะแต่มันก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ"ถึงแล้วเดี๋ยวรีบโทรบอกเลยนะ""ขับรถดีๆ นะนายหัว ไม่ต้องขับรถเร็วเข้าใจไหม""เข้าใจครับ""ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้น" เมื่อก่อนจะเป็นเธอที่ชอบงอแงไม่อยากให้เขากลับไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาที่งอแงจนหน้าบูดบึ้งเพราะไม่อยากกลับ"ไม่อยากไปเลย""เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่เราก็โทรคุยกันได้นี่""มันก็ไม่เหมือนกับเจอตัวจริง แถมเอาผ่านโทรศัพท์ก็ไม่ได้""พูดอะไรนั่น ไม่อายคนบ้างหรือไง""ยืนอยู่กันสองคน คนอื่นก็ทำงานอยู่ข้างในกันหมดใครจะได้ยิน เจ้าที่หรือไง"เปี๊ยะ !!เธอตีแขนของเขาอย่างแรง เพราะหมั่นไส้ที่เขาเอาแต่พูดจาอะไรแบบนี้ นับวันมันยิ่งจะหนักขึ้นทุกทีเลย"ซี๊ด ! เจ็บนะ ทำไมชอบตีจริงเนี่ย ลงไม้ลงมือกับผัวตายไปจะเป็นผีเปรตนะ""ตีให้หลาบไง หมั่นไส้ พูดอะไรของนายหัวอยู่ได้""อยากอยู่ต่อจัง""ไม่ต้องมาอ้อนเลย รีบกลับได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะ
#เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนนั้นจัดหนักจัดหน่วงกันไปหลายท่าหลายน้ำ ทั้งสองก็ผล็อยหลับไปพร้อมกัน ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้"อือ.."คนตัวเล็กขยับตัวไปมาเล็กน้อย เพราะรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองรอบๆ และได้รู้ว่าที่ตัวเธอรู้สึกอึดอัดนั้นเป็นเพราะเขากำลังกอดเธอเอาไว้แน่น"นายหัว..""อืม...อย่าดิ้นนักสิ มันแข็งแล้วเนี่ย"เพราะเมื่อคืนเผลอหลับไปพร้อมกัน เสื้อผ้าก็เลยไม่ได้ใส่ และตอนนี้เจ้าโลกแสนมโหฬารของเขาก็กำลังแข็งดันก้นของเธออยู่ด้วย"สักรอบได้ไหม""ไม่เอา เมื่อคืนก็ตั้งหลายครั้ง""ไม่เกี่ยวกันสิ เมื่อคืนก็ส่วนเมื่อคืน วันนี้ก็ส่วนวันนี้""อือ...ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเนี่ย""ชอบว่าฉันแก่นัก โดนคนแก่เอาแล้วเป็นไงล่ะ ถึงฉันจะแก่กว่าเธอมาก แต่แรงฉันก็ยังดีนะ""อะ อือ...นายหัว มันทิ่มก้นหนูเนี่ย""จะให้มันทิ่มอย่างอื่นด้วยซ้ำ""อย่านะ อ๊ะ !!"สวบ !!เหมือนคำพูดของเธอเป็นแค่ลมสำหรับเขา พอสิ้นสุดคำพูดแก่นกายของเขาก็ผลุบเข้ามาในตัวของเธอแบบทีเดียวมิดลำ"อื้อ จุกนะคะ !""ขอโทษนะ แต่ฉันทนไม่ไหวจริงๆ ขอเอานะ""ขนาดนี้แล้ว ห้ามได้ด้วยหรอคะ""ถึงห้าม ก็ไม่ฟังหรอก ใส่เข้ามาขนาดนี้แล้ว ไม่ได
#ตกกลางคืนวันต่อมาทั้งสองมานั่งรับลมอยู่ที่ริมระเบียงด้วยกันแต่วันนี้มาพร้อมกับเครื่องดื่ม เพราะบรรยากาศมันให้ ดื่มจนพอรู้สึกมึนหัวนิดๆ ได้อารมณ์หน่อยๆ คงจะได้พากันขึ้นเตียงกันอีกไม่ผิดแน่เลย"ถ้าเราแต่งงานกัน นายหัวจะเชิญใครบ้าง""ก็เชิญคนรู้จักไง แล้วก็ส่งการ์ดเชิญไปให้ผู้ใหญ่ที่เคยทำงานด้วยกัน""ที่จริงหนูก็อยากเชิญเพื่อนนะ แต่เพื่อนก็..ไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่เรียนจบ""ไม่เป็นไรหรอก เราก็เอาที่เราพอติดต่อได้""ป้าพรมาได้หรือเปล่า""เห็นว่างานแต่งจะมานะ""นั่งเครื่องก็บินก็ได้นะ""นั่งรถยังเกือบตาย นั่งเครื่องบินไม่ตาลอยเลยหรอ""จะได้ถึงเร็วๆ ไง นั่งสบายด้วย จองชั้น vip ให้ป้าพรเลย""ถามก่อนเถอะ""ค่ะ""เธอคิดจะจัดแบบไหน แบบใหญ่โต หรือว่ากันเอง""ก็ไม่ได้จะใหญ่โตขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่ได้จะแต่งกันเงียบๆ จนไม่มีใครรู้ แค่เอาพอดีๆ"ตอนนี้ต้องคุยกันก่อนเรื่องงานแต่ง เพราะยังไม่ได้ตกลงอะไรๆ กันเลย น้ำตาลอยากให้งานแต่งของเธอมันออกมาดีที่สุด ถึงมันจะเป็นงานแต่งแบบเล็กๆ กลางๆ ไม่ได้ใหญ่โตถึงขั้นมีนักข่าวมาทำข่าว แต่เธออยากให้มันออกมาดูดีและอบอุ่นมากที่สุด เท่าที่จะทำได้เลย"เธออยากมีลูกกี
#หลายเดือนต่อมา"ได้แล้วหรือยังล่ะ""เดี๋ยวสินายหัว ใจร้อนเป็นคนแก่ไปได้"ที่เขาเร่งไม่ใช่เพราะใจร้อนอะไรหรอก แต่กลัวว่าที่พักมันจะเต็มก่อนที่เธอจะกดจองพักมากกว่า เดี๋ยวถึงเวลานั้นจริงๆ เธอก็จะหงุดหงิดมีอารมณ์ไม่พอใจขึ้นมาอีก นี่ก็เลือกที่พักมาตั้งหลายที่ แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะพักที่ไหน"ดีไปหมดเลย เลือกไม่ได้ พักทุกที่เลยได้ป่ะ""จะบ้าหรือไง ไปเที่ยวอยู่ที่เดียวแต่จะพักตั้งหลายโรงแรมเนี่ยนะ ?""งั้นเอาเป็นบ้านพักก็ได้ จะได้ไม่ต้องอยู่รวมกับใคร""เท่าไหร่ ?""หนูเลือกเป็นห้องหรูเลยนะ เราไปพักกันอาทิตย์นึง รวมค่าอาหารเช้าเย็นแล้วสามหมื่นค่ะ"เธอพูดเสียงแผ่วๆ เพราะกลัวว่าเขาจะบ่น รายนี้ยิ่งขี้งกเรื่องเงินอยู่ด้วย ถึงเธอจะทำงานได้แล้วก็เถอะ มีเงินกันขนาดนี้ แต่ถ้าใช้มากเกินไปก็โดนบ่นอยู่ดี"อืม จองไปเลยสิ ดูดีแล้วใช่ไหม""ก็ดีแล้วนะคะ เป็นบ้านพักที่ติดทะเลแล้วก็ติดภูเขาด้วย วิวดีเลย เพราะแบบนี้แหละถึงแพง""อือ...""จะบ่นหนูไหมเนี่ย""ฉันจะบ่นเธอทำไม เราทำงานได้ มันก็ต้องมีบ้างที่ต้องพักผ่อน""ทีเมื่อก่อนนะ ซื้อของกินนิดหน่อย ทำเป็นบ่น""ก็ตอนนั้นเธอยังไม่ได้ทำงาน ใช้เงินเกินตัวมันไม